ขึ้นกระทู้ใหม่ให้นะครับ กระทู้เก่าเริ่มใช้เวลาโหลดนานแล้วครบ
ผมดูแล้ววิเคราะห์ได้ดีเลยอยากให้เพื่อนๆได้ลองดูกัน เค้าพูดบนพื้นฐานของข้อมูลที่รู้จริงแล้วนำมาวิเคราะห์
เครดิต : รายการ ห้องข่าวฉุกเฉินรับอรุณ ช่อง Nation TV
เครดิต : รายการ ห้องข่าวฉุกเฉินรับอรุณ ช่อง Nation TV
แต่รายการนี้ผมดูได้ครึ่งเดียวแล้วปิดเลย.......(ผมว่ามันไม่โอเคอ่ะเป็นความเห็นส่วนตัวนะครับ) มันไม่ใช้การพูดกันบนข้อมูลที่คุณรู้จริง ผมไม่สนนะว่าใครจะชอบรัฐบาลหรือไม่ ผมสนใจแต่ข้อมูลที่คุณเอามาวิเคราะห์ข้อมูลที่รู้จริงเป็นข้อมูลที่ถูกต้อง คุยกันบนพื้นฐานของข้อมูลและเหตุผลไม่มีอคติ
ผมว่าคลิปแรกนั้นการเปรียบเทียบมันห่างกันเกินไปเหมือนเอา ไอโฟน 5 ไปเทียบกับอิริกสันรุ่นปี 90's ไบแอสเกินไป หรือเกิดจากความไม่รู้ ควรเอาเรือจีนมาทาบกับเรือ สวีเดน-เยอรมันดีกว่า
คลิปที่สองพอฟังใด้
ส่วนคลิปที่ 3 นี่ โชว์โง่เต็มๆ
Manager นี่ก็เกินไปนะครับ ผมว่าสื่อมันอัตตาสูงเกินกว่าสื่อไหนๆอีกเลยก็ว่าได้
ร้องไห้ตรงที่ ทำไมไม่จัดหา Kilo class 555+
คุณ Nakarin ลองย้อนไปอ่านบทความในกระทู้หน้าของท่าน Judas และ ท่าน Obeone ดู ถึงแม้ข้อมูลมันจะไร้หลักฐานแต่มันมีมูลที่พอจะน่าเชื่อถือได้อยู่ว่าทำไมถึงต้องเป็นเรือดำน้ำจีน
ก็ไม่อยากจะคิดและลุ้นอะไรไปมากมายอีกแล้วกับโครงการจัดหาอาวุธของกองทัพไทย ถ้าหากการจัดหาหรือจัดซื้ออาวุธของไทยเราทุกอย่างถ้ามันจะต้องอิงการเมืองทั้งในและต่างประเทศทั้งในปัจจุบันและอนาคตข้างหน้า คือ ถ้าเป็นแบบนี้ ผมเชื่อว่าอาวุธจีนคงจะมาแทนที่อาวุธของไทยที่เคยซื้อจากตะวันตกเกือบทั้งหมดแน่ๆ
ส่วนอาวุธจากรัสเซียจนป่านนี้ไม่เห็นวี่แววการOrder อาวุธหลักจากไทยเราเลยก็คงจะเดาออกว่าเพราะสาเหตุอะไร
จะบอกยังไงดีล่ะ เพจใน fb บางเพจนี่ก้เกินไป
เอาบทความของ เสี่ยโย TAF, ท่านกัปตันนีโม ไปโพสแปะ
ให้พวกสนับสนุนเรือจีนมาถล่มด่ากันสนุกปาก
ใครไปชี้แจง กลายเป็นไม่รักชาติ เปนพวกสีทางการเมืองบ้างล่ะ อคติกับเรือจีน ฯลฯ
คือต้องการจะรับข้อมูลด้านเดียว ว่างั้นเถอะ
ตอนนี้ไม่ได้น่าห่วงว่าจะเลือกเรือดำน้ำของใคร แต่ห่วงเรื่องความรู้ความเข้าใจในความสำคัญของเรือดำน้ำว่าควรมีทำไม มีไปเพื่ออะไร
เพราะถ้าไม่ใช่คนที่ศึกษาเรื่องทหารแบบเราๆแล้วล่ะก็ ออกไปข้างนอกเหมือนสีซอเลยล่ะครับ คนรับข้อมูลด้านเดียวมาก รวมถึงการสนับสนุนเรื่องความรู้จากสื่อต่างๆก็ไม่มีหรือน้อยมากๆ แต่สื่อจิกกัดอะไรแบบนี้มันมากกว่า
ส่วนตัวว่าเรือดำน้ำรอบนี้อาจจะลอยลำไม่เข้าไทยแหงเลย เพราะกระแสมาหนักมาก เว้ยเสียแต่รัฐบาลจะดันแบบไม่สนโลก
ก็อย่างที่ ท่าน MIG31 ตั้งข้อสังเกตุ แหล่ะครับ...
มันก็คล้ายกับความเห็นผมว่า รัฐบาล จะดันทุรัง เอาให้ได้ไปทำไม...ถ้า กระแส ต่อต้าน มันมากขนาดนี้...
ทั้ง ๆ ที่ ก่อนหน้านี้ ทร. ก็เสนอโครงการเรือดำน้ำไป ในงบประมาณที่ ต่ำกว่า มาก ๆ ๆ ๆ....ก็ไม่ผ่าน...
มันจึงเป็นข้อสังเกตุของผม ที่พาดพิงการเมือง เรื่องที่ว่า ขนาดเรื่องเกี่ยวกับ ความเป็นอยู่ของประชาชนที่มีความเดือดร้อน ในปัจจุบัน...
ยังไม่ ดันทุรัง จะแก้ปัญหา เท่ากับ โครงการ เรือดำน้ำจีน เลย ไงครับ...ก็ไม่รู้ว่า ท่านที่สงสัยในความเห็นผม จะเข้าใจ หรือ พยายามจะทำความเข้าใจหรือเปล่า ? (พอดี จำไม่ได้ ว่าชื่ออะไรครับ อยู่อีกกระทู้ก่อนหน้า...ขี้เกียจ จะกลับไปหาชื่อมาใส่...เพราะ การพิมพ์ความเห็นในกระทู้ ถ้าใช้เวลามากไป มันจะหลุด ต้อง Log-in ใหม่...ขี้เกียจครับ)
และที่บอกว่า AIP ของ จีน ก้าวหน้าไปมาก...มากไปจากอะไร ?
AIP ของจีน กับ สวีเดน เป็นแบบ Stirling cycle engines
AIP ของ เยอรมัน กับ รัสเซีย เป็นแบบ Fuel cells
ซึงแบบ Fuel Cells จะมีความเร็วมากกว่า Stirling กว่า 1 เท่าตัว ระยะเวลาอยู่ใต้น้ำ ได้ระยะเวลานานตามความยาวของ Cells
Cells จะวางเป็นชุด หรือ ขนาบข้างลำเรือ ทำให้เรือไม่ต้องใช้พื้นในตัวเรือ เหมือน Stiring AIP...
ระบบ Stiring cycle engines มีมาตั้งแต่สมัยสงครามโลกครั้งที่ 1 แล้ว แต่ไม่ได้รับความนิยม...จน สวีเดน นำมาพัฒนา และปรับใช้กับเรือดำน้ำของตัวเอง จนประสบความสำเร็จ และถ่ายทอดเทคโนโลยี่ดังกล่าว ให้กับ ญี่ปุ่น และ จีน...
และประเทศไทย เคยจะมี เรือดำน้ำ ที่มีระบบ AIP แบบ Stirling ต้้งแต่สมัย รัฐบาล นายกฯ ชื่อ บรรหาร แล้ว คือ เรือชั้น Gotland นั่นเอง...แต่ถูกล้ม โดยนักการเมืองและนายทหารเรือ ที่ฝักใฝ่ ทางการเมือง นั่นเอง...โดยสมัยนั้น ประเทศจีน เอง ยังไม่มีเทคโนโลยี่ นี้เลย...
1.AIP แบ่งตามที่ใช้จริงคือ closed cycle diesel (CCD) AIP, Stirling engine (SE) AIP, fuel cell (FC) AIP แต่ล่ะชนิดมีข้อดี ด้อยต่างกัน อันนั้นทราบดี เรื่องเปรียบเทียบค่อยมาว่ากันที่หลัง
2.AIP จีน พัฒนา โดย 711 research institute of the China Ship Scientific Research Center หรือ
711 ก่อตั้ง ปี1975 แต่ที่จะพูดถึง คือการวิจัยเรื่อง AIP นั้นเริ่มตั้งแต่ปี 1991 โดยมี ดร.Jin Donghan ้ไธๅฏ เป็นหัวหน้าทีม ปี1996 พัฒนาเครื่องต้นแบบ สำเร็จ
ปี 1998 ดร.Jin Donghan และลูกทีมของเขา พัฒนา AIP ขนาด 75KW ขึ้นด้วยเทคโนตัวเองครั้งแรก
บรรหารเป็นนายกปีไหนไม่รู้ ก่อนปี1991 หรือเปล่า ถ้าก่อนจีนก็คงไม่มี
3.ที่ว่า //และถ่ายทอดเทคโนโลยี่ดังกล่าว ให้กับ ญี่ปุ่น และ จีน // กับญี่ปุ่นไม่ทราบ แต่กับจีนทราบดี ว่าจีนซื้อมา ซึ่งสวีเดนมี2รุ่น 75kw กับ 100kw แต่ขายเฉพาะ 75kwเท่านั้น โดยการซื้อคือซื้อ ที่ว่าถ่ายทอดเทคโน นี่เอามาจากไหนครับ ขอlink ขอบคุณล่วงหน้า
4.ถามด้วยความสงสัย SEAIP สวีเดน มีกำลังเท่าไรบ้าง แล้วใช้เชื้อเพลิงอะไร solid fuels ได้ไหม
5.ถามเป็นความรู้ FCAIP ของรัสเซียที่เข้าประจำการจริง (ไม่เอาทดสอบ) ชื่อชั้นอะไรครับ ใช่ Sankt Peterburg (B-585) มันยังมีปัญหาไม่ใช่หรือครับ และมีแค่1ลำ
จากที่ได้สังเกต เพื่อนสมาชิก TFC ที่ได้วิเคราะห์และให้ความเห็นต่อการจัดหาเรือ ส. ครั้งนี้ ผมว่า ส่วนใหญ่เข้าใจความจำเป็นของการมีเรือ ส. แต่ว่ายังมีความเห็นต่างกันในเรื่องของคุณภาพของเรือ ส.จีน ที่จัดหา
ผมจึงอยากขอให้ความเห็นต่อความคิดที่ต่างกันนี้นะครับ หลักใหญ่ผมว่าอยู่ที่ความหมายของคำว่า คุณภาพ ของแต่ละคนที่ไม่เหมือนกัน ซึ่งก็ไม่จำเป็นต้องเหมือนกันครับ สินค้าต่างๆ จึงมีหลายระดับให้เลือกซื้อ กล่าวคือ คำว่า คุณภาพ มีนัยได้หลากหลาย ซึ่งผู้เชี่ยวชาญด้านคุณภาพได้ให้ไว้ตรงกันหลายท่านจะมี 3 แบบหลักๆ คือ 1) คุณภาพ หมายถึง ประสิทธิภาพที่ดีที่สุด; 2) คุณภาพ หมายถึง ความสัมพันธ์ระหว่างประสิทธิภาพกับราคา; 3) คุณภาพ หมายถึง ความเหมาะสมกับความต้องการใช้งาน
ดังนั้นเพื่อนสมาชิกหลายท่านที่ไม่เห็นด้วยกับ เรือจีน ก็อาจเป็นเพราะว่า ความหมายของคำว่า คุณภาพ ของท่านเหล่านั้นหมายถึง ประสิทธิภาพที่ดีที่สุดในท้องตลาด
ส่วนหลายท่านที่เห็นว่า เรือจีน ก็โอเคพอรับได้ ดีกว่าไม่มี ก็อาจจะเพราะมองว่า คุณภาพ หมายถึง ความสัมพันธ์ระหว่างประสิทธิภาพกับราคา หรือ ความเหมาะสมกับความต้องการใช้งาน ก็เป็นไปได้นะครับ ผมจึงคิดว่า ความคิดเห็นของแต่ละท่านไม่มีผิดถูกนะครับ
ขอแย้งเรื่องระบบ AIP ของจีนที่ว่าไปไกลหน่อยครับ
ของจีนกับของสวีเดนหรือญี่ปุ่น ไม่มีใครพัฒนาไปไกลกว่าใครครับ
AIP แบบใช้เครื่องยนต์ stirling ไม่ได้มีความซับซ้อนอะไรครับ เพี่ยงแค่ใช้ความร้อนในการเผาลูกสูบให้ทำงาน (เครื่องยนต์ stirling ผลิดไฟฟ้าเองไม่ได้)
ซึ่งข้อดีของเครื่องยนต์แบบนี้คือใช้เชื้อเพลิงในการเผาไหม้เป็นน้ำมันดีเซลที่เป็นเชื้อเพลิงหลักของเรือกับออกซิเจนเหลวได้ และก่อก๊าซพิษต่ำ และดูแลง่าย ส่วนข้อเสียก็คือเรื่องเสียงจากการสั่นสะเทือนและความร้อน ที่อาจจะก่อให้เกิดไฟไหม้ได้ง่าย
ของสเปนเคยมีลองใช้ Biofule แต่ส่งสัยจะไม่ดี เลยเงี่ยบหายไป
ระยะเวลาที่ใช้ได้ก็เท่าที่เชื้อเพลิงที่มีอยู่เอื้ออำนวยครับ มีมากก็ใช้ได้นานหน่อย มีน้อยก็ใช้ได้สั่นหน่อย
จะดีหรือไม่ทั้งหมดอยู่ที่การวางเครื่องและการลดเสียงที่เกิดครับ
.........
ปล.เรื่องระบบ AIP เคยถกกันตั้งแต่สมัย U206 กันแล้วนิครับ
เรื่องอุยกุร์นี่ชัดเจนครับ รัฐบาลนี้พยายามเอียงเข้าจีน ไม่ง้ออเมริกา หลายเรื่องแล้ว เหมือนเอาจีนมางัดข้อกับอเมริกาว่าอย่ากดดันมากเดี๋ยวย้ายค่ายซะเลย
ส่วนตัวผมไม่เห็นด้วยกับการไปเอาใจประเทศมหาอำนาจ อย่างกรณีวิคเตอร์ บูท ผมก็ว่าน่าเกลียดเหมือนกัน
การปล่อยให้มหาอำนาจเข้ามามีบทบาทในประเทศเรา ระยะยาวไม่มีผลดีหรอกครับ
1.AIP แบ่งตามที่ใช้จริงคือ closed cycle diesel (CCD) AIP, Stirling engine (SE) AIP, fuel cell (FC) AIP แต่ล่ะชนิดมีข้อดี ด้อยต่างกัน อันนั้นทราบดี เรื่องเปรียบเทียบค่อยมาว่ากันที่หลัง
.....
มีมากกว่านั้นครับ
Fuel cell - เยอรมัน ใช้ใน Type 212, 214 และ 209 Modบางลำ,
Stirling AIP - สวีเดน Sodermanland class & Gotland class, สิงคโปร์ Archer class, ญี่ปุ่น Sryu class (Kawasaki Kockums V4-275R) และจีน Yuan class
MESMA - ฝรั่งเศส Scorpene class และ Agosta class ที่เคยเสนอให้ปากีสถาน
CCD - เกาหลี Type-209 ซึ่งตัวนี้มีหลายเจ้าที่ผลิตทั้ง อังกฤษ เยอรมัน และเนเธอรแลนด์
27E AIP - รัสเซีย ของใหม่ คาดว่าเอาใส่ใน Amurs class, และเคยเสนอขายแบบ AIP ต่อออสเตรเลียมาแล้ว
Nuclear Propulsion - คงไม่ต้องพูดถึง
4.ถามด้วยความสงสัย SEAIP สวีเดน มีกำลังเท่าไรบ้าง แล้วใช้เชื้อเพลิงอะไร solid fuels ได้ไหม
ของสวีเดน ใช้ร่วมกับดีเซล ไฮโดรเจน ฮีเลี่ยม และออกซิเจนเหลว, ใช้ร่วมกับเชื้อเพลิงเหลวแบบจรวดนั่นละครับ
ถ้าเข้าใจระบบการทำงานของเครื่องยนต์สเตอร์ริง จะเข้าใจเองครับว่าต้องการแค่ความร้อนที่คงที่เท่านั้น
สเปนยังเคยทดลองเอา Biofule มาใช้เลยครับ
เพิ่มเติม เผื่ออยากรู้ว่าหน้าตาเป็นอย่างไร สำหรับ SEAIP
Kockum´s Air Independent Propulsion (AIP) System
จะว่าไปพอพูดถึงระบบ SEAIP ก็นึกถึงกระทู้เก่าของป๋าจูลอันี้เลย
http://www.thaifighterclub.org/webboard/16796/55th-years-JMSDF-Submarine-Fleet.html
HMS Uppland (gotlandsklassen)
ระบบ AIP แปลไทยที่มีเคยมีคนเขียนไว้ เผื่อจะสนใจ
อยากให้ดูความมั่วของข่าวที่ลงในสื่อต่างประเทศบ้าง ดูที่ตำแหน่ง พล อ ประยุทธ ใต้ภาพว่าเป็น ประธานาธิบดี และ นายกรัฐมนตรี ไม่ใช่แค่สื่อไทยหรอกที่มั่ว
Photo by: Sakchai Lalit
Thailand's President and Prime Minister Prayuth Chan-ocha denied the submarine deal was another bid to curry favor with China, the region's rising power. "There is no need for that," he said. "We have a good relationship with China already. Every country is good to us, except those who are still stuck on the word 'democracy.'" (Associated Press)
Read more: http://www.washingtontimes.com/multimedia/image/2_prayuthjpg/#ixzz3fPOglVKR
Follow us: @washtimes on Twitter
ผมมาพูดเรื่องที่เพื่อนบ้างท่านสนับสนุนให้ออกจากมหาอำนาจเก่า แล้วไปซบอกพี่จีนที่รักของหลายๆท่านน่ะครับ ผมก็ยืนยันจุดเดิมนะครับ ออกจากมหาอำนาจเก่าผมว่าก็ดี ในแง่การพึ่งพาเขา แต่อย่าได้คิดไปซบอกคนใหม่ บ้านเมืองจะแย่ ออกมายืนเป็นกลางหล่อๆ จะดีกว่า คุยกับทุกคน ส่วนเทคโนโลยี่ ก็สวีเดนเลยครับ ดีสุดในมุมมองผม
ปล. เห็นข่าว ไทยโดนลูกหลงของความแแอบรักพี่จีนในตุรกีนี้ ฮ่าไม่ออกเลยครับ ถ้าไปจูบปากกอดคอกันกลมนี้ จะมองหน้าไม่ติดอีกหลายประเทศครับ ได้เพือนใหม่เป็นจีน แต่ เพือนเก่า จะน้อยลงไปมากครับ
กลัวจีนจะเสียใจ ก็ ซื้อบ้างครับ พวก จรวด ขีปนาวุธ ระบบต่อต้านอากาศยาน แต่ พวก เรือ เครืองบิน รถถัง นี้ พอเถอะครับ
ปล.รถถัง ยุเครน นี้ล๊อตใหม่ไม่มีแล้วนะครับ คุณภาพไม่ไดี จะเอาถังจีนมาแทน แล้วจะ ขำกันไม่ออก ฮ่าๆๆ ส่วนบินฝึก บัและบินขับไล่ใหม่ที่จะลง ฝูง โคราช นี้เป็น เครือง เจ ครับ ฮ่าๆๆ
ท่าน Serie VII พูดจริงหรือพูดเล่นเรื่อง Oplot ?
สาวก Saab คงเศร้า 555+
ผมสน A26 ครับไม่ใช่ตัวนี้ ถ้าจะซื้อตัวนี้ผม ยอมให้ หยวนๆ เลยครับ ฮ่าๆๆ A26 สวีเดน 2 ลำ ตามข่าว คือ 920 ล้านเหรียญ ก็ตกลำละ 460 ล้าน น่าสนไหมหล่ะครับ
เข้าข้างใครโดนหมด กรณีอุยกรู ที่ยึดตามกฎหมาย(รายละเอียดหาดูเอง) คือส่งกลับจีนบางส่วนยังโดน ไม่ส่งจีนยิ่งผิดมหันต์
กรณี วิคเตอร์บูท ยึดตามกฎหมาย ที่ส่งให้อเมริกา ก็ยังโดนรัสเซีย...ฮึมๆ เพราะเรามีกฎหมายกับอเมริกาเรื่องส่งผู้ร้ายข้ามแดน(คนนี้ดันเคยถูกอเมริกาออกหมายจับ)
สรุป ทำตามกฎหมายไทย ดีที่สุด 55555555555555 จะนรกหรือสวรรค์เราก็ยังมีหลัก...
สวนเรื่องการสั่งซื้ออาวุธต่างๆ.....รอดูต่อไปครับ
เราย้ายค่ายมือถือเพราะคิดวาสัญญาณห่วย กลัวว่าพอย้ายค่ายแล้วสัญญาณกลับห่วยกว่าแถมพ่วงซื้อไอโฟน เสิ่นเจิ้น ที่ต่ายนี้ขายถูกเป็นพิเศษ งานนี้ระวังจะคุยกับเพื่อนไม่รู้เรื่องนะ แล้วจะย้ายค่ายกลับไม่ได้นะครับ ช่องสัญญาณจะเต็มซะ
1.ขอบคุณที่เพิ่ม เขียนตก MESMA ไป แต่ 27E AIP มีใช้จริงหรือยัง (เอาที่เข้าประจำการ) ?
2.//4.ถามด้วยความสงสัย SEAIP สวีเดน มีกำลังเท่าไรบ้าง แล้วใช้เชื้อเพลิงอะไร solid fuels ได้ไหม
ของสวีเดน ใช้ร่วมกับดีเซล ไฮโดรเจน ฮีเลี่ยม และออกซิเจนเหลว, ใช้ร่วมกับเชื้อเพลิงเหลวแบบจรวดนั่นละครับ
ถ้าเข้าใจระบบการทำงานของเครื่องยนต์สเตอร์ริง จะเข้าใจเองครับว่าต้องการแค่ความร้อนที่คงที่เท่านั้น
สเปนยังเคยทดลองเอา Biofule มาใช้เลยครับ//
--------ปัจจุบันเอาที่ใช้จริง สวีเดนให้กำลังเท่าไรต่อเครื่อง มีเกิน100 kw หรือยัง ?
**ที่ถามเฉพาะเอาใช้จริง และที่เข้าประจำการจริงเท่านั้น ไม่งั้นจะยาว เพราะตัวทดลอง จีนก็มี MHD propulsion
หน้าตาประมาณนี้ เผื่อไม่เคยเห็น
magnetic fluid submarine propulsion
ไม่เกิน 5 ปีคงได้เห็นใน 039c แน่ๆ
โดยส่วนตัวก็อยากได้เรือ ด เยอรมันเพราะระบบต่างๆ มัน match กับ ทร.ไทย แต่ในเมื่อแนวโน้มว่ามันจะได้เรือ ด จีน S26T
ผมเลยลองตั้งคำถามกับตัวเองเล่นๆ ว่าถ้าเราเป็นทหารเรือที่ต้องอยู่ในเรือ ด/กองทัพเรือ ที่จะต้องอยู่กับมันไปอีก 20-30 ปี เราจะเลือกเรือ ด แบบไหน เช่น
1.ดำได้นาน vs ดำไม่นาน ส่งผลต่อความอ่อนตัว/กลยุทธ์ในการรบหรือไม่?
คหสต: ถ้ามันส่งผลอย่างมีนัยสำคัญแล้วล่ะก็ ผมเห็นด้วยกับ ทร.ที่จัดหาเรือที่มี AIP ครับ
2.การจัดหาเรือ ด ที่มี AIP 2 ลำให้อยู่ในงบ 36,000 ล้านบาท?
คหสต: ด้วยงบเพียงเท่านี้ ทร. มีทางเลือกอื่นหรือไม่ครับนอกจาก S26T ? ถ้ามันเป็นเรือเยอรมัน สวีเดน แล้วได้ AIP ทร.จะไม่เลือก?
3.ทร.อาจจะไม่อยากได้(ข้อสัณนิษฐาน) แต่จำเป็นต้องเลือก?
คหสต: ตามข่าวบอกว่ามติการลงคะแนนเสียงมาจากทหารที่ต้องปฏิบัติงานในเรือ ด คำถามถัดมา
Q1: ได้เห็นของจริงแล้วก็รู้สึกโอเค?
Q2: ได้รับการยืนยันจนมั่นใจว่าจะไม่เกิดปัญหาเหมือนเรือผิวน้ำที่ประจำการในไทย และสามารถใช้ไส้ในด้วยระบบยุโรปได้?
Q3: ถูกใจ Package เหมือนซื้อปืนแบบมีลูก กับ ไม่มี ลูก + รับประกันอะไหล่ยาวๆ
Q4: ถ้าไม่เอาก็ต้องรอต่อไป?
4.ถ้า.. ทร.ได้งบ 40,000 - 45,000 ล้านบาท ทร.จะเลือกเรือจากประเทศใด?
คหสต: ผมคิดว่า ทร. ไม่เลือกจีนหรอก
5.ก็จัดหาเรือ spec ดีๆ เลย + อาวุธ?
คหสต: อาจได้แค่ลำเดียวซึ่งไม่แน่ใจว่าจะเพียงพอสำหรับการฝึกและปฏิงานหรือไม่ครับ ส่วนถ้าจัดมาเฉพาะตัวเรืออย่างเดียวก็ไม่แน่ใจว่าจะจัดหาอาวุธได้หรือไม่ เพราะดูจากการจัดหาจรวดบรรจุให้ครับ cell ในเรือชั้น นเรศวรฯ ครบทุก cell ยังไม่แน่ใจเลยว่าจะทำได้ (ถ้า ทร. มีแผนอยู่แล้วก็ขออภัยครับ)
พอลองตั้งคำถาม-คำตอบให้กับตัวเองแบบนี้ ผมก็เลยเข้าใจ ทร. 8 ครับ
PNS/M Hamza (S139) - Agosta class
เรือจีนพอจะระบุเรือที่ติดตั้งได้ไหมครับ เผื่ออยากจะทราบครับ
แล้วทำไมคิดว่าระบบ AIP ที่เสนอขายเป็นระบบที่ยังพัฒนาไม่เสร็จหรือยังอยู่ในช่วงทดสอบละครับ ทำไมถึงคิดว่าเขาจะเสนอขายระบบที่ยังไม่สมบูรณ์ละครับ
อย่าเอาของจีนไปเทียบสิครับ
ส่วนระบบของสวีเดน คงไว้ที่ 75kw ครับ เพิ่มได้ครับแต่ไม่ทำ
แสดงว่า ยังไม่เข้าใจระบบการทำงานของเครื่องยนต์สเตอร์ริงและวิธีการเพิ่มกำลังของเครื่องยนต์
อยากทราบไหมครับ จะได้อธิบายในคราวต่อไป
จะได้เข้าใจว่าระบบของจีนไม่ได้พัฒนาอะไรเลย แค่บ้าพลังเท่านั้น
แล้ว MHD propulsion ของจีน มีบอกถึงวิธีการทำงานไหมครับ หรือระบบที่ทดสอบอยู่ก็ได้
เพราะเอารูปนั้นมามันเป็นแค่การแสดงถึงการจัดวางระบบภายใน แต่ไม่ได้แสดงถึงการทำงานเฉพาะเลย มีไหมครับ เพราะไม่เคยเห็นครับ
กับข่าวที่บอกว่าทหารรุ่นใหม่เป็นคนเลือก ลงคะแนนเสียง แต่เห็นมีคอมเม้นต์จากเว็ปไซต์ไหนผมก็จำไม่ได้ เห็นว่ามีแต่ระดับใหญ่ๆทั้งนั้นเลยที่เป็นคณะกรรมการคัดเลือก คิดไปคิดมาก็จริงนะครับ มีที่ไหนจะให้เด็กๆมาทำโครงการหมื่นล้าน ซึ่งสำคัญมากต่อ ทร.ด้วย (ไม่ได้แอนตี้ไม่ให้มีนะครับ อยากให้ประเทศไทยมีเรือดำน้ำ แต่อยากให้ได้ของดี มั่นใจได้ว่ามันจะคุ้มค่าและปลอดภัยสำคัญต่อกำลังพล ไม่ใช่แค่ขอให้มี)
ถ้ามีเงิน 45000 ล้าน. พบคิดว่า ทร. คงเลือก เรือจีน 4 ลำ ฝั่งล่ะ2 ลำ แต่งบอาจไม่พอ ก็จะมาที่แนวทางที่ 2 เลือกเรือสวีเดน A19 mod 3 ลำอาวุธครบ และปรับปรุงเพิ่มยิง sub harpoon ได้ กะว่าเรือสวีเดนลำล่ะ 15,000 ล้านบาท
1.ผมไม่ได้ถาม MESMA ครับ
----ถามว่า 27E AIP มีใช้จริงหรือยัง (เอาที่เข้าประจำการ)? จากข่าว lada ลำแรก และลำเดียวยังมีปัญหาที่ AIP อยู่เลย
2.จาก /เรือจีนพอจะระบุเรือที่ติดตั้งได้ไหมครับ เผื่ออยากจะทราบครับ /
ตัวเลข ณ.ปัจจุบันที่เข้าประจำการ
(CCD) (gen1) AIP 039a 4ลำแรก
SEAIP (gen2) 039B ลำที่ 5-14 รวม10ลำ
SEAIP (gen3) 039C 2 ลำ
SEAIP (gen3) Qing-class 6,628 tonnes (submerged) 1ลำ
-------ไม่นับที่ทดสอบรวมแล้ว17 ลำ ถือว่าจีนมีประสบกาณร์กับ รดน. AIP อย่างสูง
3.จาก //ส่วนระบบของสวีเดน คงไว้ที่ 75kw ครับ เพิ่มได้ครับแต่ไม่ทำ//
-----คุณตอบมาแบบนี้ ผมจะไปต่อยังไง??
------ทางทฤษฎีมันง่าย แต่ในการปฏิบัติโดยเฉพาะเข้าประจำการจริงๆ มันไม่ง่าย เพราะต้องเจอบททดสอบจริง
-------- สงสัยทำไม Sลryลซ-class submarine ทำไมใช้ V4-275R 4 (4x75 KW )แทนที่ใช้ 150kw X 2 แทน ทำไม ?
----และ Type 214 ใช้ 2 x HDW PEM fuel cell module BZM120 (120 kW x 2) ทำไมเยอรมัน ใช้ 120 kw ทำไม
เยอรมันบ้ากำลังหรอ???
---------ทุกอย่างมีเหต ที่เขาไม่ทำต้องมีเหต เช่นทำไม่ได้ ทำแล้วไม่ดี เป็นต้น
4.จาก//แสดงว่า ยังไม่เข้าใจระบบการทำงานของเครื่องยนต์สเตอร์ริงและวิธีการเพิ่มกำลังของเครื่องยนต์
อยากทราบไหมครับ จะได้อธิบายในคราวต่อไป
จะได้เข้าใจว่าระบบของจีนไม่ได้พัฒนาอะไรเลย แค่บ้าพลังเท่านั้น //
--------ยินดีครับ เชิญครับ แต่ต้องมีตัวอย่างประกอบน่ะครับ เช่นเคยทำกำลังมากกว่า 100 kW หรือ300kw มาแล้ว ขอรูปการใช้งานจริงใน รดน.ที่เข้าประจำการจริง
เพราะของแบบนี้
ทฤษฎีมันพูดง่าย
ต้นแบบยาก แต่ไม่มาก เมื่อเทียบกับ
เครื่องAIP จริงที่ใส่ใน รดนที่เข้าประจำการ และผ่านการทดสอบจริง นี่ถึงเรียกว่าทำสำเร็จ
-----------กระทู้นี้ เราไม่มาคุยเรื่อง ทฤษฎี เราพูดถึงของจริงที่ใช้งานจริงเท่านั้น
---------ทร.เลือกเพราะของจริง คงไม่มาดูทฤษฎีหรอก
5.MHD propulsion
เจ้าภาพหลักที่ทำวิจัยคือ
711 research institute of the China Ship Scientific Research Center
มีการแบ่งงานวิจัย ให้กับสถาบันอื่นๆ อีกหลายที่ มีข้อมูลเปิดเผย ตามรูปที่ลงไป และผลงานวิจัยตีพิมพ์ เช่น
สำหรับรดน. ใช้กระแส 400A ให้กำลังขับ 353N หรือ 257W
Experimental Study on Superconducting Helical Channel MHD Thruste
http://enu.kz/repository/2011/AIAA-2011-3590.pdf
http://iee.ac.cn/Website/index.php?ChannelID=1623
http://www.maglev.ir/eng/documents/papers/conferences/maglev2002/topic7/IMT_CP_M2002_T7_S4_1.pdf
คลิปการทำงานแบบง่ายๆ
https://www.youtube.com/watch?v=LVOvIAAWXIA
ข่าวงานวิจัย รดนจีน
http://mil.news.sina.com.cn/2013-01-17/0909712927.html
http://club.kdnet.net/dispbbs.asp?id=9481056&boardid=1
อ้างจากGerman Naval Science and Technology magazine บอกว่า เยอรมัน และ us เป็นผู้นำด้านนี้ แต่ไม่เกิน4 ปี จีนจะนำ
ตามทฤษฎี และเสียงที่เกิดจากการทดสอบ ระบบตามรูป คห.บนนั้นไม่มีเสียงจากระบบขับเคลื่อนเลย(ไม่มีกลไกอะไรเคลื่อนที่) หรือ zero noise ระบบนี้จะทำให้ รดน ทำความเร็วใต้น้ำสูงกว่าเดิมมาก ดำได้ลึกขึ้น รวมถึง maneuverability สูง คาดว่าภายใน5ปี จะติดตั้งกับ รดนจริง ถ้าทำได้จะเป็นประเทศแรก
รูปการเข้าประจำการ รดน 039a/b ข้อมูลปี2013
เรื่อง AIP กับบ้าพลังผมว่าคุณ hongse_c ผิดประเด็นไปแล้วนะครับ
คุณ evill บอกว่าเครื่องเสตอร์ลิงของสวีเดนไม่รีดกำลังเกิน 75kw เพราะไม่บ้าพลัง ส่วนจีนใช้เครื่องสเตอร์ลิงที่พัฒนามาจากสวีเดนรีดกำลังออกมามากว่าเพราะบ้าพลัง
คุณ hongse_c บอกว่าอย่างนั้นเยอรมันก็บ้าพลังสิเพราะใช้ AIP เครื่องนึง 120kw
เรื่องของเรื่องคือของเยอรมันมันไม่ใช่ sterling engine ไงครับ แต่เป็น fuelcell ซึ่งวิธีเพิ่มกำลังไม่เหมือนกันกับ sterling engine (ซึ่งเป็นยังไงก็ให้คุณ evill มาอธิบายอีกทีเพราะผมก็ไม่รู้ ฮา)
การเพิ่มกำลัง SEAIP ต้องเพิ่มขนาดน้ำหนัก จะมีปัญหาเรื่องความร้อน และเสียงจะตามมา มันจึงยาก
คลิปเปรียบเทียบ
https://www.youtube.com/watch?v=tze6zgrRJKM
ดังนั้นถ้าใครบอกว่า เพิ่มกำลัง SEAIP เป็นเรื่องทำง่าย แต่ไม่ทำ เพราะไม่บ้ากำลัง ควรเอาของจริงมาให้ดูว่าทำได้จริงไหมครับ ที่ติดตั้งในรดน
และ
Gotland-class AIP 14 days ที่ 5 knots
A26 aip 14 days ที่ ความเร็วไม่ระบุ
https://en.wikipedia.org/wiki/A26_submarine
***เรื่องเรือเยอรมันใช้ FCAIP แค่เปรียบเฉยๆ ไม่ใช่ประเด็นครับ
1.ผมไม่ได้ถาม MESMA ครับ
----ถามว่า 27E AIP มีใช้จริงหรือยัง (เอาที่เข้าประจำการ)? จากข่าว lada ลำแรก และลำเดียวยังมีปัญหาที่ AIP อยู่เลย
... ข่าวไหนที่ว่ามีปัญหาครับ ขอ link จากทางฝั่งรัสเซียหน่อยครับ
เพราะเรือ St. Petersburg ที่ใช้นั้นยังอยู่ในช่วงทดสอบเรือและปรับแต่งประสิทธิภาพของระบบอยู่เลย
และถ้าอ่านตอนแรก ผมก็บอกชัดเจนนะครับว่าชั้น Amur class ที่เป็นรุ่นส่งออก ซึ่งยังไม่มีใครสั่งเลย
2.จาก /เรือจีนพอจะระบุเรือที่ติดตั้งได้ไหมครับ เผื่ออยากจะทราบครับ /
ตัวเลข ณ.ปัจจุบันที่เข้าประจำการ
(CCD) (gen1) AIP 039a 4ลำแรก
SEAIP (gen2) 039B ลำที่ 5-14 รวม10ลำ
SEAIP (gen3) 039C 2 ลำ
SEAIP (gen3) Qing-class 6,628 tonnes (submerged) 1ลำ
.... ระบุว่าลำไหนครับ ไม่ใช่จำนวน ผมว่าก็ถามชัดเจนนะว่าให้ระบุเรือ .... เหมือนอย่างที่ผมระบุว่าเรือลำไหนชื่ออะไร ไม่ต้องทั้งหมดก็ได้ครับ....
..................
จากที่พยาม Capture youtube มาให้ดูแสดงว่าเริ่มจะเข้าใจแล้วนิครับว่า กำลังของเครื่องขึ้นอยู่กับขนาดและความร้อน (หรือยังไม่เข้าใจหว่า)
โดยเฉพาะความร้อนนั่นละครับ ถ้าอยากได้กำลังเพิ่มก็อัดความร้อนเพิ่มเข้าไป และนั่นคือสาเหตุที่ทำไมจีนถึงมาใช้ liquid fule เพราะแค่ต้องการความร้อนที่สูงขึ้น
(หากเคยเล่น โปรเจคจบของเด็กวิศวะ แล้วจะเข้าใจในความแตกต่างเรื่องความร้อนส่งผลต่อกำลังที่ใช้)
แต่สวีเดนไม่นิยมทำเป็ดปักกิ่งครับ จะอัดความร้อนเพิ่ม ก็ต้องเพิ่มระบบทำความเย็นอีก เอาแค่การเผาไหม้ที่สมบูรณ์ และรักษาสภาพแวดล้อมภายในตัวเรือไม่ให้เป็นเตาอบเป็ดดีกว่า
ยิ่งพื้นที่ในตัวเรือแค่ 1600 ตัน พื้นที่แคบๆ จะเผาเครื่องให้ร้อนขึ้นไปก็ส่งผลกระทบต่อลูกเรือเปล่าๆ
ผมถึงบอกว่า จีนก็แค่บ้าพลัง ต้องการความร้อนที่สูงขึ้น เพื่อเพิ่มกำลังให้มากขึ้น
............
ซึ่งก็ต้องกลับมามองที่ไทยจะได้ ต้องถามกลับไปว่าจะใช้อะไรเป็นเชื้อเพลิงร่วม เพราะฮีเลียมหรือเชื้อเพลิงเหลว ไทยผลิตได้หรือเปล่า หรือต้องคอยซื้อจากจีนอีก
แล้วถ้าจะเปลี่ยนมาเป็นใช้ก๊าซธรรมชาติที่เราผลิตเองได้ไหม จะได้สะดวกเรา
...........
