หน้าแรก    ตั้งกระทู้ใหม่   ตอบคำถาม    เข้าสู่ระบบ      


เผยโมเดลเรือฟริเกต FFX Batch III ของเกาหลีใต้

โดยคุณ : superboy เมื่อวันที่ : 28/10/2015 23:36:22

ความเดิมตอนที่แล้วผมได้พูดถึงเรือฟริเกต FFX Batch III มาบ้างในบทความเรื่อง กองทัพเรือเกาหลีใต้และกองกำลังป้องกันตนเองทางทะเลของญี่ปุ่น   ---> ต้นฉบับ

 

และในงาน Marine Week 2015 exhibition ซึ่งจัดในเกาหลีใต้เองก็ได้มีการเผยโฉมโมเดลเรือลำนี้ให้ได้ชมกัน FFX Batch-III ถูกกำหนดให้เป็นเรือฟริเกตป้องกันภัยทางอากาศ (Anti-Air Warfare frigate) จึงได้มีการติดตั้งระบบเรดาร์รุ่นใหม่ทันสมัยที่ติดตั้งInfra-red search and track (IRST) sensors ชนิดตายตัวทั้ง4ด้านของเสากระโดงเรือ (หรือที่เราเรียกกันง่ายๆว่าแปะกอเอี๊ยะนั่นเอง) ระบบ Integrated Mast (I-MAST) system ของเกาหลีใต้พัฒนามาจากระบบ I-MAST ของThales ที่เราคุ้นเคยกันดีอยู่แล้ว มาดูภาพกันเลยดีกว่าครับ

                               ระบบเรดาร์รุ่นใหม่ที่ติดตั้งบนเรือ พัฒนาโดย Hanwha Thales

 

                                                                     FFX Batch III model

 

                                                   FFX Batch I (left) and Batch III (right)

 

รายละเอียดของเรือก็ยังไม่มีอะไรมากนัก ที่ชัดเจนหน่อยก็คือจะมีการติดตั้งจรวดต่ออากาศยาน K-SAAM ที่ LIG Nex1 พัฒนาขึ้นมา

จรวดรุ่นนี้มีความยาว 2.07 เมตร ระบบนำวิถีที่ระบุคือ inertial mid-course guidance and a dual microwave and imaging infrared seeker for terminal guidance จากโมเดลจะติดตั้งกับแท่นยิงK-VLSชนิด4ท่อยิงต่อ1หน่อย เกาหลีใต้จะใช้ท่อยิงK-VLSจำนวน4หน่วยสำหรับติดตั้งK-SAAM เท่ากับว่าจะมีจรวดต่อสู้อากาศยานรวมทั้งหมด16นัดต่อเรือ1ลำ (ไม่แน่ใจเหมือนกันว่าFFX-III มีระบบK-VLSมากสุดได้เท่าไหร่ ถ้า32ท่อยิงส่วนที่เหลือคงไว้สำหรับจรวดร่อนหรือจรวดปราบเรือดำน้ำ) พวกเขาตั้งใจจะนำมาแทนที่จรวดRAMในอนาคต เกาหลีใต้ระบุว่าเป็นจรวดต่อสู้อากาศยานระยะปานกลางแต่เอามาแทนจรวดต่อสู้อากาศยานระยะสั้น ฟังดูก็ทะแม่งๆนิดหน่อยเหมือนกันนะครับ เข้าใจว่าคงเข้ามาเสริมทัพมากกว่าเพราะเรือบางลำที่ติดตั้งจรวดRAMอยู่ก็ไม่ไ่ด้มีพื้นที่สำหรับระบบ K-VLS แต่อย่างใด ก็ว่ากันไปครับมีข้อมูลมากกว่านี้ค่อยมาคุยกันอีกที

 

--------------------------------------------------------------------------------------------------------------

http://www.navyrecognition.com/index.php/news/defence-news/year-2015-news/october-2015-navy-naval-forces-defense-industry-technology-maritime-security-global-news/3191-hanwha-thales-unveiled-the-integrated-mast-system-for-the-future-rok-navy-ffx-batch-iii-frigate.html

http://www.janes.com/article/55433/adex-2015-lig-nex1-says-k-saam-on-track-to-enter-rokn-service-by-2018





