เชื่อว่า ที-84 ออปหลอต เป็นรถถังแบบแรกของกองทัพบก ที่จุดประกายให้เราหลงไหลการวิ่งยิงกระหน่ำ ชนิดอัตรายิงจากรถไม่กี่คันแต่ชุกโคตรๆ (กระเบนธงวิ่งยิงได้เป็นคันแรก(ที-69 ไม่แน่ใจ)).............. ภาพเหล่านี้ สามารถทำได้จากรถถังรุ่นพี่อย่าง ที-64 ซึ่งเคยเป็นรถถังล้ำสมัยเมื่อ 35 ปีที่แล้ว .................. เชื่อว่าแม้ระบบควบคุมการยิงจะไม่เลิศเหมือน ออปหล็อต แต่การยกระดับคงทำได้ดีกว่ารุ่นก่อนๆ ที่สำคัญ ทบ.ยูเครน เคยพูดตอนรบกับรัสเซีย โดยขอเลือกเป็น ที-64 มากกว่าจะเป็น ที-84 ออปล็อต เนื่องจาก เงินเท่ากัน ได้แบบแรก 2 คัน ขณะที่แบบหลังคันเดียว........................
กองทัพบกเรา ยังต้องการรถถังอีกหลายร้อย เพื่อทดแทนเอ็ม-41 และที่จะต้องตั้งหน่วยใหม่ ผมว่า ลองมอง ที-64 ตัวนี้ ควบคู่รถถังยุคใหม่ไปด้วยก็ดีนะครับ อาจจะใช้อัตรา 2 ต่อ 1 คือแทนที่เงินเท่ากัน ได้รถถังดีเลิศเช่น ออปล็อต ที-90 หรือ วีที-4 แค่ 2 คัน แต่ถ้าใช้สูตรผม เราจะได้ สุดยอด 1 คัน และ ที-64 ดาบสอง อีก 2 คัน รวมเป็น 3 คัน............
ที-64 ไม่ขี้เหร่นะครับ ใครที่พิศมัย วีที-5 ว่าเป็ย ถ. เบา ผมว่า จัด ที-64 ตัวนี้แจ่มกว่า............... เล็กดี เป้าเล็ก
-การเคลื่อนที่และระบบพยุงตัว ผมให้ 10 เต็ม เท่า ออปหล็อต และ ที-90
-ระบบเสตบิไลเซอร์ 10 เต็ม เทียบเท่า ออปหล็ต
-ปืนผมให้10 เต็ม ดวยคาลิเบอร์ 125
-เกราะ และระบบป้องกัน ให้ 7 แต่ดีกว่า ถ.เบา วีที-5 และสามารถอัพเกราะปฏิกริยาได้ภายหลัง
-ระบบ คคกย. ให้ 8 เทียบเท่า เอ็ม-60 ทีๆเอส
ผมว่า สาวแก่คนนี้ โอนะครับ......
เชื่อว่า ตอนนี้ ทบ. คงเล็ง วีที-5 ไว้เหมือนกัน
แต่อย่างว่านะครับ ที-64 จัดเป็นถ.หลัก ในยุคที่ 3 แต่ วีที-5 เป็น ถ.เบายุคที่ 4 เผอิ๊ญเผอิญ นน. ตัว ดันไล่เลี่ยกัน............
