หน้าแรก    ตั้งกระทู้ใหม่   ตอบคำถาม    เข้าสู่ระบบ      


f16 50/52 vs jas 39

โดยคุณ : happy2531 เมื่อวันที่ : 26/03/2016 08:17:39

คือผมคิดว่าเครื่องบิน ของสหรัฐ f16 บล็อก50/52 

1 เป็นเครื่องบินที่มีความสามารถมาก บินได้เร็วกว่า  สูงกว่า  เรดาห์ไกลกว่า และโจมตีแบบอากาศสู่พื้นได้แม่นยำ กว่า jas39 มากๆๆเลยนะครับ

2 F16 50/52 เป็นเครื่องบินที่ทำมาเพื่อรองรับการต่อสู้กับ Su30 หรือ เครื่องบินค่ายอื่นๆๆแบบพอฟัดพอเหวี่ยง ไม่ต้องใช้ awac ช่วยก็ยังได้

3 แถมมีประวัติการใช้งาน ในสงคราม มากมาย เราก็เคยเห็นในคลิป มากมาย

4 jas 39 ไม่เคยใช้ในสงครามใหนมาก่อนเลย แต่ F16 มีมากมาย

5 อะไหล่ก็หายากเพราะ jas39 นั้นซื้อชิ้นส่วนจากหลายๆประเทศมาประกอบ ซึ่งถ้าสวีเดนมีปัญหากับประเทศเหล่านั้น เราก็จะพลอยลำบากไปด้วย

6 f16 ใช้กันทั่วโลก 

7 F16 ผลิตโดยล็อกฮีท มาร์ติน ซึ่งเป็นบริษัทที่ก้าวล้ำเทคโนโลยีทางทหารมายาวนาน และสามารถผลิต F16 รุ่นใหม่ๆๆออกมาเรื่อยๆๆ

และเหนือชั้นกว่า jas39ng ก็ไม่แน่

8 F16 ติดอาวุธของนาโต้ได้ทุกชิ้น อย่างไม่มีข้อจำกัด

9 F16 น่ากลัวนะครับ เช่นข้าศึกจะบุกเรา แต่พอรู้ว่าเราเอา F16 ขึ้นสกัด มันดูน่ายำเกรงกว่า jas39 ใหมครับ

10 เรดาห์ไกลมากๆๆๆๆ





ความคิดเห็นที่ 1


คับๆๆ  เอาที่สบายใจเลยคับ

โดยคุณ tapfah เมื่อวันที่ 19/03/2016 23:53:33


ความคิดเห็นที่ 2


กระบี่ ใช่ว่า จะแพ้ทวน มีดสั้น ใช่ว่า จะแพ้ดาบ Factors มันเยอะนะครับ..
โดยคุณ nui-714 เมื่อวันที่ 20/03/2016 00:24:40


ความคิดเห็นที่ 3


เอาที่สบายใจเลยคับ   มันมีเหตุมีผล ทำไม อะไร อย่างไร  คิดได้แค่นี้กลับไปตำน้ำพริกกินดีกว่า

โดยคุณ ppk8837 เมื่อวันที่ 20/03/2016 11:52:10


ความคิดเห็นที่ 4


เอฟ-5 อีเอ็ม สุดยอดเครื่องบินขับไล่ยุคที่ 4.5 ออกแบบเพื่อปราบซู-30 โดยเฉพาะ


โดยคุณ superboy เมื่อวันที่ 20/03/2016 12:19:08


ความคิดเห็นที่ 5


ที่กล่าวมา ก็ถูก แต่ไม่ถูกทั้งหมดนะครับ    ................. คือต้องเข้าใจก่อนว่า อเมริกา เนี่ย  เป็นพี่เบิ้มของโลก  วิธีการรบ รวมถึง ยุทโธปกรณ์ ล้วน  คิดค้น ประดิษฐ์ขึ้นมา ให้สอดคล้องหลักนิยมเค้าเอง   ชาติอื่นที่พอมีสตุ้งสะตัง มีหัวคิดประดิษฐ์เองได้ ก็พยายามทำอาวุธขึ้นมาเพื่อเสริมลดช่องว่าง แต่อาวุธและหลักนิยมส่วนใหญ่ก็ยังอิงกับอเมริกา    .............. ส่วนที่เบี้ยน้อยหอยน้อย อันไหนที่พอปรับหลักนิยมของตัวเองได้ก็ต้องทำ...................

 

ทีนี้เรามาว่ากันด้วยเรื่อง เอฟ-16     ................... เอฟ-16 แต่เดิมนั้น ออกแบบมาเพื่อเป็นเครื่องบินขับไล่ขนาดเบา ภารกิจ สกัดกั้น และโจมตีทางอากาศ  คำว่าสกัดกั้นและโจมตีทางอากาศ ในยุคนั้น มันเป็นเรื่องใหม่ลำหน้ามาก  เพราะก่อนหน้านี้  เครื่องบินแบบไหนก็ทำภารกิจแบบนั้นเดี่ยวๆ เช่นเครื่องบินขับไล่ป้องกันภัยทางอากาศ แบบ เอฟ-106 เดลต้า ดาร์ท ภารกิจคือป้องกันน่านฟ้าจากเครื่องบินทิ้งระเบิด ยุทธวิธีคือ ไต่เร็วไต่สูง แล้วใช้จรวดสอยข้าศึกให้ร่วง ........   เครื่องบินขับไล่ครองความเป็นเจ้าอากาศ แบบ เอฟ-4 ปิศาจเวหา  ภารกิจ ใช้อาวุธทางอากาศเพื่อเอาชนะเครื่องบินรบข้าศึกทุกห้วงอากาศ ไม่ว่าดินแดนเราหรือลึกเข้าไปถึงข้าศึก เช่นนี้จึงต้องเป็นเครื่องบินสองเครื่องยนต์ขนาดใหญ่ มีเรดาร์และอาวุธรัศมีไกล เพื่อลดข้อเสียเปรียบในขณะทำการรบบริเวณน่านฟ้าข้าศึก ........... เครื่องขับไล่บินโจมตีทิ้งระเบิด ขัดขวางทางลึก แบบ เอฟ-105 ทันเดอร์ชิพ  ภารกิจบินไกลเข้าไปในดินแดนข้าศึกเพื่อทิ้งระเบิดโจมตี ................ เครื่องบินโจมตี แบบ เอ-7 คอแซร์ 2   โจมตีขัดขวาง ........  พอหมดยุค นางเอกจากสงครามเวียดนาม เอฟ-4 และ เอฟ-105   ถูกแขวน   เมกามีดาราตัวใหม่ คือ เอฟ-15 อินทรีย์ เข้ามาแทนที่บทบาทครองอากาศ   เครื่องขับไล่บินทิ้งระเบิดทดแทนด้วย เอฟ-111 อาร์ดวาร์ค        แต่ เอฟ- 16 นี่ มาแปลก    คือการเอา คาแรคเตอริสติค และภารกิจ ของ เอฟ-100 เอฟ-106 และ เอ-7 เข้ามารวมกัน............โอ่ว์........ย้อร์จ  .... มัน จ้อด  มว้ากๆ  จริงๆ.!!!!!

 

ในช่วงแรกๆ ขณะเป็นสาวกระเตาะ  เอฟ-16 จัดเป็นเครื่องบินรบไฮเทค เนื่องจากระบบไฟฟ้าแบบ ฟลายบายไวร์ และเครื่องยนต์ แบบ พีดับเบิลยู เอฟ-100 ให้กำลังขับเหลือล้น   ส่งให้หล่อนทำท่าทางฉวัดเฉวียน   ตีวงเลี้ยวหาข้าศึกเวลาธงลง (6 พีเอ็ม)  ได้แคบและรวดเร็วยิ่งนัก   เรียกว่าถ้าวัดด้วยด็อกไฟ้ท์   แม่เหยี่ยวนักรบ ฟาดเรียบ...........

 

เช่นเดียวกับบทบาทโจมตีขัดขวาง  พิสัยและน้ำหนักบรรทุกสูง บวกกับระบบควบคุมการใช้อาวุธ  ทำให้นักบินสามารถทอยด้วยระเบิดโง่ หรือระเบิดนำวิถีด้วยความแม่นยำ บรรลุภารกิจโจมตีอย่างแจ่มแจ๋ว.........

