แล้วที่เราเปลี่ยนแบบเฮลิคอปเตอร์ด้วยเหตุผลที่ลือกันว่าลาโกต้าปิดสายการผลิตไปแล้วนี่มันยังไงเนี่ย โอเคว่าตัวที่มาแทนมันคล้ายๆกันแต่ก็ถือเป็นอีกรุ่นอยู่ดี ส่วนตัวไม่ได้โปรเมกานะครับแต่ของที่เขาซื้อคุณภาพสมราคามาก ผมอยากได้เฮลิคอปเตอร์มาตราฐานรุ่นเดียวกันเยอะๆมากกว่ามีมากรุ่นเบี้ยแตกหอยแตกนะครับ
http://www.janes.com/article/55964/us-army-signs-for-12-more-lakotas
the US Army has exercised USD65.8 million in contract options for 12 additional Airbus UH-72A Lakota helicopters and mission equipment packages, the company announced on 12 November.
Delivery of Lakotas in a training configuration under the deal is expected to begin in August 2017, according to Airbus. The army this year fielded more than 50 training Lakotas to Fort Rucker, Alabama, in preparation for the UH-72A's formal introduction into the training curriculum by early 2016.
Army plans call for an initial-entry rotary wing training fleet of 187 Lakotas, comprised of a mix of new deliveries and already in-service aircraft reconfigured for the training mission.
The army chose the UH-72A in 2006 to fulfill a variety of army and Army National Guard roles beyond training, including search and rescue, medical evacuation, border security, command and control, VIP transport, and general utility.
In addition to the army, the US Navy uses Lakotas for training at the US Naval Test Pilot School. The only Lakota Foreign Military Sale to date was for six aircraft to the Royal Thai Army.
------------------------------------------------------------------------------------------------------------
ภาพหประกอบจาก FB บก.สมพงษ์
https://www.facebook.com/permalink.php?story_fbid=908736862543242&id=226312960785639
ข่าวเกี่ยวกับเรืองอาจปิดสายการผลิต UH-72 เป็นเรื่องจริงครับ...แต่เรื่องปิดหรือไม่ปิดนี่ไม่ทราบนะครับว่ามีมูลขนาดไหนครับ...
ทบ.เมกัน สั่งซื้อลาโกต้าอีกล๊อต ตั้งแต่เดือน มี.ค. 2015 แล้วครับ หลังจากที่เราเปลี่ยนใจไปสั่ง AW-139 แทน เพราะตอนนั้นยังไม่มีออเดอร์ใหม่จาก ทบ.เมกันครับ จากนั้นก็ตามด้วย AW อีกล๊อต
ใจจริงผมถูกใจ AW-139 มากกว่าครับ บรรทุกได้มากกว่า 1 หมู่ทหารราบเต็มๆ ขนาดพอๆ กับ ยูเอชวัน ส่วนตัวลาโกต้าดูมันเล็กไปนิดนะครับ
ข้อเสียคือหลายแบบหลากรุ่นเหลือเกินสำหรับ ทบ. แบบละนิดละหน่อย คงไม่ค่อยดีนักในแง่การดูแลซ่อมบำรุงครับ
ส่วนตัวเป็นติ่งอิตาลีครับ AW139 นี่ชอบมากโดยเฉพาะการใส่ลังมาประกอบในประเทศ ถ้าเราจัดหา AW139 มาตั้งแต่แรกผมไม่มีคำถามเลยนะ แต่กระทู้ขอลาโกต้าเป็นพระเอกจั๊กหน่อยแน้ ปรกติไม่ค่อยได้คุยเรื่องทบ.เท่าไหร่ขอถามเรื่องที่สงสัยไปด้วยเลยแล้วกัน