ว่าแต่ เอา A19 กับ A26 มาบอกระยะเวลาการดำน้ำทำไมครับ
คือ จะเอาเรือขนาดเล็กกว่าที่สามารถบรรทุกเชื้อเพลิงได้น้อยกว่ามาเที่ยบหรือครับ
ทำไม่ไม่เอา Soryu class ขนาดไกล้เคียงกัน (2900 ตัน) มาเที่ยบละครับ
เชี่ยวชาญงานจีนๆคงมีแค่ท่าน hongse_c
จีนสร้างจีนใช้ ...แค่นี้ก็มั่นใจแล้วว่า..ใช้ใด้ดีเป็นของใหม่ และทันสมัย
พอเอา S-26 มาเทียบกับ U-206a กับความคิดเห็นย้อนหลังต่างๆแล้ว...
เป็นเรื่องที่จะต้องอึ้งเอามากๆ ระหว่างเทคโนโลยีปัจจุบันในอนาคตและ ย้อนหลังไป40ปี
.........? ว่าแต่ท่าน น่าคิด ไปทัวประเทศใหนหว่าไม่เห็นนาน ท่านกบ ก็กลับมาแล้ว หึหึๆ
ไทยมากๆเลยอะครับ ไหนว่าไม่พูดทฤษฎีไงอะ "กระทู้นี้ เราไม่มาคุยเรื่อง ทฤษฎี เราพูดถึงของจริงที่ใช้งานจริงเท่านั้น" พาวเวอร์พอยท์ ชาร์ทต่างๆ ที่แปะมาไม่ค่อยทฤษฎีเลยนะครับ ผมไม่เห็นอันไหนมันเป็นเป็นชาร์ททางสถิติเลยครับ จะของจริงก็ตัวเลขแปะข้างเครื่องอะมั่งนะ ถ้าจะพูดแต่ของจริง ผมก็ไม่เคยเห็นคลิปเครื่องจีนแอมมิเตอร์เข็มมันกระดิกให้ดูด้วยจิ ผมว่าของจีนวัตต์เทียมก็ได้ดิครับผมไม่เคยเห็นของจริง ฮาๆ
มา Stirling กันบ้าง ออกตัวก่อนนะครับไม่มีความรู้เรื่อง Stirling ไม่เคยทำจริงและไม่เคยเห็นของจริงแต่ผมพูดตามทฤษฎี(ผมไม่เชื่อว่าจีนเค้าจะเปิด AIP ของจริงให้ดูทุกซอกทุกมุมหลอก เค้าก็คุยกันทางเทคนิคและทฤษฎีทั้งนั้นแหละครับ ทร.เค้าเรียนสายวิศวะนะครับ เค้าเข้าใจได้ และเข้าใจตรงกันครับ ไม่ต้องรอ จะต้องมาดูแต่ของจริงแล้วถึงจะรู้เรื่องอะครับ ไทยมากๆ) เครื่องยนต์ปกติเค้าจะบอก"กำลังเครื่องยนต์"กันที่กำลังสูงสุด@ในช่วงรอบเครื่องยนต์ใช้งานนะครับ ตัวอย่างง่ายๆก็สมมุติเครื่องรถยนต์ ก็จะเขียน แรงม้าเครื่องเป็นกำลัง 300 hp @ 8000 rpm มันไม่ได้แปลว่าไม่ให้ผมอัดน้ำมันเข้าไปจนรอบเกินหมื่น แล้วเครื่องยนต์ผมจะมีแรงม้าเป็น 500 hp ไม่ได้นะครับ แต่อย่างที่รู้ๆเพื่อให้อยู่ในอายุการใช้งานตามปกติ ตัวรถและอุปกรณ์ที่รองรับเครื่องยนต์ในรถโรงงานส่วนใหญ่ทำได้ประมาณรอบ 500 ถึงไม่เกิน 10000 rpm ไม่ก็โดนบล็อกจากอุปกรณ์ ง่ายๆก็กันมันพังอะครับ ค่ายรถมันเลยบอกได้แค่ว่าเครื่องแรง 300 hp แต่ถ้าผมเอาเครื่องตัวเดียวกันมาปรับโน่นถอดนี้ใส่ดันร่างจีนเข้าไป จนได้ 500 hp @ 13000 rpm คิดว่าผมเก่งไหมอะครับ อัจฉริยะข้ามคืนเลย(เหมือน GDP ไทยปีนี้เลย) ค่ายรถใหญ่ยังทำไม่ได้เลยนะครับเนี้ย นี้รถนะครับ ถ้ารถตายบนถนนไม่มีใครตายอะครับ ผมกล้าพนัน 10 เอา 1 เลย ว่า AIP จีนไม่มีชาร์ท hp ต่อ rpm ที่เกิดจากการวัดค่าจริงของเครื่องยนต์(ง่ายๆก็ชาร์ทหรือคลิปเข็มแอมป์ กระดิก กะเข็มรอบกระดิกอะ)ออกมาให้เห็นแน่นอน และที่แรงม้าสูงสุดของเครื่องจีน รอบเป็น rpm มากกว่าชาวบ้านที่กำลังน้อยกว่าแน่นอนผมกล้าพนัน 10 เอา 1 อีกตามเคย จะบอกว่าเครื่องยนต์อะไรดีกว่าอะไร โอ้บอกได้เลยว่ายากมากแต่ที่ชาวโลกเค้าดูกันแบบปกติ เค้าดูความน่าเชื่อถือครับผม รอจีนเค้าหาคนขายของให้มาก๊อปรุ่นใหม่ๆดีกว่าไหมครับ
ผม มีคำถามเด็กน้อยข้างบ้านมาถามนะครับ เรือติดเครื่อง 500 แรง วิ่งเร็ว 50 ถ้าเรือนี้เปลี่ยนเครื่องเป็น 1000 แรง มันจะวิ่งได้ 100 ไหมครับ
คุณ poptmon ใจร่มๆ ครับ เดี๋ยวอุณหภูมิจะเดือดไป อย่าด่าว่ากันเลยครับ วิจารณ์ไอเดียได้เต็มที่แต่อย่าโจมตีบุคคลเลยครับ
ส่วนตัวเชื่อว่าระบบ Stirling ของจีนมีประสิทธิภาพพอสมควร ตรงนั้นไม่ใช่ปัญหาครับ
จีนทำ จีนใช้ แน่ล่ะ มันก้ต้องทำให้ดีที่สุดเท่าที่เทคโนฯของจีนมี แล้วก้ทำได้ดีเสียด้วย
แต่ปัญหาที่ผมสงสัยคือ เรือส.ที่ไทยสั่งนั้น มีประสิทธิภาพเทียบเท่า 039A หรือไม่
มีความเป็นไปได้มากน้อยเพียงไร ที่เรือส.ไทย จะไม่ใช่รุ่นลดสเปก หรือรุ่นส่งออก
ในกรณีที่เรือส.ใช้ระบบจีนทั้งหมด (ซึ่งมีโอกาสสูงมากที่จะเป็นระบบจีนทั้งหมด)
เพราะการที่ ผบ.ทร. แถลงบอกว่าเรือที่เราสั่งนั้น เป็นรุ่นเดียวกับที่ใช้งานในกองทัพเรือจีน
ทำให้หลายคนเข้าใจว่า มันไม่ใช่รุ่นส่งออก แต่มันคือ 039A ที่สร้างให้ไทยโดยเฉพาะ
ทั้งนี้ที่ผ่านมา ระบบอาวุธจีนที่ใช้งานเองในกองทัพนั้น มีประสิทธิภาพเหนือกว่ารุ่นส่งออกเกือบทุกชนิด
ซึ่งก้น่าจะรวมถึงเรือส. ที่ไทยจัดซื้อในครั้งนี้ด้วย
เรียน คุณ evil
จากข้อความคุณ hong_c การระบุแค่จำนวนเรือ โดยที่ไม่ได้ระบุหมายเลขเรือ ก็คงจะเพียงพอ คือ ผมไม่เข้าใจว่า ถ้าระบุหมายเลขเรือแล้ว จะเป็นยังไงต่อ ?
ตามความเข้าใจของผม ถึงแม้ว่าเราจะซื้อ รดน. จากที่อื่น อุปกรณ์ เครื่องควบต่างๆ คงต้องนำเข้า ไม่เฉพาะจากจีน (ซื้อ รดน.สวีเดน หรือเยอรมัน บางที part ก็มาจากจีน?) เรื่องนี้ ผมคิดว่าไม่ใช่ประเด็น
การบอกระยะเวลาการดำน้ำของเรือ A19, A26 คงเพราะเป็นหนึ่งในตัวเลือกที่ถูกนำเสนอ
แต่ชั้น Soryu ไม่ได้มาเสนอ จึงไม่ต้องมาเปรียบเทียบครับ
ดีครับที่มาถก มาคุยกัน ท่านอื่น อย่างเช่น ตัวผมเอง จะได้มีความรู้เเพิ่มมากขึ้น
ขอบคุณครับ
ตอบคุณ ped
ที่ให้ระบุชื่อเรือไปเลยเพื่อให้สามารถตรวจสอบได้เลยว่ามีจริง เพราะแค่ตัวเลขมันสามารถบลัฟกันได้
ถึงแม้ก็รู้อยู่ว่าเรือจีนมีมาก ยอมวางระบบได้มากกว่า
ส่วนเรือจีนกับสวีเดนนั้นถ้าว่ากันเรื่องระบบ คงไม่เท่าไร แต่พยายามเทียบว่า
ดูสิ เรือสวีเดนดำได้น้อยกว่าเรือจีนเห็นไหม เรือจีน 21 วัน เรือสวีเดน 14 วันเอง อย่างนั้นคงไม่ถูก
ผมเคยบอกแล้วว่าระยะเวลาขึ้นอยู่กับเชื้อเพลิงที่มีใช้ ไม่ใช่ที่ระบบเครื่อง
เลยบอกให้เอาเรือที่ไกล้เคียงกัน มีระวางและขนาดถังบรรจุไกล้เคียงกัน มาเทียบกัน ดูจะสมเหตุสมผลมากกว่าครับ
คือจะชูอะไรก็ดูตัวแปรอื่นด้วยครับ.......
และ
AIP จีนทดลองมานานแล้ว --> ซือ AIP สวีเดน --> เอามาทำได่ 110kw --> ใช้เชื้อเพลิงเป็น liquid fule --> กำลังของเครื่องขึ้นอยู่กับขนาดและตวามร้อนที่ใช้ --> S26T
เห็นอะไร ทุกอย่างมันเชื่อมโยงกันไหม ผมถึงบอกว่าไม่ได้ไปไกลกว่ากัน ไม่ได้พัฒนาอะไรใหม่เลย แค่ใหญ่ขึ้นร้อนมากขึ้น แค่นั้นเอง
และยังชึ้ไปด้วยว่า ทำไมถึงได้ S20 ขยายส่วนมา ที่ระวางเพิ่มขึ้น 600 ตัน
ส่วนเรือง เรือที่ใช้จริงลงน่ำแล้วมีการวางระบบและอยู่ในช่วงทดลองทดสอบปรับแต่ง ในช่วง 2 ปีโดยประมาณ ซึ่งก็น่าจะทราบกันดี
แต่กลับบอกว่า ไม่เอา ไม่นับ ไม่ใช่ของจริง .... เออ... แล้วจะเอามาใส่ในเรือจริงทำไม ถ้ายังเครื่องต้นแบบไม่เสร็จ เรือลำหนึ่งมันแพงนา
จะชูหาง มันก็มากไปนิดหนึ่ง ทั้งที่จริงก็ไม่ได้ไปไหนเลย ... ไปไกลจริงๆ
ประเด็นที่ว่าระยะเวลาการดำที่นานขึ้นเป็นผลมาจากที่มีความจุเชื้อเพลิงมากนี่ล่ะครับที่เป็นอะไรที่ทำให้หลายๆอย่างอึมครึม มากกกกกก. สำหรับเรือ ส จีน. ที่ยังไม่รู้ว่าตกลงมันคือหยวนหรือ s26.
ปกติการออกแบบอุปกรณ์ใดๆ เป้าหมายสำคัญอย่างหนึ่งในการออกแบบคือ. Optimization (แปลแบบบ้านๆน่าจะใด้ว่า "พอเหมาะพอดี" ในกรณีของเรือดำน้ำ มันน่าจะเป็นความพอเหมาะพอดี ในเรื่อง
ขนาดที่เหมาะสมกับน่านน้ำไทย. ซึ่ง ทร ประมาณไว้ที 1600-2000 ตัน
ระดับเสียงในขณะเดินทางใต้นำ้
ความเร็วเดินทางปกติขณะดำ ที่ยังสามารถคงระดับความเงียบ เอาไว้ใด้
ถ้าเทียบที่เรือแพลตฟอร์มเดียวกันการอัดเชื้อเพลิงไปมากๆ อาจทำให้ดำใด้นานขึ้นแต่ก็เพิ่มขนาดของเรือ ซึ่งจะลดความคล่องตัวและความเร็วเดินทาง
ผมจึงว่าการเอา หยวน มาแปลง ให้เป็น s20 หรือ s26. มันไม่ใช่เอาขึ้นบัญญัติไตรยางค์แล้วมีสูตรออกมาตายตัว แน่ๆ. ก็เลยหวั่นๆอยู่ว่ามันจะมีสเปก หรือ จะออกมาด้วย performance ยังไงบ้าง. ถ้าดำให้21 วัน ที่ความเร็ว 2 knot. นี่มัน ok. หรือเปล่า
เข้าใจครับ ขอบคุณที่ชี้แนะ
ส่วนตัวพอจับใจความได้ดังนี้ว่า
-จีนสร้างAIP สเตอริ่่งให้กำลังม้ามากกว่าต้นแบบจากสวีเดน ในขณะที่สวีเดน ญี่ปุ่นยังใช้4เครื่อง
-สวีเดน ญี่ปุ่น ยังใช้สเตอริ่ง4เครื่อง ให้กำลังม้าน้อยกว่า
แต่ญี่ปุ่นที่เป็นผู้นำใช้สเตอริ่งต้นแบบจากสวีเดน ปัจจุบันเป็น 4V-275R MkIII แรงม้ายังเท่าๆกับต้นแบบ แต่เพิ่มประสิทธิภาพในการใช้เชื้อเพลิงให้น้อยลง เสียงเงียบขึ้น
แต่เรือชั้น ซอร์ยู ทั้งหมดจะได้รับการเปลี่ยนไปใช้แบตแบบลิเทียมทั้งหมด โดยใช้เครื่องสเตอริ่งชาร์จไฟเข้าแบตลิเทียมที่ถูกออกแบบให้ใช้เวลาชาร์จไฟได้สั้นลง ฉะนั้นกำลังขับเคลื่อนใต้น้ำหลักจะเป็นมอเตอร์
และภายในปี2020เรือดำน้ำญี่ปุ่นจะใช้AIPแบบFuel cell ตามแบบเยอรมัน รวมถึงแบตลิเทียม ด้วยเช่นกัน
ผมคิดว่า เรื่องระบบ AIP ของใครดีกว่ากัน ผมคิดว่าเป็นเรื่องสำคัญน้อยครับ เพราะต้องดูหลายๆอย่างประกอบกันโดยเฉพาะแบบจำลองสถานการณ์ของ ทร. ว่าเรือดำน้ำจะต้องใช้อย่างไร เช่น
* ระยะปฏิบัติการไกลออกจากเขตน่านไทยหรือไม่ และไกลเท่าไหร่ ซึ่งต้องรวมเวลา ขาไป ขากลับ ระยะเวลากบดานในเขตข้าศึก และเวลาสำรองหากเกิดเหตุใดๆต้องขยายเวลาปฏิบัติการ ถ้าตีว่าระยะสัก 200 กิโลเมตร จากน่านน้ำไทย ระยะเวลาดำนาน 14 วันพอไหม ถ้าไม่พอ เรือดำน้ำนั้นก็ถูกตัดจากการพิจารณา
* ขีดความสามารถทางเรือข้าศึกทั้งเรือผิวน้ำ ใต้น้ำ มีมากแค่ไหน ผมคิดว่าถ้าผิวน้ำ ไทยยังพอไหว แต่ใต้น้ำสู้ลำบาก โดยเฉพาะเรือดำน้ำบางประเทศยิงจรวดโจมตีเรือจากใต้น้ำได้ ในระยะ 100 กว่ากิโลเมตร ทำให้เราต้องหาเรือดำน้ำที่ปฏิบัติการได้ไกลออกไปจากฝั่ง อย่างน้อยเท่ากับระยะยิงของฝ่ายข้าศึก เคยมีภาพ promote บางประเทศเอาภาพเรือจักรีเป็นภาพประกอบ
* ระยะโจมตีที่ ทร. คาดหวัง การที่ เลือก S26T แสดงว่า ทร. ต้องการต่อระยะโจมตีมากกว่าระยะตอปิโด คือ ขยายระยะไปถึง มากกว่า 100 กิโลเมตร ขึ้นไป เพื่อกดดันเรือผิวน้ำฝ่ายข้าศึกให้ไม่กล้าเข้ามาในเขตใช้อาวุธกับเรือผิวน้ำของไทยได้ เพราะดูจากจำนวนเรือรบ และประสิทธิภาพเรือผิวน้ำในอนาคตไทยยังเป็นรองอยู่มากและยากที่จะพัฒนาได้ทัน เรือดำน้ำติดจรวดต่อต้านเรือผิวน้ำจึงเป็นคำตอบที่ดีที่สุด วึ่งตรงนี้น่าเสียดายเรือของสวีเดนทำไม่ได้
* ขนาดเรือที่ต้องการ ถ้า ทร. ต้องการปฏิบัติการใกล้ฝั่งมากๆ น้ำตื้น เรือขนาดใหญ่ 2000 ตัน คงไม่ใช่ตัวเลือก นี่ ทร. เปลี่ยนจากเรือขนาดเล็ก เช่น U206 มาเป็นขนาดใหญ่ S26T น่าจะตอบคำถามได้ว่า ทร. ต้องการรบทำอะไร ที่ไหน
ที่น่าห่วงจริงๆ คงเป็นเรื่อง ความปลอดภัยในการใช้งานมากกว่า ซึ่ง ทร. คงมีวิธีแก้ไขให้ทางจีนสร้างเรือให้ได้มาตรฐานความปลอดภัย สุดท้ายเรือ S26T ด้วยเทคโนโลยีปัจจุบันคงทำให้สร้างเรือใช้งานปลอดภัยกว่าเรือดำน้ำของไทยสมัยสงครามโลกที่รุ่นปู่เราเคยใช้อย่างปลอดภัยมาแล้วแน่นอน
1. lada ลำแรกลงน้ำ 2004 ที่เหลือยังไม่เสร็จ ยังไม่ทราบอีกหรือ ถ้าไม่มีปัญหา ต่อครบ 4 ลำไปแล้ว เชิญอ่าน
http://izvestia.ru/news/507580
https://russiamil.wordpress.com/tag/lada-submarine/
2 จาก //ระบุว่าลำไหนครับ ไม่ใช่จำนวน ผมว่าก็ถามชัดเจนนะว่าให้ระบุเรือ .... เหมือนอย่างที่ผมระบุว่าเรือลำไหนชื่ออะไร ไม่ต้องทั้งหมดก็ได้ครับ.//
+++ตามรูป มีชื่อชั้น หมายเลขเรือ ชื่อเรือ ขาดเพียงเบอรกัปตัน ครับ
ลงรูปให้ดูอีกที งง รูปข้างบน คอมคุณมองไม่เห็นหรือ
3. คุณยังไม่ได้ตอบอันนี้ครับ ช่วยตอบด้วยครับ แต่ถ้าตอบไม่ได้ก็ไม่เป็นไร แต่อย่าเบี่ยงประเด็น
จากที่ถาม ยกมา //------ยินดีครับ เชิญครับ แต่ต้องมีตัวอย่างประกอบน่ะครับ เช่นเคยทำกำลังมากกว่า 100 kW หรือ300kw มาแล้ว ขอรูปการใช้งานจริงใน รดน.ที่เข้าประจำการจริง
เพราะของแบบนี้
ทฤษฎีมันพูดง่าย
ต้นแบบยาก แต่ไม่มาก เมื่อเทียบกับ
เครื่องAIP จริงที่ใส่ใน รดนที่เข้าประจำการ และผ่านการทดสอบจริง นี่ถึงเรียกว่าทำสำเร็จ
-----------กระทู้นี้ เราไม่มาคุยเรื่อง ทฤษฎี เราพูดถึงของจริงที่ใช้งานจริงเท่านั้น
---------ทร.เลือกเพราะของจริง คงไม่มาดูทฤษฎีหรอก //////
-++++ถ้าไม่เข้าใจคำถาม ผมถามว่า ที่คุณบอกสวีเดนทำได้ นั้นช่วยเอารูป เอาข้อมูล พร้อมอ้างอิง seaip ที่300 kwเทียบเท่าจีน เอาที่ติดตั้งบนเรือ จริงๆครับ ติดตั้งบนเรือชั้นอะไร ??????????
ถ้าไม่มีรูปยืนยัน ก็แปลว่า ทำไม่ได้ ถูกไหม
ผมจะรอดูรูป และข้อมูลครับ
4 จาก //ว่าแต่ เอา A19 กับ A26 มาบอกระยะเวลาการดำน้ำทำไมครับ
คือ จะเอาเรือขนาดเล็กกว่าที่สามารถบรรทุกเชื้อเพลิงได้น้อยกว่ามาเที่ยบหรือครับ
ทำไม่ไม่เอา Soryu class ขนาดไกล้เคียงกัน (2900 ตัน) มาเที่ยบละครับ//
+++ถามแบบนี้แปลว่าไม่เข้าใจ ลืมแล้วหรือ เรือใหญกว่า หนักกว่า และแรงต้านก็มากกว่า แล้ว
เวลาสงคราม เขาไม่มาสนใครใหญ่ใครเล็ก เขาสนใครดำได้นานกว่ากัน ยิ่งดำนาน ก็ดำเนินกลยุทธได้ยืดหยุ่นกว่า แล้ว soyu ได้เท่าไร ครับ
5 คุณอ:potmon เข้าใจอะไรผิดหรือเปล่า ผมต้องการข้อมูลจริงๆ เพื่อยืนยัน ทฤษฎีใครๆก็รู้ แต่ที่ว่าทำได้ ไหนล่ะของจริง ถาม
++ถ้าไม่เข้าใจคำถาม ผมถามว่า ที่คุณบอกสวีเดนทำได้ นั้นช่วยเอารูป เอาข้อมูล พร้อมอ้างอิง seaip ที่300 kwเท่าของจีน เอาที่ติดตั้งบนเรือ จริงๆครับ ติดตั้งบนเรือชั้นอะไร ??????????
ทฤษฎีรู้แล้ว เอาของจริงมายืนยัน ถ้าไม่มี ก็แค่พวก .........ครับ
6 จาก //ส่วนเรือง เรือที่ใช้จริงลงน่ำแล้วมีการวางระบบและอยู่ในช่วงทดลองทดสอบปรับแต่ง ในช่วง 2 ปีโดยประมาณ ซึ่งก็น่าจะทราบกันดี แต่กลับบอกว่า ไม่เอา ไม่นับ ไม่ใช่ของจริง .... เออ... แล้วจะเอามาใส่ในเรือจริงทำไม ถ้ายังเครื่องต้นแบบไม่เสร็จ เรือลำหนึ่งมันแพงนา//
+++คุณจะบอกว่า ไม่มีเรือจริงที่ทดสอบ seaip เทียบเท่าจีนคือที่ 300kw ถูกไหม
งั้นเอารูป ข้อมูล ที่สวีเดนทดสอบ seaip 300kw มาให้ด้วยครับ หวังว่าคงมีน่ะครับ
เพราะถ้าไม่มี เหมือนคุณชูหาง มันมากเกินไปหนิดหนึ่งครับ มามั่วกับผมได้ไง
หวังว่ามีครับ
**แต่ถ้าคุณมี ผมขอถอนคำพูดครับ
7 ที่ผมคุยเรือง aip ก่อนเพราะมีหลายท่านสงสัย และได้ข้อมูลจากท่านสมช ท่านหนึ่งว่า การเพิ่มกำลัง และทำใหเงียบด้วยนั้นเป็นเรื่องง่าย ดังนั้นเพื่อเป็นประโยชนต่อ สมช ผมจึงขอข้อมูลว่า seaipสวีเดนที่มีกำลังเท่าจีนคือ 300kw นั้น ทำจริงหรือยัง หรือแค่คุย
ถ้าทำจริง ควรต้องเอารูป ข้อมูลมายืนยัน
ทำไมต้องขอ??
ถ้าผมไม่ขอ ต่อไป forum นี้ก็จะมีคนมีแต่คนมาเยาะเย้ย ข้อมูลของคนอื่น ว่าทำได้น่ะ แต่ไม่ทำ พิมมาลักษณะนี้พิมได้ แต่ต้องมีข้อมูลยืนยันครับ
อ่านจากเว็บ และข่าวที่เกี่ยวกับเรือดำน้ำครั้ง สรุปง่ายๆว่า กองเชียร์ส่วนใหญ่ต้องการให้มีเรือดำน้ำประจำการในกองทัพเรือไทย แต่ไม่อยากได้ของจีน
ผมสนับสนุนเวปนี้ ให้ความรู่เรื่องอาวุธจากการโพสและตอบกระทู้ การบังคับใช้กฏผ่านมาใช้ได้
การโพสในปัจจุบันในช่วงรบ.พิเศษ มีความบางเท่าที่สัมผัสส่วนตัว สมาชิกเก่าแก่ ที่เคยลงบท
ความเป็นประโยชน์ เก๋า เริ่ม จริงจัง ถ่ายทอดกระทบรุนแรงด้านการเมือง บางท่านแอทมินแข็งแรง
ลบโพสไป ด้วยเสียมิได้ แต่ก็ปรามหรือเพิกเฉยกับท่านที่ยังไม่ลดดีกรีพาดพิงการเมือง จนผมต้อง
ขอพื้นที่ออกมาสกิดบ้าง โปรดให้ความเคารพกับการตัดสินใจ ระดับประเทศของเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้อง
ถึงแม้เบื้องลึกจะมีการแทรกแซง การตัดสินใจในแต่ละเรื่อง มีที่มาไป คำตอบจะเป็นเครื่องแสดงผิดหรือถูก
ในการเลือก
ผมทราบดีเวปนี้ เป็นแหล่งหลักของท่านสมาชิกทั้งหลายที่มีองค์ความรู้เกี่ยวกับอาวุธสงคราม ไม่ว่าจะศึกษาเอง หรือเกี่ยวข้องโดยตรง
เข้ามาแสดงความคิดเห็น รวมถึงพวกใหม่เข้ามาศึกษาอ่าน ที่สำคัญแต่ละคน มีความชอบพรรคการเมืองในใจ ต่างกันไป ที่ชนะการเลือกตั้ง
ได้เป็นรัฐบาล(ผมไม่ได้เอ่ยถึงรบ.ไหนเลย) ฉะนั้น การขัดแย้งความคิด เรื่องการชอบพรรคการเมืองที่เป็นรบ.ได้จากเลือกตั้ง หรือ รบ.พิเศษ กับการอนุมัติเงินจ่าย จึงมีเสียงคัดค้านเห็นในหน้า/ข่าวทีวี/วิทยุ/นสพ. ส่วนใหญ่คัดค้าน (ยังไม่พบการทำข่าวสนับสนุน)(ข่าวสนับ
สนุนก็เห็นในสื่อแอพฯแต่สื่อหลักดูท่าที)
ผมว่า aip จีน 300w แค่นั้นครับ(300kw ที่ติดข้างกล่องผมว่าโม้) ผมต้องการข้อมูลจริงๆ เพื่อยืนยันครับ พาวเวอร์พอยท์ ใครๆก็เขียนได้แต่ที่ว่าทำได้ ไหนล่ะของจริง ถาม
++ถ้าไม่เข้าใจคำถาม ผมถามว่า ที่คุณบอกจีนทำได้ นั้นช่วยเอารูป เอาข้อมูล(ไม่เอาพาวเวอร์พอยท์ขี้โม้อะ) พร้อมอ้างอิงภาพ seaip ที่300 kw ของจีนในเรือจีนขณะเดินเรือ และเอาที่ติดตั้งบนเรือ จริงๆครับ ติดตั้งบนเรือชั้นอะไร ชื่ออะไร เก็บข้อมูลที่ไหน เวลาใด ขอรูปภาพ หรือวิดีโอ พร้อมชาร์ท ของ ทอร์ค รอบ และแอมป์ อ่อ ขอชาร์ทวัตต์ ด้วยนะครับ ??????????
ทฤษฎี(พาวเวอร์พอยท์ขี้โม้อะ)ผมบอกตรงให้ความรู้สึกเหมือนรายงานแลปครับ ไม่ใช่ผลบันทึกการทดลองจากแลป จะโม้อะไรก็โม้ได้ครับ จะมัวอะไรก็มั่วได้(ใครเรียนสายวิทย์น่าจะรู้นะครับความต่างของรายงานแลป กับบันทึกการทดลองแลป) รู้แล้ว เอาของจริงมายืนยัน ถ้าไม่มี ก็แค่พวก .........ครับ
ความเห็นผม รดน.ที่เป็นข่าวพูดคุยตอนนี้ ควรทำได้เลยในรบ.ชุดนี้ มองในภาครวม/อุปสรรค/ระยะเวลา เนื่องจากมีกองเรือ อาคารใหม่
ค่อนข้างพร้อม หรือ พร้อมมานานแล้ว ให้มีเรื่อได้ฝึก ชนิดเรือเป็นปัญหารด้านการเมือง และด้านสื่อ (โดยเฉพาะเวปนี้ตัวต้าน) ทำตอนนี้
ให้กองทัพเรือ จะได้ยิ่งใหญ่ไม่เบี้ยล่างใคร ทัพเรือที่เจียมตัวก็เพราะผลงานร่วมกับใครในสมัยก่อนหล่ะทำให้กองอื่นระแวง
อ่านข้อมูลจากหลายๆท่านมา
ผมเชื่อว่าจีนคงได้ประสบการณ์การใช้งาน AIP จากจำนวนการต่อเรือดำน้ำหลายๆลำเข้าประจำการจริง
ผมเชื่อว่าจีนน่าจะพัฒนา AIP ที่สามารถให้กำลังได้สูงกว่าตัวต้นแบบไปได้เยอะแล้ว
แต่ก็แอบกังวลว่าการที่เครื่องยนต์ AIP มีกำลังสูงขึ้นเมื่อติดตั้งกับเรือ
จะมีปัญหาเรื่องความร้อนและความสั่นสะเทือนหรือไม่?
เพราะตัวแปรเหล่านี้จะเป็นตัวบ่งบอกความเงียบและสภาพแวดล้อมภายในเรือขณะปฎิบัติงาน
เรื่องเชื้อเพลิงอื่นๆที่ต้องโหลดลงเรือไปด้วยเพื่อใช้กับ AIP ผมว่า ทร.ไม่น่ามีปัญหา
อีกข้อคืออยากรู้ความเป็นอยู่ภายในเรือS-26Tว่าสภาพแวดล้อมการทำงานมาตรฐานจะเป็นอย่างไรเมื่อเทียบกับคู่แข่งอื่นๆ?
ดูจากวีดีโอความเป็นอยู่ของเรือชั้นMingแล้วก็กังวลเหมือสมาชิกท่านหนึ่งเคยติงไว้ไม่อยากให้เป็นแบบนั้น
และspecที่ว่ายิงASMได้นั้นอยู่ในpackageนี้ด้วยจริงหรือไม่เป็นแบบใด?
ตอปิโดอีกตกลงให้แบบไหนมา?
เรื่องระบบอาวุธคาดว่าคงไม่พ้นระบบของจีนแน่นอนไม่มีที่อื่นปน
ตัวผมเองไม่มีความรู้ด้านนี้แม้แต่น้อยได้แต่นั่งอ่านความรู้ที่เพื่อนสมาชิกเอามาให้อ่าน
ในส่วนตัวผมเชียร์เรือจากรัสเซียมากกว่า อาเมอร์950 แต่ถ้ามันจะลงที่หยวนก็หยวนครับ
หวังว่าถ้าได้มาแล้วผู้ขายจะทำให้เรือมีประสิทธิภาพเป็นที่น่าพอใจของผู้ใช้และดูแลเรื่องอะไหล่
การซ่อมบำรุงไม่ให้ขาดนะครับ
ส่วนเรื่องการใช้คำพูดในเชิงดูถูกเย้ยหยันสำหรับสมาชิกบางท่านให้เพลาๆลงบ้างครับ เราควรเอาเหตุผลข้อเท็จจริงมาคุยกันมากกว่าครับ การจะยกตัวอย่างหรือเปรียบเทียบก็ให้อยู่ในความเป็นจริงไม่ใช่เอา100หารหรือเอา100คูณ
แวะเอารูป โมเดล ที่น่าจะเป็น เรือดำน้ำ รุ่นล่าสุดของ สิงคโปร์มาฝากครับ type 218SG
เป็นโมเดลเรือดำน้ำที่แสดงในงาน IMDEX Asia 2015
Credit picture and DATA from http://errymath.blogspot.com/2015/05/type-218sg-submarines.html#.VZv2pXQVhyc
~~At this year's IMDEX Asia exhibition, TKMS Germany provided some technical details of new conventional submarines Type 218SG for Singapore Navy.
Type 218SG will have a length of 70 meters and a width of 6.3 meters. Displacement at the surface will be 2,000 tons, a total of 28 officers and sailors needed. Estimated speed and range are still unknown.
The unit will be designed to carry heavy torpedoes and fired cruise missiles. Torpedo tubes will also be used for landing troops and deep sea submersible vehicles for special forces.
Type 218SG will have eight 533-mm torpedo tubes, equipped with AIP and used X-shaped tail rudder. The contract value is estimated exceed 1 billion euros.
จะเห็นว่าราคาแพงกว่า เรือจีนแต่ก็ใกล้เคียงเรือจากตะวันตกอื่นๆ แต่ระวางขับน้ำ ใกล้เคียง เรือS26T ที่กองทัพเรือเลือกมาก
ของเรา ตกลำล่ะ 11,000 ล้านบาท ของสิงคโปรลำล่ะ 19,000 ล้านบาท
แสดงว่าลำใหญ่กว่า dolphin ไปอีกขั้น เพราะdolphin ตอนดำระวาง 2,300 ตัน แต่ลำตัวเรือกว้างแค่ 6.3 เมตร เพราะเป็น ลำตัวเรือแบบชั้นเดียว mono hull แพนหางรูปเอกซ์ เน้นความคล่องตัวในน้ำตื้น แต่เรือเขาใช้ลูกเรือแค่ 28 คน แต่ของจีนใช้ 58 คน ดังนั้น เรือน่าจะมีระบบอัตโนมัติ มาควบคุมมากกว่า เรือจีน และพื้นที่ก็น่าจะเหลือสำหรับลูกเรือหรือเชื้อเพลิง มากกว่าด้วย เพราะลูกเรือหายไปตั้งสามสิบคน ระยะเวลาปฏิบัติการก็น่าจะนานขึ้น
เป็นประเทศที่ผม อิจฉาทุกครั้งที่เขาจัดหาอาวุธจริงๆ
Type 218SG ด้านหน้า
ด้านข้าง
ด้านท้าย
อีกอย่างครับถ้าเรือดำน้ำใช้ระบบ AIP ของจีนที่มีกำลังแค่หลักร้อยวัตส์จริงอย่างท่านว่าผมว่าแค่เปิดไฟในเรือดำน้ำทั้งลำก็ดับแล้วล่ะมั้ง ไม่ต้องดำหรอกหรือถ้า AIP มีกำลังหลักร้อยวัตส์จริงสงสัยต้องติดตั้งถึง100ตัวเลยมั้งถึงจะได้300กิโลวัตส์ อีกอย่างผมอ่านมาจากเพจของคุณ aag_th เรืิอชั้นหยวนเดินทางจากจีนไปปากีสถาน อันนี้น่าจะยืนยันได้ว่า AIP เขาน่าจะมีประสิทธิภาพใช้ได้เลยที่เดียวขนาดอินเดียยังไม่รู้เลยว่ามาได้ยังไง(อ่านมาจากเพจคุณ aag_th)
กำลังไฟ 300 w. ในชีวิตจริงนี่เทียบใด้กับพัดลมตั้งโต๊ะ 1 (แก้ไข ) 10 ตัวนะครับ เตารีด 1 ตัวก็กินไฟ 700 -1000 w แล้ว พิมพ์ผิดหรือเปล่าครับคุณ. Patmon
ตกลง คนที่ต้านนี่ มันเกี่ยวกับ พรรคการเมือง ตรงไหนครับ...อ่านแล้วไม่พยายามทำความเข้าใจ...ก็วนเวียน วกวน ไปในเรื่องการเมือง ที่ไม่ได้เกี่ยวข้อง กับ เหตุผล ที่คนคัดค้าน เขาเสนอเลย...
คนที่คัดค้าน เขาที่ว่า การคัดเลือกครั้งนี้ มันเกี่ยวพันกับ ผลประโยชน์ส่วนบุคคล หรือ กลุ่มคน มากกว่า ความจำเป็นที่เร่งรีบ ไงล่ะครับ...มันถึงไปต้องไปผูกความเห็นทางอำนาจการเมืองในขณะนี้..
ถามจริง ๆ เถอะครับ...โครงการ เรือดำน้ำจีน เนี่ย...ไม่มีใครคิดว่า ทร. จะจัดหาได้ในช่วงนี้หรอกครับ...มันไม่เหมาะสมทั้งใน ช่วงระยะเวลา และสภาวะการเมืองของประเทศไทย...ใคร ๆ ก็เขาก็มองว่า...ถ้า ทร. จะมีเรือดำน้ำ มันต้องผ่านสถานะการณ์ในช่วงนี้ไปก่อนทั้งนั้น...เพราะในขณะนี้ มันปราศจากการตรวจสอบ...ความโปร่งใส...ความมั่นใจที่ออกข่าวกันมานั้น...มันมาจากกลุ่มบุคคล ที่เอื้อกัน โดยไม่มีกลุ่มบุคคลอื่น สามารถตรวจสอบได้...
และคนที่คัดค้านบางท่าน รวมถึงผม ก็มองว่า กองทัพเรือ จะเปลี้ย หรือ จะลดความน่าเกรงขามลงใน อนาคต...ไม่ได้ดูน่าเกรงขาม หรือ ชาวบ้านจะเกรงใจในอนาคต...จากการที่ เอา เรือดำน้ำจีน...ที่คนส่วนหนึ่งไม่มีความเชื่อถือ มาประจำการในวงเงิน 36,000 ล้านบาท...เป็น เรือดำน้ำจีน ที่อยู่แต่ในเศษกระดาษ จาก บริษัทฯ ที่ยังไม่มีประสบการณ์ขายเรือดำน้ำให้ประเทศไหนเลย....
ผลกระทบจาก งบประมาณเรือดำน้ำ และต้องชำระเป็นระยะเวลานานกว่า 10 ปี จะส่งผลต่อโครงการอื่น ๆ ในอนาคตของ กองทัพเรือ ที่กำลังจะหมดอายุ และความจำเป็นไม่แพ้กัน...โดยเฉพาะสิ่งที่น่ากังวล คือ ความไม่แน่นอน ในเรื่องปัญหาของเรือดำน้ำ จากบริษัทฯ ที่ไม่มีประสบการณ์ จะส่งผลกระทบกับ ค่าใช้จ่ายตลอดอายุใช้งานอย่างไร...กองทัพเรือ มีคำตอบหรือไม่ ?