แต่ด้วยศักดิ์ศรี ฝ่ายหนึ่งรถถังหลัก อีก ฝ่ายจัดเป็นเบา คาลิเบอร์ปืนเลยต่างกันมาก 125 กับ 105 ตรงนี้ ขาดกระจุุย
ทีนี้ลองมาเทียบนะครับ (อันแรก ที-64 / หลัง วีที-5 )
1. สถานภาพ เก่า (ปรับปรุงเพิ่มประสิทธิภาพ) / ใหม่สดซิง .............. ซึ่ง อะแฮ่มๆๆ ก็คงล็อคเดียวกับ ออปหล็อต/วีที-4
2.ประสบการณ์ โชคโชน เริ่มพัฒนาตั้งแต่เกือบ 40 ปีที่แล้ว ถือว่าระบบขับเคลื่อนและพยุงตัวล้ำสมัยมาก ผ่านการใช้งานหลายสมรภูมิ / ยังต้องลองของ อาจเป็นเหมือนกรณี สติงเรย์
3.ความเชื่อมั่นผู้ผลิต ดีขึ้น พ้นจากสถานการณ์สู้รบ สามารถส่งมอบตามเวลา / โอเค 100%
4.ระบบขับเคลื่อนและพยุงตัว ดีเยี่ยม เป็นรากฐานการพัฒนา ที-80, ที-84, ที-90 และ ถ.ตะวันตกอื่นๆ / ต้องพิสูจน์
5.ปืนหลัก 125 / 105
6.ราคา 2คันซื้อ ออปหล็อตได้ 1 คัน / ไม่แน่ใจว่า เกือบๆเท่า วีที-4 หรือเปล่า ??????
7.อนาคต(ชิ้นอะไหล่) ของเก่าปรับปรุง แต่มีอนาคต (อนาคตมากไม่มาก ให้มองที-64 ทียังอยู่ในโกดัง) / ตามสไตล์จีน
8. อืนๆ ..........ยังคิดไม่ออก
ครับ ที-84 ที-90 วีที-4 จัดลง กองพันรถถังกรมทหารม้า ส่วน ที-64 จัดลง พันรถถัง กองพลทหารราบ แทน เอ็ม-41 นี่อย่างเท่ ครับ............
ที-69 ของไทยที่เคยเห็น ต้องหยุดแล้วเล็งยิงทุกครั้ง แต่ตามตำราเขาว่ายิงตอนวิ่งได้ (โดนไม่โดนอีกเรื่อง) ปัญหาก็คือมันเล็งยากมาก ตอนซ้อมก็เลยเอาชัวร์ไว้ก่อน (คือไม่ยิงพลาดโดนเพื่อน) น่าจะประมาณนี้มั้ง
ส่วนตัวผมว่าปืนใหญ่มีความเร็วต้นค่อนข้างสูง ค่อนข้างแม่นในระยะไม่เกิน 1 กิโลเมตร เลยไปอีกก็แม่นน้อยลงตามลำดับไหล่
เพื่อยืนยันว่าเธอคือสุดยอด หากย้อนไปจะพบว่า ที-64 และ ที-72 เกิดขึ้นในเวลาไล่เรี่ยกัน............ แต่เราพบเห็น ที-72 ได้จากหลายประเทศทั่วโลก ต่างจาก ที-64 โซเวียตกับกั๊กเอาไว้ไม่ยอมปล่อยของ ประเทศอื่นจึงไม่มีโอกาสเป็นเจ้าของสุดยอดรถถังแบบนี้ คงมีใช้งานในกองทัพแดงที่เดียว................ จนโซเวียตแตก ........... มรดกอาวุธหลายอย่างตกเป็นของ ยูเครน รวมถึง ที-80 และ ที-64 เหล่านี้ด้วย...................... และนี่แหล่ะ คือแหล่งอาวุธชั้นดี ยูเครน เจ้าแห่งการดัดแปลงอาวุธ ............
ในคลิป ที-64 กระทบใหล่ เหล่าดาราดังของนาโต้ ................. ป้าแกตัวเล็ก แต่เรื่องบู๊ ป้าไม่เป็นรองใคร.................. โดยความเห็นส่วนตัวผม สิ่งที่ทดแทนเกราะไหนๆว่าดีที่สุด นั่นคือ ความตัวเล็กและปราดเปรียวของเธอ ครับ..........
T64 ผมก็ชอบครับ. ถ้าเทียบ vt5 T64 น่าสนใจกว่า. แต่ขอแต่งตัวนิดนึง เรื่องเกราะรอบคันขอความสวยงาม ความมีระเบียบหน่อย. ป้อมปืนก็ขอเปลี่ยนเป็นของ oplot มาใส่แทน. ขอข้ามมาที่เจ้า T84 oplot อยากให้เพิ่มระบบ APS ของจีนก็ได้ ก็ถือว่าสุดยอดแล้วครับ. เอามาคู่กับ VT4 อย่างล่ะ 100 คัน กำลังดี.
