ต้องการสร้างแท่นสำหรับรองรับป้อมปืน 76/62 มม. จำนวน2 แท่น ผมตัดให้กับเรือตรวจการไกลฝั่งลำใหม่คือเรือหลวงตรังจำนวน 1 แท่นยิง แล้วอีก 1 แท่นยิงจะเอาไปติดบนเรือลำไหนหว่า ??? แล้วจะเอาปืน 76/62 มาจากไหน ??? เป็นของใหม่หรือของมือสองหรือถอดมาจากลำอื่น ??? อืมมมมม...... คิดไม่ออกแฮะ
ผมเองไม่มีแหล่งข่าวพรายกระซิบเสียด้วย เลยต้องมาแอบถามกันซื่อ ๆ ตรงนี้แหละ ใครทราบก็บอกมาเถอะ รับรองหน่วยเหนือไม่รู้เรื่องแน่นอน ;)
http://www.supplyonline.navy.mi.th/pdf2/23517.pdf
อุปกรณ์ที่ว่าน่าจะประมาณนี้นะครับ ราคา 2.5 แสนต่อหน่วยถือว่าพอไหว แต่เอาไปติดเรือ ?????
ขอเดาแบบมโนครับ หนึ่งแท่นแน่นอนว่า เรือหลวงตรัง ส่วนอีกหนึ่งมีเรือลำไหนบ้างที่อยู่ในลิสต์ที่ต้องปรับปรุง(คงไม่มีเพราะเรือ ตตก เห็นติด 76/62 หมดแล้ว) กับเรือชุดแหลมสิงห์ซึ่งอาจจะเป็นลำที่2 หรือเปล่า กับอีกที่มโนไปไกลคือ เรือฟรีเกตสมรรถนะสูงลำที่2 ....
ปีนี้ทั้งปีมีคำสั่งซื้อเรือใหญ่ลำเดียวคือเรือหลวงตรังครับ อันที่จริงมีอีกลำคือเรือดำน้ำซึ่งคงเอามาติดไม่ได้ ในเมื่อยังไม่มีเรือใหม่ การทำออกมาก่อนมันผิดระเบียบและไม่มีงบประมาณรองรับ ต้องเข้าใจขั้นตอนของข้าราชการด้วย อันที่จริงเอกชนก็ไม่ต่างกันนะ
เรือตรวจการณ์ชั้นเรือหลวงสัตหีบจำนวน 3 ลำ คือ เรือหลวงท้ายเหมือง เรือหลวงเทพา และเรือหลวงกันตรัง ยังใช้ปืน 76/50 รุ่นสงครามเกาหลีอยู่นะครับ รวมทั้งเรือหลวงหัวหิน เรือหลวงแกลง และเรือหลวงศรีราชาด้วย แต่เรือ 3 ลำหลังคงไม่ติดแน่นอน ผมเอาภาพมาจากทร.คงไม่พลาดกระมัง
ซึ่งถ้าปรับปรุงใหม่จะมีหน้าตาประมาณนี้
เป็นรายการ ซ่อมสร้าง...ขอ เดา ดังนี้
เดาที่ 1 ร.ล.รัตนโกสินทร์ (อยู่ระหว่างซ่อมบำรุงใหญ่) กับ ร.ล.คีรีรัฐ ถ้าจำไม่ผิด เข้าวงรอบซ่อมบำรุง ช่วงนี้ พอดี
เดาที่ 2 ร.ล.ราชฤทธิ์ กับ ร.ล.อุดมเดช....(ร.ล.วิทยาคม ปลดระวางประจำการแล้ว) อาจจะเป็นโครงการยืดอายุใช้งานอีก 10 ปี ในฐานะเรือตรวจการณ์ปืน
สำหรับ ไทป์ 056 คอร์เวต ลำที่ 1 ไงครับ.................
