หน้าแรก    ตั้งกระทู้ใหม่   ตอบคำถาม    เข้าสู่ระบบ      


ไทยแลนด์ขอซื้อจรวด ESSM จำนวน 16 นัดวงเงิน 26.9 ล้านเหรียญ

โดยคุณ : superboy เมื่อวันที่ : 03/11/2015 21:10:58

รายละเอียดตามด้านล่างเลยครับ tactical missiles 14 นัด  telemetry missiles 2 นัด MK25 Quad Pack canisters 3 ชุด MK783 shipping containers 10 ชุด ราคารวม 26.9 ล้านเหรียญ เป็นเงินไทยเท่าไหร่จำค่าเงินไม่ได้ รู้แต่ว่ากองทัพเรือเดินมาถูกทางแล้ว เพราะนี่เป็นจรวดที่ดีและเหมาะสมกับเราในตอนนี้มากที่สุด อย่าไปดิ้นรนหาพี่หมี พี่หลี หรือพี่ใหญ่เลย โอเล่  :)

                  ----------------------------------------------

http://www.dsca.mil/major-arms-sales/government-thailand-evolved-seasparrow-missiles-essm

Transmittal No: 

15-61

WASHINGTON, Oct. 29, 2015 - The State Department has made a determination approving a possible Foreign Military Sale to Thailand of Evolved Seasparrow Missiles (ESSM) and associated equipment, parts and logistical support for an estimated cost of $26.9 million. The Defense Security Cooperation Agency delivered the required certification notifying Congress of this possible sale on October 28, 2015.

The Government of Thailand requested a possible sale of Major Defense Equipment for its Evolved Seasparrow Missile (ESSM) program. The total estimated value of MDE is $18,570,385. The total overall estimated value is $26,943,445.

Major Defense Equipment (MDE) includes:
Sixteen (16) Evolved Seasparrow Missiles (ESSM) (Fourteen (14) tactical missiles and two (2) telemetry missiles)
Three (3) MK25 Quad Pack canisters
Ten (10) MK783 shipping containers

Also included with this request is additional equipment; training; and technical services.

This proposed sale will contribute to the foreign policy and national security of the United States by increasing the ability of Thailand to contribute to regional security and improving interoperability with the U.S. Navy.

Thailand will use the ESSM to provide ship battlespace self-defense and firepower, which will improve its capability to meet current and future naval threats.

The proposed sale of these equipment and support will not alter the basic military balance in the region.

The principal contractors are:

Raytheon Missile Systems (RMS)                           Tucson, Arizona
BAE Systems                                                           Aberdeen, South Dakota
SAAB, 9LV MK4 Combat Management System      Sweden
Lockheed Martin                                                       Baltimore, MD

There are no known offset agreements proposed in connection with this potential sale.

Implementation of this proposed sale will not require the assignment of any additional U.S. Government or contractor representatives to Thailand.

There is no adverse impact on U.S. defense readiness as a result of this proposed sale.

This notice of a potential sale is required by law and does not mean the sale has been concluded.

All questions regarding this proposed Foreign Military Sale should be directed to the State Department's Bureau of Political Military Affairs, Office of Congressional and Public Affairs, pm-cpa@state.gov.

----------------------------------------------------------

 





ความคิดเห็นที่ 1


วิเคราะห์นิดเดียว

 

สั่งซื้อคราวก่อนเป็นจรวด ESSM 9 นัด ยิงไปแล้ว 1 นัดคงเหลือ 8 นัด, และ MK25 Quad Pack canister 3 ชุด

สั่งซื้อคราวก่อนเป็นจรวด ESSM 16 นัด, และ MK25 Quad Pack canister 3 ชุด

เท่ากับเราจะมีจรวด ESSM  24 นัด, และ MK25 Quad Pack canister 6 ชุดใส่จรวดได้ 24 นัดพอดีเป๊ะๆ

มีเรือฟริเกต 2 ลำ เท่ากับใส่จรวด ESSM ลำละ 12 นัด(เป็น telemetry missile 1 นัด), และ Quad Pack canisterลำละ 3 ชุด (ยังเหลือท่อVLSว่างๆอีกลำละ 5 ท่อ)

จรวด 12 นัดเท่ากับยิงชุดละ 2 นัดต่อ 1 เป้าหมายได้จำนวน 6 ครั้ง ถ้ายิง 1 นัดต่อ 1 เป้าหมายก็ได้ถึง 12 ครั้ง

เรือ 1 ลำมีเรดาร์ควบคุมการยิง 2 ตัว ถ้าเรดาร์ 1 ตัวคุมจรวดได้ 2 นัดเท่ากับเราสามารถยิงได้ 4 นัดในเวลาไล่เรี่ยกันแต่ไม่ใช่โหมดซัลโวแน่ๆ เรือ 1 ลำก็จะยิงแบบนี้ได้ 3 ครั้งด้วยกัน

