อ่านเจอในเพจคุณพัทธนันท์ จะปล่อยลงน้ำปลายเดือนมกราคม 2560
http://aagth1.blogspot.com/2016/05/blog-post_16.html
ลองดูครับเป็นเวปเพจของคุณเอกเค้า ครับ ผมติดตามอัพเดตข่าวสารในเพจของเค้าอยู่
ขอตัดข้อความท่อนล่างมาให้อ่านครับ
วันที่ ๑๖ พฤษภาคม พ.ศ.๒๕๕๙(2016) อู่ต่อเรือบริษัท Daewoo Shipbuilding and Marine Engineering สาธารณรัฐเกาหลี ได้ทำพิธีวางกระดูกงูเรือฟริเกตสมรรถนะสูงระยะที่๑ ลำแรกของกองทัพเรือไทย
กองทัพเรือไทยได้ลงนามสัญญาจัดหาเรือฟริเกตแบบ DW3000H กับบริษัท DSME เกาหลีใต้เมื่อวันที่ ๓๐ กรกฎาคม พ.ศ.๒๕๕๖(2013) วงเงิน ๑๔,๖๐๐ล้านบาท
หลังจากมีการปรับแก้แบบเรือย่อยในบางจุดและมีพิธีตัดเหล็กแผ่นแรกเมื่อวันที่ ๓๑ สิงหาคม พ.ศ.๒๕๕๘(2015) ตามข้อมูลที่ได้รับมาล่าสุดเรือฟริเกตสมรรถนะสูงลำใหม่นี้มีกำหนดการสร้างเสร็จเข้าประจำการในเดือนมีนาคมปี พ.ศ.๒๕๖๑(2018)
อีกข่าวหนึ่งที่มีกระแสออกมาก่อนหน้านี้ไม่กี่เดือนคือ กองทัพเรือไทยได้ลงนามสัญญาจัดหาเรือฟริเกตสมรรถนะสูงระยะที่๒ แล้ว โดยมีความเป็นไปได้จะต่อเรือฟริเกตใหม่ในไทยตามที่มีการถ่ายทอด Technology จากเกาหลีใต้ครับ
(ปล.ตอนที่กำลังลงบทความนี้ post ต้นทางของ Page Navy for Life ได้หายไปแล้ว มีข้อมูลทางการเพิ่มเติมจาก กองประชาสัมพันธ์ สำนักงานเลขานุการกองทัพเรือ ตามที่ลงในข้างต้น
และภาพเพิ่มเติมจาก Facebook ที่เกี่ยวกับ Daewoo Shipbuilding & Marine Engineering และ Website หลักของกองทัพเรือครับ)
เพราะฉะนั้นที่เพจของคุณพัทธนันท์ จะปล่อยลงน้ำปลายเดือนมกราคม 2560 ซึ่งก็คือในอีกสองเดือนข้างหน้า ไม่น่าจะเป็นไปได้ครับโครงการเรือเพิ่งจะเริ่มวางกระดูกงูเดือนพฤษภาคมในปีนี้ คิดว่าตัวเรือน่าจะต่อเสร็จประมาณกลางปีหน้าแล้วจึงปล่อยลงน้ำเพื่อทำการทดสอบเดินเรือแล้วหลังจากนั้นก็ติดตั้งอุปกรณ์เรด้าร์และระบบอาวุธต่างๆจนแล้วเสร็จในเดือน กุมภาพันธ์ในส่งมอบให้กองทัพเรือในเดือนมีนาคมในปี 2561 ครับ
แต่ทั้งหมดนี้ไม่ชัวร์นะครับรอดูอัพเดรตข่าวสารกันต่อไปเรื่อยๆดีกว่า
รูปขอลบก่อนนะครับ เพราะยังยึดแนวทางที่ว่าถ้ากองทัพยังไม่พร้อมเปิดเผยทางเว็บหรือเฟสบุ๊ค ก็จะยังไม่เอามาลงนะครับ
เหมือนตอนภาพตอนที่วางกระดูกงูที่มีการลบในภายหลังครับ /ADMIN