เรามีโครงการจัดหาเฮลิคอปเตอร์ทดแทน UH-1H ที่ชราภาพเต็มที แล้วเราก็เลือกสั่งซื้อ UH-72A Lakota ลีอตแรกจำนวน 6 ลำในวงเงิน 77 ล้านเหรียญในเดือนมิถุนายน 2013 ด้วยวิธี FMS จากนั้นไม่นานเลยในเดือนกันยายน 2014 เราสั่งซื้ออีกรอบจำนวน 9 ลำ ในวงเงิน89 ล้านเหรียญ (ตามเอกสารทางการอเมริกา) และแล้วต่อมาในเดือนกุมภาพันธ์ 2015 เรายกเลิกคำสั่งซ์้อลาโกต้าแล้วสไปเอา EC145 T2 จากบริษัท Airbus ยุโรปจำนวน 6 ลำมาใช้ในภาระกิจ VIP แทน โดยได้โยกทั้งลาโกต้าและ EC145 T2 ไปอยู่ในโครงการทดแทนเฮลิคอปเตอร์เบา(พวก Bell 206) แล้วก็มีการจัดหา AW139 จำนวน 6 ลำในล็อตแรกเพื่อทดแทน Bell 212 ต่อไป
คำถามก็คือ
1 ลาโกต้ามีขนาดไม่ใหญ่มาก ให้คนที่ไม่มีความรู้เรื่องเฮลิคอปเตอร์มาดูภาพก็พอเดาจำนวนผู้โดยสารออก ในเมื่อมันเล็กกว่า UH-1Hและเราก็รู้ดีอยู่เต็มอก แล้วจะเลือกลาโกต้าและซื้อมาทำไมตั้ง 6+9 ลำ(อาจจะเป็น 30 ลำ+ด้วยซ้ำถ้าไม่เดี้ยงไปก่อน) ถ้าเป็นโครงการทดแทน Bell 206 ตั้งแต่แรกก็ว่าไปอย่าง
2 ตอนที่เราซื้อลาโกต้าก็ควรจะรู้ไม่ใช่เหรอว่าสายการผลิตใกล้ปิดแล้ว แต่ก็ยังสั่งซื้อ 6 ลำแรกและยังมีออเดอร์ที่ 2 จำนวน 9 ลำด้วย คือคือถ้ารู้แน่ๆว่าปิดสายการผลิตก็ควรจะไปเอา EC145 T2 เลยผมก็ว่าดีเพราะเหมือนกับทร.ด้วย แต่ทบ.ก็ยังคงมุ่งไปยังลาโกต้าเป็นเต็มเหนี่ยว อย่างน้อยถ้าได้มา 15 ลำแล้วปิดดีลไปผมว่าเยี่ยมเลย เพราะเรื่องอะไหล่การซ่อมบำรุงจะได้ไม่เป็นปัญหา แต่ไฉนมันเปลี่ยนไปเปลียนมาแบบนี้ล่ะหนอ ถึงจะเหมือนกับ EC145 T2 มากแต่อะไหล่บางตัวก็ใช้กันไม่ได้อยู่ดี
3 เข้าใจว่าลาโกต้าจะไปอยู่ลพบุรีโดยมี หน้าที่สนับสนุนภารกิจทางทหาร การฝึกนักบิน การส่งกำลังบำรุง การส่งกลับสายการแพทย์ การช่วยเหลือฉุกเฉิน ขณะเดียวกันก็มีโครงการปรับปรุงใหญ่ UH-1H คงแค่บางลำ(สดๆร้อน) และสั่ง AW139 ที่ไม่ VIPเข้ามาเพิ่มเติม เมื่อบวก EC145 T2 เข้าไปอีก 6 ลำ จากที่ต้องการจะลดรุ่นเฮลิคอปเตอร์กลายเป็นเพิ่มรุ่นเข้าไปอีก ถามสั้นๆคำเดียวว่าจะมีแบบอื่นมาเพิ่มอีกไหมในล๊อตต่อไป หรือ AW139 นอนมาแน่ๆแล้ว (ซึ่งผมไม่แน่ใจเลย)
4 ทบสั่งซื้อเฮลิคอปเตอร์ล๊อตละ6ลำ ทอ.สั่งซื้อเครื่องบินล๊อตละ4ลำ ทร.สั่งซื้อเรือล๊อตละ1ลำ เข้าใจว่าโครงการมันผ่านไม่ยากไม่ต้องรับผิดชอบสุง แต่มันมีราคาแพงรวมแพงกว่าและมีโอกาสจะมาไม่ครบแบบที่เราเห็นมากเหลือเกิน เมื่อไหร่เราจะกลับไปจัดหาอาวุธเต็มความต้องการเหมือนชาวบ้านแบบเดิมล่ะครับ ถ้างบประมาณสุงไปก็เอาล๊อตล่ะครึ่งหนึ่งก็ได้ไม่ใช่แบ่งเป็น6เฟสย่อยมาเรื่อยๆเท่าที่จะมาได้
ตามความเข้าใจ คือ การใช้งานของ ฮ. ใหม่ ที่จะมาทดแทน UH-1H คือ การใช้งานทั่วไป มากกว่าครับ...จะไม่ใช่ ทางยุทธวิธี...
