http://www.thaiarmedforce.com/83-taf-editorial/editorial/855-tafeditorial15
ผมเพิ่งเห็นและตั้งใจอ่านอย่างเมามัน
ใช้วิจารณญานกันเองนะครับ ส่วนตัวถือว่าเป็นข้อมูลใหม่ที่ทำให้เห็นเรื่องนี้ในอีกมุมมองหนึ่งครับ
ไม่ทราบว่าท่านโย ท่านปืน หรือท่านใดเป็นผู้เขียน ขอบคุณมากครับ
อ่านแล้วฮะ เหมือนกำลังเดินอยู่ในทุ่งดอกดาวเรืองเลย
ดูๆแล้วเหมือนเราเอาเปรียบจีนยังไงไม่ อีกนัยหนึ่งคิดว่า หนูก่อนจะโดนจับต้องมีเหยื่อมาล่อก่อน
เหมือนแบบจีนกำลังโดนหลอกยังไงยังงั้น ขออะไรพี่แกให้หมดขาดทุนก็ยอม(มันตรรกะไม่ได้อ่ะ) อะไรมันจะสวยงามขนาดนั้น
แต่ทั้งหมดก็อยู่บนพื้นฐานที่ว่าเจรจานะฮะ และไม่ได้เขียนไว้ในสัญญา แต่ท่าทีเหมือนจะบอกว่าเขียนลงไปแล้ว พอถามหาสัญญาบ่ายหน้าแล้วบอกว่าความลับ
คนฟังคงจะเชื่ออยู่หรอก ว่าแล้วก็ว่าคนไม่เชื่อคัดค้านไม่มีเหตุผล
ฃฃฃฃฃ
แล้วมุกกรรมการ 17 คนอ่ะ ยอมรับได้แล้วว่าตอนแรกๆโกหกว่าเป็นคนรุ่นใหม่ที่ใช้มุกนี้เพื่อให้คนหลงเชื่อ ปัจจุบันโป๊ะแตกกเ็ลิกอ้างได้แล้วมั้ง
ดูๆแล้วอยาก เบะปากไปทางซ้ายให้เป็นรูปตัว m
ช่วงนี้ติดงานวาดรูปไม่ค่อยได้ตามข่าว มีคำถามเล็ก ๆ น้อย ๆ ฝากเป็นการบ้านครับ ถ้ามีข้อมูลผิดแย้งได้นะครับ เพราะผมอ่านคร่าว ๆ เมื่อหลายวันก่อน
1 กองทัพเรือต้องการใช้เรือดำน้ำในการทำภารกิจอะไรกันแน่ และกองทัพเรือมีหลักการใช้อาวุธป้องกันประเทศแบบไหนกันแน่ ????
2 เรือดำน้ำสามารถยิงจรวดได้ไกลถึง 300 กิโลเมตร โดยใช้การเล็งยิงและควบคุมจาก ?????
3 ถ้าการเล็งยิงและควบคุมจรวดต้องใช้ดาวเทียมทางทหารของจีน แล้วถ้าบังเอิญเราจำเป็นจะต้องรบกับจีน เราจะสามารถใช้ดาวเทียมของเขาเพื่อเล็งยิงและควบคุมจรวดไปใส่เรือรบของเขาได้หรือไม่ ????
4 การแก้ไขใส่โน่นนั่นนี่เข้าไปในเรือ โดยเฉพาะระบบดาต้าลิงค์ที่จีนโยนให้เราทำ มั่นใจได้อย่างไรว่าจะสามารถใช้งานได้ ??? รวมทั้งระบบวิทยุจีนมันใช้สื่อสารกับเรือผิวน้ำเราได้ 100 เปอร์เซนต์ ???? ระบบสื่อสารระหว่างเรือผิวน้ำกับเรือใต้น้ำนี่งานโคตรหินเลยนะครับ
5 จากข้อมูลให้น้ำหนักไปที่ทุ่นระเบิด เรือดำน้ำสามารถนำมันไปวางที่ฐานทัพศัตรูตอนไหนก็ได้ เมื่อไหร่ก็ได้ นี่คือคำถามคาใจผมที่สุด
เราจะเอาเรือดำน้ำ (ที่วิ่งได้ช้ามาก และโคตรช้าถ้าใช้ AIP) ไปวางทุ่นระเบิดฐานทัพศัตรูโดยหายตัวไปเลยร่วม 10 วัน เพื่อพบว่าประเทศไทยถูกยึดไปแล้วอย่างนั้นหรือ ??????
ขณะที่เรือดำน้ำเราทำภารกิจสุดยิกอยู่นั่น กองเรือดำน้ำฝ่ายตรงข้ามได้รุกล้ำอธิปไตยและเข้าทำลายกองเรือไทย เรือลำนั้นจม เรือลำนี้จม เรือลำโน้นก็จม เปิดช่องเบ้อเริ่มให้ยกพลขึ้นบก ณ.จุดใดจุดหนึ่งของประเทศ จากนั้นก็ !@$^&()_%^& แล้วเรือดำน้ำมหาเทพในยูทูปของเราจะมีความหมายอะไรอีก หรือจะตั้งตนเป็นประเทศเสียเลยเลียนแบบการ์ตูนญี่ปุ่นเข้าไปสิ
6 ถ้ากองทัพเรือใช้เรือดำน้ำใช้ในภารกิจเชิงรุก ส่วนภารกิจตั้งรับใช้เฮลิคอปเตอร์ปราบเรือดำน้ำ เรือฟริเกต รวมทั้งเรือบรรทุกเฮลิคอปเตอร์จัดการได้ แล้วเราจะเสียเงิน 36,000 ล้านบาท เพื่อเขียนเสือให้วัวกลัวอย่างนั้นหรือ ???????
คหสต. อ่านแล้วอยากร้องไห้ เหมือนกองทัพเรือไม่มีจุดยืนซักนิดว่าจะเอาเรือมาทำอะไรกันแน่ อยากได้ไอ้โน่นไอ้นั่นไอ้นี่เพื่อขู่ฝ่ายตรงข้าม แต่ไม่ได้มองว่ารั้วตนเองมีช่องโหว่เบ้อเริ่ม เ้ป็นแนวความคิดจากยุคสงครามเย็นซึ่งทั่วโลกเขาเปลี่ยนไปหมดแล้ว
ก็ขอขอบคุณสำหรับบทความของ TAF ครับ..
