เราส่งเสริมการพัฒนาระบบอาวุธ และเริ่มมีสินค้าออกสู่ตลาด/สร้างความตระหนักถึงความสามารถในทางวิศวกรรมทางการทหารของบุคลากรไทยใด้บ้างแล้ว นับเป็นเรื่องที่น่ายินดีเป็นอย่างยิ่ง... ในขณะเดียวกัน เราต้องเริ่มมองถึงความสามารถในการแข่งขันขององค์กรไทย (ไม่ว่าเอกชน / รัฐ ) ว่าจะทำอย่างไรให้สามารถรักษาบุคลากรเอาไว้ให้ใด้ เรื่องที่น่าจับตามองคือการซื้อตัวบุคลากรเพื่อ " ตอน " ความสามารถในการแข่งขัน และ/หรือ สร้างความใด้เปรียบในการพัฒนาระบบต่างๆ โครงการใดๆที่เราทำอยู่ในตอนนี้และมีความก้าวหน้าอย่างมีนัยยะสำคัญ ต้องระวังให้ดี....โดยเฉพาะทางทิศใต้
บทเรียนในอดีตมีมาหลายโครงการ... เห็นมาจนถึงในปัจจุบัน... ยินดีกับความก้าวหน้า... แต่ห่วง
ห่วงได้ แต่ห้ามหวัง ครับ ฮาาาาา
ตามกฏแรงโน้มถ่วงของโลก มันสมอง จะไหลไปในที่เงินเดือนสูงกว่า อันนี้รับรองว่าจริงจังแน่แท้.............การจะเลี้ยงมันสมองไว้ ก็ ต้องมีกิจการให้สมองได้ทำ เป็นกิจกรรมทางการค้าแบบครบวงจร ............. ทำให้เหมือนโรงงานผลิตตุ๊กตายาง หรือ ดีโด้ อย่างงั้นหล่ะครับ.............เมื่อขายดี สมองก็ไม่ไหลไปไหน...................
มองอุตสาหกรรมอาวุธบ้านเราหล่ะเหนื่อย.................รอบบ้าน ฟิลิปินส์ อินโด สิงคโปร์ เค้าไปไกลสุดกู่ หาเงินเข้าบ้านเป็นกอบเป็นกำ................ของไทยเรา ถ้าว่าด้วยปืน วัตถุระเบิด เนี่ย เอกชนโดนห้าม จะทำได้ก็ต่อเมื่อเป็นองค์กรกองทัพ ครั้นวิจัยทำมาเช้งกะเด๊ะก็ถูกดองถูกแขวน เพราะถ้าดีเยี่ยมทำเป็นสายการผลิต ค่าน้ำจิ้มน้ำแจ่ว มันก็หายาก...................แค่สองสามด่านนี้ก็ให้ละเหี่ยแล้ว อย่าไปคิดผลิตขายเป็นล่ำเป็นสันเลย ............. เอกชนที่รอดมาได้ พวกรถเกราะ ต่อเรือ อันนี้ต้องใช้สายสัมพันธ์กองทัพ พอปีกกล้าขาแข็งค่อยทำขยายส่งออก กว่าจะบรรลุก็หืดจับ