มีแว่วมาแล้วหรือครับ ต่อไปอาจมีน้อง j หรืออย่างไร
อ่านไม่รู้เรื่องครับท่าน FatBoy รบกวนท่านขยายความอีกนิดครับ
ไม่เชื่อว่ามันจะมาครับ แต่ลึกๆ หวั่นใจครับจริงๆ
ฤาว่า มันจะมีเหตุผลอื่นที่ทำให้เหล่าทัพต้องมุ่งไปที่อาวุธจากจีนมากขึ้นๆๆๆๆ
ของรัสเซียขึ้นชื่อว่าถึก ทน หยาบ ของจีนก๊อบปี้มาแต่ไม่มีคุณสมบัติเหล่านี้มาครบ
มาไม่ทันผมพลาดอะไรไป จับใจความได้ว่ามีอะไรซักอย่างที่เกี่ยวข้องกับตัว J
J ก็ J ครับแต่ขอ J-20 เท่านั้น J อื่นไม่อยู่ในสายตา
เดามั่วว่า y-9 medium-lift aircraft
ถ้าเป็น y-9 ก็น่าจะมีเปอร์เซ็นเป็นไปได้
ผมไม่เข้าใจ 55555555
ท่าน FatBoy ครับ กรุณากลับมาแถลงให้กระจ่าง ไม่งั้นมีโป้งนะครับ หุหุ..
คือก็อยากรู้นะว่าเกิดอะไรขึ้นแต่ ณ ตอนนี้ห่วงสวัสดิภาพท่าน FatBoy มากกว่า จากโน้ตที่เขียนทิ้งไว้คาดว่าน่าจะถูกลักพาตัว
ผมว่ามันเป็นรหัสลับนะ สลับภาษาคีย์บอร์ดก่อน จากนั้นเอาไปแปลงเป็นรหัสมอส แล้วเอาไปเทียบกับภาษาชาวอารยัน ก่อนใส่สแควรูทหารสองคูนสี่ลบสิบหกบวกยี่สิบเจ็ด แล้วเอามาให้กูเกิ้ลทรานสเลเตอร์แปลให้อีกที
หมอ...ขอยาด้วย บ้าไปแล้ว --^
อะ อะ โอ.... โอ้ว
จากกระทู้....จจ3รท 2ถ 6 7 ด ร ย ญ ข ค (8) ด ร ข ย ข 4(ภ) 3 3 ค จ จ จ จ ....จาการคาดการ
เจ 10 2เรือดำน้ำ 6-7 รถถัง และ Y-8 ลำ มั้ง 55555+
โอ ๆ กระจ่าง เรือโท นายทหารคนสนิท แอบเอาหูแนบบานประตูดักฟัง ( @ ) เปอร์เซนต์สูงมาก หลังจากนั่งกอดเข่าวิเคราะห์ ( & ) จะมีการเปลี่ยน เรือฟรีเกตสมรรถนสูง ( FG ) ลำที่2 ไปเป็นของจีน หมวยเหตุ เอ้ย หมายเหตุ ( *) โดยรวมมีมูลค่าสูงมาก โอ ๆ ๆ ๆ
ทันได้อ่าน ใจความว่า อะไรนะ y9 ครับ
y-9 นี่ในแง่ของตัวของก็ยังโอเค เป็นแค่เครื่องลำเลียง ไม่ใช่เครื่องขับไล่ แต่มองอีกแง่คือทอ.ที่เคยยืนหยัดมาก็ไม่รอดอนาคตอาจจะเจอเครื่องบินรบ
แต่ถ้าเปลี่ยนเรือกลางคันนี่น่ามะเหงกจริงๆ กลายเป็นมีเรือแบบละลำสองลำเละไปหมด
ที่จริงผมทันอ่านหัวข้อกระทู้ของท่าน FatBoy ครับ คือมันเหมือนกับว่า Y9 มาแน่ เสร็จแน่ อะไรทำนองนั้นนะครับ จำไม่ค่อยได้ด้วยซิ คือรีบเปิดกระทู้เข้ามาดูเลย ไม่ได้สนใจหัวข้อกระทู้ ก่อนที่มันจะกลายเป็น " ๐ "
เป็นไปได้ว่าท่าน FatBoy น่าจะโดนอุ้มเหมือนที่เพื่อนสมาชิกว่า เอาไว้ท่านถูกปล่อยตัวเมื่อไหร่ค่อยมาเล่าให้ฟังอีกทีก็ได้ครับ อิอิ..
ถ้าเป็นเวอร์ชั่นนั่งเทียนของผม พาดหัวก็คงประมาณว่า
" ทอ. สู้สุดฤทธิ์ สุดท้ายต้านไม่ไหวพ่าย Y9 "
หรือ " ทอ. เฉือนเนื้อให้จีน ยอมให้แค่ บล. "
ประมาณนี้ครับ
1หนึ่งเขาไม่ ต้อง สาม งิๆ สาม ทัพ
แปดล้อ สี่้ล้อ ต่วยก้า ฮิๆ
Y-9 ก็ไม่ขี้เหร่นะครับ ประสิทธิภาพรับได้กับราคาที่ถูกกว่าเจ้าอื่น ในสภาวะที่ตึงมือ เครื่องต้องหาทดแทนอีกเพียบโดยเฉพาะในส่วนของเครื่องบินขับไล่ที่ต้องใช้งบสูง แถมเพื่อนบ้านแต่ละรายจัดเต็มมาทั้งนั้น หวยออก Y-9 เพื่อขยับงบไปต่อกับเครื่องขับไล่ ก็โอเคนะครับ
ท่าน ausangi พูดเตือนสติผมได้ดีจัง บางทีคงต้องหันกลับมาดู บล. จีน บ้างแล้วละครับ มันอาจจะพอยอมรับได้ แต่น่าจะต้องตามเงื่อนไขดังต่อไปนี้
1. ราคาตลอดอายุการใช้งาน ต้องไม่เกินกว่า ซี-130 เอช ของเรา หมายถึงค่าตัวตอนซื้อ + ค่าบำรุงรักษา + อัพเกรดตามวงรอบ รวมกัน
2. อายุการใช้งานไม่น้อยกว่า ซี-130 เอช (35-40 ปี)
3. มีอะไหล่สนับสนุนตลอดอายุการใช้งาน
4. บำรุงรักษาง่ายและสะดวก ไม่ต้องกราวน์บ่อยๆ หรือกราวน์นานๆ เพราะต้องรออะไหล่ หรือต้องส่งไปซ่อมที่จีน TAI ช่วยอะไรไม่ได้มาก
5. สมรรถนะทางการบินและการบรรทุกต้องไม่แตกต่าง ต้องใกล้เคียงหรือดีกว่า ซี-130 เอช
6. ประหยัดเชื้อเพลิง ไม่รู้ว่าเครื่องพร๊อบจีน (ก๊อบรัสเซีย) กับเครื่องพร๊อบเมกัน แบบไหนซดมากกว่ากัน
7. มีอุปกรณ์เดินอากาศที่ทันสมัย ใช้สนามบินพานิชย์ได้ทั่วโลก
8. มีอุปกรณ์ดับไฟป่า หรือใช้ได้อุปกรณ์ดับไฟป่าที่ ทอ. มีอยู่แล้ว
9. คู่มือการบิน คู่มือซ่อมบำรุง ปุ่มบังคับคำเตือนต่างๆ ในเครื่องบิน ขอเป็นภาษาอังกฤษนะครับ รวมถึงการฝึกอบรม นบ. และ ช่างเครื่องด้วย ป้องกันการเข้าใจ/การสื่อสารผิดพลาด
นึกได้เท่านี้ครับ ถ้าได้ตามเงื่อนไขนี้ ผมอาจจะเปลี่ยนใจไปชอบน้องหมวย วาย-9 บ้างก็ได้ครับ
ปล. เห็นข่าว เมียร์มาร์ ตกลงจะถอย เจเอฟ-17 ตั้ง 16 ลำ นัยว่าจะเอามาแทน มิก-29 เก่า, เอฟ-7 และ เอ-5 อิจฉาครับ เค้าจะลดแบบ บ. 3 แบบ ด้วย บ. มัลติโรล์เพียง 1 แบบ ดูแล้วน่าจะเป็นแนวทางที่ถูกต้องนะครับ เงินค่าก๊าซนี่ทำให้พี่หม่องซื้อหาอะไรได้เยอะแยะจริงๆ ทั้ง บกเรืออากาศ
เข้าไปดูรายละเอียดคร่าวๆ ของ Y-9 ใน yahoo ก็พอจะได้อยู่ครับเจ้าตัวนี้ ว่ากันว่ามันคือรุ่นย่อยของ Y-8 อีกที ส่วน Y-8 ก็ก๊อบมาจาก แอน-12 ของพี่หมี ใช้เครื่องเทอร์โบพร๊อบของจีน ห้าพันกว่าแรงม้า ใบพัด 6 กลีบ รูปร่างหน้าตาไปวัดตอนสายๆ ได้สบาย และเป็นกล๊าสค๊อกพิตด้วย
ตายๆๆ ขออภัยอย่างแรง ไม่ได้ย่อรูป กลับไปบ้านแล้วแก้ไขให้นะครับ
ผมชอบตรงที่มันเป็นกล๊าสค๊อกพิต
นน. บรรทุก 25 ตัน พลร่มได้ 130 กว่านาย แต่... ตอนนี้ วันนี้ มีใช้อยู่ชาติเดียวคือพี่จีนครับ