 

เธอมาพร้อมกับ สายตาที่ดีเยี่ยม  เรดาร์ เอพีจี-66 ติดตั้งมาด้วยเป็นชนิด พล้าวส์ ด๊อพเพล่อร์  สามารถมองลงต่ำเพื่อค้นหาข้าศึกเบื้องล่าง เรียกว่า ล้ำกว่าชะนีแนวหน้ายุคเดียวกัน อย่าง มิก-23 แบบกินขาด.................

 

แต่อย่างที่ว่านะครับ   อาวุธอเมริกัน มันก็ต้องออกแบบใช้กับหลักนิยม อเมริกัน  ....... ในเมื่อ เอฟ-15 อินทรีย์เวหา  มีพล้าวส์ ด็อพเพล่อร์  เอพีจี-65 พร้อม บีวีอาร์ เซมิแอคถีฟ แสปร์โรว์ ที่เอกอุ   เหยี่ยวตัวเล็ก จึงมีเพียง เอไอเอ็ม-9 แอล/เอ็ม  เป็นหมัดสั้นเพื่อใช้ ด็อกไฟท์  ........... หลายคนมีข้อสงสัย  เอฟ-16 ติดมีดสั้น   แต่หาญกล้า สู้รบกับ มิก-23 ติด บีวีอาร์ เอๆ-7 ได้เชียวหรือ  .....ข้อนี้  ถ้าเป็นอเมริกาตอบ คงบอกว่าสบายมาก เพราะไม่ถึงมือน้องเหยี่ยวหรอก ก่อนหน้านี้ พี่อินทรีย์กวาดเรียบไปแล้ว ..............  หรือถ้ารอดมาได้   ในสงครามจริงๆ  ไฟท์เตอร์เจ็ทมะกัน จะออกรบพร้อมกับ เครื่องแจ้งเตือน และ เครื่องก่อกวนทางอิเลคทรอนิคส์   แบบนี้ไม่ต้องเหยี่ยวหรืออินทรีย์ดอก  นกเอี้ยงที่บ้านก็รบชนะ  ............. มีอย่างที่ไหน ข้าศึกบินขึ้นไปรบ แต่แล้วจู่ๆถูกตัดขาดจากสถานีเรดาร์แจ้งเตือน    ก็งงเป็นไก่ตาแตกสิ       ต่อให้ตาดี อาวุธยาวแค่ไหน แต่ถ้าขาดการแจ้งเตือนเสียแล้ว ก็ไม่ยาก ที่ข้าศึกจะแอบย่องเข้าข้างหลัง พร้อมสำเร็จโทษด้วยอาวุธแค่ปืนกลอากาศ ตัวอย่างมีให้เห็นแล้วในอิรัค .......................

 

ในสงครามอื่นๆ  เช่นในแอฟริกา เอฟ-16 ก็รบชนะ มิก-23   นี่เป็นข้อสรุปได้จริงๆว่า ถ้ารบกันแบบแฟๆ ไร้ตัวช่วย  ตายาว เป็นต่อ มากกว่าอาวุธยาว.....................

 

วันเวลาผ่านไป ประเทศต่างๆค่ายต่างๆ พัฒนาเครื่องบินรบให้มีเรดาร์พิสัยไกลมองขึ้นลงชัดเจน อาวุธนำวิถีลูกยาวใหม่ๆถูกนำมาใช้ .................ก็ถึงเวลาที่น้องเหยี่ยว ต้องวิวัฒนาการระบบสงครามทางอากาศให้ดียิ่งขึ้น เพราะการรบประชิดอย่างเดียวคงไม่พออีกต่อไป  เราจึงเห็น เอฟ-16 บล็อกใหม่ๆ ยกระดับเรดาร์ ระบบพิสูจน์ฝ่าย ระบบดาตาลิ้งค์ ทั้งหมดก็เพื่อให้ใช้อาวุธทางอากาศได้ไกลยิ่งขึ้น.......................

 

มาที่ แจ้ส-39 กริเป้นบ้าง.............  หลักนิยมการออกแบบ กริเป้น ต่างจาก เอฟ-16  ........ จะเห็นว่าสวีเดน ใช้หลักนิยมการรบ คล้ายๆประเทศแถบยุโรปอื่นๆในยุคสงครามเย็น  กล่าวคือ แผนป้องกันให้รอดพ้นจากคอมมิวนิสต์ต้องอาศัย นาโต้  แต่ก็ต้องมีแรงช่วยเหลือตัวเองให้ได้ในห้วงเวลาหนึ่ง

 

ในยุโรป เครื่องบินรบส่วนใหญ่ ได้รับการออกแบบเพื่อใช้ป้องกันภัยทางอากาศ เช่น ไล้ถะนิ่ง ,มิราจ 3, ดราเก้น ,วิกเก้น .................แนวความคิดการออกแบบ กริเป้น ก็เช่นเดียวกัน  กล่าวคือ  เป็นเครื่องขับไล่ป้องกันภัยทางอากาศส่วนหน้า ตัวไม่ต้องใหญ่ พิสัยไม่มาก น้ำหนักวิ่งขึ้นไม่โหด แต่ต้องไต่ได้เร็ว ทางวิ่งขึ้นสั้น บินขึ้นได้จากสนามบินแนวหน้า ไม่เว้นแม้ถนนไฮเวย์ (ดูยูทู้บ มิก-21 ก็เคยซ้อมใช้ถนนเป็นทางขึ้นเมื่อหลายสิบปีที่แล้ว)  เมื่อไต่เกาะอากาศได้แล้ว ต้องมีระบบเชื่อมโยงข้อมูลกับฐานบัญชาการเพื่อนำร่องเข้าใช้อาวุธอย่างเร่งด่วน (ไต่เกาะอากาศขึ้นให้ได้ก่อน ข้อมูลเป้าหมายค่อยไปลิ้งค์กันบนอากาศ)  เรดาร์ และอาวุธเฉียบคม ทันสมัย ........................ถ้าท่านใดมองภาพการยุทธไม่ออก ให้นึกถึงสงครามเวียดนาม  อเมริกัน มีเอฟ- 4 บรรทุกสแปร์โร่ว์ และไซด์ไวเดอร์ บินข้ามมาจากนครพนม เพื่อคุ้มกัน บี-52  ขณะที่ เวียดนามมี มิก-21 ไต่ขึ้นเร่งด่วนเข้าสกัดกั้น แล้วทั้งคู่ก็ทำยุทธเวหาเหนือท้องฟ้าฮานอย นั่นแหล่ะ   เพียงแค่เปลี่ยนตัวละครจาก แฟนธ่อม และ ฟิชเบด มาเป็น ซู-30 และ กริเป้น ก็แค่นั้น   จะเห็นว่าทั้งคู่ต่างก็ทำงานในหน้าที่ของตัวเอง  ดังนั้นที่ออกมากล่าวว่า ใครออกแบบมาเพื่อปราบใครโดยเฉพาะนั้น   จึงเป็นเรื่องที่น่าขำขัน..................      เอาหล่ะครับ  ที่ร่ายมายาวเนี่ย เพื่อให้เห็น แบ็คกราวนด์ ของเครื่องทั้งสองก่อน   ทีนนี้เรามา ว่ากันทีละข้อดีกว่า


 

คือผมคิดว่าเครื่องบิน ของสหรัฐ f16 บล็อก50/52 

1 เป็นเครื่องบินที่มีความสามารถมาก บินได้เร็วกว่า  สูงกว่า  เรดาห์ไกลกว่า และโจมตีแบบอากาศสู่พื้นได้แม่นยำ กว่า jas39 มากๆๆเลยนะครับ

      บินเร็วกว่า สูงกว่า อันนี้ถ้าเทียบกัน คงไม่ใช่ เพราะน่าจะพอๆกัน   แต่น้ำหนักบรรทุกของ เอฟ-16 สูงกว่า อันนี้แน่นอนครับ และเมื่อติดถังเชื่อเพลิงใต้ลำตัว ย่อมบินได้ไกลกว่าด้วย ก็ให้สอดคล้องกับภารกิจโจมตีขัดขวางครับ.........ส่วน เรื่องเรดาร์ ระบบ แอคเซสเซอรี่ และอาวุธนั้น  ใครมาใหม่ก็ต้องดีกว่าของเก่าอยู่แล้วครับ  แต่ก็ไม่ได้หมายความว่า เอฟ-16 จะสู้ไม่ได้นะครับ  เพราะ สายการผลิตยังไม่ปิด บล็อกหลังๆ มานี้ ต้องบอกว่า เอฟ-16  ดีโด่ขึ้นหน้าวื่บๆ  แบบไม่แพ้ กริเป้น นะครับ    ที่มีอยู่แล้วก็อัพเกรทด้วยชุดคิท มาตรฐาน   แบบมีของแต่งสำเร็จเลย ไม่ต้องเดินหาของให้ร้านมาปะติด..................

