ข้อมูลเพิ่มเติมคือโครงการนี้มี Saab Kockums AB เข้ามาร่วมด้วย (รวมในส่วนสร้างเสากระโดงหลักที่ฝังเรดาร์และระบบสงครามอิเลคทรอนิคไว้) ใช้ระบบเรดาร์ใหม่เอี่ยมรุ่น Thales NS 100 S-band multi-function active electronically EW ของ STELOP ติดอยู่4ตัวรอบทิศ เรดาร์ควบคุมการยิงของSagem E/OของSTELOP เดาว่าปืน76/62น่าจะเป็นของเก่าจากเรือชั้น Fearless ปืน25มมและ12.7มม.ควบคุมด้วยรีโมททุกกระบอก ทีเด็ดทีขาดอยู่ที่จรวดต่อสู้อากาศยาน Mica VL จำนวน12นัด ทำให้สิงค์โปร์เป็นลูกค้าชาติที่4ในอาเซี่ยนต่อจากอินโดนีเซีย มาเลเซีย และเวียตนาม อนาคตอาจเป็นฟิลิปินส์กับเรือฟริเกตลำใหม่ของเขารอดูกันต่อไป

เรือใช้เครื่องยนต์MTUวิ่งได้เร็วสุงสุดถึง27น๊อตซึ่งนับว่าสุงมาก ท้ายเรือมีอู่ลอยรองรับเรือยางได้2ลำ (จะเป็นเรือยางติดอาวุธควบคุมด้วยรีโมท1ลำ) อู่ ST Engineering Marine ต่อเรือได้เร็วมากและคุณภาพดีมากตามที่เห็นในภาพ เรือไม่ได้ติดอาวุธต่อต้านเรือดำน้ำเหมือน Fearless  คงเป็นเพราะกองเรือเขาใหญ่ขึ้นและได้เรือฟริเกตทันสมัยมากถึง6ลำมาแทนที่เรือเร็วโจมตีอาวุธนำวิถีขนาดเล็ก ไม่มีจรวดต่อต้านเรือรบติดตั้งเพิ่มเติมได้ไหมผมไม่กล้าฟันธงนะ มีSaabเข้ามาเกี่ยวข้องด้วยอาจจะยิงจรวดจากช่องใต้ลานจอดเฮลิคอปเตอร์ได้ด้วยก็เป็นได้ใครจะไปรู้

เรือตรวจการณ์ชั้น Fearless เข้าประจำการในปี1996อายุเพียง20ปีเอง ไม่รู้อนาคตเหมือนกันว่าจะยังไงแต่ถ้าปล่อยออกผมเป็นฟิลิปปินส์จะรีบกระโดดมาคว้าไว้ซัก3ลำ ขี้หมูขี้หมาก็มีโซนาร์กับตอร์ปิโดปราบเรือดำน้ำล่ะค่อยหาปืนหรืออาวุธอื่นมาติดเพิ่มเอา กับประเทศไทยเราคงไม่สนเพราะมีโครงการต่อเรือตรวจการณ์ขนาด58เมตรราคาลำล่ะประมาณ700ล้านบาทอยู่แล้ว ซึ่งก็คงจะทยอยต่อเพิ่ม2ปีต่อ1ลำอะไรก็ว่าไป นอกเสียจากทร.งบหมดเนื่องจากโครงการใหญ่ๆแล้วสิงคโปร์ปล่อยให้ในราคามิตรภาพอันนี้ก็ว่ากันไม่ได้

ทำไมมันเร็วจัง ออกแบบแป๊บๆต่อเสร็จละ

เรือชั้น Fearless  ถ้าสภาพยังดี ประสิทธิภาพดีกว่าหรือเท่ากับเรือตรวจการณ์ที่ ทร. จะสร้างใหม่ และราคาถ้าถูกกว่า  ผมคิดว่า ทร. น่าซื้อมาใช้น่ะครับ เหมาหมดทั้ง 8 ลำ   ส่วนเรือสร้างใหม่ก็มุ่งไปที่เรือขนาดใหญ่ เช่น เรือชั้นกระบี่ โดยอาจเป็นเรือตรวจการณ์แบบเดิม 1 และแบบปรับปรุงเพิ่มโรงเก็บ ฮ.   ตอปิโดร์  จรวดต่อสู้อากาศยานระยะประชิด  จรวดนำวิถีโจมตีเรืออีก 1 ครับ