เมียร์มาร์ไปแห่ Y-8 มาแล้ว ของเราเกร็งว่า Y-9 จะมา
แล้วถ้าเมียร์มาร์เซ็นต์สั่งซื้อ เจเอฟ-17 จริงๆ ของเราก็คงจะขยับไปคว้า เจ-10 มาแหงมๆ
เหมือนเมียร์มาร์มีอะไร เราต้องมีบ้างให้เท่ากันหรือดีกว่า อย่าง บีทีอาร์3อี จากยูเครน / มิ-17 จากรัสเซีย / หรือ แซม เคเอส-1 จากจีน อะไรประมาณนั้นนะครับ
โดนัล ทรัมป์ ชนะการเลือกตั้งประธานาธิบดี สหรัฐ แบบพลิกล็อกสุดๆ อีกทั้งสภาล่างและสภาสูง ในสภาคองเกรส
โดยพรรครีพับรีกัล
กวาดเรียบ เรียกได้ว่าประธานาธิบดีคนที่ 45 ของสหรัฐ มีอำนาจเต็มแบบสุดๆ สามารถผ่านร่างกฎหมายต่างๆได้อย่างสะดวกโยธินแบบ ไร้อุปสรรค เพื่อสนองนโยบาย ที่ว่า “ Make America great again” หรือ ทำให้สหรัฐกลับมาเป็นใหญ่อีกครั้ง
แน่นอนนโยบายการต่างประเทศของพรรครีพับรีกัลเดิม ก็แข็งกร้างกับชาติที่เป็นปรปักษ์การสหรัฐมาโดยตลอด ยิ่งบวกกับ นโยบายของทรัมป์ด้วยแล้ว ยิ่งน่าจะดุเดือดยิ่งขึ้นหรือเปล่า
เมื่อหันมามองประเทศไทยในเวลานี้ รัฐบาลและผู้อยู่เบื้องหลังรัฐบาลพยายามจะไปอิงกับจีนมากขึ้น จะโดนสหรัฐ ดำเนินด้านนโยบายอย่างไร เป็นรู้กันว่า อดีตผู้นำสหรัฐอย่าง โอบาม่าจะดำเนินมาตรการกับประเทศไทยเรา แบบ ประนีประนอมและผ่อนปรนมาโดยตลอด ถ้าเปลี่ยนมาเป็นนายทรัมป์ ผลจะเป็นอย่างไร
เรายังจะไปอี๋อ๋อกับจีนได้อีกหรือไม่ เพราะงานนี้ ถ้าสหรัฐยกเลิกมาตรการ การผ่อนปรนด้านการเมืองกับรัฐบาลไทยในเวลานี้ ยอมจะมีผลกระทบต่อเศรษฐกิจไทยอย่างแน่นอน แล้วถ้าสหรัฐใช้นโยบายต่างๆเพื่อบีบไทยหรือกดดันไทยในด้านทางทหารเข้าไปอีก
งานนี้อาจจะได้เห็น ท่านนายก พลเอก ประยุธ เดินทางไปสหรัฐบ่อยขึ้นเหมือนเมื่อปีที่แล้วอีกก็เป็นได้
อีกประเด็นคือ โครงการอาวุธต่างๆ ที่ไทยเราจะจัดซื้อจากประเทศจีน บวกกับข้อความที่ท่าน Fatboy บอกใบ้อะไรบางอย่างมา
หรือว่าน่าจะเป็นการรีบ อนุมัติโครงการจัดหาอาวุธกับจีน ที่ไม่รู้ไป สัญยิงสัญญาอะไรกับเค้าไว้ แบบรวบรัดตัดตอนอย่างเร็วและอย่างแรง แน่ๆ รีบทำให้เสร็จๆก่อนก่อนจะไม่ได้ทำ
ปล. รอดูกันต่อไป
แต่ถ้าจะจัดหา y-9 ยังไงก็แปลกๆอยู่ดี c-130j นี่มันแพงมากเลยหรอครับ ยังไงเราก็คุ้นชินกับ c-130 มานาน ช่างก็ชำนาน หลายๆอย่างก็ลงตัว
เรือฟริเกตลำที่ 2 ตามโครงการคือต่อในไทย อย่าพึ่งไปมโนหรือเชื่อข่าวลือมากนักว่าจะเป็นของจีนเพราะมีคนเริ่มไปปล่อยข่าวในเพจหลายๆเพจแล้วดีไม่ดีเอาข่าวที่คุณกบแซวๆไปจินตนาการจับแพะชนแกะไปเลยก็ได้ครับ ส่วนลำแรกก็เป็นรูปเป็นร่างไปพอสมควรแล้ว จีนได้เรือดำน้ำไปแล้วยังไม่พอใจอีกหรือ แต่เรื่อง Y-9 ถ้าเป็นจริงของไว้อาลัยให้กับกองทัพอากาศครับ
FGP รหัสเรือฟรีเกตุตามการเรียกของอังกฤษ สำหรับรุ่น Type-81 Tribal เรือฟรีเกตุเอกประสงค์น่ะ
เลยเดาว่า จะมีเรือฟรีเกตุมามั้ง 567นี่เรือจีน 053H-3 เจียงเหว่ย-2
แต่ไม่รู้จะมีแถมอาวุธโจมตีทางทะเลไม่บินได้ก็ภาคพื้นละนะ
***** มั่วตามรหัสแน่ะ ***
เดี๋ยวคงมีคนมาบอกว่าจะถ่ายทอดเทคโนโลยี สร้าง y - 9 ให้ เราจะสร้างเครื่องบินได้ก็คราวนี้ล่ะ หุๆ
ผมถอดรหัส ดังนี้
๐๐#รท@%^&โฌยฃยฃ*^$##&*๐๐๐๐
203im2567fgp\p\86433780000
เรือดำน้ำ ลำที่ 3 (หมายเลข 203) จะมาในปี 2567
รวมงบประมาณโครงการเรือดำน้ำทั้งสิ้น 86,433,780,000 บาท
มูลค่าประมาณ 2,400 ล้านเหรียญสหรัฐ
หรืออาจจะ เรือดำน้ำลำที่ 3 (203) ออกงบประมาณในปี 2567 รวมมูลค่าโครงการเรือดำน้ำ ทั้งสิ้น 864,337.840 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 31,100 ล้านบาท....
ดาวินชี่โค้ดกันเลยทีเดียว
ทีเอเอฟ พ่อแดนบราวน์ ฮา
เช็คข่าวมาสองวัน ยังไม่มีอะไรระแคะระคายเกี่ยวกับ Y-9 หรือ บล. แบบอื่นๆ เลยครับ
ดันมีแต่ข้อมูล บข. บางแบบ ค่าใช้จ่ายต่อชั่วโมงแพงกว่าที่เราๆ ท่านๆ เคยได้ยินได้ฟังมาแบบหน้ามือเป็นหลังมือครับ
ไม่น่าเชื่อ
บข.อะไรครับ j-39?
.........กลางคืนที่ผ่านมา...... ผมนอนหลับฝันไป ซึ่งในฝัน ผมได้ฝันว่าผมถอดรหัส ท่านFatboyในกระทู้นี้ได้แล้ว..........ที่แท้ก็ข่าวเรื่อง...จะซื้อไม้ไผ่ มาทำข้าวหลามมาเผากินกัน.....โดยจะซื้อไม้ไผ่มาทำข้าวหลาม ที่ละลำ....ถ้าหากอนาคตทำข้าวหลามแล้วกินได้อร่อยจริงสมดังตั้งใจ ก็ค่อยซื้อเพิ่มเรื่อยๆจนครบ3ลำ......แต่คนขายไม่ยอม เขาบอกว่าถ้าจะซื้อก็ต้องให้ซื้อพร้อมกันทีเดียวทั้ง3ลำ.....ในที่สุดจึงจำใจจำยอม ต้องตกลงซื้อไปเลยทีเดียว3ลำ.......ถ้าตามฝันนี้ผมถอดรหัสนี้ผิดไป ไม่ใช้เรื่องซื้อไม้ไผ่มาทำข้าวหลาวกินกันแล้วหละก็....คงต้องขอให้ทาง ท่านFatboy มาเฉลยแก้ไขข่าวกันเอาเองก็แล้วกัน.........ครับ/สกายนาย
เรือเกาหลีลำที่สองเราเซ็นสัญญาไปเมื่อไหร่ครับ
เรือฟริเกตยังไม่ได้เซ็นลำที่สองนะครับ มีแต่ข่าวว่าทร.อยากต่อหรือประกอบเองในประเทศไงนี่แหละ
ส่วนตัวมองว่าอย่าเลยถ้าไม่พร้อม แค่เรือตรวจการณ์ชายฝั่งเอาให้รอดก่อน เทียบกับสิงคโปร์ เขาทำพิธีวางกระดูกงูเรือลำที่ 5 แล้วจ้า เข้าประจำการจริง 1 ลำแล้วจ้า อีก 3 ลำกำลังประกอบโน่นนั่นนี่อยู่จ้า ภายในปี 2020 มาครบทั้ง 8 ลำแน่นอนจ้า
ส่วนทางเรานั้น เอ่อ....