ค่อนข้างจะชัดเจนแล้วครับว่า เรือฟรีเกตสมรถนะสูงลำที่สอง จะต่อในไทย โดย อรม. โดยแดวูจะถ่ายทอดเทคโนโลยี (ช่วยเหลือ) ในการดำเนินการ และน่าจะรวมถึงการปรับปรุงอู่ต่อเรือด้วย แนวโน้มน่าจะได้เห็นอู่แห่งหมายเลช 2 เกิดขึ้นด้วย คงจะต้องติดตามงบประมาณของ ทร. ด้วยว่าจะมีงบสำหรับก่อสร้างอู่แห้งเพิ่มเติมสำหรับ อรม. หรือไม่
อู่กรุงเทพที่เจริญกรุง ไม่มีที่ดินเหลือพอ แถมอยู่ในกรุงเทพฯ ด้วย ต่อได้แต่เรือเล็กๆ ไม่น่าจะใช่อู่ที่จะดำเนินการ่อเรือลำที่ 2 นี้ อู่มาร์ซันและอิตัลไทยก็ยังไม่เคยได้ยินความเกี่ยวข้องกับเรือฟรีเกตลำที่สองเลย คู่หูที่ต่อเรือรบขนาดใหญ่เป็นประจำในปัจจุบันก็เห็นแต่กรมอู่ฯ กับอู่กรุงเทพซึ่งเป็นรัฐวิสาหกิจสังกัด ทร. ปรกติอู่กรุงเทพก็เช่าใช้พื้นที่และอู่แห้งของ อรม. ในการต่อเรือใหญ่อย่างเรือกระบี่และกำลังจะเริ่มต่อเรือตรังต้นปีหน้าอยู่แล้ว จึงสรุปได้แค่ว่า เรือฟรีเกตลำที่สองจะต่อที่ อรม. นี่แหละครับ โดยจะใช้อู่แห้งที่มีอยู่ 1 อู่ก็ได้ครับ แต่มันจะไม่เหลือให้หมุนเวียนสำหรับเรืออื่นเข้าใช้ซ่อมบำรุงไปอีกอย่างน้อย 3 ปี ยิ่งบอกว่าอาจจะต่อเป็นบล๊อคแล้วนำมาประกอบในไทย หรือกระทั่งเริ่มต่อทั้งลำในไทย คงไม่พ้นที่จะต้องมีอยู่แห้งอู่ที่สองแน่นอนครับ คือใช้ในการต่อเรือฟริเกตลำที่สองเสร็จแล้วก็สามารถจะใช้ซ่อมบำรุงเรือในโอกาสต่อไป แต่ถ้าสร้างเป็นโรงงานต่อเรือบนบก ไม่ใช่อู่แห้ง พอต่อเรือเสร็จมันจะใช้ซ่อมเรือได้ไม่สะดวกเหมือนอู่แห้งซิครับ
มีอีกวิธีครับ ไม่ต้องสร้างอู่แห้งใหม่ ไม่ต้องสร้างโรงประกอบเรือ แต่ใช้อู่ลอยแทนครับ ที่แหลมฉบังมีอยู่ลำหนึ่งของยูนิไทย ปัจจุบันก็รับซ่อมเรือสินค้าขนาดใหญ่อยู่ครับ ทร. จะไปติดต่อเช่ายูนิไทย หรือจะสร้างเองขึ้นใหม่ก็ได้ครับ อู่ลอยนี่ดีนะครับ ลากจูงไปทิ้งทุ่นจอดซ่อมเรือต่อเรือที่ไหนก็ได้ ในแม่น้ำเจ้าพระยาตรงสะพานกรุงเทพผมก็เห็นมีใช้งานอยู่ลำ น่าจะของเอกชนรายใดรายหนึ่งครับ
แล้ว เอเชียนมารีน ล่ะครับท่านเสือใหญ่ เห็นเคยต่อเรือชั้นเรือหลวงหัวหิน 2 ลำมาก่อน
ใช้ ชื่อเรือหลวงท่าจีนผมเห็นด้วยนะ เพราะเรือฟริเกตก็ใช้ชื่อแม่น้ำไปตามปรกติ แต่ว่า... อยากเห็นเรือหลวงป่าสักบ้างไรบ้าง คงหมดหวังสินะ ฮ่า ฮ่า
เรือฟริเกตคงเป็นไปตามที่คุณพัทนันท์บอก เข้าใจว่าเกาหลีใต้ต่อเรือรบได้เร็ว ทั้งเรือเราเป็นแฝดกับเรือ FFX-II ของเขา ก็เลยไม่ใช่เรื่องยากอะไร ปัจจุบัน DSME ก็ต่อเรือ FFX-II ควบคู่ไปด้วย เพราะมีกำหนดต้องส่งมอบทร.เกาหลีใต้จบครบ 6 ลำ (เสร็จไปแล้ว 1)
