กองทัพเรือและกองทัพเรืออินโดนีเซีย ทำการฝึกผสม SEA GARUDA 2015 เป็นการฝึกผสมทางเรือระหว่างกองทัพเรือไทยกับกองทัพเรืออินโด นีเซีย โดยการฝึกผสม SEA GARUDA ระหว่างทั้ง ๒ ประเทศนี้จะมีการผลัดเปลี่ยนการเป็นเจ้าภาพให้มีการฝึกปีเว้นปี โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นการยกระดับความร่วมมือและความสัมพันธ์อันดี ตลอดจนการปฏิบัติงานของกองทัพเรือทั้งสองฝ่าย รวมทั้งเพื่อเพิ่มพูนประสบการณ์ ความรู้ความชำนาญ และพัฒนาขีดความสามารถในการปฏิบัติการทางเรือสาขาต่าง ๆ ร่วมกัน
สำหรับในปี ๒๕๕๘ นี้ นับเป็นครั้งที่ ๑๘ ที่มี กองเรือฟริเกตที่ ๑ กองเรือยุทธการ เป็นเจ้าภาพรับผิดชอบการฝึกมี พลเรือตรี สานนท์ ผะเอม ผู้บัญชาการกองเรือฟริเกตที่ ๑ กองเรือยุทธการ เป็นผู้อำนวยการฝึกผสม SEA GARUDA 2015 และมี นาวาเอก ไพศาล มีศรี เสนาธิการกองเรือฟริเกตที่ ๑ กองเรือยุทธการ เป็นผู้บังคับหมู่เรือฝึกผสม ฯ โดยมีนายทหารสัญญาบัตรและนายทหารประทวนในสังกัดกองเรือยุทธการเข้าร่วมการ ฝึก ทำการฝึกในพื้นที่อ่าวไทย ระหว่างวันที่ ๒๘ พฤษภาคม ถึง ๙ มิถุนายน ๒๕๕๘ รวมระยะเวลาในการฝึก ๑๓ วัน มีหัวข้อการฝึกที่สำคัญ ประกอบด้วย การปฏิบัติการรบผิวน้ำ การป้องกันภัยทางอากาศ การปราบเรือดำน้ำ การยิงอาวุธประจำเรือ การรับ-ส่งสิ่งของในทะเล และการฝึกประลองยุทธ์
การจัดกำลังกองทัพเรือไทย ประกอบด้วยเรือและอากาศยาน ได้แก่ เรือหลวงมกุฎราชกุมาร เรือหลวงรัตนโกสินทร์ และเรือหลวงสุโขทัย รวมทั้งอากาศยานอีกจำนวนหนึ่ง ส่วนกำลังกองทัพเรืออินโดนีเซีย ประกอบด้วย เรือฟริเกต จำนวน ๒ ลำ เรือ KRI USman Harun และ KRi Sultan Hasanudin รวมทั้งอากาศยานอีกจำนวนหนึ่ง
การฝึกผสม SEA GARUDA 2015 ในครั้งนี้ จะทำให้กำลังพลที่เข้าร่วมฝึกทั้งสองประเทศ ได้รับการแลกเปลี่ยนความรู้ ประสบการณ์ ความชำนาญในยุทธวิธี และการปฏิบัติการทางเรือสาขาต่าง ๆ อีกทั้งยังเป็นการพัฒนาขีดความสามารถขององค์บุคคล องค์วัตถุ องค์ยุทธวิธี รวมทั้งเป็นการดำรงความสัมพันธ์อันดีระหว่างกองกำลังทางเรือทั้งสองประเทศที่เข้าร่วมการฝึก ซึ่งจะเป็นการเสริมสร้างความสัมพันธ์อันดีระหว่างกันของมิตรประเทศทั้งสองในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยจะมีพิธีปิดการฝึกวันที่ ๙ มิถุนายน ๒๕๕๘ เวลา ๑๔.๐๐ น. บนเรือหลวงมกุฎราชกุมาร (ที่มา : ยก.ทร.)
นอกจากจะเป็นการเดินทางมาเยือนไทยของเรือคอร์เวตลำใหม่เอี่ยม(แต่มือสอง)จากอินโดนีเซียแล้ว ผมยังได้เห็นเรือฟริเกตลำโปรดของตัวเองออกงานอีกด้วย ไม่พบกันนานคิดถึงจังเลย สบายดีนะครับ (หวังว่าจะเป็นภาพถ่ายจากในงานนี้นะครับ)
ชุดทหารเรือเราสวยกว่าเยอะอะ
...........อยากทราบ..ครับ
เรือ OPV 3 ลำ ที่ "บรูไน" ไม่เอานี่ ตกลง "อังกฤษ" ขายให้ "อินโด" เป็นเงินกี่ล้านดอลล่าร์ ครับ
เรือชุดนี้น่าสนใจจริงๆ ครับ ถ้าได้ราคาไม่แพงมาก ครับ..............
ราคา380ล้านเหรียญเฉลี่ยลำละ 124 ล้านเหรียญน่ะครับ อาจจะเสียค่าปืน76/62ที่เอามาติดใหม่ด้วยแต่ก็ไม่เท่าไหร่ส่วนจรวดก็ต้องซื้อใหม่อยู่แล้ว คนอินโดเองเรียกเรือลำนี้ว่า guided missile corvettes ซึ่งจะว่าใช่มันก็ใช่อยู่นะเพราะมีจรวดต่อสู้อากาศยานVL Seawolf 16นัด พร้อมเรดาร์ควบคุมการยิง2ตัวหน้า-หลัง ส่วนปืนหลักมีE/Oแยกควบคุมต่างหากแยกไปเลย เพียงแต่Seawolf มันมีระยะยิงแค่10กม.เท่านั้นเองจึงทำได้แค่ป้องกันตัว เป็นเรือมาตราฐานเรือรบแท้ๆติดอาวุธครบ3มิติลำสุดท้ายที่อังกฤษขายออก อนาคตใกล้ๆนี้ก็ยังไม่มีวี่แววแม้แต่น้อยนอกจากจะปล่อยType23แบบมือ2ไป
ขอบคุณมากครับ....คุณบอย
แหม้ม......ถ้า ท.ร. ได้มาคงประหยัดงบได้มากเลย ครับ....
แทนเรือชุด "เจ้าพระยา" 2 ลำ กับเรือ "พระเลิศหล้า" อีก 1 ลำ ได้เลย น่ะ ครับ
ผมอ่านในเวบอินโด เห็นเค้าเรียกกันว่า "ฟรีเกตเบา" อาวุธครบเครื่องแบบเบาเบา
แต่ Sีurface to surface นี่หนัก เพียงพอแล้ว สำหรับราคาอย่างนี้.........ใช้เงินได้คุ้มค่ามาก