โดยเป้าหมาย ฮ.ทางยุทธวิธี ที่จะเข้า สนามรบ คงมีเป้าหมายเพียง Bell-212 และ UH-60 และ Mi-17 มากกว่าครับ...
ส่วน ลาโกต้า หรือ AW-139 น่าจะใช้ลักษณะ งานธุรการ และสนับสนุนแนวหลัง ครับ...
ส่วน ตามข่าวในงาน Defense 2015 ที่ ทบ.จะทำการ ปรับปรุง UH-1H จำนวนหนึ่ง ก็คงน่าจะเป็น UH-1 ล็อต EDA ซึ่งคงจะเอามาแทนจำนวน Bell-212 ที่ปัจจุบัน ปริมาณที่พร้อมจะอัพเกรด คงเหลือไม่ถึงตามเป้าหมาย..
ดังนั้น คงจะมองภาพ อากาศยานของ ทบ. คือ
อากาศยานปีกหมุน ใช้งานทางยุทธิวิธี (สนามรบแนวหน้า)
UH-1H upgrade
Bell-212 upgrade
UH-60 M,L
Mi-17
อากาศยานปีกหมุน ใช้งานทั่วไป (แนวหลัง)
UH-72
EC-145T2
AW-139
ดังนั้น จึงจะเห็นภาพความหลากหลายใน อากาศบานปีกหมุน ใช้งานทั่วไป ในแนวหลัง มากกว่าปกติ....
สำหรับส่วนที่เป็นกำลังรบจริง ๆ จะเป็น ฮ.ฝั่ง ตะวันตก สหรัฐ เป็นหลัก ทั้งหมด เหมือนเดิม ครับ...
อาจจะประเมินคราว ๆ คือ
อากาศยานปีกหมุนใช้งานทางยุทธวิธี
UH-1H upgrade = 20
Bell-212 upgrade = 30 40
UH-60 M,L = 16
Mi-17 = 8 (คาดหมายว่า น่าจะมีสั่งซื้อเพิ่มเติมอีก 3 ลำ)
อากาศยานปีกหมุนใช้งานทั่วไป
UH-72 = 6
EC-145T2 = 6 - 10 (คาดหมายส่วนตัวว่า อาจจะสังเพิ่มอีก 3-4 ลำ)
AW-139 = 8
ท่านจูดาส ท่านซูเปอร์บอย ท่านแซม สบายดีนะครับ
ท่านจูดาสยังอยากได้ Metal Diecast รุ่นไหนอีกไหมครับ ตอนนี้ผมเน้นของ JASDF เป็นหลักครับ กำลังล่า E-2C ของ Hobby Master อยู่ หายากจริงๆ
ประเด็นของท่านซูเปอร์บอย คงมีแค่ทำไมไม่ศึกษาให้ดีให้รอบคอบแต่แรก จะได้ไม่ต้องมี ฮ. หลากแบบในภารกิจเดียวกัน คือจะเป็น ลาโกต้า หรือ EC-145 หรือ AW-139 ขวัญใจของหลายๆ ท่าน ก็ให้เลือกซื้อสักแบบไปเลย มันจะได้ลดแบบไปในตัว ลดภาระและค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษาด้วย พูดง่ายๆ คือฟลีตใหญ่มันจะประหยัดกว่าฟลีตเล็กนะ ซึ่งผมก็เห็นด้วยนะ และจะว่าไปก็ควรครอบคลุมถึง ฮ.ยุทธการด้วย ต้องมีให้น้อยแบบที่สุด
หรือจะเอาให้สุดๆ ก็ควรต้องจัดตั้งเป็นโครงการ ฮ. ร่วมของทุกเหล่าทัพ ฮ. ยุทธการ ฮ. ธุรการ ฮ.ฝึก อะไรที่ใช้ร่วมกันได้ ก็ควรจัดซื้อจัดหาร่วมกันเป็นล๊อตใหญ่ไปเลย ราคาและเงื่อนไขการซื้อขายก็น่าจะได้ดีกว่าต่างคนต่างซื้อ จำนวนแต่ละล๊อตก็ไม่มาก ถ้าทำได้แบบนี้ จะเป็นตรรกะที่ สมเหตุสมผลที่สุด แน่นอนว่าอาจมีอุปกรณ์บางอย่างไม่เหมือนกัน ขึ้นกับความต้องการของแต่ละเหล่าทัพ แต่ยังไงโดยรวมก็ยังเหมือนกัน แบบนี้เวิร์คสุดๆ แล้วครับ
