รือหลวงถลาง เรือบังคับการกองเรือทุ่นระเบิด
เรือหลวงถลาง (MCS-621) เป็นเรือพี่เลี้ยงเรือกวาดทุ่นระเบิดน้ำตื้น และสนับสนุนการส่งกำลังบำรุงเรือล่าทำลายทุ่นระเบิด ทำหน้าที่คล้ายคลึงกับเรือหลวงรางเกวียน ซึ่งเป็นเรือญี่ปุ่นสร้างตั้งแต่ก่อนสงครามโลกครั้งที่สอง เรือลำนี้เคยเป็นกองบังคับการกองเรือทุ่นระเบิดตั้งแต่ปี 2496 เมื่อเรือหลวงรางเกวียนออกปฏิบัติราชการ กองบังคับการจะย้ายไปเรือลำอื่นชั่วคราว จนกระทั่งปี 2513 กองบังคับการจึงย้ายขึ้นฝั่งมาอยู่ที่ราชนาวิกสภา หมายความว่าลูกประดูไทยคุ้นเคยกับ Mission Module System ตั้งแต่ 60 กว่าปีก่อนหน้านี้ ดูถูกกันไม่ได้เลยนะครับ J
เรือหลวงถลาง ต่อโดยบริษัทอู่กรุงเทพ จำกัด โดยใช้แบบเรือบริษัท FERROSTAAL A-G MSSEN ประเทศเยอรมนี ประจำการวันที่ 25 มิถุนายน 2523 สังกัดหมวดเรือที่ 3 กองเรือทุ่นระเบิด กองเรือยุทธการ ร่วมกับเรือกวาดทุ่นระเบิดน้ำตื้นขนาดเล็ก สามารถเป็นเรือบังคับการกองเรือทุ่นระเบิดได้ ให้การสนับสนุนการกวาดทุ่นระเบิดของหมู่เรือกวาดทุ่นระเบิดน้ำตื้น รวมทั้งเป็นเรือสนับสนุนการส่งกำลังบำรุงให้กับเรือล่าทำลายทุ่นระเบิด
คุณลักษณะของเรือ
ระวางขับน้ำ ปกติ 916 ตัน เต็มที่ 1,095 ตัน
ยาว 55.70 เมตร
กว้าง 10.00 เมตร
กินน้ำลึก 3.10 เมตร
เครื่องยนต์ดีเซล 2 จำนวน เครื่อง เพลาใบจักร 2 เพลา
ความเร็วสูงสุด 12 นอต
ระยะปฏิบัติการไกลสุด 5,900 ไมล์ ที่ 10 นอต
กำลังพล 67 นาย
ระบบอาวุธและอุปกรณ์ต่างๆ
ปืนกลขนาด 40 มม.จำนวน 1 กระบอก
ปืนกลขนาด 20 มม.จำนวน 2 กระบอก
ปืนกล 12.7 มม.จำนวน 4 กระบอก
รางปล่อยทุ่นระเบิดท้ายเรือจำนวน 1 ราง
เรดาร์เดินเรือจำนวน 2 ตัว
โซนาร์กวาดทางข้าง (Side Scan Sonar) แบบเคลื่อนย้ายได้
เครื่องกวาดทุ่นระเบิดแบบอิทธิพลเสียง A Mk 4(v) และ A Mk 6(b)
เครนขนาดใหญ่จำนวน 2 ระบบ
ชมภาพท้ายเรือกันบ้างครับ เห็นเครนขนาดใหญ่ค่อนข้างโดดเด่น ระหว่างเครนมีรางปล่อยทุ่นระเบิดจำนวน 1 ราง มีเรือเล็กจำนวน 2 ลำให้ลูกเรือได้พายงัดพายจ้ำ มีอุปกรณ์เกี่ยวกับการกวาดทุ่นระเบิดเยอะแยะไปหมด รูปร่างเรือค่อนข้างเจ้าเนื้อสักเล็กน้อย เน้นเรื่องพื้นที่ประโยชน์ใช้สอยมากกว่าความเร็ว ออกแบบให้เหมาะสมกับทะเลบอลติคซึ่งค่อนข้างตื้น เมื่อนำมาใช้งานในอ่าวไทยที่มีความใกล้เคียงกันมาก จึงสามารถทำภารกิจต่างๆ ได้อย่างดีเยี่ยมและเหมาะสม