ก็นับว่าไม่เลวนะครับเมื่อเทียบกับภัยคุกคามทางอากาศในช่วง 5 ปีถัดจากนี้ เมื่อเรือฟริเกตที่ต่อจากเกาหลีใต้ทั้ง 2 ลำเข้าประจำการ เราจะมีเรือที่ยิงจรวด ESSM เพิ่มขึ้น 2 เท่าตัว คาดว่ากองทัพเรือคงจะจัดหาจรวด ESSM อีกครั้งตอนโน้นแหละครับ ไม่งั้นก็อาจทยอยซื้อมาอีกล๊อตในอีก 2-3 ปีข้างหน้าในปริมาณเท่าๆกับครั้งล่าสุดอะไรประมาณนี้

โดยคุณ superboy เมื่อวันที่ 30/10/2015 11:10:01


ความคิดเห็นที่ 2


     สอบถามท่าน  superboy  หน่อยครับว่าระบบดาต้าร์ลิ้งค์ของ  SAAB  ที่ติดตั้งให้เรือชั้นนเรศวรนั้นจะสามารถรับข้อมูลเกี่ยวกับเรือดำน้ำข้าศึกจากเรือฟรีเกค ASW ใหม่ (ที่มีระบบตรวจจับสมบูรณ์กว่ามาก)  แล้วป้อนข้อมูลให้ลูกตอร์ปิโดและ ASROC (ถ้าทร.จัดซื้อได้ แล้วติดตั้งที่เรือชั้นนเรศวร)  เพื่อให้เรือชั้นนเรศวรสามารถยิง  ASROC  สนับสนุนเรือ  ASW ใหม่ของเราได้หรือเปล่า   เพราะยังไงผมก็เชื่อถือใน  VL-ASROC  มากกว่า K-ASROC    และท่อยิง  VLS  ของเรือชั้นนเรศวรก็ยังว่างอีกหลายท่อยิง

  ได้แต่หวังว่าเรือ ASW ใหม่คงจะติดตั้ง  K-VLS พร้อม  K-ASROC  มาด้วย   และมาพร้อมกับระบบอำนวยการรบสงครามใต้น้ำ  NS-ICMS  

โดยคุณ neosiamese2 เมื่อวันที่ 30/10/2015 20:55:20


ความคิดเห็นที่ 3


โดยส่วนตัวเชื่อว่าแจ้งพิกัดคร่าวๆได้ครับ ว่าโซนาร์ลากท้ายปิงเจออะไรบางอย่างตรงนี้ตรงโน้น เรือหลวงนเรศวรที่อาจจะอยู่ใกล้กันหรือกำลังจะเข้าทางปืนก็ยิงตอร์ปิโดหรืออะไรก็ว่าไปเข้าสกัดกั้น สงสัยก็แต่ว่าเราจะมีระบบ datalink ระหว่างเรือกับเฮลิคอปเตอร์ด้วยหรือไม่ เพราะผมไม่ค่อยเชื่อว่าเรือผิวน้ำจะตรวจเจอเรือดำน้ำมากนัก ถ้าเป็นฝูงเฮลิคอปเตอร์ช่วยกันหายังพอทน

 

เราเคยรู้กัน มาก่อนว่าจรวดฮาร์พูนที่เราใช้อยู่สามารถใช้เฮลิคอปเตอร์ชี้เป้าหมายให้ได้ และจรวดต่อสู้เรือรบรุ่นใหม่กว่าสามารถใช้ UAV ในการชี้เป้าหมายได้จึงสามารถยิงได้ไกลมากกว่าเดิม (ถ้า UAV ยังไม่โดนสอยนะ) และเราก็เคยได้ยินพวกยานใต้น้ำ underwater remote operated vehicle (ROV) ที่ใช้ในภาระกิจตรวจค้นหาทุ่นระเบิดอะไรทำนองนี้ ในอนาคตใกล้ๆนี้เองเรือดำน้ำจะไม่ได้มีแค่ระบบโซนาร์เป็นภัยร้ายเท่านั้นแล้ว เพราะ ยานใต้น้ำต่อต้านเรือดำน้ำกำลังมาแรงมาก ทั้งขนาดเล็กขนาดใหญ่ ทั้งใช้ปล่อยจากเรือผิวน้ำเรือใต้น้ำหรือขับเคลื่อนเอง ผมมองไปที่เรือดำน้ำโดนยิงด้วยตอร์ปิโดขนาด 533 มมซึ่งมี ROV ขนาดเล็กคอยล๊อคเป้าให้ หรือกระทั่งเรือดำน้ำโดน ROV ขนาดใหญ่ติดตอร์ปิโด 324 มม.จำนวนหลายลำไล่ล่าอะไรทำนองนี้ ก็หวังว่าจะได้เห็นกันในอนาคตไม่ไกลนะครับ โลกหุมนเร็วมากคนเสพข่าวอย่างเราก็ต้องหมุนเร็วตามไปด้วย