2 F16 50/52 เป็นเครื่องบินที่ทำมาเพื่อรองรับการต่อสู้กับ Su30 หรือ เครื่องบินค่ายอื่นๆๆแบบพอฟัดพอเหวี่ยง ไม่ต้องใช้ awac ช่วยก็ยังได้

      อย่างที่ว่าครับ อาวุธอเมริกา ออกแบบมาเพื่อ หลักนิยม อเมริกา   ถามว่า ณ ตอนนี้ เอฟ-16 สู้ ซู-30 ได้มั้ย   ตอบได้ครับ   แต่ก็ได้ในเงื่อนไขของมัน คือ รบในบทบาทเครื่องป้องกันภัยทางอากาศ  รบในดินแดนตัวเอง  มีระบบแจ้งเตือนจากพื้นดินหรือเอแวคบินอยู่บนอากาศ ช่วยนำร่องให้................ แฟนอเมริกัน (ซึ่งผมว่าคุณคงรวมด้วย) ก็เชียร์เอฟ-16   ส่วน แฟน กริเป้น ก็บอกว่า อันนี้ มันใช่เลย มันต้อง กริเป้น................. ส่วนตัวผมว่า  เหมือนกันหล่ะครับ   จะบล็อก 50/52  หรือ บล็อค15 เอ็มแอลยู หรือจะ กริเป้น  ที่มีดาต้าลิ้งค์ มีบีวีอาร์ ก็ทำได้เหมือนกันหมด  นี่ยังไม่รวม เอฟ-5 เอ็ม ของผมนะครับ    ซึ่งถ้าใครที่เป็นแฟน กริเป้น แล้วบอกว่า กริเป้น เอาชนะเรดาร์กำลังแรงของซู-30 ได้ด้วย เรดาร์ครอสเซคชั่น  เดี๊ยะๆๆๆ  เดี๊ยะ  เจอ เอฟ-5 เอ็ม ออกแบบมาเพื่อปราบซู-30 โดยเฉพาะ ของผมเข้าให้ นะครับ.............

3 แถมมีประวัติการใช้งาน ในสงคราม มากมาย เราก็เคยเห็นในคลิป มากมาย

      อันนี้แน่นอน ถูกต้องไม่มีข้อแม้

4 jas 39 ไม่เคยใช้ในสงครามใหนมาก่อนเลย แต่ F16 มีมากมาย

    ในบทบาทการซ้อมรบมันใช่ มันทำได้ดี   แต่รบจริงทุกครั้งจะทำให้เห็นข้อบกพร่องที่ต้องแก้ไข  ทั้งองควัตุ และ องคบุคคล  แต่ไม่รวม องคช......

5 อะไหล่ก็หายากเพราะ jas39 นั้นซื้อชิ้นส่วนจากหลายๆประเทศมาประกอบ ซึ่งถ้าสวีเดนมีปัญหากับประเทศเหล่านั้น เราก็จะพลอยลำบากไปด้วย

  ข้อนี้เห็นด้วย  ผมเคยแสดงความเห็นในช่วงที่ผมฮ้อตๆ (55555)   แล้วว่า   เอฟ-16 เครื่องสุดท้าย จะสามารถบินปฏิบัติการทางยุทธวิธีได้ ในขณะที่ กริเป้น สิ้นลมไปนานแล้ว........................(หลักการ เหตุผล สามารถย้อนกลับไปหาดูได้ในกระทู้เก่าๆ ราวๆ สิบสี่ปีที่แล้วครับ)

6 f16 ใช้กันทั่วโลก 

      ขอเปลี่ยนเป็น  เอฟ-16 มีจำนวนผลิตสร้างและใช้งานมากกว่า  จะฟังดูดีกว่าครับ

7 F16 ผลิตโดยล็อกฮีท มาร์ติน ซึ่งเป็นบริษัทที่ก้าวล้ำเทคโนโลยีทางทหารมายาวนาน และสามารถผลิต F16 รุ่นใหม่ๆๆออกมาเรื่อยๆๆ

และเหนือชั้นกว่า jas39ng ก็ไม่แน่

      อันนี้ แล้วแต่จะคิดครับ    เอฟ-16 ว่าไปแล้วก็เปลี่ยนมาหลายมือนะครับ ตั้งแต่ เยนหนะรั่ล ไดนามิคส์   มาโบอิ้ง มา ลอคฮีท มาติน   ใครเชื่อมั่นในธุรกิจ เอฟวี่อินครัสทรี่  ของมะกัน ขอให้ลองนึกถึงรถยนต์เชฟโรเลตบ้างนะครับ ผมก็ใช้อยู่ เสียวๆดีเหมือนกัน  ขณะที่ ซ้าบ นี่ก็เก่าแก่นะครับ ยืนหยัดมานาน  ......................

โดยคุณ กบ เมื่อวันที่ 20/03/2016 15:10:14


ความคิดเห็นที่ 6


8 F16 ติดอาวุธของนาโต้ได้ทุกชิ้น อย่างไม่มีข้อจำกัด

      ข้อนี้ไม่ถูกต้องทั้งหมดครับ ................. อาวุธบางชนิดของนาโต้ก็ติดกับ เอฟ-16 ไม่ได้    หรือ ถ้าติดได้ ก็ไม่ได้หมายความว่าเค้าจะขายให้ครับ แต่ถ้ามองว่า นาโต้ คืออเมริกา อันนี้ก็การันตีได้ว่า เอฟ-16 จะใช้อาวุธในขั้นมาตรฐานนาโต้ได้มากกว่า.......  แต่ถ้ามองอย่างกลางๆ  อะไรที่ เอฟ-16 ติดได้  กริเพ่นก็ติดได้ นะครับ  แม้ไม่ใช่ของมะกันแต่ก็เป็นเจ้าอื่นที่เทียบเคียงครับ  .............. แต่ที่แน่ๆ สิ่งหนึ่งที่ เอฟ-16 รุ่นมาตรฐาน(ออกห้าง) ติดไม่ได้คือ จรวดปราบเรือ นะครับ  อันนี้ตั้งแต่ไหนแต่ไรแล้ว  ผมแก่แล้ว ข้อมูลอาจโบราณ ใครมีข้อมูลดีกว่ามาซัพพอร์ท ก็ว่ากันไปครับ...................

9 F16 น่ากลัวนะครับ เช่นข้าศึกจะบุกเรา แต่พอรู้ว่าเราเอา F16 ขึ้นสกัด มันดูน่ายำเกรงกว่า jas39 ใหมครับ

   ถ้าเป็นตอนนี้ ภารกิจป้องกันภัยทางอากาศ น่ากลัวทั้งคู่ครับ ................. แต่ เอฟ-16 จะเพิ่มเรื่องการ โจมตีขัดขวาง ที่มีบีวีอาร์ อำราม ป้องกันตัว  ในขณะที่ กริเป้น มีจรวดปราบเรือรบ  ให้กัปตันเรือที่คิดจะเข้ามาปิดอ่าว ได้เสียวจี๊ดๆครับ

10 เรดาห์ไกลมากๆๆๆๆ

           ร้อยโล บวกลบ ครับ............... แพ้ ไฟท์เตอร์รุ่นใหญ่ อย่าง เอฟ-15  ซุ-30 หรือ ไทฟูน ครับ    แต่การรบทางอากาศอย่างมีเงื่อนไข โดยเฉพาะตัวแปรอย่างเช่น เครื่องบินแจ้งเตือน และ บีวีอาร์แบบ ภาคส่ง  ช่วยให้การรบไกลกว่าสายตาทำได้ดีขึ้น

โดยคุณ กบ เมื่อวันที่ 20/03/2016 15:42:12


ความคิดเห็นที่ 7


กริปเป้นก็มีลูกยาวนะครับ meteor ไง (ที่จริงกริปเป้นก็ติดอัมร) ถือว่าเป็นลูกยาวที่ดีที่สุดในปัจจุบัน ดีกว่าอัมรามรุ่นล่าสุดทุกด้าน (นอกจากราคา มั้ง) ขณะที่อัมรามของอเมริกาเป็นเทคโนโลยีเก่า (ใช้จรวดเชื้อเพลิงแข็ง)

