จากกระทู้เรื่องการแบ่งชั้นเรือ หากแบ่งตามมาตรฐานทัพเรืออเมริกา เรือรบติดอาวุธนำวิถี จะหมายถึงเรือติดตั้ง แซมพิสัยปานกลาง - ไกล เป็นอาวุธหลัก หากเป็นเรือ ลว. จะใช้ระหัส ซีจี พิฆาต ดีๆจี ฟรีเกต เอฟๆจี .................. เป็นเรื่องยาก และไม่มาก ที่เรือรบ จะถูกติดตั้งด้วยอาวุธดังกล่าว เนื่องจากต้องถึงพร้อมด้วยปัจจัยองค์ประกอบ เช่น ภารกิจ ระวางขับน้ำ ระบบตรวจจับ ระบบ คคกย. อำนวยการรบ และที่สำคัญมากๆ คือต้องมีงบประมาณ
ในอดีต มีเพียงเรือชาติมหาอำนาจ ที่รับการติดตั้งแซมพสัยปานกลาง - ไกล สำหรับเรือขนาดฟริเกตได้แก่ บรู๊ค คลาส และ โอลิเวอร์ หัดสาด เปอรี่ คลาสส ...............................
สำหรับ กองทัพเรือไทย หลังจากทุ่มงบประมาณหลายพันล้าน ให้เรือชุดนเรศวรยิง นกกระจอกทะเลวิวัฒ ได้ ก็เหมือนเป็นการยกระดับขีดความสามารถภาคอากาศ จากกองทัพเรือที่ป้องกันตัวเองจากอากาศยานได้อย่างจำกัด ก้าวเข้าสู่ กองเรือที่รบแบบจัดหนักครบ 3 มิติอย่างสมบูรณ์ หากเปรียบเทียบ ก็คงไม่ต่างจาก การที่เรามี เอดีเอฟ ซึ่งยิง บีวีอาร์ได้เป็นครั้งแรกประมาณนั้น
ในภูมิภาค เราเป็นหนึ่งในสองกองทัพเรือที่มีขีดความสามารถนี้ และในโลกนี้ ก็มีไม่กี่กองทัพเรือที่ทำได้ ...............แม้ระวางขับน้ำจะไม่มากระดับลุย เตลิดไปในทะเลลึก คือแค่ 3 พันตัน ไม่เล็กไม่ใหญ่......................... แต่ก็ทำให้วันนี้ เรามี เอฟๆจี แท้ๆ ในครอบครองแล้วถึง 2 ลำ และในอนาคตจะมาเพิ่มอีก 1 ลำ..................... ภาคภูมิใจได้นะครับ ตรงนี้
ออสเตรเลีย ประเทศเกาะ ซึ่งภูมิศาสตร์ต้องใช้กำลังทางทะเลป้องกัน เรือในประจำการจำนวนหนึ่ง แต่ที่เป็น เอฟๆ จี ก็มีแค่ 3 ลำ เป็นชั้น โอลิเวอร์ฯเก่า โดยปรับปรุงอาวุธเพิ่มใหม่ ของเดิม ยิงด้วยแซมพิสัยปานกลาง แบบ เซมิแอคถีพ สแตนดาร์ด2 ก็ติดฐานยิงแนวตั้งแบบ 8 หน่วยเพิ่มเติม ยิง นกกระจอกทะเลวิวัฒ ได้สะด้วย ซัด 2 แบบเลย
ส่วนม้างานหลักคือ เรือชั้น แอนเซ็ค มี 8 ลำ ติดตั้งแซม สแปร์โร่ว์ พิสัยใกล้แบบยิงแนวตั้ง .............
..
จริงๆ ใน วิกิ ปีเหดี่ย ถ้าใครเข้าไปแก้ได้ก็น่าเข้าไปแก้นะครับ เวป ลิสต ออฟ อีควิปเม่น อิน รอแย่ล ไทย เนวี่ หน่ะครับ
- ดี ดับบลิว 3000 เอฟ โอเค พอได้
- น็อกซ์ คลาสส แก้ จาก ไก๊เด็ด มิสไซว์ ฟรีเกต ดีกว่า ขนาด เจ้าของที่ต่อเองกับมือ เค้ายังไม่เรียกอย่างนี้เลยครับ ชาติอื่นที่มีเรือแบบนี้ก็ไม่เรียก เขาเรียก แอนตี้ ซับมารีน ฟริเกต
-ชั้นนเรศวร ถ้าว่าตามแบบไอ้กันก็โอเค เป็นชั้น เอฟๆจี เลย จะว่ามัลติโรล์ ก็ไม่ใช่ เพราะ ปราบ ด. ไม่แจ่ม ถ้ามัลติโรว์ ต้องมี แอสร็อค และ แซมพิสัยกลาง มีฮาร์พูนด้วย เหมือน แดวู 3000 เอฟ
-เจียงหู เรียก ฟริเกต เฉยๆ ดีกว่า ปราบเรือดำน้ำก็ไม่ใช่
-เรือชุด รัตนโกสินทร์ ควรจัดเป็น เรือคอเวต เฉยๆ ครับ
อย่าเอา จรวด ต่อต้านเรือรบ เป็นพระเอก ยกตัวเองเป็น ไก๊ดเด็ด มิสไซว์ XXX (ฟรีเกต คอเวต) อะไรพันนั้น เลย ครับ............
