ลงไปอ่านคห.1 นะครับผมเล่นจนพังไปแล้ว ฮ่าฮ่า
โครงการเรือฟริเกตชั้น Type 31e ของกองทัพเรืออังกฤษ ซึ่งมีจำนวนเรือรวมทั้งสิ้น 5 ลำทั้งโครงการ ก่อนหน้าเราเคยทราบกันมาแล้วว่ามีม้าแข่งกันจำนวน 2 ตัว รายแรกก็คือบริษัท BAE Sytems/Cammel Laird ส่งแบบเรือ Leander เข้าประกวด
รายที่สองคือบริษัท BMT/Babcock ส่งแบบเรือ Arrowhead 140 เข้าประกวด
ปัญหานั้นมีอยู่ว่าผู้เข้าร่วมน้อยเกินไป จนต้องยุติโครงการนี้ลงเป็นการชั่วคราว โดยในปัจจุบันกลับมาเดินหน้าใหม่อีกครั้ง พร้อมกับมีผู้เข้าร่วมรายที่สามโผล่เข้ามาในวงโคจร เมื่อบริษัท The Atlas Elektronik UK / Thyssenkrup Marine Systems ส่งแบบเรือซึ่งมีพื้นฐานมาจากแบบเรือ MEKO A-200 เข้าประกวด เป็นอีกหนึ่งทางเลือกก็น่าจะเพียงพอแล้วนะครับ
Three bids for the Royal Navy Type 31e frigate competition formally accepted by the MoD
กระทู้นี้ผมแค่แจ้งข่าวสารเฉยๆ ว่าโครงการนี้มีการเดินหน้าต่อไปเรื่อยๆ ขอไม่พูดถึงรายละเอียดแบบเรือ ติดตั้งอาวุธหรืออุปกรณ์อะไรบ้างนะครับ ไว้รอดูพร้อมคำตัดสินน่าจะชัดเจนมากกว่า เตือนแค่ว่าอย่าไปหลงเชื่อตามภาพกราฟฟิกที่บริษัทผู้ผลิตนำมาแสดง ไม่ตรงกับที่อังกฤษต้องการแบบมหาศาล เขาแค่โชว์ maximum performance ของแบบเรือเท่านั้นเอง เป็นโครงการที่รอจนเบื่อจนขี้เกียจตามข่าวแล้ว จะเห็นได้ว่ามิตรรักแฟนเพลงชาวไทยลืมกันไปหมดแล้ว
ผมการตัดสินคงอีกไม่นานครับ...แค่ปลายปี 2019 เท่านั้นเอง
คห.นี้ขออวยคนกันเองเล็กน้อย ปรกติประเทศอื่นๆ ที่ไม่ใช่ไทย แวดวงการทหารเขาจะมีเว็บบอร์ดไว้พูดคุยกันแบบลึกๆ แบบยาวๆ แบบตีกันให้ตายไปข้างยันลูกบวช หลายประเทศเป็นภาษาอังกฤษด้วย ข้อมูลเยอะแยะไปหมด
และเพื่อให้ทันยุคทันสมัย เขาก็จะมีโซเชี่ยลเน็ตเวิร์กอย่างเช่นเฟซบุ๊ค ทวิตเตอร์ พวกนี้ไว้พูดคุยอีกหนึ่งช่องทางด้วย ส่วนใหญ่จะคุยกันไม่ลงลึกเท่าไหร่ เพราะไม่สะดวกในการพิมพ์และมีข้อจำกัด รวมทั้งการค้นหาข้อมูลเก่าทำได้ยากจนถึงยากที่สุด ในเฟซนี่นรกที่แท้จริงกันเลยทีเดียว ผมอาศัยเข้าไปดูดภาพเท่านั้นแหละ ไม่ได้ไปคุยในเชิงลึกกับใครเขานัก นานๆ ก็ไปเกรียนสักทีเท่านั้น
แต่.....แต่...แต่
แต่ที่ thaifighterclub มีเว็บบอร์ดไว้พุดคุย มีเฟซบุ๊คไว้รองรับคนรุ่นเหมือนจะใหม่ รวมทั้งมีเว็บไซด์เสนอข่าวสารอย่างเป็นจริงเป็นจัง