อีกอย่างกริปเป้นนี่แหละที่ติดอาวุธนาโต้ของประเทศยุโรปอื่นๆได้มากกว่า ขณะเอฟ 16 ติดได้แต่อาวุธอเมริกานอกจากไปโมฯเพิ่มเอง (จ้างยิวทำเป็นต้น แต่ก็ไม่วายต้องให้อเมริกาอนุญาต)

แต่สมรรถนะเครื่องบินเอฟสิบหกกินขาดทุกด้าน

โดยคุณ toeytei เมื่อวันที่ 20/03/2016 20:22:06


ความคิดเห็นที่ 8


คือใช้ความรู้สึกลอยๆ เยอะไปนิดนึงนะครับ

1) โจมตีแม่นยำกว่า อยากทราบว่าเพระาอะไร จรวดก็ตัวเดียวกันทั้งนั้น

2) เครื่อง jas-39 น่าจะถือว่าออกแบบมารับมือกับซูมากกว่า f-16 ด้วยซ้ำ เนืองจากสวีเดนบ้านติดรัสเซีย ต้องรับมือกับรัสเซียเป็นหลักแต่ทั้งนี้ทั้งนั้นไม่ได้บอกว่าทำได้ดีกว่า

3) F-22 ยังไม่เห็นเคยไปรบสงครามอะไรเลย แต่ก็คงไม่กระจอกมั้งครับ? คลิปที่เราเห็นๆ กันก็ส่วนใหญ่เป็นการโจมตีภาคพื้นดิน เครื่องอะไรๆ ที่ไหนก็ทำได้ครับ ถ้าอาวุธชนิดตัวเดียวกัน ก็แม่นเท่ากัน แต่เครื่องบินเราต้องมาเอามาสะกัดกั้นด้วยอะไรด้วย คลิปไม่มีครับ

5) อะไหล่หายาก ก็คงไม่ยากครับ เพราะf-16 เขาก็ outsource หลายบริษัทครับ ไม่ใช่ว่าล็อกฮีดทำทุกอย่างตั้งแต่หน้าจอยันน็อตขันล้อ เครืองยนต์ก็ไม่ใช่แล้วครับ เกาอี้ก็บริษัทหนึ่ง หมวกก็บริษัทหนึ่ง จรวด เรดาร์ ล้อ ยาง บริษัทเฉพาะทางทำทั้งนั้น นอกจากนี้หากเราอะไหล่ขาดผมเชื่อว่ากองทัพอากาศและรัฐบาลสวีเดนพร้อมจะเอาอะไหล่ในสต็อกของตัวเอง หรือแม้แต่ถอดชิ้นส่วนเครื่องตัวเองมาเป็นอะไหล่ให้เราครับ ดูจากการที่เขามีบริการให้เช่าเครื่องกับประเทศอื่นพร้อมสับเปลี่ยนให้อยู่แล้ว

6) F-16 ใช้กันทั่วโลก แต่ F-22 ใช้ประเทศเดียว

7) ล็อกฮีดเขาก็มีโมเมนต์เฮงซวยของเขาเหมือนกันครับ เพียงแต่เขาเส้นใหญ่ ต่อให้ของห่วยก็เข็นจนได้ละครับ F-35 นี่ปัญหาเยอะจนงบบานปลายไปหลายเท่าตัวแล้ว  ล่าช้าเหลือเกิน  อ่อ f-16 นี่ล็อกฮีดไม่ได้คิดเองนะครับ ตอนนั้นเป็นของ general dynamic ทำ ล็อกฮีดไปซื้อกิจการต่อมา รถที่แข่งโครงการ JLTV ก็ไม่ผ่าน เรือ LCS ของล็อกฮีดก็ปัญหาบานตะไท

8) อาวุธติดได้ไม่จำกัดนั้นคงไม่จริงมั้งครับ แล้วเอาจริงๆ มันมีไม่กี่ตัวหรอกครับที่เราต้องมี ส่วนใหญ่ก็ทำซ้ำๆ คล้ายๆ กันครับ

9) แหม f-16 มันไม่ได้น่าเกรงขามต่างจาก jas-39 ขนาดนั้นหรอกครับ พอๆ กันนั่นแหละ รุ่นเดียวกัน ยุคเดียวกัน ไม่ได้ต่างกันขนาด f-15 vs Jas-39 หรอกครับ

10 เรดาห์ไกลมากๆๆๆๆ LOL ฮา อะไรจะขนาดนั้น

โดยคุณ tongwarit เมื่อวันที่ 20/03/2016 20:42:28


ความคิดเห็นที่ 9


ทีนี้ jas-39 มันก็มีข้อดีของมันเช่นกัน ต่อให้ประสิทธิภาพตรงๆ เช่นความแรงเครื่อง น้ำหนักบรรทุก ระยะบิน จะด้อยกว่า

ที่ชัดๆ คือค่าบำรุงรักษา ขั้นตอนการเตรียมรบรวดเร็วกกว่า 

สามารถทำให้เราพัฒนาระบบโครงข่ายเชื่อมต่อเหล่าทัพอื่นได้ เนื่องจากสวีเดนเขาขาย ฯลฯ

ที่เราซื้อก็เพราะเหตุพวกนี้แหละครับ และก็อีกอย่างคือ ตอนซื้อนั้นเมกาเขาจะขาย f-16 มือสอง ส่วนไทยอยากได้เครื่องบินมือหนึ่ง มันเป็นเรื่องของจังหวะด้วยครับ

ถ้าตอนนี้เราสนใจเมกาอาจจะขาย f-16 มือหนึ่งก็ได้เพราะ lockheed ก็คงอยากได้คนมาต่อสายการผลิตที่จะปิดตัวเร็วๆ นี้ แต่ก็คงติดปัญหาเรื่องการเมืองที่เรายังไม่เข้าสู่ระบบประชาธิปไตยอีก ซึ่งสภาคองเกรสคงไม่ขายอาวุธที่ไฮโปรไฟล์ขนาดนี้ให้ครับ 

โดยคุณ tongwarit เมื่อวันที่ 20/03/2016 20:50:02


ความคิดเห็นที่ 10


เรียนตรงๆ ครับ ที่บอกว่าค่าใช้จ่ายต่ำกว่า ผมไม่ค่อยเชื่อครับ..............เทคโนโลยี่ยุคเดียวกัน ขนาดใกล้เคียงกัน ราคาโหดพอๆกัน หักต้นทุนโอเปอเรต หักค่าเสื่อม มันจะต่ำกว่า เป็นกะลามะพร้าวเทียบจานทองคำเป็นไปไม่ได้ดอกครับ..................... ที่น่าจะต่ำกว่าเห็นเป็นรูปธรรมมีแค่ อัตราการบริโภค เพราะเครื่อง จีอี เอฟ-404 มีแรงขับน้อยกว่า พีดับบลิว เอฟ-100  ดังนั้นคอนซัมชั่นก็ต้องน้อยกว่า แต่เมื่อคอนเวิร์ท กลับมาเทียบต่อน้ำหนักวิ่งขึ้นสูงสุดต่อภารกรรม  งานมันได้เยอะกว่านี่ครับ   ถ้าเช่นนั้น ไม่เปรียบกับ แอว -39 เลยหล่ะครับ  ประหยัดสุดกู่เลย............ ส่วนอื่นๆเช่นค่าแรงโอเปอเรเตอร์ ข้อนี้อย่าบ้าจี้ตามฝรั่งเลยครับ กองทัพไทยนายพลเดินสดุดขากันล้ม แบ่งงานไปทำกันบ้างก็ดี  ตัวอย่างที่เห็นชัดอีกข้อนึงอยากยกคัวอย่าง ผมเคยมีคอนเซ้าลท์เป็นผรั่ง  ตอนเทปูนฐานราก ผมให้คนงานตีแบบ  มันแนะนำว่า มึงจะใช้คนงานตีแบบเสียค่าแรงทำไม ปล่อยปูนมันไหลไปชนดินเลย เสียปูนเพิ่มอีกแค่ 2-3 คิว.......... ตอนนั้นพึ่งทำงานใหม่ๆ เลยสวนด้วยประกิตมวยวัด ไม่รุ็มันจะเข้าใจรึป่าว  ใจความที่อยากสื่อสารคือ  พ่อง....!!! บ้านมุงค่าแรงกรรมกรชั่วโมงเป็นพัน  ที่นี่บ้านกรุ ปูนสเตร้งกระบอก 280 คิวละ สองพัน ค่าแรงคนงานตูวันละ 135 บาท  ถ้ามุงร้อนมาก นู่น  รถกรุอยู่นู่น  ข้างในมีโค้กเป้บซี่  บอกคนขับรถติดเครื่องเปิดแอร์เย็นๆ กินโค้กซะ  อย่ามายืนออกไอเดียแปลกๆให้งานสะดุดเลย......................เป็นต้น