แกอายุ(เหลือ)น้อยนะ จะคุ้มค่ามั้ยถ้าเลือกป้า
เอาว่า ถือไม้ท้าว นั่งรถเข็นไปพร้อมๆกับ เอ็ม-60 และ ที-72 อีกค่อนโลก ก็แล้วกันครับ.............. มาตรฐาน ถ.โซเวียตนี่ แหล่มกว่า อเมริกานะครับ.......... ดู ที-34 สิ เวียตนามพึ่งปลดทิ้งไปที่ผ่านมานี่เอง ที-54/55 กับ เอ็ม-48 แบบแรกยังมีใช้ในโลกนี้ตรึม ............. ลองดูอวสาร ของ ที-72/ที-64 กับ เอ็ม-60 สิครับ ไผสิไปก่อนไผ................ นี่ยังไม่อยากจะเอา วีที-4 วีที-5 มาคิดขึ้นทำเนียบด้วยเลยนะครับ เพราะว่ากันตามทรงแล้ว จะมีโอกาสได้ใช้ไม้ท้าวกับเขาหรือเปล่าก็ไม่รุ?????
ที่สุดแล้ว อยากจะให้ลองพิจารณาเรื่องความทันสมัย................... แน่นอน ยิ่งทันสมัยมาก เครื่องช่วยมาก มันก็มีประสิทธิภาพมาก........... แต่สิ่งที่เป็นผลกระทบแบบเงาตามตัวก็คือการบำรุงรักษา ระบบในปัจจุบันเน้นอิเลคทรอนิคส์ ซึ่งใช้ระบบสารกึ่งตัวนำประกอบคอมพิวเตอร์ดิจิตอล ............. มันเยี่ยม ไม่เถียง แต่อุปกรณ์พวกนี้มีอายุ และสถาปัตยกรรมการออกแบบใช้ระบบการถอดเปลี่ยน ลองนึกว่า ทบ. มีระบบควบคุมการยิงเลอเลิศเหมือน เอ็ม-1 ในรถถังที่มีอยู่ทั้งหมดสิครับ ...... สิ่งที่ตามมา เชื่อไหม ภายใน 5 ปี รถถัง 80% จะต้องให้ ผบ.รถ ตะกายออกมาใช้กล้องวัดระยะบนป้อม ส่วนพลยิงจะใช้กล้องเล็งแบบเล็นตาแทนที่จะใช้จอ มอนิเตอร์เหมือนที่เห็นใน เอ็ม-60 ปรับปรุง เพราะอะไรครับ เพราะไม่มีงบซ่อม............ ตัวอย่างนี้เห็นชัดจาก ถ.สติงเรย์ เดิมตามเสป็ค มีระบบสเตบิไลเซอร์ กล้องเล็งคำนวณขีปณะด้วยคอมพิวเตอร์ แล้วดูรอบยี่สิบปีที่ผ่านมานี้สิครับ ยิงทีหยุดที ระบบเล็งมารู้กันทีหลัง ตอนเนสเทคจะเข้าซ่อม พึ่งรู้ว่า ส่วนมากที่มีอยู่แทบจะบ่มีไก๊................... ออปหล็ตนี่ ทันสมัยมาก กล้องเล็ง ระบบคำนวณขีปณะอย่างแหล่ม แต่ของยูเครนนี่ เป็นยังไงก็ต้องรอดูกันไป ส่วนของจีนนี่ อย่าให้ผมแสดงความคิดเลยครับ รอดูหลัง 5 ปีต่อจากนี้นะครับ............... ก็เลย คิดว่า ระบบต่างๆ แบบกลางๆ ไม่เลิศเลอมาก แต่ยืนระยะได้นานๆนี่แหล่ะ น่าจะเข้ากับคาแรคเตอร์ของเรา แต่ก็มิใช่ว่าจะไม่มีของดีนะครับ ระบบเลิศๆก็ต้องมี แต่ควรคำนวณจำนวนที่จะครอบครอง ให้สัมพันธ์กับความสามารถในการซ่อมบำรุงและรักษาสภาพ ไม่ใช่ว่า ร้อยนึง เป็นของดีหมด ผ่านไป 5 ปี 90 บ่อมีไก๊ เหลือใช้ได้แค่ 10 เอาเป็น ของดีสัก 20% แต่มีงบมีเวลาซ่อมให้ใช้ได้ครบ 100 จนถึงอายุ อันนี้ดีสุดๆครับ...................