ตอนนี้น่าจะเหลือกันอยู่เพียงแห่งเดียวในไทยแล้ว ที่อื่นเหมือนจะเน้นโซเชี่ยลกันแบบเอาจริงเอาจัง ถ้าไม่มีที่นี่ผมก็ไม่รู้จะไปโม้ที่ไหน เพื่อนใหม่คนไหนสนใจอยากตั้งกระทู้ อยากเข้ามาร่วมแจมเชิญเลยนะครับ หรืออยากลงโฆษณาติดต่อแอดมินได้เลย ฮ่า ฮ่า
ตัวผมเองไม่ดื้อไม่ซน อะไรตอบได้ก็จะพอช่วยตอบให้วงเล็บถ้าว่าง วันไหนอารมณ์เสียอาจมีเกรียนเล็กน้อย ถ้าคุยกับท่านกบภาษาอาจวิบัติเล็กน้อย แต่จะว่าไปมันก็สนุกดีนะ ลองดูสิครับ ;)
ช่วงที่ ทร.ประกาศโครงการเรือฟรีเกตใหม่ๆ ช่วงนั้นมันมาก ยาวมาก ตามอ่านแทบไม่ไหว มือถือก็โหลดหน้ากระทู้ไม่ไหวเช่นกัน ต้องแตกออกไป 5 กระทู้
เคยเห็นข่าวBAEถอนตัวแล้วนี่ครับ หรือว่าข่าวผมผิดหว่า๐ง
ข่าวล่าสุดคือรัฐบาลอังกฤษเลือก 3 บริษัทนี่แหละครับ มีเยอรมันเข้ามาเสียบวินาทีสุดท้าย ส่วนบริษัทอังกฤษที่เคยเสนอแบบเรือกระดาษในตอนแรกๆ เป็นไปตามที่คาดไว้คือหายกันไปหมด เหลือแค่เรือที่ขายกันจริงๆ มาแล้ว กับเรือขายกันจริงๆ มาต่อความยาวเข้าไป บ่งบอกความจริงในชีวิตได้เป็นอย่างดีว่าสู้ราคาไม่ไหว เดือนตุลาคม 2019 เซ็นสัญญา ประกาศผลคงก่อนหน้าสัก 3 เดือนหรือเปล่าไม่แน่ใจ
On 10 December 2018, three groups were selected for the competitive design phase:
BAE Systems/Cammell Laird with their planned Leander design
Babcock/BMT/Thales with their Arrowhead 140 design
Atlas Elektronik UK/Thyssenkrup Marine Systems, which is likely to be based on the MEKO A-200 design
จริงๆ ข่าวหลายอาทิตย์แล้วล่ะ แต่ไม่เห็นมีใครเอามาลงผมเลยเอาเสียหน่อย
ผมนี่เปิดเว็บบอร์ดอ่านทุกวันครับ
คุณsuperboyมีตัวเต็ง ตัวโต๊ดมั้ย เอ๊ย เรือที่ดูน่าจะเข้าวินมั้ยครับ ผมชอบเรือของBAEมากกว่าแบบของBMT ส่วนMeko200สวยกว่าทุกแบบ แต่ส่วนตัวไม่ชอบที่ปล่องควันอยู่แนวระดับนำ้
ผมก็นึกถึงว่าถ้ามาเป็นตัวเลือกของไทยก็แล้วกันน่ะครับ ผมชอบของ BAE มากกว่า แถมเป็นแบบที่ต่อเนื่องจากแบบเรือหลวงกระบี่ น่าจะสะดวกหากจะต่อยอดสร้างต่อจากเรือชุดเรือหลวงกระบี่ มีที่ไม่ชอบที่น้ำหนักมากถึง 4000 ตัน ผมคิดว่าน่าจะตัดสั้นมาอีกหน่อยโดยตัดท่อนที่่จอดเรือเล็กจากด้านล่ะ 2 ลำ เหลือลำเดียวก็พอ ที่ไม่ชอบอีกอย่างคือสะพานเดินเรือทำไมต้องเว้นช่องทางเดินหน้าห้อง(เดินได้รอบสะพานเดินเรือเลย) ผมคิดว่ามันทำให้คนบังคับเรือยากแถมเปลืองเนื้อที่ไปเปล่าๆ อีกอย่างคือระบบปราบเรือดำน้ำไม่รู้มีมาด้วยหรือเปล่า