 

โดยคุณ กบ เมื่อวันที่ 20/03/2016 21:43:17


ความคิดเห็นที่ 11


ถ้ามีข้อ 11 คงประมาณนี้ใช้ไหมครับ

11. f-16 เคยไฟว์กับเอเลียน ที่บุกโลกมาแล้วด้วย

Jas39 ก็มีข้อดีของเขาครับ F16 ก็มีดีของเขาเช่นกัน 

ถ้าF16 อัพขั้นไปเลือยๆก็สามารถนำ Jas 39ng ได้ Jas39 ก็สามารถอัพขั้นนำ F16 ได้เช่นกัน 

ส่วนเรื่องนำเข้าชิ้นส่วนของ Jas39 ต้องหยุดเพราะสวีเดนมีปัญหากับประเทศเรานั้น เราก็ซื้อโดยตรงเลยก็ได้ แต่ ถ้าสหรัฐมีปัญหากับเราละ 

F16 นอนตีพุง รอบินกันเลยไหมละครับ ถ้าจะยังงั้น.... 

โดยคุณ aomphet เมื่อวันที่ 20/03/2016 23:29:31


ความคิดเห็นที่ 12


ผมว่าหลายอย่างที่ยาสออกแบบให้สามารถเตรียมเครื่องขึ้นบินได้ง่าย คือเป็นเป้าหมายของการออกแบบอยู่แล้ว เพื่อรองรับสถานการณ์ที่ตกเป็นรอง กล่าวคือโดนโวเวียตถล่มสนามบินหาย เช่นการโหลดอาวุธสามารถใช้อุปกรณ์แมนน่วลโหลดได้ เป็นรถเข็นมือ ชักรอกมือ ขณะที่ค่ายอเมริกาต้องมีรถเครื่องไฮโดรลิคที่มีขนาดใหญ่กว่าเยอะยก เป็นต้น ไม่ใช่ว่าแค่เครื่องบินเล็กทำให้ขึ้นลงไฮเวย์ได้

โดยคุณ toeytei เมื่อวันที่ 21/03/2016 01:09:55


ความคิดเห็นที่ 13


สวีเดนใช้รอกในการช่วยติดอาวุธและยุทธปัจจัย ส่วนอเมริกาใช้มือคนครับ  ก๊ากกกก......

โดยคุณ superboy เมื่อวันที่ 21/03/2016 09:29:37


ความคิดเห็นที่ 14


ผมเชื่อว่าค่าโอเปอเรตของยาสถูกกว่าจริงๆ ครับ เพราะนั่นเป็นเป้าหมายหลักของรัฐบาลสวีเดนช่วงออกแบบเลย เนื่องจาก J-37 มันค่าใช้จ่ายแพงเกินไป เนื่องจากความใหญ่โตของเครื่อง ซึ่งยาสก็แลกมากับความที่เครื่องอ่อนกว่าหน่อย ขนน้อยกว่านิด บินใกล้กว่าบ้าง แต่ก็ยังบินได้ 2.0 มัค ยังมีความคล่องตัว ไม่ได้ขนาด L-39  ก็เอาเป็นว่ายาสบินเร็วกว่า F-35 และ F-18 ละกัน

 L-39 นั่นก็ไม่ใช่เครื่องขับไล่ เอามาเทียบก็เวอร์ไป 

ผมมองว่าสาเหตุที่เราซื้อแล้วมันโอเคอย่างนึงคือ ต่อให้ขนอาวุธได้ไม่เยอะเท่าคู่แข่ง ประเทศเราก็ไม่ได้มีอาวุธจะให้ขนอะไรมากมายอยู่แล้ว ฮา ติดAAMให้เครื่องขับไล่ของเราทั้งกองทัพลำละสี่ลูกยังไม่รู้เลยว่าจะมีครบกันทุกลำหรือเปล่า

 

โดยคุณ tongwarit เมื่อวันที่ 21/03/2016 10:33:40


ความคิดเห็นที่ 15


ภาษาที่ผู้บริหารชอบพูดคือ ให้เปรียบแอปเปิ้ล ทู แอปเปิ้ล ............. หากเปรียบแอปเปิ้ล กับหมากผีผ่วนแล้ว เดี๋ยวท้องจะเสีย...... อันหลังนี้ ผมพนักงานผู้ต่ำต้อยเอ่ยปากรำพึงรำพันเอง........................

 

การจะเปรียบเทียบค่าใช้จ่าย ถ้าจะให้ยุติธรรม ต้องอยู่บนภารกิจเดียวกันนะครับ................. กริเป้น ออกแบบให้เป็นเครื่องบินป้องกันภัยทางอากาศส่วนหน้า  ขึ้นลงบนไฮเวย์  ฟาสิลิตี้ อาจไม่ครบ เครื่องลงแตะพื้นถนนแท็กซี่จอดไม่ดับเครื่อง จนท โหลดจรวดด้วยรอก ติดเสร็จ ก็เร่งตะบึงฮ่อ ไต่ขึ้นไปฟาดปากต่อ  ................ ขณะที่ เอฟ-16 รับภารกิจ ขัดขวาง จนท โหลดระเบิดพันปอนด์ 4 ลูกเข้าใต้ทอง กับถังน้ำมันพันแกลลอน อีกสอง ลูก  ใช้รถพ่วง รถยกเต็มอัตรากำลัง    จนท อีกส่วน ควบคุมเครื่อง ออกสิลาลี่ พาวเวอร์ ยูหนิต ช่วยสตาร์ท  แบบนี้จะเรียก แอปเปิ้ล ทูแอปเปิ้ล  หรือ แอปเปิ้ล ทูผีผ่วนดีครับ ....................

 

เปรียบอีก  กริเป้น นน.ตัวเปล่า เจ็ดตันกว่าๆ   เอฟ- 16 สิบตัน   ไส้พุงข้างในไม่ต้องพูดถึง  ส่วนที่ต้องดูแลตรวจสอบตรวจเช็ค มันต้องมากกว่า   อย่างนี้เรียก แอปเปิ้ล ทูแอปเปิ้ล มั้ย................  การเปรียบกับ แอว-39 เป็นการประชดประชันให้เห็นความบกพร่องทางตรรกเชิงเปรียบเทียบ       ...................  เชื่อเถอะ  เครื่อบินยุคเดียวกัน  เครื่องยนต์ยุคเดียวกัน(เอฟ-404 ใช้ในเอฟ-18)   อิเลคทรอนิคส์ ยุคเดียวกัน  ถ้าแอปเปิ้ลกับแอปเปิ้ลแล้ว มันไม่ห่างกันหรอกครับ .................... ท้ายนี้ต้องฝากเรียนถาม จนท ที่สุราษฎร์ด้วยว่า  โหลด อาวุธด้วย รอกอยู่หรือเปล่าครับ..................  