น่าจะสำหรับเรือตรวจการณ์ปืนที่ยังใช้ปืน 76/50 ป้อนลูกกระสุนด้วยมืออยู่นะครับ มูลค่างานเท่านี้คงเหมาะกับการซ่อมปรับปรุงเรือที่มีอยู่แล้วครับ
ใจอยากให้มีเรือปืนแบบโหดๆ เหมือนเรือพาลี สุครีพ ในอดีต ปืนเพียบเหมือนเคาวบอยไม่ต้องเกรงใคร
ตรงนี้ก็เข้าใจเช่นเดียวกับท่านอื่นครับว่าน่าจะเป็นการจัดหาเพื่อการซ่อมบำรุงเรือที่มีอยู่มากกว่าเพื่อการสร้างเรือใหม่
สำหรับเรือตรวจการณ์ปืนชุด ร.ล.แหลมสิงห์ ลำที่๒ และลำที่๓ ที่เคยได้พูดคุยกับตัวแทนของ Marsun
ทางบริษัทก็อยากที่จะให้ทางกองทัพเรือลงนามสั่งจัดหาเรือ ตกป.ใหม่อีกสองลำกับบริษัท หลังที่เสร็จสิ้นรับมอบ ร.ล.แหลมสิงห์เข้าประจำการไปแล้วครับ
แต่ก็ยังไม่มีความคืบหน้าที่ชัดเจนตอนนี้ว่าจะมีการสั่งจัดหาเมื่อไร
โดยตามแผนการปรับปรุงกำลังทางเรือของกองทัพเรือในอีก ๑๐ปีข้างหน้า
ในส่วนของกองเรือตรวจอ่าว เรือเร็วโจมตีติดอาวุธปล่อยนำวิถี ทั้งชุด ร.ล.ปราบปรปักษ์ และชุด ร.ล.ราชฤทธิ์ รวม ๖ลำจะถูกปลดประจำการลงทั้งหมดครับ
ซึ่งเรือ รจอ.ใน กตอ.ก็จะถูกแทนที่ด้วยเรือ ตกป. และเรือตรวจการณ์ไกลฝั่ง ใหม่ตามจำนวนความต้องการครับ
ว่าแล้วก็ขอมโนเสียหน่อย ด้วยการปรับปรุงเรือชั้นเรือหลวงสัตหีบจำนวน 3 ลำสุดท้าย ด้วยการติดตั้งปืน oto 76/62 กระบอกท้ายจากเรือชั้นเรือหลวงชลบุรีจำนวน 3 ลำเช่นกัน ควบคุมการยิงด้วย Mirador E/O และระบบอำนวยการรบ Tacticos CMS ส่วนปืนท้ายใช้ 40/60 ของเดิมไปก่อน ยังไงก็มีปืนกล 20 มม.อีก 2 กระบอกช่วยดูแลท้ายเรืออยู่แล้ว
ส่วนเรือชั้นเรือหลวงชลบุรีหลังถอดปืน 76/62 ด้านท้ายออก ผมคิดไว้ 2 แบบที่ใช้เงินไม่แพงเท่าไหร่ แบบแรกใส่เครนเอนกประสงค์เข้าไปพร้อมเรือยางจำนวน 2 ลำ ท้ายสุดติดตั้งปืนกล 12.7 มม.เสริมเข้าไปเผื่อเหลือเผื่อขาด เรดาร์ ZW-06 ที่หมดอายุแล้วทดแทนด้วยเรดาร์เดินเรือรุ่นใหม่ (ความจริงก็ทดแทนไปแล้วนะ) อเนกประสงคมากขึ้นแต่อำนาจการยิงด้านท้ายลดลง
อีกแบบใช้เงินเยอะกว่า ด้วยการตืดตั้งจรวดต่อสู้เรือรบ penguin rebuilt จำนวน 4 นัด ซึ่งเป็นรุ่นเดียวกับที่เสนอขายติดเฮลิคอปเตอร์ S-70B ของเรานั่นแหละ จรวดมีขนาดเล็กใช้พื้นที่นิดเดียว ระยะยิง 34 กิโลเมตรเพียงพอกับการป้องกันตนเอง ราคาจรวดก็ไม่แพงเหมือนของใหม่เอี่ยม อายุการใช้งานรับประกัน 15 ปี อำนาจการยิงมากกว่าเดิมหลายเท่าตัว สุดท้ายได้กลับมาเป็นเรือเร็วโจมตีอาวุธนำวิถีก็ในวัยชรานี่เอง ;)
ปล.แก้ไขข้อบกพร่อง + satcom เข้าไป 1 ใบ
แหม ถ้าถอดปืนหลังออก แล้วใส่ เฮี๊ยบ 2.5 ตัน (55555) เข้าไป เกรงว่าจะไม่ตรงสเปค เรือเร็วนะครับ ปืนหายไปกระบอกนึง หมดความเป็น รจป. ไป ภาษามวยเค้าว่า แบบช๊อตไปดื้อๆ เลยนะครับ.................... แต่ถ้าติด อาวุธปล่อย อันนี้น่าเล่น ยกเกรดขึ้นมาเป็น รจอ. เลยเชียว..............