จบการรายงานสำหรับพวกที่คิดไปเองเป็นตุเป็นตะเรื่องเรือฟริเกตลำที่ 2 จะเป็นของจีน
นั่นซิครับท่าน superboy มีเอเชี่ยนมารีนอีกอู่ด้วย แต่คิดว่าคงไม่พ้นคู่หู กรมอู่ กับ อู่กรุเทพ แหละครับ เพราะถ้า ทร. ต้องใช้เงินปรับปรุงอู่เอง คงต้องลงที่ อรม. นี่แหละครับ
กองทัพเรือน่าจะทำสัญญากันแบบเงียบๆแล้วแหละครับ โดยรีบเซนต์เพื่อป้องกันอุบัติเหตุที่อาจจะเกิดขึ้นในอนาคตถ้าหากล้าช้า (ฮา)
เพราะขนาดเวปไซด์ต่างประเทศอย่าง JANE เอาไปซุบซิบกันเลยว่ามีการเซนต์สัญญาเรือฟรีเกตลำที่สองกันแล้ว
ถ้าดูจากข้อมูลหลายๆอย่างแล้ว บวกกับ ข้อมูลท่าน fatboy จากใน TAF คิดว่าเรือฟรีเกตสมรรถนะสูงลำที่สองของเราเป็นเรือเกาหลีแน่นอน และต่อในประเทศไทย ไม่ใช่เรือจีน ครับ ซึ่งเรือจีนหวยน่าจะไปออกที่เรือ type 056 กับเรือปืนชั้น ตกก.
อะไรก็เกิดขึ้นได้.......แต่อย่างว่านะครับ ผมก็เชียร์ให้มีลำสอง แหม่ มีแค่ลำเดียวเดี่ยวๆด้วนๆก็แปลก..............
แต่อย่าลืม 2 เรื่องนะครับ
1. คือ เรือใหญ่ เราเคยมี 8 ลำ คือชุด นเรศวร ชุด เรือพุทธยอดฯ และชุดเจ้าพระยา แดวูลำที่ 1 นี่เอามาแทน เรือพุทธเลิศฯ ซึ่งจะเห็นว่า แต่ไหนแต่ไร ทร.จะเริ่มต่อเรือ วางกระดูกงูใหม่หลังจากเรือเก่าปลดแล้ว ทีนี้ เรือพุทธยอด กว่าจะปลดก็อีก 3-4 ปี จะเริ่มวางกระดูกงูใหม่ก็นู่นแหล่ะ ปีที่ 5 .........ภาษาอิสานบอก มันต้องกั้งโกบ (มือป้องคิ้วบังแสง) มองฝ่าแดดออกไปโน่น....... เพราะยังอีกไกลเหลือเกิน
2. ทร.มีภารกิจ ที่ต้องต่อเรือ โอพีวีลำใหม่ภายใน ปีสองปีนี้ แหม่ ถ้าหาญกล้าต่อเรือฟริเกตอีกลำพร้อมกัน แมนพาวเว่อร์ ฟาสิลิตี้ บัดเจ็ท มันจะกระตุกเอาได้นะครับ.........
สำหรับการเอางานให้เอกชน เห็นว่ายูนิไทยไม่เสนองานต่อเรือให้ทร.มานานแล้วครับ อิตัลไทยมีปัญหาฟ้องร้องกันอยู่ มาร์ซันอู่ไม่น่าจะพอ เอเชียนมารีนไม่ทราบ
ส่วนถ้าจะไปเช่าอู่เขามา ไม่รู้ว่ามีปัญหาเรื่องระบบราชการไหมนะครับ?
ท่านภูครับ ไม่ทราบอิตัลไทยมีปัญหาฟ้องร้องอะไรกับใครหรือครับ ?
ถ้าจำไม่ผิดอิตัลฟ้อง ทร. เรื่อง เรือ SOC-R ครับ แต่ ศาลยกฟ้องครับ
ท่าน Asusangi ครับ ผมลองหาดูเห็นมีแต่มาร์ซันที่ต่อเรือ SOC-R (M-10) ให้ ทร.