แต่ที่มันยังต่างคนต่างซื้อ อาจเป็นเพราะต่างคนต่างมีงบของตัวเอง สามารถใช้ในกิจการของตนโดยอิสระ ยิ่งไม่เคยมีใครมาให้นโยบายว่ารวมกันซื้อแล้วแบ่งกันใช้ ประเทศชาติจะได้ประโยชน์สุดๆ นะ ก็ยากครับที่แต่ละเหล่าจะคิดและนำปฏิบัติได้เอง
เรื่องแบบนี้ควรเอาไปใช้กับสิ่งอุปกรณ์เครื่องใช้อื่น ๆ ด้วย ตัวอย่างที่ง่ายที่สุดก็ยานพาหนะอย่างรถบรรทุก 4-6 ล้อ ไงครับ พื้นฐานง่ายๆ แต่ทุกวันนี้ต่างคนต่างซื้อกันอยู่เลยครับ ทำไมไม่รวมกันซื้อก็ไม่ทราบ จะ Isuzu, Hino, Mitsibishi, Benz, Steyr, Tarta, Tata หรือรถจีน ก็ว่าไปสัก 1-2 ยี่ห้อพอ งานง่ายกว่า ฮ. ตั้งเยอะแต่ก็ไม่มีใครคิดใครสั่งงานให้ทำ
สุดท้ายก็ยังหาคำตอบดีๆ ให้คุณซูเปอร์บอยไม่ได้เลยครับว่า ทำไม่ไม่ศึกษาให้ดีแต่แรกก่อนซื้อ
ปล. นี่ยังไม่นับ EC-155 สีดำ 2 ลำ ของ กองบัญชาการกองทัพฯ นะครับ ฮ่ะๆๆๆๆ ไม่ทราบว่า บก. มีภารกิจพิเศษหรือภารกิจลับอะไร หน่วยงานต่างๆ ในกองทัพจึงไม่สามารถสนับสนุน ฮ. ที่มีอยู่ให้กับภารกิจของท่านได้ ท่านจึงต้องไปซื้อหามาเป็นอัตราใช้งานของท่านเอง ไม่เข้าใจครับ
ในอดีตเคยมีการใช้งบของ บก.สส. ซื้อชีนุค 6 ตัว (ถ้าจำผิดขออภัยด้วยครับ) อันนั้นเข้าใจว่าเป็นความจำเป็นเร่งด่วนกรณีร่มเกล้า (แต่ ฮ. ก็มาที่หลัง หลังศึกจบแล้ว) แล้วงบของ ทบ. ในปีนั้นไม่พอเพราะไม่ได้ตั้งโครงการไว้ อันนั้นเข้าใจครับ แต่กรณี EC-155 สีดำใหม่ 2 ลำเนี่ย ยังนึกไม่ออกครับว่าทำไมต้องซื้อเอง
สวัสดีท่าน Tow ด้วยครับ
สวัสดีครับ ท่านเสือใหญ่ หายไปนานเลยนะครับ...
เดี๋ยวนี้ ไม่ได้สะสม Diecast แล้วครับ...แค่โมเดล เท่าที่ชอบ ก้เต็บบ้าน กลายเป้นโกดัง ย่อม ๆ แล้วครับ
สำหรับ อากาศยานปีกหมุนของ ทบ. ในอนาคตที่จะมีมากแบบ เท่าที่ดู ผมว่า เรื่องอะไหล่ ดูไม่ค่อยน่าจะมีปัญหานะครับ...เพราะ ฮ. ส่วนใหญ่ที่จัดหามาใหม่ ก็เป็น ฮ. ที่มีใช้งานในภาคเอกชนด้วย ทั้ง EC-145 AW-139 และ EC-155 ซึ่งเท่าที่สังเกตุ ฮ.จาก ยูโรคอปเตอร์ ไม่ค่อยจะมีปัญหาในเรื่องนี้...