ก็คงเป็นที่ชัดเจนว่า...ทร. ได้เรือดำน้ำ มาไม่ได้ตรงความต้องการแต่อย่างใด
ทร. ต้องปรับยุทธศาสตร์ ปรับยุทธวิธี เพื่อเข้าหา ฮาร์ดแวร์ คือ เรือดำน้ำ...
สิ่งที่ ทร.ได้ มันไม่ใช่ของแถม แต่อย่างใด จากข้อมูลในบทความดังกล่าว
ในเบื้องต้น ทร. ตั้งงบประมาณ 36,000 ล้านบาท ประกอบด้วย เรือดำน้ำ จำนวน 2 ลำ คือ 30,000 ล้านบาท และองค์ประกอบกองเรือดำน้ำอีก 6,000 ล้านบาท
แต่สิ่งที่ ทร. ได้ปัจจุบัน คือ เรือดำน้ำ จำนวน 3 ลำ มูลค่า 36,000 ล้านบาท ซึ่งหมายถึง งบประมาณองค์ประกอบกองเรือดำน้ำ มันเอาไปซื้อเรือดำน้ำ ลำที่ 3 แล้ว...ก็คงต้องหมายถึง ทร. ต้องตั้งงบประมาณขึ้นมาอีก 1 งบประมาณ...สำหรับ องค์ประกอบกองเรือดำน้ำ...
สำหรับรายการที่ ทร. ปรับเปลี่ยน เพื่อไม่ให้มัน ห่่วย เกินไป ในภายหลัง มันถึงส่งผลการปรับค่าเฉลี่ยของ งบประมาณ 12,000 ล้านบาท เป็น 13,500 ล้านบาท หรือปรับราคาเพิ่มอีก 12% หรือประมาณ 1,500 ล้านบาท ก็คงสิ่งที่บทความกล่าวถึงการปรับแก้แบบ นั่นแหล่ะ...ผมว่า คงไม่ใช่ว่า จีน ให้ความสำคัญความสัมพันธ์แต่อย่างใด...
เพราะ ไม่เห็นว่า ไทย จัดหา เรือดำน้ำ จาก จีน...แล้ว ประเทศเพือนบ้าน จะมองภาพ จีน ดีขึ้น อย่างไร ? กลับจะมองว่า จีน จับ ไทย คุกคามประเทศเพื่อบบ้านมากกว่าน่ะครับ...
แต่จากบทความ ก็ไม่ได้มีการบอกว่า...เรือดำน้ำแบบ S-26T มันเหมาะสมกับ ภูมิศาสตร์ในทะเลอ่าวไทย....
แค่บอกว่า มันใช้งาน แค่นั้นเอง...
ดังนั้น เรือดำน้ำจีน S-26T เกิดขึ้นมาจาก ความกลัวจะไม่ได้มี (จินตนาการ) ของ กองทัพเรือ เท่านั้น....
ขออนุญาต ท่านกัปตันนีโม โพสความเห็น ไว้ใน เพจ กัปตันนีโม
เพื่อเป็นข้อมูลในการพิจารณา ในการเปรียบเทียบ และให้คนอ่าน ใช้วิจารณญาณ ของตัวเองครับ
กัปตันนีโม ได้แชร์โพสต์ของ Military Geek
เพจ @Military Geek สรุปบทความเรื่องเรือดำน้ำ S26T ของ ThaiArmedForce.com ครับ ข้อมูลชุดนี้ถือว่าดีขึ้นมาหน่อยตรงที่ยอมรับความจริงว่าเรือดำน้ำจีนด้อยกว่าเรือดำน้ำแบบอื่น แต่เป็นใบสั่งจากระดับสูงที่เลี่ยงไม่ได้ จนต้องเจรจาเพิ่มเติมภายหลังเพื่อชดเชยความด้อยคุณภาพ อย่างไรก็ดี แหล่งข่าว ทร. ก็ยังเล่นมุกเดิมนะครับ คือยกแต่ข้อเสียของเรือดำน้ำแบบอื่น เลี่ยงการพูดถึงข้อดี แถมข้อข้อมูลบางอย่างก็โดนบิดเบือนไปจากข้อเท็จจริง
มีประเด็นแย้งดังนี้ครับ
3. ต้องบอกว่าประเทศอื่น "ไม่แถม" ทุ่นระเบิด ไม่ใช่ "ไม่ขาย" เพราะหลายประเทศมีข้อมูลทุ่นระเบิดมาให้ด้วยแต่ระบุว่าเป็นออปชั่นเสริม
5. ทร.ส่งนายทหารไปฝึกกับเยอรมันและเกาหลี แต่เลือกเรือดำน้ำจีน โดยเมื่อปี 58 มีความพยายามจะโยนความรับผิดชอบว่าคนกลุ่มที่ไปเรียนเป็นผู้เลือกเรือดำน้ำจีนมาเองเพื่อให้ดูความน่าเชื่อถือ แต่ไม่เป็นความจริง เพราะว่าจากจำนวนคนที่ไปเรียนเกือบ 30 คน มีคนที่มีอำนาจหน้าที่ในการคัดเลือกเแบบเรือดำน้ำพียง 1 คนเท่านั้น
6. มีความพยายามจาก กห. ให้ ทร.ใช้เรือดำน้ำจีน แต่ ทร.กลับเปิดคัดเลือกและเชิญประเทศอื่นมาเสนอโครงการด้วย ซึ่งสุดท้ายก็พบว่าข้อเสนอของจีนยังด้อยกว่า จึงได้มีการเจรจาขอให้เพิ่มข้อเสนอในภายหลัง หรือเรียกง่ายๆ ว่าจัดฉากฮั้วนั่นเอง ซึ่งผิดระเบียบการพัสดุและเป็นการเอาประเทศอื่นมาอ้างเพื่อสร้างความชอบธรรม แต่ในระยะยาวจะเกิดความเสียหายกับความน่าเชื่อถือของ ทร.มากกว่า
9. ระบบ AIP ไม่ได้กำหนดไว้ในความต้องการ แต่ "แหล่งข่าว" พูดเหมือนกับว่าจีนเสนอ AIP มาเพียงประเทศเดียวเพราะเรือยุโรปติด AIP จะแพงเกินไป แต่ในความเป็นจริงมีเรือดำน้ำยุโรปที่เสนอ AIP มาด้วยและอยู่ในวงเงินตามกรอบที่กำหนด แต่ทั้ง ทร. และ "แหล่งข่าว" จงใจเลี่ยงไม่พูดถึง
10. คงต้องถาม "แหล่งข่าว" ว่าตอนที่ไปเยี่ยมชมเรือดำน้ำชั้นหยวนที่ฐานทัพเรือ Ningbo มีเรือดำน้ำชั้นหยวนจอดอยู่กี่ลำ และได้ขึ้นไปชมกี่ลำ ทร.จีนเรียกเรือดำน้ำกลับจากการลาดตระเวน 5-6 ลำเพื่อให้คณะ ทร.เยี่ยมชมเพียงลำเดียว สมเหตุสมผลหรือไม่ หรือเป็นเพียงนิทานโลกสวยเพื่อสร้างภาพความ "จริงใจ"
11. แพคเกจแรกของจีนยังด้อยกว่าหลายประเทศ แต่ก็เลือกเข้ามาและเจรจาขอเพิ่มทีหลัง (ย้อนกลับไปดูข้อ 6.)
