เพราะมันมีข้อดีข้อด้อยต่างกัน บทบาทต่างกัน
ปืนใหญ่ถูกกว่ามาก เบากว่า ขนย้ายง่ายกว่า เรื่องแม่นปืนใหญ่เล็งดีๆใช้คอมคำนวนมีระบบ จีพีเอส ไจโรฯเลเซอร์ ก็แม่นเหมือนกัน (อารมณ์แบบซีซ่าร์) หรือยิ่งเดี๋ยวนี้มีลูกปืนใหญ่แบบนำวิถีด้วย (แต่ก็แพงหน่อย)
เวลาตั้งฐานแนวยิงถล่มปูพรมกันทียิงกันเป็นพันๆหมื่นๆลูก ถ้าใช้มิสไซล์คงหมดตูด
สมมติอเมริกาจะไปยิงถล่มเป้าหมายในอัฟกานิสถาน การไปตั้งฐานยิงใกล้ ห่างจากเป้าหมายสัก 20-30 กิโล
กับการยิงมิสไซล์มาจาก 200 กิโล ยังไงระยะใกล้ก็ตอบสนองได้ทันท่วงทีกว่า แถมถูกตังกว่ากัน
ใช้ของใหญ่มากบางทีก็จะกลายเป็นขี่ช้างจับตั๊กแตน
อีกข้อคือ ลูกปืนใหญ่ทำลายยากกว่าจรวดร่อนเยอะนะครับ จรวดร่อนยังมีอาวุธให้เลือกสกัดได้หลายอย่าง แต่ปืนใหญ่ต้องเป็นพวกC-RAMแท้ๆ (ส่วนมากจะเป็นปตอ.ที่พื้นที่ครอบคลุมไม่มากด้วย) แถมปืนใหญ่ก็อเนกประสงค์กว่าพอสมควรเลยครับ ภารกิจไม่ใช่แค่ยิงทำลายเป้าหมายเดี่ยวๆทุกครั้ง ไหนจะกระสุนควันเอย กระสุนส่องสว่างเอย
จริงๆก็เหมือนถามว่าทำไมถึงไม่ให้ทหารราบทุกคนถือปืนที่ใช้กระสุน.50นั่นล่ะครับ หรือบอกว่าฮัมวีจะติดปืนกลไปทำไมทั้งๆที่มีปืนใหญ่กลขนาด30-40มม.ใช้ หรือรถถังจะติดปืนใหญ่ไปทำไม ทำไมถึงไม่ใช้แค่เครื่องยิงจรวดต่อสู้รถถัง
ปล.เผลอๆปืนใหญ่ที่ใช้ลูกนำวิถี อาจจะแม่นกว่าจรวดนำวิถีนะครับ แถมถูกกว่าด้วย
ปืนใหญ่ ข้อเสียเห็นจะมีแต่ระยะยิงนะกับอำนาจหัวรบ ในกรณีที่เทียบกับประเภทพื้นสู่พื้น กลุ่มโจมจีเป้าหมายที่ไม่เคลื่อนที่
-จำนวนได้มากกว่า ราคาถูกกว่า
-กระสุนมีให้เลือกหลายภารกิจกว่า
-ป้องกันได้ยากกว่า
-การเคลื่อนกำลังไวกว่า ขนาดเล็กกว่า
-ความแม่นยำ ถ้าใส่ระบบแบบเต็มสูบ ก็พอๆกับขีปนาวุธ
ผมมองเรื่องราคามาก่อนเลย มันถูกน่ะครับ
ยังไงลูก 155 ก้ถูกกว่าพวกจรวดนำวิถีทั้งหลาย
อำนาจการทำลายเชื่อใจได้ ความแม่นยำ
ถ้าฝึกดีๆ มีระบบดีๆ ก้แม่นไม่ต่างจากพวกจรวดเท่าไหร่
ปืนใหญ่ยังไม่ล้าสมัยแน่นอน
ที่ต่างกันจนเห็นได้ชัดระหว่างปืนใหญ่กับจรวดก็คือ ราคาลูกปืนใหญ่จะถูกกว่าลูกจรวดนำวิถีอยู่มาก
แต่ถ้าเทียบลูกปืนใหญ่กับลูกจรวดไม่นำวิถี อันนี้ราคาน่าจะใกล้เคียงกันครับ
อีกอย่างที่ต่างกันคือระยะยิง ปืนใหญ่ปัจจุบันเต็มที่ไม่น่าจะเกิน 50 กม. ส่วนจรวดเริ่มตั้งแต่ไม่กี่ กม. ไปจนถึงหลักร้อยหลักพัน กม. ครับ
เลือกใช้ให้ถูกสถาณการณ์และเป้าประสงค์ครับ และควรจะต้องใช้ประกอบกันเพื่อความยึดหยุนในการปฏิบัติงานครับ