ใช้งานปีเดียวจอดในโรงซ่อม! เฮลิคอปเตอร์ AW 139 ทบ. 2 ลำ 1.3 พันล.
เผยภาพ!เฮลิคอปเตอร์ AW 139 ทบ. 2 ลำ 1,350 ล้าน ใช้งานปีเดียวจอดรอซ่อม ทำการบินไม่ได้ ต้องรอเคลมอะไหล่จาก บ.ผู้ขายในอิตาลี 38 รายการ มีปัญหายังได้ไม่ครบตามสัญญา โฆษก ทบ.ให้รอหน่วยงานแจงข้อเท็จจริง
สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org รายงานว่า ภายหลังที่กองทัพบก โดยกรมขนส่งทหารบก (ขส.ทบ.) ทำสัญญาจัดซื้อ เฮลิคอปเตอร์ใช้งานทั่วไปทางธุรการและขนส่ง แบบ AW 139 (ฮ.ท.139) จำนวน 2 ลำ วงเงิน 43,548,387.10 เหรียญสหรัฐ หรือ ประมาณ 1,350 ล้านบาท โดยวิธีพิเศษจาก บริษัท Agusta Westland ประเทศอิตาลี เมื่อวันที่ 28 ก.ย. 2555 ส่งมอบภายใน 530 วัน หรือเมื่อปี 2557 ใช้งานได้เพียงปีเดียว ปรากฎว่า ฮ. AW 139 ทั้ง 2 ลำดังกล่าวไม่ได้นำออกปฏิบัติภารกิจและนำมาจอดเก็บไว้ที่โรงจัดเก็บของกรมขนส่งทหารบก ทำให้เกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์เป็นอย่างมาก
ทั้งนี้ แหล่งข่าวจากกองทัพบกเปิดเผยว่า สาเหตุที่ไม่สามารถใช้งาน ฮ.ท. 139 ทั้ง 2 ลำได้ เนื่องจากเกิดปัญหาข้อขัดข้องในการเคลมอะไหล่จากบริษัทผู้ขายในอิตาลี ลำแรกหมายเลข 31525 ได้รับชิ้นส่วนซ่อมจากเอกชนไม่ครบถ้วน ตามระยะตรวจซ่อมบำรุง 300 ชั่วโมง ขาดชิ้นส่วน จำนวน 21 รายการ ลำที่สอง หมายเลข 31520 ได้รับชิ้นส่วนซ่อมไม่ครบถ้วนเช่นเดียวกัน ขาดชิ้นส่วน จำนวน 17 รายการ
ทางหน่วยงานของกองทัพบกได้ทำหนังสือแจ้งเร่งรัดไปยังเอกชนให้จัดส่งชิ้นส่วน 38 รายการมาทดแทนแล้ว
สำนักข่าวอิศรารายงานว่า มีการรายงานกรณีข้อขัดข้องในการเคลม AW 139 จำนวน 2 ลำให้แก่ เจ้ากรมขนส่งทหารบกทราบ เมื่อวันที่ 15 ก.ย.2558
นอกจากปัญหาดังกล่าวแล้ว การจัดซื้อ AW 139 จากเอกชนรายนี้ในช่วงแรกมีปัญหาส่งมอบล่าช้าเกินกำหนดในสัญญา
เมื่อสองสัปดาห์ที่ผ่านมาผู้สื่อข่าวได้สอบถาม พ.อ.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก ทางโทรศัพท์ ประเด็นดังกล่าว พ.อ.วินธัยกล่าวว่ายังไม่ทราบเรื่องและจะตรวจสอบข้อเท็จจริงจากหน่วยงานให้อีกครั้ง อย่างไรก็ตามยังไม่มีคำชี้แจงเพิ่มเติม ล่าสุดเมื่อช่วงบ่ายวันที่ 19 มิ.ย.2560 ผู้สื่อข่าวได้โทรศัพท์สอบถาม พ.อ.วินธัยอีกครั้งเจ้าตัวแจว่ามีภารกิจมากให้ผู้สื่อข่าวส่งประเด็นสอบถามทางแอพพิเคชันไลน์มาอีกครั้งแล้วจะนำส่งให้ตรวจสอบหน่วยงานตรวจสอบข้อเท็จจริง
สำนักข่าวอิศรารายงานว่า หน่วยงานไทย มี ฮ. AW 139 จำนวน 4 ลำ เป็นของ ขส.ทบ. 2 ลำ และของสำนักนายกรัฐมนตรี 2 ลำ ซึ่งซื้อมาในช่วงหลังจาก 2 ลำแรกมีปัญหา
ที่มาของข่าว : https://www.isranews.org/isranews/57312-news-57312.html
ซื้อมาใช้ได้แป๊บเดียว จอดเสียบินไม่ได้ในโรงเก็บยาวเลยครับ ทำไม่อายุการใช้งานสั้นขนาดนี้ > <"
ผมมีเรื่องสอบถามเกี่ยวกับการจัดซื้อของกองทัพ ทำไมการจัดซื้ออาวุธต่างๆ ต้องมีการผ่านนายหน้าบริษัทในไทย ทางกองทัพไม่สามารถจัดซื้อโดยตรงได้หรือครับ?