ส่วนภาพนี้เรือหลวงถลางจอดคู่กับเรือหลวงท่าดินแดง ซึ่งเป็นเรือล่าทำลายทุ่นระเบิดใกล้ฝั่งทันสมัยที่สุดของไทย มีระวางขับน้ำสูงสุด 680 ตัน ยาว 52.50 เมตร จอดเทียบกันความยาวใกล้เคียงแต่ระวางขับน้ำต่างกัน รูปทรงเรือไม่เหมือนกันตัวเรือใช้วัสดุต่างกัน การออกปฏิบัติการกวาดทุ่นระเบิดในทะเล เรือหลวงท่าดินแดงจะได้รับความสนับสนุนจากเรือหลวงถลาง ถึงไม่มีระบบโซนาร์ทันสมัย หรืออุปกรณ์ล่าทำลายทุ่นระเบิดรุ่นใหม่ แต่เป็นเรือที่จะขาดไม่ได้เลยในการรบจริง
เรือหลวงถลางเป็นเรือลำใหญ่สุดของกองเรือทุ่นระเบิด ศัพท์ปัจจุบันเรียกว่าเรือสนับสนุนการต่อต้านทุ่นระเบิดหรือเรือ สตท. หรือ Mine Countermeasure Support Ship หรือ MCS เข้าประจำการมาแล้วถึง 39 ปีก็จริง แต่มีบางอย่างน่าสนใจติดตั้งมาด้วย สิ่งนั้นก็คือ Bulbous Bow ที่เห็นเป็นแท่งยาวๆ แหลมๆ บริเวณหัวเรือทาสีแดงกันเพรียง ช่วยสร้างคลื่นเทียมลดความรุนแรงการกระแทกจากคลื่นหัวเรือ ทำให้เรือแล่นได้เร็วกว่าเดิม กินน้ำมันน้อยลง รวมทั้งโคลงเคลงน้อยลง แบบเดียวกับที่ติดตั้งบนเรือหลวงกระบี่ เรือหลวงประจวบคีรีขันธ์ และเรือหลวงภูมิพลอดุลยเดชนั่นแหละครับ
นี่คือเรือที่ผู้เขียนอยากวาดมากที่สุดลำหนึ่ง (ในจำนวน 5 ลำมาจากกองเรือทุ่นระเบิด 3 ลำ) แต่ไม่มีแปลนเรือ ไม่มีภาพเรือที่ชัดเจน รวมทั้งแทบไม่มีอะไร ทว่าสุดท้ายยังดิ้นรนวาดภาพสำเร็จ ค่อนข้างภูมิใจมากเพราะสวยกว่าที่คาดหมาย เรือสนับสนุนการรบหรือเรือกวาดทุ่นระเบิดไม่ค่อยมีใครสนใจ ประเทศอื่นก็มีภาพวาดจากกองเรือนี้ค่อนข้างน้อย ที่ชื่นชอบเพราะเป็นแบบเรือเยอรมันตะวันตกจากยุคสงครามเย็น มีความเกี่ยวกันกับเรือราชนาวีไทยจำนวนหลายลำ
ย้อนกลับยังยุค 40-60 ปีก่อนหน้านี้ ตอนนั้นจีนยังต่อเรือเองไม่ได้ เกาหลีใต้และสิงคโปร์ก็เช่นกัน เรือรบและเรือช่วยรบส่วนใหญ่ของเรามาจากอเมริกา ครั้นเมื่อเราอยากได้เรือช่วยรบใหม่เอี่ยม รวมทั้งต้องการซื้อแบบเรือมาสร้างเองในประเทศ จึงหันมามองแบบเรือจากประเทศเยอรมันตะวันตก สุดท้ายเกิดโครงการสำคัญสี่ทหารเสือในท้ายที่สุด
จากภาพประกอบไปด้วย
-เรือหลวงจันทร 811 ซึ่งเป็นเรือสำรวจแผนที่สร้างโดยอู่ต่อเรือ Luersen ประเทศเยอรมัน
-เรือหลวงถลาง 621 สร้างโดยอู่ต่อเรือกรุงเทพใช้แบบเรือเยอรมัน
-เรือหลวงศุกร์ 812 เรือสำรวจสมุทรศาตร์ ต่อโดยอู่ต่อเรือกรุงเทพ ใช้งบประมาณจากสภาวิจัยแห่งชาติ
-เรือหลวงสุริยะ 821 เรือใช้งานเครื่องหมายทางทะเล หรือเรือวางทุ่นบอกตำแหน่งร่องน้ำ ต่อโดยอู่ต่อเรือกรุงเทพ