ความคิดเห็นที่ 1


     ขอบคุณครับท่าน  superboy  สำหรับข่าวสาร

ที่ว่าเอามาแทน  SAM  ระยะสั้นแบบ  RAM   แต่  K-SAAM  มีระยะยิงอาจจะถึง  20 km.  อาจจะเป็นเพราะว่า  RAM  block2  ที่กำลังออกมานั้นมีระยะยิงแระมาณ 20 km  เช่นกัน  และจรวดขนาดใกล้กันทั้งหมดจะมีระยะยิง  20-25 km  ไม่ว่าจะเป็น MICA   seacepior   พูดง่ายๆเทรนในอนาคตมาแนวนี้    ก็บอกว่าเกาหลีเขาตามเทรนทัน

  4 cell  บรรจุได้  16 นัด   ก็พอๆกับ  mk-41  น่าสนในะครับ

แต่โมเดลเสาเรือกอเอี๊ยะนั้นไม่สวยเลย  สวยสู้ต้นฉบับไม่ได้

 

โดยคุณ neosiamese2 เมื่อวันที่ 26/10/2015 15:29:10


ความคิดเห็นที่ 2


เรดาร์เล่นเอาไปวางแบบนั้นเลยเรอะ เล่นง่ายดีแฮะ

โดยคุณ evill เมื่อวันที่ 26/10/2015 19:33:38


ความคิดเห็นที่ 3


    จากรูปที่ท่าน  superboy  ลงไว้   จำนวน  K-VLS  น่าจะเป็นแบบ  32 cell      และจากข่าวคราวว่าเรือ  ASW frigate ใหม่ของเรานั้นมีการแก้ไขบริเวณดาดฟ้ายกด้านหน้า   และคงมีการแก้ไขหน้าตาของ  superstructure ของสะพานเดินเรือและย้ายฟาลังค์ไปด้านท้ายเรือเหนือโรงเก็บ ฮ.  นั้น

   ทำให้ผมคิดว่า  รูปร่างหน้าตาของเรือ  ASW ของทร.ไทยอาจจะเป็นแนวนี้เลยก็ได้ครับ   แต่เสากระโดงหน้าตาคงเหมือนเดิม    ซึ่งจะดูดีกว่า  batch 3 ของเกาหลี

เรด้าร์ใหม่ถ้ามีข้อมูลตามมาจะดีมากครับ   ถ้าสเปกใกล้ๆ  cea far  หรือ  APAR  ก็ถือได้ว่า ทร. มีตัวเลือกในการ  upgrade  เรือเพิ่มขึ้น  และระบบ  K-VLS  ของเกาหลีก็  รองรับ  KM-SAM    K-SAAM   Hyunmoo 3     K-ASROC   ทำให้เรามีทางเลือกมากขึ้นว่าไม่จำเป็นต้องพึ่งระบบจากอเมริกาถ้าไม่มีทางเลือก   

ปล.  อยากให้เกาหลีพัฒนา  KM-SAM  ระยะยิง  150 Km  จนc]h;เสร็จออกมาเป็นตัวเป็นตนจริงๆซะทีครับ   จะได้มีทางเลือกนอกเหนือจาก  SM-2

มีการพูดถึงว่าเกาหลีกำลังพัฒนาระบบเรด้าร์ใหม่  คือ  sky bow M-SAM  ที่เป็น  AESA  น่าจะใช่ตัวที่ท่าน  superboy  ลงรูปไว้   และพูดถึง  ABM M-SAM  ด้วย    แสดงว่าเกาหลีคงมีการซุ่มพัฒนา  KM-SAM  ระยะยิงไกลและมีความสามารถระดับ  anti-ballistic missile หรือ  ABM  ด้วย     น่าสนใจมากครับสำหรับ   batch 3  

    ถ้าเรือเกาหลีมีการพัฒนาต่อเนื่อแบบนี้   น่าสนใจครับ   บอกแล้วของเกาหลีก็ไม่น่าเกลียด

 

 

โดยคุณ neosiamese2 เมื่อวันที่ 27/10/2015 09:41:20


ความคิดเห็นที่ 4


จรวด K-SAAM  ผมก็ยังงงๆอยู่นะครับว่าตกลงมันสเป็กไหนและใส่ในท่อได้เท่าไหร่กันแน่ แต่จากภาพนี้ชึ่งเป็นK-VLSที่ขนาดใหญ่กว่าโดยเฉพาะกว้างกว่าMK-41 VLS อยู่บ้างก็น่าจะ4ท่อยิงx4นัด=16นัดต่อ1หน่วยนะครับ และเรือก็น่าจะใส่K-VLSได้แค่4หน่วย=16 ท่อยิงเท่านั้นตามความยาวของเรือ ซึ่งก็ไม่น่าจะมีปัญหาอะไรถ้าจะใส่ K-SAAM 32 นัดกับ K-ASROC 8นัด  หรือถ้าทำภาระกิจAAWก็อาจจะใส่จรวดที่ท่านนีโอว่ามาเข้าไปแทน K-ASROC อันนี้ก็ว่ากันไปครับ