12. ทร.ไทยส่งนักเรียนนายเรือไปเรียนที่จีนแล้วตั้งแต่ก่อนการซื้อเรือดำน้ำ "แหล่งข่าว" เอาโครงการอื่นที่มีอยู่แล้วมาเหมารวมกับการถ่ายทอดเทคโนโลยีเพื่อสร้างภาพหรือไม่?
13. การรับประกันอะไหล่ 8 ปี เป็นการรับประกันความบกพร่องจากการผลิต แต่ไม่รวมการเปลี่ยนอะไหล่ตามวงรอบซ่อมบำรุง ซึ่ง ทร.และ "แหล่งข่าว" ก็ยังพยายามบิดเบือนให้ดูดีเกินจริงต่อไป
14. ปัญหาความด้อยคุณภาพเของรือผิวน้ำจีนรุ่นส่งออกที่ผ่านมา ไม่ใช่เพราะ ทร.ไม่ควบคุมคุณภาพ แต่เป็นเพราะไม่สามารถควบคุมได้ ขนาดกระบวนกันจัดซื้อยังมีใบสั่งที่ไม่ ทร.ไม่สามารถโต้แย้งได้ แล้วเหตุใดจึงคิดว่าคณะกรรมการตรวจการจ้างของ ทร.จะควบคุมอะไรได้ สุดท้ายก็คงเป็นเหมือนที่ผ่านมา คือคณะกรรมการไม่เซ็นรับ แต่ ทร.ก็ยังรับอยู่ดี
จาก บทความ และจากการให้สัมภาษณ์ ของ กองทัพเรือ เรื่อง การวางแนวยุทธศาสตร์ ไปถึง ทะเลจีนใต้
ถ้าฟังดู ก็ดูจะไปปฏิบัติภาระกิจทางไกล...ในตอนแรก ผมก็มองภาพว่า มันคงอยู่แถวแนว หมู่เกาะ ข้อพิพาท...
แต่เมื่อดูแผ่นที่ในทะเลแล้ว...เมื่อเราก้าวข้ามจากเส้นแบ่งอ่าวไทยไป...มันก็คือ ทะเลจีนใต้ นั้นเอง...
แล้วถ้า ทร. จะแล่นเรือไป ฝั่งอันดามัน หรือไปปฏิบัติการที่ อ่าวเอเดน ก็ต้องผ่านทะเลจีนใต้ไปช่องแคบมะระกา นั่นเอง...
มันก็เส้นทางเดินเรือปกติ นี่น่า...มันมีอะไรที่มียุทธศาสตร์ มากกว่า ปกติ เหรอครับ...
สิ่งที่ บทความ ได้นำเสนอข้อมูล ก็เป็นเรื่อง การปรับระบบ เรือดำน้ำ ให้ดีขึ้น เพื่อจะได้ยอมรับว่า เรือดำน้ำ มันมีระบบที่ ครบ 3 มิติ...
แต่สิ่งที่ไม่เคยมีข้อมูลเลยว่า เรือดำน้ำ S-26T มันคุณสมบัติเหมาะกับ อ่าวไทย...
1. ความลึกของพื้นผิวทะเล มีท้องทะเลคล้ายแอ่งกะทะ ส่วนที่ลึกที่สุดของอ่าวไทยมีความลึกประมาณ 80 เมตร บริเวณร่องน้ำลึกกลางอ่าว มีความลึกมากกว่า 50 เมตร และยาวเข้าไปจนถึงแนวระหว่างเกาะช้าง จังหวัดตราด กับ อำเภอบางสะพานใหญ่ จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ส่วนก้นอ่าว คือ อ่าวไทยตอนบนหรืออ่าวไทยรูปตัว “ก” มีรูปร่างสี่เหลี่ยมผืนผ้าขนาดประมาณ 100x100 ตารางกิโลเมตร อ่าวไทยตอนบนมีความลึกสูงสุดประมาณ 40 เมตร ทางฝั่งขวาของอ่าวส่วนฝั่งซ้ายจะตื้นเขินกว่าความลึกเฉลี่ยในอ่าวไทยตอนบนประมาณ 15 เมตร โดยอ่าวไทยถูกกั้นออกจากทะเลจีนใต้ด้วยสัน-เขาใต้น้ำ 2 แนวทางฝั่งซ้ายและขวาของอ่าวสันเขาใต้น้ำฝั่งซ้ายมีความลึกประมาณ 50 เมตร เป็นแนวยาวจากโกตา-บารู (ร่องน้ำโกลก) ไปทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือประมาณ 160 กิโลเมตร ทางฝั่งขวามีความลึกประมาณ 25 เมตร เป็นแนวยาวจากแหลมคาเมาไปทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ประมาณ 100 กิโลเมตร และในบริเวณร่องน้ำลึกมีชั้นแนวตั้งของเปลือกโลก (sill) ณ ที่ความลึกประมาณ 67 เมตร กั้นอยู่ซึ่งจะเป็นเสมือนตัวควบคุมการไหลของน้ำระดับล่างในอ่าวไทย
จากสภาพของอ่าวไทย....การที่ เรือดำน้ำไทย จะเข้าปฏิบัติการใน ทะเลจีนใต้...ด้วยข้อมูลข้างต้น...ในความเห็น ระดับ พลเรือน...