ขอบคุณสำหรับคำแนะนำมากๆ นะครับ ^^
มันไม่จอดเสียนะครับ แต่มันมีระยะซ่อมบำรุงที่ 300 ชม. แต่ปัญหาคือ อะไหล่ไม่ส่งมา ทำให้ต้องหยุดบิน จริงๆมันน่าจะยังบินได้ปกติครับ แต่เรื่องการบินมันมีเรื่องความปลอดภัยมาเกี่ยวข้องอย่างมาก จึงต้องจอดรอเพื่อเปลี่ยนอะไหล่ตามแผนมากกว่าครับ ตามข่าวเขาก็ระบุอยู่ ปัญหาที่เขาโจมตีคือการส่งอะไหล่จากบริษัทตัวแทนหรือผู้ผลิตมากกว่าครับ
สำนักข่าวนี้ไม่ค่อยน่าเชื่อถือเลย รอ กองทัพแถลงข่าวดีกว่า
2 ลำแรก VIP
มุขท่านกบแรงมาก ถึงกับสะอึกน้ำกันเลยทีเดียว
-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
กติกาและมารยาท
แถลงการณ์อย่างเป็นทางการของกองทัพบกต่อกรณีอกุสต้าเวสท์แลนด์AW 139ในวันนี้
ทบ.โต้ข่าว ฮ.AW 139 รวม 2 ลำ 1,350 ลบ. ใช้งานปีเดียว บินไม่ได้ จอดรอซ่อม ย้ำยังใช้งานทั้ง 4 ลำ ไม่มีรออะไรจากอิตาลี อะไหล่พร้อมเสมอ ซ่อมบำรุงตามชั่วโมงบิน
พ.อ.วินธัย สุวารี โฆษกทบ. กล่าวถึงกรณีมีการลงข่าวว่า ฮ.AW 139 ทบ. 2 ลำ 1,350 ล้าน ใช้งานปีเดียวจอดรอซ่อม ทำการบินไม่ได้ ต้องรออะไหล่จากบริษัทผู้ขายจากอิตาลี 38 รายการ จึงยืนยันว่า ฮ.AW 139 ทั้ง 4 ลำ ยังใช้ปฏิบัติราชการอยู่ตลอด 2 ลำแรก รับมาช่วงปี2554 อีก 2 ลำ รับมาเมื่อปี2559 อีกทั้งไม่เคยมีการจอดหยุด หรือต้องหยุดใช้งาน เนื่องจากต้องรอคอยการเปลี่ยนอะไหล่มาซ่อมบำรุงจากทาง บริษัทฯ ผู้ขาย อย่างที่มีการนำเสนอ
นอกจากนี้มีการบำรุงตามระยะเวลาชั่วโมงบิน มีการหมุนเวียนตามวงรอบดำเนินการได้อย่างต่อเนื่องปกติ เพราะมีชิ้นส่วนอะไหล่พร้อมดำเนินการในอัตรา ไม่ต้องสั่งหรือรอคอยการสั่ง
"น่าจะได้รับข้อมูลที่ผิดพลาดจากแหล่งข่าวที่ไม่น่าเชื่อถือ ซึ่งการนำเสนอดังกล่าว อาจทำให้สังคมเข้าใจผิด และเกิดความไม่มั่นใจใน ยุทโธปกรณ์ ที่ ทบ.จัดหามาประจำการได้ ขณะนี้ ได้มีการให้ข้อมูลที่ถูกต้อง ไปกับ ผู้สื่อข่าวของสำนักข่าวที่นำเสนอแล้ว" พ.อ.วินธัย กล่าว
ขอขอบคุณข้อมูลจากหนังสือพิมพ์ไทยโพสท์
ภาพที่เห็นนี้เป็นภาพการปฏิบัติงานในคณะของผู้บัญชาการทหารบก ด้วยเฮลิคอปเตอร์AW-139 สังกัดกรมการขนส่งกองทัพบก ที่คณะทำงานTAF ได้บันทึกภาพไว้เมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา โดยมีAW-139 ปฏิบัติงานในภารกิจนี้จำนวน 2 ลำคือ หมายเลข 31520 และ41413 ไม่ได้อยู่ในสภาวะระงับการบินตามที่เป็นข่าวครับ