อันดับสองที่ชอบคือเรือ MEKO200 น้ำหนัก 3700 ตันกำลังสวย สวยทุกอย่าง แต่ไม่แน่ใจราคาแพงไปหรือเปล่า
เรือฟริเกต Type31e เป็นเรือรบรุ่น Low cost ยิ่งกว่าโตโยต้าลีโม่ คือให้กำหนดมีราคาต่อ 1 ลำที่ 250 ล้านปอนด์ ขณะที่เรือฟริเกต Type 26 ลำละ 1.1 พันล้านปอนด์ตามสัญญาซื้อเรือ 3 ลำแรก (ตั้งงบประมาณไว้ 8 ลำ เท่ากับ 8 พันล้านปอนด์) ที่เคยมโนกันว่า 400 ล้านปอนด์เมื่อ 5 ปีที่แล้ว ดูไว้เลยนะครับนี่แหละอาวุธอังกฤษ ฮ่า ฮ่า แต่กลับกลายเป็นว่าแบบเรือขายดิบขายดีมาก ขายได้ทั้งที่ออสเตรเลียและแคนาดา ด้วยสาเหตุว่าใช้ในภารกิจปราบเรือดำน้ำได้ดีว่าเรือคู่แข่งขัน รวมทั้งขนาดใหญ่กว่าคือระวางขับน่ำสูงสุดแถว ๆ 1 หมื่นตัน จะใหญ่ไปไหน
กลับมาที่เรือฟริเกต Type31e ต่อ ถ้าเป็นเรือเราผมจะเลือกลำใหญ่ที่สุดตามสเป๊กจริงๆ คือกางข้อมูลมาดูกันจะๆ เลย แต่ถ้าผมเป็นคนอังกฤษแล้วไม่คิดมากก็เลือกเรือของ BAE ไปเท่านั้นเอง บังเอิญว่าเรือ Meko-A200 โผล่เข้ามาได้ในวินาทีสุดท้าย ทั้งยังไม่มีการโชว์แบบเรือให้ใครเห็นเลยเนี่ย....มันมีนัยยะอะไรซ่อนอยู่หรือเปล่า เลยกลายเป็นว่าหวยยังออกได้ 3 หน้าใครก็ได้ สำคัญก็คือต้องสร้างได้ค่อนข้างเร็วไม่ติดปัญหา สั่งซื้อปลาย 2019 ปี 2023 พร้อมประจำการจริง จะมาทำแบบอู่ต่อเรือแดวูไม่ได้นะเออ
ทีนี้มาวิเคราะห์แบบมีข้อมูลสักนิด นั่นคือการติดตั้งอาวุธบนเรือลำนี้แบบในปริมาณสูงที่สุด Meko-A200 ของอัลจีเรียมีจรวดต่อสู้เรือรบ 16 นัด จรวดต่อสู้อากาศยาระยะสั้น 32 นัด ตอร์ปิโดเบา 6 ท่อยิง เป้าลวงจรวดและเป้าลวงตอร์ปิโดแยกจากกัน ไม่มีโซนาร์ลากทัายเพราะเป็น water jet เรืออังกฤษน่าจะแตกต่างตรงนี้คือตัด water jet แล้วเตรียมพี้นที่ไว้สำหรับโซนาร์ลากท้ายในอนาคตของอนาคตของอนาคต
มาที่แบบเรือ Arrow 140 บ้าง มันก็คือเรือฟริเกตป้องกันภัยอากาศยานชั้น Iver Huitfedt ของเดนมาร์คนี่แหละครับ เรือจริงติดท่อยิง MK-41 สำหรับ SM-2 จำนวน 32 ท่อยิง ท่อยิง MK56 แบบฝังพื้นครึ่งหนึ่ง สำหรับ ESSM อีก 2 ชุดหรือ 24 นัด จรวดฮาร์พูน 8 นัด ปืนใหญ่ 76/62 จำนวน 2 กระบอก ปืนกล 35 มม.จำนวน 1 กระบอก และเรือต้นแบบระวางขับน้ำ 6,645 ตันนะครับ