เรือดำน้ำไทย คงจะปฏิบัติการดำ ที่แนวฝั่งซ้ายของอ่าวไทย หรือ ฝั่งระดับทะเลน้ำตื้น เพราะแนวฝั่งขวา จะถูกกั้นด้วย ส้นเขาใต้น้ำที่ระดับความลึกเพียง 25 เมตร เท่านั้น...ซึ่งหมายถึง การต้องเปิดเผยตัวของ เรือดำน้ำ....
ด้วยระดับมองภาพแบบ พลเรือน ในแง่ยุทธศาสตร์ ถ้า ทร. ไทย จะใช้ S-26T ที่ระวางดำใต้น้ำ 3,200 - 3,600 ตัน ปฏิบัติการในทะเลจีนใต้ แบบปกปิด...ผมว่า ก็พอน่าจะมองออกได้ คร่าว ๆ ว่า...จะสังเกตุการปฏิบัติการของเรือดำน้ำ ในบริเวณฝั่งซ้าย ่ค่อนไปทางร่องกลางของอ่าวไทย...ซึ่งใน ฐานะ พลเรือน กลับจะมองว่า เป็นมันข้อจำกัดมาก ๆ...ของ S-26T เรื่องความเหมาะสมกับ อ่าวไทย...
เข้าใจว่าสมาชิกหลายท่านเป็นofficer หลายท่านทราบข้อมูลดีกว่าประชาชนทั่วไป บางท่านบอกว่ามีการต่อรองทำให้ได้ดีลที่ดีกว่าเดิม แต่รายละเอียดเปิดเผยไม่ได้ มาวันนี้มีประชาชนทั่วไปเอารายละเอียดที่ว่ามาเปิดเผยแล้ว ก็ยังมีต่อไปอีกว่ารายละเอียดลึกกว่านี้เปิดเผยไม่ได้
ละเหี่ยใจครับ กับความคิดของคนรุ่นใหม่ ยิ่งละเหี่ยใจมากขึ้นเมื่อมีคนชอบของแถม เชื่อไหมว่า...ผมเจอทหารเรือแค่คนเดียวที่เรียกร้องให้มีการจัดหาแบบอารยประเทศ นั่นก็คือท่านกัปตันนีโม
ตัวผมเองและสมาชิกหลายท่านรวมทั้งท่านจูดาส พวกเราไม่มีใครมีข้อมูลทหารเรือบนมือเลย ที่คุยกันอยู่อ้างอิงจากข้อมูลทั่วไปที่หาได้จากทั่วโลก งัดเอาข้อมูลมาตบหน้าพวกผมสิครับ.....ว่า you คิดผิดนะ เรือที่ i จะเอามาเหมาะสมที่สุดแล้ว และมีการจัดหาที่ถูกต้องที่สุดแล้ว
อย่าพูดเลยครับว่ามีข้อมูลแต่เปิดเผยไม่ได้ ถ้าเป็นผมจะอยู่เงียบ ๆ ไปดีกว่า
ตัวเรือดำน้ำเองจัดเป็นอาวุธที่น่ากลัวมากจนมีหลายฝ่ายไม่ต้องการให้ไทยมีไว้ใช้งาน(...ก็คิดว่านะ)
จากที่ได้ศึกษาประวัติศาสตร์การใช้กำลังเรือดำน้ำของประเทศต่างๆตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน ดูเหมือนไม่มีประเทศใดใช้เรือดำน้ำปฏิบัติงานแบบเดียวกับเรือตรวจการณ์ที่ลาดตระเวนเฉพาะในน่านน้ำทะเลอาณาเขตของตน
ในสมัยสงครามโลกครั้งที่๒ ซึ่งยุคนั้นเรือดำน้ำยังมีสมรรถนะยังเป็นกึ่งๆเรือผิวน้ำอยู่ คงต้องยกตัวอย่างเรือ U-Boots Type VII เยอรมนีที่ระวางขับน้ำแค่ 770tons แต่เป็นม้าใช้ที่ออกลาดตระเวนได้ทั่วมหาสมุทรแอตแลนติก
เฉพาะกองทัพเรือไทยเองก็มีบันทึกไว้อยู่ว่า เรือดำน้ำชุด ร.ล.มัจฉาณุ ทั้ง ๔ลำ ซึ่งเป็นเป็นเพียงเรือดำน้ำรักษาฝั่งขนาดเล็กเพียง 370tons ในสงครามไทย-ฝรั่งเศส เรือดำน้ำไทยก็ได้เคยถูกส่งไปปฏิบัติการถึงหน้าฐานทัพเรือเรียมของอินโดจีนฝรั่งเศสมาแล้ว
กล่าวคือกองทัพเรือไทยคงจะไม่ใช้เรือดำน้ำปฏิบัติในอ่าวไทยชั้นในแบบเดียวกับเรือตรวจการณ์หรอกครับ
การจะบอกว่าเรือดำน้ำไม่ว่าจะแบบใดๆก็ไม่เหมาะกับอ่าวไทยทั้งนั้น น่าจะเป็นคำกล่าวที่มีจุดประสงค์เพื่อต้องการไม่ให้กองทัพเรือไทยมีเรือดำน้ำเลยแม้แต่ลำเดียวตลอดไปเสียมากกว่า
ดูตัวอย่างเรือดำน้ำชั้น Kilo ที่รัสเซียใช้ในกองเรือ Baltic ที่มีภูมิศาสตร์ใกล้เคียงกับอ่าวไทย นั่นก็มีมิติขนาดเรือไม่ได้ต่างจาก S26T เท่าไร แถมไม่มี AIP ด้วย
ก็อย่างที่เห็นจากข่าวว่าสวีเดนและฟินแลนด์ซึ่งเป็นประเทศเป็นกลางถูกเรือดำน้ำไม่ปรากฎสัญชาติรุกล้ำน่านน้ำ(ซึ่งน่าจะเป็นเรือดำน้ำรัสเซีย)แต่ก็ทำอะไรไม่ได้มาก