โดยคุณ กบ เมื่อวันที่ 21/03/2016 12:11:44


ความคิดเห็นที่ 16


CT-4E  สุดยอดเครื่องบินทางทหารยุคที่ 4.5  ออกแบบมาเพื่อให้ประหยัดกว่า ซู-30 โดยเฉพาะ


โดยคุณ กบ เมื่อวันที่ 21/03/2016 12:21:24


ความคิดเห็นที่ 17


ค่าใช้จ่ายต่อเที่ยวกริเพนอาจจะถูกกว่าอยู่บ้าง แต่ระบบสินค้าคงคลังของเครื่องบินรบ 12 ลำ กับ  5-60 ลำกริเพนน่าจะแพงกว่าอยู่เหมือนกัน ผมหมายถึงบรรดาอะไหล่ที่ใช้ซ่อมบำรุงประจำเที่ยวบินและวงรอบอะไรพวกนี้ ซึ่งเคยมีปัญหาในช่วงแรกๆว่าแพงจังวุ้ย ไม่ทราบว่าทอ.จัดการได้ดีมากน้อยแค่ไหนแล้ว มันก็เป็นต้นทุนอย่างหนึ่งเหมือนกันนะ

 

เพราะสั่งซื้อสินค้า 12 ชิ้นกับ 50 ชิ้นราคามันก็ต่างกัน แม้ว่าเราอาจจะใช้วิธีทยอยซื้อก็ตามเถอะ

โดยคุณ superboy เมื่อวันที่ 21/03/2016 14:09:35


ความคิดเห็นที่ 18


เดจาวู

และเดจาวู

โดยคุณ Phu2000 เมื่อวันที่ 21/03/2016 14:14:39


ความคิดเห็นที่ 19


 

1 เป็นเครื่องบินที่มีความสามารถมาก บินได้เร็วกว่า  สูงกว่า  เรดาห์ไกลกว่า และโจมตีแบบอากาศสู่พื้นได้แม่นยำ กว่า jas39 มากๆๆเลยนะครับ

F-16 : JAS-39 : Su-30 ........ "อ่าน"

"โจมตีแบบอากาศสู่พื้นได้แม่นยำกว่ามากๆ"......เหรอ.......ถ้าใช้Pavewayเหมือนกันมันก็แม่นเท่ากันครับ ส่วนJDAMอันที่จริงมันแม่นน้อยกว่าPaveway................

2 F16 50/52 เป็นเครื่องบินที่ทำมาเพื่อรองรับการต่อสู้กับ Su30 หรือ เครื่องบินค่ายอื่นๆๆแบบพอฟัดพอเหวี่ยง ไม่ต้องใช้ awac ช่วยก็ยังได้

อันที่จริงJAS-39วัดกันตรงๆเผลอๆจะเหนือกว่าblock 50/52 ที่ใช้เรดาร์APG-68ด้วยซ้ำ (และAPG-68(V)9ใช้บนblock 50/52 "plus")

AEWคือตัวช่วย แม้แต่สหรัฐก็นำF-15ปฏิบัติการร่วมกับE-3 แต่ก็ไม่ได้หมายถึงว่าปฏิบัติการลำเดียว(ซึ่งคงไม่มีใครทำกันเท่าไหร่)หรือเป็นฝูงบินโดยไม่มีAEWไม่ได้

3 แถมมีประวัติการใช้งาน ในสงคราม มากมาย เราก็เคยเห็นในคลิป มากมาย

กองทัพอากาศสวีเดนเคยส่งJAS-39เข้าCAPเหนือน่านฟ้าลิเบีย

4 jas 39 ไม่เคยใช้ในสงครามใหนมาก่อนเลย แต่ F16 มีมากมาย

กองทัพอากาศสวีเดนเคยส่งJAS-39เข้าCAPเหนือน่านฟ้าลิเบีย

5 อะไหล่ก็หายากเพราะ jas39 นั้นซื้อชิ้นส่วนจากหลายๆประเทศมาประกอบ ซึ่งถ้าสวีเดนมีปัญหากับประเทศเหล่านั้น เราก็จะพลอยลำบากไปด้วย

F-16ก็มีsupplierจากหลายประเทศ แม้ว่าจะไม่มากเท่าGripen และที่สำคัญการจัดหาอะไหล่จากFMSลำบากกว่ากันมาก

6 f16 ใช้กันทั่วโลก 

ถ้านับทั่วโลกหมายถึงทุกทวีป Gripenก็ขาดแค่อเมริกาเหนือ (ตอนนี้แข่งเสนอแคนาดาอยู่ด้วย)

7 F16 ผลิตโดยล็อกฮีท มาร์ติน ซึ่งเป็นบริษัทที่ก้าวล้ำเทคโนโลยีทางทหารมายาวนาน และสามารถผลิต F16 รุ่นใหม่ๆๆออกมาเรื่อยๆๆ

และเหนือชั้นกว่า jas39ng ก็ไม่แน่

F-16ใกล้ปิดสายการผลิตเต็มที

8 F16 ติดอาวุธของนาโต้ได้ทุกชิ้น อย่างไม่มีข้อจำกัด

มีข้อจำกัดคือการที่เราปรับปรุงระบบsoftwareใดๆต้องผ่านการอนุมัติจากคองเกรส

9 F16 น่ากลัวนะครับ เช่นข้าศึกจะบุกเรา แต่พอรู้ว่าเราเอา F16 ขึ้นสกัด มันดูน่ายำเกรงกว่า jas39 ใหมครับ

ไม่ต่างกัน (ว่าแต่ข้าศึกมันรู้เหรอ?)

10 เรดาห์ไกลมากๆๆๆๆ

กลับไปอ่านข้อ1

 

คหสต. สิ่งที่F-16เหนือกว่าและน่าเอามาอ้างที่สุดคือpayloadของมันมากกว่าครับ

ค่าใช้จ่ายในการปฏิบัติการต่อชั่วโมง....

F-16 : 22,514 USD

Gripen : 7,500 USD

และการประหยัดน้ำมันไม่ได้ขึ้นกับกำลังเครื่องอย่างเดียวด้วยครับ

โดยคุณ Phu2000 เมื่อวันที่ 21/03/2016 14:24:36


ความคิดเห็นที่ 20


ว่าแต่ว่า  Block 50/52 นี่ราคาซักเท่าไหร่ครับ  

ผมอ่านข่าวเก่าว่า ตุรกีจัดไป 30 เครื่องในปี 2006  จ่ายไป 2.9 พันล้านเหรียญ  แต่มันรวมระบบอาวุธ และ อุปกรณ์สนับสนุนด้วย

ที่เจ๋งสุดก็คงเป็น block 60,  UAE จ่ายค่าวิจัยพัฒนา Block 60 ขึ้นมาจาก Block 50/52  หมดไปประมาณ  3 พันล้านเหรียญ   สั่งชุดแรกไป 60 ลำ ผมเข้าใจว่าค่าเครื่องต่างหาก...  ดังนั้นคิดง่ายๆก็เอาราคาเครื่อง block 50/52 ตั้ง + ค่าวิจัยหรือส่วนเพิ่มต่อเครื่อง 50M  แต่ค่าวิจัยนี้มันก็จะมีมูลค่าต่อลำลดลงถ้าผลิตเยอะกว่านี้  (ตามเคย  UAE จ่ายเป็นกำ  แต่ไม่ใด้ Source code )

 

โดยคุณ Sam เมื่อวันที่ 21/03/2016 14:51:39


ความคิดเห็นที่ 21


คหสต. สิ่งที่F-16เหนือกว่าและน่าเอามาอ้างที่สุดคือpayloadของมันมากกว่าครับ

ค่าใช้จ่ายในการปฏิบัติการต่อชั่วโมง....

F-16 : 22,514 USD

Gripen : 7,500 USD

และการประหยัดน้ำมันไม่ได้ขึ้นกับกำลังเครื่องอย่างเดียวด้วยครับ

 

 

การเปรียบเทียบ  22,541 กับ 7,500 ยูเอสนี่    แอปเปิ้ล กับ บักผีผ่วน หรือเปล่าครับ.................  ตัวเลขมาจากคนละสำนักเลย   เอาเกณฑ์อะไรเป็นตัววัด  เอาตัวเลขไหนมาคิดบ้าง  บริษัทผม กับ บริษัทห้องแถวข้างหน้า ตัดค่าเสื่อมโรงไฟฟ้าไม่เหมือนกันนะครับ ของผม บมจ. ตัดค่าเสื่อม 10 ปี  ห้องแถวข้างหน้ารวยระห่ำ ตัดห้าปีเลย  อย่างนี้ ว่ากันเป็นรายปี รายวัน มันก็ไม่เท่ากันแล้วนะครับ  มินิมั่มเวจ ไอ้กันเท่าไหร่  สวีเดนเท่าไหร่   ตอนเขียนรายงาน มันไปทำกันที่อูกันดาหรือเปล่า เพราะค่าแรงน่าจะถูกกว่ายุโรป ....................   เทคโนโลยี่ไล่เลี่ยกัน   เครื่องยนต์ให้ปอนด์มากกว่า ย่อมบริโภคมากกว่าครับ  ถ้าเป็น เจ-79 กับ เอฟ-100 ค่อยว่ากันอีกเรื่อง โดยคอมม่อนเซนส์  เครื่องบินสองลำ คลาสใกล้เคียงกัน เทคโนโลยี่ไม่ต่างกัน ปฏิบัติภารกิจเดียวกัน ระยะพิสัย นน บนนทุก เท่ากัน ราคาซื้อขายโครงการเท่ากัน จำนวนเครื่องบินเท่ากัน  อะไหล่จัดหามูลค่าเท่ากัน อายุการใช้งานเท่ากัน คิดค่าเสื่อมราคาเหมือนกัน    แต่อีกลำ โอเปเรตเป็น ชม. แพงกว่า 3 เท่า  ผมว่า ทั้งวิศกร นักการทหาร นักบัญชี  โปรดพร้อมใจ ไปโดดน้ำตายกันดีกว่าครับ .............. แอปเปิ้ลกับแอปเปิ้ลสิครับ  ซัมซุงไม่เกี่ยว

โดยคุณ กบ เมื่อวันที่ 21/03/2016 15:28:26


ความคิดเห็นที่ 22


ต้องเจอเครื่องผมหน่อย Yak-112 สุดยอดเครื่องบินร่วมสมัย ออกมาแบบมาเพื่อตัดหญ้า โดยเฉพาะ..... 