แบบเรือ BAE เจอคู่แข่งไม่ธรรมดาเลยทั้ง 2 ราย ผมยังมองไม่เห็นเลยว่า....การเอาแบบเรือคอร์เวตมาขยายใหญ่กว่าเดิม จะไปสู้อะไรกับเรือฟริเกตป้องกันภัยอากาศยานแท้ๆ ได้ เอาแค่จุดติดตั้งท่อยิง MK-41ก็ทิ้งกันไกลลิบลับ แล้วเรือที่สามารถติดปืนหัวเรือได้ถึง 2 กระบอกปัจจุบันนี้หาไม่ได้แล้ว (ติดไม่ติดอีกเรื่อง) เห็นครั้งแรกถึงกับตะลึงว่าเอาแบบนี้เชียวหรือ
เรือฟริเกต Type26 ไม่มีจรวดต่อสู้เรือรบ แต่มีท่อยิง MK-41 จำนวน 24 ท่อสำหรับจรวดพื้น-สู่-พื้นระยะไกลยิงได้ทั้งเรือและบนฝั่ง Type31e เองก็ต้องมีพื้นที่รองรับในอนาคตด้วย นี่ก็จะเป็นอาวุธยอดนิยมในอนาคตใกล้ๆ นี่เอง เพราะออสเตรเลียเองก็ประกาศจะจัดหามาใส่เรือฟริเกต Type26 ของตนเองด้วย จรวดพวกนี้ต้องใช้ท่อยิงลึกๆ หน่อยล่ะ แบบเรือก็ต้องรองรับได้แบบจริงๆ จังๆ แบบเรือ Arrow 140 ติดได้อยู่แล้วก็จะได้เปรียบเรืออีก 2 ลำอย่างแน่นอน ดูตามภาพจะเห็นว่ายังเหลือที่ว่างให้ติดอาวุธอื่นๆ ได้อีกพอสมควร ขนาด VL-ASROC ก็ยังใส่ได้เอากับพ่อสิ
แต่ไม่ได้แปลว่า Arrow 140 เข้าวินแบบนอนมานะครับ เพราะเอาเข้าจริง Type31e จะติดอาวุธน้อยจนคนอังกฤษบ่นกันทั้งเกาะ ที่เหลือแค่เตรียมพื้นที่ไว้ก่อนเท่านั้นเองอาจไม่มาก็ได้ ต้องมาดูในคะแนนรวมที่จับมาบวกลบคูณหารตามสูตรของราชนาวีอังกฤษ เพราะเรือลำใหญ่กว่าค่ายใช้จ่ายย่อมแพงกว่าตาม ถ้าตัดสินใจไม่ได้จริงๆ...อาจให้ยกมือโหวตแบบบางประเทศซื้อเรือดำน้ำก็ได้นะ ไปดีกว่าแว๊บ!!
ย้ำอีกทีนะครับว่า เรือลำละ 250 ล้านปอนด์ รวมเรดาร์และอาวุธจำนวนไม่มากเข้าไปด้วย ฉะนั้นใครเอาเรือราคาแพงมาเข้าร่วมรัฐบาลอังกฤษคงไม่ให้เข้ารอบชิงอย่างแน่นอน
เป็นไปตามหลักนิยมเรือ พิฆาต ของผู้ดีสมัยก่อนครับ นั่นคือ เรือพิฆาตอาวุธนำวิถี ไม่นิยมติดตั้งจรวดต่อสู้เรือ จะเน้นระบบอากาศและใต้น้ำ....................... เรือหลวง มกฏราชกุมาร ของเราต่อจากอู่เรืออังกฤษ ก็น่าจะได้รับหลักนิผมนี้มาด้วย........... คือเป็นเรือต่อสู้อากาศยานฉบับกระเป๋า ล้ำสมัยต้วยเครื่องยนต์โกด็อก มีแซมติดเป็นแบบแรกของไทย แต่ไม่มีจรวดปราบเรือ ได้ 4.5 นิ้วลำเขื่องมาสองลำ ยิงให้ตับแต็ก........................