ท้ายนี้ อยากจะเล่า ผมเองเป็นคนไม่ชอบเปลี่ยนรถ หมายถึงเทรินใหม่ มีก็จะใช้จนมันพัง ระหว่างนั้นมีตังค์ก็ซื้อเพิ่ม........... ผมคนนึงเป็นคนที่เกลียดระบบอัจฉริยะมากๆ แรกคือ อีโก้ผมมันชอบบอกว่า กูก็อัฉริยะนี่หว่า จะไปอะไรกับเครื่องอำนวยความสะดวกมากๆ............. ข้อสองคือ พอพ้น 10 ปีไป ไอ้ระบบ อินถิลลิเจ๊นททั้งหลาย มันจะเริ่มวอนให้เราเสียตังค์ หาไม่แล้วมันจะปรับโหมดตัวเองเข้าสู่ระบบ ออธิสติค ................... ผมเลยชอบรถที่มันมีระบบอำนวยความสะดวกพอสมควร ไม่สุดโต่งครับ...............
ผมหมายถึงปืนใหญ่ของรถถัง ที-69 น่ะครับท่านกบ แม่นยำกว่าที่เคยคาดคิดแบบเปลี่ยนใจไปเลย
เรื่องระบบอัจฉริยะเป็นความชอบส่วนบุคคล ส่วนตัวผมต้องทำงานสาย support ด้วย บอกเลยว่าปวดหัวกับการซ่อมบำรุงมาก แต่คนที่เขาไม่เคยทำก็จะชอบอะไรที่มันล้ำๆ เหนือๆ เยอะๆ ข่มๆ หยิ่งๆ เอ๊กส์ๆ ประมาณนี้
ว่ากันโดยรสนิยม ตำแหน่งในรถถังผมชอบพลบรรจุ ตำแหน่งในเครื่องบินทิ้งระเบิดผมชอบพลปืนท้าย และตำแหน่งในเรือรบผมชอบพลปืนเล็ก รู้สึกตื่นเต้นกว่าเป็นผบ.รถถัง พลขับเครื่องบิน หรือคนยิงจรวดหัวรบนิวเคลียร์เยอะเลย ;) ฉะนั้นผมไม่อะไรกับระบบอัจฉริยะหรอก ประเภทเครื่องบินยิง BVR ใส่กันนี่ไม่ชอบเลย มันต้องบินจี้ตูดแล้วสอยด้วยปืนกล แบบนี้ถึงจะเรียกว่าเสือเผ่น เอ๊ย! เสืออากาศ
เพิ่มเติมนิสนุงนะครับ สำหรับ ที-84 อ๊อปหล็อต จากยูเครนนั้น .......................... หากผู้ใดยังเชื่ออยู่ว่า หล่อนเป็นสาวบริสุทธิ์ ใหม่เอี่ยมถอดด้าม ไม่เคยต้องมือชายใดมาก่อน........... ผู้นั้นเห็นจะเป็นคุณหนูโลกสวย วิ่งเล่นเท้าเปล่าสัมผัสสายลมและแดดอบอุ่น บนทุ่งหญ้าแซมดอกกระเจียวแถวสกลนครอยู่นะครับ.....................