แต่ในมุมมองผม ผมกลับเป็นห่วงเรื่อง ความสามารถในการซ่อมบำรุงของ ทบ. เอง มากกว่าครับ...การบริหาร การจัดการ มีประสิทธิภาพเพียงใด...ก็สังเกตุได้ง่าย ๆ ถึงแม้ ทบ. จะมี ฮ. แบบเดียวกัน ในปริมาณมาก ๆ ก็ไม่ได้หมายความว่า จะมีความสามารถบำรุง รักษา ให้เพียงพอต่อความต้องการได้...เช่น UH-1H ที่มีประมาณ 122 ลำ และ Bell-212 ที่มีประมาณ 48 ลำ...แต่สามารถใช้งานได้จริงน้อยมาก ถ้าจำไม่ผิดประมาณ 20-30%...ตามข้อมูลเมื่อไม่กี่ปีที่ผ่านมา...หรือแม้แต่ ฮ.ชินุค ที่มีกว่า 6 ลำ...เราก็แทบจะเห็นการใช้งานน้อยมาก...แต่ตอนนี้ ก็ใช้ไม่ได้หมดแล้ว..ในขณะที่ ชั่วโมงบิน น่าจะยังเหลืออยู่พอสมควร...
ผมคิดว่า เรื่องประสิทธิภาพการบริหารการจัดการ ของ ทบ. น่าจะมีปัญหา มากกว่า ความหลากหลายแบบของ อากาศยาน...
ซึ่งถ้าเทียบกับ ทอ. แล้ว...ทอ. เอง ยังมีแบบอากาศยานมากแบบกว่า เมื่อดูถึงในอนาคต เช่น บ.ไอพ่น ถึง 7 แบบ คือ F-16A/B/ADF, F-16 MLU, F-5E/F, Jas-39c/d, A-Jet, L-39, T-50 แต่ในลักษณะที่ ทอ. เป็นผู้ชำนาญการด้านอากาศยานอยู่แล้ว การบริหารการจัดการ จึงไม่ส่งผลต่อการมีแบบอากาศยาน มากแบบ...
หรือ ฮ.เจ้าปัญหาแบบ Bell-214ST ที่ ทบ. โอนมาให้ ทร. ในส่วนของ ทร. ก็ยังสามารถบริการการจัดการให้ใช้งานได้จนถึงปัจจุบัน..หรือถ้าเทียบแบบ อากาศยานปีกหมุน ระหว่าง ทร. กับ ทบ. ในส่วนของ ทร. เอง ก็ยังมี่แบบอากาศยาน ใกล้เคียงกับ ทบ. เหมือนกัน...แต่สภาพความพร้อมใช้ ผมว่า ดูจะมีเปอร์เซ็นต์ ที่มากกว่า ทบ.