ปัจจุบัน ระบบอาวุธจากประเทศจีน...ทร. ต้องจัดหาอะไหล่ มาสำรองในคลัง ทร.น่าจะมีข้อมูลอยู่ไม่ใช่เหรอ ? เพราะอะไร ทร. ถึงต้องจัดหาอะไหล่ มาสำรองในระยะเวลาอันเร็วล่ะ...มันใช่ เหตุผล ของ อาวุธบางส่วนแสดงความไม่น่าเชื่อถือ หรือไม่ ? หรือตัวอย่าง C-802A อุปกรณ์ตรวจจับบางตัว ในระยะ 5-6 ปี ก็ต้องซื้ออะไหล่มาเปลี่ยนและสำรองแล้วใช่หรือไม่ ซึ่งเป็นวงรอบของอาวุธ ที่ผู้ผลิตเอง ก็บอกมา...แล้วลองเปรียบเทียบกับ เอ๊กซโซเซต หรือ ฮาร์พูน ว่ามันต้องมีแบบนี้หรือไม่ ?
โดยสว่นใหญ่ในเว๊ปนี้ สนับสนุนให้ กองทัพเรือ มีเรือดำน้ำ...แม้แต่จะได้เรือ แบบ 209/1400 ที่ไม่มีอาวุธติดมา ในงบประมาณที่ต่ำกว่า เขาก็จะสนับสนุน...เพราะ ทร. ต้องการเรือดำน้ำ มาเพื่อใช้ฝึกก่อน ไม่ใช่หรือ ?
และที่ผ่านมา ทร. ก็จัดหาเรือก่อน...แล้วการจัดหาอาวุธ ก็แยกต่างหากอยู่แล้ว...ไม่ได้มีความแปลกแต่อย่างใด...เรือยังไม่มี แล้วจะหาอาวุธ มาให้มันเสื่อมสภาพทำไม...มันก็เป็นวิธีการปกติ ที่ กองทัพเรือ ทำตลอดมา...
ยกตัวอย่างความสื้นเปลือง ในอนาคต มันมีประเทศเพื่อนบ้าน อย่างอินโดนีเซีย ที่มีเรือดำน้ำแบบ 209 ประจำการ ก็มีข้อมูลให้เห็นอยู่แล้วว่า ทร. มีความสามารถรองรับได้...ความเหมาะสม ของ เรือดำน้ำ กับสภาพอ่าวไทย มันมีมานากว่า 15-20 ปี แล้ว สำหรับแบบเรือดำน้ำ 209 ของเยอรมัน...เพราะแบบเรือมันติดอันดับ 1-2 มาโดยตลอด....โดยไม่ต้อง ทดรอง หรือ เชื่อว่า แต่อย่างใด...เพราะ เรือดำน้ำ มันเป็นระบบอาวุธ ที่ต้องการความเชื่อมั่น เป็นหัวใจหลักในการออกปฏิบัติงานในแต่ละครั้ง ไม่ใช่หรือ ?
การจัดหา เรือดำน้ำ ในครั้งนี้ จึงมองว่า เป็นไปอย่างเร่งรีบ แบบมีข้อสงสัย เพื่อผลประโยชน์อะไร ?
การที่ กองเรือดำน้ำ ถึงใน 1-2 ปี ยังไม่เกิดโครงการเรือดำน้ำ...ทร. ก็ยังสามารถ ส่งกำลังพลไป ฝึก ได้เหมือนที่เคยทำมา...ไม่ได้มีเหตุที่จะต้องกังวลว่าจะถูกยุบ อะไร ?
ประเทศไทย ยังไง ๆ ก็ต้องมี เรือดำน้ำ...แต่ไม่ควรจะดันทุรัง หรือ เร่งรีบ...โดย ไม่มี หน่วยงานไหน มีอำนาจตรวจสอบได้...เพราะงบประมาณที่ใช้...มันส่งผลต่อเนื่องระยะยาว...
เชื่อว่าเวปบอร์ดนี้จะอยู่นานเกิน 10 ปีจากนี้ไป ผมทำนายไว้อย่างนี้ครับ.
ถ้าการผลักดันในครั้งนี้ไม่สำเร็จ(ไม่สนใจว่าเรือที่เข้าประกวดจะเป็นชาติใด รุ่นไหนเข้าวิน) และเกิดการเปลี่ยนแปลงทางการเมือง มีรัฐบาลพลเรือนเข้ามาบริหารประเทศ โครงการเรือดำน้ำต้องรอต่อไปไม่น้อยกว่า 5 ปีกว่าจะใด้ซื้อเรือดำน้ำ และ 8-10 ปีจึงจะมีเรือดำน้ำเข้าประจำการ เว้นแต่ว่าจะมีการจัดหามาด้วยวิธีพิเศษ เช่นการเช่า เป็นต้น
ผมมองว่ากระแสต่อต้านในสาธารณชนตอนนี้คือ ไม่เห็นความจำเป็นของเรือดำน้ำ แล้วต่อด้วยสภาวะเศรษฐกิจ.
ถ้าจะให้คนไทยโดยส่วนใหญ่เห็นด้วยกับการซื้ออาวุธคงต้องรอตอนเสียดินแดน/ทรัพยากรณ์/เอกราช ไปแล้ว
แล้วถ้าจะรอให้เศรษฐกิจดีก็อาจต้องรอตอนที่. ประเทศไทยมีนักวิจัยเก่งๆเกิดขึ้นมาแล้วมีการคิดค้นผลิตสินค้าเทคโนโลยีออกมาทำรายใด้เข้าประเทศ นอกจากพึ่งพาการท่องเที่ยวหรือสินค้าเกษตรพื้นฐาน (ที่ไม่มีการเพิ่มมูลค่า) กันสักที
ผลิตยางดิบมากว่า 200ปี ยังไม่มีโรงงานยางรถยนต์ยี่ห้อ/สูตรไทยแม้แต่บริษัทเดียว
วังเวง.... บรู๊วววววววววววววววว (เสียงหมาหอน)
ตอน ทร. ได้รับอนุมัติ จัดหา A-19 ใครค้าน ?...ใครอนุมัติ...ใคร คัดค้าน...?
ตอน ทร. จัดหา U-206A ใครค้าน ?...ใครเตรียมอนุมัติ...ใครดึงเรื่อง...?
ตอบคำถามทั้ง 2 ข้อได้...จะพบว่า...พลเรือน แทบจะไม่ได้เกี่ยวข้องเลย...ในการไม่ได้ เรือดำน้ำ มา...
และครั้งนี้ ถ้าจะได้ เรือดำน้ำจีน...ก็จะพบว่า...พลเรือน...ไม่ได้เกี่ยวข้องด้วยอีกเช่นกัน...
ดังนั้น การได้ เรือดำน้ำ มา...ไม่ใช่...พลเรือน..หรอกครับ..ก็พวก กลาโหม ทำกันเองทั้งนั้น...
แผ่นภาพ เคยจัดทำไว้...ที่ คาดหมาย ว่า ความหมายของ CWC ของ ทร. จะเป็นลักษณะแบบไหน...
ก็ในเมื่อ ทร. วางยุทธศาสตร์ เป็น Battle Group ในสงครามป้องกันผลประโยชน์ทางทะเล...แล้ว ทร. ไปจัดหา เรือดำน้ำจีน...ก็แทรกภาพเป็นเรือดำน้ำจีน เป็นระบบจีน ทั้งหมด...มันจะเป็น Battle Group ยังไง...จะ Communication under water กันยังไง...?
ซึ่ง มาเลเซีย กัน สิงคโปร์...เขาทำได้ในปัจจุบัน...ส่วน เวียดนาม กับ อินโดนีเซีย...ยังไม่มีข้อมูล...แต่ เวียดนาม ก็คงทำได้เช่นกัน เพราะเรือรบผิวน้ำ เขาเป็นระบบรัสเซีย ทั้งหมด...
และในส่วนของความเห็นผมที่ว่า...ระวางเรือดำน้ำ มันมีส่วนต่อ ความสามารถเรือดำน้ำของ อ่าวไทย...ก็คงต้องขอยกตัวอย่าง
ผลรายการ สมัยปี 2458 หรือประมาณ 100 ปี ที่แล้วมา...
อย่างน้อย ท่านก็จะเห็นข้อมูล ทะเลอ่าวไทย มันมีน้ำขึ้น น้ำลง ความลึกของอ่าวไทย มันมีโอกาส ที่จะลึกน้อยกว่าที่ เรือดำน้ำระวางขนาดใหญ่ จะปฏิบัติการได้อย่างมีประสิทธิภาพ...หรือ ถ้าจะมองว่า ถ้าเรามี เรือดำน้ำ ขนาดใหญ่...ในบางครั้ง อาจจะต้องอาศัยว่า ความลึกของทะเลอ่าวไทย ณ เวลานั้น ๆ เพียงพอ จะไม่เปิดเผยตัวได้หรือไม่ หรือเปล่า ?
ดังนั้น การมีเรือดำน้ำ ที่มีขนาดเล็ก ถึง ปานกลาง จึงดูจะเหมาะสมกับ ทะเลใน อ่าวไทย มากกว่า...ถ้า ทร. จะมีเรือดำน้ำ ระวางขนาดใหญ่...ฐานทัพเรือสนับสนุนเรือดำน้ำ ก็คงจะต้องไปอยู่ที่ สงขลา มากกว่า จะมาอยู่ที่ สัตหีบ...
เส้นแดงที่ คาดไว้ คือ ขีดความสามารถของเรือดำน้ำ ตามรายงาน นะครับ...
จากรายงาน ก็จะพบว่า จะต้องใช้เรือดำน้ำ ขนาดเล็ก ถึง ขนาดปานกลาง...ความสามารถป้องกัน จะไปถึง ช่องแคบมะละกา...
แต่ปัจจุบัน เรือดำน้ำขนาดเล็ก มันไม่มีขายในท้องตลาด จะมีก็แต่ U-206A ที่ระวาง และจำนวน เหมาะสม แต่ถูก ขัดขา ไป...
ดังนั้น เรือดำน้ำ ที่ระวาง ไม่เกิน 2000 ตัน ก็ดูจะพอทดแทน ในส่วน เรือดำน้ำ ขนาดเล็ก ได้...ซึ่ง ถ้า ทร. จะจัดหา เรือดำน้ำ ที่ขนาดใหญ่ ระหว่าง 2500 ตัน ขึ้นไป ก็คงน่าจะเป็นเพียง การมองศักยภาพสงครามเรือดำน้ำ ปลายอาณาเขตอ่าวไทย มากกว่า จะมองภาพในมุมกว้างทั้่งท้องทะเลอ่าวไทย...
ASTV ผู้จัดการสุดสัปดาห์ - ในขณะที่ภาพข่าวสภาพความเดือดร้อนของชาวบ้าน และเกษตรกร จากวิกฤตการณ์ภัยแล้ง ถูกเผยแพร่ไปอย่างกว้างขวาง มีการนำเสนอแม่น้ำลำคลอง หรือเขื่อนต่างๆแห้งขอด รวมทั้งแง่มุมผลกระทบจากภัยธรรมชาติที่สร้างความเสียหายให้กับชาวไร่ชาวนา และพี่น้องประชาชนในภูมิภาคต่างๆทั่วประเทศ
ช่วงเดียวกันนี้เองกลับมีข่าว “คนละเรื่องเดียวกัน” อย่างโครงการจัดซื้อ “เรือดำน้ำ” ของกองทัพเรือ เข้ามาแทรกย้อนแยงขัดแย้งกันแบบคอนทราสสุดๆ
โดยเมื่อวันที่ 2 ก.ค.ที่ผ่านมา พล.ร.อ.ไกรสร จันทร์สุวานิชย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ (ผบ.ทร.) เปิดเผยว่า กองทัพเรือ โดยคณะกรรมการคณะกรรมการพิจารณาจัดซื้อเรือดำน้ำของกองทัพเรือลงมติ 14-3 เลือกซื้อเรือดำน้ำ AUN Class S-26Tจากประเทศจีน จำนวน 3 ลำพร้อมอาวุธ คาดว่าจะใช้งบประมาณราว 3.6 หมื่นล้านบาท ซึ่งการจัดซื้อในครั้งนี้เป็นแบบแพ็คเกจ ทั้งเรื่องของเรือ อาวุธ การฝึกอบรม และการดูแลอะไหล่เรือดำน้ำ เป็นเวลา 8 ปี
แบบนี้ต้องเรียกว่า “จังหวะไม่ได้” เพราะทั้งสถานการณ์ภัยแล้ง ประกอบกับภาวะเศรษฐกิจที่ย่ำแย่ ไม่มีทีท่าว่าจะโงหัวขึ้น จึงมีเสียงวิพากษ์วิจารณ์ถึงเหตุผลและความจำเป็นที่มีการหยิบยกเรื่องนี้ ขึ้นมา เพราะหลายฝ่ายมองว่าประเทศไทยยังไม่พร้อมที่จะลงทุนเงินก้อนโตเพื่อเสริม เขี้ยวเล็บให้กับกองทัพ
อีกทั้งยังมีการตั้งข้อสังเกตว่า กองทัพหวังอาศัยช่วงที่ “รัฐบาลทหาร” ปกครองประเทศ เดินหน้าเรื่องนี้ให้สำเร็จลุล่วงเสียที หลังจากพยายามมาหลายครั้งหลายหน แต่ก็ถูก “รัฐบาลพลเรือน” มองข้าม และนำแฟ้มเรื่องนี้โยนใส่ลิ้นชักปิดประตูตายมาหลายรัฐบาล
อย่างเมื่อไม่กี่ปีก่อนก็มีข่าวว่า กองทัพเรือพยายามจะซื้อขอเรือดำน้ำเก่า จากประเทศเยอรมัน 6 ลำ ด้วยงบประมาณราว 7 พันล้านบาท แต่รัฐบาลพลเรือนตอนนั้นก็ไม่อนุมัติ จากนั้นก็ยังเจรจาขอซื้อเรือดำน้ำจากเกาหลีใต้ 2 ลำ ก็ถูกปฏิเสธโดยรัฐบาลอีก
จึงไม่แปลกที่ว่า เมื่อทหารเป็นใหญ่ จึงได้นำเรื่อง “เรือดำน้ำ” ขึ้นมาปัดฝุ่นอีกครั้ง
แต่ไม่ทันไรก็มีคำถามกระหึ่มขึ้นมาทันทีว่า ประเทศไทยจำเป็นต้องมีเรือดำน้ำจริงหรือ???
เสริมศักยภาพกองทัพ?
หากพิจารณาในแง่ของ “ความมั่นคง” ก็คงเป็นไปตามที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) บอกเกี่ยวกับเรื่องนี้ว่า เป็นแผนพัฒนากองทัพล่วงหน้า 10-20 ปี ไม่ได้ตั้งใจจะเอาไปรบกับใคร มีไว้ให้เกรงใจ
ขณะที่ พล.ร.อ.ไกรสรก็ได้ให้เหตุผลว่า ขณะนี้ประเทศเพื่อนบ้าน อาทิ เวียดนาม มาเลเซีย อินโดนีเซีย และสิงคโปร์ มีเรือดำน้ำเข้าประจำการมาหลายปีแล้ว ดังนั้นไทยต้องสร้างดุลอำนาจให้กองทัพเรือ สำหรับขั้นตอนการพิจารณาของกองทัพเรือได้ทำการศึกษามาอย่างดี เรือดำน้ำเป็นยุทธศาสตร์ใน การป้องปรามและศักยภาพดีที่สุด จึงไม่อยากให้สังคมวิพากษ์วิจารณ์ไปไกล เพราะทุกคนมีหน้าที่ของตัวเอง ทหารเป็นรั้วของชาติ
“อย่าพึ่งไปคิดว่าอะไรดีไม่ดี ต้องเชื่อใจกัน ถ้าให้กองทัพเรือรับผิดชอบในทะเลทั้งหมด ควรเชื่อใจทหารเรือ พวกท่านมาบอกว่าซื้อแล้วจะใช้เงินมากมาย ก็เป็นเงินของผมเหมือนกัน ภาษีของทุกคนเหมือนกัน ผมก็เสียดายเงิน ถ้าไม่ดี ผมก็ไม่อยากซื้อ ต้องเข้าใจคนอื่นบ้าง อย่าคิดคนเดียว” พล.ร.อ.ไกรสร กล่าวไว้
ผบ.ทร.กล่าวถึงเรื่องงบประมาณจัดซื้อเรือดำน้ำที่ถูกวิพากษ์วิจารณ์ อย่างหนักในเรื่องงบประมาณด้วยว่า เรือดำน้ำเป็นสิ่งจำเป็นของกองทัพที่รัฐบาลสมควรอนุมัติ เพราะเป็นเรื่องงบประมาณต่อเนื่อง อีกทั้งอาจจะมีการตกลงปลีกย่อยได้อีก เนื่องจากเป็นการซื้อขายแบบจีทูจี โดยเฉพาะอย่างยิ่งเป็นเรื่องของกองทัพ ซึ่งจะเพิ่มความแน่นแฟ้นระหว่างไทยและจีนมากยิ่งขึ้นด้วยซ้ำไป ดังนั้นการที่กองทัพเรือจะซื้อเรือดำน้ำจากจีนจึงเป็นความคุ้มค่า
“...แต่เลือกเวลาซื้อผิดไปหน่อยเท่านั้นเอง” นี่คือสิ่งที่ พล.ร.อ.ไกรสร ยอมรับ
ทั้งนี้ หากพิจารณาในแง่ความจำเป็น ด้วยภูมิประเทศของไทยที่มีทะเลสำคัญขนาบข้างทั้งอ่าวไทย และอันดามัน ก็ต้องบอกว่า ความมั่นคงเขตแดนทางทะเล มีไม่น้อยไปกว่าบริเวณชายแดนแผ่นดินที่ติดกับประเทศไทย โดยเฉพาะอย่างยิ่งเป็นที่รู้ว่ากันว่า ทรัพยากรทางธรรมชาติในอ่าวไทยมีมหาศาลเพียงใด
และเมื่อดูจากรายงานของ GlobalFirepower.com ซึ่งสำรวจเกี่ยวกับศักยภาพกองทัพของประเทศต่างๆทั่วโลกประจำปี 2015 ผลปรากฏว่า “ไทยแลนด์” อยู่อันดับที่ 20 ของจากการสำรวจทั้งหมด 126 ประเทศ และเป็นอันดับ 9 ของทวีปเอเชีย และเป็นอันดับ 2 ของภูมิภาคอาเซียน เป็นรองเพียงประเทศอินโดนีเซีย ที่มีภาพรวมศักยภาพทางกองทัพที่เหนือกว่า
GlobalFirepower.com ระบุด้วยว่า มีเพียง 4 ประเทศเท่านั้นในภูมิภาคอาเซียนที่มี “เรือดำน้ำ” ในครอบครองและประจำการอยู่ ประกอบด้วย อินโดนีเซีย 2 ลำ เวียดนาม 4 ลำ สิงคโปร์ 6 ลำ และมาเลเซีย 2 ลำ
น่าสนใจว่า ทุกประเทศที่มี “เรือดำน้ำ” ล้วนแต่มีภูมิประเทศอยู่รอบบริเวณอ่าวไทย หากมีเหตุการณ์ไม่คาดฝันขึ้นไทยย่อมเสียเปรียบเพื่อนบ้านที่มี “เรือดำน้ำ” อยู่อย่างแน่นอน
ขณะเดียวกันก็มีกระแสข่าวว่า เวียดนามและอินโดนีเซียกำลังสั่งเรือดำน้ำ จากรัสเซียเพิ่มเติม ส่วนสิงคโปร์ก็เดินหน้าเสริมทัพเรือดำน้ำชุดใหม่ โดย เลือกของเยอรมัน ด้านฟิลิปปินส์ที่มีสภาพภูมิประเทศเป็นเกาะจำนวนมาก ก็กำลังพิจารณาสั่งซี้อเรือดำน้ำเพื่อมาใช้ในทางยุทธศาสตร์ เนื่องจากมีปัญหาข้อ พิพาทในทะเลจีนใต้กับหลายประเทศ
ส่วนไทยเองในอดีตก็เคยมีเรือดำน้ำประจำการอยู่หลายลำ แต่ก็ปลด ระวาง ไป 60 กว่าปีมาแล้ว ทางกองทัพก็ย่อมอยากถามกลับมาถึงประชาชนคนไทยด้วยว่า สมควรที่ไทยต้องมีเรือดำน้ำอีกครั้งหรือยัง ???
เมื่อเราไม่รู้อนาคต และไม่ได้เตรียมพร้อมไว้ก่อน ภัยคุกคามอาจมาโดยไม่รู้ตัวก็เป็นได้
ภูมิประเทศไม่เอื้ออำนวย
หากพูดถึงข้อพิพาทของไทยที่อาจเกิดขึ้นกับเพื่อนบ้าน ในส่วนของพื้นที่ทางทะเลนั้น ทุกคนคงไม่ปฏิเสธว่า ฝั่งอ่าวไทยมีความสำคัญและสุ่มเสี่ยงที่จะเกิดปัญหากับเพื่อนบ้านมากกว่า ฝั่งอันดามัน เพราะมีพื้นที่ที่ติดกับหลายประเทศ ยังไม่มีการแบ่งสรรปันส่วนผลประโยชน์ทางทะเลกันอย่างเป็นกิจจะลักษณะ ย้อนไปไม่นานก็เพิ่งมีข้อพิพาทกับทางกัมพูชา ก่อนจะรุกลามมาถึงเรื่องแหล่งพลังงานในอ่าวไทย
เมื่อเป็นเช่นนี้หากกองทัพเรือไทยมีเรือดำน้ำมาประจำการ ภาคกิจหลักก็น่าจะอยู่ที่ด้านอ่าวไทยมากกว่าฝั่งอันดามัน
ช่วงเดียวกันในสังคมออนไลน์ได้มีการอัญเชิญ พระราชดำรัสพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่ทรงพระราชทานแก่ คณะรัฐมนตรี และ ผู้บัญชาการเหล่าทัพ ในวันเฉลิมพระชนมพรรษา 4 ธันวาคม 2550 ความว่า “...เราสร้างเรือให้พอเพียง เรือตรวจการณ์ใกล้ฝั่งนั่นนะ มันไม่พอเพียง มันเล็กเกินไป ยังเล็กเกินไป ก็อาจจะควรจะใหญ่กว่าหน่อย แต่ถ้าใหญ่เกินไปไม่พอเพียง ถ้าเล็กเกินไปก็ไม่พอเพียง เรือที่เขาจะทำเรือดำน้ำ เรือดำน้ำดำลงไป ไปปักเลนเลย ไอ้นี่เขาโกรธ เดี๋ยวเขาโกรธเอาว่า เรือแล่นๆไป ดำน้ำไม่พอ ใครมาเครื่องบินเห็นแจ๋วเลยต้องไปจมเลน ถึงจะไม่เห็น แล่นๆไปปักเลน ถ้าอยากไปที่ที่ลึก ก็ไปอยู่นอกเส้น ก็รู้สึกว้าเหว่ไกลกัน ไอ้เรือดูแลใกล้ฝั่งนี่ดีกว่า แต่ลำที่เราทำเราสร้างก็ใช้ได้ดีแล้ว แต่ควรจะสร้างต่อไปให้ใหญ่กว่านี้ ใหญ่กว่านี้หน่อย...”
พระราชดำรัสในวันนั้นเน้นถึง แนวทางเศรษฐกิจพอเพียง พิจารณาอุปกรณ์เครื่องใช้ว่าเหมาะสมพอแล้วหรือไม่อย่างไร ที่สำคัญอ่าวไทยเป็นทะเลน้ำตื้น อาจจะไม่เหมาะกับกับใช้เรือดำน้ำ
สอดคล้องจากข้อมูลที่ระบุตรงกันว่า ทะเลฝั่งอ่าวไทยมีความลึกเฉลี่ยอยู่ที่ 45 เมตร และมีความลึกสูงสุดไม่เกิน 100 เมตร ว่ากันตามเนื้อผ้าคงต้องบอกว่า ไม่เอื้ออำนวยกับการขับเคลื่อนของเรือดำน้ำมากเท่าไรมัก ยิ่งหากเป็นเรือดำน้ำขนาดใหญ่ว่ากันว่า แล่นผ่านเข้ามาไม่ได้
“บรรยง พงษ์พานิช” หนึ่งในผู้ทรงคุณวุฒิคณะกรรมการนโยบายและกำกับดูแลรัฐวิสาหกิจ หรือซูเปอร์บอร์ดรัฐวิสาหกิจ ที่ คสช.ดึงมาช่วยงาน ก็ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัวว่า “เมื่อประมาณ 5 ปีก่อน... ผมเจอคุณอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ขณะที่เป็นนายกฯ ท่านบ่นให้ฟังว่า."ผมมีปัญหา... กรมอุตุฯอยากให้แถลงต่อประชาชนว่าอ่าวไทยนั้นตื้นเกินกว่าที่จะมีสึนามิขนาด ใหญ่ แต่กองทัพเรืออยากให้ประกาศว่ามันลึกพอที่จะต้องมีเรือดำน้ำหนึ่งกองเรือ"
ตลกร้ายบนหน้าวอลล์ของคุณบรรยง ถือเป็นข้อมูลระดับเอ็กซ์คลูซีฟที่ชี้ให้เห็นว่า ทางกองทัพเรือก็รู้ดีถึงข้อจำกัดความตื้นความลึกของอ่าวไทยต่อการมีเรือดำ น้ำ
สองมุมมองอดีตนายพล ทร.
ขณะที่ พล.ร.ท.ประทีป ชื่นอารมณ์ อดีตผู้บัญชาการหน่วยปฏิบัติการลำน้ำโขง (นปข.) และอดีตนายทหารปราบเรือดำน้ำประจำเรือหลวงตาปี แสดง ความคิดเห็นออกไปในเชิง “ยังไม่เห็นด้วย” กับการโยนหินถามทางออกมา ทั้งที่รายละเอียดของโครงการยังไม่เรียบร้อย โดยระบุว่า ในฐานะอดีตทหารเรือ อยากให้น้องๆในกองทัพมองเรื่องความคุ้มค่าและความเหมาะสมก่อน เพราะภารกิจที่สำคัญของเรือดำน้ำคือ ดักซุ่มโจมตีเรือผิวน้ำทุกประเภท และ ลักลอบ ส่งกำลังขนาดเล็กขึ้นฝั่งเพื่อทำจารกรรมและก่อวินาศกรรม ก็ต้องตอบคำถามชาวบ้านที่ว่า จะเอาไปรบกับใครในย่านนี้ ขณะที่ปีหน้าก็จะเปิดประชาคมเศรษฐกิจร่วมกันแล้ว ในแง่งบประมาณก็ต้องลองเปรียบเทียบโครงการจัดหาเรือบรรทุก ฮ.จักรีนฤเบศรที่ต้องใช้งบประมาณมหาศาลเช่นกัน
“ฐานะทางเศรษฐกิจของประเทศในยามนี้มีนเอื้ออำนวยแล้วหรือ หาคำตอบเหล่านี้ให้ชัดเจน ก่อนจะไปให้สัมภาษณ์ ถ้ายังไม่ชัดเจน เรื่องต่างๆเหล่านี้ กรุณาอย่าไปสัมภาษณ์เลยมันไม่ get smart เลย!! คนเขาจะว่าได้ว่า กองทัพเรือก็ชอบฉกฉวยโอกาสในช่วงปฏิวัติรัฐประหารกับเขาเหมือนกัน” พล.ร.ท.ประทีป กล่าว
พล.ร.ท.ประทีป กล่าวต่อว่า การมีหรือไม่มีเรือดำน้ำนั้นขึ้นอยู่กับ ยุทธศาสตร์ชาติและยุทธศาสตร์ของกองทัพ ซึ่งจะเกี่ยวข้องกับสภาพสิ่งแวดล้อมทั่วๆไปของพื้นที่ปฏิบัติการของเรือดำ น้ำ ซึ่งสภาพสิ่งแวดล้อม ทั่วๆไปของอ่าวไทยมีลักษณะเป็นโคลนมาก ตามที่ในหลวงท่านตรัสว่าเรือดำน้ำดำลงไปหัวจะทิ่มโคลน และมีความลึกเฉลี่ย 49-50 เมตร ลึกสูงสุดทางตะวันออกของเกาะสมุยประมาณ 70-80 เมตร และมีพื้นที่ส่วนนี้ค่อนข้างจำกัด จากที่เคยมีประสบการณ์ร่วมฝึกปราบเรือดำน้ำกับกองทัพอเมริกันในพื้นที่อ่าว ไทย ปรากฏว่าการเดินทางของ เรือดำน้ำอเมริกันจะลอยลำบนผิวน้ำ และดำลงใต้น้ำเฉพาะในพื้นที่ดังกล่าวทางตะวันออกของเกาะสมุยประมาณ 70-80เมตรเท่านั้น
“พื้นที่ในอ่าวไทยเป็นอุปสรรคต่อการปฏิบัติการของเรือดำน้ำ” พล.ร.ท.ประทีป ระบุ
พล.ร.ท.ประทีป ได้ตั้งคำถามถึงยุทธศาสตร์ชาติและยุทธศาสตร์กองทัพเรือด้วยว่า หากมีการกำหนดยุทธศาสตร์ว่า จะพัฒนาเป็น "Blue Water Navy” หรือเป็นกำลังทางเรือเพื่อปฏิบัติการในทะเลลึก หมายถึงจะมีการปฏิบัติการทางเรือนอกอ่าวไทย หากเป็นเช่นนี้ก็สมควรที่จะมีเรือดำน้ำ เพื่อเป็นกำลังทางรุกไม่ใช่ทางรับ แต่อย่าลืมว่าเรากำลังจะเป็นประชาคมอาเซียน ซึ่งจะเปิดพรมแดนกันเร็วๆนี้ว่า การทำเช่นนั้นจะขัดแย้งกับแนวทางประชาคมเศรษฐกิจหรือไม่ หรือเรามองแค่ว่า บางประเทศในกลุ่มอาเซียนมีเรือดำน้ำ เราถึงต้องมีบ้าง
พล.ร.ท.ประทีป วิเคราะห์ถึงสถานการณ์ความขัดแย้งที่อาจเกิดขึ้นว่า การรบจะเกิดเมื่อมีความขัดแย้ง แล้วโอกาสความขัดแย้งที่จะเกิดนั้นคือเรื่องอะไร แน่นอนขัดแย้งเรื่องผลประโยชน์ในทะเล ในทะเลความขัดแย้งทั้งในอ่าวไทยและทะเลอันดามัน ที่ไทยมีโอกาสมากที่สุดคือ กับกัมพูชาในอ่าวไทย ซึ่งมีพื้นที่อ้างสิทธิ์ทับซ้อนกันอยู่ แต่อีก 20 ปีกำลังทางเรือของกัมพูชาก็เทียบกับไทยไม่ได้ ส่วนเวียดนามกับมาเลเซียเรื่องเขตแดนทางทะเลจบกันไปแล้ว จึงไม่มีความจำเป็น ส่วนด้านอันดามัน ก็คงอาจจะมีปัญหากับพม่าเรื่องกรรมสิทธิ์เหนือเกาะต่างๆ ซึ่งอยู่ในระดับเจรจากันได้ แม้ถ้าเจรจากันไม่ได้ ใน20ปีนี้พม่าคงไม่คิดรบกับไทยเพราะกำลังทางเรือเปรียบเทียบกับไทยยังไม่ได้ ส่วนเรื่องเขตแดนทางทะเลเราก็ไม่มีปัญหากับมาเลเซีย อินโดนีเซีย หรืออินเดีย ในทะเลอันดามันจึงยังไม่จำเป็นต้องมีใน พ.ศ.นี้
“สรุปได้ว่าถ้าเป็นเรื่องภัยคุกคามแล้ว ใน พ.ศ.นี้และในอีก10-20ปีข้างหน้าเรายังไม่มีภัยคุกคามที่จะเป็นเงื่อนไขบีบ บังคับให้ต้องจัดหาเรือดำน้ำ หรือหากจะมีก็เพราะเราปรับยุทธศาสตร์กองทัพเรือให้เป็น Blue Water Navy แต่มันจำเป็นต้องมียุทธศาสตร์นี้หรือไม่ คงต้องมาถกกันอีกประเด็นหนึ่ง” พล.ร.ท.ประทีป กล่าวทิ้งท้าย
ด้าน พล.ร.อ.ชัย สุวรรณภาพ อดีตรองผู้บัญชาการทหารสูงสุด อดีต ผู้บัญชาการกองเรือยุทธการ ผ่านการศึกษาการปราบเรือดำน้ำ จากประเทศ สหรัฐอเมริกา ถือว่าเป็นผู้หนึ่งที่มีความรู้ด้านเรือดำน้ำไม่ยิ่งหย่อนไปกว่าใครน ประเทศก็แสดงความคิดเห็นว่า ประเทศไทยควรที่จะมีเรือดำน้ำมานานแล้ว เพียงแต่ที่ผ่านมาในสมัยรัฐบาลพลเรือนมักไม่เห็นความสำคัญ จึงเป็นโอกาสดีที่รัฐบาล คสช.หยิบยกเรื่องนี้ขึ้นมา แต่ก็ต้องพิจารณาอย่างรอบคอบ ไม่เช่นนั้นอาจจะส่งผลเสียหายทั้งในแง่งบประมาณที่ต้องสูญเสียไป และความรู้สึกของประชาชน แต่ผู้เกี่ยวข้องควรชี้แจงให้เกิดความเข้าใจ เพราะพอมีเรื่องนี้ขึ้นมาก็ถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก แต่กลับไม่สามารถชี้แจงกันได้ อย่างเรื่องงบประมาณก็ต้องบอกให้ชัดว่า ไม่ได้ใช้ทีเดียว 3.6 หมื่นล้านบาท ยังมีขั้นตอนอีกมาก
พล.ร.อ.ชัยชี้ว่า ประโยชน์ของเรือดำน้ำ นอกจากในภาวะสงครามมีการสู้ รบกันแล้ว ยังมีประโยชน์ในแง่ยุทธศาสตร์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งภูมิประเทศของไทย ที่มีอาณาเขตและทรัพยากรธรรมชาติในอ่าวไทยค่อนข้างมาก การที่จะมีกองเรือดำน้ำเพื่อทำหน้าที่ป้องกันอ่าวไทยจึงมีความจำเป็น เพราะในอนาคตเราไม่รู้แน่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นบ้าง อาจจะมีการกระทบกระทั่งกับเพื่อนบ้าน จนที่สุดนำไปสู่การ “ปิดอ่าวไทย” และหากประเทศเหล่านั้นนำเรือดำน้ำมาประจำการ ก็ยากที่ทัพเรือไทยที่มีเพียงเรือผิวน้ำจะต่อกรได้ ไทยก็ต้องตกอยู่ในสถานการณ์ลำบาก
สำหรับเรื่องภูมิประเทศที่เป็นข้อจำกัดนั้น พล.ร.อ.ชัยมองว่า แม้ทะเลอ่าวไทยจะมี่ความลึกไม่มาก แต่เรือดำน้ำที่กำลังจัดซื้อนั้น ก็ไม่ใช่เรือดำน้ำ ขนาด ใหญ่ เป็นเรือดำน้ำที่มีขนาดเหมาะสมกับภูมิประเทศของไทย ซึ่งก็ขึ้นอยู่ กับการใช้งานด้วย ส่วนเรื่องงบประมาณ 3.6 หมื่นล้านบาทก็เห็นว่า ไม่ได้สูงเกินไป หรือต่ำเกินไป เชื่อว่ากองทัพเรือมีการศึกษามาดีแล้ว เรื่องจำนวน 3 ลำก็มีความเหมาะสม เพราะในการปฏิบัติงานจริง อาจจะออกประจำการ 1 ลำ ลำอื่นๆอาจต้องเข้ารับการซ่อมบำรุง ถ้าซื้อแค่ลำเดียว เกิดมีปัญหาขึ้นมา ก็เท่ากับไร้ประโยชน์
ถือเป็น 2 มุมมองของนายทหารอาวุโสที่อาจจะแตกต่างกันบางมุม แต่ก็เห็นไปในทิศทางเดียวกันว่า กองทัพเรือควรจะมีข้อมูลที่ชัดเจน ก่อนจะออกมาให้รายละเอียด
รัฐถังแตก - ลือ “ไอ้โม่ง” รองาบค่าคอมฯ
ระยะหลังเป็นที่คุ้นหูกันดีกับวลีเด็ดของ พล.อ.ประยุทธ์ที่มักตอบเวลาถูกถามถึงโครงการเมกะโปรเจ็กต์ต่างๆว่า “จะไปเอาเงินที่ไหน เงินมันมีเยอะหรืองัย” ตรงนี้ยิ่งย้ำประเด็นข้อสงสัยถึงสภาพเศรษฐกิจไทยตอนนี้ว่าเหมาะสม ที่จะตั้งงบประมาณนำภาษีของประชาชนไปเสริมแสนยานุภาพของกองทัพหรือไม่ เพราะไม่ใกล้เคียงสภาวะสงครามที่ต้องไปรบราฆ่าฟันกับใคร
และต้องยอมรับว่า เศรษฐกิจไทยกำลังอยู่ในขาลง ยังไม่มีทีท่าว่าจะฟื้นตัวในเร็ววันนี้ด้วย ทั้งภาษีที่เก็บไม่ได้ตามเป้า การส่งออก-ท่องเที่ยวที่ตกต่ำตาม ตลาดโลก พืชผลทางการเกษตรก็ย่ำแย่ ภาวะภัยแล้งยังซ้ำเติมเข้ามาอีก งบประมาณภาครัฐก็มีสัญญาณว่าขาดมืออย่างหนัก ยังต้องแบกหน้าไปหยิบยืมเงินหน่วยงานรัฐด้วยกันเอง อย่าง กสทช. หรือ ธ.ก.ส. ขนาดโครงการสวัสดิการสังคมอย่างสุขภาพดีถ้วนหน้าหรือ “บัตรทอง” ก็ทำท่าจะล้มแหล่ไม่ล้มแหล่ จน พล.อ.ประยุทธ์ ต้องออกมาบ่นให้ฟังอยู่หลายครั้ง
กระแสสังคมยังมองว่า การใช้ข้ออ้างว่า 3.6 หมื่นล้านนั้นเป็นงบประมาณผูกพันผ่อนชำระ 8 ปี ก็คงฟังไม่ขึ้นนัก เพราะอย่างไรก็ต้องเสีย 3.6 หมื่นล้านอยู่ดี ซึ่งสามารถนำไปใช้ในโครงการอื่นที่มีประโยชน์ต่อส่วนรวมได้มากกว่าจะไปสร้าง ความมั่นคงทางทะเล
สังคมไทยยังไม่ลืมการผลาญภาษีเพื่อซื้อยุทโธปกรณ์ของกองทัพ ที่ถูกจับได้ในภายหลังว่าไม่คุ้มค่า ทั้ง “เรือเหาะตรวจการณ์” มูลค่ากว่า 450ล้านบาท ที่สุดท้ายไม่ได้ใช้ประโยชน์ใดๆ เลย ก่อนซุ่มเงียบแทงจำหน่ายเป็นของชำรุด หลังซื้อมาเพียงไม่กี่ปี หรือ “ไม้ล้างป่าช้า” เจ้าเครื่อง CT 2000 ที่มีต้นทุนไม่ถึงพันบาท แต่กลับซื้อก้นหลักล้าน ที่สุดความแตกว่าไม่ได้มีคุณสมบัติตรวจหาวัตถุระเบิดได้เลย
ดังนั้นรัฐบาลจึงควรคิดให้รอบคอบอย่างยิ่ง จะมองว่าเป็นช่วง “นาทีทอง” คืนกำไรให้กับ “ขุนทหาร” ก็คงได้ไม่คุ้มเสีย
เสียงลือเสียงเล่าอ้างยัง วิเคราะห์ไปถึงเบื้องลึกเบื้องดีลในครั้งนี้ ที่กองทัพเรือมีมติแทบจะเอกฉันท์เลือกเรือดำน้ำของจีน ว่าเป็นเพราะ “คอนเนกชั่น” ของบางคนในทีม “กุนซือ คสช.”