โดยคุณ superboy เมื่อวันที่ 31/10/2015 09:20:46


ความคิดเห็นที่ 4


ถ้าเข้าใจไม่ผิด ฮ. จะขึ้นจาก ลานบิน แล้วไปปล่อยตอร์ปิโดในตำแหน่งที่ เรือตรวจจับได้แจ้งไว้...โดยการหาเป้าหมาย เป็นหน้าที่ของ ตอร์ปิโด เอง...ซึ่งมีเพียง S-70B เท่านั้น ที่ทำหน้าที่ ตรวจจับด้วยโซนาร์ชักหย่อน และปล่อยให้ ฮ.อีกลำ ทำหน้าที่ปล่อยตอร์ปิโด...หรือ อาจจะส่งข้อมูลให้ เรือชุดนเรศวร หรือ เรือฟริเกตชุดใหม่ ทำการปล่อย VL-ASROC (ถ้ามี)...

ดู ๆ แล้ว...Link T น่าจะเพียงพอ สำหรับคุณลักษณะเรือรบผิวน้ำ และ อากาศยาน ในขณะนี้...

สิ่งที่เรือดำน้ำ กลัว...คือ เรือดำน้ำ ไม่สามารถตรวจจับ ฮ. บนอากาศได้...จับได้แต่เรือผิวน้ำ...ถึงแม้ เรือดำน้ำจะจับเรือชุดนเรศวร หรือ เรือฟริเกตชุดใหม่ได้...ก็คงต้องระมัดระวังในการทำลายพอสมควร เพราะไม่รู้ว่า ฮ. ประจำเรือ มีความพร้อมขนาดไหน หรือ อาจจะบินลาดตระเวณอยู่บนอากาศ เหนือตำแหน่งแล้วก็ได้...

ดังนั้น ในเบื้องต้น ฮ.ประจำเรือฟริเกต ควรจะมีได้แล้ว...สำหรับในขณะนี้..

สำหรับ ฮ. ของ ทร.ไทย...ถ้าเข้าใจไม่ผิด...เป็นแค่ ฮ. พิสูจน์เป้า...ยังไม่เป็น LAMP เต็มตัว...กรณี เป้าหมายผิด หน้าที่ ทำลายอาวุธนำวิถีที่ปล่อยไป คงเป็นหน้าที่ของ เรือผิวน้ำ ที่ยิงไป...ซึ่ง ฮาร์พูน หรือ C-802A ไม่ต้องใช้ ฮ.ชี้เป้าให้...

โดยคุณ juldas เมื่อวันที่ 31/10/2015 09:37:55


ความคิดเห็นที่ 5


เรือนเรศวร  มี MK41 8 ท่อยิง  แต่ใช้จริงแค่ 3 ท่อ  (12 นัด)  แล้วอีก 5 ท่อ  พอที่จะใส่จรวดอะไรได้บ้าง ครับ เช่น ASROC เป็นต้น  ส่วน SM2 คิดว่าคงไม่ได้

โดยคุณ rayong เมื่อวันที่ 31/10/2015 09:58:15


ความคิดเห็นที่ 6


ถ้า 1 cell ของ เรือชุด นเรศวร ติดตั้ง 3 ท่อยิง อีก 5 ท่อยิง อย่างหรูสุด ก็น่าจะเป็น VL-ASROC = 4 ท่อยิง และ VL-Nulka = 1 ท่อยิง

แต่ความคิดในใจผมว่า น่าจะเป็น ESSM = 16 นัด กับ VL-ASROC = 4 นัด

โดยคุณ juldas เมื่อวันที่ 31/10/2015 11:17:48


ความคิดเห็นที่ 7


อันที่จริงทร.คงไม่อยากให้ท่อว่างหรอกครับ แต่จะให้ทำยังไงได้เพราะนี่ก็ESSMลำล่ะ12นัดแล้วนะ (ถ้าเป็นNSSMคงเต็มทุกท่อแน่ๆ เพราะใส่ได้แค่8นัด)

ส่วนตัวไม่เชื่อว่า VL-ASROC จะมาพร้อมเรือ DSME เลย แต่(ถ้ามา)อาจจะหลังเข้าประจำการ10ปีแล้ว ส่วน SM-2 ถึงจะใส่ได้แต่ระยะทำการ Ceros200 ของเราคงทำให้ยิงจรวดได้ไกลมากกว่า ESSM ไม่เกิน 10 กิโลเมตร