หาก ที-64 และ ที-84 มีที่ไปที่มาเหมือนกัน ................ ได้รับการรีเฟอบิช ในลักษณะคล้ายๆกัน เครื่องยนต์ดีเซลสองจังหวะคล้ายๆกัน............. ในขณะที่ ที-84 มีใช้งานชาติต่างๆไม่มากนัก แต่ ที-64 มีใช้งานบานตะโก้แห้ว หนึ่งนี้ คือประเทศผู็ปรับปรุงคือยูเครนเอง.......................
เห็น ที-84 ทบ. สตาร์ท ทีควันดำโขมง ยังกะมอตะไซด์สองจังหวะขี้เหนียวออโต้ลู้บ แถมระบบต่างๆก็สลับซับซ้อน............... ว่ากันจริงๆนะครับ ที-84 กับ ที-64 เอาแน่ๆ ใครจะไปก่อนใคร
ถ้าจะว่ามวยถูกคู่ ที่สุดของยุคสงครามเย็น ต้องบอกว่า เป็นคู่มวย ระหว่าง เอ็ม-60 กับ ที-64 นะครับ ที-72 นี่ยังถือว่าเป็นมวยรอง.......................
ฟังอีตานี่พูดในคลิป เหมือนจะเกิดความรู้ใหม่ ว่า ไอ้กระสุนเจาะเกราะสลัดครอบนี่ ไอ้กันพึ่งมีใช้งานกับ เอ็ม-60 เอ3 ซึ่งก่อนหน้าในรุ่น เอ1 จะเป็นแบบ โพรเจ็คไตล์ (แบบสงครามโลก) คือไม่ค่อยเคลีย ตกลงว่ามันใช้ได้เฉพาะใน เอ3 แค่นั้น ส่วน เอ1 ใช้ไม่ได้ หรือ ว่า เกิดขึ้นตอนพัฒนา เอ3 แต่ที่สุดก็ใช้ได้ทั้ง เอ1 และ เอ3 รวมถึง เอ็ม-48 เอ5 อันนี้ไม่เคลียร์จริงๆ คงต้องสอบถามผู้รู้สะแร้ว................... แต่อย่างไรก็แล้วแต่ เป็นที่ทราบเลยว่า ไอ้กระสุนแกนเข็งสลัดครอบ เนี่ย โซเวียตทำใช้ก่อน..................ซึ่งน่าจะสอดคล้องกับปืนใหญ่ลำกล้องเรียบ ที่ฝ่ายโซเวียตทำขึ้นใช้ก่อนเช่นกัน ขณะที่อเมริกาและนาโต้ ยังพิศมัยความแม่นยำของเกลียวลำกล้องปืนไรเฟิ้ลอยู่ กระสุนสลัดครอบ อาศัยความแข็งและความเร็วในการเคลื่อนที่ การเอามายิงในลำกล้องแบบเกลียวทำให้ความเร็วปลายกระบอกช้าลง และที่สุดก็ถึงการอวสาน เกลียวลำกล้อง ใน ถ.หลักรุ่นใหม่ๆ.................
T-64 มันยอดเยี่ยมของมันมาแต่ไหนแต่ไรแล้วตัวเล็กหมัดหนัก ระบบต่างๆก็ยังโอเคกับการรบสมัยใหม่อยู่ ยิ่งถ้าเทียบ M-60 ผมว่า T-64 ยังไปต่อได้อีกเยอะ แต่เรื่องของเรื่องโรงงานยูเครนไม่มีความสามารถผลิตของใหม่ 100% ได้จริงหรือ? ผมว่าไม่น่าใช่ เพราะแต่ไหนแต่ไรมายูเครนก็เป็นแหล่งออกแบบและผลิตรถถังหลักให้โซเวียตมาเป็นสิบๆปี และรถถังหลักชื่อดังของโซเวียตนั้น ออริจินมันเป็นของสำนักออกแบบยูเครนเกือบทั้งนั้น ตั้งแต่ตระกูล BT ยัน T-34 T-44 T-54 T-64 พวกนี้ผลงาน Kharkiv Morozov ทั้งนั้น เห็นจะมี T-72 T-90 นั่นแหละที่เป็นของรัสเซียแท้ๆ ดังนั้นคุณภาพผมว่าเชื่อถือได้ และถ้าคนซื้ออยากได้ของใหม่ 100% ผมว่าเขาก็ทำได้
เรื่องขายของรีเฟอร์บิช ผมเลยมองว่าขึ้นอยู่กับความต้องการลูกค้ารึเปล่า เพราะภาพที่ออกจากโรงงาน Oplot ก็เห็นชัดๆว่าชิ้นส่วนมันถูกทำขึ้นมาใหม่และประกอบใหม่หมด ไม่รู้สิผมอาจจะโลกสวย หรืออาจจะมีคนโกหกเรื่องของ รีเฟอร์บิช แต่กองทัพและสื่อเยอะแยะก็ยืนยันมาตลอดว่า Oplot นั้นใหม่ 100% ไม่ใช่หรือ? หรือภาพที่เห็นในโรงงานประกอบคือเรื่องแหกตา?