เรือทั้ง 4 ลำมีหน้าที่แตกต่างกัน แต่มีรูปทรงใกล้เคียงกันโดยเฉพาะ 3 ลำสุดท้าย เรือหลวงศุกร์ไม่มีข้อมูลว่าใช้แบบเรือไหน ทว่าเหมือนนำเรือหลวงถลางมาขยายใหญ่กว่าเดิม ส่วนเรือหลวงสุริยะหัวเรือไม่เหมือนชาวบ้านก็จริง บังเอิญสะพานเดินเรือเหมือนเรือหลวงถลางอย่างแรง ส่วนอื่นของเรือก็คล้ายคลึงกันราวกับฝาแฝด ผู้เขียนขอมั่วนิ่มเอาเองว่า…เรือทั้ง 4 ลำใช้แบบเรือหรือปรับปรุงจากแบบเรือเยอรมัน ยุคสมัยที่เราต้องการสร้างเรือช่วยรบเองภายในประเทศ
ทราบรายละเอียดและเบื้องหลังกันไปหมดแล้ว ต่อไปนี้มาชมผลงานการปฏิบัติภารกิจ เรือหลวงถลางเป็นเรืออเนกประสงค์มากที่สุดลำหนึ่ง นอกจากสนับสนุนปฏิบัติการการสงครามทุ่นระเบิด ยังเป็นหมู่เรือรักษาการณ์วังไกลกังวล เป็นเรือฝึกนายทหารนักเรียนร่วมกับเรือลำอื่น รวมทั้งให้การช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยด้วย
นี่คือภาพถ่ายการฝึกภาคองค์บุคคลและยุทธวิธีกองเรือทุ่นระเบิดประจำปี 2560 เพื่อทบทวนและเพิ่มพูนความรู้ความชำนาญ ประสบการณ์ แก่องค์บุคคลประจำเรือ เห็นเรือหลวงถลางแล่นคู่เรือหลวงท่าดินแดงเจ้าเดิม แบกอุปกรณ์จริงสำหรับฝึกจริงกันจนหลังแอ่น ไม่ไกลจากฝั่งเท่าไรภายในเขตพื้นที่ยุทธศาสตร์ บางปีอาจทดสอบทำลายทุ่นระเบิดด้วยยานใต้น้ำ เพียงแต่ปริมาณไม่มากนักเพราะอุปกรณ์ราคาแพง
ส่วนภาพนี้มาจากการฝึกปฏิบัติการสงครามทุ่นระเบิด (MINEX) ในการฝึกผสม COBRA GOLD 1982 เรือหลวงถลางพร้อมอุปกรณ์จำนวนล้นลำ กำลังใช้เครนยกทุ่นระเบิดด้วยความระมัดระวัง เจ้าหน้าที่ควบคุมเครนใช้เพียง 1 นายนะครับ ส่วนอีก 2 นายนั่งเป็นกำลังใจให้เพื่อน มองทางขวามือจะพบเรือกวาดทุ่นระเบิดชั้น MSC-294 เราได้รับโอนจากอเมริกาจำนวน 4 ลำ ประกอบไปด้วย เรือหลวงลาดหญ้า เรือหลวงท่าดินแดง เรือหลวงบางแก้ว และเรือหลวงดอนเจดีย์ เรือที่จอดอยู่ข้างกันและเรือที่เห็นเป็นเงาดำจากระยะไกล เป็นเรือ 2 ใน 4 ลำที่ว่ามานั่นแหละครับ
เรือหลวงถลางเข้าร่วมการฝึก COBRA GOLD บ่อยครั้ง เป็นมือวางอันดับหนึ่งถูกคัดเลือกเป็นลำแรก อาทิเช่นในปี 2004 เรือหลวงถลางเข้าฝึกร่วมกับเรือหลวงหนองสาหร่าย เรือหลวงบางระจัน ซึ่งเป็นเรือกวาดทุ่นระเบิดชั้น M48 มือหนึ่งจากเยอรมัน รวมทั้งเรือกวาดทุ่นระเบิดน้ำตื้นขนาดเล็กอีกจำนวนหนึ่ง
ภารกิจอื่นๆ ของเรือประกอบไปด้วย
-วันที่ 18 กุมภาพันธ์ ถึงวันที่ 20 มีนาคม 2555 เรือหลวงถลางร่วมการฝึกภาคปฏิบัติทางใช้การในทะเลของนักเรียนจ่าทหารเรือ ร่วมกับเรือหลวงสิมิลัน เรือหลวงสุรินทร์ และเรือหลวงคีรีรัฐ