ขออภัยครับ พริกขี้หนูลูกโดด นี่คืออะไรหรอครับ 555 ในอนาคตหลังจาก sigma class กับ gowind class เข้าประจำการ ทร พวกเขาจะค่อนข้างเกรียงไกรในย่านนี้เลยนะครับ ถ้าได้ครบตามจำนวน มี FFG ที่มากกว่าเราเท่าตัวแม้ระยะยิงของ VL-Mica จะไม่กี่กิโล
ขอดับฝันนิดนึงนะครับ ในยามปรกติเรือชั้นเรือหลวงนเรศวรจะติดจรวด ESSM ลำล่ะ 4 นัด เท่ากับจรวดที่เราได้รับมาในปัจจุบัน ส่วนจรวดลีอตต่อไปอีก 16 นัดซึ่งจะแบ่งใส่เรือได้อีกลำล่ะ 8 นัด รวมเป็นลำล่ะ 12 นัดนั้น จะเก็บรักษาไว้ในคลังบนแผ่นดินหาใช่บนเรือไม่
โน่นแหละครับ.... กระทั่งคาดว่าจะมีภัยร้ายมาเคาะหน้าประตูบ้านแล้ว เรือถึงจะได้รับการโหลดจรวดเพิ่มเข้าไปอีกล่ะ 4 นัด รวมเท่ากับ 8 นัดเต็มอัตรา ส่วนที่เหลืออีกลำล่ะ 4 นัดเก็บไว้ในคลังบนแผ่นดินหาใช่บนเรือไม่ อยากให้นึกถึงจรวดฮาร์พูนที่ปรกติใส่ไว้ 4 นัด นอกจากเวลาทำสงครามถึงจะใส่ 8 นัดเต็มอัตรา คอนเซ็ปเดียวกันและปริมาณเท่ากันเป๊ะเลย
การสั่งซื้อจรวด ESSM ล๊อตต่อไป จะเป็นของเรือฟริเกตลำใหม่จากเกาหลีใต้ ก็คงประมาณ 12 นัดต่อลำ และใส่บนเรือตามที่ผมบอกไว้นั่นเอง
การสั่งซื้อจรวีอตใหม่สำหรับเรือชั้นเรือหลวงนเรศวร คงจะอีกนานพอสมควรประมาณลูกบวช ทั้งนี้ก็เพราะจรวดมีราคาค่อนข้างแพงพอสมควร ทั้งยังต้องใช้ท่อบรรจุพิเศษจึงจะสามารถยัดจรวด 4 นัดใน 1 ท่อ VLS ได้ จรวด ESSM จึงมีราคาเฉลี่ยค่อนข้างแพงกว่า NSSM เกือบ 2 เท่าอย่างช่วยไม้ได้ เพราะมันมีไอ้โน่นไอ้นั่นไอ้นี่เยอะแยะตาแป๊ะไก่ คาดเอาเองว่าคงอีกซัก 8 ปีถึงจะถึงคิดซื้อจรวดล๊อตใหม่ ก็พอดี 10 ปี จรวดของเดิมก็ค่อนข้างเก่าจนต้องเอามายิงทดสอบกันบ้าง
จรวดมีราคาเฉลี่ยแพงกว่าแอสปิเด้อย่างเทียบกันไม่ติด การทดสอบยิงคงจะมีน้อยมากจนถึงมากที่สุด ฉะนั้น อีก 7 ท่อยิงที่เหลือจินตนาการกันได้ตามสบายครับ ว่าจะเอาอะไรหรืออย่างไรมายัดใส่ให้มันเต็มทุกท่อ
ส่วนตัวไม่ได้หวังอะไรเลยครับ เพราะคาดว่ากองทัพเรือจะมีปัญหาเรื่องค่าใช้จ่ายพอสมควร จากโครงการ 36,000 ล้านเพื่อเรือดำน้ำ 3 ลำนั่นแหละครับ จบการผูกเรื่องแบบปะติดปะต่อจากข้อมูลเท่าที่หาได้ แฮร่....