ถ้าใช้เรือดำน้ำทำงานแบบเดียวกับเรือตรวจการณ์ก็อย่าไปจัดหามาเลยไม่เปลือง ซึ่งมีหลายประเทศที่เคยมีเรือดำน้ำมาก่อนแต่ปัจจุบันไม่มีการจัดหาเรือดำน้ำมาประจำการแล้วก็น่าจะมีแนวคิดแบบนี้
และที่สำคัญให้ได้เรือดำน้ำมาใช้จริงก่อนเถอะ จะได้ทราบว่าเรือเราทำได้หรือไม่ได้ตามที่ว่ามากันแน่ เพราะมีเรือเราก็ได้ใช้งานแน่
ถึงใช้ไปจะมีปัญหาเหมือนเรือจีนที่จัดหามาในอดีต เช่น เรือฟริเกตชุด ร.ล.เจ้าพระยา ชุดเรือนเรศวร เรือตรวจการณ์ไกลฝั่งชุด ร.ล.ปัตตานี ที่มีปัญหารายงานอยู่ แต่ทุกลำในชุดก็ยังคงประจำการมาเป็นสิบปีแล้ว
แต่เกรงว่าสุดท้ายก็ไม่ได้เรือดำน้ำมาใช้อยู่ดี เหมือนทุกครั้งในอดีตที่ผ่านมา ซึ่งถ้าไม่มีเรือก็คงจะทำอะไรไม่ได้เหมือนเดิมต่อไปครับ
อาวุธปล่อยนำวิถีต่อต้านเรือผิวน้ำที่มีขีดความสามารถโจมตีเป้าหมายชายฝั่งได้นั้น
นอกจากระบบนำวิถีหลักคือ Active Radar Homing แล้ว ระบบนำร่องที่ถูกเพิ่มเข้าไปคือ Satellite Navigation/Inertial Navigation System
ซึ่งในส่วนระบบนำวิถีดาวเทียมเช่น GPS ของสหรัฐฯ, GLONASS รัสเซีย และ BeiDou จีนนั้น ในสถานการณ์สงครามสามารถถูกรบกวนหรือถูกตัดสัญญาณได้
ดังนั้นในกรณีดังกล่าวอาวุธปล่อยนำวิถีจะเปลี่ยนไปใช้ระบบนำร่องเป็น INS แทนซึ่งยากต่อการถูกก่อกวนจากภายนอกครับ
สรุป 1 ต่อ 1 ประสิทธิภาพสู้เรือดำน้ำเพื่อนบ้านไม่ได้ เลยต้องเอาจำนวนมาสู้ในการเสนอขาย
เรือดํานํ้าจีน ระยะการเดินทาง 8000ไมล์ทะเลเท่ากับ 15000 กิโลเมตร โชคดี google map มีเครื่องมือวัดระยะทางด้วยเลยสะดวกมาก เรือดํานํ้ามันออกแบบให้ปฏิบัติการระยะใกลแบบซ่อนพรางอยู่แล้ว ในบทความบอกว่าเรือดํานํ้าจีนที่ไทยจะซื้อ ปฏิบัติการจากฝั่งอันดามันถึงอ่าวเอเดน หรือในอ่าวไทยไปถึงทะเลจีนใต้ได้ดังนั้น ผมเลยเอาการวัดระยะมาให้ชม
ในบทความบอกว่าปฏิบัติการได้ถึงอ่าวเอเดน ผมเลยวัดระยะจากฐานทัพเรือพังงาไปถึงอ่าวเอเดนและกลับมาที่ฐานพังงา
และฝั่งอ่าวไทยจากฐานทัพเรือสัตหีบไปแปซิฟิกกลับฐานทัพเรือสัตหีบ
เน้นปฏิบัติการในทะเลจีนใต้เพื่อสกัดข้าศึกไม่ให้มาปิดล้อมอ่าวไทยได้
ออกลาดตระเวนในฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย
ออกลาดตระเวนฝั่งอันดามัน
ความหมาย ข่องท่าน superboy ก็คง หมายถึง ถ้าเราจัดหา เรือดำน้ำ ที่ไม่สามารถจะปฏิบัติการในอ่าวประเทศตัวเองได้ดี แต่ชาวบ้าน เขามีเรือดำน้ำ ที่สามารถปฏิบัติในอ่าวได้ดีกว่า ก็อย่าซื้อมาดีกว่าครับ...ผมเข้าใจอย่างนั้นนะ...และผมก็มองอย่างนั้นด้วย...
และก็ตามที่ว่าแหล่ะ เรือดำน้ำขนาดเล็กในอดีตของไทย สามารถไปฏิบัติการได้ไกล ก็ดีนี่ครับ...แล้วจะหา ขนาดใหญ่ ไปทำไม ?
ความสิ้นเปลือง มันกี่เท่า เมื่อเทียบกับเรือดำน้ำขนาดเล็ก ?
และก็อย่าเพิ่งภูมิใจในอดีต ที่เขาตรวจจับ เรือดำนำไทย ไม่ได้....เพราะ สมัยนั้น มีอยู่ประเทศเดียวที่มี....แต่ในขณะเดียวกัน...ประเทศ ฝรั่งเศส ยกกองเรือผิวน้ำ มากองเบ้อเริ้ม...ไทย เอง ยังจับไม่ได้เลยครับ...จนเขามาถึงแถวเกาะช้างนั่นแหล่ะ...มันก็คือ เทคโนโลยี่ สมัยนั้น มันไม่มีใครจับใครได้ หรอกครับ...มันสู้กันที่ การประจัญหน้ากัน แค่ระยะสายตา...
