ผมคิดว่าน่าจะยังเป็นรองเรือชุดปัตตานีของเราน่ะครับ โดยเฉพาะปืนใหญ่ด้านหน้าเรือของเราขนาด  76 mm  

แนวคิดการออกแบบของ UMS Inlay กองทัพเรือพม่า กับเรือตรวจการณ์ไกลฝั่งชุด ร.ล.ปัตตานี และชุด ร.ล.กระบี่ มีความแตกต่างกันค่อนข้างมากครับ

โดยเรือ ตกก.ทั้งสองชุดของไทยนั้นมีความยาวตัวเรือกว่า 90m ระบบอาวุธหลักส่วนใหญ่เป็นระบบอัตโนมัติ เช่น ปืนใหญ่เรือ OTO Melara 76/62 และรองรับอาวุธปล่อยนำวิถีต่อต้านเรือผิวน้ำ

แต่เรือ UMS Inlay OPV ของพม่าดูออกแบบมาสำหรับความขัดแย้งระดับต่ำครับคือ ตัวเรือยาว 80m ระวางขับน้ำราว 1,500tons อาวุธหลัก ป้อมปืน Type 66 57mmแฝดสองดูเหมือนจะเป็นระบบ Manual อาวุธรองก็มีปืนกลหนัก 14.5mm สองกระบอกท้ายเรือ

ทำให้แนวคิดการออกแบบและใช้งานเรือ OPV ของไทยและพม่าแตกต่างกันครับ

Myanmar commissions new OPV and landing craft
http://www.janes.com/article/76685/myanmar-commissions-new-opv-and-landing-craft

Jane's มีรายงานเพิ่มเติมเกี่ยวกับเรือตรวจการณ์ไกลฝั่ง UMS Inlay ลำใหม่ของกองทัพเรือพม่าครับว่า

เรือถูกต่อที่อู่เรือ Thanlyin ใกล้ Yangon โดยได้รับความช่วยเหลือทางเทคนิคและอุปกรณ์จากบริษัทของสิงคโปร์ครับ

http://aagth1.blogspot.com/2017/12/ums-inlay-opv.html
https://www.facebook.com/www.myanmarnavy.org/
https://www.facebook.com/seniorgeneralminaunghlaing

ในพิธีประจำการเรือตรวจการณ์ไกลฝั่ง UMS Inlay วันเดียวกันนั้น กองทัพเรือพม่ายังได้ทำพิธีประจำการเรือระบายพลใหม่สองชั้นคือ

เรือระบายพลขนาดใหญ่ LCU ขนาด 56m ๒ลำ(1614 และ 1615) สามารถขนรถถังเบา Type 63 ได้ ๕คัน

และเรือระบายพลขนาดกลาง LCT ขนาด 29m ๔ลำ(1713, 1714, 1715 และ 1716) สามารถขนยานเกราะล้อยาง BTR-3U หรือยานเกราะล้อยางติด ปถ.105mm PTL-02 ได้ ๒คัน

ซึ่งจากข้อสังเกตจากหลายเลขเรือ กองทัพเรือพม่ามีเรือ LCU ราว ๑๕ลำ และมีเรือ LCT ๑๖ลำ ตั้งแต่ช่วงปี 2015-2017 แล้วครับ