โดยคุณ superboy เมื่อวันที่ 27/10/2015 10:23:25


ความคิดเห็นที่ 5


   จากรูป-1   K-SAAM   หรือ  sea bow  แสดง  quadpack  แบบ  mk-41  และ 4 cell  K-VLS  ขนาดเล็กมีความลึกแค่  4 เมตรกว่าๆ   สั้นกว่า  mk-41  SDF  อีก   เหมาะสำหรับติดตั้งบนเรือขนาดเล็กพื้นที่จำกัด    มันน่าสนแฮะ

รูป-2   แผนภาพแสดงโร้ดแมปว่าเกาหลีจะพัฒนาระบบเรด้าร์สำหรับ  KM-SAM  ให้เหมือนระบบ  IMAST   ของ  thales   ผมว่ามันคือรูปของท่าน  superboy  ลงเอาไว้ให้เราดู   ผมขอตั้งชื่อให้แล้วกันว่า  K-I-MAST

 

อ้าวรูปที่ 2 ไม่มา    55555....5555   รูปเดียวกันเลยครับท่าน  superboy    แต่จากคำอธิบายในภาพ   K-VLS  ตัวนี้มีจนาดเล็กกว่า  K-VLS  ปกติครับ   ยาว  2.6 m  กว้าง  2.9 m  ลึก  4.6 m  และเป็น  4 cell  เท่านั้นแต่จะมี  quadpack สำหรับ  K-SAAM ด้วย    ทำให้  4 cell  นี้สามารถติดตั้ง K-SAAM ได้ 16 นัด  

    แต่  K-VLS ตัวใหม่จะมีความลึกน้อยกว่า  mk-41 self defense  ที่ลึก 5.3 m  และเป็น  8 cell    น่าจะเรียกว่า  mini  K-VLS  มากกว่านะครับ   ความลึกเพียงเท่านี้  กินพื้นที่ความลึกของดาดฟ้าเรือแค่ 1 ชั้นเท่านั้น  โผล่พ้นออกมาประมาณ 2 m    น่าจะสามารถติดตั้งบนเรือขนาดเล็กได้     น่าเอามา  upgrade เรือชั้นกระบี่นะครับ


โดยคุณ neosiamese2 เมื่อวันที่ 27/10/2015 10:27:38


ความคิดเห็นที่ 6


   เอ้าลงรูปที่สองอีกที   แสดงroadmap  การพัฒนาระบบเรด้าร์  KM-SAM  ว่าจะเป็น fix-phase array  นะ   แต่ภาพนี้คงเก่าไปแล้ว   เพราะน่าจะเป็นหน้าตาแบบรูปที่ท่าน  superboy  ลงไว้  น่าจะเป็นรูปล่าสุด     เห็นในเวปอื่นในเน็ตบอกว่าจะมีระยะตรวจจับไกลกว่า  block แรกมาก    คาดว่าตัวจรวดเองคงมีระยะยิงไกลมากขึ้นด้วย    และหวังว่าตัวจรวด  K-S-400  หรือ  KM-SAM  นั้น  จะมีขนาดเล็กลง  นำ้หนักน้อยลง   เพราะ block แรกสุด  มีขนาดและน้ำหนักพอๆกับ  SM2  แต่ระยะยิงแค่  SEEM  block 1  เท่านั้น

 

   ผมขอขนานนามว่าระบบ    K-I-MAST   ก็แล้วกันครับ   แต่หน้าตานี่รับไม่ได้เลย  เด้ยเห่ยมากกกก....

อ้าว    ไม่มาอีก  สงสัยใหญ่ไป 

โดยคุณ neosiamese2 เมื่อวันที่ 27/10/2015 10:46:41


ความคิดเห็นที่ 7


ดูรูปสอง  ตามลิ้งที่ให้ไปดีกว่าครับ  สงสัยผมลงภาพใหญ่เกินไป    http://i.imgur.com/7wRHMPU.jpg

รูป  3  แสดงแบบจรวด  4 แบบ   จากซ้ายไปขวานะครับ    ซ้านสุด  K-SAAM    รูปต่อมาทางขวา ไม่ทราบแบบจรวด   รูปที่ 3 ไปทางชวาคือ  KM-SAM หรือ  K-S-400  นั้นเอง   รูปขวาสุด   ไม่ทราบแบบครับ