ตามเอกอารอ้างอิงกองทัพเรือ หมายเลข 3504 (อทร.3504) กำหนดประเภทเรือฟริเกตในกองทัพเรือด้วยรหัส FF หมด และประการสำคัญ กองทัพเรือเราถือว่า เรือหลวงมกุฎราชกุมาร คือเรือฟริเกตติดอาวุธนำวิถีลำแรก (seacat) ของกองทัพเรือน่ะครับผม
ว่ากันตามความจริง การใส่รหัส G (Guided Missile)ต่อเข้าไปนี่มาจากอเมริกานั่นแหละ ทั้งนี้เนื่องมากจากในปี 1953 อเมริกาได้เริ่มประจำการจรวดต่อสู้อากาศยานนำวิถีด้วยเรดาร์รุ่น RIM-2 Terrier บนเรือ ก็เลยกำหนดให้เรือที่ติดจรวดติดรหัส G ต่อท้ายเข้าไปด้วย
ส่วนจรวดต่อสู้เรือรบของอเมริกา กว่าจะเป็นรูปเป็นร่างก็ปาเข้าไปตั้งปี 1970 ซึ่งในตอนนั้นรหัส G โดนยึดไปแล้วก็เลยไม่มีอะไรต่อท้าย ถ้าอเมริกาพัฒนาจรวดต่อสู้เรือรบขึ้นมาสำเร็จก่อน โดยใช้เรดาร์เป็นตัวควบคุมการยิงเหมือนกาเบรียลหรือ C-801 เรือของพวกเขาก็คงติดรหัส G ต่อท้ายเข้าไปนั่นเอง
ส่วนประเทศอื่นจะใส่รหัส G หรือไม่ก็ตามแต่สะดวก รวมทั้งประเทศไทยที่อยากจะกำหนดแบบไหนก็ได้ แต่โดยส่วนมากมักจะยืดตามแบบอเมริกา เพราะพี่แกทำรหัสเรือเอาไว้เยอะแยะมากมายคลอบคลุมเรือแทบทุกชนิด
ที่นี้จะขอแก้ตัวให้กับกองทัพเรือบ้าง ว่าทำไมจึงจัดหาจรวดต่อสู้อากาศยาน ESSM น้อยแท้ เป็นปัญหาใหญ่โตกับทุกกองทัพเรือบนโลกเลยนะครับ เรื่องการจัดหาจรวดมาใส่บนเรือรบของตนเพื่อป้องกันประเทศ เพราะจรวดยิ่งทันสมัยยิ่งยิงไกลก็ยิ่งแพง ครั้นจะไม่จัดหาเลยก็เท่ากับปล่อยให้โดนตีหัวอยู่ฝ่ายเดียว ประเทศจำนวนมากก็เลยหามาใส่เท่าที่มีพอจะมีเงิน
โดยเฉพาะจรวดต่อสู้เรือรบที่มีคุณภาพราคาก็จะแพงมาก ซื้อมาแล้วเก็บในโกดังบนฝั่งย่อมอยู่ได้นานกว่าบนเรือแน่ ที่สำคัญกว่านั้นก็คือ ถ้าเรือมีปัญหาไปติดอยู่ที่เกาะโลซิ่น หรือโดนยิงถล่มใส่จนต้องจำหน่ายในที่สุด กองทัพเรือก็ยังคงมีจรวดไว้ใส่เรือลำอื่นได้ เป็นเรื่องการบริหารความเสี่ยง Risk Management ที่จะไม่มีประเทศไหนบนโลก ยอมเอาจรวดที่มีทั้งหมดใส่บนเรือแม้ในยามสงครามก็ตาม ยังไงก็ต้องเผื่อเหลือเผื่อขาดไว้บ้างแหละน่า
ถ้าบอกว่่าเป็นระบบท่อยิงแนวดิ่งแล้วไม่โดนน้ำทะเลผมก็ต้องขอค้าน เนื่องจากระบบ VLS ก็ต้องมีการซ่อมบำรุงตามวงรอบเช่นกัน แถมยังต้องดูแลมากเป็นพิเศษเพราะความทันสมัยของมันนี่แหละ อะไรที่มันซับซ้อนเชื่อผมเถอะว่าซ่อมแล้วอ๊วกแตก
ยกตัวอย่างเช่นอินโดนีเซีย เพิ่งรับเรือคอร์เวตมือสองชั้น Bung Tomo จำนวน 3 ลำมาได้ไม่นานนัก ราคาเรือไม่แพงเท่าไหร่ดีลนี้ถือว่าคุ้ม แล้วดูเขาใส่จรวดเอ๊กโซเซ่ต์บนเรือสิครับ แค่เพียง 2 นัดจาก 8 ท่อยิงเอาไว้ป้องกันตัวเอง ผมไม่อยากเดาเลยว่าบนเรือจะมีจรวดต่อสู้อากาศยาน VL Seawolf จำนวนเท่าไหร่จากท่อยิงแนวดิ่งรวมทั้งสิ้น 16 ท่อ