"ลำที่ 3 และ ลำที่ 4 จะเป็น Type 056 หลังลำที่ 2 เสร็จ เตรียมเคลียร์พื้นที่ ต่อเรือฟริเกต ลำที่ 2"
ถ้าผมหายไป แปลว่า..........
เน็ตหมดนะครับ
ผมก็เข้า TAF ไม่ได้เหมือนกันครับ
ลืมพาสเวิร์ดครับ 2-3 ครั้งแล้ว เกรงใจเสี่ยโยจริงๆ ไม่ได้ขอใหม่อีก ไม่ต้องถามตอบกันใน TAF เลย
ถอดรหัสท่าน FatBoy ตามที่ท่าน Superboy ลากข้อความมา Type 056 มันเป็นคอร์เว็ตนี่ครับ ระหว่างขับน้ำมันพอๆ กับเรือกระบี่เลย
แปลว่า หลังเรือกระบี่ลำที่สอง (เรือตรัง) เราจะต่อ Type 056 อีก 2 ลำ นำมาใช้ในภารกิจ OPV หรือครับ ?
Type 056 มันสเปคเรือรบ ผมก็ชอบนะซิครับ แถมมี ซี-แรม จีนด้วย ส่วน CIWS ปืน 30 มม. 2 บอก เห็นมีเรดาร์ติดอยู่ที่ชุดปืนด้วย แหล่มๆๆๆ เลยครับ ไม่นับปืนเรือ 76 มม. C-803 4 ดุ้น แล้วก็ ต.ปราบ ด. อีก 2 ท่อ ครบไม้ครบมือดีครับ อ้อ.. เอา ฮ. ไซร์ Z-9 หิ้วไปกับเรือได้ด้วยครับ แต่ไม่มีโรงเก็บ เรือไม่ถึงสองพันตัน ใส่นู้นนี่เต็มไปหมด ดูดีครับ นี่ถ้าต่อจากจีนความน่าเชื่อถือคงลดไปเยอะ เห็นว่าจะต่อในไทยเลยเชียร์ยับเลย
ว่าแต่ชุดควบคุมและบัญชาการรบ (เค้าเรียกว่าอะไร) กับโซนาร์ และเรดาร์ควบคุมการยิงปืน+จรวด ขอเป็นฝรั่งตั้งแต่แรกได้ไหม
สุดท้าย ต่อในไทยนะครับ อย่าลืม (แต่สั่งเหล็กจากจีนอีก ฮา..)
ปล. ผมน่าจะได้ร่วมงาน (เล็กๆ) กับเรือตรัง ครับ เห็นเค้าว่าผลงานลำแรกดีเลยจะใช้บริการผมต่อครับ หุหุ..
เกรงว่าอู่ต่อเรือจะไม่ว่างน่ะสิครับท่านเสือใหญ่ เพราะต้องต่อเรือฟริเกตลำที่ 2 นอกจากจะให้อู่ต่อเรือเอกชนในไทยทำ แต่ผมแทงว่ามาจากจีนทั้ง 2 ลำแหละ ปัญหาคือ ระบบอาวุธและเซนเซอร์ต่าง ๆ จะเป็นของตะวันตกทั้งหมดเหมือนเรือหลวงปัตตานี หรือเป็นของจีนหมดแบบเรือหลวงบางปะกง และในเมื่อเป็น OPV จะเหลือแค่ปืน 76/62 มม.กับ 30 มม.เท่านั้นหรือเปล่า
ถ้าจีนล้วนและไม่มีระบบปราบเรือดำน้ำ คือไม่ติดโซนาร์และตอร์ปิโด ราคาเรือบังคลาเทศอยุ่ที่ 100 ล้านเหรียญได้ตามภาพเลย (เขาจัดเป็นเรือคอร์เวต) เพียงแต่บังคลาเทศอาจได้ราคาพิเศษจากจีนเลยถูกลงมานิดส์
ส่วนจรวดต่อสู้เรือรบ ถ้าของจีนก็ C-802A เช่นเคยแหละครับ เพราะเป็นตัวส่งออกของ C-803
อ้าว ซะงั้น..
ถ้าสลับกัน พอต่อเรือตรังเสร็จ เราค่อยต่อ Type056 อีก 2 ลำ แล้วให้แดวูต่อฟริเกตสมรรถนะสูงลำที่ 2 แทน จะดีกว่าไหมครับ
ถ้าได้แบบ Type056 มาครบๆ เครื่องตัดเหล็กเลเซอร์ อรม. เราก็มี อู่แห้งที่มีอยู่อู่เดียวของ อรม. เราก็กั้นครึ่งหลังซะก็พอจะต่อเรือได้ เว้นครึ่งหน้าไว้ให้เรืออื่นหมุนเวียนเข้ามาซ่อมทำ และยิ่งถ้าเราสร้างอู่แห้งเพิ่มได้อีก 1 อู่ มีเจนติ้งเครนทาวเวอร์เครนแรงยกหลายๆ ร้อยตันหน่อย แถมด้วยหลังคาคลุมกันแดดกันฝนด้วยเอ้า เราก็จะสามารถต่อเรือได้ที่ละสองลำเลย ไม่ต้องรอ 2-3 ปี ต่อลำ ใครที่ว่าจริงใจอยากช่วยพัฒนาอุตสาหกรรมต่อเรือของเรา เร่เข้ามาได้เลยครับ
แบบเรือมี อุปกรณ์มี แรงงานช่างเทคนิคมี ชิ้นส่วนเลือกซื้อได้ทั่วโลก เหล็กตามสเปคซื้อได้จากจีน เกาหลี ญี่ปุ่น ใครถูกกว่าเอาไป ลงตัวดีงาม
เปลี่ยนปืนเรือหัว 76 มม. เป็นโอโตเมราล่า ปืนรอง 30 มม. ลองปืนจีนติดเรดาร์ดีไหม ระบบอำนวยการรบและเรดาร์ควบคุมการยิงเปลี่ยนเป็นของฝรั่ง เผื่อติดฮาร์พูน (เหมาะไหม) ดีคอยจีน ซี-แรมจีน (เอามาเหอะ อยากลอง) โซน่าร์ไม่ต้อง ฮ. EC-645M แล้วแต่ มาบ้างไม่มาบ้างก็ได้ สรุปคือ เป็นเรือโอพีวีมาตรฐานเรือรบ หรือเรือคอร์เว็ตเทียม (ไม่ตรวจับ-ไม่ปราบ ด.) มีปืนหัว มีปืนรอง มีซี-แรมจีน มีปลั๊กเสียบฮาร์พูน แล้วก็เรดาร์ควบคุมการยิง-ระบบอำนวยการรบฝรั่ง แบบเรือจีน ต่อในไทย ลำละไม่เกิน 4 พันล้านบาท เป็นไปได้ไหมครับ ?
4,000 ล้านต่อลำนี่หีดจับ อาจต้องใช้ปืน Oto 76/62 มม.Rebuild กับปืน 20 มม ของแอฟริกาใต้กระบอกล่ะ 10 ล้านบาท ส่วนจรวด SAM จัดหาต่างหาก มันจะแพงตรงระบบอำนวยการรบกับเซนเซอร์ทั้งหลายนี่แล
ผมติงเรื่องพื้นที่ใช้สอยถ้าคิดว่าเป็นเรือ OPV คือถ้าจับประมงเวียตนามกลางทะเลอาจต้องนั่งตากแดดที่ลานจอด คือไม่รู้ว่าใต้ลานจอดมันเป็นพื้นที่ว่างมากน้อยแค่ไหน อย่างเรือ OPV ฝรั่งมักทำให้ว่างโล่งไปเลย เอาคนมานั่ง ใส่ตู้คอนเทนเนอร์ ใส่โซนาร์ลากท้าย กระทั่งบรรทุกทุ่นระเบิดก็ยังไหว Type056 ใส่โซนาร์ลากท้ายได้เหมือนกัน แต่ไม่รู้ขนาดพื้นที่ อ้อ ตรงนั้นต้องโหลดเรือยางด้วย 1 ลำ (มีช่องปล่อยอยู่ซ้ายมือ) น้อยลงไปอีก หว่า.....