https://www.facebook.com/thaiarmedforce/photos/a.377333849611.194403.377261239611/10155497127029612/
ขอบคุณสำหรับทุกๆ คำตอบมากๆ นะครับ พอดีเห็นข่าวแล้วตกใจว่าทำไมเสียเร็วขนาดนั้นเลยมาสอบถามครับ > <
รบกวนอีกนิดที่สอบถามไปนะครับ เกี่ยวกับการจัดซื้อของกองทัพ ว่าทำไมการจัดซื้ออาวุธต่างๆ ต้องมีการผ่านนายหน้าบริษัทในไทย ทางกองทัพไม่สามารถจัดซื้อโดยตรงได้หรือครับ?
ขอบคุณอีกครั้งครับ
ผมก็ไม่รู้กฎหมายนะครับ แต่เรื่องการจัดซื้อ ถ้าจัดผ่านนายหน้า มันมีคนรับขี้ไงครับเวลามีปัญหาก็ไปฟ้องเขา ตัวเราก็ปลอดภัย ซึ่งก็แลกกับค่าใช้จ่ายที่ต้องมีเพิ่ม เพียงแต่กับเมืองไทยปรกติเวลามีขี้ทางกองทัพก็เหมือนจะรับไว้เฉยๆ ไม่เห็นเคยเล่นนายหน้าได้เลย หรือไม่อยากเล่นก็ไม่ทราบนะครับ
แต่คิดว่าบางกรณีก็ไม่มีนายหน้าครับ เช่นเรือดำน้ำ ไม่คิดว่ามีนะครับ เห็นบอกแล้วบอกอีกว่า g2g (ถถถถถถ)
หรืออย่างอาวุธเมกาทั้งหลายปกติก็ผ่านโครงการ FMS ของเมกา เหมือน g2g
ขอบคุณมากครับ ^^
โฆษกกองทัพบก ย้ำเฮลิคอปเตอร์ AW 139 หยุดบินไม่จริง ยังใช้งานอยู่ แต่พบบางจุดที่ต้องแก้ไขจึงให้บริษัทส่งอะไหล่มาเปลี่ยน ได้ครบหมดแล้ว เผยยังอยู่ในระยะประกัน ถ้ามีปัญหาก็เคลมได้ พร้อมแจกข้อมูลแจงยิบ
วันนี้ (22 มิ.ย.) ที่กองบัญชาการกองทัพบก (บก.ทบ.) เมื่อเวลา 13.00 น. พ.อ.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก กล่าวถึงกรณีที่มีข่าวว่าเฮลิคอปเตอร์ รุ่น AW 139 หรือออกุสตา ได้ระงับการบินว่า ไม่เป็นความจริง เครื่องบินทั้ง 2 ลำที่กองทัพบกดูแลไม่ได้มีการหยุดใช้งาน และมีตารางการบินเพื่อไม่ให้ผิดกฎนิรภัยการบิน เพราะเครื่องบินลำแรกจะมีอายุครบ 300 ชั่วโมง จึงต้องทำรายงานถึงผู้บังคับบัญชา ในการดูแลซึ่งเครื่องบินลำดังกล่าวยังอยู่ในระยะประกันจากประเทศผู้ผลิต เมื่อพบบางจุดที่ต้องทำการแก้ไขจึงทำหนังสือเพื่อให้ทางบริษัทส่งอะไหล่ที่ต้องการเปลี่ยน ทั้ง 21 ชิ้น ซึ่งได้ครบตามระยะเวลาที่ขอไปจนครบจำนวน โดยระหว่างนั้นก็ยังคงใช้เครื่องบินปฏิบัติภารกิจตามปกติ