ฉะนั้น.... เรือหลวงนเรศวรจะใส่จรวด ESSM เท่าที่ผมบอกก็พอกล้อมแกล้ม ไม่ได้ผิดปรกติอะไรเลยเพราะใคร ๆ เขาก็ทำกัน
อู๊ย ตาย................พึ่งทราบจริงๆ นะครับ ท่านจุลดาส ว่า ทอ. แห่ ฮาร์พูน มาสองเม็ด ก่อนรับมอบ ต่อมหาภัย........... แหม่ ๆๆๆ นี่หล่ะๆ ถ้าย้อนไปสมัยหนุ่มๆเป็นนักศึกษา ต้องบอกว่า เบ้าหมายยังไม่แน่ชัด ดันเข้าเซเว่นจัดหาอาวุธ ซะก่อน ทีนี้เปนงัย เสียอารมณ์ ค้างต่องแต่ง.................... 55555 ตามท่านจูลดาส ว่า ฮาร์พูน ยิงจาก เอฟ-18 คง ใช้กับ เอฟ-27 ทร. ลำบากหน่อย อาจต้องโม (เนื่องจากความต่างของความเร็วต้น (ความเร็วอากาศยานฐานยิง) ดังนั้น บูสเตอร์ดินขับ ก็ต้องต่างกัน) ........................
ไม่เห็นกะรอก อย่าโก่งหน้าไม้ คำโบราณยังใช้ได้เสมอ แม้ตอนสมัยโบราณ จะยังไม่มี เซเว่น อีเลฟเว่น ............
แล้วเรือฟรีเกต สมรรถนะสูงของเรา ที่อู่แดวู ความคืบหน้าไปถึงไหนแล้วครับตอนนี้ ทำไมเงี้ยบ เงียบ..... มีภาพความคืบหน้าของเรือบ้างหรือยัง
https://thaimilitaryandasianregion.wordpress.com/2016/05/18/dsme-lays-keel-for-thailands-first-multipurpose-frigate/จาก เวบข้างบน
Ridzwan Rahmat, Singapore – IHS Jane’s Defence Weekly
18 May 2016
South Korean shipbuilder, Daewoo Shipbuilding and Marine Engineering (DSME), has held a keel-laying ceremony for a multipurpose frigate on order for the Royal Thai Navy (RTN).
The ceremony was held on 16 May at DSME’s shipyard in Okpo, the RTN public affairs division announced via an official social media channel the next day.
The vessel was signed under a THB14.6 billion (USD410 million) contract inked between the RTN and DSME in August 2013. The platform is based on a modernised derivative of the Kwanggaeto Daewang (KDX-1) destroyer in service with the Republic of Korea Navy.
According to an IHS Jane’s report from August 2013, the ship will displace 3,650 tonnes, and will be 122.5 m long and 14.4 m wide when complete.
พึ่งทำพิธีวางกระดูกงู ไปเมื่อ 15 เมย์ นี่เอง ............. ความคืบหน้าคงไม่มาก
410 มิลเลี่ยน ยูเอส นี่ เป็น เทิร์นคีย์ โปรเจ็คกับ แดวูเลย หรือเปล่า ถ้าใช่ นี่จะเป็นครั้งแรกในรอบหลายสิบปี ที่เป็นการทำคอนแทร็ค กับ อีพีซี แบบจัดเต็ม เพราะเมื่อก่อน ต่อเรือ (โดยเฉพาะกับจีน) ระบบอำนวยการและ อาวุธ จะแยก ..........