ขอแวะไปจีนนิดนึงตรงเรื่องที่ว่ามาตรฐานแบบจีน ผมเองมองว่าจีนพัฒนาไปไกลมากแล้วอาวุธจีนไม่ได้ด้อยกว่าอาวุธตะวันตกในปัจจุบันเลยและบางอย่างดูจะขี่ของรัสเซียอยู่นิดๆด้วยซ้ำ แต่ก็แน่ล่ะของที่มันแย่มันก็มี แต่ผมเห็นว่าการปรามาศจีนเกินไปอาจทำให้เราพลาดอะไรดีๆไปก็ได้ ให้เวลาเป็นเครื่องพิสูจน์ดีกว่า
คือว่า........ เรื่องของโรงงานผลิตอาวุธเนี่ย ไม่ว่าเป็นประเภทอะไร โอกาสที่พวกเราจะได้เห็นภาพในส่วนผลิตพาร์ทจริงๆนั้นคงยากครับ.................. อย่างมากที่สุดก็คงได้เห็นส่วนสุดท้าย คือส่วน แอสเสมบลี้ ............
ผมเชื่อว่า ในเวบของเรา คงมีผู้ที่สันทัดงานด้าน แอสเสมบลี้ อยู่ไม่น้อย โดยเฉพาะท่านที่ถนัดงานเชื่อม และ "งานยิงทราย"...............
ภาพด้านล่างต่อไปนี้ จะเป็นการเปรียบเทียบ ส่วน แอสเสมบลี้ ระหว่าง โรงงานของ ไคร้สะเล่อ ผู้ผลิต เอ็ม-1 กับของ มาเลเชฟ อ็อปหล็ตของเรา ..............
ผมเชื่อเป็นอย่างยิ่งว่า การประกอบเอ็ม-1 นั้น เป็นของใหม่ 1000 % ให้สังเกต ฮุ้ล (ฮ่าวล์) รูปทรงเนื้อเหล็ก การประกอบพาร์ท ตั้งแต่ชิ้นแรกเข้าตัว ฮั้ล ซึ่งยืนยันถึงความใหม่ ........................
ในสถาการณ์ข่าวสารที่เต็มไปด้วยความเคลือบแคลงสงสัย ถ้า ของ มาไลเชฟ เป็นของใหม่จริง เขาคงไม่ลังเลที่จะพรีเซนต์ภาพเหล่านี้เป็นแน่แท้ ถ้าเขามี นะครับ..................
ภาพ ที-84 ผมเอามาจาก แฟ้มข่าวของคุณ เอๆจี_ทีเอช นะครับ............
ส่วนงานประกอบพาร์ท (แอสเสมบลี้) ของ ไคร้สะเล่อร์
.
ส่วนอันนี้เป็นของ มาลัยเชพ นะครับ................หวังว่าล็อตนี้ คงเป็นของคนอื่น ไม่ใช่ของ กองทัพบกแห่งสารขัณฑ์ นะครับ
.