พ.อ.วินธัยกล่าวต่อว่า หลังจากนี้จะมีอีก 1 ลำที่จะต้องดำเนินการลักษณะเช่นนี้ เพราะยังอยู่ในระยะประกัน เช่นเดียวกับอีก 2 ลำที่เป็นงบประมาณของสำนักนายกรัฐมนตรีในการจัดซื้อ โดยให้ทางกองทัพบกเป็นผู้ดูแล ยืนยันว่า 2 ลำของสำนักนายกฯ ที่นำขึ้นบินปฏิบัติภารกิจในขณะนี้ เพราะต้องการทดสอบ ในระยะประกันหากมีปัญหาก็สามารถเคลมประกันได้ในระยะเวลาที่กำหนดในปี 2560 นี้ อย่างไรก็ตาม เฮลิคอปเตอร์ทั้ง 4 ลำไม่ได้มีปัญหาหาอะไร สามารถปฏิบัติภารกิจตามที่ได้รับมอบหมายได้ทันที
“ทั้งนี้ ศูนย์การเคลื่อนย้ายกองการบินกองทัพบกได้นำเอกสารเป็นสมุดสั่งการบินมาแสดงให้ได้เห็นว่าตลอดระยะเวลาที่ได้รับเครื่องทั้ง 4 ลำมานี้ได้มีการบินปฏิบัติภารกิจตลอดระยะเวลาที่ได้รับมอบหมาย โดยมีการเขียนรายงานถึงผู้บังคับบัญชาในการเร่งรัดชิ้นส่วนซ้อมเพื่อมิให้อากาศยานงดบิน ซึ่งเป็นไปตามหลักการที่ต้องเขียนรายงานถึงผู้บังคับบัญชา ทำให้ยังมีการบินอย่างต่อเนื่อง” พ.อ.วินธัยกล่าว
พ.อ.วินธัยกล่าวต่อว่า การจัดซื้อเฮลิคอปเตอร์รุ่นดังกล่าวมีความคุ้มค่าในหลายมิติ และมีการบริการหลังการขายที่เป็นไปตามคณะกรรมการกำหนดมาตรฐานยุทโธปกรณ์พิจารณา เนื่องจากมีศูนย์ซ้อมอยู่ประเทศมาเลเซีย และมีศูนย์ซ่อมสีชัง ฟลายอิ้ง เซอร์วิส ที่อยู่ในประเทศไทย
จากนั้นได้มีการแจกจ่ายข้อมูลเพิ่มเติม ดังนี้ กรณีที่มีรูปถ่ายหนังสือราชการที่สื่อมานำเสนอนั้น เป็นหนังสือฉบับ ตั้งแต่เมื่อปี 2558 ลักษณะเนื้อหาเพื่อนำเรียนหน่วยตามสายการบังคับบัญชาเพื่อเป็นข้อพิจารณาเท่านั้นว่าที่หน่วยใช้เสนอความต้องการอะไหล่เพิ่มเติมไปบางรายการ เพื่อปรนนิบัติบำรุงวงรอบ 300 ชม. ที่หากเกิดได้มาล่าช้าอาจจะมีผลกระทบต่อการหยุดบินชั่วคราวได้ ซึ่งในการปฏิบัติจริงทางบริษัทฯ ก็ไม่ได้ดำเนินการใดๆ ให้ล่าช้า สามารถดำเนินการได้ตามการประสาน เครื่องจึงไม่ได้มีการหยุดบินแต่อย่างใด ซึ่งแต่ละลำมีรายละเอียดดังนี้
ลำแรก ฮ.AW139 หมายเลข 525 เมื่อถึงวงรอบมีการปรนนิบัติบำรุง 300 ชม. นอกจากการเปลี่ยนชิ้นส่วนอะไหล่ที่จำเป็นต้องเปลี่ยนตามวงรอบไปแล้วตามขั้นตอน ได้พบความไม่เรียบร้อยในบางจุด แม้ว่าจะไม่มีผลกระทบต่อระบบการบิน และไม่อยู่ในเกณฑ์บังคับตามหลักทางเทคนิคต้องเปลี่ยน แต่ด้วยยังอยู่ในช่วงเวลารับประกัน ทางหน่วยใช้ต้องการอยากเปลี่ยน ซึ่งทางบริษัทฯ ก็ไม่ขัดข้อง ด้วยเมื่อทำหนังสือเสนอความต้องการไป ตัวหน่วยใช้ได้ระบุข้อพิจารณาไปด้วยว่า ถ้าหากการสนับสนุนอะไหล่เกิดล่าช้า จะทำให้ “Aircraft on Ground” ส่วนหนึ่งก็เพื่อกระตุ้นให้เกิดการตอบสนองอย่างรวดเร็วจากทางบริษัทผู้จำหน่าย ทำให้เมื่อมีการสั่งอะไหล่ไปจำนวน 21 รายการ ทางบริษัทฯ จึงรีบส่งมาให้ล๊อตแรกจำนวน 17 รายการก่อนภายในเวลาเพียง 3 วัน ส่วนที่เหลืออีก 4 รายการ ก็ได้มีการจัดส่งมาตามมาให้ใช้เวลาเพียง 8 วันเท่านั้น