แผนท่านเสือใหญ่ผมชอบเลยนะ ต่อ Type056 ในไทย ต่อเรือฟริเกตที่เกาหลี แต่ทร.คงไม่คิดแบบเรา อาจมองว่าโอกาสต่อเรือรบแท้ ๆ ใหญ่ขนาดนี้คงไม่มีอีกนานแสนนาน ก็เลยเลือกงานช้างดีกว่า เล็ก ๆ มิต้าไม่ ฮ่า ฮ่า ;)
ว่ากันตามหลักฐาน เรือ OPV ลำที่ 3, 4 และเรือฟริเกตลำที่ 2 ค่อนข้างสำคัญกับเรามาก และควรเข้าประจำการภายใน 5 ปีถ้าทำได้ เราต้องการม้างานที่ทันสมัย อเนกประสงค์ รองรับอากาศยาน ใหญ่กว่าเดิม และหมดกังวลว่าจะไปมีปัญหากลางทะเล ส่วนเรือดำน้ำรอไปอีกหน่อยก็ได้ ไม่จำเป็นต้องดันทุรังเอามาก่อนแต่อย่างใด
ที่ว่าสำคัญ เพราะเรือรบผิวน้ำขนาดใหญ่จำนวน 4 ลำเก่ามากเต็มที เรือหลวงพุทธ 1 ยังไงก็ต้องปลดประจำการ เพราะตำแหน่งบรรจุเยอะมาก ขณะที่เครื่องยนต์กลไกไม่ไหวแล้ว เรือหลวงมกุฎเห็นว่าตอนนี้เป็นเรือฝึก ผมอยากให้ถอดปืน 40 มม.แท่นคู่ไปใส่ลำอื่นจัง (แต่คงเป็นไปไม่ได้) เรือหลวงตาปี เรือหลวงคีรีรัฐ ทุกวันนี้ก็เป็นเรือตรวจการณ์ไกลฝั่ง ยังพอถูไถได้บ้างโดยเอาลำใหม่มาแทนที่ ส่วนลำเก่าใช้ตรวจตรวจการณ์ไม่ไกลฝั่งเท่าไหร่ก็ได้ เรือพวกนี้ต่อที่อเมริกา 3 ลำและอังกฤษ 1ลำ คุณภาพค่อนข้างดีแต่ชราภาพตามอายุไข
ได้เรือ OPV ไป 2 ลำเฮียน่าจะพอใจแล้วนา อย่าเอาอะไรกับอั๊วนักเลย เหอ ๆ ๆ ๆ ๆ
ถ้าจะเอาแบบคุณ rayong อย่างนั้นก็ปรับปรุงเรือเจ้าพระยาไม่ดีกว่าเหรอครับ น่าจะถูกกว่าด้วย
แล้วก็ซื้อเรือตรวจการณ์มาไม่ต้องติดไรเยอะแยะ มีปืน 76มม.กระบอกนึง ไม่ใช่เอาโอพีวีมาอัดอาวุธเป็นเรือรบแล้วเอาเรือรบถอดอาวุธไปเป็นเรือตรวจการณ์มันเหมือนจะลำบากเปล่าๆ
งั้นผมลองไปหาข่าวเรื่องเรือแดวูลำที่ 2 กับโครงการปรับปรุงอู่ อรม. ก่อนดีกว่า เผื่อว่าได้ยินได้ฟังอะไรมาเพิ่ม จะได้พอคาดเดาสิ่งที่จะเกิดขึ้นในอนาคตได้
ผมเห็นด้วยที่จะสร้างอู่แห้งกับอุปกรณ์สิ่งอำนวยความสะดวกในการต่อเรือซ่อมเรือของ อรม. เพิ่มเติมนะครับ เจนติ้งเครน 75 ตัน ของลีบแฮร์มันไม่พอยกชิ้นส่วนอุปกรณ์อะไหล่เรือหรอกครับ ต้องอาศัยโมบายเครนช่วยตลอด ไม่รู้เป็นของ อรม. เองหรือจ้างเอกชนข้างนอกเข้ามา แต่อยากให้มีอู่ใหม่ไว้สำหรับต่อเรือขนาดเล็ก-กลาง ไม่เกิน สองพันกว่าตัน อย่างโอพีวี คอร์เวต อะไรทำนองนี้ ระดับสามสี่พันตันประเภทฟรีเกตขึ้นไปให้คนที่ชำนาญเค้าต่อไปเถอะครับ รูปแบบเทิร์นคีย์ที่แดวูได้งานไปก็ดีแล้ว รับผิดชอบทุกอย่างในวงเงินที่กำหนดไว้แต่แรก ถ้าเรือเอียงท้ายห้อยแล่นทำความเร็วไม่ถึงสเปค หรืออินติเกรดระบบนั่นโน่นนี่ไม่เข้ากัน แดวูก็ต้องรับผิดชอบไปเต็มๆ
แต่ถ้าเราต่อเรือแดวูเอง จะด้วยเหตุผลอะไรก็แล้วแต่ เรือที่เราต่อเองมันดันไม่ได้สเปค ใช้งานได้ไม่เต็มที่ เราก็ไม่รู้จะเรียกร้องอะไรกับใคร ทร. ก้อต้องเสียเงินแก้ไขเพิ่มเอง เห็นว่าเรือกระบี่ก็แล่นไม่ได้ความเร็วตามสเปคนี่ครับ อะไรทำนองนั้น (ขออภัยหากผิดพลาดสับสน)
อ้างถึง กระทู้เก่าท่าน superboy
ผมก็เคย เดา ไว้ ประมาณต้นปี 2559 ว่า...ถ้า ทร. จะต้องการ เรือ OPV ให้เพียงพอกับความต้องการจริง ๆ แล้ว...เรือ OPV ลำที่ 3 และ 4 คงต้องจัดซื้อจาก จีน...เพราะ เป้าหมายหลัก ทร. คงต้องการ ต่อเรือ ฟริเกตสมรรถนะสูง ลำที่ 2 เอง...ซึ่ง ศักยภาพของ ทร. คงไม่มีความสามารถจะต่อเรือทั้ง 2 แบบ ไปพร้อม ๆ กันได้...ซึ่งกว่า งบประมาณเรือ OPV ลำที่ 3-4 จะออกมา ก็คงจะพอดีกับ งบประมาณ เรือฟริเกตสมรรถนะสูงลำที่ 2 ออกพอดีเหมือนกัน...
ก็คงต้องลุ้นต่อไปว่า...โครงการ เรือดำน้ำ แม้จะมาเพียง 1 ลำ ก็จะเป็นตัวถ่วง งบประมาณของ ทร. ประมาณไหน...เพราะ ค่อนข้างเชื่อว่า...งบประมาณเรือดำน้ำ 12,000 ล้านบาท นี้ น่าจะเป็นเรื่องของ เรือดำน้ำ อย่างเดียว...อุปกรณ์และเครื่องมือ และอาวุธต่าง ๆ คงต้อง งอก ออกมาเป็นงบประมาณใหม่แน่...แต่ที่ แน่ ๆ คาดว่า อะไรที่ ทร. เคยวางแผนไว้ สำหรับ เรือดำน้ำ ฝั่งตะวันตก นั้น ...คงแทบจะต้องรื้อทิ้งทั้งหมด แล้วมาตั้งงบประมาณใหม่ เริ่มต้นใหม่ กับ เรือดำน้ำจีน...รวมถึง งบประมาณที่ ทร. เคยสูญเสียกับแบบจำลองการฝึก คงต้องเสียเปล่า แล้วมาจัดวางการฝึกใหม่...เพราะก็ คิดว่า (ความเห็นส่วนตัว) การวางระบบสื่อสาร หรือ ยุทธิวิธี คงต้องเปลี่ยนแบบ หน้ามือ เป็น หลังเท้า กันเลยทีเดียว...
ข้อมูล ประมวลจาก
1. โครงการจัดหา เรือดำน้ำ จำนวน 2 ลำ (ไม่ใช่ความหมาย เรือดำน้ำจีน จำนวน 3 ลำ นอกเหนือจำนวนโครงการ)
2. เป้าหมาย ต่อเรือ ฟริเกตสมรรถนะสูง ภายในประเทศ
3. ความต้องการเร่งด่วน เรือตรวจการณ์ไกลฝั่ง ทดแทน เรือฟริเกตเก่า ที่กำลังจะถึงกำหนดอายุปลดประจำการ เรือชุดตาปี และ ร.ล.มกุฎฯ แต่ด้วยศักยภาพการต่อเรือฟริเกตสมรรถนะสูง พร้อมกับ เรือตรวจการณ์ไกลฝั่ง ไม่สามารถดำเนินการไปพร้อม ๆ กันได้
ประเมินงบประมาณเบื้องต้น ตาม สเปค กองเรือ เท่านี้ ภายในระยะเวลา 10 ปี...
ผมว่า แค่นี้ งบประมาณ กองทัพเรือ ก็ หืด ขึ้นคอ แล้วครับ...
แล้วลองนึกถึง ถ้ามานั่ง ลองเสี่ยง เรือดำน้ำ สัก 1 ลำ...ตามที่ผมเคยประเมินว่า...ไม่มีทางที่ จีน จะให้ซื้อเพียง 1 ลำ แน่นอน...จำนวน 3 ลำ ต้องมาเต็มจำนวน...กองเรือเป็ดง่อย...ตามที่เคยประเมินไว้...คงไม่ไกลจากความคิด สักเท่าไหร่....