ส่วนเรือ OPV ของสิงค์โปร์ ดูดีทุกอย่าง แต่ติดตรงที่ทำไมลานจอด ฮ. ต้องยื่นออกมานอกตัวเรือ ดูแกะกะชอบกลครับ

ผมเดานะครับท่านระยองว่าเพราะเรือกว้างแค่12เมตร เลยขยายดาดฟ้าลานจอดให้กว้างอีกหน่อยเพื่อรองรับเฮลิคอปเตอร์S-70หรือใหญ่กว่านี้นิดหน่อย แบบเรือจริงๆก็แปลงมาจาก Fearless รุ่นใหญ่ที่ต่อขายโอมานจำนวน4ลำนั่นแหละมันเลยไม่ได้ใหญ่อะไรมากมาย

และรู้สึกว่าของโอมานจะปล่อยลงน้ำไป2ลำแล้วนะนับว่าอู่ต่อเรือสิงคโปร์ทำงานได้เร็วมาก ลองมาพนันกันไหมว่าOPVของเขา8ลำกับของเราต่อเพิ่มอีก1ลำฝั่งไหนจะเสร็จก่อนกัน 555

เรดาร์ NS100 มีระยะตรวจจับไกลสุดที่200กิโลเมตร แซงหน้าพี่ยีราฟที่ติดอยู่บนเรือหลวงจักรีไป20กม.แล้ว ตรวจจับเป้าหมายบนอากาศแบบ3มิติ บนพื้นน้ำแบบ2มิติ มีแจมเมอร์ มีIFF เทคโนโลยีใหม่เพียบ  อันที่จริงเรือลำนี้ติดจรวดASTER15ได้เลยนะเรดาร์ก็สนับสนุน แต่สิงคโปร์คงว่าแพงเกินไปและเกินความจำเป็นแค่VL Mica ก็อึ่งกิมกี่แล้ว

เรือชั้น Fearless แค่เรดาร์กับโซนาร์ก็ทิ้งM58เราไปไกลลิบแล้ว แต่จริงๆมันเป็นเรือเร็วโจมตีอาวุธนำวิถีที่เอามาแปลงเป็นเรือตรวจการณ ห้องหับทั้งหลายเลยมีน้อยเอาไปออกไปวิ่งหลายวันก็ไม่ค่อยสะดวก ส่วนเรือเราออกแบบส่วนนี้ได้อเนกประสงค์ดีมากมีพื้นที่ติดตั้งตู้คอนเทนเนอร์เอนกประสงค์เพิ่มได้ด้วย ก็ดีกันไปคนล่ะแบบครับ

จริงๆทร.ทำโครงการเรือตรวจการณ์ขนาด50เมตรมานานแล้วนะ เพราะมันเป็นเรืออีก1ขนาดที่ต้องการเยอะและใช้งานบ่อยควรจะได้แบบเรือที่มันถูกใจหน่อย ไม่รู้เหมือนกันว่าM58นี่ทร.เข้าไปเกี่ยวดองด้วยมากแค่ไหนหรือมาร์ซันไปเอาแบบเรือประเทศอื่นมาขายอีกที เรื่องพวกนี้อยู่ไกลเกินที่ผมจะหาข้อมูลได้ เรือขนาด50เมตรเราต่อเองในประเทศทั้ง9ลำนะ เรือชั้นสัตหีบรู้สึกจะแบบเรือจากอเมริกาส่วนเรือชั้นหัวหินแบบเรือจากอังกฤษ