-วันที่ 1 ถึง 31 ธันวาคม 2555 เรือหลวงถลางเข้าร่วมหมู่เรือรักษาการณ์วังไกลกังวล ร่วมกับเรือหลวงตากสิน เรือหลวงทองหลาง เรือ ต.991 เรือ ต.213 และชุดปฏิบัติการพิเศษหน่วยสงครามพิเศษทางเรือ
-วันที่ 20 กันยายน 2555 มีการทำบุญเรือหลวงถลางเข้าประจำการครบ 32 ปี และเปิดให้เรือเป็นสถานที่ท่องเที่ยวแห่งใหม่ ประชาชนเข้าชมฟรีทุกวันไม่เว้นวันหยุดราชการ ตั้งแต่เวลา 09:00-18:00 น.ที่ท่าเทียบเรือ กองเรือทุ่นระเบิด กองเรือยุทธการ ตำบลแหลมฟ้าผ่า อำเภอพระสมุทรเจดีย์ จังหวัดสมุทรปราการ บรรยากาศประมาณภาพนี้เลยครับ
ในภาพเป็นวันเด็กจึงมีแต่เด็กไม่มีผู้ใหญ่ เจ้าหน้ากำลังสาธิตการใช้งานปืนกลขนาด 12.7 มม.เหนือสะพานเดิน ที่เห็นลิบๆ เป็นปืนกลขนาด 20 มม.กลางเรือ และมีปืนกล 12.7 มม.ท้ายเรือเลยเรือเล็กเพิ่มเติมเข้ามา เมื่อรวมกับปืนกล 40 มม.หัวเรือซึ่งเป็นปืนหลัก เท่ากับเรือลำนี้ติดปืนมากถึง 7 กระบอก ไม่แน่ใจว่าประชาชนมาเยี่ยมชมมากน้อยแค่ไหน คิดว่าพอสมควรแม้ไม่เทียบเท่าเรือหลวงจักรีนฤเบศรก็ตาม แต่อยู่ใกล้กรุงเทพมากกว่าใช้เวลาเดินทางนิดเดียว
ภารกิจนอกเหนือจากนี้ก็มีเช่นกัน อาทิเช่นการทดสอบทุ่นระเบิดปราบเรือดำน้ำล่องหนในปี 2560 เป็นการทดสอบครั้งแรกยังทาสีไม่สวยงามสักเท่าไร ในภาพจะเห็นรางปล่อยทุ่นระเบิดชัดเจนมาก ค่อนข้างสั้นจึงใส่ทุ่นระเบิดได้หลักหน่วยเหมาะสมกับการฝึกหรือการทดสอบทุ่นระเบิด ไม่เหมาะสมกับภารกิจวางทุ่นระเบิดจริงเพราะบรรทุกได้น้อย
มาที่เรื่องน่าภาคภูมิใจของเรือลำนี้บ้าง พิธีสวนสนามทางเรือนานาชาติ (The 50th Anniversary of ASEAN’s International Fleet Review 2017 : ASEAN IFR 2017) เป็นการจัดสวนสนามทางเรือ โดยกองทัพเรือประเทศสมาชิกอาเซียนร่วมเป็นเจ้าภาพ และเชิญกองทัพเรือมิตรประเทศนอกอาเซียน ร่วมสวนสนามทางเรือฉลองครบรอบ 50 ปีการก่อตั้งอาเซียน เรือหลวงถลางถูกกำหนดให้เป็นเรือประธาน ร่วมกับเรือเรือกองทัพเรือ เรือประเทศสมาชิกอาเซียน และเรือกองทัพเรือประเทศนอกอาเซียนร่วม 50 ลำ อากาศยานของกองทัพเรือและกองทัพอากาศอีก 20 เครื่อง ในวันที่ 20 พฤศจิกายน 2560 ณ บริเวณอ่าวพัทยา เมืองพัทยา จังหวัดชลบุรี
ภายในงานนี้มีกิจกรรมประกอบไปด้วย
-การสวนสนามทางเรือนานาชาติ
-การฝึกผสมแบบพหุภาคีของกองทัพเรือประเทศสมาชิกอาเซียน
-การประชุมผู้บัญชาการทหารเรืออาเซียน ครั้งที่ 11
-กิจกรรมการสาธิตการปฏิบัติการทางเรือ
- กิจกรรมการเดินพาเหรดทางบก
-กิจกรรมทางบก