KM-SAM   นี่ชื่อเรียกเยอะครับจนสับสน   ไม่ว่าจะชื่อ cheolmae 2  หรือ  cheongung  หรือ  M-SAM   KM-SAM   K-S-400  นิกเนมนี่เพียบเลย   แต่เป็นการเอาแนวคิดรัสเซียมาผสมแนวคิดอเมริกันได้อย่างน่าสนใจครับ

 

 


โดยคุณ neosiamese2 เมื่อวันที่ 27/10/2015 10:56:40


ความคิดเห็นที่ 8


ตามวิกิพีเดีย   https://en.wikipedia.org/wiki/KM-SAM

บอกว่าเกาหลีต้องการพัฒนาระบบจรวดอีก 2 แบบที่ต่อยอดจาก  cheolmae 2 คือ  cheolmae 4H  ที่ทำหน้าที่แบบ  THAAD  ของอเมริกัน โดยมีระยะยิง  150 km  และ อีกระบบ คือ  ABM  ที่เทียบเท่ากับ  patriot pac-3  โดยมีระยะยิง  100-150 km   เดาจากระยะยิงของทั้งสองแบบ   ขนาดจรวดคงจะเล็กกว่าเดิมได้ยาก   ก็คือ  มีขนาดใกล้เคียง  SM 2  

รูป  comment ข้างบน  จรวดทางขวาสุด  มีระบบท่อปรับทิศทางอยู่แบบ cheolmae 2(รูระบายแก๊สเล็กๆโดยรอบใกล้ๆตรีบด้านหน้า)  ดังนั้น  ในตวามเห็นส่วนตัวของผม  คาดว่าน่าจะเป็น cheolmae 4 H ไม่ก็  ABM  

 

  แต่ไม่เห็นเกาหลีมีระบบที่เทียบเท่า  ESSM block 1 เลย    อเมริกาก็กำลังออก  ESSM block 2 แล้ว   คาดว่าระยะยิงน่าจะไกลกว่า 55 km   ไม่รู้ว่าจะเป็น  active homing หรือเปล่า 

  หรือว่าเกาหลีจะพัฒนา   K-SAAM  ให้มีระยะยิงไกลขึ้นให้เหมือน  ASTER 15  หรือเปล่า    เพราะเส้นผ่าศูนย์กลางมีขนาดใกล้กัน  แต่จรวดของเกาหลีมีความยาวแค่ 2 m เศษๆเท่านั้น    น่าจะสามารถขยายความยาวในส่วนของ booster  ออกไปได้อีกกว่า  1 m   ซึ่งน่าจะให้ระยะยิงไกลใกล้ๆ  ESSM block 1 ได้ครับ   อันนี้ผมเดาเอานะครับ

 

    

โดยคุณ neosiamese2 เมื่อวันที่ 27/10/2015 11:25:16


ความคิดเห็นที่ 9


จากภาพเป็น Chulmae-2 สเป็ครัสเซีย(ก็Almazมาช่วยทำ)ฉะนั้นเรื่องประสิทธิภาพน่าสนใจ อนาคตน่าฝากผีฝากไข้ได้ 

เท่าที่หาเจอตัวนี้ Cold-lunch ระยะยิง40ก.ม.ความสูง20ก.ม. พอๆกับลูก9M96  ส่วนยิงไกลกว่านี้ส่วนตัวยังไม่เจอข้อมูลตัวสำเร็จ แต่ก็คงมีระดับASTER-15 แน่ๆ

 





โดยคุณ MIG31 เมื่อวันที่ 27/10/2015 16:50:09


ความคิดเห็นที่ 10


สเป็คล่ะ 



โดยคุณ MIG31 เมื่อวันที่ 27/10/2015 16:54:00


ความคิดเห็นที่ 11


ขอบคุณครับท่าน mig31  

      รุ่น block 2 แหง๋   ดูดีกว่าแบบแรกเยอะ   น้ำหนักน้อยกว่า 9M96E  แต่ระยะยิงไม่เพิ่ม   ขนาดลูกใหญ่กว่า  ESSM  แต่เล็กกว่า  SM2  แต่ถ้ารัสเซียมีส่วนร่วมในการออกแบบ   งานนี้น่าเชื่อถือได้มากทีเดียว     บางเวปบอกว่ามีระยะ 40 - 80 km   แต่สเปกที่ท่าน MIG31 ลงไว้มีระยะ  40 km  เท่าเดิม    แต่จากขนาดของลูกจรวด  ไม่น่าจะสามารถทำ  quadpack  ใส่ K-VLS  ได้เสียดายมาก   เลยไม่สามารถยิงได้  4 นัดต่อ  1 cell  แบบ  ESSM    คงต้องรอการพัฒนาต่อไปเพื่อให้ได้แแบบ  ESSM  ครับ