ส่วนตัวได้ข้อมูลมาว่าเรือหลวงตาปีจะปลดประจำการในช่วงปี 2 ปีนี้ (รวมถึงเรือเร็วโจมตีอีก 2 ชุด) ไม่แน่ใจว่าถ้าจัดหาเรือ Type-056 จริงจะมาทดแทนในส่วนนี้รึไม่เกี่ยวข้องกันนะครับ แต่ถ้าไม่เกี่ยวข้องกันก็อาจเป็นไปได้ว่า ทร.อาจจะจัดหาเรือชั้นนี้เพิ่มเพื่อมาทดแทนเรือหลวงตาปีก็ได้นะครับ ถ้า ทร.ไม่มีโครงการจัดหา high end ฟริเกตเพิ่ม
ส่วน Type-056 ถ้าจัดหามาจริงอยากให้เป็นรุ่น ASW มีระบบโซน่าครบๆครับ จะได้มีเรือราคาปฏิบัติการไม่สูงมากเอาไว้ออกตรวจการณ์ด้านนี้บ่อยๆ มีซัก 4 ลำน่าจะช่วย ทร. ได้มาก (แต่แอบเสียดาย Incheon class ครับแอบเชียร์อยู่)
ภาพใหญ่ไปขออภัยครับ
มันก็ไม่เชิงว่าจะเป็นกองเรือเป็ดง่อยหรอกครับ ท่าน Judas คือน่าจะบวกเป็ดขี้เหร่ รวมไปด้วย ต่างหาก และมันจะเป็นกองเรือรบที่หลากหลายชนิดซะจน น่าเวียนหัว (แต่ดูๆแล้วน่าจะลงตัวที่สุดทั้งผลประโยชน์ส่วนตนและประเทศชาติ หุหุหุ)
หมวดกองเรือตวรจกาณ์ OPV ที่ 3 น่าจะดูดีที่สุดแหละ ส่วน หมวดที่ 1 กะ ที่ 2 กับเรือ Type 056 เป็นรายการคุณขอมา.
เรื่องเรือฟรีเกตสมรรถนะ...... ลำที่สอง ผมขอเชียร์ให้ต่อเองครับ ถึงมันจะมีปัญหา เพราะถ้าไม่เริ่มวันนี้ วันข้างหน้าเราต้องจ้างเค้าต่อเรืออยู่ล่ำไป เพิ่งพาตัวเองไม่ได้ซักที แต่ก็ขอภาวนาให้บรรดาช่างต่อเรือเก่งๆ ยังอยู่กันครบ ไม่หนีหายกันไปซะก่อน เชื่อว่ากว่าจะถึงวันนั้น พวกเค้าคงจะเริ่มชำนาญในงานต่อเรือมากขึ้นเรื่อยๆ จากเรือ OPV กระบี่ และ ตรัง
ส่วนเรือดำน้ำ ผมว่างานนี้ ทร. คงแก้ลำ คนในรัฐบาลด้วยการทยอยซื้อทีละลำ จนถึงแค่ลำที่สอง น่าจะไม่มีต่อลำที่สาม เพราะจริงๆความต้องการเดิมของกองทัพเรือ ต้องการแค่นั้น คือประหยัดงบไปทำอย่างอื่นดีกว่า (เรือดำน้ำลำที่สาม อาจมีเบี้ยว )
ท่าน tow ในความเห็นผม สำหรับเรือ Type-056 ถ้าจะมา...ผมว่า มาแบบ เรือชุด ปัตตานี น่าจะกำลังดีครับ...
เพราะ เรื่องระบบอาวุธเซ็นเซอร์ต่าง ๆ ของ จีน...ผมว่า อายุใช้งานเขาต่ำมาก...ตามข้อมูลในอดีต เช่น โซนาร์ ของเรือชุดเจ้าพระยา ก็รู้สึกจะหมดสภาพในระยะเวลาอันสั้น...
เรือชุด Type-056 เป็น เรือตรวจการณ์ไกลฝั่ง ปืน อย่างเดียว....เอางบประมาณจัดสร้าง ที่อาจจะสูงกว่าปกติ เพื่อให้ จีน ใช้เหล็กคุณภาพแทน...เพราะ เรือของ บังคลาเทศ กับ ไนจีเรีย...ผมว่า เรือมันดู ก๊องแก๊ง ยังไงไม่รู้ครับ...ผมก็อยากให้เวลามันผ่านไปเร็ว ๆ เหมือนกัน...
อยากจะทราบความรู้สึกของ กองทัพเรือบังคลาเทศ และ ไนจีเรีย ว่ามีความประทับใจ อย่างไรบ้าง...สว่นตอนนี้ ก็กำลังหาข้อมูลของ กองทัพเรือปากีสถาน ที่ต่อเรือ P-22 จากจีน ว่ามีประสบการณ์อย่างไร...แต่ยังหาข้อมูลไม่เจอ...อาจจะด้วยระยะเวลายังไม่นานเท่าไหร่...
ซึ่งผมประเมินว่า การมีแผนติดตั้ง อาวุธนำวิถีให้กับเรือชุด ปัตตานี ก็น่าจะเพื่อทดแทน เรือเร็วโจมตีติดอาวุธนำวิถี ของ กองเรือตรวจอ่าว ที่จะปลดประจำการ...รวมถึง เรือตรวจการณ์ไกลฝั่ง ลำใหม่นี้ด้วย...ที่ติดอาวุธนำวิถี ก็เพื่อมาทดแทน เรือผิวน้ำติด อวป. ของ กองเรือตรวจอ่าว ที่ปัจจุบันแทบจะไม่มีสักลำ...
ส่วน ร.ล.ตาปี ผมว่า อาจจะเป็นไปได้ ถ้า เรือตรวจการณ์ไกลฝั่งลำใหม่ นี้ สร้างเสร็จ อาจจะปลดไปในช่วงระยะเวลานั้น...เพราะถ้า ปลดในระยะเวลาอันใกล้นี้...อาจจะพานให้ เรือชุด กระบุรี ต้องมารับภาระ เรือตรวจการณ์แทน...ซึ่ง อาจจะทำให้ เรือหมดอายุเร็วไปกว่าที่ควรก็ได้...ก็ขนาดต้องซื้อ กล่องเปล่า มาจำลองบนเรือ...เพื่อลดความเสียหายที่อาจจะเกิดขึ้นกับระบบอาวุธนำวิถี...
ภาพเรือเปรียบเทียบ Type-056 ของ บังคลาเทศ ขนาด 1,300 ตัน กับ ของ จีน ขนาด 1,500 ตัน...
ผมเลยคิดว่า ถ้า ทร. จะจัดหา Type-056 จาก จีน ก็เอา ขนาด 1,500 ตัน ทำแบบโครงการ เรือชุดปัตตานี...อาจจะดีกว่า...
จากภาพเปรียบเทียบ แค่ สะพานเดินเรือ ก็แตกต่างกันแล้วครับ....และดูในภาพรวม ๆ ความคมของเส้นเรือ ดู เรือบังคลาเทศมันคมกว่า ยังไงไม่รู้...เหมือนเหล็กมันบางกว่า...
หรือ Type-056 รุ่น ยามฝั่ง แล้วติดปืน 76 ม.ม. กับ DS-30 ม.ม. ก็น่าจะอยู่ในงบประมาณ...แล้วใช้งานมันให้คุ้ม แม้สมมติว่า มันจะพังเร็ว ก็คงไม่น่าเสียดายเท่าไหร่....
เสียดายแบบเรือ ไทย ที่ภาพหลุด แล้วไม่ได้เกิด เจอ ใครขอมาตามกระแล
สุดแสนเสียดายเรือ 8513<57_84>:;: แบบดีกว่า056อีก ไหนๆก่อไหน เอา054มาแทนเจียงหูด้วยดิ เอามาแก้ตัวหน่อยเฮีย
ใช้ไปสักก่ออัพเกรด ตามระบบ เข้าแถวรอคิวรอเลย หมดตัวพอดี อิๆ
เห็นตามท่านจูลทุกประการ ตรวจปืนพอ
ต้องไปดูงานเสธลอดช่องนะ เรือเขา ออกแบบ สามมติ รองรับวันหน้า มุมมอง ...
แปดล้อยังไม่ออกข่าวอีกเหรอว่าใคร......