แน่นอน ข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร คงต้องให้ พล.อ.ประวิตร วงศ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ไปตรวจสอบข้อมูลเรื่องนี้ให้กระจ่างเพื่อคลายข้อสงสัยของสังคม
การจัดหา เรือดำน้ำ ได้เพียงแค่ 2 ลำ แต่สามารถทำระบบความเชื่อมโยง ได้เป็นไปตาม CWC มันก็จะดูมีประสิทธิภาพ ที่มากกว่า การมีจำนวนเรือ 3 ลำ...แต่ระบบไปคนละทิศ ละทาง...
การจัดหา เรือดำน้ำ ที่เข้าก้นได้กับกองเรือ มีความคล่องตัวเหมาะสม กับ อ่าวไทย เพียง 2 ลำ ในตอนนี้ อาจจะดูไม่ครบจำนวนตามความต้องการ แต่มันสามารถจัดหาจำนวนเพิ่มเติมใหม่ได้ ในภายหลัง ครับ...
มันคงดีกว่า การที่จัดหา เรือดำน้ำ ได้ 3 ลำ (ที่มันแค่ตอบโจทก์ การซ่อมบำรุงรักษา ตามวงรอบ เท่านั้น) แต่จะต้องทำระบบความเชื่อมโยง ให้เป็นไปตาม CWC ใหม่หมด...
ถามท่านจูลดาส. กรณี A19 ปี38 สมัยบรรหารนั่นอนุมัติไปแล้วมีการขุดคุ้ยว่ามีการติดสินบนเลยไปต่อไม่ได้ไม่ใช่เหรอครับ มันเกี่ยวอะไรกับกลาโหมด้วยหรือ ? หรือผมเข้าใจคลาดเคลื่อน ? มองภาพรวมๆผมเข้าใจว่ามันเป็นการกุข่าวดิสเครดิตกันของทางฝ่ายการเมือง เคสนี้มันนานแล้วหาข่าวยัอนหลังไม่พบ.
ส่วนกรณี 206 นอกจากมีแรงบีบจากกลาโหม สื่อ และสาธารณชนก็ค้านไม่ใช่น้อยนะครับ. คำว่า เรือดำน้ำเชึยงกงถูกเอามาใช้ แถมสื่อใหญ่ยังโยงไปกรณีเรือ 911 ที่ไปติดใจของแถม ให้แฮริเออร์มา9 ลำ ใช้ได้ไม่กี่ปีก็ต้องโละ
อย่างไรก็ดีข้อสัณนิษฐานและคาดการณ์ของผมอยู่บนพื้นฐานของกระแสสังคม วันนี้ และในอนาคตระยะ5-8ปี นะครับ. ผมไม่ใด้ให้นำ้หนักเกี่ยวกับเรื่องA19. และ 206 เลย. เพราะประเด็นสำคัญมันคือความคิดเห็นของสาธารณะ ในวันนี้ ที่ยังไม่ยอมรับ และสภาพเศรษฐกิจ ต่อให้ไม่ใช่ รมต กลาโหมชื่อประวิตร. และไม่ใช่เรือจีน และ รัฐบาลเป็นพลเรือน ก็ถูกค้านหนักอยู่ดี. และผมก็มองไม่เห็นทางว่าอุปสรรคใหญ่ทั้งสองมันจะหายไปใน5ปีข้างหน้า ผมต้องจำใจยอมรับว่าสังคมเล็กๆในเวปบอร์ดนี้เป็นชนกลุ่มน้อยในเรื่องนี่ พออกไปโลกภายนอก. 7ใน10 คนไม่เอาด้วย แล้วจะเถียงให้ตายมันก็ไม่เชื่อเรา
เรือดำน้ำ สมัย นายกฯ บรรหาร มีการคัดเลือก มีการแข่งขันของทุกค่าย ตามปกติครับ...และสุดท้าย คัดเลือกแบบ A-19 และก็เตรียมจะอนุมัติแล้ว...แต่ก็ถูกฝ่ายการเมือง และฝ่ายนายทหารเรือบางนาย ให้ข้อมูล อ้างว่า ไงล่ะครับ...ถ้าจำไม่ผิด ก็มีหน่วยงานสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน มาเล่นด้วย...แถมช่วงนั้น นายกฯ บรรหาร ก็โดนเล่นเรื่องสัญชาติ ด้วยไงล่ะครับ...และมีประชาชน คัดค้าน อะไรหรือไม่ ? ก็เล่นกันเอง...
มาสมัย ทร. เลือกแบบ u-260A โดยใช้งบประมาณของตัวเอง เสนอแบบตั้งแต่ นายกฯ ชื่อ นายอภิสิทธิ์ ที่อนุมัติงบประมาณ เป็นแสนล้านบาท ภายใน 1 คืน ก็ไม่ถูกนำเสนอ...ต่อมา นายกฯ ชื่อ ยิ่งลักษณ์ ก็พร้อมจะอนุมัติ แต่ กลาโหม ไม่เสนอ...จนเผลอให้ สัมภาษณ์ว่า ได้พิจารณาโครงการเรือดำน้ำ ต่อมา ก็แก้ตัวแทบไม่ทัน จนกลายเป็นข่าวหน้าแตกไป...แล้ว มีประชาชน คัดค้าน หรือ มีผลอะไรหรือเปล่าครับ ? ที่ไม่ได้อนุมัติ ข่าวออกมาตามหลัง ก็เพราะทางด้าน เทคนิค ที่ผู้ใหญ่ขอร้อง ไม่ใช่เหรอครับ ? ก็เล่นกันเองเหมือนเดิม
กระแสต่อต้าน ไม่ว่าจะยังไง มันก็ต้องมีแหล่ะครับ...เพียงแต่ ถ้าตอนอนุมัติ มีเหตุ-ผล มีงบประมาณที่สมเหตุ สมผล มีการตรวจสอบได้...ยังไงมันก็ผ่าน...เพราะมัน ผ่านมาแล้ว 1 รอบ และเกือบจะผ่านอีก 1 รอบ...
แต่ครั้งนี้ ที่มันหนักหนา...เพราะ ดันทุรัง ไงล่ะครับ...
โครงการเรือดำน้ำ ไม่อยู่ในความคิดว่าจะต้องเกิดโครงการภายในปี 2560 เลยครับ...เพราะ ทร. เพิ่งได้ งบประมาณจัดหา เรือฟริเกต ไป จำนวน 30,000 ล้านบาท...ใคร ๆ ก็คาดหมายว่า โครงการจะเกิดขึ้นเป็น รูป เป็นร่าง พอหวังได้ ก็น่าจะหลังจาก โครงการเรือฟริเกต ได้งบประมาณครบ 2 ลำ...หรือ ภายหลังมี รัฐบาล จากการเลือกตั้งแล้ว...
ครั้งนี้ ถ้าไม่ได้..ผมก็ไม่ได้เสียใจ หรือ ไม่ได้หมดหวังในอนาคต แต่อย่างใด ว่า ทร. จะไม่ได้ เรือดำน้ำ...
แต่แค่เสียดายที่ ทร. มาทำพลาด ให้ ความ อคติ มันฝังลึก กับคนที่เข้าคัดค้าน....ที่มา ดันทุรัง เพื่อจะได้เรือดำน้ำจีน ในระยะเวลานี้...ซึ่งมันเป็นระยะเวลา ที่ไม่เหมาะสม ไม่ว่าในแง่ไหน ทั้งนั้น...และดันทุรัง เรื่องงบประมาณ 36,000 ล้านบาท...ทำไม ต้องยืนยันว่า 36,000 ล้านบาท...ทำไม ไม่ถูกกว่านี้...หรือ ทำไม ไม่รอให้มีรัฐบาลใหม่ เสียก่อน...ถ้าจะดึงดันก็แค่ให้ อนุมัติในหลักการ ในโครงการเสียก่อน...เพื่อความโปร่งใส ตรวจสอบได้..ค่อยดำเนินการคัดเลือกแบบจัดหาในช่วงรัฐบาลใหม่ ให้มันมีการแข่งขัน เหมือนตอนจดหา A-19...มันจะได้ สบายใจ กันทุกฝ่าย...
แต่นี้ ออกข่าว ปุ๊บ...ก็ตัดสินปั๊ป....แล้วผลสุดท้าย ก็ออกมาเป็น เรือดำน้ำจีน ตามข่าวลือ ที่ออกข่าวสนับสนุนเรือดำน้ำใหม่ ๆ....แม้แต่ คนที่สนับสนุนโครงการ เรือดำน้ำ แบบผม....ผมก็รับไม่ได้เหมือนกันครับ...
AIP นี่เท่าที่ดู มันขับเคลื่อนด้วยกำลังภายในนะ ทำให้ดูพิเศษกว่าเจ้าอื่นเลยเข้าวินไป
ท่าน Sam น่าจะจำไม่ผิดเรื่องA-19 เกิดจากสื่อแต่เป็นสื่อสวีเดนเองที่ขุดเจอแล้ว ส่งต่อสื่อไทยมาขยายความเรื่องก็เลยจบ..อด
หลายๆคนในที่นี้ รวมทั้งผม เชื่อว่า A-26 เสนอแบบเรือพร้อมระบบ AIP
แต่หลังจากการแถลงช่าว กลายเป็นเรือจีนเพียงแบบเดียวที่เสนอระบบนี้
ไม่รู้ว่าเป้นเทคนิคในการพูด หรือเค้าไม่เสนอมาจริงๆ อันนี้ไม่มีใครรู้
บอกอีก 2 เจ้าที่เหลือเค้าไม่มี AIP ให้ (แต่แบบเรือที่เสนอมันมีมากกว่า 2 บริษัทนิครับ)
ก้อยู่ที่จะเชื่อใครระหว่าง ปชช ธรรมดาๆ กับ ทร.ที่รู้เรื่องเรือส. มากกว่าใครๆ
เห็นแบบเดียวกับท่าน 461 แหล่ะครับ...
เพราะถ้า ไม่มี AIP...แล้วแบบเรือ S-20 ชนะ...ก็จะเลวร้ายยิ่งกว่านี้...เลยต้องมี AIP เติมขึ้นมา...
yuan ใช่SEAIP 4 ตัว อย่างน้อย ขนาด 640หรือ 868 kW
การเดินทางไปปากี มีีลูกเรือ 65 คน ไปลำเดียว วิ่งไกลมาก ดำได้นานได้เปรียบ
ตามแผนที่ เรือต้องผ่านอะไรบ้าง อยู่ใต้น้ำก็ย่อมปลอดภัยกว่า
http://m.indiatoday.in/story/chinese-submarine-indian-navy-karachi-indian-ocean-pm-modi/1/447505.html
เรือดำน้ำจีน ความเร็วใต้น้ำของ AIP กี่นอต ครับ...
1 นอต = 1.85 ก.ม. ต่อ ชั่วโมง
ความเร็ว 5 น็อต ก็จะเท่ากับ 9.25 กิโลเมตร ต่อ ชั่วโมง...
ต้องแล่นแบบดำใต้น้ำสักกี่วัน จาก จีน ถึง ปากีสถาน...ในความเร็ว 9.25 กิโลเมตร ต่อ ชั่วโมง....ถ้าใช้ระบบ AIP เป็นหลัก ?
ก่อนหน้านี้ ที่ สวีเดน เสนอแบบ A-19 (T) ในสมัย นายกฯ ชื่อ บรรหาร ก็มีระบบ AIP มาด้วย...
ก็สงสัยว่า งวดนี้ ทำไม ไม่มีมาด้วย ?
การใช้ระบบ AIP แล้วดำได้นาน XX วัน....น่าจะหมายถึง...การ กบดาน ใต้น้ำ โดยไม่โผล่ให้เห็น ได้นาน XX วัน...
แต่ถ้าใช้การ แล่นเรือปกติ....ก็ใช้ระบบปกติ ไม่ต้องไปใช้ ระบบ AIP...เพราะความเร็วปกติใต้น้ำของเรือดำน้ำ จะอยู่ 16-20 นอต แล้วแต่แบบเรือ...
ส่วนการเดินเครื่องใต้น้ำ ด้วยระบบ AIP แบบ Stirling ความเร็วไม่เกิน 5 นอต...ที่เร็วหน่อย ก็ AIP แบบ Fuel cells ที่ความเร็วจะอยู่ประมาณ 8 นอต..ตามข้อมูลที่ปรากฎในเว๊ปโดยทั่วไป
type041ไม่ได้เดินทางลำเดียวนี่ครับ มีเรือพี่เลี้ยงชั้น Type 925 Dajiang เป็นพี่เลี้ยงไปด้วย แล้วการเดินทางผ่านมหาสมุทรอินเดียไม่ได้แสดงถึงประสิทธิภาพของAIPนี่ครับ ผมไม่ค่อยสนใจเรื่องตัวเลขที่นำมาอ้างอิง แต่สนใจว่าถ้าระบบแน่จริงช่วยมาDemoกับกองเรือปราบเรือดำน้ำในน่านนำ้ไทยสิครับ ถ้าบอกว่าเรือยังไม่สร้างก็เอาลำที่มีก็ได้เช่นtype041ทึ่ไปปากีสถานก็ได้
ข่าวในช่วงที่สวีเดนนำ A-26 มาเสนอครับ
ข้อมูลรายละเอียดเพิ่มเติมจากทาง TAF ครับ
09/02/2558 17.15 น. ThaiArmedForce.com - Saab AB เสนอเรือดำน้ำชั้น A-26 ให้กับกองทัพเรือไทย เมื่อวันที่ 2 เมษายน ที่ผ่านมา
เมื่้อไม่นานมานี้ Saab AB ได้ซื้อกิจการอู่ต่อเรือ Kokum ในสวีเดน จาก ThyssenKrupp ประเทศเยอรมนี ซึ่งทำให้สวีเดนมีขีดความสามารถในการต่อเรือดำน้ำอีกครั้ง
เรือดำน้ำชั้น A-26 นั้นยังอยู่ในระหว่างการออกแบบและพัฒนา ซึ่งคาดว่าจะมาเป็นเรือที่ทดแทนเรือดำน้ำชั้น Gotland ที่สวีเดนมีใช้งานอยู่ 3 ลำ แต่โครงการยังไม่คืบหน้ามากนักเนื่องจากความขัดแย้งระหว่างองค์การบริหารจัดการยุทธภัณฑ์ทางทหารสวีเดนหรือ FMV กับ ThyssenKrupp ซึ่งเป็นเจ้าของ Kokum และแบบเรือ A-26 ในขณะนั้น จนเมื่อ Saab AB ได้ทำการซื้อกิจการ Kokum จาก ThyssenKrupp ทำให้โครงการ A-26 อาจดูมีความหวังอีกครั้ง
ทั้งนี้ แบบเรือ Type-612 ซึ่งเป็นแบบเรือดำน้ำ A-26 ที่มีขนาด 4,000 ตัน จากปรกติที่แบบเรือ A-26 นั้นจะมีขนาด 1,900 ตันนั้นไม่ได้รับเลือกจากโครงการจัดหาเรือดำน้ำทดแทนเรือดำน้ำชั้น Collins ของกองทัพเรือออสเตรเลีย โดยออสเตรเลียให้เหตุผลว่าสวีเดนไม่มีประสบการณ์ในการต่อเรือดำน้ำมาหลายปี แม้ว่า Kokum จะเป็นผู้ที่เคยออกแบบเรือชั้น Collins ให้ก็ตาม โดยในปัจจุบัน Saab และ Damen Shipyards ได้ร่วมมือกันปรับปรุงแบบเรือ Type-612 เพื่อเข้าแข่งขันในโครงการจัดหาเรือดำน้ำทดแทนเรือดำน้ำชั้น Walrus ของกองทัพเรือเนเธอแลนด์
คาดว่าแบบเรือ A-26 ที่เสนอให้กองทัพเรือไทย เป็นแบบเรือ A-26 ในรุ่นปรกติที่มีขนาด 1,900 ตัน และติดตั้งระบบ AIP
จนถึงปัจจุบัน มีแบบเรือดำน้ำจากสวีเดน เยอรมัน รัสเซีย จีน และเกาหลีใต้เสนอตัวเข้าแข่งขันในโครงการจัดหาเรือดำน้ำของกองทัพเรือไทย โดยคาดว่ากองทัพเรืออาจเสนอโครงการจัดหาเรือดำน้ำภายในปีงบประมาณ 2558 หรือ 2559
ตอนนี้ราคาประเมินสูงสุดของโครงการเมื่อวันที่ 18 มีนาคม 2558 ราคาสูงสุดตกลำละ ประมาณ 475 Million US$
ข้อมูลมาจากการสำภาษหวัหน้ วิศวกร ของ 711
อ้างอิง
http://www.csic-711.com
http://war.163.com/09/0817/17/5GUGFHOB00011232_4.html
http://m.guancha.cn/military-affairs/2015_05_05_318416.shtml
http://xw.qq.com/news/20150505050443
และ รายงาน ของ 711 ตามรูป
711 เขาเรียกระบบของเขาว่า AIP hybrid system การทำงานคือ ใช้aip ส่งกำลังไปที่ generator เพื่อปั่นไฟ และไปขับ motor อีกที เพื่อ
1 ควบคุมความเร็วรอบได้เที่ยงตรง ต้องการที่ ขับเพลา 500 rev / min ถึง 250 r / min ที่เป็นความเร็วที่สั่น และเสียงดัง น้อยที่สุด
2 ทำความเร็วได้สูง ต้องการที่ 20 knot ขนะดำน้ำ
3 ต้องดำได้ลึกอย่างน้อย 200 m
ซึ่งก่อนหน้านั้น 711 ได้นำ aip ขนาด 100kw จำนวน 4 เครื่อง ไปทดสอบ กับ 039a และทดสอบ พบว่า มีปัญหาคือ ไม่สามารถ ทำความเร็วได้ตามต้องการ และไม่สามารถดำได้ลึกตามต้องการ เพราะ กำลังไม่พอ จึงยกเลิกการทดสอบ และใช้ร่วมกับ generator
หลังจากนั้น ได้มีการทดสอบ seaip กับgenerator ติดตั้งบนเรือ 039b พบว่าทำความเร็วใต้น้ำ ได้ 20knot ตามเป้า แต่ พบว่าที่ความเร็วนี้ 039b แบตเตอรี่หมด ในไม่กี่ชม. และ seaip ไม่สามารถ ชาจไฟได้ทัน
และที่ความเร็ว 3knot ดำได้ ไม่กี่วัน
ซึ่งต่างจากเครื่องยนต์ดีเซล ที่ใช้ snorkel ซึ่ง ดีเซล ชาจแบตได้เร็วกว่า seaip อย่างเดียวมาก
ด้วยเหตนี้ 711 ได้พัฒนา seaip ที่ให้กำลังสูงขึ้น และพัฒนา generator ที่ประสิทธิภาพสูงขึ้น และใช้ lithium battery
ปัจจุบัน 039b ที่เข้าประจำการ ใช้ seaip ขนาด 217 kilowatts 4 เครือง ให้กำลัง868 kW และยังมี 300 kw ซึ่งคาดว่า จะใช้ในเรือชั้น qing
ด้วย aip 4 เครื่อง สามารถ ให้ 039b ทำความเร็วใต้น้ำสูงสุดตามต้องการได้ หรือความเร็วประหยัด ที่ 3 knot
generator ที่ใช้ใน 039a/b ปัจจุบันใช้ขนาด 100 kilowatts แบบชาจเร็ว จำนวนไม่ระบุ
จากข้อมูลของ 711 การใช้ aip ของจีนเป็นการใช้แทนเครื่องยนตดีเซล ในขณะดำน้ำ โดยสามารเลือกความเร็ว เพื่อควบคุมระยะเวลาการดำได้
จากข้อมูล P3C AN \ APS-137B (v5) radar สามารถตรวจเจอ periscope ที่ 20-30 km ซึ่ง ไม่ได้ระบุว่าตรวจจับเจอ snorkel เท่าไร
เรือดำน้ำจีนมาลำเดียวจริงๆ หรือผมโง่จนอ่านและตีความภาษาไทยไม่ออกก็ไม่รู้
ล่าสุดรายงานนี้ได้รับการยืนยันจากภาพถ่ายดาวเทียม(IMINT: Imagery Intelligence) ของ Airbus Defence and Space เมื่อวันที่ 28 พฤษภาคมที่ผ่านมา บริเวณท่าเรือพาณิชย์ห่างจากฐานทัพเรือกองทัพเรือปากีสถานใน Karachi ไม่กี่ร้อยเมตร
ซึ่งภาพแสดงถึงเรือดำน้ำ Type 041 Yuan และเรือพี่เลี้ยงชั้น Type 925 Dajiang ซึ่งเป็นเรือสนับสนุนจอดอยู่ใกล้กัน
โดยในปี 2014 เรือชั้น Type 925 หมายเลข 861 ชื่อ Changxingdao เคยเยือนกรุง Colombo ศรีลังกาพร้อมเรือดำน้ำดีเซล-ไฟฟ้าชั้น Type 039 Song มาแล้ว
ปล.ข่าวตัดมาจาก คุณ เอกพล นาคพุ่ม ขอบคุณครับ
กับเรื่องที่ไม่เกี่ยวกัน รปภ สนามกีฬา ตบนักข่าว กับ นักกีฬาไทย พี่แกบอก เอาน่า หยวนๆ ไทยบอก หยวนก็หยวนว่ะ ฮ่าๆๆ
http://www.janes.com/article/52843/imint-confirms-type-041-visit-to-karachi
เข้าใจครับ แต่ไม่เห็นรูป ที่ไปด้วยกัน มีแต่รูปที่ฐานทัพเรือ ซึ่งเป็นไปได้ว่า ใช้ส่งกำลังบำรุง โดยนัดจอกัน ตามจุดนัดพบ
เพิ่ม
คลิปข่าวอินเดีย ที่ตั้งคำถามว่า 039b ผ่านน้ำอินเดีย โดยไม่ขออนุญาติ ซึ่ง ถ้ามีเรือติดตาม อินเดียวคงเจอก่อนแล้ว
ลองดูครับ
https://youtu.be/YC_QHD1v61c
ครับผม ผมเข้าใจครับท่าน ต้องบอกกันตรงๆเลย ว่าผมสนับสนุน A26 แต่ถ้าได้จีน S26 ซึ่งเป็นหยวนตัวจริงย่อส่วน ผมไม่ขัดเลยว่ามันโคตรเทพด้วย แต่ด้วยความเคารพครับท่าน ผมเชื่อโดยสุจริตใจว่ามันไม่ใช่ ทำไมถึงว่าไม่ใช่ ที่ว่าไม่ใช่ไม่ใช่ว่าจีนสร้างของดีๆไม่ได้นะครับ แต่จากนโยบายจีนเอง และมูลค่าการซื้อราคาต่อลำ และตัวคนไทยเองนี้แหละที่มีปัญหา เป็นมาโดยตลอด ให้ตายเหอะมันไม่บิ่นเลยสักบาทหรือ(คลาดว่าเยอะ) ถ้าจริงปีหน้าผมเสียภาษีจะแถมให้อีกพัน ฮ่าๆๆ เรืออยากให้ซื้อครับ
ปล.ผู้ใหญ่ตัวอ้วนทุกราย ลูกน้องผอมตายทุกคน
บทความเกี่ยวกับเรือดำน้ำอันล่าสุดใน TAF ครอบคลุมทุกมิติดีมากครับ
http://www.thaiarmedforce.com/taf-editorial/765-tafeditorial11.html
ผมอ่านความเห็นของท่าน hongse_c และท่าน evill และข้อมูลจากท่าน MIG31 พอจะเห็นภาพบางอย่าง ตามความคิดเห็นของผมดังนี้ ไม่ทราบว่าถูกหรือ ผิดทักท้วงได้นะครับ
เรือดำน้ำจีน หยวน 039B 039C
สรุปได้ว่า จีนเน้นการพัฒนากำลังขับเคลื่อนของระบบ AIP ให้มากกว่าเดิม 3 เท่า เพื่อขับเคลื่อนเรือดำน้ำที่มีขนาดใหญ่ขึ้น เร็วขึ้น ดำนานขึ้นมากถึง 21 วัน และเงียบในระดับที่น่าพอใจ
ส่วนท่าน evill แย้งดังนี้ครับ
ระบบ stirling engine นั้น ถ้าจะให้กำลังสูงขึ้น ต้องมีขนาดใหญ่ขึ้นมาก และจากหลักการเครื่องยนต์แบบนี้ ใช้ความแตกต่างของระดับความร้อนเพื่อให้กำลังขับ ยิ่งร้อนมาก(อีกฝั่งเย็น) ก็ยิ่งให้กำลังขับมากขึ้น จะทำให้ภายในห้องเครื่องยนต์ร้อนจนทนแทบไม่ได้ ถ้าจะระกษาระดับความร้อนภายในเรือให้ลูกเรือสุขสบาย ต้องมีระบบระบายความร้อนที่ดีมาก และมีแนวโน้มว่า ความร้อนที่จะระบายออกนอกตัวเรือจะยิ่งสูง ทำให้ถูกตรวจพบได้ง่ายยิ่งขึ้นจากความร้อนที่ปล่อยออกมานอกตัวเรือในรูปน้ำร้อน
นอกจากนี้ เครื่องยนต์ที่ใหญ่ขึ้น ช่วงชักก็ยิ่งยาวขึ้น ก็จะเกิดเสียงที่มีค่าความยาวคลื่นที่ยาวมากขึ้น และเสียงดังขึ้นเพราะกำลังเครื่องยนต์สูงกว่าเดิมมาก ทำงานหนักขึ้น และเนื่องจากความยาวคลื่นที่มากขึ้น ก็ทำให้เสียงเดินทางไปในน้ำได้ไกลมากกว่าเครื่องยนต์ขนาดเล็กกว่า จะทำให้ถูกตรวจจับง่ายขึ้น
จากข้อมูลของท่าน MIG31 บอกว่าญี่ปุ่นพัฒนาเครื่องยนต์ Kockums V4-275R เป็นรุ่น Mk3 แล้ว แต่กำลังไม่เพิ่มขึ้น แต่เงียบลง คงเพราะเครื่องเล็กจะมีช่วงชักสั้น และเครื่องมีพลังต่ำกว่า จึงผลิตเสียงที่มีความถี่สูงกว่า ทำให้เดินทางในน้ำได้แย่กว่า เสียงแพร่ออกไปได้น้อยกว่า จึงเงียบกว่า และความร้อนที่เกิดขึ้นในห้องเครื่องยนต์ก็ต่ำกว่า จึงระบายความร้อนออกนอกตัวเรือน้อยกว่า ทำให้เรือของญี่ปุ่นจะถูกตรวจจับได้ยากกว่า
จากการประมาณการของท่าน juldas บอกว่าเรือระบบ SEAIP เดินทางได้ช้ากว่าระบบ Fuel cell และประมาณค่ามาที่ 5 น็อต หรือ ราวๆ 10 km ต่อชั่วโมง ดังนั้นใน 1 วันจึงเดินไปได้ประมาณ 240 km เท่านั้น
แต่จากข้อมูลของ 039B C จะใช้เครื่องยนต์ AIP ดำได้นานถึง 21 วัน ดังนั้นจึงเดินทางใต้น้ำได้เป็นระยะทางได้ไกลถึง 240X21 = 5040 km เลยทีเดียว ไกลมาก และจากที่ท่าน hongse_c คาดการณ์ว่าเรือจะสามารถเดินเรือได้เร็วกว่านั้นขณะดำด้วยโหมด AIP ก็น่าจะทำให้เรือเดินทางใต้น้ำได้ไกลกว่า 5000 km พอสมควร
สรุปข้อดีของเรือจีนในระบบ AIP จากข้อมูลที่เพื่อนๆลงนะครับ
1. ด้วยพลังของระบบ SEAIP ที่จีนพัฒนาต่อยอดจากของสวีเดน จะทำให้เรือดำน้ำได้นานมากถึง 21 วัน วิ่งขณะดำได้เร็วกว่าเดิม
2. ระยะทางขณะดำด้วยโหมด AIP ตลอดใต้น้ำ จะได้ระยะทางที่ไม่น้อยกว่า 5000 km ซึ่งถือว่าไกลพอสมควรทีเดียว เรียกได้ว่าออกจากอ่าวไทยไปหน้าบ้านฟิลิปปินส์ แล่นเรือย้อนกลับมาทางตอนใต้ของอินโด ลอดข้ามช่องแคยลอมบอค ไปสุมาตรา ย้อนเข้าอ่าวไทยกลับฐานได้โดยไม่โผล่ขึ้นเหนือน้ำเลย โหยังกะเรือดำน้ำนิว้คลียร์
ข้อเสียของ 039B C
1. เนื่องจากเพิ่มพลังเครื่องยนต์ขึ้นเป็นอย่างมาก เสียงจึงดังมากกว่าต้นแบบเป็นอย่างมาก แม้ว่าจะมีการพัฒนาให้เสียงลดลงจนพอใจ แต่ระดับเสียงนั้น ผมเดาว่าไม่น่าจะน้อยกว่า Kockums V4-275R ที่เป็นต้นแบบ จึงทำให้ถูกตรวจจับได้ง่ายขึ้น แต่น่าจะเบากว่าเรือชั้น คอลลิน ของออสเตเรีย เพราะดูจีนจะพึงพอใจเรื่องระดับเสียงมาก
2. เนื่องจากเพิ่มกำลังเครื่องยนต์เป็นอย่างมาก จึงทำให้ผลิตความร้อนออกมาสูงมาก ทำให้ต้องระบายความร้อนออกมานอกตัวเรือได้มากกว่าต้นแบบ จึงมีโอกาสที่ถูกตรวจจับได้ง่ายกว่า และเป็นอันตรายต่อลูกเรือที่อยู่ในระบบปิดได้มากกว่า
สำหรับเรือ โซริวของญี่ปุ่นที่มีขนาดใกญ่กว่า 039B C ก็น่าจะดำได้นานไม่น้อยกว่าแน่ๆ เพราะสามารถติดตั้งถัง LOX ไปได้มากกว่าเดิม คือ ไม่น่าจะน้อยกว่า 21 วัน แต่เนื่องจากกำลังเครื่อวยนต์ต่ำกว่า คงจะไม่สามารถมีความเร็วใต้น้ำได้เท่าเรือจีน ดังนั้นระยะทางในการใช้โหมด AIP จะต้องออกมาน้อยกว่าเรือของจีน แต่เสียงเงียบกว่า และปล่อยความร้อนจากระบบระบายความร้อนน้อยกว่ามากหลายเท่าเช่นกัน เรือ ญี่ปุ่นจึงถูกครวจจับได้ยากกว่าเรือจีนพอสมควรเมื่อใช้ระบบ SEAIP
ส่วนเรือสวีเดนที่มีขนาด 1900 ตัน เล็กกว่าทั้งของจีนและญี่ปุ่น จึงดำใต้น้ำได้ไม่อึดเท่า โดยได้ความเร็วน่าจะต่ำกว่าเรือจีน และคงได้ระยะทางใต้น้ำด้วยระบบ AIP สั้นกว่าเรือจีนพอสมควร คงไม่สามารถวิ่งวนรอบประเทศอาเซี่ยนแบบเรือจีนได้ อย่างดีก็วิ่งไปหน้าบ้านฟิลิปปินส์ แล้ว วนกลับมาได้โดยไม่โผล่ขึ้นมาเลย แต่สิ่งที่น่าจะเหนือกว่าเรือจีน คือ เงียบกว่าพอสมควร ด้วยเช่นกัน
สรุปเรือจีนบ้าพลัง ดำอึด แล่นได้เร็วขณะดำ วิ่งได้ไกล ส่วนเรือ ญี่ปุ่น สวีเดน ไม่บ้าพลัง แต่เงียบ และไม่ปล่อยความร้อนมาก ทำให้ตรวจจับได้ยากกว่าพอสมควรด้วยเช่นกัน
เห็นตามท่าน neosiamese2 สรุปไว้ ณ ตอนนี้คงเอาAIP มาเทียบกันไม่ได้เพราะจุดประสงค์ต่างกัน
เราจะเลือกเรือแบบใด
-ดำอึด เร็ว แบบจีน
-ดำอึดแต่ช้าแบบสวีเดน (ยกเว้น Fuel cell กรณีเราเลือกเรือU-214นะ )
ณ ตอนนี้ผมว่าเราควรตัดเรื่องAIPออกไป แต่ต้องวัดประสิทธิภาพเรื่องความเงียบและเสียงที่ปล่อยออกจากตัวเรือมากกว่า
สรุป ผมเลือกเรือ เยอรมันอยุ่ดี นั่นคือ type 218sg ที่ย่อขนาดลงมาจาก type 216 ถึงครึ่งต่อครึ่ง
ด้วยระบบ Fuel cell AIP เสียงย่อมเงียบสนิท เพราะไม่มีส่วนเคลื่อนไหวแบบ SE AIP และจากข้อมูลท่านจูลดาสลง แสอง่าความเร็วขณะดำของระบบนี้ก็ดีกว่าระบบ SE ด้วย ถ้าได้ 8 น็อตจริงๆ ตามที่ท่านจูลดาสว่ามา เรือ type 21sg น่าจะได้ระยะทางขณะดำด้วยระบบ AIP น้อยกว่าเรือจีนไม่มากนัก เดาได้ยาก เพราะไม่ทราบว่าเรือ type 218 sg จะสามารถดำใต้น้ำด้วยระบบ AIP กีวัน แต่ไม่น่าจะต่ำกว่า 14 วัน
ราคา 19,000 ล้านบาท 2 ลำ 38,000 ล้านบาท เพิ่มเงินอีก 2000 ล้านบาท ได้เรือเยอรมันที่สุดยอดแห่งยุคไปเลยดีกว่าครับ เพราะ ยิงได้ทั้ง ครุสย์มิสไซล์ สมาร์ทตอร์ปิโด ASM และอาจจะยิง Sub SAM แบบ IDAS ได้ แต่เห็นในเว๊ปต่างๆเคลมว่า type 216 ยิงได้ ส่วน type 218sg ไม่แน่ใจ
ดำได้เงียบที่สุด ระยะทางใต้น้ำขณะดำน่าจะน้อยกว่าเรือจีนไม่มาก ระยะเวลาการดำ ไม่ ทราบ เดาว่าน่าจะอยู่ในช่วง 14-21 วัน
ถ้าจะเอาเรือเยอรมันมาเทียบกับ type 039 B C โซริว A-26 มันก็ควรเป็นรุ่นนี้ครับ type 218SG
ยินดีกับสิงคโปร์ด้วยครับที่จะได้เรือดำน้ำที่มีประสิทธิภาพสูงที่สุดในอาเซี่ยน
ใช่ครับท่าน MIG 31
ต้องมาดูว่า ทร. ตั้งธงเรื่องความต้องการของตนไว้ที่อะไร
1. จะเอาไปปฎิบัติการนอกบ้านไกลๆ ไปกับกองเรือบรรทุกบ. เป็น blue navy เต็มตัว สามารถรุกไปปิดน่านน้ำคู่กรณีได้ทุกประเทศในอาเซี่ยน แม้แต่ไปปิดหน้าบ้านออสเตเรีย อินเดีย หรือ แม้แต่ จีน เอง
2. หรือ จะเอามาเฝ้าอ่าวไทย อย่างดีก็โผล่ออกไปสังเกตุการณ์ที่ทะเลจีนใต้ได้ไม่กี่วันแล้วกลับบ้าน ถ้าอบบนี้ เรือเยอรมัน type 210 mod และ HDS 500 RTN น่าจะตอบโจทย์ได้ดีกว่ามากครับ
3. หรือ ต้องการเทคโนโลยีเรือดำน้ำ และต้องการแบบดีที่สุด หรือ แบบ พอยอมรับได้ หรือ แบบถ่ายทอดหมดเปลือกแต่คุณภาพยังคลางแคลงใจ
ภ้าจะเอาแบบ 1 ก็ยังมีเรือสวีเดนและ ญี่ปุ่นให้เลือก แม้แต่เรือ เยอรมัน type 218 sg ที่ต้องเพิ่มเงินอีกนิดหน่อยครับ ทำไมต้องเรือจีน หรือ เพราะต้องการจำนวนมากๆ หรือ เพื่อหวังผลทางการเมืองระหว่างประเทศ
ต้องถามใจ ทร. และรัฐบาลชุดนี้ครับ
ขอบคุณข้อมูลจาก คุณ juldas + คุณ sam (ตาม link) + ข้อสรุปจากคุณ neosiamese2
พอได้อ่านข้อมูลเหล่านั้นแล้วผมไม่มีความเชื่อมั่นกับเรือจากจีนอีกต่อไป นั่นเพราะมันไม่ใช่ความผิดพลาดความเสียหายที่เกิดเพียงครั้งเดียวแต่มันเป็นการพลาดซ้ำพลาดซ้อนหลายครั้งแล้ว ไม่อยากให้ ทร.ผิดพลาดอีกแล้วครับ อยากให้ ทร.ได้เทคโนโลยีที่ดีที่สุดที่สามารถจะมีได้ในวงเงินที่ได้รับ คุณภาพย่อมสำคัญกว่าปริมาณครับ
Kawasaki Kockums V4-275R ก็คือ Kockums V4-275R ที่ผลิตโดยKockums แต่ถูกส่งมาประกอบ ที่ โรงงาน Kawasaki
และ
จาก
//ระบบ stirling engine นั้น ถ้าจะให้กำลังสูงขึ้น ต้องมีขนาดใหญ่ขึ้นมาก และจากหลักการเครื่องยนต์แบบนี้ ใช้ความแตกต่างของระดับความร้อนเพื่อให้กำลังขับ ยิ่งร้อนมาก(อีกฝั่งเย็น) ก็ยิ่งให้กำลังขับมากขึ้น จะทำให้ภายในห้องเครื่องยนต์ร้อนจนทนแทบไม่ได้ ถ้าจะระกษาระดับความร้อนภายในเรือให้ลูกเรือสุขสบาย ต้องมีระบบระบายความร้อนที่ดีมาก และมีแนวโน้มว่า ความร้อนที่จะระบายออกนอกตัวเรือจะยิ่งสูง ทำให้ถูกตรวจพบได้ง่ายยิ่งขึ้นจากความร้อนที่ปล่อยออกมานอกตัวเรือในรูปน้ำร้อน
นอกจากนี้ เครื่องยนต์ที่ใหญ่ขึ้น ช่วงชักก็ยิ่งยาวขึ้น ก็จะเกิดเสียงที่มีค่าความยาวคลื่นที่ยาวมากขึ้น และเสียงดังขึ้นเพราะกำลังเครื่องยนต์สูงกว่าเดิมมาก ทำงานหนักขึ้น และเนื่องจากความยาวคลื่นที่มากขึ้น ก็ทำให้เสียงเดินทางไปในน้ำได้ไกลมากกว่าเครื่องยนต์ขนาดเล็กกว่า จะทำให้ถูกตรวจจับง่ายขึ้น
และ
สรุปเรือจีนบ้าพลัง ดำอึด แล่นได้เร็วขณะดำ วิ่งได้ไกล ส่วนเรือ ญี่ปุ่น สวีเดน ไม่บ้าพลัง แต่เงียบ และไม่ปล่อยความร้อนมาก ทำให้ตรวจจับได้ยากกว่าพอสมควรด้วยเช่นกัน //
+++++++++++++
ที่พิมมานี่ เป็นข้อมูล หรือความคิดเห็นส่วนตัว ถ้าเป็นข้อมูลก็ควรมีอะไรอ้างอิงบ้างน่ะครับ แต่ถ้า คคห.ก็ไม่ติดใจครับ
แต่ถ้าเป็นข้อมูล ทราบข้อมูลพวกนี้หรือไม่
1. 711ผู้ผลิตควบคุม น้ำหล่อเย็นcooling exhaust gas ที่อุณหภูมิเท่าไร
2.V4-275R mk3 มีขนาด และหนักเท่าไร และ se 217kw จีนมีขนาด และหนักเท่าไร
3.crankshaft ที่สั้น และยาวต่างกัน ก่อเกิดเสียงดังต่างกันอย่างไร มีสมการ หรือกราฟให้ดูไหมครับ
4.จากข้อ3 คุณรู้ได้อย่างไร รดน.จีนไม่ใช้ Anti-shock isolator ซึ่งมีทั้งข้อมูล และรูปถ่ายปรากฏมาเขาใช้ ทำไมถึงว่าไม่ใช้
5.รดน.ญี่ปุ่น สวีเดน และจีน มีระดับเสียง กี่ dB
คิดว่าคุณทราบ เห็นสรุปมาซะขนาดนั้น
**มีกราฟthermodynamic ของ SE แบบรูปให้ดูไหมครับ เปรียบเทียบระบบจริง กับ ideal
มีกราฟแบบนี้ให้ดู ประกอบคำอธิบายไหมครับ
เห็นด้วยครับ...ข้อมูลควรมีการอ้างอิง จากแหล่งที่เชื่อถือได้ เช่น จากกองทัพเรือหรือจากกองทัพเรือคู่แข่งนำเสนอ....