ผมคิดว่า 4 ท่อสำหรับ 16 ESSM ส่วน 4 ท่อที่เหลือคงว่างไปก่อนและอนาคตอาจจะเป็น 4X4=16 RAM Block II (น่าจะมีโอกาสมากที่สุด)  ซึ่งจะเป็นระบบ CIWS ที่ช่วยคุ้มครองเรือได้ดีที่สุดแล้วในช่วงเวลานี้  หรือ 4xLong Range Anti-Ship Missile (LRASM) ถ้าอเมริกายอมขายและใส่ท่อของเราได้ หรือ 4xVL JSM จากนอร์เวย์ที่เขาขายเราแน่ๆใส่ได้แน่ๆแต่จะมาหรือเปล่าเท่านั้นเอง 

 

โดยคุณ superboy เมื่อวันที่ 31/10/2015 14:38:31


ความคิดเห็นที่ 8


โ€‹ถ้า สหรัฐ ไม่สนับสนุนให้ไทยมีเรือดำน้ำ VL-Asroc คือ คำตอบ และ VL-Asroc ไม่ต่างจาก Asroc ของเรือชุดพุทธเท่าไหร่ครับ มันแค่ ยิงจาก MK คนละแบบ เท่านั้นเองครับ

โดยคุณ juldas เมื่อวันที่ 31/10/2015 14:58:26


ความคิดเห็นที่ 9


     VL-JSM   นี่น่าเล่นสุดเลยนะครับ   

ขอบคุณครับท่าน จูลดาส  แต่เรือชั้นนรเศวรเองรองรับได้แค่  super Lynx  ไม่ได้เผื่อสำหรับ  S-70B   แต่ Lynx เองก็สามารถจะติดตั้งระบบ  LAMP-3 ได้   แต่เรือชั้นนเรศวรก็ต้องปรับปรุงกันอีกครั้งเพื่อรับส่งข้อมูลกับ  ฮ.ปราบเรือดำน้ำ   ซึ่งก็เงินทั้งนั้น

   ก็สเปกเรือ ASW ใหม่นั้นรองรับ  S-70B  ได้   และคงจะสามารถรับส่งข้อมูลเป้าหมายใต้น้ำได้ (หวังว่าคงได้มายกชุดจากเยรอมันนะครับ)   ซึ่งเรือชั้นนเรศวรไม่มีความสามารถนี้   ยกเว้นจะเติมเงินเพื่อเพิ่มออปชั่นในด้านนี้  

แต่  ASW ใหม่  ผมไม่มีข่าวว่าทร.จัดหาระบบ  SQQ-89  มาเลย    เลยไม่แน่ใจว่า  MK-41  และ VL-ASROC จะมาพร้อมกับเรือชั้นนี้หรือไม่    ได้ยินแต่ข่าวว่า ทร.ให้เกาหลีบูรณาการระบบางอย่างของเกาหลีเข้ากับ  9LV  ของ SAAB  ผมเดาเอาเองว่าเป็น  NS-ICMS  ก็เลยคาดการว่า  K-VLS &  K-ASROC  อาจจะมา  

  ถ้าเรือชั้นนเรศวรไม่ลงทุนในระบบรับส่งข้อมูลสงครามใต้น้ำกับ ฮ. ปราบเรือดำน้ำ    และไม่ปรับปรุง หรือซื้อ super Lynx  พร้อมติดตั้ง LAMP 3 มาด้วย    ผมก็เลยไม่แน่ใจว่าเรือชั้นนเรศวรจะสามารถสนับสนุนเรือ  ASW ใหม่ได้เต็มที่เลยในการปราบเรือดำน้ำครับ

  ดังนั้นผมจึงคาดการณ์ได้อย่างเดียวว่าระบบ  data link ของ  SAAB  จะสามารถรับส่งข้อมูลให้เรือชั้นนเรศวรทราบถึงรายละเอียดของเป้าใต้น้ำได้หรือไม่ครับ   เพราะจะได้ไม่ต้องไป upgrade เรือชั้นนเรศวรกันอีกครั้งเพื่อรองรับภาระกิจ  ASW 

แต่ถ้าจำเป็นผมก็เห็นว่าคุ้มค่านะถ้าจะ  upgrade  เรือชั้นนเรศวรอีกรอบ  พร้อมจัดหา  super Lynx ติดตั้งระบบ  LAMP 3  มาด้วย  แต่คงหมดเงินอีกไม่น้อยกว่า 2000 ล้านต่อเรือ 1 ลำ

 

โดยคุณ neosiamese2 เมื่อวันที่ 03/11/2015 21:10:58