แต่ต้องทำใจนะครับ ฟูล อีพีซี ของอาจแพงนิสนุง แต่ก็ลดปัญหารายจ่ายจุกจิก แต่ยังไง เมนคอนแทร็คเตอร์ ก็ต้องใส่มาร์จิ้น ในทุกไอเท่มอยู่แล้วหล่ะครับ ............ แต่ ก็ดี ไม่เหนื่อย ที่สำคัญคือ ได้ วารันตี คือถ้าติดเบี้ยวติดบูด หรือติดตั้ง มีตำหนิ จนเป็นสาระสำคัญอันลดประสิทธิภาพของระบบต่างๆ ก็เคลม วารันตี จากเมนคอนแทร็คเตอร์เต็มๆ แบบไม่ต้องเกรงใจ ทำเอง ติดเอง ก็ต้องลุ้นเสี่ยงเอาหน่อย มันดีตรงนี้แหล่ะ
410 ล้าน ถือว่าจัดหนักจัดเต็ม นกกระจอกทะเลวิวัฒน์ แอสหร็อคแนวตั้ง อาร์พูน ฟาลังซ์ ดีคอย แหม่ แม่เจ้า ภูธร จะมีเบ้นซ์แล้ว ................ นับเป็นความขนลุกซ์ ครั้งที่สองที่จะมีสิ่งสุดยอด จากครั้งแรก จัดหนักจัดเต็ม ที่จะมี ลว.เบา สมัย วว2 แต่ก็มีอันต้องพลาด...
อยู่ในขั้นตอนการต่อปกติครับ ทร.เริ่มรับสมัครกำลังพลภายในสายวิทยาการต่างๆ เพื่อสอบแข่งขันเป็นกำลังพลชุดรับเรือไปแล้ว อยากไปจัง แต่ติดว่าสอบเลื่อนฐานะได้และรอเข้ารับการอบรมวิชาชีพเพิ่มเติม เลยอดสอบแข่งขันกับเขาเลย
ราคานี้น่าจะได้เรือฟริเกตพร้อมรบเลย ยกเว้นก็เพียงบรรดาจรวดทั้งหลายแหล่ ตอร์ปิโด และกระสุนปืนทุกชนิด ซึ่งต้องสั่งซื้อแยกต่างหาก
ทร.ไทยใจกล้า ได้สั่งซื้อจรวด Harpoon Block II รอไว้ก่อนแล้ว หวังว่าจะไม่เป็นพ่อสายบัวเหมือนทอ.เขานะครับ
ผมยังมีความเชื่ออยู่ลึกๆนะ ว่า ปราการด่านสุดท้ายอาจไม่ได้ติด คือยังไม่เห็นสัญญาด้วย ถ้าในสัญญามีระบุ ก็ยอมโดย ดุษฎี ...........
พี่สิง มั่นใจระบบหูตา และ เอสเตอร์-30 รายนี้บอกว่ายิงแบบลูกเรียดที่พุ่งมาระยะ 10 กม.ได้ มี เป้าลวงแจ่ม มี มาตรการอิเลคทรอนิคส์ดี แถมมี 76/62 ก้าวหน้า เลยลืม ปราการด่านสุดท้ายไปเลย.......
แดวูของเรา มี นกกระจอก ซึ่งก็คงเอกอุไม่แพ้ เอสเตอร์ มี เป้าลวง สงครามอิเลค ............. แต่ปืนหลักนี่ ไม่รู้จะเป็น ออโตเมลาร่า ก้าวหน้ายิงลูกซองได้มั้ย ซึ่งถ้าไม่ใช่ ก็อาจเป็นเหตุผลที่ต้องมี ฟาลังซ์เป็นปราการด่านสุดท้ายอีกด้วย
จริงๆผมก็ไม่ค่อยอยากจะเรียกมันว่าเรือฟรีเกตสมรรถนะสูงซักเท่าไรหรอก คือมันแค่เรือฟรีเกตใหม่ที่ออกแบบให้เข้ากับยุคนาโน
เพราะระบบอาวุธแทบไม่แตกต่างจากเรือชั้นนเรศวร
ซึ่งมันเป็นแค่เรือที่จะมาพร้อมกับระบบอาวุธของตะวันตกแบบต่างๆมาแบบครบ(หรือเปล่าวะ) ไม่ต้องมาตามอัพเกรดในภายหลังเท่านั้นครับ แต่อย่างน้อย เราก็ภูมิใจได้ว่าเราเป็นเพียงชาติเดียวในอาเซียน ที่ไอ้กันมายอมขาย ESSM ให้เราเท่านั้น หุหุ.
(ความภูมิใจบนความเศร้าเล็กๆ)
งั้นเรียกเป็น เรือฟริเกตสมรรถนะปานกลาง ละกันนะครัช
เรือฟรีเกตสมรรถนะสูง(ไม่สุด)
ฟาลังซ์ จากชั้นเรือพุทธ 2 ตัวคืนไปให้อเมริกาอัพขายให้เราใหม่รึเปล่า เพราะฟาลังซ์คือไป อเมริกาก็เอาไปสำรองเฉยๆ ถ้าเอาไปอัพแล้วขายกลับในรูปแบบการช่วยเหลือการทหารเป็นไปได้ไหมครับ