เห็นด้วยว่าเรือจีนตรวจการณ์ปืน
แล้วซื้อเรือเร็วอวป.มาใหม่ดีกว่า อาจจะประหยัดงบประมาณกว่าอีก เรือตรวจอ่าวจับประมงก็ทำหน้าที่ไป ไม่ต้องหิ้วกล่องอวป.ไปตากแดดตากฝน เดี๋ยวพังเร็ว เรืออวป.ก็ไว้ใช้เวลารบ
เพิ่งสังเกตุว่า Type 056 ของจีนติดปืนรองไว้ใกล้หอบังคับการณ์ด้านข้างเสากระโดง แบบนี้เราใส่ DS-30MR แล้วใช้เรดาร์ควบคุมการยิงตัวเดียว แบบเรือหลวงกระบี่ได้เลย ประหยัดได้อีก
แต่เวอร์ชั่นหน่วยยามฝั่งสวยดีแฮะ ราคาถูกกว่าแน่นอน ห้องควบคุมการบินอลังการงานสร้างมาก
ปืนที่ท่านเสือใหญ่อยากให้ลองใช้กระบอกนี้หรือเปล่าครับ ลำกล้องมันดูสั้น ๆ พิกล ของตะวันตกจะยาวไปถึงไหน
ก็ดีนะ จะได้รู้กันไปว่าเหล็กของเรือจีนยุคใหม่มันดีขึ้น กว่าเดิมหรือเหมือนเดิม วัดกันที่เรือ type 056 กันนี่แหละ
ใช่แล้วครับท่าน superboy ลูก 30 มม. กระบอกสั้นจุ๊ดจู๋ มีลูกกลมๆ ออฟติคอล เค้าว่ามันเป็น RWS ชื่อ H/JP-17 หาข้อมูลที่เหลือไม่เจอครับ อยากลองๆ
คือมันดูเหมือนว่า H/JP-17 ใช้ควบคุมการยิงแบบอิเลคโทรออฟติก สแตนด์อโลน ไม่ต้องแย่งเซนเซอร์ควบคุมการยิงกับใครเค้า ตั้งแบบรีโมตออโตก็ได้ แมนนวลก็ยังได้ ที่พยายามหาแต่ยังไม่เจอก็คือ อัตราการยิงครับ เห็นพี่ๆ น้องๆ คุยกันเรื่องอัตราการยิงของ DS-30 แล้วก็ไม่ค่อยจะอุ่นใจว่ามันจะพอทำหน้าที่ CIWS ได้ดีไหม แต่เห็น TYPE056 มี ซี-แรม จีน FL-3000N / HHQ-10 ใช้เป็น CIWS อยู่แล้ว เลยคิดว่า H/JP-17 ก็คงได้แค่เป็นปืนรอง และคงะยิงได้ช้าพอๆ กับ DS-30 มั้งครับ แบบนี้ใช้ DS-30 ติดรีโมตดีฝ่า
งั้นขอเปลี่ยนไปเชียร์แห่ CIWS จีน FL-3000N / HHQ-10 ดีกว่าครับ คือโอพีวี มันควรจะมีปืนหลัก 76 มม. ปืนรอง 30 มม. แล้วก็ CIWS 1 ระบบอย่าง ซี-แรมจีน ระยะยิง 9 กม. ความเร็ว 2.5 มัค ดูดีทีเดียวครับ
ไม่รู้ว่าหนักขนาดไหน และราคาเท่าไหร่ ?
ถ้าจัดงบประมาณสำหรับเรือ OPV ที่ 7,200 ล้านบาท ไว้
แล้วถ้าเราซื้อ TYPE 056 จากจีนจริง ก็น่าจะขอดีลพิเศษแบบเดียวกับบังกลาเทศได้อยู่ (คิดว่า) เฉลี่ยลำละ 100 M.USD
งบจัดซื้อเมื่อหัก ภาษ๊ 7,200 ล้าน คงเหลือ 6,696 /2 = 3,348 ล้านบาท อัตราแลกเปลี่ยน 1 USD= 35.5 THB
ราคาตกประมาณ 94.3 M.USD โดยราคานี้ซึ่งไม่รวม Antiship missile C802A ก็น่าจะจัด SEA RAM ของจีนมาพร้อมกับเรือ TYPE 056 ได้อยู่นะครับ ซึ่ง SEA RAM น่าจะราคาถูกว่า C802A. จัดซื้อเรือ 2 ลำ ดูแล้วไม่น่ายาก
ท่าน ObeOne คำนวนผิดครับ ถ้าเรือจากจีนลำล่ะ 100 ล้านเหรียญ ราคารวมภาษีเท่ากับ 107 ล้านเหรียญ ราคาต่อลำอยู่ที่ 3,798 ล้านบาท นี่คือได้ปืน 76 มม. และ 30 มม.จากจีน ระบบอำนวยการรบโพไซดอน 3 ระบบ ESM ไม่รู้มีหรือเปล่า เรดาร์จีนยกเซต
จีนไม่ยอมจ่ายภาษีให้เราแน่นอน ราคาที่ว่าผ่านมาแล้ว 2-3 ปีด้วย เอามาติด Link RTN IFF ESM มาตราฐานทร.อะไรพวกนี้ ก็มีแววทะลุ 4,000 ล้านบาทแล้ว ผมถึงว่าถ้าเอาระบบตะวันตกใส่เข้าไป ราคา 4,000 ล้านนิด ๆ น่าจะไม่มีจรวดต่อสู้อากาศยานด้วยซ้ำ
นี่คือเอาราคาเรือบังคลาเทศเป็นที่ตั้ง เป็นประเทศที่ซื้อเรือดำน้ำจีน 8 ลำรวด (ตัดเกรดสุงกว่าเราลิบเลย) เราไม่มีทางได้ราคาต่ำกว่า 100 ล้านเหรียญ เพราะว่ากันตามตรงมันเป็นเรือรบไม่ใช่เรือตรวจการณ์ ต้นทุนในการต่อสุงกว่าแน่นอน
นอกจากจะไปเวอร์ชั่นเรือยามฝั่งและต่อด้วยมาตราฐานเรือ OPV ก็สวยดีนะผมชอบ
ท่าน superboy เรือดำน้ำมิ๋งค์ เก่า 8 ลำ เนี่ยนะ คือผมว่าจีนไม่ค่อยแฮปปี้ซักเท่าไรหรอก ดีลของบังกลาเทศนะ มองดูแล้วดีกว่าแค่ว่าไม่ต้องเสียเวลาเอาเรือที่กำลังจะปลดประจำการไป ลื้อทิ้งเป็นเศษเหล็กแค่นั้นแหละ
แล้วแพคเกจ เราก็ไม่ได้น้อยหน้าไปกว่าบังกลาเทศนะครับ ทั้งเครื่องบินลำเลียงเอย รถถัง VT-4 เอย เรือดำน้ำเอย โอยแล้วไหนจะระบบรถไฟความเร็วสูงสาย ตอฉน. หุหุหุ ราคานั้นก็น่าจะสามารถ บีบจีนได้อยู่นะครับ ( คือ ถ้าลื้อม่ายขายให้อั้วราคานี่ ลื้ออดไปอีกนานเลยนะจะบอกให้ พร้อมกับกัดฟัน กรอดๆ) เรือ TYPE 056 จำนวน 2ลำ โดยมีระบบจีนครบ ยกเว้น Anti ship missile ผมมองว่าน่าจะเป็นไปได้อยู่ อีทั้งต้องลุ้น ค่าเงินบาท ณ.วันที่เราจะอนุมัติสั่งซื้อด้วย ถ้าแข็งค่าไปอยู่ที่ 33.5 บาทต่อดอลล่า ก็มีลุ้น ที่ 107 M.USD
ส่วนระบบ IFF และลิงค์อื่นๆ ผมคิดว่าทร.น่าจะสามารถเล่นแร่แปรธาตุจัดหาแยกต่างหากในภายหลัง จากที่ได้รับเรือจากจีนมาแล้ว คือจัดงบประมาณอัพเกรดเรือลาดตระเวนไกลฝั่ง อะไรทำนองนั้น ทร.เค้าเก่งอยู่เรื่องพรรค์นี้ หุหุหุ
มันไม่สำคัญว่างบฯทร.ไปจัดไว้ในไหน มันก็คือราคาที่เราต้องจ้ายเพื่อเรือนี้ ต่อให้ได้เรือมาฟรีแล้วไปอัพเกรดด้วยงบฯอื่นๆ 4000 ล้านก็คือเราจ่ายเพื่อเรือนี้ 4000ล้าน ไม่ใช่ได้เรือฟรี
มันเป็นเรื่องของอนาคตนะครับ มันสามารถเปลี่ยนแปลงได้ขึ้นอยู่กับปัจจัยทางเศรษฐกิจ และอีกอย่างเรือ OPV อย่างเรือ หลวง ปัตตานีที่วางแผนไว้จะจัดหา Anti-ship missiles ก็ยังเป็นแค่แผนไม่รู้ว่าอีกกี่ปีจะได้ซื้อ จุดประสงค์หลักๆของกองทัพเรือน่าจะเร่งจัดหาตัวเรือมาก่อนแล้วค่อย อัพเกรดจัดหาอาวุธกันภายหลัง