ข้าราชการกองทัพเรือที่เป็นคณะกรรมการ.....................เลือกสิ่งที่ดีที่สุด ณ วันนี้ ตามงบที่มี (คงมีความรู้และข้อมูลมากกว่าคนหน่วยอื่นๆใน ปท.แน่ๆ ในประเด็น รดน.ยุคปัจจุบัน ผมเชื่อเช่นนั้นสุดหัวใจ)
.. ปล.ถ้าจะเปลี่ยนเป็นอื่นคงรอลุงตู่แหละครับ ....ตอนนี้สรุปเบื้องต้น หยวนๆ.....ครับ
ผมงงมานานละว่าที่ว่าดำได้ 21 วันนี่ รู้ได้ไงครับ เรือยังเป็นวิญญาณอยู่บนกระดาษอยู่เลย
ถ้าการจัดซื้อเราทำแบบเซฟจริงๆ คือไม่มีความเสี่ยง ยังไงก็ต้องซื้อ 209/1400mod ครับ หรือไม่ก็ ula Mod เพราะมีใช้แล้ว พิสูจน์ได้ ระบบมีการฝึก เรามีซิมูเลเตอร์ ไม่ใช่มาเดาๆ แล้วบอกว่าเจ๋งแน่นอน คุ้มค่าและฉลาดที่สุดแล้ว
วัดความเสี่ยงกันมันชัดเจนมาก ประเทศเราไม่ได้เงินเหลือเฟือที่จะไปเสี่ยงๆ ทดลองๆ เป็นหนู เจริญล่ะครับ มันไม่มีสาเหตุที่จะเสี่ยงจริงๆ เราไม่ได้เป็นเกาหลีเหนือหรืออิหร่านที่ไม่มีทางเลือก เรามีทางเลือกครับ แล้วดูเลือกดิ
เรื่องแหล่งข้อมูลที่เชื่อถือได้จากกองทัพเรือก็ไม่อยากจะไปพูดถึง เพราะขนาดคนระดับใหญ่ๆ จากทร.ยังสามารถทราบสเป็คเรือที่มีแต่วิญญาณอยู่บนเศษกระดาษได้ และรู้ดีอีกว่าเรือของคนอื่นๆ ไม่มี aip และดำได้ 5-6 วันต้องโผล่หัว ครับ
เพราะทุกอย่างทุกเรื่องราวคนไทยชอบ.........มโน (คณะกรรมการคัดเลือกคงไม่มโนมั้ง เพราะเป็นผู้รู้มากที่สุดในไทยเรื่อง รดน.)
ถึงขอดูหลักฐาน อย่างน้อยกระดาษ ดีหน่อยข้อมูล รูปภาพ สถิติ หรือผลการทดสอบวิจัย ที่มีเป็นตัวตน ถ้าไม่มี ก็ต้อง
...เชื่อไว้ก่อนว่า เป็นความเห็นส่วนตัว...
เอางี้ เผอิญ เป็นเรือ จีน แต่จีนผมก็เห็นจีนยิงดาวเทียมเยอะแยะ หรือรถไฟแม่เหล็กที่บริการประชาชนเชิงธุรกิจน่าจะเป็นชาติแรกๆเลยมั้งและเปิดมานานแล้ว เผลอๆเป็นชาติเดียว(ถ้าจำผิดที่มีหลายชาติแล้วขอโทษด้วยครับ) สรุป จีนก็พอมีเทคโนโลยีที่ดีและนำมาใช้ได้จริงหลายอย่าง แถมมีไข่ปลอม เลือดปลอม ข้าวสารปลอม ฯลฯ
ต้องขอสอบถาม ท่าน Jaidee ว่าถ้าเชื่อว่าคนในกองทัพรู้ดีที่สุด เลือกดีที่สุด รบกวนช่วยอธิบาย เงื่อนใข/กลไกที่ทำให้มันเกิดกรณี เรือเหาะ ไม้ล้างป่าช้า GT200 เรือรบ 2 ชุดที่ซื้อจากจีน แล้วต้องกลับมาแก้ไขปรับปรุง ในท้ายที่สุดก็ไม่ใด้สมรรถนะตามที่ตั้งไว้ตั้งแต่แรก อธิบายตามความเห็นของท่านล่ะครับ ไม่ต้องอิงหลักการ/หลักฐานอะไรก็ใด้ เพราะเรื่องเหล่านั้นมันมีหลักฐานเชิงประจักรที่ทุกคนรู้อยู่แล้ว
ส่วนตัวผม ผมว่าไม่เสมอไปครับที่คนที่รับผิดชอบจะรู้ดีที่สุด / เลือกดีที่สุด การที่สาธารณชนแสดงความคิดเห็นเชิงสร้างสรรค์ ถามคำถามที่ก่อให้เกิดความรู้ความเข้าใจ (ไม่ใช่ กร่าง กวน ชวนทะเลาะ) มีส่วนช่วยในการพัฒนาประเทศทางหนึ่งครับ
ตอนนี้ ขณะนี้ ผมเชื่อข้อมูลจากกองทัพเรือ(คณะกรรมการ)
ซึ่งเป็นคนที่อยู่บนเรือ เอาทหารเรือที่อยู่ในกองเรือดำน้ำ ที่จะต้องเป็นผู้ไปอยู่บนเรือดำน้ำ เป็นผู้ให้คะแนนเองทั้งหมด...
มากกว่าครับ....เพราะเขาศึกษาและเรียน ทำงานมาทางนี้ ขั้นต่ำจบมาทำงานใหม่ก็ ป.ตรี อยู่นานอีกนิดถึง ป.เอก มั้ง ถ้าไม่เชื่อข้อมูลเขาเหล่านั้น ทั้งนี้ต้องส่งเรื่องให้คณะรัฐมนตรีพิจารณาตัดสินใจ...
ให้ผมเชื่อใคร ครับ
ปล. มีผลแล้ว กม.'ป.ป.ช.' จนท.รัฐ'ทุจริต'โทษประหาร | ขอให้ศักดิ์สิทธิ์...ถ้าทำด้วยความบริสุทธิ์ใจ ก็ขอให้รอด
300วัตต์ ครับผม ตามที่เขียนเลยครับ(เท่าเครื่องทำน้ำอุ่นเล็กๆอะหละ) เค้าไว้ใช้ต้มชากินกันใต้น้ำครับ ส่วนใบจักรก็ให้ลูกเรือหมุนมือกันเอาครับ (อันนี้ใครเชื่อผมก็บ้าแล้ว)
ต้องขอโทษทุกท่านนะครับ ผมติดหยอกเล่นไปนิดหนึ่ง จริงๆผมก็แค่ลองถามกลับให้ได้คิดกันอะครับ เห็นท่าน hongse_c ถามหาแต่ "ของจริง ของจริง ไม่เอาทฤษฎี" ซึ่งในความเป็นจริงที่คุยๆกันมาตลอดก็เป็นแนวคิดและทฤษฎีทั้งนั้นแหละ ครับ(ส่วนใครมีข้อมูลประกอบก็ว่ากันไป ตามความน่าเชื่อถือของข้อมูล ซึ่งดีมากนะครับ แต่ก็ไม่ควรเอาไปเกทับความเห็นคนอื่นเค้า) แล้วข้อมูลที่ ท่าน hongse_c ให้มาก็ทฤษฎีทั้งนั้น ไม่ก็เป็นบทความครับ(มันไม่ใช่บันทึกผลการทดลอง หรือผลการทดสอบ ที่จะสามารถเรียกได้ว่าของจริงนะครับ) แถมภาษาจีนอีกอ่านไม่ออกบอกตรง ถ้าผมมีสิทธิเชื่อได้แต่ของจริง บ้านผมมีเครื่องทำน้ำอุ่นจีนอะครับ ผมก็เชื่อได้แค่ 300วัตต์อะ
เอาจริงๆแล้ว ผมว่า aip ของจีนเค้าบอก 300w ก็ 300w ครับ ผมไม่ต้องไปดู ชาร์ท กับบันทึกการทดลอง หรือไปดึงข้อมูลจากคอนโทรลยูนิต แต่ผมเชื่อในเครดิตของจีนครับ(คุณเคยไม่เชื่อแรงม้าของเครื่องยนต์รถของคุณ ไหมอะครับ และต้องมานั่งวัดกันเองอะเปล่า แบบหนูไม่เชื่อขี้หน้ายี่ห้อรถของตัวเองอะ) แต่ก็ต้องคิดตามครับว่า ถ้ามีเครื่องกลประเภทเดียวกัน อยู่สองชิ้น ชิ้นหนึ่ง 300 แรง ชิ้นสอง 75 แรง โดยทั้งคู่ใช้ทรัพยากรพอๆกัน ถ้าไอ้อัน 75 แรง ถ้าคนคิดมันไม่โง่ชิหาย ก็แปลว่าไอ้อัน 300 แรง คนคิดมันเก่งสร้างภาพแหละครับผม ซึ่งพอดีผมมีความรู้ทางกลนิดหน่อยเลยประเมินตามที่เขียนๆไปข้างบนอะครับ ซึ่งจะจริงๆไม่จริงก็คิดกันเอาเองนะครับ อย่างเครื่องเล็กๆในรถยนต์ เสียบสายเข้า odb port ได้เรื่องเลย ecu มันก็บอกหมดทุกอย่างแล้วอะครับ จะทดสอบอีท่าไหนได้โหมด ถ้าจีนเค้าจะโชว์ aip (ของจริงดิ)ให้เกรียนแบบผมได้จับผิดเค้าทำได้อยู่แล้วครับผม
ปล.ผมไม่รู้นะครับว่าจะเอา กราฟ P-v Diagram มาให้ดูกันทำไม รู้เปล่าอะครับมันบอกอะไร หน่วยเป็นอะไร วัฏจักรหนึ่งเนี้ยได้งานเท่าไร ตัวก๊าซเป็นชนิดไหน แล้วเกี่ยวอะไรกับ aipจีน ผมก็งงนะครับว่า จะเอาข้อมูล(ทำมือ) ทั้งที่คนส่วนใหญ่ก็ไม่รู้ว่ามันคืออะไร เอามาเพื่อ ทั้งที่เอา ชาร์ทวัตต์จากตัวคอนโทรลยูนิตที่ตัวเจนเนอเรเตอร์มาแสดงก็จบไหมครับ ใครๆก็รู้ทฤษฎีเหรอครับ ผมสงสัยว่าคนไม่ได้เรียนเครื่องกลมาเค้าจะรู้ไหมครับ(คนรู้เค้าก็ขำอะครับ) ถ้าผมจำไม่ผิด มีสูตร 2 สูตรดูดิครับว่ามันเกี่ยวกันยังไงกับ aipจีน และกราฟที่ให้มา
W[net] = P[meff] m ( v[max] - v[min] )
W' = P[meff] m v[displ] (RPM/60)
เข้าใจครับคุณ Jaidee เมื่อเป็นเรื่องของความเชื่อในองค์/บุตคลแล้ว หลักฐาน/ เหตุผล/ การค้นคว้า ก็ไม่จำเป็นแล้วครับ
ส่วนท่านที่ยังคุยๆกันอยู่ในประเด็นว่ารุ่นไหนจะดีกว่ากัน ก็คงเป็นเพราะยังสงสัย ยังต้องการข้อมูลเพิ่มนั่นเอง
ธรรมดาโลกน่ะครับ
คุณ SAM ตัดสินคนอื่นซะแล้ว
คุณมีหลักฐานก็โชว์ซิครับ.....หลักฐานจำเป็นครับ ....... คนเราไม่จำเป็นต้องคิดเหมือนกันครับ
ผมจะรอดูอยู่ครับ
เราก็อยู่ในโลกมนุษย์เหมือนกัน 555555
แต่บางสิ่ง บางอย่าง เป็นความลับทางราชการ ประชาชนกระจอกๆอย่างเราๆ ยังจะหวังจะรู้อีกรึ น่าจะคิดได้นะ
ยังไงก็รีบมีไวๆเถอะ ตอนนี้สื่อรอบบ้านอาเซียนกำลังเขียนข่าวอยู่น่ะ 555+
ผมไม่ใด้ตัดสินอะไรเลยครับคุณใจดี ผมเพียงแต่บอกว่าผมเข้าใจว่าจุดที่คุณอยู่คือ เชื่อในวิจารณญาณของคณะกรรมการ
ขยายความก็คือ เมื่อคุณเชื่ออย่างนั้น เหตุผลที่นำมาพูดคุยกันในนี้ก็ไม่มีนำ้หนักพอที่จะเชื่อถือได้ (สำหรับคุณ) เพราะคนที่พูดคุยในนี้ไม่น่าจะมีไครที่รู้ดีเท่า จนท ใน ทร. (ในความเห็นของคุณ). เพราะคุณบอกชัดเจนว่าคุฌเชื่อวิจราณญาณของท่านเหล่านั้น
ตัวผมเองตอนนี้ยังไม่เชื่อไครทั้งนั้น จุดที่ผมอยู่คือ
1) เชื่อว่าทางเทคนิคแล้วเรือจีนไม่ใด้เป็นตัวเลือกที่เหมาะสมที่สุดสำหรับ ทร ไทย
2) งป 36,000 ล้าน น่าจะมีทางเลือกสำหรับ ด 2ลำตามที่ ทร ต้องการ ที่ตั้งเป็นข้อกำหนดไว้ตอนต้น และมันมีข้อมูลขัดแย้งหลายอย่างเกี่ยวกับ บ ใหนเสนอเรือ แบบใหน สเปคเป็นอย่างไร ถ้าจะบอกว่ามันเป็นความลับของทางราชการ ทำไมเราถึงรู้ว่าเรือมาเลเซีย สิงคโปร์. อินโด. สเปคเป็นอย่างไร. รวมทั่งสื่อต่างชาติก็เสนอว่าสเปคที่ บ. ต่างมานำเสนอมีอะไรบ้าง
3) การตัดสินใจเลือกเรือจีนอาจมีเหตุผลทางการเมืองระหว่างประเทศ แต่ไม่มีไครกล่าวถึงอย่างเป็นทางการ และไม่มีข้อมูล ผมให้นำ้หนักเรื่องนี้มากพอสมควร. ถ้าไปอ่าน ความเห็นผมในกระทู้นี้จะเห็นชัดเจนว่าผมเข้าใจใด้ ถ้าเป็นเหตุผลทางการเมือง
4) จากการตัดสินใจหลายเรื่องในอดีต ผมขาดความเชื่อมั่นในกระบวนการตัดสินใจของผู้มีอำนาจ/ใด้รับมอบอำนาจในการตัดสินใจ จะด้วยผิดพลาดโดยสุจริต หรือ จงใจก็ตาม ผลลัพธ์คือ ผมขาดความเชื่อมั่นครับ. ดังนั้นผมจึงยังมีคำถามอยู่เยอะครับ
หลักฐานและความรู้. ผมไม่ใด้มีมากไปกว่าสมาชิกท่านใดหรอกครับ ส่วนใหญ่ก็ไปหาข้อมูลเพิ่มเติมเวลามีประเด็นให้คิดล่ะครับ
ย้ำว่าผมไม่มีปัญหากับจุดที่ท่านอยู่นคะรับ
คือถ้าผมสรุปให้ตัวผมเองใด้แล้วว่าเรื่องนี้ผมเลือกทางใหน (อย่างคุณใจดี ที่เลือกแล้ว) . ผมก็หมดความสนใจที่จะคุยต่อแล้วล่ะครับ เพราะเลือกไปแล้ว หมดคำถามแล้ว
~~อยากได้ ข้อมูลเบื้องต้น เรือจากชาติต่างๆเขาก็มีอยู่แล้วครับ ไม่ได้มโน มาเองแต่อย่างใดครับท่าน เป็นข้อมูลที่เปิด เนต มาถ้าอ่าน ภาษาอังกฤษออก ก็ทำความเข้าใจได้ไม่ยาก ซึ่งเรือที่ส่งมอบของแต่ล่ะประเทศ อาจจะมีรายละเอียดแตกต่างกันไปเล็กน้อย ตามความต้องการและวัตถุประสงค์รูปแบบการใช้งาน ของกองทัพเรือประเทศนั้นๆ
ลองไล่ดูสเปค เรือที่เป็นคู่แข่งขัน แต่ล่ะเจ้ามาดู น่ะครับ
เอาอันที่มีสเปค หรือ ข้อมูลเรือดำน้ำ เปิดเผยทั่วไป บนเนต น่ะครับ ตัวที่มีmod(modified) สเปคมันจะสูงกว่าที่มีใช้อยู่ก่อนหน้านี้ เพราะสร้างมาทีหลังแต่บางลำสร้างรุ่นmodแล้ว บางลำยังไม่ได้สร้างรุ่นmod แต่ก็จะมีรุ่นที่ใช้งานก่อนหน้านี้อยู่แล้ว(ตัวที่ไม่ได้mod)
Type 209/1400mod
Type210mod
Type209 Chang Bogo (Korean mod)
Scopene รุ่น2000 (รุ่นเดียวกับมาเลเซีย)
Improved kilo class 636 (Varshavyanka) อันนี้ตัวเดียว กับเวียดนามเลย
Amur 1650 (Export version of Lada class)
ทีนี้มาดูเรือ ที่ยังอยู่บนกระดาษกันบ้าง คือแผ่นเหล็กยังไม่ได้ตัดเลย
A26
S26T (scale down from type 039B)
HDS-500 RTN
Scopene รุ่น1000
จากข่าวที่ออกมา จะเห็นได้ว่า ทร.เราเลือกแบบเรือที่ยังไม่เคยมีการสร้างมาก่อน คือในกลุ่มที่สอง อันนี้ก็งงแล้วว่า ทหารเรือไทยใจกล้าจัง ของสเปน รุ่นใหม่S80 ที่ตอนแรกว่าจะอิงแบบ scopene ต่อมาแก้แบบ สร้างเอง ปรากฎว่ายังไม่เสร็จดี ดำได้แต่ไม่ยอมลอย มีปัญหาเรื่องแรงลอยตัว ต้องขอให้อเมริกามาช่วยแก้แบบ ใครตามอ่านข่าวเรือดำน้ำก็คงเคยผ่านตากันมาแล้ว type 214 ตอนผลิตล๊อตแรกเกาหลีกับกรีซ ก็ออกมาโวยวาย เรื่องเรือโคลง เสียงดัง AIP วิ่งไม่ได้ความเร็วจริง อย่างที่คุยเอาไว้ เล่นเอา HDW หน้าชาต้องมาแก้งานกันหลายรอบ เรื่องถึงโรงถึงศาลระหว่างประเทศ scopene ของมาเลย์ มาแรกๆ ถังอากาศอัดแรงดันมีปัญหา เกือบดำแล้วไม่โผล่ ต้องให้ DCNS มาแก้ บริษัทเลยต้องยืดระยะเวลาการรับประกันออกไปอีกเป็นการชดเชย ข่าวเหล่ามีออกมาปรากฎชัดเจนไปทั่วโลก คงไม่ต้องขอหลักฐาน อะไรจากผมน่ะครับ พิมพ์กูเกิลแปบเดียวก็ขึ้นมาหมดแล้ว แล้วอย่างนี้ ท่านอื่นๆ ท่านคิดว่า การเลือกเรือดำน้ำแบบใหม่ที่ไม่เคยมีการผลิตมาก่อน เป็นความเสี่ยงไหมครับ ความรับผิดชอบของผู้ผลิต ความน่าเชื่อถือของผู้ผลิต สำคัญในการตัดสินใจไหมครับ
ประชาชนผู้สนใจข่าวสารทางทหารก็งงว่า ไม่เอาเรือดำน้ำแบบเสี่ยงน้อยๆ ในกลุ่มที่หนึ่งเหรอ อย่างน้อยก็มีลำที่สร้างออกมาวิ่งจริงๆในทะเลแล้วน่ะ เอาเงิน 200 ล้านนั่งเครื่องไปลองดูจะจะ ขอเค้าพาลองเครื่องลองวิ่ง พาออกทะเลไปดำสักรอบสองรอบกันให้หาย สงสัยไปเลยดีไหม ว่าทำได้ตามสเปคกระดาษไหม อารมณ์ ขอลองขับรถก่อนเซ็นใบจอง
แต่ ทร.ก็บอกว่า เอาอันที่ยังไม่ผลิตออกมาเนี่ยแหละ สเปคมันเทพสุด ว่าแล้วก็ตัดสินใจวางเงินมัดจำเซ็นใบจองรถ ตั้งแต่ยังไม่ผลิตเลย มันน่าห่วงไหมครับ
พอประชาชน ออกมาถามเพราะสงสัย ท่านก็บอกว่าทหารเรือรู้ดีที่สุดแล้ว ตัดสินใจดีที่สุดแล้ว ท่านตัดสินใจแล้ว เลือกแบบแล้ว ดังนั้นข้อเสนอของคู่แข่งรายอื่นๆ ท่านก็เอามาเปิดเผยเป็นข้อมูลสาธารณสิครับ ว่าบริษัทอื่นเขาให้อะไรบ้าง ถึงสู้เรือจีนไม่ได้ ถ้าท่านเงียบ แล้วก็บอกว่าอันนี้ดีที่สุด อย่างนี้ ท่านจะให้ ประชาชน หรือ หน่วยงานอื่นเค้าคิดอย่างไร เพราะข้อมูล ที่ท่านให้สัมภาษณ์ มันตรงข้ามกับ ที่คนอื่นเค้าหาอ่านกัน คงมีทั้งคนที่เห็นด้วยและไม่เห็นด้วยแหละครับ
คนที่เค้าออกมาทักท้วง ส่วนเค้าเป็นห่วงน่ะครับ ทุกคนเข้าใจถึงงบประมาณของประเทศที่มีอยู่อย่างจำกัดครับ เลยอยากให้ได้ของดี ได้ใช้ของดี ปลอดภัย สมรรถนะสูง ออกไปรบแล้วชนะเค้า
ถ้าจะเอา เรือดำน้ำจีน เพราะต้องการ จำนวน สาม ลำ ก็พูดตรงๆ อย่าอ้างสเปคอย่างอื่นครับ เพื่อกดให้เรืออื่นๆมันดูแย่กว่าที่ท่านเลือก หรือ จะซื้อเพราะ เชื่อมความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ เหมือนที่ออสเตเลีย พยายามทำกับเรือดำน้ำญี่ปุ่นก็บอกประชาชนตรงๆเลยครับ ผมว่าชาวบ้านเค้ารับได้ หรือเลือกเพราะเค้าจะซื้อข้าวซื้อยางตอบแทน ก็ออกมาบอกเลยครับ อย่างอ้างสเปคที่มันค้านสายตาประชาชนเลย มันดูแล้วรู้สึกคลางแคลงใจ(แต่ก็ดีกว่าไม่มีเรือดำน้ำอ่ะนะ)
เรือ S26T ยังไงก็ไม่มีทางที่จะมีสเปคสูงกว่า Type 039B ส่วนจีนเค้า ไปไกล Type 039C แล้ว ดังนั้นถ้าจะเดา สเปคเรือดำน้ำที่ ทร.เราเลือก ก็ เอา type 039B มาลดสเปคลงไปได้เลย ยังไงก็ไม่มีทางเทียบเท่า 039B อยู่แล้ว ดังนั้น
ถ้าเอา ขีดความสามารถ เรือดำน้ำไทย = 3 x (80% คูณ สเปค type 039B )
ถ้าลองเทียบกับ 2 x type 210mod
2 x type 209/1400mod
2 x type 209 (Chang Bogo)
2 x Improved Kilo
2 x Amur 1650
2 x A26
คือ คน ส่วนใหญ่ที่เขาติดตามมา เค้า คิดว่า ตัวเลือกอื่นๆ มันน่าสนใจ กว่า ตัวเลขสามลำ ครับ ดังนั้นจะเป็นการดี ถ้ามีการเปิดเผยข้อมูล ให้หายสงสัยกัน ว่าตัวเลือกที่ ทร.เลือก มันดีอย่างไร และคงได้รับเสียงสนับสนุนมากขึ้น ถ้ายังอึมครึมอย่างนี้ ถ้าได้รับอนุมัติจัดซื้อจริง เวลาเท่านั้นที่จะเป็นเครื่องพิสูจน์การตัดสินใจ ของ ทร.ไทยในครั้งนี้
ขอย้ำอีกครั้งว่า อิจฉา สิงคโปร์จริงๆ กับ ดีล เรือดำน้ำ type 218SG สองลำ
ทร.กล้าเปิดเผย spec ไหมครับ ไม่ต้องกลัวหรอกครับไอ้ความลับราชการน่ะ ในบอร์ดเมืองนอกหรือแม้แต่เจนต์เค้าเอามาโชว์กันให้บึ้ม สิ่งที่อยากเห็นคือ กล้าทำอย่างสวิส หรือเนเธอแลนด์หรือเปล่าครับ เปรียบเทียบประสิทธิภาพให้เห็นกันจะจะไปเลยครับ ประชาชนตาดำๆจะได้มั่นใจในการจัดซื้ออาวุธของกองทัพ มันหมดยุคแล้วครับกับการเอาคำว่าความลับราชการมาอ้าง ปล. ผมอิจฉาพี่สิงค์เหมือนกันครับ
ทร.ยังไม่ส่ง'เรือดำน้ำ'ให้คตร.
'อนันตพร' เผยโครงการซื้อ 'เรือดำน้ำ' ต้องผ่าน คตร.ก่อนเข้า ครม. ระบุ ตอนนี้ยังไม่มีการส่งเรื่องมา
13 ก.ค. 58 เมื่อเวลา 13.00 น. พลเอกอนันตพร กาญจนรัตน์ ประธานคณะกรรมการตรวจสอบการใช้งบประมาณภาครัฐ (คตร.) ของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เปิดเผยว่า ในส่วนของโครงการจัดซื้อเรือดำน้ำ 3 ลำจากประเทศจีนของกองทัพเรือ ยังไม่ได้ส่งเรื่องมาให้ คตร.พิจารณา เนื่องจากโครงการดังกล่าวอยู่ในขั้นของการจัดทำรายละเอียดเรื่องงบประมาณ และเมื่อทำรายละเอียดเกี่ยวกับงบประมาณเสร็จแล้ว จึงจะส่งมาให้ คตร.ตรวจสอบ ก่อนนำเข้าพิจารณาในที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ตามลำดับ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับหลักเกณฑ์ในการนำโครงการภาครัฐเข้าพิจารณาของ คตร.นั้นส่วนใหญ่เป็นโครงการขนาดใหญ่ที่มีมูลค่าโครงการมากกว่า 1,000 ล้านบาทขึ้นไป หรือไม่ถึง 1,000 ล้านบาท ก็จะพิจารณาเป็นรายโครงการ
http://www.komchadluek.net/detail/20150713/209666.html
รีบๆมีเสียทีเถอะ คิคิ ทัพเหงียนจะได้ทึ่งซะบ้าง
1.คุณpotmon ที่ผมถามไป เอามาให้ดูด้วยครับ ถ้าคุณมีที่ผมโชวงานวิจัย AIP จีนให้ดูครับ
2.จาก//ปล.ผมไม่รู้นะครับว่าจะเอา กราฟ P-v Diagram มาให้ดูกันทำไม รู้เปล่าอะครับมันบอกอะไร หน่วยเป็นอะไร วัฏจักรหนึ่งเนี้ยได้งานเท่าไร ตัวก๊าซเป็นชนิดไหน แล้วเกี่ยวอะไรกับ aipจีน ผมก็งงนะครับว่า จะเอาข้อมูล(ทำมือ) ทั้งที่คนส่วนใหญ่ก็ไม่รู้ว่ามันคืออะไร เอามาเพื่อ ทั้งที่เอา ชาร์ทวัตต์จากตัวคอนโทรลยูนิตที่ตัวเจนเนอเรเตอร์มาแสดงก็จบไหมครับ ใครๆก็รู้ทฤษฎีเหรอครับ ผมสงสัยว่าคนไม่ได้เรียนเครื่องกลมาเค้าจะรู้ไหมครับ(คนรู้เค้าก็ขำอะครับ) ถ้าผมจำไม่ผิด มีสูตร 2 สูตรดูดิครับว่ามันเกี่ยวกันยังไงกับ aipจีน และกราฟที่ให้มา
W[net] = P[meff] m ( v[max] - v[min] )
W' = P[meff] m v[displ] (RPM/60)
//
+++งง เห็นบอกอยากคุยทฤษฎี พอเอาทฤษฎีมาประกอบอธิบาย กลับมาถาม ไม่รู้จริงๆ หรือครับ
P-v Diagram ตามรูป เป็นการเทียบกัน ของระบบ SE จริง กับideal แกนตั้ง เป็นความดัน หน่วย kPa แกนนอน เป็น specific volume หน่วย m3/kg ,Th,Tl เป็นอุณหภูมิฝั่งร้อน และเย็น มีหน่วยเป็น K ตามกราฟ เขากำหนดอัตราการอัดที่ 6:1 อุณหภูมิ 300-600 K ใช้อากาศเป็นตัวกลาง(สารที่ถูกอัด) ที่ 100 kPa ที่ stage 1 ที่300k
กราฟนี่บอกว่าอะไร??? บอก
1.อธิบายการทำงานในแต่ล่ะ stage ซึ่งวัฏจักร SE มี 4stage ตามรูปที่1
2.จากข้อ 1เปรียบเทียบระบบจริง กับideal
3.ความดัน และspecific volume บอกกอะไร?
บอก กำลัง (Watt) ตามรูปที่2 ซึ่งP-v Diagram จะเป็นการอธิบายว่าระบบ Seนั้น มีแต่ล่ะ stage อย่างไร และ stage ไหนให้กำลังที่สูง
แล้วทำไมต้องยกมา???
ตอบ
เพราะบางท่านยกเอา"ทฤษฎีเชิงบรรยาย มาอธิบายเข้าข้างความเชื่อผิดๆของตนเอง" ซึ่งจะมีผลต่อผู้อ่านที่ไม่ได้เรียน ME มา ผมจึงต้องอธิบายโดยใช้ P-v Diagram ซึ่งเป็นการอธิบาย ทฤษฎี ของ SE ที่ชัดเจนที่สุด
และ ถ้าจะมาคุยกัน ควรยก P-v Diagram มาโชว เช่นที่บอกว่า
1.ของจีนต้องร้อนมากกว่า นี่ร้อนกี่ K
2.ของจีนต้องใหญ่กว่า นี่มี specific volume
3.ของจีนต้องสั่น นี่ ความดันกี่ kPa
3.ถาม
เครื่อง ICE ของ corolla 1.6
ระหว่าง E100 1.6L 4a-fe 85 kW ที่6000 rpm
E170 1.6L 1ZRFE 92 kW ที่6000 rpm
ถาม
1.ทำไม เครื่อง 1.6L 1ZRFE ให้กำลังขับมากกว่า ทั้งที่ความจุเท่ากัน??
2.ทำไม 1.6L 1ZRFE สั่นน้อยกว่า เมื่อเทียบ กับ 1.6L 4a-fe ทั้งที่ให้กำลังมากกว่า ???
และทำไม ไม่ตรงกับ "ทฤษฎีเชิงบรรยาย มาอธิบายเข้าข้างความเชื่อผิดๆของตนเอง" ที่ยกมาว่า เครื่อง SE กำลังมากกว่า ต้องมีความจุมากกว่า ต้องสั่นมากกว่า
***SE และ ICE ก็มี crankshaft และกระบอกสูบเหมือนกัน จึงสามารถเทียบเคียงกันได้
**** แล้วจะมาสรุปอีกที ว่าทำไมถึง ทฤษฎีเชิงบรรยาย มาอธิบายเข้าข้างความเชื่อผิดๆของตนเอง ของ SE จีนที่มีกำลังมากกว่าไม่ได้
รูปที่1 แสดงวัฎจักรของ SE
รูปที่2 แสดงกำลังหรือ net work done per cycle (Joules) ของ SE ในจังหวะอัด
เพิ่มเติม
จากทำไมเครื่องยนต์ ไม่ว่าจะ ICE หรือ SE ให้กำลังมากกว่า กลับสั่นน้อยกว่า
---ใบ้ให้ เกี่ยวกัย Dynamic Balance และ Anti-shock isolator
เจอข้อมูลที่ท่าน hongse_c มาแสดงเข้าไปมันบงบอกถึงการแสดงความคิดเห็นที่มีน้ำหนักหรือความน่าเชื่อถือมากกว่า การกล่าวเลื่อนลอยในทางลบต่อเรือดำน้ำจีน เพราะส่วนใหญ่ที่วิจารณ์กันไม่มีใครรู้จริงถึงสเปคเรือดำน้ำจีน เพราะส่วนใหญ่จะเป็นแฟนฝั่งตะวันตก เพียงแต่คาดเดาไปต่างๆนาๆ แต่ท่าน hongse_c เป็นผู้เชียวชาญเกี่ยวกับอาวุธจีนเลย ผมให้น้ำหนักความน่าเชื่อถือนะ แต่ส่วนที่สั่งเรือดำน้ำไปแล้วสเปคจะเป็นอย่างไรต้องให้กองทัพเรือมาชี้แจงอีกที แต่ผมเชื่อมั้นในกองทัพเรือว่าจัดซื้อเหมาะสม
กองทัพเรือชี้แจงไปแล้วครับว่าเรือจีนนี่แหละดีสุด มี aip เจ้าเดียว อาวุธครบคนเดียว และดีลฉลาดและคุ้มค่าที่สุด ดำได้ 21 วันและคู่แข่งดำได้ 5-6 วันต้องโผล่หัวขี้นมา
ปล. ของจีนได้สามลำด้วย
ถึง ท่าน SAM ถ้าไม่ระบุตัวตน ผมคงมองแบบผ่านๆครับ.....ไม่รู้สึกใดๆ
นี้คือข้อความแรก....ต้องขอสอบถาม ท่าน Jaidee ว่าถ้าเชื่อว่าคนในกองทัพรู้ดีที่สุด เลือกดีที่สุด รบกวนช่วยอธิบาย เงื่อนใข/กลไกที่ทำให้มันเกิดกรณี เรือเหาะ ไม้ล้างป่าช้า GT200 เรือรบ 2 ชุดที่ซื้อจากจีน แล้วต้องกลับมาแก้ไขปรับปรุง ในท้ายที่สุดก็ไม่ใด้สมรรถนะตามที่ตั้งไว้ตั้งแต่แรก อธิบายตามความเห็นของท่านล่ะครับ ไม่ต้องอิงหลักการ/หลักฐานอะไรก็ใด้ เพราะเรื่องเหล่านั้นมันมีหลักฐานเชิงประจักรที่ทุกคนรู้อยู่แล้ว
ส่วนตัวผม ผมว่าไม่เสมอไปครับที่คนที่รับผิดชอบจะรู้ดีที่สุด / เลือกดีที่สุด การที่สาธารณชนแสดงความคิดเห็นเชิงสร้างสรรค์ ถามคำถามที่ก่อให้เกิดความรู้ความเข้าใจ (ไม่ใช่ กร่าง กวน ชวนทะเลาะ) มีส่วนช่วยในการพัฒนาประเทศทางหนึ่งครับ
นี้คือข้อความสอง.....เข้าใจครับคุณ Jaidee เมื่อเป็นเรื่องของความเชื่อในองค์/บุตคลแล้ว หลักฐาน/ เหตุผล/ การค้นคว้า ก็ไม่จำเป็นแล้วครับ
นี้คือข้อความที่สาม......คือถ้าผมสรุปให้ตัวผมเองใด้แล้วว่าเรื่องนี้ผมเลือกทางใหน (อย่างคุณใจดี ที่เลือกแล้ว) . ผมก็หมดความสนใจที่จะคุยต่อแล้วล่ะครับ เพราะเลือกไปแล้ว หมดคำถามแล้ว
@@@ ประโยคเหล่านี้ 2 ข้อความแรก ล้วนทำให้ผู้อ่านท่านอื่นๆ บางคน...อาจคิดว่าผมเป็นเช่นนั้น คือไม่ต้องใช้เหตุผล หลักฐานก็ไม่จำเป็น ซึ่งเป็นประโยคที่กระทบกระเทียบคนอื่น.....ซึ่งปกติก็อยู่ในเว็บนี้มานานก็ได้แต่อ่านและไม่ค่อยได้คอมเม้นส์มากมายนัก...... ข้อความเหล่านี้แหละ...... คือการ "ตัดสินคน" ครับ
และที่สำคัญผมไม่ได้เลือกสิ่งใดๆเลย ผมเลือกในสิ่งที่ควรจะเป็น คือเลือกเชื่อข้อมูลจาก "กองทัพเรือ" ที่ใช้เหตุเหมาะสมที่สุด แม้แต่หากกองทัพเรือจะเปลี่ยนไปเลือกแบบอื่นๆ ก็ตาม(แบบเรือรุ่นใหม่ของสิงคโปร์ก็ดีนะ)...... ณ ตอนนี้
ส่วนตัวอีกเช่นกัน ที่เราอาจมีข้อมูลคุยไม่ตรงกัน เพราะข้อมูลสำคัญๆ คณะกรรมการคัดเลือกเขาไม่แจ้งบอก นั่นก็คือผลของการกลายเป็นความลับ....แม้แต่นายพลเรือหลายๆท่าน ที่ไม่เกี่ยวข้องกับภารกิจนี้ยังไม่สามารถทราบข้อมูลข้อคิดเห็นที่ได้ตัดสินใจจากคณะกรรมการเป็นรายบุคคลได้เลย...... แล้วพวกเราเรอะ....ก็พูดข้อมูลกันไปทั่ว ไม่รู้จริงหรือเปล่าในแต่ละเรื่อง....