ตอนนี้AShMคงยังไม่จำเป็นต้องติดมั้งครับ แต่ถ้ามีMk41อนาคตสามารถใช้LRASMได้นี่ครับ
โดยปกติ กองทัพเรือผู้ดี จะแยกเรือรบ ออกเป็นสองประเภทแบบเห็นจะๆ นั่นก็คือภารกิจระวังภัยทางอากาศ เป็นเรือที่มีขนาดใหญ่ ให้ชื่อว่าเรือพิฆาตอาวุธนำวิถี อาวุธหลักก็คือ แซมพิสัย ปานกลาง-ไกล ตามยุคสมัย
ขณะที่ภารกิจสู้รบทางน้ำและใต้น้ำ จะมอบให้เรือที่เล็กกว่า คือ ฟริเกต ...................จะเห็นว่า พิฆาตและฟรีเกตคู่นี้จะรีลีส ออกมาคู่กันแบบมีแก็ปเป็นช่วงเล็กๆ เหมือน ซีคลาส กับอีคลาส...... แต่ละช่วงยุค ยิ่งใหม่ เรือจะยิ่งมีขนาดใหญ่ขึ้น......... ยกตัวอย่าง เรือพิฆาตอาวุธนำวิถี ไทป์ 42 นางเอกยุคฟอลคแลนด์ ระวางขับน้ำ สี่พันกว่าตัน แต่เมื่อมาเทียบกับ ฟริเกต ไทป 22 หรือ 23 กลับมีระวางขับน้ำเท่าๆกัน....... . ผมยอมรับเข้าใจผิดไปว่า ไทป์ 31 นี้จะเป็นเรือพิฆาตอาวุธนำวิถี (เพราะมี ระวางขับน้ำ มหากาฬ)ซึ่งจริงแล้ว มันจะมาแทน ฟริเกต ไทป์ 26 ซึ่งเป็นเรือภารกิจรบทางน้ำและใต้น้ำ ส่วนภารกิจป้องกันภัยทางอากาศยังเป็นของ พิฆาตอาวุธนำวิถี ไทป์ 45............................ มีต่อ
ซึ่งมี เอสเตอร์30 ระยะยิงกว่าร้อย กม.เป็นไม้เด็ด....... โดยที่เมื่อก่อน แซมพิสัยใกล้ มักใช้เป็นอาวุธป้องกันตัวสำหรับเรือภารกิจรบทางน้ำ ซึ่งหากเป็นฝั่งอเมริกาก็จะเป็น กระจอกทะเลรุ่นเก่า ข้ามไปทางฝั่งผู้ดี ก็จะเป็น ซีวูล์ฟ......... ต้องยอมรับว่า วันนี้ เจ้าแซมระยะยิง20 ++ กม. ทำให้ผมสับสน ไม่ว่าจะเป็น เซพเตอร์ หรือ ไมก้า.......เพราะโดยความเป็นจริงแล้ว แม้ว่า ระยะยิงจะเพิ่มขึ่นไปมาก แต่ก็อาจยังไม่มากพอ ที่จะรียกว่าป้องกันแบบพื้นที่ ซึ่งเห็นว่า เรือฟริเกตไทป์ 26 ที่ขายดิบขายดีไปถึงออสซี่ ตามที่ท่านสุเปอร์บอยว่านั้น แท้จริงแล้ว ก็ใช้ เซพเตอร์ เป็นแซมป้องกันตัว..........ซึ่งว่าตามนี้ แม้จรวดจะยิงได้ถึง กม.ที่ 20++ แต่ผู้ดีก็ไม่ให้เครดิตเรือเป็น เอฟๆจี...(ต่างจากเปอรี่ มะกันภูมิใจ ยกความเป็นเอฟๆจีให้ แม้ภารกิจหลักคือต่อสู้เรือดำน้ำ) ....... จึงย้อนไปถึง เรือ ของมาเลย์ และ อินโด ที่วางแผนใช้ไมก้า....... ด้วย เรฟเฟอเร้นซ์ นี้ กระผมจึงขอถอนบัญชีจากความเป็น เอฟๆจี แห่งอาเซี่ยนครับ.....
โดยถ้าเป็นไปตามนี้ ก็จะคล้ายกับเมื่อก่อน เช่นในสงครามฟอล์คแลนด์ พิฆาตอาวุธนำวิถี 42 ร่วมรบกับ ฟรีเกต 21 ตอนนั้นไทป์ 22 ยังใหม่ๆสดๆซิงๆ ................... จนผู้ดีได้ ฟรีเกต 22 ครบ ตามด้วยจัดหา ไทป์ 23 จึงขาย 21 ให้ปากีสถานทีเหลือบางส่วนก็ปลด กลายเป็น พิฆาต 42 ใช้งานร่วม ฟรีเกต ไทป์ 22 / 23 ............................. ผู้ดี ได้ ดีดีจี ตัวใหม่ คือ ไทป์ 45 มาทดแทน 42 ตามด้วยจัดหาฟรีเกตไทป์ 26 เมื่อครบแล้วจึงปลด ไทป์ 22 มาวันนี้ จะจัดหาฟริเกต ไทป์ 31 เพิ่ม เข้าใจว่าหลังจากได้ครบ ก็คงเตรียมปลด 23................