ส่วนเรือ Tpye 056 มันไม่ฟรีอยู่แล้วครับ แต่ที่คุยกันคือ จะได้มาในราคาที่คุ้มกับอาวุธที่ติดมาด้วยไหมซึ่ง ตามที่ท่านเสือลุ้นอยู่คือ เจ้า FT3000n กับ TY-90 หรือ SEA RAM ของจีน ซึ่งมองดูแล้วเมื่อเทียบกับดีลของบังกลาเทศ ราคางบที่เราเตรียมไว้ มันก็มองดูแล้วก็แค่ว่ามันมีลุ้น ไม่ใช้ไม่มีเลยซะทีเดียว
ถ้า ไทพ์ 056 รุ่นยามฝั่งมันไม่กระป๋องเหมือนเรือเจ้าพระยา หรือ เรือปัตตานี (ได้ยินเค้าลือกัน) ผมว่าเราเอาแบบนี้มาต่อในไทยดีกว่า เอาให้ครบฟลีตโอพีวี ที่ ทร. ตั้งใจไว้แต่แรก (7-8 ลำ ใช่ไหมครับ) เพียงแต่ขอปืนหัว 76 ปืนรอง 30 ปืนรองสุด บราวนิ่ง .50 + ซีแรมจีน ผมว่าราคาเรือน่าจะน่าคบหาและเป็นมิตรกับกระเป๋าตัง (เหี่ยวๆ) ของ ทร. นะครับ
ส่วนไทพ์ 056 รุ่น คอร์เวต เอาไปแทนเรือรบที่กำลังจะปลดนะครับ เรือตาปี เรือคีรีรัฐ เรือชุดปราบปรปักษ์ เรือชุดราชฤทธิ์ (ด้วยหรือ ?) คือไม่ต้องทดแทนกันลำต่อลำก็ได้ 4-6 ลำ ราคาจะถูกหรือแพงขึ้นกับว่ารวมภารกิจ ASW ด้วยหรือไม่ ต้องมีโซนาร์ ต้องมี ต. ปราบ ด. ด้วยไหม
นี่ถ้าไม่มี ด. จีน 36,000 ล้านบาทให้ต้องมากุมขมับปวดหัว อะไรๆ ก็น่าจะขยับกันได้อีกเยอะครับ ถ้าจีนรู้ว่าเราเงินไม่มีก็น่าจะหาเงินกู้ดอกเบี้ยร้อยละหนึ่งมาให้ + ให้ทยอยซื้อทยอยจ่ายทีละลำได้ รับรองดีลนี้ไม่หลุดมือไปไหน ว่าแต่จีนจะยอมหรือครับ โครงการ ด. 3 ลำ ใน 10-12 ปี ล้มได้ก็ดีนะครับ ไปซื้อเรือ ส. เยอรมัน เกาหลี แทน หรือไม่ก็แปรงบเรือ ด. ไปเรือผิวน้ำ จะได้อะไรดีๆ อีกเยอะครับ
อ่อ หมายถึงรอวัดอัตราแลกเปลี่ยนเอาเลยเหรอครับ
เรื่องเงินกู้จีนผมว่าดูฟอร์มจากโครงการรถไฟความเร็วสูง ถ้าจะกู้เงินซื้อด.จีนคงกินดอกสูงแถมบังคับกู้ด้วย ห้ามกู้ชาติอื่น ฮา
คือมันไม่มีอะไรทำไม่ได้หรอกครับถ้ามันเป็นความร่วมมือระหว่างหน่อยงานรัฐบาลด้วยกัน การแทรกแทรงค่าเงินระหว่างรัฐบาลกับธนาคารแห่งประเทศไทยมันมีมาทุกรัฐบาลนั้นแหละ อันนี้ คือผมมะโนเอา หุหุหุ
แต่จริงๆคงไม่ต้องถึงขนาดขั้นนั้นหรอก( เรือ OPV มูลค่าไม่ได้สูงมากมายอะไร) แค่เจรจาขอจากทางจีนไปตรงๆก็แค่นั้นแหละ บวกกับ รูปแบบการซื้อ แบบ G-to-G จะเอาสินค้าเกษตรอะไรไปแลกเพื่อให้ได้เรือตามความต้องการกับส่วนต่างในราคาที่ไม่ได้มากมายอะไร ดูแล้ว ราคา SEARAM ของจีนบวกระบบอำนวยการรบ FCS ไม่น่าเกิน 10 M.USD.....
แต่ถามว่ามันจะเป็นไปได้ไหม ผมว่ามันเป็นไปได้อยู่
ประเด็นสำคัญอีกอย่าง คือ ทร.จะเอาของเล่นใหม่หรือเปล่าเท่านั้นแหละ จบ...
เรื่องเงินกู้ ก็อย่างที่คุณ toeytei ว่าไว้นะครับ ที่ผ่านมามันแพงดอก (โครงการรถไฟความเร็วสูง) ไทยเราจึงจะทำเอง หากู้แบงค์เอง ผมจำไม่ได้ว่าจะกู้ทำรางอย่างเดียวหรือรวมวิ่งรถด้วย ไม่ทราบว่าล่าสุดโครงการมันจะไปสิ้นสุดตรงไหน ไปเชื่อมกับใคร แล้วก็ใครเป็นคนทำฟีสซิบิลิตี่สตัดดี้... ว่ามันคุ้มทุนไหม คุ้มเมื่อไหร่ (ตัวอย่างสายสีม่วงผ่านหน้าบ้านผม เศร้าใจมาก ถ้าวิ่งโบกี้เดียวได้คงวิ่งไปแล้ว) ถ้าราง 1.435 เมตร รางคู่ ไว้ขนตู้สินค้าล้วนๆ หรือผสมกับตู้โดยสารบ้าง วิ่งสัก 160 กม./ชม. จอดน้อยสถานี ไม่ต้องรอหลีกนานๆ อันนีี้ผมเห็นด้วย แต่ถ้าขนผู้โดยสารล้วน ขอโหวดโนครับ ไม่เห็นด้วย
นอกเรื่องไปโน่น เอาเป็นว่า ถ้าจีนจริงใจอยากช่วยเราสร้างกองเรือรบ อู่ต่อเรือรบ ก็เอาแบบ เอาเงินกู้ดอกถูกๆ มาให้เราซิครับ หรือจะมีเงื่อนไขเช่ามาให้เราลองใช้ก่อนก็ได้ มันถึงจะได้ใจประทับใจ แต่ถ้าเราต้องช่วยตัวเองล้วน หางบหาเงินกู้เองเพื่อไปแห่เรือจีนมา อันนี้ไม่เห็นด้วย เงินเราเองเราก็มีสิทธิที่จะไปซื้อหาจากประเทศไหนก็ได้ตามที่เราต้องการ (พูดถึงเรือหยวนนะครับ)
การแทรกแซงอัตราแลกเปลี่ยนมันไม่มีผลในทางปฏิบัติหรอกครับ อย่างมากก็แค่ควบคุมชะลอไม่ให้มันแกว่งเร็วเกิน
มูลค่าจริงมันก็ขึ้นอยู่กับตลาดโลก ถ้าอัตราแลกเปลี่ยนไม่สะท้อนความเป็นจริงก็ไม่มีใครเอา
มีผลสิครับไม่มีได้ยังไง คือ
ค่าเงินบาท มันถูกควบคุมดูแลโดยธนาคารแห่งประเทศไทย รัฐบาลทุกรัฐบาลอยากให้ค่าเงินบาทอ่อนตัวทั้งนั้น เพื่อให้การส่งออกดีขึ้น วิธีการทำอย่างไร คือ ธนาคารแห่งประเทศไทยเป็นศูนย์กลางควบคุมดูแลระบบเงินของธนาคารพานิชย์ภายในประเทศไทยสามารถโยกเงินในระบบ ไปซื้อ ดอลล่าร์ เพื่อทำให้ค่าเงินบาทอ่อนตัวลงมายังไงล่ะ เพราะฉะนั้น การทำแบบนี้จะส่งผลทางจิตวิทยา ให้บรรดานักธุรกิจหรือนักเกร็งกำไรค่าเงินต้องพากันเทขายเงินบาทออกไปด้วย (ขืนไม่ขายตามก็ขาดทุน)
และถ้าต้องการให้เงินบาทแข็งค่าขึ้นก็นำเงินที่โยกไปแล้วกลับมาซื้อเงินบาทคืน
แต่มีเหตุผลบางประการที่ไม่สามารถควบคุมได้ไปตลอด เพราะมันอยู่ในกลไกลตลาดมันจะไปกระทบกับธุรกิจโดยภาพรวม กับบรรดาลูกหนี้ที่ไปกู้เงินจากต่างประเทศมา จะซวยกันหมดคือต้องจ่ายหนี้แพงกว่าปกติ
สามารถทำได้ไหมในระยะสั้น คำตอบคือทำได้ครับ
ในปีนี้ เงิน 1 USD = 35.5 จากเมื่อสามเดือนก่อนประมาณ 34.5 และเมื่อต้นปี 33.5 คือการส่งออกไทยเริ่มจะดีขึ้นเรื่อยๆเมื่อเปรียบเทียบกับเมื่อปีที่แล้ว รัฐบาลท่านนายกฯประยุทธโดนโจมตีเรื่องการส่งออกที่ย่ำแย่