bell 214 st ของ ทร.ยังใช้อยู่เหรอครับ
ไม่ค่อยได้เห็นหน้าตาเลย
ครับท่านจูลดาส ที่ผ่านมาการงานรุมเร้ามาก สมาชิกเก่าไม่หายหน้าไปก็นั่งอ่านเฉยๆ บวกกับช่วงหลังสุขภาพผมไม่ค่อยดีเท่าไหร่ ก็เลยสมัครใจอ่านอย่างเดียวครับ
เรื่องความสามารถในการซ่อมบำรุงของ ทบ. ผมว่าไม่น่าจะมีปัญหาในเรื่องของช่างและการบริหาร แต่น่าจะชี้ไปที่ปัญหางบประมาณไม่เพียงพอมากกว่านะครับ อย่างชีนุค มักจะมีให้ได้ยินประมาณว่า แพงไม่คุ้มซ่อม อะไรประมาณนั้น แต่กับ มิ-17 ใช่ได้ใช้ดี ใช้มากกว่าตอนที่ชินุคบินได้เป็นไหนๆ เลยครับ ส่วนแบบ ฮ. ยิ่งน้อยแบบ โสหุ้ยต่อหน่วยยิ่งน้อยลง ทั้งการซื้อเครื่อง ซื้อสำรองอะไหล่ การฝึกศึกษาของช่าง ฯลฯ
อย่างไรก็ตาม ยอมรับครับว่าอาจมีเหตุผลอื่นๆ ที่ทำให้สัดส่วนความพร้อมรบพร้อมใช้งาน ฮ. ทบ. ไม่เป็นที่น่าพอใจ ถ้าได้คน ทบ. ที่รู้เรื่อง ฮ. หรือฝ่ายช่างเข้ามาชี้แจงไขข้อข้องใจก็จะดีมากๆ ครับ จำไม่ได้แล้วครับว่าเป็นพี่น้องสมาชิกท่านใด แต่มีแน่ๆ ครับ ขออภัยที่จำไม่ได้จริงๆ ครับ
ยังไงก็ยังไม่มีใครอธิบายได้กระจ่างครับว่า ทำไม ทบ. ไม่ศึกษาให้ดีก่อนการสั่งซื้อ ฮ. ถึง 3 แบบ ในภารกิจเดียวกันหรือใกล้เคียงกัน มันควรจะเป็นแบบเดียวใช่ไหม อย่างที่ท่านซุเปอร์บอยปุจฉานะครับ
เมื่อสมัยเรียนหนังสือแล้วอาจารย์ตอบคำถามศิษย์ไม่ได้ทันที ก็มักจะหลุดคำพูดมาตรฐานว่า "อืมม์.. เป็นคำถามที่ดีครับ" อย่างน้อยก็ยังมีเวลาคิดเพิ่มนิด หรือหาทางชิ่งที่จะตอบคำถามนั้นไปได้ คำถามนี้ของท่านซูเปอร์บอยก็เช่นกันครับ "อืมม์.. เป็นคำถามที่ดีครับ" ฮ่ะๆๆๆๆ
รณรงค์อีกครั้งละกัน ฮา ผมว่ากองทัพไทยลดกำลังพลลงได้แล้วครับ เอาเงินไปใช้กับอุปกรณ์ที่ทันสมัย หรือในกรณีเรา ให้มันใช้ได้ มันน่าจะเข้ายุคที่เทคโนโลยีมาทดแทนการเสี่ยงกำลังพัลแล้วนะครับ
ในความเห็นผม สำหรับ การบริหารจัดการซ่อมบำรุงของ ทบ. ผมว่า น่าจะดูเป็นลักษณะยังไม่มีประสิทธิภาพ เมื่อเทียบกับ ระบบอาวุธที่ประจำการแล้ว...คือ ไม่ว่า ทบ.จะจัดหาอาวุธในปริมาณที่เพียงพอในคราวเดียวอย่างไรก็ตาม...แต่สุดท้าย ก็ไม่สามารถมีอัตราความพร้อมใช้ได้เพียงพออยู่ดีน่ะครับ...
อันนี้ เป็น มโนภาพ ของผมนะครับ...ไม่มีข้อมูลอะไรมายืนยันได้...แต่ลองนึกภาพครับ...
ทบ. มีแต่ระบบอาวุธ ที่มีความต้องการบำรุงรักษา ต่ำ ไม่ต้องอาศัยเทคโนโลยี่ชั้นสูงมาก เช่น รถถัง รถล้อยาง ระบบอาวุธประจำกาย เป็นหลัก...มีระบบอาวุธ ที่ต้องการบำรุงรักษา สูง จะมีเพียง อากาศยาน เท่านั้น...
ในขณะที่ ทบ. ได้รับงบประมาณสูงสุด ถึง 95,500 ล้านบาท...ส่วนกองทัพอากาส กับ กองทัพเรือ ได้งบประมาณ กองทัพละประมาณ ช่วง 35,500 ล้านบาท...
แต่ ทบ. กลับเป็น กองทัพฯ ที่มี อากาศยาน มีแต่ปริมาณ แต่ขาดปริมาณความพร้อมใช้...ทั้ง ๆ ที่ ปริมาณ อากาศยานทุกแบบ ทั้งของ ทอ. ทร. และ ทบ. จะมีปริมาณที่ใกล้เคียงกัน...