แล้วเทคโนโลนี่ สมัยนี้ มันไม่เหมือนสมัยโบราณ มันเห็นเรือกันตั้งแต่อยู่ใน อากาศ...
ส่วนเรื่องการจัดซื้อจัดจ้าง
วันที่ 29 พ.ค. 58 กองทัพเรือประกาศให้ยื่นแบบเรือดำน้ำ
วันที่ 15 มิ.ย. 58 คณะกรรมการรายงานผลแบบเรือดำน้ำ
ใช้เวลาเพียง 2 อาทิตย์
แล้ววันที่ 2 ก.ค. 58 กองทัพเรือแจ้งสื่อมวลชน คือ เรือดำน้ำจีน
นั่นคือ ความหมายที่ ท่านกัปตันนีโม ว่าเรื่องการจัดจ้าง ที่คุณสมบัติด้อยกว่าทุกแบบ แล้วมาแก้ไขแบบในภายหลัง ไงล่ะครับ...
ส่วนเรื่องระยะทางการปฏิบัติเรือดำน้ำของท่าน bok01 นั้น อย่าลืมเอาความเร็วเรือต่อชั่วโมงที่ระยะ 8,000 ไมล์ และระยะวันปฏิบัติงานของเรือดำน้ำมาใช้ด้วยนะครับ
เช่น เรือมีระยะทาง 8,000 ที่ความเร็ว 3 นอต หมายถึง ความเร็วที่ 1.8 ก.ม. ต่อ ชั่วโมง ( 1 นอต ) เมื่อเรือใช้ความเร็ว 3 นอต เรือจะวิ่งได้ 5.4 ก.ม. ต่อ ชั่วโมง ใน 1 วัน เรือจะวิ่งได้ระยะทาง 129.6 ก.ม. โดยไม่หยุดพัก และเรือมีระยะเวลาปฏิบัติในทะเลได้สูงสุด 65 วัน ต่อ 1 รอบ โดยไม่ได้รับการสนับสนุน ดังนั้น เรือจะมีระยะทางเดินทางได้ 8,242 ก.ม. เมื่อหาร 2 คือ การเดินทางไป เดินทางกลับ ระยะปฏิบัติการจะอยู่ไกลสุดอยู่ที่ ุ4,121 ก.ม. นั่นหมายถึง การเดินเรือ 65 วันโดยไม่หยุดพักแม้แต่ วินาที เดียว....
เออ ตอนนี้ เหมือนว่า สหรัฐ เกาหลีเหนือ จ่อจะรบแล้ว ผมว่าอาจคิดดีนะที่สร้างเรือดํานํ้า ที่จีนเพราะเกาหลีใต้มันฟ้อๆจะเกิดสงคราม เหอๆ เสียวเรือหลวงท่าจีนอีกแล้ว
ในเมื่อสัญญานแรงขนาดนั้น เพื่อความอยู่รอด ..จัดมา . ทร. อย่าลืมเปิดให้ประชาชนเข้าชมด้วยล่ะกัน มีตั้ง 3 ลำ เก็บคนละ 100-200 ก็ได้ จะได้มีทุน
.
"ทางฝ่ายจีนเสนอเรือให้ถึง 3 ลำ เพราะทางจีนเองก็ทราบดีว่า ถ้าเทียบตัวต่อตัวนั้น เรือดำน้ำจีนไม่สามารถสู้กับเรืออื่นได้ โดยเฉพาะเรือจากทางยุโรป การจะให้ได้เปรียบต้องสู้ด้วยจำนวนที่มากกว่า คือ สู้ด้วยคุณภาพไม่ได้ ต้องสู้ด้วยปริมาณ อย่างเรือดำน้ำจากจีนมีความพร้อมใช้งาน โดยเฉลี่ยที่ 80% เรือจากยุโรป 90% ถ้ามีเรือจากจีนเพียง 2 ลำ จะไม่พร้อมรบเต็มอัตรา จึงต้องมี 3 ลำ และการมีเรือ 3 ลำ ทำให้กองทัพเรือสามารถมีเรือเพียงพอจะหมุนเวียนในพื้นที่ปฏิบัติการที่ต้องการได้ต่อเนื่อง มีการป้องปรามได้ตลอดเวลา จำนวน 3 ลำ จึงเป็นจำนวนที่เพียงพอ"
เป็นบทความที่ประชดประชันเสียจริงๆ ยุคนี้กองทัพไทยเราเน้นปริมาณ แทนคุณภาพไปเสียแล้วหรือ
"กรณีนี้ก็พบว่าจีนก็ไม่ได้เลวร้ายอย่างที่คิด เรือและอาวุธถ้าทำได้ตามคุณลักษณะที่เจรจาตกลงกันไว้ ก็ถือว่าไม่ด้อยกว่าเรือจากตะวันตกเท่าไหร่ ที่สำคัญระบบอาวุธที่ทางจีนเสนอมานั้นมาครบทั้ง 3 ชนิด อาวุธจะแม่นหรือไม่แม่นก็เป็นอีกประเด็นหนึ่ง แต่ประเทศที่เป็นภัยคุกคามเป็นฝ่ายตรงข้าม เวลาประเมินฝ่ายเรา เขาจะต้องประเมินกรณีที่เลวร้ายที่สุดเอาไว้ก่อน เช่น ระยะยิงอาวุธฝ่ายเรา เขาก็ต้องคิดว่ามันยิงได้ไกลสุดเท่านี้ แม้ว่าที่จริงอาจจะยิงได้ไม่ไกลเท่านั้นก็ตาม ดังนั้นมันก็จะทำให้เกิดความยับยั้งชั่งใจและนำไปสู่การหลีกเลี่ยงความขัดแย้ง การจัดซื้อครั้งนี้จึงไม่ได้มองแค่เพียงเหตุผลทางยุทธวิธีเท่านั้น แต่เราต้องมองเหตุผลทางยุทธศาสตร์ด้วย กองทัพเรือต้องไม่คิดแต่เพียงประเด็นเชิงยุทธวิธีอย่างเดียว ซึ่งเมื่อมองรอบด้านแบบนี้ก็จะพบว่าเรือดำน้ำแบบ S26T แม้ไม่ใช่ตัวเลือกที่ดีที่สุด แต่ถือว่าเป็นตัวเลือกที่เหมาะสมที่สุด ทำให้ได้รับสิ่งที่เหมาะสมทุก ๆ ด้านทั้งต่อกองทัพเรือและประเทศ ส่วนปัญหาที่อาจจะต้องพบ ก็เป็นหน้าที่ของกองทัพเรือที่จะต้องทำงานเพื่อป้องกันและแก้ไขให้สุดความสามารถ กระทำการอย่างซื่อสัตย์ เพื่อผลประโยชน์ของประชาชนชาวไทยผู้เสียภาษีทุกคน"
ถถถถ....คิดได้เนอะ ซื้ออาวุธมาขู่ชาวบ้านเฉยๆ ว่าข้าก็มีเรือดำน้ำเหมือนกัน เฮ้อ.......