วันจัดงานฝนตกหนักจนมีน้ำท่วมขังตัวเมืองพัทยา ขบวนพาเหรดต้องลุยน้ำท่วมกันจริงๆ แบบทหารเรือ ผู้เขียนดีใจมากที่ผู้จัดงานเลือกเรือหลวงถลาง อยากเห็นของจริงกับตาตัวเองแต่จนด้วยเกล้า ไม่ทราบว่าผู้อ่านท่านใดได้เห็นของจริงบ้าง ถ้ามีภาพถ่ายมาอวดอย่างมัวชักช้าโปรดยอมมอบตัว
อายุของเรือปาเข้าไป 39 ปีกว่าแล้ว ค่อนข้างล้าสมัยและใกล้ถึงเวลาปลดประจำการ กองทัพเรือมีแผนจัดหาเรือสนับสนุนการต่อต้านทุ่นระเบิดลำใหม่เข้ามาทดแทน มีการตั้งโครงการนี้ขึ้นในปี 2560 และมีแบบเรือเสนอเข้ามาจำนวน 3 บริษัทด้วยกัน ที่มีการเปิดเผยก็คือแบบเรือ Verena-85 รุ่นปรับปรุงจากประเทศอังกฤษ กับแบบเรือ OPV-2400 รุ่นปรับปรุงจากประเทศเนเธอร์แลนด์ กองเรือทุ่นระเบิดต้องการเรือหน้าตาประมาณนี้ครับ
ผู้เขียนเคยเขียนถึงเรื่องนี้เมื่อนานมาแล้ว อ่านทบทวนรายละเอียดทั้งหมดนี้ได้เลยครับ
Mine Countermeasure Support Ship
เรือลำใหญ่กว่าเดิม มีลานจอดเฮลิคอปเตอร์ท้ายเรือ ติดตั้งปืนใหญ่ 76/62 พร้อมระบบควบคุมการยิง ทำภารกิจต่อต้านทุ่นระเบิดโดยใช้ระบบ Mission Module หรือขนทุ่นระเบิดจำนวนมากไปวางในพื้นที่จริง แต่ยังไม่มียานผิวน้ำไร้คนขับปราบทุ่นระเบิด อุปกรณ์ราคาแพงและทันสมัยไปสักหน่อย ฉะนั้นจะยังไม่ได้เป็นยานแม่หรือ Mother Ship ตัวจริง ไว้ในอนาคตอีก 10-15 ปีกองเรือทุ่นระเบิดพร้อมแล้วสำหรับเทคโนโลยีใหม่ ตอนนั้นอาจมีการปรับปรุงเรือให้รองรับการใช้งาน
โชคร้ายที่โครงการนี้เงียบหายไปเสียแล้ว เรือยกพลขึ้นบกขนาดใหญ่กับเรือดำน้ำจีนมาแรงกว่า แรงเสียจนเรือฟริเกตสมรรถนะสูงลำที่สองยังต้องตกกระป๋อง แล้วโครงการปลาซิวปลาสร้อยโครงการไหนจะต้านทานไหว
ขอจบวันเศร้าๆ ต้นฤดูหนาวแต่เพียงเท่านี้ ขนาด Black Perl ของกัปตันแจ็คยังฟื้นคืนชีพขึ้นมาได้ โครงการ Mine Countermeasure Support Ship ไฉนเลยจะสิ้นหวัง ตามอ่านกันต่อในบทความหน้าสวัสดีครับ J
-------------------------------------------------------
อ้างอิงจาก
เฟซบุ๊คเรือหลวงถลาง
เฟซบุ๊คกองเรือทุ่นระเบิด
เฟซบุ๊ค Nation Photo
http://www.shipspotting.com/gallery/photo.php?lid=2778171
https://farm5.static.flickr.com/4517/38537244501_55a62bf09e_b.jpg
https://catalog.archives.gov/id/6370346
https://web.facebook.com/pg/50ASEANIFR2017/posts/
https://pattayapeople.ru/news/parad-korablej-2-pattaya-thailand
http://thaiseafarer.com/navalforces/mcs621.php
http://www.komchadluek.net/news/scoop/141251
http://rtnpr.blogspot.com/2012/11/blog-post_4623.html
http://rtnpr.blogspot.com/2012/09/blog-post_8679.html