โดยคุณ aomphet เมื่อวันที่ 21/03/2016 22:43:19


ความคิดเห็นที่ 23


ส่วนตัวผมไม่ได้ชำนาญเรื่องเครื่องบินมานัก แต่ต้องขอขอบคุณทุกท่านที่ออกมาให้ความรู้ ผมไม่แน่ใจว่า จขกท. จะต้องการสื่อ f16 50/52 vs jas 39 ในเมืองไทย หรือ ทั่วโลก แต่เท่าที่อ่านน่าจะสื่อ คำว่า "เรา" คือประเทศไทย จากที่ผมติดตามข่าวทางทหารมาพอสมควร หลักนิยมทางการทหารบ้านเราจะมองภัยคุกคามเป็นหลัก โดยเฉพาะสถานการณ์ประเทศรอบบ้าน เช่น ปัญหาเส้นเขตแดนทั้งทางบกและทางทะเล โดยปัญหาเส้นเขตแดนทางบก ด้านฝั่งตะวันออก ตั้งแต่ช่องบกจนถึงเกาะกรูด ยังตกลงเรื่องระวางแผนที่ไม่ได้เลย แถมเพื่อนบ้าน 3 ประเทศแถวนั้นเขายังมีสนธิสัญญาร่วมรบกันอยู่ แต่ที่น่ากลัวคือ 1 ในนั้นมี SU-30 KM2 ไว้ครอบครอง ส่วนเรื่องเส้นเขตแดนทางทะเล มีทั้งทางตะวันออกและทางใต้ แต่ผมขอโฟกัสทางด้านใต้ของประเทศเป็นหลักโดยเฉพาะแหล่งน้ำมันและก๊าซธรรมชาติของประเทศไทยที่เป็นผลประโยชน์ทับซ้อนไทย-กับประเทศเพื่อนบ้าน บริเวณนอกชายฝั่ง"จังหวัดปัตตานี" 

สรุปสำหรับในความคิดผมคือ

ทางตะวันออก ภัยคุกคามที่น่ากลัวที่สุดคือทางอากาศ เพราะ SU-30 MK2 มีอย่างน้อย 3 ฝูง ส่วนทางบกผมว่าเรากองทัพเรารบมือได้สบาย ปล. F-16 MLU ของเราที่เครมว่าขีดความสามารถเทียบเท่า F-16C/D Block 50/52 + F-16 เครื่องที่เหลือ เราพอจะรับมือ SU-30 3 ฝูงบวกๆเพราะเห็นว่าอาจจะถึง 4 ฝูง ไหวมั๊ยครับ ? ผมว่า จขกท. น่าจะถามประเด็นเรื่องนี้มากกว่าน่ะครับ

ทางใต้ ภัยคุกคามที่น่ากลัวที่สุดคือทางทะเล โดยเฉพาะกองเรือของประเทศที่ใกล้เราที่สุด คำถามคือแล้วทางอากาศล่ะ เมื่อก่อนผมก็มองว่า SU-30 MKM 18 ลำ บวกกับ F/A-18 8 ลำ เป็นอะไรที่น่ากลัวมากๆ แต่หลังจากเกิดเหตุการณ์ MS370 ผมเพิ่งมาถึงบางอ้อ ไม้เด็ดของเราทางภาคใต้คือสถานีสถานีเรดาห์ ของ ทอ. ดังนั้นผมถึงเข้าใจว่าทำไมถึงเป็น Jas 39 + อีรี่อาย + Link Saab + RBS-15 และสุดท้าย IRIS-T ถ้าเราบูรณาการให้ครอบคลุมทุกภาคส่วน(Link-T)สำเร็จ ผมว่า Jas-39 เราแทบจะปิดเรดาร์รบได้เลยน่ะ อิอิแอบฝัน ปล. ผมไม่แคร์น่ะว่าจะใช่เครื่องของใครแบบไหน เพราะถ้าสามารถจมเรือรบผิวน้ำได้ผมสนับสนุนหมด

สุดท้ายของสุดท้าย นี้คือความคิดของผม ถ้าผิดพลาดประการใด รบกวนท่านผู้รู้ทั้งหลายช่วยแก้ไขให้กระจ่างด้วยครับ 

โดยคุณ Odin เมื่อวันที่ 22/03/2016 00:22:42


ความคิดเห็นที่ 24


ผมว่าถ้าเทียบ F16 block52 plus กับ Jas39 C/D ผมว่า F16 น่าจะทันสมัยกว่า แต่ถ้าดูภาพรวมก็ต้องยกให้ Jas39 หรือถ้าเลื่อนไปเทียบ F16V กับ Jas39NG ผมก็ว่า F16V ดีกว่า แต่ถ้าให้เลือกจริงๆ ผมขอ F16V มือหนึ่งไว้เป็นหมัดเด็ดมาลงแทน F16ADF แล้วขอ Jas39C/D มือสอง 2 ฝูง มาเฝ้าชายแดนแทน L39 , Alphajet ส่วนเครื่องฝึกบินและโจมตีผมว่า T/A50 ฝูงเดียวก็พอแล้วครับ
โดยคุณ rayong เมื่อวันที่ 23/03/2016 10:37:33


ความคิดเห็นที่ 25


สำหรับเครื่องบินอย่าง F35A ผมว่าคงต้องรอไปอีกราว 15 ปีไปแล้วถึงจะมีโอกาสครับ หากถามว่าทำไม่เหลือเครื่องฝึกบิน/ โจมตีฝูงเดียว ผมคิดว่าถ้าจะโจมตีผู้ก่อการร้ายใช้ ฮ. ติดอาวุธน่าจะดีกว่า ถ้าโจมตีกองทหารต่างชาติที่มีระบบต่อสู้อากาศยานใช้เครื่องบินรบ multirole ไปเลย เครื่องไอพ่นธรรมดาอย่าง L39 Alphajet คงไม่รอด
โดยคุณ rayong เมื่อวันที่ 23/03/2016 10:40:14


ความคิดเห็นที่ 26


ไอเดียของคุณ ระยอง ตรงกับ ทอ. แล้วหล่ะครับ  คือภารกิจโจมตีขัดขวางโดยเครื่อง อเนกประสงค์แบบจัดหนักดังกล่าวไงครับ  จึงเกิดโครงการ ที-50 ขึ้นมานี่ไงครับ................ ต้องยอมรับว่า อายุการใช้งาน อัลฟ่าเจ็ท ยังเหลืออีกมาก เราจึงมีเครื่องโจมตีสนับสนุนการรบปราศจากปืนอีกอย่างน้อย สิบห้าปี

 

การหลีกทางของ แอว-39 เพื่อที่ว่างของ ที-50   จะทำให้เรามีเครื่องโจมตีขัดขวางความเร็วเหนือเสียงเพิ่มอีก 1 ฝูง   ใครที่คิอว่า ที-50 ใช้ฝึก อันนี้โดนสับขาหลอกแล้วหล่ะครับ

 