ผมก็ยังเชื่อ เหมือนเดิมว่า ไม่ว่าไทยจะซื้อเรือ ส. จากประเทศไหน ก็ไม่มีทางได้ประจำการ
ก็เหมือนคลองคอดกะ ที่อยากได้ใจจะขาดก็ไม่มีทางเกิด
#มือที่มองไม่เห็นมันมีอยู่จริง
ตลอดหลายปีมานี้. ได้่อ่านไแ้ฟัง เรื่องเรือดำน้ำ. มาตลอด ส่วนใหญ่จะคัดค้าน. อ้างเหตุผลต่างๆมากมาย. ทั้งมีสาระ และไร้สาระ
แต่ทุกคน. ล้วนแล้วไม่มีใครรู้จริง....ไม่ว่าจะอ้างแหล่งข่าวที่น่าเ่ชื่อถือแค้ไหน. ตัวแหล่งข่าวเองก็ไม่ใช้ผู้รู้จริง.
ถึงแม้สิ่งที่ทุกคนพยายามอ้าง. กูรู คนโน้นคนนี้บ้าง เพื่อให้ความคิดเห็นของตนดูมีหลักการน่าเชื่อถือ. แต่คนเหล่านั้นก็ไม่ใช้ผู้รู้จริงอยู่ดี
อาจเพียงแค่อุปโลกน์ตัวเองขึ้นมาเท่านั้น
เราต้ งยอมรับว่า. เรื่องยุทธศาสตร์ใต้น้ำ. ควรเริ่มที่ยุคเราไแ้แล้ว ...
สังคมไทยมีบทเรียนจากในอดีตมากมาย. แต่ไม่เคยคิดจะนำมาศึกษาแล้ววางแผนเป็นขั้นเป็นตอนเพื่อก้าวเดิน
แต่ชอบทำอะไรตามกระแสกลัวตกรถไฟ.
ครั้งหนึ่ง. เราเคยต่อต้านรถไฟฟ้า กันจนทำให้โครงเหล่านี้. ต้องล่าช้าไปถึง 40 ปี แต่ปัจจุบัน เราบอกว่ามันจำเป็นสำหรับวิถีชีวิตคนเมือง
ไม่เข้าใจจริงๆ
^^^^^^
...........สังคมไทยมีบทเรียนจากในอดีตมากมาย. ...................
นั้นล่ะฮะผมถึงเป็นคนหนึ่งที่คัดค้าน
ควรจะเริ่มทำความเข้าใจว่า จีที 200 มันใช้งานได้จริงและไม่มีการทุจริตในการจัดซื้อได้แล้วนะครับ เพราะในนี้ไม่มีใครรู้ข้อมูลจริงๆ ฮ่าๆๆ
*** สุดยอดคลาสสิค ในการอ้างถึงคนที่ไม่เห็นด้วยเลย แถมอีกอันครับ พวกคุณไม่รักชาติหรอ ถึงค้านกันอยู่ได้ ฮ่าๆๆ***
ถ้าอ่านหนังสือเกิน 3 บรรทัดผมว่า ในนี้เขาค้านกันเรื่อง คุณภาพ ราคา และความโปร่งใสนะขอรับเจ้านาย...ขำๆ กันไปครับ
นั่นน่ะสิ ไม่เห็นมีใครในนี้บอกว่าไม่อยากมีเรือดำน้ำ อ่านๆดูไม่มีใครคัดค้านเรื่องการมีเรือดำน้ำ แต่เขาคัดค้านกันเรื่องอื่นต่างหาก...
จะอ้างเหตุผลอะไรก็แล้วแต่วัตถุประสงค์ มันก็ชัดเจน ว่าอยากให้ล้มเลิกโครงการ
...สิ่งที่ประเทศได้รับ มันเสียหายมากกว่า.. เราจะมีเรือดำน้ำที่ไม่ถูกใจใครบางคน..