ด้วยความเคารพสมาชิกทุกท่านครับ
ผมคิดว่าคุณ sam ไม่ได้พูดในเชิงลบหรือว่าดูถูกเสียดสี อะไรนะครับ
"การอ่านเพื่อพยายามเข้าใจความหมาย จากข้อความที่ผู้เขียนสื่อให้อ่าน อาจจะตีความหมายได้ตรงกับความมุ่งหมายหรือเจตนาของผู้เขียนก็ได้ หรือบางครั้งอาจจะเข้าใจความหมายตามวิธีของเราเอง โดยอาศัยพื้นความรู้เดิม ความสนใจ ประสบการณ์ ระดับสติปัญญา และวัย"
นี้คือตัวอย่าง ผมก็ไม่ได้ว่าใครเลยเช่นกันครับ แต่อาจมีผู้เสียหายจากการแปลข้อความหรือประโยค......ตามมา
ผมเขียนแต่เริ่มแรกแล้วนะครับว่าเป็นการสรุปจากความคิดเห็นส่วนตัวดังที่ผมตัดมานะครับ
ผมอ่านความเห็นของท่าน hongse_c และท่าน evill และข้อมูลจากท่าน MIG31 พอจะเห็นภาพบางอย่าง ตามความคิดเห็นของผมดังนี้ ไม่ทราบว่าถูกหรือ ผิดทักท้วงได้นะครับ
แต่ท้วงติงคุณหน่อยนะครับการที่คุณตั้งคำถามเชิงประชดประชัน ทำนองแบบว่าถ้าผมจะสรุปอะไรผมต้องไปรู้ข้อมูลเชิงลึกในขั้นตอนกระบวนการผลิตจริงๆ แล้วค่อยมาเปรียบเทียบข้อมูลจากเรือทั้ง 4-5 แบบ เพื่อยืนยันว่าผมรู้จริง
ผมขอตอบแล้วกันว่า ผมไม่ได้อยู่ในอู่ต่อเรือของผู้ผลิตทุกแบบที่เสนอทร.มา ผมไม่ได้ทำงานกับบริษัทผู้ผลิตระบบ AIP ของเรือทุกแบบ ผมไม่ได้เป็นเซลแมนวิศวะที่ขายระบบต่างๆให้ ทร. และรู้แบบ ข้อมูลของระบบบนเรือทุกแบบที่เรากล่าวกันมา ดังนั้นผมยืนยันได้เต็มปากครับว่า ผมไม่สามารถหาข้อมูลยืนยันมาได้ว่า เรือ สวีเดน เรือ ญี่ปุ่น เรือ เกาหลี เรือรัสเซีย เรือเยอรมัน มันดีกว่าเรือจีนจริงๆ
งั้นผมถามแบบสไตล์คุณบ้างว่า คุณมีข้อมูลระบบเหล่านั้นของบริษัทผู้ผลิตทุกค่ายแบบจะจะ มาแย้งได้ไหมว่าเรือจีนดีกว่าจริงๆ ผมว่าคุณก็มโนและใส่ความเห็นส่วนตัวแบบผมนะหล่ะ
วิธีที่คุณสร้างเครดิตในการแสดงความเป็นโปรจีนทางอาวุธ เท่าที่ผมสังเกตุนะ คุณจะเอาข้อมูลทางวิศวะกรรม และหลักการทางวิศวะกรรมเท่านั้น มาอธิบาย ซึ่งมีหาอ่านได้ทั่วไปในโลกไซเบอร์ สิ่งที่ทำให้คุณดูโดดเด่นกว่าหลายคนในนี้ ก็คือเอาข้อมูลจากในเวปของจีนที่เป็นภาษาจีน แปลมาให้พวกเราอ่านอีกที ซึ่งพวกเราส่วนมากอ่านภาษาจีนไม่ได้เช่นคุณ ย่อมต้องแปลกตาที่ได้เห็นข้อมูลที่ถูกแปลมาจากภาษาจีน จึงทำให้คุณมีเครดิตที่ดี
แต่ไม่มีข้อมูลอันไหนเลยที่คุณลงเอาไว้แม้แต่ตัวเดียว ที่เป็นข้อมูลวิศวะกรรมเชิงลึกจากผู้ผลิตทุกๆรายเช่นกัน เพื่อเปรียบเทียบ
มีแต่คุณก็ทึกทักเอาเองว่า ของจีนต้องไม่กระจอก งั้นคูณช่วยหามาให้ผมหน่อยสิครับที่คุณถามผมทุกๆข้อ ว่ากี่องศา K ค่าเท่านั้นเท่านี้ ว่าต่างกันจริงๆเท่าไร คุณไปหามาให้ผมดูแล้วสรุปสิว่า เรือ จีนมันเหนือกว่าเรือของยี่ห้ออื่นๆจริงๆ
ผมว่าคุณก็มโนเอาล้วนๆ เหมือนกับทุกๆคนนะล่ะครับ เพราะไม่มีใครในนี้นี่ครับทำงานกับบริษัทผู้ผลิตทุกเจ้า และทุกระบบ และมีส่วนเกี่ยวข้องกับขั้นตอนการพัฒนาและสร้างเรือ สร้างระบบขึ้นมา
คุณน่าจะเรียนวิศวะ เพราะดูแล้วคุณมีความรู้วิศวะดี
ผมก็มั่นใจว่าคุณ evill เองก็เรียนทางวิศวะมา เพราะดูแนวทางการตอบแสดงว่ามีความรู้ดี
ถึงผมไม่เรียนวิศวะมาโดยตรง แต่ผมก็เรียนทางวิทยาศาสตร์ และเลือกวิชาทางโซลิสเตท
ไอ้ที่คุณลงภาพและสูตรนะ มันเป็นหลักการในหนังสือเรียน ที่มีเขียนลงในโลกออนไลน์ หาอ่านได้ถ้ามีเวลาครับ ไม่มีข้อมูลเชิงลึกจากผู้ผลิตทุกเจ้าแม้แต่น้อยเช่นกันที่จะมาเปรียบเทียบได้ว่าเรือใครดีกว่าใคร อย่าถามเชิงประชดประชันกันเลยครับ อย่าทำเหมือนว่าคุณรู้ข้อมูลจริงๆจากผู้ผลิตทุกๆจะดีกว่า
ถ้าใครอ่านภาษาเกาหลี อินเดีย รัสเซีย ญี่ปุ่น สวีเดน เยอรมัน ได้ และมีความรู้ทางวิศวะกรรมและวิทยาศาสตร์ รบกวนช่วยแปลบทความจากเวปของประเทศเหล่านั้นในเรื่องเรือดำน้ำและระบบอาวุธของประเทศต่างๆ พวกเราจะได้เปิดหูเปิดตามากขึ้นจากความเห็นของคนแต่ละเชื้อชาติในเรื่องนี้ จากเจ้าของประเทศของเขาเอง รับรองว่าท่านจะได้เป็นโปรระบบอาวุธของประเทศนั้นๆได้เลยครับ
ถ้าใครทำงานเกี่ยวข้องกับบริษัทผู้ผลิตเรือดำน้ำและระบบต่างๆของผู้ผลิตแต่ละเจ้า หรือ มีส่วนเกี่ยวข้องกับการพัฒนาและการสร้างในขั้นตอนไหนก้ได้ เอาข้อมูลเชิงลึกมาช้วยกันแชร์ เพื่อที่จะได้ให้สมาชิกหลายๆท่านที่มีความรู้ทางวิศวะกรรมและวิทยาศสตร์ทำการวิเคราะห์ไปเลยเชิงวิชาการแบบ จะจะ ว่าของใครดีกว่าใคร
คงมีรายงานนับแสนๆหน้าให้กันช่วยวิเคราะห์ละครับ
ปล. ผมชอบการวิเคราะห์ของท่าน ccguy ครับ ไม่ต้องมีข้อมูลวิศวกรรม วิทยาศาสตร์ที่ต้องกลับไปพลิกตำราเก่าๆอ่าน แต่จะแจ้งดีว่า ทร. เสี่ยงมากที่จะจัดหาเรือที่ยังอยู่บนแบบแปลนมาใช้งาน เรือ type 209 และ type 210 นั้นมีการสร้างมาใช้งงานจริงๆแล้ว และได้มีการ mod ให้ดีขึ้นจากผู้ผลิตแต่ละเจ้า แต่ละเวอร์ชั่น
ถ้า ทร. สนใจเรือที่ปฎิบัติการได้ไกล สมกับ blue navy เรือญี่ปุ่นก็มีต่อใช้งานจริง ก็ไปเอาเวอร์ชั่นที่กำลังปรับปรุงใหม่ของเขาก็ได้ หรือ เอาเรือ type 214 type 218 หรือ เรือจีน type 039B C และต้องสเปกที่ใช้ใน ทร.จีนเท่านั้น หรือ เรือรัสเซีย กิโล 636 มาเลยครับ เพราะมีการผลิตจริง รู้ปัญหาจริงๆและได้รับการแก้ไขแล้ว ชัวร์ๆ ไม่ต้องเสี่ยง
ใครไม่ขายให้ ไม่ต้องซื้อมันครับ
ถ้าเป็นคคห ส่วนตัว ก็ไม่ซีเรียส
แต่ เรื่องข้อมูลอ้างอิง ที่ใช้ภาษาจีน เพราะภาษาอังกฤษไม่มีครับ และเชื่อว่า หลายท่านอาจอ่านไม่ออก แต่หลายท่านอาจอ่านออก
และ
ท่านที่เห็นต่าง ที่บอกว่า
SE ที่ให้กำลังมากขึ้น ต้องมีช่วงชักยาวขึ้น เท่ากับสั่นขึ้น!!!!
SE ที่ให้กำลังมากขึ้น ต้องร้อน และไม่สามารถควบคุมความร้อนได้!!!!
SE ที่ให้กำลังมากขึ้น ต้องเสียงดัง!!!!
ความเข้าใจของท่านที่บอกแบบนี้ นี่วิศวกรรมตรงไหน??
จาก P-v Diagram
กำลังหมายถึงพื้นที่ใต้กราฟ
กับการกล่าวอ้างของพวกคุณนั้นถูกไหม ลองดูกัน???
1.กำลังมากขึ้น แล้วความร้อนแพร่นอกตัวเรือมากขึ้น ทำให้ตรวจับง่ายขึ้น
ผิดเพราะ
1.1.จาก P-v Diagram คนที่ไม่เคยเรียนอาจคิดง่ายๆ ปนมั่วๆ ว่า กำลังมากขึ้น ต้องร้อนขึ้น
ซึ่งผิด ตาม P-v Diagram กำลังมากขึ้น หมายถึง เพิ่มTh ลดTl เพิ่มP หรือเพิ่ม v ทำอย่างหนึ่งอย่างใด หรือหลายอย่าง ก็ได้กำลังที่ต้องการ
1.2.ถึงแม้จะเพิ่ม Thวิศวกรเขาเรียนวิชาที่จัดการกับความร้อน คือ heat transfer ซึ่งสามารถมาจัดการถ่ายความร้อนส่วนที่ไม่ใช้ได้ หรือควบคุม T ให้เหมาะสมได้
ดังนั้น จะมาอ้างมั่วๆ ว่า “กำลังมากขึ้น แล้วความร้อนแพร่นอกตัวเรือมากขึ้น ทำให้ตรวจับมากขึ้น” ไม่ได้ เดี๋ยวเยาวชนอ่านจะเข้าใจผิด
**ไม่สงสัยหรือ ทำไมผมถามว่า”น้ำหล่อเย็นcooling exhaust gas ที่อุณหภูมิเท่าไร” เพราะระบบ heat transfer จะกำหนดT ระบบ
2.กำลังมากขึ้น แล้วสั่นมากขึ้น
**ถ้าคุณเป็นวิศวกร ถ้ากล่าวแบบนี้เวลาทำงาน เขาจะย้อนกลับทันที ว่ารู้ได้อย่างไร??
และ
3.การเพิ่มความยาว crankshaft ต้องสั่นมากขึ้น
4.กำลังมากขึ้น ต้องเสียงดัง!!!!
ตอบ รวมขอ้2 3และ4
ผิด เพราะไม่จำเป็นขึ้นอยู่กับวิศวกรที่ออกแบบมีความสามาถแค่ไหน
อย่างที่ถาม เครื่องยนต์รุ่นใหม่ cc เดียวกัน นั้นสั่นน้อยกว่าเครื่องยนต์รุ่นเก่ามาก เพราะอะไร ก็เพราะปัจจุบันมีการคำนวนด้าน Dynamic Balance ที่ถูกต้องมากขึ้นเพราะใช้ CAE และAnti-shock isolator ถูกพัฒนาดีขึ้น
ยกตัวอย่าง รูปที่ 1-2-3 เป็นการ Dynamic Balance เครื่องยนต์ สมัยก่อนใช้การคำนวนด้วยมือ แต่เดี๋ยวนี้ ด้วย คอมพิวเตอร์ ซึ่งใช้เพื่อแก้ไขปัญหาเมื่อกลไกเคลื่อนที่แล้วสั่น แต่ถึงแม้จะคำนวนเก่งแค่ไหน ก็ยังควบคุมความสั่นได้แค่ที่ความเร็ว รอบๆ ช่วงหนึ่งเท่านั้น เช่น 100-1500 rpm เป็นต้น เท่านั้นถึงไม่สั่น แต่อาจสั่น ที่ 90 rpm หรือ2000rpm ก็ได้ เป็นต้น
และ ถ้าใคร เคยเรียนmechanical vibrations คงรู้จักการสั่นพ้อง (Resonance ) สนใจอ่าน ภาษาไทยไม่ใช่จีน
http://www.sa.ac.th/winyoo/mechanicswave/wa_resonace.htm
Resonance นี่แหละที่สร้างปัญหา และเป็นปัญหาร้ายแรง ดังนั้นวิศวกร รดน เขาต้องติดตั้ง Anti-shock isolator เข้ากับอุปกรณ์ที่เคลื่อนที่ ตามรูปที่ 4
ซึ่งAnti-shock isolator มีแบบง่ายๆ และแบบที่ควบคุมด้วยคอมพิวเตอรเลยทีเดียว เพื่อป้องกันการสั่น
แค่นี้คงพอเข้าใจน่ะครับ
รูปที่5 Dynamic Balance stirling engine
*** Anti-shock isolator ไม่สามารถแก้ปัญหา Resonance ใน รดน ได้ทั้งหมดโดยเฉพาะต้องเจอคลื่นกระแทกจากระเบิดน้ำลึก
แค่นี้คงเข้าใจ ว่า การสรุปที่ว่า รดน จีนกำลังมากขึ้น กว่าของญี่ปุ่น สวีเดนแล้วต้อง เสียดัง แล้วต้อง ร้อนตรวจจับได้ง่าย
นั้น มันผิด และเป็นการกล่าวอ้างโดยเอา ทฤษฎีมาใช้อย่างผิดด้วย
ปล.
1.ตอนนี้ ไม่ต้องพูดถึงข้อมูลผู้ผลิตแล้ว แค่ความใจเรื่อง SE ยังไม่ถูกต้องเลย
2.ข้อมูลที่ถามไป ไม่ได้หวังคำตอบ แค่ต้องการสื่อให้ทราบว่า เราไม่สามารถสรุปได้ ถ้าไม่รู้ข้อมูลพวกนั้น ที่ทำได้แค่ประเมินว่าของจีนเป็นอย่างไร เมื่อเทียบกับผู้อื่น
สรุป คือ คุณก็ไม่มีข้อมูลทางเทคนิคโดยตรงจากผู้ผลิตแต่ละเจ้าเพื่อทำการเปรียบเทียบว่าของใครดีกว่ากัน เช่นกัน
ok. ทางคุณเรียนมาโดยตรง ส่วนทางผมจะเรียนกลศาสตร์คลื่น การสั่นพ้อง เพื่อไปใช้ในกลศาสตร์ควันตัม ซึ่งจะไปคนละทาง ส่วนด้านเทอร์โมไดนามิคส์ จะเรียน เพื่อทำความเข้าใจในกลศาสตร์ที่อยู่ในฟิสิกส์ยุคเก่า แต่ไม่ได้เจาะลึกลงไปในระบบเครื่องยนต์ ที่ต้องใช้ฮีททรานสเฟอร์ในการอธิบายการถ่ายเทความร้อน เอาเป็นว่าผมยอมคุณในเรื่องสาขาตรงที่คุณจบมาโดยตรงแล้วกัน
งั้นมีคำถามครับ จากสมการที่คุณอธิบาย แสดงว่า เราจะสามารถทำการเพิ่มกำลังเครื่องยนต์ได้ โดยความร้อนไม่เพิ่มมากขึ้นมาก และการสั่นสะเทือนลดลงด้วยในขนาดลูกสูบ cc เท่าๆกันนั้น
ด้วยเทคโนโลยีในด้านเครื่องยนต์ที่สุดยอดแบบณี่ปุ่น และสวีเดน(ของยุโร) ที่ยอมรับกันทั่วโลกว่าเหนือชั้นกว่าเครื่องยนต์จากจีน และยังเป็นผู้ขายเทคโนโลยีให้จีนไปทำการต่อยอดเอาเอง ดังนั้นบุคคลากรของเขาก็ต้องรู้เรื่องพวกนี้ด้วยเช่นกัน
คำถาม คือ ทำไมพวกเขาจึงยังเลือกใช้เครื่องยนต์ขนาดเล็กที่มีกำลังน้อยๆอยู่ แต่เลือกที่จะพัฒนาให้มันกินน้ำมันน้อยลง และทำให้มันสั่นน้อยลง (เงียบลง) ซึ่งจะทำให้เครื่องหักล้างเสียงทำงานได้ง่ายขึ้นลดระดับเสียงของทั้งระบบลง แทนที่จะเลือกกำลังสูงๆ ถ้ากำลังสูงๆเงียบได้ไม่แพ้กัน ผลิตความร้อนออกมาพอๆกัน
ดูแนวทางการพัฒนาของทางญี่ปุ่นและยุโรป จะเห็นว่าพวกเขาพุ่งความสนใจไปที่เรื่องความ เงียบ ของเรือดำน้ำ ความ ยาวนานในการดำอยู่ใต้น้ำ มากกว่า ความเร็ว
อยากทราบความเห็นของทุกท่านในมุมมองนี้ครับ
เพราะงบ 36,000 ล้าน ทร.ไทยเองก็สามารถจัดหาเรือชั้น โซริวได้ 2 ลำ ที่มีระวางขับน้ำ 4,000 ตัน ซึ่งมากกว่า S-26T และสามารถดำได้นานไม่น้อยกว่าเรือของจีน ถ้าจุดประสงค์ของทร.ต้องการเป็นกองเรือ blue navy เต็มตัว
ท่าน jaidee. เมื่อข้อความที่ผมเขียนเพื่อสื่อสารโดยตรงกับท่านทำให้ระคายเคือง ผมก็ขออภัยครับ ไม่มีเจตนาครับ ผมลองกลับไปอ่านดูแล้วพยายามจะเข้าใจท่านว่าตรงไหนที่มันอาจคลุมเครือทำให้เข้าใจผิดไปจากที่ผมเจตนา ผมปรับการใช้คำเล็กน้อย โดยที่เนื้อความโดยรวมยังเหมือนเดิม+ อธิบายนิดหน่อย หวังว่าคงทำให้ชัดเจนขึ้นนะครับ
สำหรับสมาชิกท่านอื่น ผ่านไปเลยก็ใด้นะครับเพราะต่อจากบรรทัดนี้ไปไม่มีเนื้อหาเรือดำน้ำครับ ปรับความเข้าใจกับเพื่อนสมาชิกครับ
"....ต้องขอสอบถาม ท่าน Jaidee ว่าถ้าเชื่อว่าคนในกองทัพรู้ดีที่สุด เลือกดีที่สุด รบกวนช่วยอธิบาย เงื่อนใข/กลไกที่ทำให้มันเกิดกรณี เรือเหาะ ไม้ล้างป่าช้า GT200 เรือรบ 2 ชุดที่ซื้อจากจีน แล้วต้องกลับมาแก้ไขปรับปรุง ในท้ายที่สุดก็ไม่ใด้สมรรถนะตามที่ตั้งไว้ตั้งแต่แรก อธิบายตามความเห็นของท่านล่ะครับ ไม่ต้องอิงหลักการ/หลักฐานอะไรก็ใด้ +[ผมไม่ต้องการเดี๋ยวมันจะยืดยาวไป] เพราะเรื่องเหล่านั้นมันมีหลักฐานเชิงประจักรที่ทุกคนรู้อยู่แล้ว"
@@@@ คือท่านแจ้งแล้วว่าหลักฐาน/ข้อมูลก็สำคัญ ตั้งแต่ความเห็นก่อนหน้านี้แล้ว แต่ที่ผมถามนี่ที่ต้องการจากท่านคือตรรกะ"ตามความเห็น" ที่ทำให้ท่านปักใจว่าเชื่อคนในกองทัพรู้ดีทึ่สุด ทั้งที่เรามีกรณีศึกษาหลายกรณีว่ามันไม่แน่เสมอไปดังที่เรามีข้อมูลหลักฐานชัดเจน จนทุกฝ่ายสรุปกันไปมดแล้ว
" ส่วนตัวผม ผมว่าไม่เสมอไปครับที่คนที่รับผิดชอบจะรู้ดีที่สุด / เลือกดีที่สุด การที่สาธารณชนแสดงความคิดเห็นเชิงสร้างสรรค์ ถามคำถามที่ก่อให้เกิดความรู้ความเข้าใจ (ไม่ใช่ กร่าง กวน ชวนทะเลาะ) มีส่วนช่วยในการพัฒนาประเทศทางหนึ่งครับ"
@@@@ อันนี้ผมไม่รู้จะปรับแต่งยังไง เพราะประโยคมันตัดจากการถามคุณใจดีไปแล้ว อธิบายความคิดผม แล้วในความจริง เราก็เห็นว่ามีคนถามกวนๆ อยู่จริงๆ
ส่วนนี้
"เข้าใจครับคุณ Jaidee เมื่อเป็นเรื่องของความเชื่อในองค์/บุตคลแล้ว หลักฐาน/ เหตุผล/ การค้นคว้า +[ จากเหล่าสมาชิกในที่นี้] ก็ไม่จำเป็นแล้วครับ"
@@@@ อันนี้ผมอธิบายไปแล้วตอนที่ท่านว่าผมมาตัดสินท่าน และความเชื่อในองค์คณะใดๆ หรือเชื่อวิจารณญาณของท่านเหล่านั้น มันไม่ใด้ผิด/เสียหายอะไรนี่ครับ. ชีวิตจริงทุกวันนี้เราก็เชื่อที่ตัวบุคคลอย่างบริสุทธิใจในหลายกรณี. เช่นถวายปัจจัยให้พระโดยไม่ต้องคิดจะไปถามว่าท่านเอาไปใช้ในทางที่มิควรหรือเปล่า เชื่อการวินิจฉัยตุลาการศาล. เพราะเราเช่ือสถาบัน และบุคคลที่ทำหน้าที่ ในขณะเดียวกันคนที่ไม่เชื่อก็มีจริงๆอีกเหมือนกัน
ข้อความที่สาม......"คือถ้าผมสรุปให้ตัวผมเองใด้แล้วว่าเรื่องนี้ผมเลือกทางใหน (อย่างคุณใจดี ที่เลือกแล้ว) . ผมก็หมดความสนใจที่จะคุยต่อแล้วล่ะครับ เพราะเลือกไปแล้ว หมดคำถามแล้ว"
@@@@ " ทางไหน" ~ เชื่อใคร, เชื่อข้อมูลชุดใด, เลือกเรือรุ่นใด, ควรซื้อหรือไม่ ฯลฯ บรรดาทางเลือกที่เกี่ยวกับเรื่องที่เราคุยกันนี่ล่ะครับ แล้วท่านแจ้งแล้วว่า. ตอนนี้ ขณะนี้ ท่านเลือกที่จะเชื่อ คกก ของกองทัพเรือ
และผมเข้าใจครับว่าท่านคงไม่ใด้เลือกเรือ แต่ท่านเลือกที่จะเห็นชอบตามผู้มีอำนาจตัดสินใจ เพราะตอนท้ายในคอมเมนต์ก่อนหน้าของท่าน ขมวดว่า ท้ายที่สุดอยู่ที่ลุงตู่.... เพราะฉะนั้นผมจึงตีความว่าท่านชัดเจนครับว่าถ้าผู้มีอำนาจตัดสินใจเลือกทางไหนท่านสนับสนุนตามนั้น
@@@@ สุดท้ายนี้ ผมต้องขอยืนยันว่าตลอดการสื่อสารที่ผ่านมาผมไม่ได้ "ตัดสิน" อะไร ครับ มันเป็นการตีความ (interpret) และการสะท้อนมุมมอง (reflect) จากที่เราสื่อสารกันครับ
กลับเข้าเรื่องเรือดำน้ำดีกว่าครับ/Admin
ครับ ท่านAdmin. ฝากพิจารณาเปิดภาค. 3 นะครับ ภาค2 เริ่มโหลดนานแล้วเหมือนกัน
ข่าวเมื่อสองวันก่อนพูดถึงประเด็นความสัมพันธ์ ไทย-จีน ไทย-สหรัฐ ที่มีส่วนในกระบวนการตัดสินใจเรื่องเรือดำน้ำ
http://www.defensenews.com/story/defense/naval/submarines/2015/07/12/thailand-china-submarines-us-pivot/29904545/
ในเรื่องทางวิชาการที่คุณนำเสนอมาเพื่ออธิบายหลักการทำงานของเครื่องยนต์ stirling กับ เครื่องยนต์ carnot นั้นเป็นแผนภาพของระบบที่เป็น ไอเดีย ไม่ใช่ระบบของเครื่องยนต์จริงๆ และตามหลักการของเครื่องยนต์ stirling จะไม่มีการระบายแก๊สออกจากกระบอกสูบแบบเครื่องบนต์ทั่วไป และการถ่ายเทความร้อนภายในระบบ ต้องอธิบายด้วย heat transfer ซึ่งต้องไปเรียนในวิชา เทอร์โมไดนามิค มาก่อน
เอาล่ะ ถือว่าคุณแน่นกว่า ก็คงเพราะยังทำงานตามสายงานที่ตนเองเรียนมา แต่ผมไม่ได้ทำงานตามสายงานที่เรียนมา และทิ้งตำราเรียนไปนานเป็นสิบปีแล้ว คงต้องไปปัดฝุ่นในวิชาเทอร์โมไดนามิคส์ และ heat transfer กันหน่อย และพฤติกรรมของ ไอเดียแก๊สกับแก๊สจริง ในกลศาสตร์ของไหล
ส่วนเรื่องเครื่องยนต์ ผมคงต้องไปหาอ่านในเรื่องวัฎจักร carnot และ วัฎจักร stirling
P-V ที่คุณลงเอาไว้เป็นระบบ ไอเดีย ไม่ใช่ระบบจริง ระบบจริงจะมีการสูยเสียพลังงานความร้อน และการอัดตัวของแก๊สจริงก็แตกต่างจากแก๊สอุดมคติ ดังนั้น ผมมั่นใจว่าในเครื่องยนต์ที่มีขนาดใหญ่กว่าเดิมพอสมควร ระบบจะมีการสูญเสียความร้อนปริมาณมากกว่าเครื่องยนต์ขนาดเล็ก และการเพลาต่างๆในระบบส่งกำลังก็มีขนาดใหญ่กว่า ซึ่งตามหลักการทางฟิสิกส์ ในวัสดุชนิดเดียวกันของที่มีขนาดยาวกว่า จะมีระยะการสั่นที่มากกว่า ก็จะทำให้สามารถผลิตเสียงที่มีความยาวคลื่นที่ยาวกว่าได้ดี นั่นเป็นหลักการที่ใช้ออกแบบลำโพง
ยิ่งขนาดเล้ก และน้ำหนักยิ่งเบา ก็ยิ่งผลิคคลื่นเสียงความถี่สูงๆ ความยาวคลื่สั้นๆได้ี ยิ่งไดอะแฟรมมีขนาดยาว ใหญ่ ยิ่งผลิตคลื่นเสียงที่มีความถี่ต่ำ ความยาวคลื่นที่ยาวออกมาได้ดี จึงต้องมีทวีตเตอร์ และ วูฟเฟอร์ในการแยกกันให้ความถี่เสียงที่ต่างกัน
ใครที่ความรู้ยังแน่นๆ และเรียนสายตรงมา ก็ช่วยกันอธิบาย ในเรื่องเครื่องยนต์ stirling ที่มีขนาดกระบอกสูบใหญ่ขึ้น กำลังสูงขึ้น ความร้อนมากขึ้น ทีครับว่า ผลที่ออกมาจะเป็นอย่างไร ความร้อนที่สูญเสียออกมาจากระบบจะมากขึ้นจริงหรือไม่ เสียงจากระบบส่งกำลังและลูกสูบจะดังขึ้นหรือไม่ เพราะระบบจริงมีแรงเสียดทาน ที่มักจะก่อให้เกิดการสั่นสะเทือนด้วย
คิดถูกจริงๆ ที่ไม่ได้เขียนออกไปทีเดียวหมด ไม่งั้นคงไม่ได้เห็น นานๆ จะเจอหนาพวกก๊อปแปะๆ แบบไม่มีหัวคิดได้มั่วขนาดนี้นะครับนี้ นอกจากไม่ได้รู้เรื่องอะไรแล้วยังเอามาโชว์อีก ผมให้สูตรไว้ 2 สูตรใช่ไหมครับ และผมก็ถามว่า
"ปล.ผมไม่รู้นะครับว่าจะเอา กราฟ P-v Diagram มาให้ดูกันทำไม รู้เปล่าอะครับมันบอกอะไร หน่วยเป็นอะไร วัฏจักรหนึ่งเนี้ยได้งานเท่าไร ตัวก๊าซเป็นชนิดไหน แล้วเกี่ยวอะไรกับ aipจีน ผมก็งงนะครับว่า จะเอาข้อมูล(ทำมือ) ทั้งที่คนส่วนใหญ่ก็ไม่รู้ว่ามันคืออะไร เอามาเพื่อ ทั้งที่เอา ชาร์ทวัตต์จากตัวคอนโทรลยูนิตที่ตัวเจนเนอเรเตอร์มาแสดงก็จบไหมครับ" แถม ไกด์ให้อีกด้วยสูตร 2 สูตรก็ยังไม่วายโชว์ความมั่วออกมาอีก มาดูอันแรกกัน
W[net] = P[meff] m ( v[max] - v[min] ) สูตรนี้คือสูตรงานครับ ถ้าพลอทเป็นกราฟข้อมูลจากการทดลอง@ต้องรู้ชนิดก๊าซ และต้องมีตารางเทอร์โมของมันด้วยนะครับ พลอทออกมาก็จะได้กราฟ P-v Diagram ครับ แล้วพื้นที่หรือผลคูณเฉลี่ยของ ค่า P กับ ค่า v (ดูดีๆนะครับ v เล็กครับ เพราะ vเล็กมันเป็นค่าจำเพาะของแก็สครับ(specific volume) ต่างชนิดกันก็ไม่เท่ากันแล้ว) มันคือ งานที่ได้จากการเคลื่อนที่ของลูกสูบหนึ่งรอบหรือหนึ่งวัฏจักรครับ งานมีหน่วยเป็น"จูล"ครับ(ไม่ใช่วัตต์นะครับ แล้วเอามาเพื่อ แถมมั่วอีก) แล้วเพื่อนๆงงกับท่าน hongse_c ไมละครับว่า สูตรพี่แกคือ W=PV สูตรเป็น V ใหญ่หน้าตาเฉย เพราะจริงๆ V(หน่วย m3) = m(หน่วย kg) คูณ v(หน่วย m3/kg) มั่วไมอะครับ กราฟกับสูตร คนละหน่วยกัน คนละอย่างก็ว่าได้ เพราะ m(หน่วย kg)คือมวลของก๊าซในกระบอกสูบครับ สูตรงานท่านยังมั่วเป็นสูตรกำลังได้นะครับเนี้ย กราฟก๊อปแปะของท่าน มีรอบกับมวลก๊าซ(มวลก๊าซหรืออากาศจริงๆมีสูตรนะ@ที่อุดมคติ อยากรอชมท่าน hongse_c ก๊อปแปะให้ดูหน่อย ฟิวทำเครื่องยนต์ในอุดมคติอะครับ)ให้ไอ้กระผมไหมอะครับ ถ้าไม่มีจะเอากราฟ P-v มาเพื่อให้ผมได้ด่าคนเล่นใช่ไหมครับท่าน
W' = P[meff] m v[displ] (RPM/60) สูตรนี้คือสูตรกำลังครับ ไม่ใช่สูตรข้างบนหรือสูตรของท่าน hongse_c นะครับ ผมก็ฮานะครับที่ คนที่บอกตลอดเวย์ว่า "ทฤษฎีใครๆก็รู้" มั่วเอาโล่ได้ขนาดนี้(ทุกคนเค้าน่าจะรู้อะหละครับ ยกเว้นท่าน) มาต่อกันดีกว่า หน่วยของสูตรนี้คือ วัตต์ครับ(จูล/วินาที) อันนี้แหละครับที่เป็นตัวบอกกำลังเครื่องยนต์ แล้วลองดูกันดีๆนะครับ มันมีตัวแปรเพิ่มมา คือ RPM หรือ รอบเครื่องนั้นแหละครับ ง่ายๆเลยก็ สูตรบน W[net] = P[meff] m ( v[max] - v[min] ) คือ งานที่ได้เมื่อลูกสูบหมุน 1 รอบ มาคูณ จำนวนรอบที่หมุนต่อ วินาทีครับ จะได้หน่วยเป็นวัตต์หรือ hp มันก็คือกำลังเครื่องยนต์@ที่จำนวนรอบขณะนั้นแหละครับ ไม่ใช่ hp สูงสุดนะครับ เพราะรอบที่ได้ hp สูงสุด ก็ไม่มีบอก(เหลาๆว่าจินเอาข้อมูลที่ไม่ได้บอกอะไร ที่ไม่ครบถ้วน แถมทำมืออีก มาหลอกคนไม่รู้เรื่องทางกล แถมได้ผลกับคนที่โม้ว่าตัวเองรู้ด้วยนะครับเนี้ย ไทยมากๆครับ) อีกน้อยนะครับ กราฟ P-v ของเครื่องยนต์ตัวเดียวกัน@ที่รอบเครื่องยนต์ต่างกัน มันก็ไม่เหมือนกันนะครับ จะเอากราฟมั่วๆที่ไม่บอกอะไรเลยมาโชว์เทพ ผมมองว่ากากมากอะครับ
อ่านๆ ของ ท่าน hongse_c ต่อๆมาก็ โม้โน่นโม้นี้ในเรื่องที่ตัวท่านไม่ได้รู้จริง แถมข้อมูล และที่ ท่าน hongse_c เข้าใจมา ผิดมาตั้งแต่ต้น ข้อมูลก็ไม่มีความน่าเชื่อถือ(หรือไม่ครบถ้วน) ยังมีหน้าไปถามชาวบ้านอีกนะครับ ถามโน่นโชว์นี้ จากกราฟมั่วๆและความไม่รู้ของตัวท่าน hongse_c คำถามต่อๆมาผมคงตอบไม่ได้อะครับเพราะท่านมั่วมากๆ ผมแนะนำให้อ่านของผมหลายๆทีแล้วคิดตามนะครับ ไม่ก็ถามคนมีความรู้ทางกล เพื่อนๆ ไม่ก็ ครูบาอาจารย์ หรือตัวนายทหารเรือเลยก็ได้ครับ(โม้มาซะขนาดนี้ ถ้าไม่มีคนรู้จักเป็นวิศวกร ต้องบอกว่าหนาครับ หนานะครับนี้) ถ้าไม่มีเพื่อนเป็นวิศวกรจริงๆ ก็หาอ่าน Power and Refrigeration Systems - Gaseous Working Fluids จากหนังสือ Thermo ทั้งหลายในบ้านอ่านครับ แต่ผมแนะนำให้ถามคนเรียนดีกว่า เพราะดูท่านอยู่กับตัวเองมากไปอะครับเด๋วก็งงอยู่คนเดียว ความรู้พวกนี้สายวิศวะเค้ารู้กันหมดแหละครับ ไม่ต้องตีตราความน่าเชื่อถือจากพาวเวอร์พอยท์แบบท่านอะครับ เพราะมันเป็นมารตฐานในตำราของคนที่เรียนมาอยู่แล้ว ผมไม่เคยยกตัวข่มคนอื่นด้วยข้อมูลทางเทคนิกที่ตัวเองมีความเข้าใจมากกว่าคนอื่นๆนะครับ ผมจะอธิบายในสิ่งที่เกิดในชีวิตประจำวันครับ คนที่ไม่ได้เรียนมาโดยตรงเค้าจะได้เข้าใจด้วย ไม่ใช่แบบท่าน hongse_c นะครับ ไม่ได้เข้าใจในสิ่งที่ตัวเองโม้แล้ว ยังไปข่มคนอื่นด้วยข้อมูลมั่วๆของท่านอีก
อันสุดท้าย "ทั้งที่เอา ชาร์ทวัตต์จากตัวคอนโทรลยูนิตที่ตัวเจนเนอเรเตอร์มาแสดงก็จบไหมครับ" แจกสูตรก่อนนะครับ W'(กำลัง aip เป็นวัตต์) = u(ค่าประสิทธิภาพเจนเนอเรเตอร์) คูณ V(โวล์) คูณ I(แอมป์)
จากสูตรนี้ V คูณ I ได้ W'(วัตต์)ครับผม เอาง่ายๆถ้ารู้ค่าประสิทธิภาพเจนเนอเรเตอร์(เครื่องปั่นไฟนั้นแหละ) เอามาคูณกับกระแสไฟ(วัตต์)ที่มันปั่นได้ ก็จะรู้ hp ของเครื่องยนต์ที่เป็นต้นกำลังในการปั่นไฟครับ ง่ายไหมอะครับ ดูรอบเครื่อง ดูวัตต์ จากตัวคอนโทรลยูนิตก็จบครับ(ถ้าคนผลิตมันคิดจะให้ดูอะนะ) คอนโทรลยูนิตใน aip ผมไม่รู้นะครับว่ามันเรียกว่าอะไร แต่จะให้เห็นภาพก็ประมาณ ecu ของรถยนต์อะครับ ตอนไปเช็คสถาพคงเคยเห็นกันไหมครับ ที่ช่างเค้าเสียบสายเข้าไปวัดโน่นวัดนี้ กับปลดล๊อคแจ้งเตือนต่างๆในรถอะครับ หน้าตาก็ประมาณรูป อันนี้แหละครับที่จะพอเรียกได้ว่าบันทึกผลการทดลองได้บ้างเพราะมันเป็นค่าป้อนกลับของตัวเซนเซอร์ในเครื่องยนต์ครับ ไม่ใช่เอาพาวเวอร์พอยท์มาเขียนแบบท่าน hongse_c เอามาโชว์นะครับ
เอาไว้ท่าน hongse_c เลิกมั่วก่อน แล้วผมจะมาตอบอีกนะครับ ไม่ต้องมาถามข้อมูลเฉพาะทางผมหลอกครับ เพราะผมตอบไม่ได้หลอก (ไม่มีเวลาไปหาในกูเกิล) แต่ปัญหาทางกล และทางวิศวะ ผมพอมีความรู้อยู่นิดหน่อย ตอบได้ก็จะตอบนะครับ
scan ecu
อ่านดูดีๆของท่าน hongse_c มั่วหมดเลยนี้หว่า ไว้ว่างๆจะมาเขียนบอกนะครับว่ามั่วได้ประหลาดยังไงบ้าง
กลาโหม ชะลอ เสนอ โครงการซื้อเรือดำน้ำ จีน เข้าครม. วันนี้ หวั่นกระแส ส่งอุยกูร์ไปจีน ทำเรือดำน้ำจมหาย / ดร.สุรินทร์ บรรยายพิเศษ ห่วงปัญหาทะเลจีนใต้ ยัน จำเป็นต้องสร้างอำนาจต่อรอง ดูแลทะเล/ผบ.ทร.เปิดประชุมวิชาการ ทร. ถกบทบาทมหาอำนาจที่มีผลต่ออาเซียน-ไทย รับยุคนี้มีหลายขั้วอำนาจหวังแสดงบทบาทอาเซียนที่มีความสำคัญทั้งความมั่นคง-ศก. ทร.ต้องรักษาผลประโยชน์ชาติ /“ดร.สุรินทร์” ย้ำกองทัพต้องพัฒนาศักยภาพ ชี้ซื้อเรือดำน้ำต้องวิเคราะห์ให้ดีเพิ่มสมรรถนะ แนะแจงสังคมโลกปมอุยกูร์ ชี้ปัดความรับผิดชอบไม่ได้ เชื่อเลขาฯ สมช.ไปจีนเป็นเรื่องดี แต่ระวังกระทบกิจการภายในจีน