แรกๆ ผมมีอัคติกับ กริเป้นค่อนข้างมาก แต่เมื่อมานั่งคิดนอนคิดก้งโค้งคิดดู   "เธอเหมาะสมแล้วครับ" ............ ต้องยอมรับว่า ภัยคุกคามทางภาคใต้ เป็นลักษณะโฉบฉวย  การวางกำลังเพื่อใช้พิทักษ์ทรัพย์  โอกาสรับมือการกรีฑาทัพ 16 กองพัน ผ่านด่านมะข้ามเตี้ยเข้ามาคงเกิดขึ้นยาก   ดังนั้น อาวุธในการป้องกันต้องเป็นลักษณะ ยับยั้งภัยคุกคามแบบกรณีฉุกเฉิน    กริเป้นคือคำตอบครับ   เธอใช้อาวุธแค่ 3 อย่างดังนี้ คือ อำราม ไอริสที  และ อาร์บีเอส-15 ประกอบกับโครงข่ายเรดาร์แจ้งเตือน รวมถึงอีรี่อายส์ ลิ้งกับเรือรบต่างๆ  เท่านี้ น่านฟ้า และท้องทะเลด้านใต้ ก็ปลอดภัยแล้วครับ.......... มีต่อ

โดยคุณ กบ เมื่อวันที่ 23/03/2016 12:11:40


ความคิดเห็นที่ 27


การที่เรามีโครงข่ายแจ้งเตือนแบบบูรณาการ และที่สำคัญ มีกริเป้น   ก็เหมือนเรามีระบบ ป้องกันภัยทางอากาศ เอส-300 หลายๆฐาน  มีเรื่อเร็วโจมตีติด อปว. กระจายตามเกาะแก่งต่างไว้ รับมือกับเรือรบที่เข้ามาในน่านน้ำ  ประมาณนั้นหล่ะครับ ................... ดังนั้นโอกาสที่จะเห็น กริเป้น หิ้ว 2000 ปอนด์ ถล่มภูเขา ทำลายล้างไส้เดือน6ล้านตัวที่อาศัยโดยรอบนั้น สำหรับ ทอ.ไทย คงเป็นภาพที่หาดูไม่ง่าย ...............    เราจึงได้ยินบ่อยๆว่า  ทอ. มีแผนจะจัดหากริเป้น แค่ฝูงเดียว  ซึ่ง จริงๆ ฝูงเดียวก็เพียงพอสำหรับ ภาคใต้ทั้งหมดแล้วครับ ..........  

 

แต่ถ้าเป็นภัยคุกคามทางด้านอื่น  กริเป้นไม่ใช่คำตอบครับ    .................. ทิศเหนือ ทิศอิสาน ทิศตะวันตก  ต้องการเครื่องบิน มัลติโรล์ ครับ  นอกจากป้องกันภัยทางอากาศแล้ว  เธอต้องหิ้วระเบิด ทำภารกิจขัดขวางได้ด้วย ............  ถ้าคิดไม่ออก ลองนึกถึงสมัย ผบ.ทบ. ที่องค์ลงสิครับ  ยุคนั้น เขาว่าเอฟ-5 ของเราทะลึ่งเข้าไปทำโซนิคบูม  แค่นี้ก็คงพอมองออกแล้วว่า ควรเลือกใช้บริการเครื่องแบบใด ????...................... มีต่อ

โดยคุณ กบ เมื่อวันที่ 23/03/2016 12:25:41


ความคิดเห็นที่ 28


ถ้าเปรียบ เกมส์ฟุตบอลกับยุทธเวหา   ฟุตบอลคลาสสิคเมื่อก่อน  ปีกซ้ายประทีป ปานขาวลากยาวไต่ริมเส้นค่อนสนาม โยนยาวหยอดไปข้างหน้า ให้ปิยพงษ์ ขึ้นโหม่ง     หรือไม่ก็ สุดหล่อ เบ้คแฮ่ม บรรจงสาวตีนชั่งทอง หยอดให้ โอเว่นซอยยิกลากยิงหน้าประตู..... ทั้งหมดนี้ ก็คล้าย ครองอากศ เอฟ-15 คุ้มกัน เอฟ-16 หย่อนระเบิดใส่โรงไฟฟ้า ในยุทธการ แบบิล่อน(บาบีโลน) คือต้องไปคู่ ....................  

บอลสมัยใหม่ ตัวดังๆ มาราโดน่า คานีเกีย สิโก้ เหยินใหญ่ เหยินเล็ก เมสซี่ โด้ว์ ส่งไปมาเตาะแตะ เผลอแผล่บ ไส่เกียร์หมาเลี้ยงปาด ลากครึ่งสนาม หลอกคนอื่นหัวหมุน สับขายิงประตู ..................  มันก็ต้อง สไตร้ค์ ไฟท์เตอร์   มีเรดาร์ บีวีอาร์ป้องกันตัวเองได้ดี บินต่ำมุดเตี้ย ทอยระเบิดเข้าฮ้อร์ส ....................   ยังไง ผมก็ยัง รักซู ..................... จริงๆนะพับผ่า ..................แต่ขอร้องแฟนกริเป้นอย่าขัด  เพราะบอกแล้ว  ว่างานนี้คนละสาย   ทางเดินคนละเส้น   แยกทำงานแยกกันดัง................

โดยคุณ กบ เมื่อวันที่ 23/03/2016 12:39:12


ความคิดเห็นที่ 29


ยกมือเห็นด้วยกับท่านกบครับ แต่ผมว่ากองหน้าของเราอย่างเจ้า T/A50 ไม่น่าจะใช่จอมลีลาอย่างเพชรฆาตหน้าหยกปิยะพงษ์ผิวอ่อน แต่น่าจะเทียบได้กับประเสริฐ ช้างมูล ยิงประตูจีนนอกบ้านแล้วเปลี่ยนตัวออกไปเลย ยิงทีเดียวเลิกเลยอะไรประมาณนั้น กองเชียร์ลุ้นแทบตาย
โดยคุณ rayong เมื่อวันที่ 23/03/2016 14:45:16


ความคิดเห็นที่ 30


พูดเรื่องบอลนี่เปิดเผยอายุทางอ้อมกันใหญ่เลยนะครับ แหะๆ

เรื่อง t/a-50 ผมก็ว่าแพงเกินถ้าจะเอามาฝึกบิน ก็ขอของเราเป็นเวอร์ชั่นที่สามารถใช้โจมตีด้วยเทอญ 

โดยคุณ tongwarit เมื่อวันที่ 23/03/2016 19:00:07


ความคิดเห็นที่ 31


ไม่รู้จักนักบอลแม้แต่คนเดียวเลย จริงๆน้า >_<

 

ผมนี่ชื่นชอบนักเตะสไตค์พ่อมดหมอผีจอมขมังเวทย์อย่าง เชิดศักดิ์ ไชยบุตร มากมาย ผมจึงอยากได้รุ่นนี้ซัก 6 ลำก็ได้ฟระมานอนกอดให้อุ่นใจ  ก๊ากกก.... (3 ลำก็เอาฟระ)

 

 


โดยคุณ superboy เมื่อวันที่ 24/03/2016 09:02:49


ความคิดเห็นที่ 32


งั้นผมเอา วิทูรย์ กิจมงคลศักดิ์

โดยคุณ Naris เมื่อวันที่ 24/03/2016 10:59:33


ความคิดเห็นที่ 33


ผมชอบแบบหนักแน่นแบบ เสนาะ โล่งสว่าง หรือ ดุสิต เฉลิมแสง 

โดยคุณ ALPHA001 เมื่อวันที่ 24/03/2016 12:05:32


ความคิดเห็นที่ 34


ไม่มีท่านใดทัน โจมตีคมๆ แบบ นิวัติ ศรีสวัสดิ์  กับ สกัดกั้นหนักๆ แบบ อำนาจ เฉลิมเชาวลิต   หรือ ครองอากาศแบบ คารลไฮ รุมะนิเก้   บ้างหรือครับ....????

โดยคุณ กบ เมื่อวันที่ 24/03/2016 21:40:55


ความคิดเห็นที่ 35


ที่พอรู้จักท่านกบยกตัวอย่างไปหลายคนแล้ว งั้นเอา เจษฎาพร  ณ พัทลุง กับ พัลลภ  มะกล่ำทอง แล้วกันครับ

โดยคุณ cumulus เมื่อวันที่ 25/03/2016 12:57:44


ความคิดเห็นที่ 36


อ้าว จากF16vsJASกลายเป็นกระทู้บอกอายุไปแล้ว แต่คุณกบชวนฮาดี วัยรุ่นแบบผมชอบเฉลิมวุติ สง่าพล 

โดยคุณ RAF เมื่อวันที่ 26/03/2016 08:17:39