นั่นจึงเหมือนว่า พิฆาตนำวิถี 1 แบบ จะใช้งานคู่กับฟรีเกตเอนกประสงค์ 2 แบบ เช่น 42 ควง 21 / 22 และมาเป็น 22 / 23 ตอนนี้ 45 จะควง 23 / 26 และที่จะมาใหม่แทน 23 ก็คือ 31
ขอบคุณ คุณ superboy มากๆ ครับ และท่านอื่นๆ ด้วยครับ ที่ยังเข้ามาพบปะมิตรรักแฟนคลับครับ
เว็บ TFC นี่ก็เจ๊งหลายรอบ แต่ก็แก้ไขได้ทุกรอบ คิดว่ายังอยู่กับพี่ๆ น้องๆ ไปอีกนานครับ ^^
แผนกแอบดูครับ
ช่วงหลังผมมีปัญหาบ่อยๆ ล็อกอินติดไม่ติดบ้าง โพสขึ้นไม่ขึ้นบ้าง ก็เลยไม่ได้มาเม้นเท่าไหร่ครับ จะพิมพ์ก็พิมพ์สั้นๆเพราะบางทีพิมพ์ยาวแล้วกดโพสไปไม่ขึ้นอีก
เรื่องMEKO A200 กับโซนาร์ลากท้าย นี่น่าจะเป็นปัญหาตรง exhaust เรือที่แนวน้ำ มากกว่าที่ใช้ water jet นะครับ
ถ้าจะให้มี mission bay ท้ายเรือ จะต้องย้ายท่อทางกันยกใหญ่
ว่าแต่กลางลำ Arrow 140 นั่นมันอะไรน่ะครับ แผง VLS ของ CAMM?
ส่วนจรวดต่อต้านเรือ ถ้าในอนาคตไม่เกิดมหกรรมยกเลิกโครงการอีก อังกฤษคงใช้ CVS401 Perseus ของ MBDA ล่ะครับ
ปัจจุบันยังอยู่ในกระดาษ แต่เปลี่ยนสถานะมาจากโปรเจ็คของบริษัทเองมาเป็นความร่วมมือรัฐบาลฝรั่งเศส-อังกฤษแล้วภายใต้ชื่อโครงการ FC/ASW
ขอบคุณท่าน Supperboy และสมาชิกที่ยังติดตามครับ ผมเองช่วงนี้งานเยอะมากเพราะมีโปรเจ็คและงานเพิ่มขึ้นตามตำแหน่งหน้าที่ที่เปลี่ยนแปลงไป อาจจะหาข้อมูลมาคุยได้ไม่มากเหมือนเมื่อก่อน แต่ก็เข้ามาดูทุกวันครับ
กลางเรือเหมือนท่อยิง VL sea wolf มากกว่านะครับท่านภู อีตาคนวาดภาพก็คงใส่ๆ ไปแบบนั้นเอง เรืออะไรติดปืนกลตั้ง 8 กระบอก ของอังกฤษน่าจะมี 7.62 แบบ 6 ลำกล้องรวบเพียง 2 กระบอก กับ DS-30MR อีก 2 กระบอกไม่เกินนี้
ส่วนเรือ Meko200 นั้น ผมสังหรณ์ใจว่าจะมีปล่องระบายความร้อนกลางเรือเหมือนชาวบ้านเขา ยกตัวอย่างเรือคอร์เวตโปแลนด์ซึ่งยกเลิกไปแล้ว ใช้แบบเรือ Meko100 มาปรับปรุงก็มีปล่องระบายความร้อนเช่นกัน
เวอร์ชั่นอังกฤษก็อาจจะเป็นแบบนี้นะครับ เผลอปล่องควันสลับซ้ายขวาแบบ Arrowhead 140 ตอนนี้กำลังเป็นเทรนด์นิยมเห็นหลายลำแล้ว