    ทร. ตาดีนะครับที่แก้แบบดาดฟ้าเรือด้านหน้า   ย้ายฟาลังก์ออกไปด้านหลัง   คงสามารถรองรับ  MK-41  หรือ  K-vls ได้  32 cell    เรือใหม่เราก็จะสามารถแปลงร่างกลายเป็นฟรีเกตป้องกันภัยทางอากาศได้เมื่อเงินมี   และมีทางเลือกมากขึ้นมากกว่าระบบของ  อเมริกา-ออสเตเรีย  และ  ยุโรป  โดยมีระบบของเกาหลีมาให้เลือกเพิ่มเติม

 

โดยคุณ neosiamese2 เมื่อวันที่ 28/10/2015 11:51:10


ความคิดเห็นที่ 12


โสมขาวน่าจะต้องการระบบป้องกันภาคพื้นมาก่อนเป็นอันดับแรกล่ะ มีโครงการL-SAM ระยะยิง150กม. อยู่ พอๆกับระบบS-350 Vityaz เช่นกัน ซึ่งในตลาดตอนนี้มีแต่ของจีน รัสเซียและฝรั่งเศส

ส่วนทางเรือระบบจากรัสเซียคงไม่เอามาเป็นแบบเพราะขนาดใหญ่มากในขณะที่สหรัฐเล็กกว่า ยิงไกลกว่า เราอาจยังไม่ได้เห็นตัวที่จะมาแข่งกับESSM SM-2 ผลิตโดยเกาหลีเองในเร็ววันนี้

โดยคุณ MIG31 เมื่อวันที่ 28/10/2015 13:30:16


ความคิดเห็นที่ 13


โดยส่วนตัวมองว่าจรวดต่อสู้อากาศยานระยะยิงไม่เกิน 50 กม. จรวด ESSM ยังดีที่สุดอยู่ในตอนนี้และที่สำคัญเหมาะสมกับเรามากที่สุด ส่วนถ้าต้องการจรวดที่ยิงได้ไกลกว่านั้นและไม่เลือกSM-2 ผมมองไปที่อิสราเอลครับ ทั้งนี้เนื่องมาจากมีสินค้าที่เป็นทั้งตัวจรวดก็ดี เรดาร์ควบคุมการยิงก็ดี และเรดาร์ตรวจจับเป้าหมายก็ดี ที่เป็นสินค้าผลิตออกมาจริงและขายได้จริงๆแล้วอีกต่างหาก ถ้าต้องการเข้าไปแจมโครงการร่วมกับอินเดียเลยครับรับรองว่าโครงการไม่มีวันล่มแน่ สาเหตุเพราะว่าอิสราเอลเป็นคนทำอินเดียเป็นแค่คนใช้งาน

 

โครงการของเกาหลีใต้ยังไงต้องรอดูกันต่อไป ผมเองก็ยังงงๆกับระบบ K-VLS ขนาดเล็กนั่นอยู่ว่า ตกลงแล้วมันใส่ได้4หรือ16นัดกันแน่ แต่ไม่ว่าจะใส่ได้เท่าไหร่เท่ากับเป็นการผูกมัดให้ใช้งานจรวดได้แค่นี้ เพราะไม่ใช้ระบบVLSมาตราฐานที่สามารถใส่จรวดได้หลากหลายแบบเหมือน SYLVER หรือ MK-41 จะยัด K-ASROC ก็ไม่ได้ไม่ค่อยปลื้มเท่าไหร่

 

ว่ากันตรงๆถ้าจะเอาประสิทธิภาพดีตามมาตราฐานโลก VL-MICRA และ Sea Captor น่าสนใจกว่านะ และถ้าจะเอาถูก Umkhonto ของแอฟริกาใต้เป็นมือวางอันดับ1 ในอนาคตจะมีรุ่นที่ยิงได้ไกล 60 กม.รออยู่โดยใช้ท่อเดียวกันได้ด้วยอย่างแน่นอน เรือของเราไม่ได้ใช้THALESแบบเมื่อก่อนแล้วด้วย ยังมองไม่เห็นอนาคตร่วมกันเลยแม้แต่น้อย

โดยคุณ superboy เมื่อวันที่ 28/10/2015 15:18:50


ความคิดเห็นที่ 14


เคยได้ยินว่าทร.ไม่ปลื้มบริการหลังขายอิสราเอลนะครับ

โดยคุณ Phu2000 เมื่อวันที่ 28/10/2015 23:36:22