ว่าไปแล้ว บรรดาเรือเร็วทั้งสามชุดของเรา ชุดชลบุรีนี้ แจ่มแจ๋วที่สุดนะครับ แม้จะไม่มีจรวดมาแต่เริ่ม ที่ว่าแจ๋วได้แก่ เรดาร์พื้นน้ำ มี อีซีเอ็ม มีเป้าลวงอีกต่ะหาก แถมด้วย เรดาร์/ออปโตรนิค ไรล็อด ควบคุม 40 ทรินีตี้ ทั้งหมดนี้ เรือชุด ราชฤทธิ์ และ ปราบปรปักษ์ ไม่มี........... แจ่มเกือบๆจะคอเวตแล้ว
เรือชุดสัตหีบ 3 ลำสุดท้าย ที่ยังไม่ปรับปรุงติดปืน OTO 76 ม.ม. นั้น...
ผมขอตั้งข้อสังเกตุ อย่างนี้ว่า...ตัวเรือ อาจจะมี ปัญหา อะไร หรือเปล่า ?
เพราถ้า สืบค้น ประวัติการสร้างเรือชุดนี้...เรือชุดแรก ที่ติดปืน OTO 76 ม.ม. นั้น...จำไม่แม่นว่า สร้างโดย บ.อิตัลไทยฯ ภายใต้การควบคุมของ กรมอู่ทหารเรือ หรือ กรมอู่ทหารเรือ เป็นผู้กำกับการสร้างทั้งหมด...
แต่อีก 3 ลำหลัง ต่อมา นั้น...ดำเนินการโดย ภาคเอกชน ทั้งหมด รู้สึกว่า จะไม่ใช่ บ.อิตัลไทยฯ...โดยเรือชุด 3 ลำหลังนี่แหล่ะ ที่ไม่เห็นข่าวการจะปรับปรุงอัพเกรด....และเรือชุดนี้ คุ้น ๆ ว่า จะแบ่งการสร้าง เป็น 2 บริษัท....น่าจะซ้ำรอยแบบเดียวกับ เรือชุด หัวหิน ที่กำหนดสเปคเป็น ปืน OTO 76 ม.ม. แต่สุดท้าย ก็ได้ปืน 76 ม.ม. รุ่นมาตรฐานของ ทร. และยังไม่เห็นแผนการอัพเกรด แต่อย่างใด...ถ้าจำไม่ผิด เรือชุด หัวหิน ก็มีแผนแบบมาจากเรือชุด คำรณสินธ์ (ตอนนั้น เรือชุดคำรณสินธ์ ดำเนินการภายใต้การดูแลของ บริษัทฯ ต่างประเทศเจ้าของแบบ) แต่เรือชุด หัวหิน ดูจะเป็นการดำเนินการของ เอกชน ทั้งหมด...(ไม่ยืนยันข้อมูลนะครับ)
เป็นไปได้ไหมที่ปืนอีก 1 กระบอกจะมาจาก ร.ล.วิทยาคม นำไปซ่อมคืนสภาพเพื่อใช้งานกับเรือที่ยังประจำการ
ส่วนร.ล.วิทยาคมนั้น ถ้ามีอบต.ที่ไหนสนใจนำไปตั้งโชว์ ค่อยเสียเงินทำม๊อกอัพเอาก็แล้วกัน ง่ายดี
ทดสอบ...