มีรายงานข่าวจากทร. เผย ประชุม ครม. วันนี้ โครงการซื้อแพคเกจ เรือดำน้ำจีน 3 ลำ 3.6 หมื่นล้านบาท ยังไม่เข้าครม. เพราะกลาโหม และ ทร.เห็นพ้องกันว่า อาจได้รับผลกระทบ จากกระแส ส่งอุยกูร์ ไปจีน จึงอาจรอจังหวะที่เหมาะสม ก่อน
ที่หอประชุมกองทัพเรือ พล.ร.อ.ไกรสร จันทร์สุวานิชย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ เป็นประธานเปิดงาน การประชุมทางวิชาการกองทัพเรือ ครั้งที่ 8 เรื่องบทบาทมหาอำนาจที่มีผลกระทบต่อภูมิภาคเชียตะวันออกเฉียงใต้และผลประโยชน์แห่งชาติทางทะเลของไทย
โดยมีนายสุรินทร์ พิศสุวรรณ อดีตเลขาธิการอาเซียน ร่วมปาฐกถาพิเศษ ด้วย
พลเรือเอก ไกรสร กล่าวว่า ปัจจุบันสภาพแวดล้อมด้านความมั่นคงของโลกมีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วและมีความสลับซับซ้อน รวมถึงระบบความสัมพันธ์ระหว่างประเทศมีแนวโน้มว่ามีหลายขั้วอำนาจมากขึ้น ทั้งนี้ ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกมีความสำคัญต่อนานาประเทศ ทั้งความมั่นคงและเศรษฐกิจ โดยเฉพาะการเป็นภูมิภาคที่โอบล้อมด้วยมหาสมุทรรองรับเส้นทางการเดินเรือ ทั้งยังเป็นแหล่งพลังงานและอาหารที่สำคัญ จึงทำให้ประเทศมหาอำนาจ มุ่งเข้ามาแสดงบทบาทในภูมิภาคอาเซียนมากขึ้น สถานการณ์เช่นนี้นับว่าเป็นสิ่งสำคัญของกองทัพเรือ ในการปฏิบัติภารกิจเพื่อรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล เพื่อให้สามารถตอบสนองต่อสภาวการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างเหมาะสมและให้ประเทศไทยได้รับประโยชน์สูงสุดจากทะเล
นายสุรินทร์ ปาฐกถาพิเศษว่า กองทัพต้องพัฒนาศักยภาพทางทหารในอนาคต จำเป็นต้องเตรียมความพร้อมตลอดเวลา ประเทศไทยมีสภาวะเศรษฐกิจในภาวะล่อแหลมต้องติดกับดักจนเป็นประเทศที่มีรายได้เศรษฐกิจปานกลาง และจะอยู่ในสภาพนี้ไปอีกนาน ประเทศไทยจึงต้องเตรียมความพร้อมโดยเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันโดยเฉพาะทางด้านเศรษฐกิจ เราจะขายแต่แรงงานด้อยประสิทธิภาพอีกต่อไปไม่ได้ และต้องเร่งพัฒนาขีดความสามารถของประเทศให้ทัดเทียมกับประเทศมหาอำนาจให้ได้
ส่วนการเข้าสู่ประชาคมอาเซียนในปลายปีนั้น สืบเนื่องจากการแข่งขันทางเศรษฐกิจในยุคโลกาภิวัตน์ ที่เศรษฐกิจกำลังมุ่งไปสู่จีนกับอินเดีย และเราในฐานะอาเซียนต้องเป็นหนึ่งเพื่อแย่งเอามูลค่าเศรษฐกิจและการลงทุนมาที่อาเซียนให้ได้
นายสุรินทร์กล่าวว่า จากการประชุมที่ได้เข้าร่วมที่ประเทศจีนเมื่อ 10 ปีที่แล้ว ทำให้ได้รับรู้ว่าอาเซียนมีความสำคัญกับเศรษฐกิจโลกมากกว่าที่คิดไว้ ทุกๆ ประเทศมหาอำนาจในโลกก็อยากมาเป็นหุ้นส่วนและมีความสำคัญในภูมิภาคอาเซียน
นายสุรินทร์ได้ให้ความเห็นตอนท้ายการปาฐกถาพิเศษว่า ประเทศไทยอยู่ในระหว่าง 2 มหาสมุทร คือ มหาสมุทรอินเดียและแปซิฟิก บริเวณช่องแคบมะละกา เป็นจุดสำคัญทางเศรษฐกิจที่มีการขนส่งสินค้า ที่ถืออยู่ในระดับสูงสุด ร้อยละ 58 ของเศรษฐกิจโลกอยู่ที่นี่ การดูแลพื้นที่ดังกล่าวจึงมีความจำเป็นและไทยเองอยู่ในส่วนนั้นด้วย โดยเฉพาะบริเวณอันดามัน ระยอง และประจวบคีรีขันธ์ ที่จะต้องดูแลความปลอดภัยในการขนส่งสินค้า
นอกจากนี้ทรัพยากรทางทะเลในมหาสมุทรแปซิฟิก มีทรัพยากรอยู่จำนวนมาก ส่วนประเทศมหาอำนาจต่างจับจ้องที่จะเข้ามามีส่วนร่วม และการประชุม 18 ประเทศอาเซียนที่มีนายบารัค โอบามา ประธานาธิบดีสหรัฐฯ เข้าร่วมประชุมเมื่อช่วงปลายปีที่ผ่านมา ทางอินโดนีเซียในฐานะประธานอาเซียน ก็ได้ประกาศว่าจะเป็นประเทศมหาอำนาจทางทะเล เพราะเห็นว่ามีทรัพยากรทางทะเลจำนวนมากและพื้นที่เกาะมากกว่า 17,000 เกาะ
อดีตเลขาธิการอาเซียนกล่าวอีกว่า ผู้นำอาเซียนในอนาคตจะเผชิญกับประเด็นใหญ่ 2 ประเด็น คือ ปัญหาโรฮีนจา ที่มีประมาณ 1 ล้าน 5 แสนคนที่ยังไม่มีสัญชาติ ที่จะทำให้ช่องแคบมะละกาเกิดปัญหาคล้ายโจรสลัดโซมาเลียที่ดักปล้นเรือสินค้า โดยขณะนี้ต่างชาติกำลังเพ่งเล็งอาเซียนอยู่ว่าจะรับมือกับเรื่องนี้อย่างไร ถือเป็นบททดสอบทางด้านความมั่นคงของผู้นำอาเซียน
สำหรับปัญหาทะเลจีนใต้ที่มีปัญหาระหว่างหลายประเทศนั้น หากไม่แก้ปัญหาจะกลายเป็นปาเลสไตน์ที่มีการแย่งพื้นที่และทรัพยากรระหว่างกัน ซึ่งในเวทีอาเซียนแต่ละครั้งจีนพยายามยกเรื่องนี้ให้เป็นการพูดคุยแค่เฉพาะประเทศคู่กรณีในน่านน้ำทะเลจีนใต้เท่านั้น แต่ประเทศสมาชิกของผู้นำอาเซียนจะหยิบยกมาหารือในวงประชุมอาเซียนทุกครั้ง แม้ว่าไทยจะไม่ใช่ประเทศคู่ขัดแย้งก็ตาม แต่ก็หลีกเลี่ยงไม่ได้ที่อาจจะได้รับผลกระทบตามมา
ในขณะที่เวียดนาม อินโดนีเซีย มาเลเซีย และสิงคโปร์ ต่างเตรียมรับมือโดยมีการพัฒนาขีดความสามารถและศักยภาพทางกองทัพ และยุทโธปกรณ์ เช่น การมีเรือดำน้ำ เป็นต้น ส่วนไทยวันนี้ต้องถามว่าควรที่จะมีแล้วหรือไม่
นายสุรินทร์ได้เน้นย้ำว่า ประเทศไทยควรสร้างอำนาจต่อรองกับต่างประเทศทั้งความเข้มแข็งทางเศรษฐกิจ และการสร้างทรัพยากรมนุษย์เป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่ง เพราะในเวทีระหว่างประเทศให้ความสนใจ ในการสร้างเครือข่ายหุ้นส่วนระหว่างกัน
“เราไม่มีเรื่องกับใคร แต่ต้องประคองตัวให้เรามีศักยภาพ ให้เพื่อนมีความเคารพนับถือยำเกรงเรา และสามารถมีอำนาจต่อรอง รวมถึงทำให้เห็นว่าเรารับมือได้หากมีการรบ แต่เราก็ไม่เคยคิดที่จะรุกรานใคร เพียงแต่รักษาอธิปไตยที่เรามีอยู่ให้ดีที่สุดเท่านั้น ซึ่งนี่เป็นภารกิจที่ทหารเรือตัองดำรงหน้าที่นี้ไว้ให้คงอยู่ต่อไป ถ้าเราจะให้ประเทศเดินหน้าต้องเลิกเล่นกีฬาสี การเมืองภายในประเทศต้องเลิก เราต้องมียุทธศาสตร์ในการที่จะดึงประโยชน์ของประเทศให้เทียบกับในภูมิภาคได้แล้ว คำถามคือวันนี้เราพร้อมที่จะเล่นเกมนี้ไหม ที่ทุกอย่างของโลกต่างมาบรรจบกันในเวทีอาเซียน และประเทศไทยหากจะไปถึงจุดนั้นต้องใช้ความพร้อมอย่างไรบ้าง เราห้ามไม่ให้กระแสโลกาภิวัฒน์มาที่เราไม่ได้ เราหยุดอนาคตที่ไม่แน่นอนไม่ได้ เสด็จเตี่ย บิดาแห่งกองทัพเรือ เคยบอกว่าวันนี้เราเคราะห์ดี แต่ต่อไปจะเป็นอย่างไรเราไม่รู้ แต่ถึงไม่รู้ก็ต้องเดินไป อนาคตกำลังมา เราต้องเตรียมพร้อม พัฒนาบุคลากรให้ดีเยี่ยม คนดีมีความรู้ต้องได้แสดงบทบาท พร้อมที่จะอยู่ในเวทีประชาคมโลกให้ได้อย่างสมภาคภูมิ” อดีตเลขาธิการอาเซียนกล่าว
นายสุรินทร์กล่าวต่อว่า ประเทศไทยอยู่ในระหว่าง 2 มหาสมุทรใหญ่ คือ มหาสมุทรเอเชียแปซิฟิก และมหาสมุทรอินเดีย ซึ่งมีบริเวณช่องแคบมะละกา เป็นจุดสำคัญในการส่งออกจากตะวันออกกลางไปยังญี่ปุ่นและเกาหลีใต้ และส่งออกจากเอเชียแปซิฟิกไปยังยุโรป จุดสำคัญจุดนี้จึงจำเป็นต้องมีการพัฒนาศักยภาพหลายๆ ด้าน โดยเฉพาะศักยภาพของกองทัพเพื่อเพิ่มขีดความสามารถเท่าที่จำเป็น ทั้งนี้ประเทศไทยในพื้นที่ทางทะเลตั้งแต่จังหวัดระนองจนถึงสตูล เป็นเสมือนบริเวณช่องแคบมะละกาเช่นกัน ดังนั้นกองทัพจึงจำเป็นต้องมีการพัฒนาอย่างเหมาะสม
ส่วนความจำเป็นที่กองทัพเรือจะต้องมีเรือดำน้ำว่าเหมาะสมแล้วหรือไม่ อดีตเลขาธิการอาเซียนกล่าวว่า เป็นเรื่องที่ทางกองทัพและหน่วยงานด้านความมั่นคงจะต้องศึกษาและวิเคราะห์ให้ดี โดยคำนึงถึงภารกิจระหว่างประเทศและเสถียรภาพว่าจะสามารถเพิ่มสมรรถนะในส่วนนี้ให้ประเทศไทยได้รับการยอมรับจากประเทศต่างๆได้อย่างไร รวมถึงความรับผิดชอบและการดูแล ซึ่งในอดีตเราเคยมีเรือดำน้ำแล้ว และนำไปต่อที่ญี่ปุ่น ซึ่งอยากให้กองทัพพัฒนาศักยภาพให้รอบด้าน โดยเฉพาะบุคลากรว่ามีความรู้ความสามารถแค่ไหน เพราะปัจจุบันโลกวิวัฒนาการไปมาก การรักษาทรัพยากรทางทะเล จึงจะต้องดูแล โดยประเทศไทยต้องสร้างสมดุลให้เกิดขึ้นอย่างเหมาะสมต่อไป
อดีตเลขาธิการอาเซียน กล่าวถึงกรณีที่ประเทศไทยส่งตัวชาวอุยกูร์ไปยังประเทศจีนว่า เรื่องนี้ประเทศไทยต้องชี้แจงให้สังคมโลกเข้าใจถึงสิ่งที่ดำเนินการไปแล้ว และเห็นด้วยที่รัฐบาลให้เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) เข้าไปดูการปฏิบัติของจีนที่จะดำเนินการกับชาวอุยกูร์ ซึ่งเป็นเรื่องที่ไทยจะต้องนำผลการปฏิบัตินั้นมาชี้แจงให้สังคมโลกเข้าใจต่อไป แต่ทั้งนี้จะต้องระวังว่าการดำเนินการดังกล่าวจะไปกระทบต่อกิจการภายในของจีนด้วย
อย่างไรก็ตาม มองว่ากระแสโลกให้ความสำคัญกับการละเมิดสิทธิมนุษยชนมากขึ้น ซึ่งไทยจะต้องให้ความกระจ่างและตอบสังคมโลกให้ได้
ส่วนความไม่สงบในชายแดนใต้ โดยเฉพาะช่วงเดือนรอมฎอน อดีตเลขาธิการอาเซียนกล่าวว่า ได้ติดตามการพูดคุยสันติสุขจากทั้งสองฝ่าย เห็นว่าได้หยุดชะงักไป แต่เชื่อว่าทั้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและกลุ่มผู้เห็นต่าง เตรียมที่จะพูดคุยกันอยู่แล้ว เพราะสังคมโลกต่างจับตามองอยู่ว่าจะมีการพูดคุยหาทางออกร่วมกันอย่างไร ทั้งนี้เชื่อว่าการพูดคุยเท่านั้นเป็นทางออกที่ดีที่สุดซึ่งจะสร้างความเข้าใจในพื้นที่ให้เกิดความสงบสุขได้
ผมตอบท่าน hongse_c แทนหลายท่านนะครับ
1. "711ผู้ผลิตควบคุม น้ำหล่อเย็นcooling exhaust gas ที่อุณหภูมิเท่าไร" ดูกราฟที่คุณแปะมาจิครับ เค้าก็บอกอยู่นะครับ 300k ลบ 273 ก็เป็น c แล้วครับผม(จะแปะอะไรมาก็ควรดูก่อนไหมอะครับผม) ผมถามกลับเล่นๆนะครับว่า ไอ้ผู้ผลิตมันมีปัญญากำหนดหรือควบคุมค่า TL หรือ cooling exhaust gas ที่โม้ๆกันมาได้จริงเหรอครับ ได้ทุกที่ในโลกหรือเปล่า แล้วไอ้กราฟ P-v ที่แปะมามันใช้กับประเทศไทยได้อะเปล่า ไกด์ให้นะครับผู้ผลิตเค้าไม่ได้เป็นคนกำหนดนะครับ แต่เค้าทดสอบที่ช่วงอุณหภูมินี้ครับ(ถ้างงก็ลองไปถามเพื่อนๆวิศวกรนะครับ)
2."V4-275R mk3 มีขนาด และหนักเท่าไร และ se 217kw จีนมีขนาด และหนักเท่าไร" อันนี้ไม่รู้อะครับ โอ้คุณหามาเถอะครับจะง่ายกว่า ผมหาไปก็ไม่เจอหลอกครับ
3."crankshaft ที่สั้น และยาวต่างกัน ก่อเกิดเสียงดังต่างกันอย่างไร มีสมการ หรือกราฟให้ดูไหมครับ" เสียงมันเป็นคลื่นครับ สมการคลื่นก็ "ความเร็ว=ความถี่xความยาวคลื่น" ความเร็วเสียง กำหนดโดย ชนิดของวัสดุ ความยาวคลื่น กำหนดโดย ความยาวของวัสดุ ความถี่จึงแปลผันกับสองตัวแปรนี้ และเรียกความถี่ธรรมชาติของแต่ละวัสดุ ถ้าอยากดูกราฟก็หากราฟ sin ดูไปนะครับ เสียงทุกเสียงในโลกนี้เป็นกราฟประมาณนี้หมด โอเคนะครับ"ความยาวคลื่น กำหนดโดย ความยาวของวัสดุ" โอเค
4."จากข้อ3 คุณรู้ได้อย่างไร รดน.จีนไม่ใช้ Anti-shock isolator ซึ่งมีทั้งข้อมูล และรูปถ่ายปรากฏมาเขาใช้ ทำไมถึงว่าไม่ใช้" งงอะอันนี้ ใครไปว่าเค้าไม่ใช้อะครับผม ไอ้ Anti-shock isolator หรือ อุปกรณ์ลดการสั่น ลดการกระเทือน เค้าใช่กันทั่วโลกอะครับ ไม่ใช่เฉพาะเครื่องยนต์ aip นะครับ ถามให้คิดเล่นๆนะครับ คุณว่ารถยนต์ที่คุณใช้อยู่อะมีไหมอะครับไอ้ Anti-shock isolator แล้วคุณสตาร์ท เร่งเครื่อง รถคุณสั่นเพราะเครื่องยนต์อยู่หรือเปล่าอะครับ
5."รดน.ญี่ปุ่น สวีเดน และจีน มีระดับเสียง กี่ dB" ไม่รู้ครับ และไม่มีทางรู้ด้วย เพราะ ณ แหล่งกำเนิดเสียงเดียวกัน ที่ระยะต่างกัน dB ก็ต่างกันนะครับ ประเทศไหนมันจะโง่บอกความดังของแหล่งกำเนิดเสียงอะครับให้ชาวบ้านหาระยะของ ด.เค้าได้อะครับ ถามไม่คิดนะครับเนี้ย อย่างผมถามคุณบ้างว่า ค่าความร้อนจำเพาะเครื่องยนต์ jas39 ของ ทอ.เราเนี้ย หรือเครื่องขับไล่ของจีนก็ได้ มีค่าเท่าไร ถ้าคุณหามาตอบได้ ผมก็จะหาความดัง ด. ให้นะครับ
~~โอ้ยนั่งอ่านมาตั้งหลายวัน ไม่เห็นจะมีข้อมูลของเรือ S26T ที่จะนำไปใช้เปรียบเทียบกับเรือดำน้ำเพื่อนบ้านได้เลยซักแค่ไหนเลย
คืองงที่จะมานั่งเถียงกันเรื่องความเงียบ AIP ของเรือดำน้ำ เคยเอาเครื่องเทสต์ระดับเสียงไปวัดกันที่งานจริงกันหรือ ? และแถมหยิบยกเอา ICE มาอธิบายให้งงกันเพื่อ?
ผมขอให้ข้อคิดแบบอ่านแล้วเข้าใจง่ายๆ
เรือดำน้ำจีนให้กำลังวัตต์สูงแต่ย่อมต้องมีผลกระทบในเรื่องความเงียบอยู่แล้วละครับ เอาง่ายๆเคยเล่นตัว Inventor กันบ้างไหมครับท่านวิศกรเครื่องกลทั้งหลาย อย่าบอกนะว่าไม่เคย เวลาท่านปรับให้รอบมอเตอร์ไฟฟ้าให้หมุนเร็วขึ้นแล้วหรือเพิ่มวัตต์ไฟเข้าไป มอเตอร์ไฟฟ้าเสียงมันดังขึ้นด้วยหรือเปล่าล่ะ ___ ก็ไม่รู้ว่าท่าน hongse_c จะเสียเวลาไปเถียงกับเค้าทำไม? ข้อมูลที่ผมขอท่านไปผมได้มาเพียงนิดเดียวเองนะครับ
แต่ใครจะไปรู้ว่าเรือ TYPE039 ที่ไปโด่งดังเป็นข่าวแถวๆข้างเรือ Nimitz เค้าอาจจะใช้แผ่นวัสดุดูดกลื่นคลื่นโซน่าหรือคลื่นเสียงหุ้มใต้ผิวเรือภายในห้องเครื่องยนต์ก็ได้เท่านี้ ก็ลดข้อด้อยของเรื่องความดังของเครื่อง AIP/ SEAIP ที่จะเล็ดลอดออกมาจากห้องเครื่องได้แล้ว ขนาดในเรือชั้นกิโล Kilo ของรัสเซียยังมีเทคโนโลยีดังกล่าว แล้วเคยขายให้จีนในปี 1999 ดังนั้นในความคิดของผมจึงไม่ใช่เรื่องน่าแปลกที่จีนจะมีเทคโนโลยี stealth ในเรือดำน้ำของตนเอง (ส่วนของจีนจะทำได้มีประสิทธิภาพแค่ไหนไม่มีใครรู้ได้เพราะมันเป็นความลับจริงไหม?)
แล้วคำถามตามของผมคือในเรือ S26T ที่จะขายให้เรามีแผ่นวัสดุดูดกลืนคลื่นเสียงหุ้มมาด้วยไหม?
ผมซีเรียสตรงนี้ต่างหาก
http://zedth.exteen.com/20110820/conventional-submarine (เชื่อว่าหลายๆท่านในนี้น่าจะได้เคยอ่านกันมาบ้างแล้วแหละ)
ได้มีเวลาได้เข้าไปอ่านในคอลัมน์นี้ ก็บอกได้เลยว่า เรือชั้นซ่งของจีน Type039 ยังสามารถกระตุกขวัญกองเรือพญาอินทรีย์ได้ ขนาดสุดยอดโซน่าระดับ AN/SQS-53C Sonar Array AN/SQR-19 Tactical Tower Array sonar บนเรือคุ้มกันอย่าง เรือพิฆาต Arleigh Burke–class ปล่อยให้เรือดำน้ำ ตกรุ่นลำนี้ดอตเข้าไปในระยะยิงตอปิโดร์ได้ยังไงกัน จัดกองเรือคุ้มกันกันยังไง สงสัยสหรัฐยังไม่เข็ดจากเมื่อตอนเรือ ยอร์คทาวน์โดนเรือดำน้ำญี่ปุ่นแล่นเข้าไปสอยเมื่อตอนยุทธการที่เกาะมิดเวย์
ในส่วนของเรือชั้น TYPE 039A หยวน เทคโนโลยีต้องดีกว่าชั้นซ่งอยู่แล้ว
ขนาดจน ผบ.ทัพเรือสหรัฐ ต้องลงไปดูด้วยตนเอง เพราะฉะนั้นเรื่องเทคโนโลยี stealth ของเรือดำน้ำจีน
ก็ไม่ใช้เรื่องที่น่ากังขาหรือน่าวิตกกังวลกันนักหรอกครับ
สำหรับผมนี่ไม่ใช่เวลาที่จะมานั่งเถียงกันว่าระบบ AIP ของเรือใครดี กัน เพราะมันเปลี่ยนแปลงคำสั่งอะไรไม่ได้แล้วครับ คือ หยวนแน่ๆ รอเวลาว่าเมื่อไรเท่านั้นแหละแต่ไม่เกินภายในปีนี้หรอกเชื่อเหอะ (ตามข้อมูลข่าวของเจ้ วาสนา ที่ท่าน nakarin เอามาลงนะแหละ)
ปล. สรุปแล้วเมื่อกองทัพเรือมันจะออกมาเปิดเผยข้อมูลเรือดำน้ำจีนไอ้รุ่น S26T ซักที หงุดหงิดโว้ย จะซื้อก็ซื้อไปแต่ขอข้อมูลด้วย
อันนี้เอาไว้ดูขำๆ แต่ก็สะท้อนใจนะว่าสำหรับคนที่ไม่อ่านหนังสือเยอะๆ หาข้อมูลจากหลายๆแหล่ง นี่จะไหลไปเลยนะ... แม่สาวที่เป็นคนรุ่นใหม่นี่ก็น่าจะเฉลียวกว่านี้นะ
ยอมรับเลยเจอแบบ คุณ potmon บ่อย งั้นผมจะอธิบายที่ผมสงสัย แต่คุณต้องตอบที่ผมถามด้วยน่ะครับ???
***อย่ามาบอกว่าตอบไม่ได้เด็ดขาด เพราะ นำเสนอตนเองว่าเก่งสุดๆ คงไม่มีอะไรตอบไม่ได้
เริ่ม
1.จาก //คิดถูกจริงๆ ที่ไม่ได้เขียนออกไปทีเดียวหมด ไม่งั้นคงไม่ได้เห็น นานๆ จะเจอหนาพวกก๊อปแปะๆ แบบไม่มีหัวคิดได้มั่วขนาดนี้นะครับนี้ นอกจากไม่ได้รู้เรื่องอะไรแล้วยังเอามาโชว์อีก ผมให้สูตรไว้ 2 สูตรใช่ไหมครับ และผมก็ถามว่า
"ปล.ผมไม่รู้นะครับว่าจะเอา กราฟ P-v Diagram มาให้ดูกันทำไม รู้เปล่าอะครับมันบอกอะไร หน่วยเป็นอะไร วัฏจักรหนึ่งเนี้ยได้งานเท่าไร ตัวก๊าซเป็นชนิดไหน //
-------ตอบไปแล้วยังวนมาถามอีกรอบ กลับไปอ่าน
----คงชัด แต่เชื่อเดี๋ยวคุณวนถามอีกรอบ!!!
2.จาก//W[net] = P[meff] m ( v[max] - v[min] ) สูตรนี้คือสูตรงานครับ ถ้าพลอทเป็นกราฟข้อมูลจากการทดลอง@ต้องรู้ชนิดก๊าซ และต้องมีตารางเทอร์โมของมันด้วยนะครับ พลอทออกมาก็จะได้กราฟ P-v Diagram ครับ //
-----ดูรูปที่ 1 ใจเย็น ค่อยๆอ่าน แล้ว net work done per cycle (Joules) เขียนชัดๆ ว่า “ per cycle”
ไม่รู้จักคำว่า net work done per cycle (Joules) เวลาหา กำลังก็ต้องเอารอบมาคูณ เห้อ เราคุยกับใครเนี่ย....และที่ยกมาก็แค่ตัวอย่าง (คงไม่คิดว่านี่กราฟของจริงน่ะ!!!)
3.จาก /// ค่า v (ดูดีๆนะครับ v เล็กครับ เพราะ vเล็กมันเป็นค่าจำเพาะของแก็สครับ(specific volume) ต่างชนิดกันก็ไม่เท่ากันแล้ว) มันคือ งานที่ได้จากการเคลื่อนที่ของลูกสูบหนึ่งรอบหรือหนึ่งวัฏจักรครับ งานมีหน่วยเป็น"จูล"ครับ(ไม่ใช่วัตต์นะครับ แล้วเอามาเพื่อ แถมมั่วอีก) แล้วเพื่อนๆงงกับท่าน hongse_c ไมละครับว่า สูตรพี่แกคือ W=PV สูตรเป็น V ใหญ่หน้าตาเฉย เพราะจริงๆ V(หน่วย m3) = m(หน่วย kg) คูณ v(หน่วย m3/kg) มั่วไมอะครับ กราฟกับสูตร คนละหน่วยกัน คนละอย่างก็ว่าได้ เพราะ m(หน่วย kg)คือมวลของก๊าซในกระบอกสูบครับ สูตรงานท่านยังมั่วเป็นสูตรกำลังได้นะครับเนี้ย กราฟก๊อปแปะของท่าน มีรอบกับมวลก๊าซ(มวลก๊าซหรืออากาศจริงๆมีสูตรนะ@ที่อุดมคติ อยากรอชมท่าน hongse_c ก๊อปแปะให้ดูหน่อย ฟิวทำเครื่องยนต์ในอุดมคติอะครับ)ให้ไอ้กระผมไหมอะครับ ถ้าไม่มีจะเอากราฟ P-v มาเพื่อให้ผมได้ด่าคนเล่นใช่ไหมครับท่าน //
-----เรียน thermodynamic มาหรือเปล่า ไม่รู้หรือว่า หาnet work done per cycle (Joules)เขาใช้ specific volume หรือใช้ volume ก็ได้ แต่ต้องดูว่า ตอนนั้นอยู่สถาณะไหน compressed หรือ superheat นี่อากาศน่ะครับ
ไม่รู้ความสำพันของมวล กับ V หรือ
ดูรูปที่3 p vs volume สมการอะไรคงทราบ
ดูรูปที่4 p vs specific volume สมการอะไรก็คงทราบ
ไม่ว่าจะใช้สมการอะไร ก็หา net work done per cycle ของ p vs specific volume ได้
**อันนี้ไม่ทราบจริงๆ หรือ งงมาก ไหนบอกรู้ไง
จาก //ถ้าไม่มีจะเอากราฟ P-v มาเพื่อให้ผมได้ด่าคนเล่นใช่ไหมครับท่าน ////
--ขอด่า ไม่ซิ ขอว่าก็พอเพราะผมสุภาพ ---ทำไมไม่ศึกษาให้ดีก่อน ค่อยออกความเห็นล่ะครับ??
4.จาก //W' = P[meff] m v[displ] (RPM/60) สูตรนี้คือสูตรกำลังครับ ไม่ใช่สูตรข้างบนหรือสูตรของท่าน hongse_c นะครับ ผมก็ฮานะครับที่ คนที่บอกตลอดเวย์ว่า "ทฤษฎีใครๆก็รู้" มั่วเอาโล่ได้ขนาดนี้(ทุกคนเค้าน่าจะรู้อะหละครับ ยกเว้นท่าน) มาต่อกันดีกว่า หน่วยของสูตรนี้คือ วัตต์ครับ(จูล/วินาที) อันนี้แหละครับที่เป็นตัวบอกกำลังเครื่องยนต์ แล้วลองดูกันดีๆนะครับ มันมีตัวแปรเพิ่มมา คือ RPM หรือ รอบเครื่องนั้นแหละครับ ง่ายๆเลยก็ สูตรบน W[net] = P[meff] m ( v[max] - v[min] ) คือ งานที่ได้เมื่อลูกสูบหมุน 1 รอบ มาคูณ จำนวนรอบที่หมุนต่อ วินาทีครับ จะได้หน่วยเป็นวัตต์หรือ hp มันก็คือกำลังเครื่องยนต์@ที่จำนวนรอบขณะนั้นแหละครับ ไม่ใช่ hp สูงสุดนะครับ เพราะรอบที่ได้ hp สูงสุด ก็ไม่มีบอก(เหลาๆว่าจินเอาข้อมูลที่ไม่ได้บอกอะไร ที่ไม่ครบถ้วน แถมทำมืออีก มาหลอกคนไม่รู้เรื่องทางกล แถมได้ผลกับคนที่โม้ว่าตัวเองรู้ด้วยนะครับเนี้ย ไทยมากๆครับ) อีกน้อยนะครับ กราฟ P-v ของเครื่องยนต์ตัวเดียวกัน@ที่รอบเครื่องยนต์ต่างกัน มันก็ไม่เหมือนกันนะครับ จะเอากราฟมั่วๆที่ไม่บอกอะไรเลยมาโชว์เทพ ผมมองว่ากากมากอะครับ //
-----บอกหลายครั้งว่า ให้อ่านมากๆ อย่าพึ่งรีบตอบ ผิดแล้วอายเขา P-v ที่ยกมาไม่ได้บอกว่าเป็นของจริงที่ 711 ทำ บอกตรงไหน ยกมาเพื่อเป็นตัวอย่างอธิบายของ SE พิมมาซะยาว เห้อ อ่านดีๆ
5.จาก //อ่านๆ ของ ท่าน hongse_c ต่อๆมาก็ โม้โน่นโม้นี้ในเรื่องที่ตัวท่านไม่ได้รู้จริง แถมข้อมูล และที่ ท่าน hongse_c เข้าใจมา ผิดมาตั้งแต่ต้น ข้อมูลก็ไม่มีความน่าเชื่อถือ(หรือไม่ครบถ้วน) ยังมีหน้าไปถามชาวบ้านอีกนะครับ ถามโน่นโชว์นี้ จากกราฟมั่วๆและความไม่รู้ของตัวท่าน hongse_c คำถามต่อๆมาผมคงตอบไม่ได้อะครับเพราะท่านมั่วมากๆ ผมแนะนำให้อ่านของผมหลายๆทีแล้วคิดตามนะครับ ไม่ก็ถามคนมีความรู้ทางกล เพื่อนๆ ไม่ก็ ครูบาอาจารย์ หรือตัวนายทหารเรือเลยก็ได้ครับ(โม้มาซะขนาดนี้ ถ้าไม่มีคนรู้จักเป็นวิศวกร ต้องบอกว่าหนาครับ หนานะครับนี้) ถ้าไม่มีเพื่อนเป็นวิศวกรจริงๆ ก็หาอ่าน Power and Refrigeration Systems - Gaseous Working Fluids จากหนังสือ Thermo ทั้งหลายในบ้านอ่านครับ แต่ผมแนะนำให้ถามคนเรียนดีกว่า เพราะดูท่านอยู่กับตัวเองมากไปอะครับเด๋วก็งงอยู่คนเดียว ความรู้พวกนี้สายวิศวะเค้ารู้กันหมดแหละครับ ไม่ต้องตีตราความน่าเชื่อถือจากพาวเวอร์พอยท์แบบท่านอะครับ เพราะมันเป็นมารตฐานในตำราของคนที่เรียนมาอยู่แล้ว ผมไม่เคยยกตัวข่มคนอื่นด้วยข้อมูลทางเทคนิกที่ตัวเองมีความเข้าใจมากกว่าคนอื่นๆนะครับ ผมจะอธิบายในสิ่งที่เกิดในชีวิตประจำวันครับ คนที่ไม่ได้เรียนมาโดยตรงเค้าจะได้เข้าใจด้วย ไม่ใช่แบบท่าน hongse_c นะครับ ไม่ได้เข้าใจในสิ่งที่ตัวเองโม้แล้ว ยังไปข่มคนอื่นด้วยข้อมูลมั่วๆของท่านอีก
อันสุดท้าย "ทั้งที่เอา ชาร์ทวัตต์จากตัวคอนโทรลยูนิตที่ตัวเจนเนอเรเตอร์มาแสดงก็จบไหมครับ" แจกสูตรก่อนนะครับ W'(กำลัง aip เป็นวัตต์) = u(ค่าประสิทธิภาพเจนเนอเรเตอร์) คูณ V(โวล์) คูณ I(แอมป์)
จากสูตรนี้ V คูณ I ได้ W'(วัตต์)ครับผม เอาง่ายๆถ้ารู้ค่าประสิทธิภาพเจนเนอเรเตอร์(เครื่องปั่นไฟนั้นแหละ) เอามาคูณกับกระแสไฟ(วัตต์)ที่มันปั่นได้ ก็จะรู้ hp ของเครื่องยนต์ที่เป็นต้นกำลังในการปั่นไฟครับ ง่ายไหมอะครับ ดูรอบเครื่อง ดูวัตต์ จากตัวคอนโทรลยูนิตก็จบครับ(ถ้าคนผลิตมันคิดจะให้ดูอะนะ) คอนโทรลยูนิตใน aip ผมไม่รู้นะครับว่ามันเรียกว่าอะไร แต่จะให้เห็นภาพก็ประมาณ ecu ของรถยนต์อะครับ ตอนไปเช็คสถาพคงเคยเห็นกันไหมครับ ที่ช่างเค้าเสียบสายเข้าไปวัดโน่นวัดนี้ กับปลดล๊อคแจ้งเตือนต่างๆในรถอะครับ หน้าตาก็ประมาณรูป อันนี้แหละครับที่จะพอเรียกได้ว่าบันทึกผลการทดลองได้บ้างเพราะมันเป็นค่าป้อนกลับของตัวเซนเซอร์ในเครื่องยนต์ครับ ไม่ใช่เอาพาวเวอร์พอยท์มาเขียนแบบท่าน hongse_c เอามาโชว์นะครับ
//
-----------พิมมาอะไรยืดยาว จะบอกว่าตนเก่ง คนอื่นผิด และไม่รู้ ยกตนข่มท่าน คุณคนเก่ง555
6.จาก //เอาไว้ท่าน hongse_c เลิกมั่วก่อน แล้วผมจะมาตอบอีกนะครับ ไม่ต้องมาถามข้อมูลเฉพาะทางผมหลอกครับ เพราะผมตอบไม่ได้หลอก (ไม่มีเวลาไปหาในกูเกิล) แต่ปัญหาทางกล และทางวิศวะ ผมพอมีความรู้อยู่นิดหน่อย ตอบได้ก็จะตอบนะครับ //
-----เก่งจริงๆ แต่ห้ามถามคุณใช่ไหม?? เพราะตอบไม่ได้ใช่ป่ะ เรียนมาได้ไง ไม่รู้ว่า หา net work ของairยังไง???? เก่งจริงๆ ยอมรับ
7.ถามรูป 5 เอามาทำไม เกี่ยวไร กับ se นั้นรูปเขาทดสอบ NP FASTER เอามาทำไม อธิบายด้วยครับ??
http://www.caronline.net/?p=1104
8.ข้อนี้ 555
จาก //ผมตอบแทนหลายท่านนะครับ
1. "711ผู้ผลิตควบคุม น้ำหล่อเย็นcooling exhaust gas ที่อุณหภูมิเท่าไร" ดูกราฟที่คุณแปะมาจิครับ เค้าก็บอกอยู่นะครับ 300k ลบ 273 ก็เป็น c แล้วครับผม(จะแปะอะไรมาก็ควรดูก่อนไหมอะครับผม) ผมถามกลับเล่นๆนะครับว่า ไอ้ผู้ผลิตมันมีปัญญากำหนดหรือควบคุมค่า TL หรือ cooling exhaust gas ที่โม้ๆกันมาได้จริงเหรอครับ ได้ทุกที่ในโลกหรือเปล่า แล้วไอ้กราฟ P-v ที่แปะมามันใช้กับประเทศไทยได้อะเปล่า ไกด์ให้นะครับเค้าผลิตไม่ได้เป็นคนกำหนดนะครับ แต่เค้าทดสอบที่ช่วงอุณหภูมินี้ครับ(ถ้างงก็ลองไปถามเพื่อนๆวิศวกรนะครับ)
//
------------ไปมั่วว่าเขาไม่มีปัญญา ไหนคุณมีปัญญา ไหนลองทำ SE 75 kw ให้ดูหน่อย(เอาน้อยๆก็พอ) ถ้าทำไม่ได้อย่าคุยครับ ไม่อายหรือ???
