http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1447223302

เครดิตภาพ-thales
 

"มิคโอลิเวอร์" ผู้อำนวยการด้านพัฒนาธุรกิจของทาเลส เปิดเผยระหว่างการจัดแสดงระบบจรวดต่อต้านอากาศยานก้าวหน้า "สตาร์สตรีค" ภายในงานนิทรรศการสินค้าด้านกลาโหมและความมั่นคงประจำปี 2015 ที่ศูนย์แสดงสินค้าและการประชุมอิมแพค เมืองทองธานีระหว่างวันที่ 2-4 พฤศจิกายนที่ผ่านมาว่า กองทัพบกไทยได้ตกลงสั่งซื้อระบบจรวดต่อต้านอากาศยานชนิดนี้เพิ่มเติมเมื่อวันที่ 16 กันยายนที่ผ่านมา คิดเป็นมูลค่าหลายล้านดอลลาร์ อันเป็นการทำสัญญาสั่งซื้อต่อเนื่องมาจากการทำสัญญาซื้อฉบับแรกเมื่อปี 2555 โดยกำหนดส่งมอบภายในต้นปี 2560 นี้

ระบบจรวดต่อต้านอากาศยานแบบก้าวหน้าดังกล่าวประกอบไปด้วย จรวดสตาร์สตรีค เป็นจรวดพิสัยใกล้ความเร็วสูงที่สุดในโลก พร้อมแท่นยิงแบบหลายท่อน้ำหนักเบา โดยระบบขาตั้งฐานแบบสามขานี้เปิดโอกาสให้สามารถยิงสตาร์สตรีค เพื่อตอบโต้การโจมตีจากเครื่องบินขับไล่ในระดับต่ำ อากาศยานไร้คนขับ จนถึงเฮลิคอปเตอร์โจมตีได้อย่างรวดเร็วและคล่องตัว ระบบนี้มีบทบาทสำคัญเป็นอย่างยิ่งในการป้องกันและคุ้มกันภัยทางอากาศให้กับราชอาณาจักรไทย

"สตาร์สตรีค"เป็นจรวดต่อต้านอากาศยานความเร็วสูงถูกออกแบบมาให้สามารถต่อต้านเป้าหมายได้ทั้งเครื่องบินรบอาทิอากาศยานปีกคงที่และเฮลิคอปเตอร์สมรรถนะสูงที่มีใช้งานในยุคปัจจุบันโดยได้มีการปรับปรุงเพิ่มพิสัยให้ยิงได้มากกว่า 7 กิโลเมตร เพิ่มระยะที่ครอบคลุมและระดับความสูงที่มากขึ้น และปรับปรุงระบบนำวิถีให้แม่นยำยิ่งขึ้นแม้กับเป้าหมายเล็กๆ

"สตาร์สตรีค" พัฒนาขึ้นจากหลักการใช้ความเร็วสูงเพื่อเข้าทำลายเป้าหมายในเวลาอันสั้น โดยหนึ่งหัวรบจะมี 3 หัวรบย่อย เพื่อเพิ่มโอกาสในการทำลายเป้าหมายได้อย่างแม่นยำ ลูกจรวดนำวิถีด้วยลำแสงเลเซอร์สามารถล็อกเป้าที่มีขนาดเล็กและตรวจจับยากได้ ในขณะที่จรวดแบบดั้งเดิมจะทำลายและจับเป้าหมายขนาดเล็กเหล่านี้ได้ยาก 

นอกจากนั้นยังสามารถติดตั้งได้ทั้งจากฐานยิงน้ำหนักเบาบนบก อากาศยานและบนเรือ หรือออกแบบให้ติดตั้งบนระบบควบคุมการยิงอัตโนมัติได้ เช่น ระบบ RAPID Ranger หรือบนแท่นยิงแบบหลายท่อน้ำหนักเบาได้จึงสามารถปฏิบัติการได้อย่างรวดเร็ว มีความยืดหยุ่นสูงในการติดตั้ง ง่ายในการใช้งานร่วมกับระบบเดิมที่มีอยู่แล้ว

"สตาร์สตรีค" จัดเป็นจรวดอเนกประสงค์อย่างแท้จริงและมีขีดความสามารถสูงสุดในการตอบโต้

เป้าหมายที่ปรากฏตัวแบบเฉียบพลันทันทีที่เป้าหมายถูกตรวจจับได้ระบบควบคุมจะปล่อยขีปนาวุธออกไปโดยไม่ต้องรอสัญญาณล็อกเป้าระบบกลไกของจรวดจะเร่งความเร็วขึ้นให้เร็วกว่ามัค3ได้ภายในเสี้ยววินาที "สตาร์สตรีค" ใช้วิธีปล่อยลำแสงเลเซอร์นำวิถี 3 ลำไปยังเป้าหมายทำให้สามารถพุ่งสู่เป้าหมายได้อย่างแม่นยำ แม้จะเป็นเป้าหมายเล็กที่สุด 

การนำวิถีนี้ไม่สามารถถูกก่อกวนได้แม้ว่าจะใช้พลุไฟ (flares) รุ่นล่าสุดหรือระบบตอบโต้แบบอิเล็กทรอนิกส์ (ECM)

"สตาร์สตรีค" ถูกออกแบบให้มีขีดความสามารถในการทำลายเป้าหมายทั้งอากาศยานเกราะเบาและอากาศยานหุ้มเกราะหนัก ในการเข้าปะทะเป้าหมายจรวดจะปล่อยพลังงานจลน์ออกมาอย่างรุนแรงเพื่อเจาะผ่านเกราะเข้าไปภายใน หัวรบจะระเบิดสะเก็ดออกภายในเป้าหมายเพื่อการทำลายล้างสูงสุด

การปะทะนั้นแม่นยำสูงในขณะที่ความเสียหายจากการพลาดเป้านั้นจะลดลงอีกด้วย

ที่มา :หนังสือพิมพ์ มติชนรายวัน ฉบับวันที่ 11 พ.ย. 2558