ซึ่งปีนี้ค่าเงินบาทน่าจะโดนแทรกแทรงมานานหลายเดือนแล้ว ถ้าสังเกตุกันดีๆ (ซึ่งนานเป็นพิเศษ)
ปล. ถ้าจะทำการแทรกแทรงค่าเงินพื่อโครงการจัดซื้ออาวุธ ก็ควรจะทำตอนช่วงที่เราจะชำระเงินนี่แหละโดยทำให้ค่าเงินบาทแข็งขึ้น จะได้ชำระหนี้โดยใช้เงินบาทให้น้อยลง ช่วงสั้นๆเท่านั้น แต่อย่างที่บอกไปคือแค่เรือ OPV ราคาไม่เท่าไร คงไม่ต้องลงทุนทำถึงขั้นนั้นหรอก
ตาม Wikipedia ภาษาจีน ปืนใหญ่กล H/PJ-17 ใช้กระสุนขนาด 30x165mm รัสเซีย อัตราการยิง 320-350rpm
ปืนใหญ่กล DS30MR ที่ติดตั้งบนเรือตรวจการณ์ไกลฝั่งชุด ร.ล.กระบี่ นั้นจะใช้กระสุน 30x173mm Mk44 Bushmaster II มีอัตราการยิงที่ประมาณ 100-200rpm
ซึ่งทั้งกระสุนขนาด 30x165mm และ 30x173mm นั้นโรงงานสรรพาวุธของไทยสามารถผลิตได้เองในประเทศ
ซึ่งก็เพิ่งจะมีการจัดหาเครื่องจักรผลิตกระสุนขนาดกลาง(Medium Caliber)ใหม่จาก NORINCO ครับ
เอ่อ ค่าเงินของเราเทียบกับ usd ที่มันอ่อนลงเพราะ usd มันแข็งขึ้นครับ เราไม่ได้ทำเอง
มันขึ้นอยู่กับอัตราดอกเบี้ยของอเมริกา แค่ fed ออกมาบอกว่าเตรียมขึ้นอัตราดอกเบี้ยค่าเงินดอลล์ก็พุ่งแล้วครับ
แล้วก็เศรษฐกิจของเขา ตลาดการเงิน ตลาดหุ้น ยิ่งหลังเลือกตั้งมันดันพุ่งซะงั้น
วิธีการโยกซื้อเงินดอลล์แบบนั้นมันได้แค่ระยะสั้นมาก ถึงบอกมันใช้เพื่อชะลอการแกว่ง(หรือรูด)ของค่าเงิน แต่ใช้เพื่อปรับค่าเงินจริงจังไม่ได้หรอก ซึ่งถ้ามันไม่สะท้อนมูลค่าสภาพเศรษฐกิจเราจริง สุดท้ายก็วอดวายเพราะมันทำหลอกตา เหมือนสมัยต้มยำกุ้งนั่นแหละ
ขอบคุณครับคุณเอก ถ้า H/PJ-17 อัตราการยิง 350 นัดต่อนาที สูงกว่า DS-30 อย่างนี้ปืนจีนก็น่าสนใจขึ้นอีกเยอะเลยครับ
คุณ toeytei
มันจะเหมือนตอนต้มยำกุ้งได้ยังไง ตอนนั้นเราใช้ระบบตระกร้าเงินคือเอาบาทไปผูกกับดอลล่าร์
แล้ว โดนโจมตีโดยการเอาดอลล่าร์เข้ามาซื้อบาท จากนายจอร์ตโซรอส เงินในระบบมันล้นเกินก็อั้นเอาไว้ไม่อยู่ เรื่องนี้มันมันเป็นความผิดพลาดของรัฐบาลชุดนั้นด้วยที่ดันประกาศค่าเงินบาทลอยตัว ไอ้พวกนักธุรกิจและจอร์ตโซรอสที่ถือเงินบาทเพื่อรอขายเกร็งกำไรมันก็พากันเทขายออกจากระบบกันหมด(จาก 25 ต่อดอลล่าร์ ลงมาที่ 55 ต่อดอลล่าร์) แทนที่จะประกาศลดค่าเงินลงมาเป็นขั้นเป็นตอน
และที่มันเกิดวิกฤต มันเพราะเรื่องหนี้เงินกู้จากต่างประเทศ มันเยอะเกินควบคุมเพราะปล่อยให้กู้เสรีกัน ค่าเงินมันลดลงมามากเกิน ลูกหนี้มันเลยพากันเจ๊งกันหมด โรงงานปิดตัว ธุรกิจที่ประกาศล้มละลาย ก็เลยซวยไปถึงสถาบันการเงิน ที่ปล่อยกู้ให้ลูกหนี้ที่ประกาศล้มละลาย พอลูกหนี้เจ๊งก็กลายเป็นหนี้เสีย หรือ NPL ไม่มีเงินไปชำระหนี้ทั้งเงินต้นและดอกเบี้ยที่สถาบันการเงินของเราในตอนนั้นไปกู้มาจากต่างประเทศเหมือนๆกัน และพอธุรกิจเจ๊งก็เลิกจ้างงาน ทุกอย่างเลยพังไปเป็นแถบๆ
ซึ่งต่างกับในปัจจุบันที่เป็นระบบค่าเงินลอยตัวอยู่แล้วการจะป้องกันการโดนโจมตีค่าเงินก็ง่ายขึ้น การปรับอัตราค่าเงินไปในทิศทางที่รัฐบาลต้องการก็ง่ายขึ้นแต่ข้อเสียก็คือเม็ดเงินจากต่างประเทศที่จะเข้ามาในระบบมันไม่เสถียร คือเข้ามาง่ายเวลาออกก็ออกไปง่ายเหมือนตอนเข้า
(ซึ่งลักษณะระบบตระกร้าเงินถ้าอยากรู้ก็ดูจีนเป็นตัวอย่างในขณะนี้ คือหยวนผูกดอลล่าร์ทำให้เงินไหลเข้าประเทศมากกว่าไหลออก แล้วสหรัฐเมื่อสี่ปีก่อนพิมพ์ดอลล่าแล้วก็ให้จอร์ตโซร่อสนำเงินไปซื้อหยวน ก่ะจะทำแบบเดียวกันกับไทย แต่จีนฉลาดรู้ทันเลยโยกเอาเงินหยวนออกนอกระบบด้วยวิธีการ ในรูปแบบของการให้นายทุนของตนเองขนเงินไปลงทุนยังต่างประเทศ ส่วนไทยเราในช่วงก่อนวิกฤตนั้นศักยภาพมันไม่ถึงขั้นจะโยกเงินไปลงทุนยังต่างประเทศได้เลยเจ๊งกับเจ๊งอย่างเดียว)
ส่วนเรื่องดอลล่าร์มันแข็งขึ้นเพิ่งจะมาพ่งเมื่อไม่กี่วันนี่เอง ลองไปsearch หาข้อมูลดูเงินบาทมันเริ่มอ่อนตัวมาตั้งแต่ปลายปีแล้วแล้ว ตั้งแต่ดอลล่าร์ละ31 บาทเศษๆ เมื่อกลางปีนี้ ลงไป 34.5 บาทแล้ว ก่อนจะเลือกตั้งที่สหรัฐ นู้น
การขึ้นอัตราดอกเบี้ยสหรัฐมันก็จะช่วยลดอัตราเงินเฟ้อในสหรัฐที่พุ่งปรี้ดอยู่ในตอน นี้ ในชั่วขณะหนึ่งเท่านั้นแหละ ล่อแมงเม่าให้เข้ามาซื้อดอลล่าร์ (ซึ่งรัฐบาลโอบาม่าแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจสหรัฐแบบมาถูกทางแล้วคือคนอเมริกันออกมาใช้เงินกันมากขึ้นจากเมื่อหลายๆปีที่ผ่านมา) เมื่อถามว่ามันประจวบเหมาะกันพอดีไหม คือแน่นอนไหลตามน้ำเลยแหละตอนนี้ มันก็ย่อมต้องส่งผลดีกับการส่งออกและเศรษฐกิจประเทศไทยด้วย
ธนาคารกลางสหรัฐ fed มันไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับธนาคารแห่งประเทศไทยนะครับ จริงระบบค่าเงินมันอ้างอิงตามระบบ ค่าเงินดอลล่าร์แข็งขึ้น เงินบาทก็อ่อนค่าลงตามอันนั้นก็ใช้ แต่ ถ้าเราจะแทรกแทรงให้ค่าเงินของเราโดยการขายเงินบาทของเราเองแล้วเอาไปซื้อดอลล่าร์เพื่อให้ค่าเงินบาทของเรา อ่อนลงไปอีกก็ย่อมจะทำได้ นี่คือหลักการง่ายๆทางเศรษฐศาสตร์ครับ คุณ toeytei
ปล. คิดว่านอกเรื่องกันมาเยอะแล้วแหละสำหรับกระทู้นี้