อาจจะโลเทคโนโลยี่ ในความคิดเห็นใครบางคน.. มันอาจปฏิบัติการ ไม่ดีกว่า เรือดำน้ำ ของใครบางคน
.... แต่สิ่งหนึ่งที่ เราจะได้รับ ก็คือ การปฏิบัติการจริง กับเรือดำน้ำ จริงๆ และ การปฏิบัติการจริงในสงครามใต้น้ำแบบจริงๆ
เราลืมไปอีก มิติหนึ่งหรือเปล่า ว่า การที่มีเรือดำน้ำ แล้ว มันต้องใช้เวลา อีก 10- 20 ปี กว่า เจ้าหน้าที่ของเรา จะสามารถ ปฏิบัติการรบใต้น้ำ ได้ จริงๆ
......... จะต้องให้รอ ถึง ... เมื่อไร ครับ
....... การที่เราออกมาคัดต้าน กันมาก ทำให้ เรา ต้อง เชิญ เรือดำน้ำ ต่างชาติ เข้ามา ในน่านน้ำไทย เพื่อให้เกิดความมั่นใจ ว่ามันดำได้ แต่ คิดกลับกันว่า ถ้า ประเทศเหล่า น้ัน เป็นคู่สงคราม กับเราในอนาคต ท่านว่า การที่เค้ามีโอกาสได้เข้ามาในน่านน้ำไทย เค้า ได้อะไร กลับไปมากกว่า ที่พวกเรา คิดแน่นอน แต่ในทางกลับกัน เรา กลับไม่เคยเลยแม้จะดำลงไปดูว่าเส้นทางใต้น้ำ จุด หลบซ่อน เส้นทางปฏิบัติการใต้น้ำ เหล่านี้ ถูกเก็บข้อมูลไว้่หมด จากเรือดำนำต่างชาติที่เข้ามา ซ้อมรบ หรือ มาเชื่อมสัมพันธ์ไมตรี กับเรา
.... อยากให้คิดถึง เงือนเรื่องเวลาด้วยครับ อย่าคิดแต่เพียงว่า เรือดำน้ำรุ่นโน้นรุ่นนี้ มันไม่ดี กว่า รุ่นนั้น
อย่าลืมว่า เกาหลี เหนือ เคยใช้ เรือดำน้ำ รุ่น ที่ โลเทคโนโลยี่ ที่สุด จม เรือ พิฆาต ของเกาหลีใต้ ที่มีอุปกรณ์ ที่ทันสมัย ในสมัยน้ัน มาแล้ว.. นี้ เกิดขึ้น ได้ เพราะ ความสามารถของผู้ปฏิบัติการที่มีขีดความสามารถสูง ไม่ใช้่จะมองแต่แค่ตัวเรืออย่างเดียว
จบ...
ไม่ใช่อย่างนั้นสิครับ
การใช้จ่ายเงินของชาติ จำเป็นต้องพิจารณาความเหมาะสมและคุ้มค่าครับ จะอ้างว่า ถ้าไม่มีมันจะแย่ ดังนั้น ต้องรีบมี มันก็ไม่ถูก ลองคิดถึงว่า ถ้าเป็นเงินเราสิครับ สมมุติว่า บุตรหลานท่านต้องการรถสำหรับ (วัตถุประสงค์ของการซื้อ) เพื่อ ขับไปซื้อของที่ปากซอย และซอยบ้านท่านกว้าง 3 เมตร แต่ลูกท่านขอซื้อ Big Bike คันใหญ่ โดยอ้างว่า เขาจัดโปรโมชั่น ซื้อ 1 คัน แถม 1 คัน พอท่านแย้งว่า ถ้าจะไปซื้อของปากซอย ทำไมต้อง Big Bike มันใหญ่ไป ไม่คุ้มค่า ซื้อสกูตเตอร์ หรือจักรยาน ไม่ดีกว่าเหรอ ลูกท่านก็แย้งกลับมาว่า ไม่รักลูกหรือไง กว่าจะขี่ Big Bike ได้มันต้องใช้เวลานาน ซื้อวันนี้ กว่าจะหัดขี่ได้ ต้องใช้เวลาอีกหลายสัปดาห์ และ Big Bike เนี่ย สามารถขับไปได้ถึงเชียงรายเชียวนะ ที่สำคัญ รุ่นนี้มีระบบ GPS ในตัว ซึ่งมอเตอร์ไซด์ทั่วไปไม่มี และ ถ้าไม่ซื้อตอนนี้ เดี๋ยวหมดโปรไม่รู้ด้วย
ถ้าท่านเป็นเจ้าของเงิน กรณีเช่นนี้ ท่านจะอนุมัติวงเงินให้ลูกหรือไม่หละครับ
ไม่แน่ใจว่าการต่อรองขั้นสุดท้าย ทางทร.ได้รับทุ่นระเบิดกับจรวดต่อต้านเรือผิวน้ำมาจริงหรือไม่ ถ้าได้ก็ถือว่าเป็นดีลที่ยอมรับได้ เพราะจะได้ใช้ภาระกิจได้มากกว่าแค่ลาดตระเวน ซึ่งทำให้ทร.เพิ่มขีดความสามารถในการควบคุมหรือปฎิเสธการใช้ทะเลได้ด้วย ก็ถือว่าทำให้เราวางกล้ามได้มากขึ้นด้วย
คุณ pornpoj ครับ เข้าใจเสียใหม่ครับ ในที่นี้ส่วนใหญ่ผู้คนเค้าก็อยากจะให้ ทร. มีเรือ ด. ไว้ใช้งานกันทั้งนั้นครับ ไม่รู้ว่าท่านไปเอามาจากไหนว่าใครอยากจะล้มโครงการเรือ ด. ของ ทร.
ยกเว้นที่เค้าคุยกันถกกันอยู่ ก็เฉพาะประเด็นความเหมาะสมในการจัดซื้อว่ามันถูกล๊อคให้ซื้อเรือจีน ซึ่งมันไม่ถูกต้องสง่างาม ผู้คนอาจคิดได้ว่าอาจมีทุจริตในการจัดซื้อได้ เฉพาะประเด็นนี้ครับ
ราคาตอนซื้อ ค่าบำรุงรักษาตลอดอายุการใช้งาน อายุสั้น สมรรถนะในการใช้งาน ฯลฯ ล้วนแล้วแต่ด้อยกว่าเรือคู่เปรียบอื่นๆ ไม่ได้ช่วยทำให้โครการเรือ ด. จีน ดูดีขึ้นเลย
คราวเรือ อู-206เอ ทั้งๆ ที่เป็นเรือเก่าใช้แล้ว แต่ความคุ้มค่าคุ้มราคา ขนาดที่เหมาะสมกับอ่าวไทย ผู้คนเชียร์ให้ซื้อกัน แต่ กห. ก็ไม่เอา ของดี ราคาถูก แสดงว่าประเด็นเรือเอาไม่เอาเรือดำน้ำ ผู้คนเค้าเห็นด้วยกันครับ
เข้าใจนะครับ
"""""" ต่อจากนั้นได้เรือ U210 มือสองมาอีก 6 ลำ """""
ถามหน่อยจะเอามาจากไหน