หรือว่ามีปัญหากัน ไม่ได้ต่อเรือ SOC-R อิตัลไทยจึงฟ้อง ทร. !
เรือที่อิตัลไทยต่อ ส่วนใหญ่เป็นเรือพานิชย์ เรือลากจูง เรือสนับสนุน แล้วก็เรือตรวจการณ์ของตำรวจน้ำ
ที่ใกล้เคียงเรือรบที่สุดก็น่าจะเป็นเรือ LST ชุด เรือสุรินทร์+สีชัง
เรือรบที่ Italthai Marine ต่อน่าจะเรือตรวจการณ์ปืนชุด ร.ล.สัตหีบ กับ เรือตรวจการณ์ปราบเรือดำน้าชุด ชุด ร.ล.คำรณสินธุ โดยต่อ 2 ลำแรก ลำที่ 3 ร.ล.ล่องลม กองทัพเรือต่อ
ภาพจากกองเรือตรวจอ่าว
เรือยกพลขึ้นบกขนาดใหญ่ Italthai Marine น่าจะต่อแค่ ร.ล.สีชัง นะครับส่วน ร.ล.สุรินทร์ ต่อโดย บริษัท อู่กรุงเทพ จำกัด เรือ2ลำนี้ระวางขับน้ำ 4,000 กว่าตัน ก็ใหญ่อยู่...แบบเรือ คุ้นๆเหมือนจะมาจาก อิตาลี่ (หรือป่าวไม่แน่ใจ) ทำไมเราถึงไม่ต่อเรือฟริเกต เองบางนะ
ก่อนจะต่อฟรีเกตลำที่ 2 ผมอยากให้เรารีบปรับปรุงอู่มากเลยครับ ดูจากสารคดีตอนต่อเรือหลวงกระบี่แล้วดูเรายังไม่ค่อยพร้อมเท่าไร ทั้งเครื่องจักร และพื้นที่ ถ้าต้องต่อเรือระดับ 3000 ตัน นี่เกินกำลังไปเยอะ
แบบเรือ LST มาจากตุรกีครับ เรือน้ำมันลำใหม่คือเรือหลวงมาตราก็เช่นกัน
เรือช่วยรบต่อไม่ยากหรอก อู่ต่อเรือเอกชนไทยทำได้สบาย แต่ถ้าเรือรบนี่ต้องลงทุนกันพอสมควร
เทึยบกับความสามารถในทางอุตสาหกรรมเมื่อสมัยสงครามโลกครั้งที่2 เรายังไปไหนไม่ไกลเลยเนอะ
ว่าแต่เรือ opv ลำที่ 2 เรือหลวงตรังนี่ ตอนนี้น่าจะดำเนินไปถึงขั้นไหนแล้วครับ น่าจะตัดเหล็กเป็น sub assembly หรือเปล่าเตรียมต่อเป็น panel จากประสบการณ์ในการต่อเรือหลวงกระบี่น่าจะทำให้ต่อชั้นนี้เร็วขึ้นบ้าง มีกำหนดส่งมอบ ในปี 61 ปีเดียวกับเรือฟรีเกตลำแรก หลังจากนั้นคงลุยฟรีเกตลำที่ 2 ต่อ
มีเพจเกี่ยวกับพวกอาวุธอะไรนี่แหละครับคุณChelsea ไม่ใช่เพจของ TFC หรือ TAF นะ พอมีการตั้งกระทู้เป็นรหัส แล้วมีความเห็นเดาๆกันว่าจะเป็นเรือจากจีน ก็มีคนไปตั้งเป็นเชิงบอกใบ้ว่าเรือฟริเกตลำที่ 2 จะเป็นของจีน พอมีคนถามว่าที่มาจากคำตอบคือรอดูกันต่อไป ถ้าไม่ไปอ่านเจอผมไม่กล้าจินตนาการขึ้นเองครับ
ผมว่าอู่ที่จะต่อเรือระดับฟรีเกตได้ในไทยมีแค่ อู่ราชนาวีมหิดลนะครับ คงให้บริษัทอู่กรุงเทพดำเนินการแล้วมาต่อที่อู่ราชนาวี
ขอบคุณครับท่าน fefee1717
ปัจจุบันเห็นว่าอิตัลไทยแทบไม่ได้งานต่อเรือรบจาก ทร. เลยนะครับ