ส่วนลำที่ 2 หมายเลข 520 ช่วงนั้นก็ใกล้เวลาปรนนิบัติบำรุง 300 ชม.เหมือนกัน จึงประเมินว่านอกจากรายการอะไหล่มาตราที่ใช้ แล้วยังต้องการอะไหล่บางส่วนเพิ่มเติมอีก 17 รายการ ซึ่งก็อยู่นอกจากบัญชีที่ควรจะมี จึงระบุความต้องการอะไหล่ไปในหนังสือฉบับเดียวกัน สุดท้ายก็ได้รับการสนับสนุนมาตามนั้นทุกรายการและภายในเวลา
สรุปคือทางบริษัทผู้จำหน่ายเมื่อได้รับหนังสือเสนอความต้องการของ ทบ.ไปก็สามารถดำเนินการส่งอะไหล่มาให้ได้ตามรายการ และภายในเวลาที่ต้องการ ทำให้เครื่องทั้ง 2 ลำจึงไม่ได้มีการหยุดบินอย่างที่มีการนำเสนอในสื่อ สามารถดูได้จากบันทึกการบิน หรืออาจเป็นที่รายงานของหอบังคับการบินได้ว่ายังมีความต่อเนื่องในการรับมอบภารกิจ
สำหรับรูปภาพที่สื่อนำมาเสนอเห็นเป็นรูป ฮ.ถูกคลุมผ้าอยู่และมีการทำลูกศรชี้ไว้นั้น ไม่ใช่รูปภาพของ ฮ.AW 139 ทั้ง 2 ลำที่กำลังกล่าวถึงกันอยู่ในขณะนี้ เป็นรูปภาพ ฮ.อีกรุ่นหนึ่งซึ่งยังอยู่ในระหว่างกระบวนการส่งมอบ
cr.http://www.manager.co.th
เรื่องข่าวเท็จที่ว่า ฮ.ท.๑๓๙ AW139 งดบินซึ่งไม่เป็นความจริงดูเหมือนจะยังไม่จบง่ายๆครับ
โดยยังมีการสร้างกระแสเรื่องนี้ในสื่อสังคม Online อย่างต่อเนื่อง
และเมื่อมีผู้นำภาพและข้อมูลที่เป็นความจริงในข้างต้นว่า AW139 หมายเลข 31520 ยังทำการบินรับส่งคณะของผู้บัญชาการทหารบกเมื่อเดือนพฤษภาคม พ.ศ.๒๕๖๐
ผู้ที่ให้ข้อมูลก็จะถูกผู้ดูแลทางนั้นลบภาพและข้อมูลที่เป็นความจริงออกและ Block ไม่ให้ผู้ให้ข้อมูลใช้งานได้อีกทันทีครับ
ประเด็น ฮ.ท.๑๓๙ AW139 ที่เล่นงานกองทัพบกโดยสื่อกระแสหลักกลุ่มเดิมๆยังไม่จบครับ
ล่าสุดใช้ประเด็นโจมตีใหม่ว่า AW139 ชุดที่สองที่จัดหามาหมายเลขเครื่องไม่ต่อเนื่อง ถูกจัดหามาเพื่อใช้งานโดยบุคคลเป็นการส่วนตัว
อีกทั้ง ฮ.ท.๑๓๙ AW139 ชุดล่าสุดที่ประจำการใน กองพันบินที่๑ กรมบิน ศูนย์การบินทหารบก นั้นก็เป็นการจัดหาที่ไม่มีถูกต้องตามขั้นตอน
ก็เห็นได้ชัดครับว่าสื่อมวลชนเหล่านี้มีวัตถุประสงค์แอบแฝงแท้จริงอย่างไรกันแน่ครับ