เสียเวลาหล่อโมล แคะเบ้าทำไมหล่ะครับ................ พาร์ท อยู่หลังโรงงานนี่เอง เป๊อะเลอะเปอะเต๋อ..............
ไม่มีใครรังเกียจหรอกครับ ว่าเป็นรถถังเก่า นำมารีเฟอร์บิช การรีเฟอร์บิชนั้นแม้ไม่ใหม่ 100% แต่พาร์ทเก่า อย่างตัวฮั้ล เทอเรท พาร์ทพวกเป็นเหล็กหล่อหนักๆ ถ้ามันไม่แคร็ค เอามาเหอะครับ ใช้ได้อีกจนไทยมีรัฐธรรมนูญฉบับที่ 300 นู่แหล่ะ.............. แต่ส่วนอื่นที่บอบบาง เช่น ระบบพยุงตัว ระบบสเตบิไลเซอร์ โน่นนี่นั่น อันนี้ก็ควรเปลี่ยนของใหม่............
อย่างที่ว่า ไม่มีใครรังเกียจครับ เว่ากันซื่อๆตรงๆโลด เก่าก็คือเก่า จะไปกระมิดกระเมี้ยนทำไม อย่าง เอ็ม-60 ก็ของเก่า 48 เอ5 ก็เก่า 41 ก็เก่า 113 ก็เก่า(ส่วนใหญ่) เก่าแล้วไงครับ?????...............
เว้นสะแต่ อะแฮ่มๆๆๆๆๆ .................. ไม่พูดดีกว่า.................
อ่อ เบอร์ 528 นั่นไม่ใช่นะครับ เป็นงานวิจัยของโรงงานเขา...........................
ส่วนกรณ๊ของจีน เราทุกคนล้วนรอดูอยู่ครับ............... และระหว่างรอนี้ ผมหล่ะเสียว จะไปเอามาอีกเป็นร้อย............... คือมีอยู่สองอย่างครับคือ
1.เราอาจพลาดอะไรดีๆไป (กรณีไม่จัดหา) กับ.
2.เราพลาดอะไรดีๆไป เพราะ ดันจัดหาไอ้นี่มา.................... เสี่ยงเหรอครับ............ เอ้า ถ้าชอบเสี่ยง ไม่ร้อนก็ไม่ร้อน ว่าไงว่ากัน ครับ...............
.
สำหรับรถถังที่ทำจากเหล็กที่หนามากๆ. ใช้ไปสัก 50 ถึง 100 ปีก็ไม่บุบสลาย. ยกเว้นเรื่องชิ้นส่วนที่เคลื่อนที่ได้ และพวกระะบบอิเลคทรอนิก. ดังนั้นเป็นผมหากซื้อรถถังที่ใช้ตัวถังเก่าไม่มีปัญหา. แต่ประสิทธิภาพต้องเทียบเท่ารุ่นไหม่ ในราคาที่ถูกกว่า. ส่วนเรื่องรูปทรงก็สามารถแต่งเติมเสริมโน่น นี่ นั่น ได้ตามต้องการครับ. ส่วนตัวยังคิดเลยว่าเราน่าให้ทางจีน. ยูเครนถ่ายทอดเทคโนโลยีมาด้วยเลยสำหรับซื้อตัวถังรถถังเก่ามาสร้างใหม่เองแบบที่เราต้องการ.
ปัญหาคือ บ้านเราต้องการรถใหม่ออกศูนย์ ซึ่งหากทบ.ไม่สามารถชี้แจงข้อครหาต่างๆได้ชัดแจ้ง ของดีตกยุคพวกนี้กลายเป็นของต้องห้ามไป
จะวัดกันต้องเอา T-64 มาชิงกับ Type-96 ที่ม้าจีนจะหนักกว่าเล็กน้อย แต่96เป็นกำลังหลักของจีนในตอนนี้คืออนาคตยาวแน่นอน
โดยส่วนตัวว่า รถจีนในตอนนี้คือพิสูจน์ความทนของอุปกรณ์ไฟฟ้าต่างๆ มากกว่า