ในขณะที่ ทอ. และ ทร. จะเป็นระบบอาวุธที่ต้องใช้ ค่าใช้เจ่ายการซ่อมบำรุงสูง เนื่องจากระบบอาวุธ จะมีเทคโนโลยี่สูง ต้องใช้การซ่อมบำรุงอยู่อย่างสม่ำเสมอ...
ผมว่า...ทบ. มีกำลังงบประมาณ เพียงพอ ที่จะซ่อมบำรุง อากาศยานในประจำการ ให้มีปริมาณความพร้อมใช้ ในอึตรา เทียบเท่า ทอ. ได้...แต่ปัจจุบัน กลับเกิดภาพการประสบปัญหา การขาดแคลนอะไหล่ หรือ ภาระการซ่อมบำรุงมีค่าใช้จ่ายสูง...ซึ่งผมคิดว่า เป็นการปล่อยให้ภาระการซ่อมบำรุงเกิดจนเมื่อ อากาศยาน หมดสภาพไปแล้ว มากกว่า....น่าจะไม่มีการดูแล หรือ บริหารการจัดการ อากาศยานในลักษณะสม่ำเสมอ หรือ การวางแผนใช้งานอากาศยานให้มีประสิทธิภาพสูงสุด...
ผมเลยคิดว่า...แม้นว่า ทบ. จะมีอากาศยานแบบเดียวกันทั้งหมด...ก็ยังคง เกิดปัญหาในลักษณะเดิม ๆ ครับ...
ผมว่า ทบ. ซื้อไป ใช้ไป แบบนี้ แหล่ะครับ...ดีแล้ว...มันจะได้เกิดการเปลี่ยนแปลงในอนาคต เมื่อ ทบ. ประสบปัญหาภาวะงบประมาณ เมื่อถึงจุดต่ำสุด...
ประเด็นสุดทายที่ทั่นจูลดาสพูดผมว่าน่าสนใจ เพราะเอาง่ายๆทบ.มีฮ.หลักเลยคือ UH-1H มาตั้งแต่ส่งครามเวียตนามเป็นร้อยๆลำ ถ้าซ่อมบำรุงได้ดีจริงเอาแค่รุ่นเดียวเราจะมีม้างานใช้ ทั้งทางยุทธวิธีกับธุรการบานเบอะ แต่ที่ผ่านๆมาเหมือนจะมีใช้ได้ไม่ถึงครึ่ง
ถ้าเป็นอย่างที่คุณจูลดาสให้ความเห็นไว้ว่า การบริหารการดูแลซ่อมบำรุง ฮ. ของ ทบ. ไม่มีประสิทธิภาพ ก็เป็นเรื่องที่ ทบ. จะต้องหยิบมาพิจารณาหาทางปรับแก้ทันที อาจจะต้องถึงกับยกเครื่องการบริหารจัดการการซ่อมบำรุงใหม่ทั้งหมด ปล่อยให้เป็นอย่างนี้ต่อไปไม่ได้ ยิ่งมี ฮ. มากแบบ การรักษาสภาพให้พร้อมใช้งานก็ยิ่งยากขึ้นไปอีก
อยากฟังความเห็นของผู้ที่เกี่ยวข้องจังครับ โดยเฉพาะท่านสมาชิกที่เป็นลูก ทบ. ท่านใดพอมีข้อมูลพอจะแชร์กันได้ก็ลองเอามาแชร์กันนะครับ (เท่าที่เปิดเผยได้) เราๆ ท่านๆ จะได้เข้าใจว่าเหตุผลที่แท้จริงคืออะไร ทำไม่จึงมี ยูเอช-วัน และ บี-212 จอดรอซ่อมอยู่เยอะ ทำไมต้องปลดชีนุคทั้งๆ ที่อายุโครงอากาศยานยังเหลืออีกหลายชั่วโมงบิน และทำไมจึงไปซื้อ ฮ. ในภารกิจใกล้เคียงกันที่เดียว 3 แบบ (ยูเอช-72 ลาโกต้า / อีซี-145 / เอดับบลิว-139) อย่างละนิดหน่อย แทนที่จะเลือกซื้อแบบเดียวไปเลยครับ
ง่าย ๆ เพราะ การ ไม่ จริงใจ มั่ง ขาดความต่อเนื่อง เอาจริง เอาจัง ตีไก่ ตีกอฟ ฟรีแร้น เยอะ....เลยเป็ย อย่าง ที่เห็น