สรุปนี่เป็น วิศวะกร หรือ วิศวกะ 555
ตอบให้ คือ 25 องศา C ทั้งของสวีเดนและของจีนเท่ากัน --------ไปหาเอาครับ คงไม่ยาก
9.จาก //ผมตอบแทนหลายท่านนะครับ
2."V4-275R mk3 มีขนาด และหนักเท่าไร และ se 217kw จีนมีขนาด และหนักเท่าไร" อันนี้ไม่รู้อะครับ โอ้คุณหามาเถอะครับจะง่ายกว่า ผมหาไปก็ไม่เจอหลอกครับ//
-----------V4-275R mk3 0.8x0.8x1.4 m หนัก 750 kg ของจีนไม่บอก
-----------ถามจริง คุยมาตั้งนาน ข้อมูลพื้นฐานของ V4-275R mk3 ทำไมไม่ทราบ ไหนบอกตนเองเก่งไง????
10.จาก3."crankshaft ที่สั้น และยาวต่างกัน ก่อเกิดเสียงดังต่างกันอย่างไร มีสมการ หรือกราฟให้ดูไหมครับ" เสียงมันเป็นคลื่นครับ สมการคลื่นก็ "ความเร็ว=ความถี่xความยาวคลื่น" ความเร็วเสียง กำหนดโดย ชนิดของวัสดุ ความยาวคลื่น กำหนดโดย ความยาวของวัสดุ ความถี่จึงแปลผันกับสองตัวแปรนี้ และเรียกความถี่ธรรมชาติของแต่ละวัสดุ ถ้าอยากดูกราฟก็หากราฟ sin ดูไปนะครับ เสียงทุกเสียงในโลกนี้เป็นกราฟประมาณนี้หมด โอเคนะครับ"ความยาวคลื่น กำหนดโดย ความยาวของวัสดุ" โอเค
--------------เกี่ยวไร กราฟ sin งง ตั้งทฤษฎีเองหรือ การสั่น เขาดูที่ transient response เป็นสำคัญ (ต้องดูอย่างอื่นด้วย)
และคิดได้ไง crankshaft ที่ทันหมุน มันหมุนด้วยตัวเองงั้นหรือ??? ดูรูป
ตามรูปที่ 6 รูปแผนอลูมิเนียม constraint ด้านเดียว แล้วใส่แรงกระตุ้นเพื่อดูการตอบสนอง
รูปที่ 7 เอารูปที่ 6 มาพลอตกราฟ จะเห็นว่าช่วงแรกมันสั่นมาก และหลังจากนั้นจะค่อยๆ หยุด
แล้ว Natural Frequency จะบอกให้ อธิบายง่ายๆ สมมุติตามรูปที่6 มี Natural Frequency =10 Hz ก็หมายความว่า
ความถี่ของ transient response และ frequency response มีค่าเท่ากับ หรือใกล้ Natural Frequency จะเกิดการ Resonance ขึ้น ผลของ Resonance คงทราบเป็นไง
11.จาก//5."รดน.ญี่ปุ่น สวีเดน และจีน มีระดับเสียง กี่ dB" ไม่รู้ครับ และไม่มีทางรู้ด้วย เพราะ ณ แหล่งกำเนิดเสียงเดียวกัน ที่ระยะต่างกัน dB ก็ต่างกันนะครับ ประเทศไหนมันจะโง่บอกความดังของแหล่งกำเนิดเสียงอะครับให้ชาวบ้านหาระยะของ ด.เค้าได้อะครับ ถามไม่คิดนะครับเนี้ย อย่างผมถามคุณบ้างว่า ค่าความร้อนจำเพาะเครื่องยนต์ jas39 ของ ทอ.เราเนี้ย หรือเครื่องขับไล่ของจีนก็ได้ มีค่าเท่าไร ถ้าคุณหามาตอบได้ ผมก็จะหาความดัง ด. ให้นะครับ //
-----ความดังก็ยังไม่รู้ซักเจ้า แล้วทำไมสรุปว่าของจีนดังกว่า กลับไปอ่านข้างบน
และค่าความร้อนจำเพาะเครื่องยนต์ จีน ผมทราบครับ
งั้นถามบ้าง
เพราะคุณบอกผมมั่ว คุณเก่ง นานๆ เจอคนเก่ง นั้นขอถามคนเก่งหน่อยครับ
1.SE สวีเดน V4-275R ใช้อะไรเป็นสารทำงาน (gas) อะไร
2."crankshaft ที่สั้น และยาวต่างกัน ก่อเกิดเสียงดังต่างกันอย่างไร มีสมการ หรือกราฟให้ดูไหมครับ"
3.จาก///งงอะอันนี้ ใครไปว่าเค้าไม่ใช่อะครับผม ไอ้ Anti-shock isolator หรือ อุปกรณ์ลดการสั่น ลดการกระเทือน เค้าใช่กันทั่วโลกอะครับ ไม่ใช่เฉพาะเครื่องยนต์ aip ถามให้คิดเล่นๆนะครับ คุณว่ารถยนต์ที่คุณใช้อยู่อะมีไหมอะครับไอ้ Anti-shock isolator แล้วคุณสตาร์ท เร่งเครื่อง รถคุณสั่นเพราะเครื่องยนต์อยู่เปล่าอะครับ//
---Anti-shock isolator ใช้ในเรือดำน้ำ กับระบบกันสะเทือนรถยนต์ ต่างกันอย่างไร อย่าบอกว่าเหมือนกันน่ะ
****จาก ก็ไม่รู้ว่าท่าน hongse_c จะเสียเวลาไปเถียงกับเค้าทำไม?
ท่านObeOne บังเอิญช่วงนี้ว่าง และเจอคนเก่งครับ
ok. ไปขุดตำราเก่าๆมาปัดฝุ่นดูแล้ว เจอภาพและเนื้อหา สมการที่ท่าน hongse_c พยายามนำเสนอมาเพื่อบอกว่าเรือดำน้ำจีนมันดียังไง เพราะสูตรนี้ท่านพยายามอธิบายว่า มันสามารถสร้างกำลังเครื่องยนต์ให้สูงๆได้โดยไม่ร้อนขึ้นมาก และจัดการความร้อนด้วย ฮิททรานส์เฟอร์ได้ ง่าย
เอาล่ะเจอไอ้วัฎจักร stirling ไอ้ภาพและสมการนี้แล้ว อยู่ในเทอร์โมไดนามิค เนอะ เครื่องยนต์ความร้อน กฎข้อสองเทอร์โมไดนามิคส์ เท่าที่จำได้ ก็เรียนตอนปีสอง ก็ความรู้ระดับ ป.ตรี และ ปวส. คงต้องขอเวลากลับไปทบทวนหน่อยนะครับเพื่อเถียงกับคุณได้ถนัดมือ
ส่วนในเรื่องการสั่นสะเทือน ก็ไปขุด classical wave มา แล้วคงต้องไปหาหนังสือของพวกวิศวะ ในเรื่อง วิศวกรรมสั่นสะเทือน อ่าน เพื่อเข้าใจงานของะวกวิศวะ
ดูทะเลาะกับท่าน potmon ก็มันดีนะ
ภาพที่ท่านลงเป็นวัฎจักร stirling ที่เป็นเครื่องยนต์อุดมคติ ไม่ใช่เครื่องยนต์ที่มีอยู่จริง และพยามยามอธิบายสมการนี้จากเครื่องยนต์อุดมคติ เพื่ออธิบายในเนื้อหาของเครื่องยนต์จริง แปลกๆนะครับ
สำหรับเพื่อนๆที่ไม่ได้เรียนสาขานี้ ผมขอเกริ่นนิดเดียวว่าในวิชาเทอร์โมไดนามิคส์ จะมีการพูดถึง
real gas เป็น ก๊าซจริงในธรรมชาติ ที่จะมีคุณสมบัติไปตามชนิดของก๊าซ
ระบบเครื่องยนต์อุดมคติ เป็นเครื่องยนต์ในจินตนาการ ไม่มีอยู่จริงๆ เพราะมีการตั้งข้อกำหนดที่ไม่มีอยู่จริงในเครื่องยนต์จริงๆ เช่น ไม่มีแรงเสียดทานภายในกระบอกสูบ ความร้อนในกระบอกสูบไม่มีสูญเสีย เป็นต้น ซึ่งเครื่องยนต์ในจินตนาการพวกนี้จะเป็นเครื่องยนต์ประสิทธิภาพสูงสุดในทฤษฎี
ส่วนเครื่องยนต์จริง ก็คือเครื่องยนต์ในชีวิตจริงที่เราเห็นๆกันทุกๆวัน เทตโนโลยีประเทศไหนดีที่สุดก็วัดโดยว่า เครื่องยนต์ของค่ายนไหนให้ประสิทธิภาพใกล้เคียงเครื่องยนต์อุดมคติที่สุด
แต่การที่คุณพยายามนำเสนอในสิ่งที่คนทั่วไปไม่ได้เรียนมา แล้วบอกว่าเรือดำน้ำจีนนั้น เครื่องยนต์ AIP ของมัน เสียงน้อยกว่าสั่นสะเทือนน้อยกว่า ร้อนน้อยกว่า โดยเอาสมการของเด็ก ป.ตรี มาอธิบาย และยังเป็น เครื่องยนต์อุดมคติอีกด้วย ไม่ใช่สมการของเครื่องยนต์จริง ผมว่ามันแปลกนะ เหมือนกับว่าคุณเห็นภาพจากสมการว่า
แต่ผมก็ไม่เห็น สมการและค่าต่างๆจากเครื่องยนต์จริงๆ ของทั้งจีน สวีเดน ญี่ปุ่น มาดูเปรียบเทียบให้พวกเราดูกันเลย
ผมว่าคุณก็ มโนเอาล้วนๆจากความรู้ที่คุณมีนะล่ะ ว่ามันต้องเป็นแบบนี้สิ เพราะสมการที่เรียนมาแทบหัวแทบแตกมันบอกแบบนี้นี่หว่า
เหมือนกับที่คุณพยายามประชดประชันผมว่า ถ้าเป็นอย่างที่ผมมโนเอา ไหนเอาของจริงแต่ละค่ายมาให้ผมดู พอผมถามกลับไปว่า แล้วคุณมีหรือ คุณก็ตอบสั้นๆว่า ไม่มีเหมือนกัน
จากนั้นคุณก็ร่ายยาว วิชาการที่เพื่อนๆสมาชิกท่านอื่นอ่านไม่เข้าในเพื่อบอกเป็นนัยยะว่า ผมเก่งวิชาการด้านนี้นะ ผมของแท้นะ ดังนั้นที่ผมพูดต้องจริงสิ
แล้วไหนล่ะ สมการและค่าต่างๆจากเครื่องยนต์ AIP จริงๆ ไม่ใช่เครื่องยนต์อุดมคติ จากทั้ง 3 ค่าย เพื่อนำมาเปรียบเทียบกันว่าค่ายจีนดีกว่าจริงๆ
วิชาการคุณอาจจะแน่นกว่าผมเพราะมีโอกาสได้ทำงานในสายงานที่คุณเรียนจบมา ก็เท่านั้น แต่ก็มโนล้วนๆเช่นกัน
อะ ผมชอบอธิบายทฤษฎีเชิงบรรยายที่คุณแดกดันมา เพราะคนเข้าใจง่ายดี เห็นภาพง่ายดี และก็ใช้วิธีนี้สอนลูกๆผมด้วย เด็กก็เข้าใจง่ายดี เข้าถึงเนื้อหาได้ดี
เพื่อให้เพื่อนๆเข้าใจหลักการเครื่องยนต์ stirling ก็ดูคำอธิบายของฟิสิกส์ราชมงคล ที่ผมทำลิงค์ให้ดู
http://www.rmutphysics.com/charud/naturemystery/stiring%20engine/index.htm
เครื่องยนต์ตามคำอธิบายนะเป็นเครื่องยนต์อุดมคติ ไม่ใช่เครื่องยนต์จริงๆ
เขาบอกง่ายๆดีนะว่าถ้าจะเพิ่มกำลังเครื่องยนต์ ก็มีสองทาง 1 อัดความร้อนเข้าไปด้านที่ร้อน และ 2 ทำให้ด้านที่เย็ยเย็นมากยิ่งขึ้น ลองคิดดูเอาแบบง่ายๆ จะให้มีกำลัง 3 เท่า ต้องอัดความร้อนเข้าไปแขนาดไหน และต้องระบายความร้อนออกมาขนาดไหน ก็อย่างที่ท่าน evill ว่า ถ้าไม่มีระบบทำความเย็นดีๆ ได้เป็นเป็ดอบกันทั้งเรือ
เป็นคำอธิบายง่ายๆ ที่ไม่ต้องใช้สมการอันแสนปวดหัวมาบอกก็ได้ ว่ามันจะร้อนขึ้นหรือไม่ เพียงแต่มันไม่เท่ โชว์พาวว์ ว่าผมเก่งสุดๆนะในด้านนี้
ไม่เข้าใจไม่เป็นไร
1.กราฟ การคำนวน และสมการ ทั้งหมดที่ยกมานั้น ใช้เพื่ออธิบายว่า การมโนตาม 3ข้อ ด้านล่างมันผิด
1.1.SE ที่ให้กำลังมากขึ้น ต้องมีช่วงชักยาวขึ้น เท่ากับสั่นขึ้น!!!!
1.2.SE ที่ให้กำลังมากขึ้น ต้องร้อน และไม่สามารถควบคุมความร้อนได้!!!!
1.3.SE ที่ให้กำลังมากขึ้น ต้องเสียงดัง!!!!
และการอธิบาย Thermodynamics ด้วย Ideal gas เพราะมันง่ายในการอธิบาย แต่ถ้าคิดว่าไม่พอใจ เอา real gas ของSE จริงๆ ก็ได้ ตามรูปที่1 ,2
2.เรื่อง ที่คุณคิดเองว่า //ให้กำลังมากขึ้น ต้องเสียงดัง!!!!// นี่ผมคำนวน CAE ให้เลย ของจริง เป็นแผ่น AL2014 ยึด constraint ด้านเดียว แล้วใส่แรงกระตุ้นเพื่อดูการตอบสนอง =1m/s2
ได้ผลตามรูป ที่3 และ4
การคำนวนนี้ ยึด constraint ด้านเดียว ซึ่งแตกต่างจาก crankshaft ที่ยึด 2ด้าน
ช่วยอธิบายว่ามันจะเสียงดังอย่างไร เอาแบบมีสมการ หรือผลการคำนวนแบบผมน่ะครับ ??
และเห็นต่าง แย้งมาครับ เรื่องนี้คงหาตัวช่วยไม่ได้แล้วครับ ช่วยอธิบายทีครับ
3.ถามง่าย ที่คุณบอกว่า ของจีนเสียงดัง แพร่ความร้อน ตรวจจับได้ง่ายกว่า ของสวีเดน ญี่ปุ่น
คุณเอามาจากไหน มีอะไรที่เป็นวิทยศาสตร์อ้างอิงบ้าง ซักหนิด มีบ้างไหม?????
ปล
ผมไม่เก่งหรอกครับ เพราะ บางท่านในนี้ รู้ดีกว่า 711 ผู้ออกแบบ ผลิต aip อีก เก่งจริงๆเลยครับ ยอมรับเลย
CSIC ผู้ผลิต ก็ไม่ฉลาด ทำรดน. อะไรร้อนเป็นเตาอบ เสียงดัง ไม่ได้เรื่องเลย ของห่วยๆ ทำไมทำมาตั้ง 17ลำ
และน่าตลก ที่สุด เมื่อ November 13, 2006
U.S. aircraft carrier battle group ถูกสะกดรอยโดย 039G1 ได้ไง และที่น่าขำกว่า มันกลับถูกค้นพบโดย เครื่องบินลาดตระเวนตามตารางงานปกติ แล้วไปเจอ เน้นว่าปกติ(The surfaced submarine was spotted by a routine surveillance flight by one of the carrier group’s planes.)
ซึ่ง 039g1 นี่เก่ากว่า 039b อีก แปลว่าคุณ และพวก นี่เทพจริง วิเคราะซะ 039b กลายเป็นเรือขายเป็ดเลย 555
รูปที่4 frequency response ของโครงสร้าง เมื่อได้รับความถี่กระตุ้น 10 mode
ข่าวออกแล้วว่า กลาโหมให้ชลอการจัดซื้อเรือดำน้ำออกไปก่อน และให้ไปสร้างความเข้าใจกับประชาชนใหม่.....มันจะช้าไปไหมครับท่านเล่นออกตัวซะแรงขนาดนั้นแล้วก็เบรคจนหัวทิ้ม แรงเฉื่อยมันก็กระทำต่อตัว ทร.กับรัฐบาลทันที.....จากเนชั่นแชลแนลครับ
ก็เป็นข่าวดี สำหรับพวกที่โจมตีเรือรดน.จีน พล.อ ประวิตร เบรคไม่ส่งเข้าครม.และไม่ดำเนินการ โยนให้ทร.ไปทำการบ้านว่าผลประโยชน์มูลค่า2.2ล้านล้านบาทเมื่อเปรียบเทียบกับการจัดหารดน.เหมาะสมไง รวมถึงมีผลต่อศักยภาพกองทัพมากน้อยเพียงใด กำ
....หาเหตุผลในการซื้อเพื่อให้ชอบธรรมมากขึ้น......ถ้าให้เดาคงไม่เกินสิ้นปี อนุมัติแน่ๆ เลย
.......เทคโนโลยี จะให้เลือกของใครไม่บอก....งั้นมีแววยืนยันจีนเหมือนเดิม...
ท่าน hongse_c แถๆแบบมันสีข้างไปเลยนะครับ จะแปะอะไรไม่เคยดูเลยจริงๆ ผมก็ไกด์ไปแล้วว่า ตัวแปรใช่ตัวอักษรเล็ก ใหญ่ มันไม่ใช้ตัวเดียวกันก็ยังจะมั่ว โชว์ความไม่รู้ของตัวเองอีก แปะเพิ่มมาให้ผมได้ด่าอีกนะครับ อันใหม่ของท่าน hongse_c คือ w = P(v2-v1)ดูนะครับ w เล็กนะครับ หน่วย w คือ จูล/กิโลกรัม นะครับ สักแต่หาๆตัวหนังสือเหมือนมาแปะจริงๆ หลายๆท่านก็อ่านย้อนดู พฤติกรรม ท่าน hongse_c เอาเองนะครับ ว่าพี่แกโม้ว่าไอ้กราฟ P-v นี้อะ ของ ด.จีน หรือเปล่า(ขอกราฟแบบนี้ขอเจ้าอื่นๆเทียบจีน หรือเปล่า) แล้วพี่แกว่ากราฟนี้เป็นกำลังเครื่องยนต์เปล่า สูตรที่ให้มากับกราฟ มันตัวเดียวกันอะเปล่า(ถ้าเรียนมาหรือมีความรู้ เอ็งจะเอามาคนละตัวทำเพื่อ)
ถามตรงๆแบบแมนๆกันเลยดีกว่า จะแถใครก็แถได้แต่กับตัวท่าน ท่านรู้ดีอยู่แก่ใจครับ
1.""กราฟนี่บอกว่าอะไร??? บอก
1.อธิบายการทำงานในแต่ล่ะ stage ซึ่งวัฏจักร SE มี 4stage ตามรูปที่1
2.จากข้อ 1เปรียบเทียบระบบจริง กับideal
3.ความดัน และspecific volume บอกกอะไร?
บอก กำลัง (Watt) ตามรูปที่2 ซึ่งP-v Diagram จะเป็นการอธิบายว่าระบบ Seนั้น มีแต่ล่ะ stage อย่างไร และ stage ไหนให้กำลังที่สูง""
"Watt" และ "และ stage ไหนให้กำลังที่สูง" ของท่าน hongse_c โม้ชัดเจน ว่ากราฟนี้โชว์ความแรง(กำลังวัตต์อะ) ทั้งโม้แล้วก็ถามชาวบ้าน เป็นกำลัง(วัตต์)มาตลอด เป็นความจริงหรือไม่?
2.ผมจะ ถามตอนนี้อีกครั้งว่า กราฟ P-v Diagram ของ ท่าน hongse_c ท่านมีความรู้ว่า กราฟมันบอกเป็น งาน(จูลล์) หรือกราฟมันบอก กำลัง(วัตต์) อันไหนกันแน่?
3. ผมขอถามท่าน hongse_c ว่า สูตร 2 สูตร ของผม ถูกต้อง หรือ ผิด มั่วๆมาแบบไม่มีที่มา หรือไม่อยู่บนความเป็นจริง อันไหนกันแน่ที่ท่านเข้าใจ?
สูตรงาน W[net] = P[meff] m ( v[max] - v[min] )
สูตรกำลัง W' = P[meff] m v[displ] (RPM/60)
ถ้ามันถูกต้อง ที่ผมเคยเขียนอธิบายมามันผิดหรือเปล่า
ถ้ามันผิด มันผิดตรงไหน หรือเอาอันที่ถูกต้องมาก็ได้
4. "-----เรียน thermodynamic มาหรือเปล่า ไม่รู้หรือว่า หาnet work done per cycle (Joules)เขาใช้ specific volume หรือใช้ volume ก็ได้ แต่ต้องดูว่า ตอนนั้นอยู่สถาณะไหน compressed หรือ superheat นี่อากาศน่ะครับ
ไม่รู้ความสำพันของมวล กับ V หรือ
ดูรูปที่3 p vs volume สมการอะไรคงทราบ
ดูรูปที่4 p vs specific volume สมการอะไรก็คงทราบ
ไม่ว่าจะใช้สมการอะไร ก็หา net work done per cycle ของ p vs specific volume ได้
**อันนี้ไม่ทราบจริงๆ หรือ งงมาก ไหนบอกรู้ไง"
ผมถามท่าน hongse_c ท่านเขียนข้อความนี้ และมีความรู้ทางกล หรือ เรียน thermodynamic มาใช่หรือไม่
ถ้า เรียนมาและท่านมีหนังสืออย่าง fundamentals of thermodynamic ,introduction to heat transfer,mechanics of materials,vibrations of machines หรือหายืนเพื่อน หรือห้องสมุดได้ใช่หรือไม่ เพราะผมมีอย่างละ 2 เล่ม ยกเว้น vibrations of machines ถ้าท่าน hongse_c มีเล่มไหน และของสำนักไหน บอกผมจะได้ชี้ให้ดูที่ละสมการไปเลย
เพราะที่ท่านเขียนมามันผิด ครับ v(specific volume) หน่วย m3/kg ไม่ใช่ค่าเดียวกันและแทนกันไม่ได้ครับ กับ V(volume) หน่วย m3 และไม่ได้เกี่ยวอะไรเลยกับ "compressed หรือ superheat"
อันสุดท้าย โอ้โฮอีกเยอะอะที่ท่านมั่วมาสะ คือท่านมั่วหมดทุกๆอันเลยอะ ผมจะทะยอยมาแก้ให้นะครับ ทุกๆวันเลย ไม่นานคงหมด เว็บนี้ใครถูกใครผิดไม่ได้มีความหมายอะไรครับ รู้ก็บอกว่ารู้ ไม่รู้ก็บอกไม่รู้ หรือถามท่านอื่นๆก็ได้ ไม่มีประโยชน์ครับที่จะมาหลอกตัวเองด้วยข้อมูลผิดๆ แต่ถ้าเรียนมาผิดๆ ก็เป็นที่ตัวท่านเองแล้วอะครับอย่าได้ไปโทษครูบาอาจารย์เลย ผมรับประกันได้ว่าไม่มีใครสั่งสอนท่าน แบบที่ท่านเข้าใจแน่นอนอะครับ
อีกนิดนะครับ มีหลายท่านดูแล้วก็เชื่อตาม ท่าน hongse_c นะครับ ผมว่าควรดูด้วยว่าที่ท่าน hongse_c เขียนมาอะมันเป็นข้อเท็จจริงหรือเปล่า
ถึง ท่าน neosiamese2 นะครับ ผมยินดีนะครับที่ท่าน neosiamese2 ตามอ่านของผมด้วย และมาช่วยหาข้อมูลมาแชร์กันครับ เพราะข้อมูลผิดๆของท่าน hongse_c ถ้าไม่มีคนมาค่อยกรองแบบผมกับท่าน คนอื่นๆเป็นได้เชื่อหมดตามแน่ๆเลย ย้อนนิดนะ จริงๆแบบผมกับท่าน neosiamese2 เมื่อก่อนตีกันบ่อยๆและในหลายเรื่องนะครับ(สมาชิกเก่าๆก็ตีกันมาหมดแล้วก็ว่าได้) ความเห็นไม่ตรงกัน เถียงกัน เป็นปกติก็ว่าได้ครับ แต่ถึงที่สุด ถ้าข้อมูลผม หรือ ท่านneosiamese2 ผิดจริงๆเราก็ยอมรับกันครับ ไม่แถหรือไปสร้างความเข้าใจผิดๆให้คนอื่นๆต่อ และเราก็จะได้เข้าใจข้อมูลที่ถูกต้องด้วย เลยจะฝากถึง ท่าน hongse_c ว่าอย่าได้มั่วในสิ่งที่ตัวเองไม่รู้เลยครับ ไม่ได้มีประโยชน์กับใครครับ
ถึง ท่าน maxim69 นะครับ ต้องขอโทษที่นะครับ ช่วงนี้อาจใช้รูปแบบที่ทางการไปหน่อย ผมไม่ได้อยากจะโชว์เหนือหรืออะไรนะครับ แต่เพราะข้อมูลของท่าน hongse_c มั่วมากๆ และไม่ได้เป็นจริงเลย ผมเลยต้องอธิบายเป็นวิชาการนิดหนึ่งอะครับ ผมจะพยายามอธิบายเป็นภาษาที่เข้าใจง่าย และสิ่งที่เกิดในชีวิตประจำวันให้มากกว่านี้นะครับ และรูปประกอบผมแค่จะบอกว่า มันมีโปรแกรมที่เก็บข้อมูลจากค่าป้อนกลับที่ตัวเซนเซอร์ในเครื่องรถยนต์รายงานมา ว่าหน้าตาโปรแกรมและตัวบันทึกผลมันมีหน้าตาประมาณไหนเท่านั้นเองครับ ไม่เกี่ยวกับตัวผลิตภัณฑ์นะครับ ต้องขอโทษด้วยจริงๆครับ
อีกอันที่ ท่าน maxim69 แนะนำคือ"แจกเบอร์โทรคุย" ผมคงทำไม่ได้อะครับ เพราะถ้ารู้เบอร์โทร ก็อาจรู้ถึง ตัวตนจริงๆ วุฒิการศีกษา สถาบัน และตัวครูบาอาจารย์ของผมด้วย หรือคนรู้จักที่ให้ข้อมูลผมมา ที่นี้มันจะไม่ใช่ความคิดเห็นของผมคนเดียวแล้ว มันจะโยงไปหาคนอื่นๆด้วย ซึ่งจริงๆวิชาสายเครื่องกล นายทหารในกองทัพเรือที่สอนทั้งพลเรือน และ นร.เตรียมทหาร มีหลายคนนะครับ และผมก็เป็นหนึ่งในลูกศิษย์ของท่านๆเหล่านั้น เพราะฉนั้นการแสดงตัวของผมไม่เป็นการดีแน่ และยิ่งเรื่องเกี่ยวกับทางการทหารด้วยยิ่งไม่สมควรครับ
แล้วเด๋วผมจะใช้ภาษาที่เข้าใจง่ายอธิบาย แก้ข้อมูลที่ ท่าน hongse_c ให้มาแบบผิดๆ ในโอกาสต่อๆไปนะครับ
ฮ่าๆ ผมเข้าใจคุณ นีโอ กับคุณ มอน ดี ครับ ผมก้เด็กวิศวะ นะครับ แต่เป็นโยธา เลยลงรายละเอียดทางกลไม่ไหว แต่ก็เข้าใจคอนเซปทางวิศวกรรมดีครับ ยกตัวอย่างเรื่องง่ายๆ ถ้าทุกอย่างเหมือนกันเครื่องยนต์ขนาดใหญ่กว่าย่อมให้กำลังที่สุงกว่าฉันได พลังงานความร้อมก้ย่อมเกิดขึ้นสูงกว่าฉันนั้น เว้นแต่มีปัจจัยอื่นๆที่ไม่เท่ากัน จริงๆแล้วถ้าคุณ หง บอกว่าเทคโนโลยี่จีน สูงกว่าชาวบ้านในทุกๆด้าน ก็เป็นอันจบ แต่ใครจะเชื่อ ในเมื่อมีหลายสิ่งหลายอย่างไม่สอดคล้องหรือสนับสนุนความเชื่อแบบนั้น ปัญญาจะทำเครื่องยนต์เครื่องบินยังไม่ทันชาวบ้านเลย ผมคงจะเชื่ออยู่หรอกครับว่า เทคโนโลยี่ลำ้หน้าชาวบ้านเขาไปไกล อย่ามาบอกผมลงรายละเอียดนะผมไม่ทำให้หรอกครับ คนเข้าใจกันพูดในเชิงคอนเซปก็เข้าใจกันแล้วหล่ะครับ
`เนื้อหาออกนอกเรื่อง การจัดซื้อเรือดำน้ำของกองทัพเรืไทยไปมาก โปรดพิจารณาครับ
ชลอนำเข้า ครต !
ดันไปดราม่ากันมาก อย่าว่าแต่เรือดำน้ำเลย เรือดันน้ำก็จะไม่ได้ ไม่ว่าจะกองเชียร์ฝ่ายไหน ขอโทษน่ะครับ บางอย่างเราไปล้ำเส้น ทร เขามากไปเกินหน้าที่พลเมือง ดูเหมือนจะมากกว่าการวิจารณ์ด้วยซ้ำ
ประชาชนเป็นเจ้าของประเทศเหมือนกันนะครับ ไม่ใช่ทาส ไม่ได้มาขอมาอยู่ ภาษีก็เงินประชาชน ถ้าเงินเป็นของส่วนตัวท่านรมต. ผมจะไม่ว่าเลย ทำไมคนจ่ายอย่างเราๆ ท่านๆ จะโวยวายวิจารณ์ไม่ได้ ถ้าคิดว่าเราต้องยอมๆ นักการเมืองหรือคนมีอำนาจไปทุกเรื่อง แปลว่าเราควรจะสนุบสนุนการซื้อจีที 200 มาเยอะๆ ใช่มั๊ยครับ เพราะตอนนั้นคนที่ใช้จริง (หมอพรทิพย์) ก็บอกว่าดีๆ ใช้ได้ ควรใช้ แปลว่าเราควรเชื่อโดยสิ้นเชิงเพราะเขาควรจะรู้ดีกว่าและมีวิจารณญาณดีกว่าเราๆ ท่านๆ ที่ไม่เคยจับหรือเปล่า (แล้วสุดท้ายไอ้ไม้ล้างป่าช้าก็ส่งคนบริสุทธิ์เข้าตารางด้วยสิ) ควรซื้อเรือเหาะมาจอดรั่วๆ เยอะๆ ใช่ไหมครับ?
ถ้าเหตุผลมันอธิบายได้ ไม่มีการดิสเครดิตบิดเบือนข้อมูล และมันฟังดูดีมีเหตุผลจริงๆ คนเชียร์เยอะกว่าคนด่าอยู่แล้วครับ อย่างตอนกริพเพนมันผ่านไปได้ถึงเครื่องบินจะไม่ได้ถูกเลยเพราะมันมีให้มาเยอะ มันเป็นเป้าหมายของทอ.และเข้ากับหลักนิยมเราที่ต้องการให้มีการลิงค์ข้อมูลทุกเหล่าทัพได้
**ขอโทษท่านอื่นครับ ที่นอกเรื่องไป แต่อยากให้อดทนซักหนิดครับ และข้อมูลที่แสดงก็เกี่ยวข้องกัน แต่อาจลงลึกรายละเอียดไปบ้าง **
คุณ potmon คุณเรียนที่ไหนมาครับเนี่ย ทำไมคุณไม่รู้จัก vibration เลย ยังมามั่วเรื่อง sin อีก
และกลับมาที่
1.จาก//ท่าน hongse_c แถๆแบบมันสีข้างไปเลยนะครับ จะแปะอะไรไม่เคยดูเลยจริงๆ ผมก็ไกด์ไปแล้วว่า ตัวแปรใช่ตัวอักษรเล็ก ใหญ่ มันไม่ใช้ตัวเดียวกันก็ยังจะมั่ว โชว์ความไม่รู้ของตัวเองอีก แปะเพิ่มมาให้ผมได้ด่าอีกนะครับ อันใหม่ของท่าน hongse_c คือ w = P(v2-v1)ดูนะครับ w เล็กนะครับ หน่วย w คือ จูล/กิโลกรัม นะครับ สักแต่หาๆตัวหนังสือเหมือนมาแปะจริงๆ หลายๆท่านก็อ่านย้อนดู พฤติกรรม ท่าน hongse_c เอาเองนะครับ ว่าพี่แกโม้ว่าไอ้กราฟ P-v นี้อะ ของ ด.จีน หรือเปล่า(ขอกราฟแบบนี้ขอเจ้าอื่นๆเทียบจีน หรือเปล่า) แล้วพี่แกว่ากราฟนี้เป็นกำลังเครื่องยนต์เปล่า สูตรที่ให้มากับกราฟ มันตัวเดียวกันอะเปล่า(ถ้าเรียนมาหรือมีความรู้ เอ็งจะเอามาคนละตัวทำเพื่อ) //
-----------ได้เขียนใว้ข้างบน “-----เรียน thermodynamic มาหรือเปล่า ไม่รู้หรือว่า หาnet work done per cycle (Joules)เขาใช้ specific volume หรือใช้ volume ก็ได้ แต่ต้องดูว่า ตอนนั้นอยู่สถาณะไหน compressed หรือ superheat นี่อากาศน่ะครับ ”
---คุณไม่สังเกตบ้างหรือ ว่าต้องเอา m คูณเข้าไป เพราะนี่ของ air จริงที่มีไอน้ำ แค่นี้เข้าใจยัง ยังไม่เข้าใจอ่านข้อ 6
2.จาก//ว่าพี่แกโม้ว่าไอ้กราฟ P-v นี้อะ ของ ด.จีน//
-----ดูรูปที่ 1 ครับ อายุเท่าไรเนี่ย ทำไมตาลายหมดแล้ว บอกตรงไหนว่าเป็นของ aip จีน
3.จาก//บอก กำลัง (Watt) ตามรูปที่2 ซึ่งP-v Diagram จะเป็นการอธิบายว่าระบบ Seนั้น มีแต่ล่ะ stage อย่างไร และ stage ไหนให้กำลังที่สูง""
"Watt" และ "และ stage ไหนให้กำลังที่สูง" ของท่าน hongse_c โม้ชัดเจน ว่ากราฟนี้โชว์ความแรง(กำลังวัตต์อะ) ทั้งโม้แล้วก็ถามชาวบ้าน เป็นกำลัง(วัตต์)มาตลอด เป็นความจริงหรือไม่?//
----บอก 2 รอบแล้ว ไปดูรูปที่1 อีกรอบ และ ดูรูปที่ 2 หลักฐานชัด ตั้งสติ อ่านเยอะๆ ใจเย็น
4.จาก//2.ผมจะ ถามตอนนี้อีกครั้งว่า กราฟ P-v Diagram ของ ท่าน hongse_c ท่านมีความรู้ว่า กราฟมันบอกเป็น งาน(จูลล์) หรือกราฟมันบอก กำลัง(วัตต์) อันไหนกันแน่? //
---- ดูรูปที่ 2 หลักฐานชัด และ
-----ถามจริงไหนบอกเก่ง กราฟมันบอกความเร็วรอบมาด้วยหรือเปล่า อยู่ไหน??
----เชื่อเถอะ เดี๋ยวได้วนถามอีกรอบ
5.จาก//3. ผมขอถามท่าน hongse_c ว่า สูตร 2 สูตร ของผม ถูกต้อง หรือ ผิด มั่วๆมาแบบไม่มีที่มา หรือไม่อยู่บนความเป็นจริง อันไหนกันแน่ที่ท่านเข้าใจ?
สูตรงาน W[net] = P[meff] m ( v[max] - v[min] )
สูตรกำลัง W' = P[meff] m v[displ] (RPM/60)
ถ้ามันถูกต้อง ที่ผมเคยเขียนอธิบายมามันผิดหรือเปล่า
ถ้ามันผิด มันผิดตรงไหน หรือเอาอันที่ถูกต้องมาก็ได้//
------------ที่ผมยกมาผิดตรงไหน ไหนบอกซิครับ??
6.จาก //เพราะที่ท่านเขียนมามันผิด ครับ v(specific volume) หน่วย m3/kg ไม่ใช่ค่าเดียวกันและแทนกันไม่ได้ครับ กับ V(volume) หน่วย m3 และไม่ได้เกี่ยวอะไรเลยกับ "compressed หรือ superheat" //
----ช่วยแจกแจงให้ครับ net work done per cycle ,W =integration P d(V) = P x (V2-V1)
=integration P d(mv) = mP x (v2-v1)
หรือ
specific work done per cycle ,w= integration P d(v) = P x (v2-v1)
----คุณบอกคุณเรียนมา ถ้าเรียนมาจริง คุณแจกแจงสมการไม่เป็นหรือ ?? ผมงงมาก???
----ไม่รู้หรือ ในระบบจริง "compressed หรือ superheat" มันเกี่ยว และสำคัญ(ก่อนเถียงกลับไปอ่านตำราที่มีหลายเล่มก่อนไป)
---ไม่รู้หรือว่า SE จริง นอกจากใช้อากาศ(มีไอน้ำ) แล้วยังใช้ gas อื่นที่เปลี่ยนสถาณะได้ จากของเหลว เป็นไอ ทำไม ไม่รู้
7.จาก //อันสุดท้าย โอ้โฮอีกเยอะอะที่ท่านมั่วมาสะ คือท่านมั่วหมดทุกๆอันเลยอะ ผมจะทะยอยมาแก้ให้นะครับ ทุกๆวันเลย ไม่นานคงหมด เว็บนี้ใครถูกใครผิดไม่ได้มีความหมายอะไรครับ รู้ก็บอกว่ารู้ ไม่รู้ก็บอกไม่รู้ หรือถามท่านอื่นๆก็ได้ ไม่มีประโยชน์ครับที่จะมาหลอกตัวเองด้วยข้อมูลผิดๆ แต่ถ้าเรียนมาผิดๆ ก็เป็นที่ตัวท่านเองแล้วอะครับอย่าได้ไปโทษครูบาอาจารย์เลย ผมรับประกันได้ว่าไม่มีใครสั่งสอนท่าน แบบที่ท่านเข้าใจแน่นอนอะครับ
อีกนิดนะครับ มีหลายท่านดูแล้วก็เชื่อตาม ท่าน hongse_c นะครับ ผมว่าควรดูด้วยว่าที่ท่าน hongse_c เขียนมาอะมันเป็นข้อเท็จจริงหรือเปล่า//
-------------------ยังไม่รู้ตัว กลับไปอ่าน ค่อยๆ อ่าน หรือกลับไปถามเพื่อนอีกทีก็ได้ เพราะผมคิดว่าคุณไม่เรียนมา เพราะ
-คุณแจกแจงสมการไม่เป็น
--คุณไม่รู้จัก SE ของอากาศที่มีไอน้ำ และไม่รู้จัก compressed หรือ superheat
---ไม่รู้จัก superheat ว่าเกี่ยวข้องกับ net work done per cycle อย่างไร
---เถียงซิครับ???
8.จาก//ถึง ท่าน neosiamese2 นะครับ ผมยินดีนะครับที่ท่าน neosiamese2 ตามอ่านของผมด้วย และมาช่วยหาข้อมูลมาแชร์กันครับ เพราะข้อมูลผิดๆของท่าน hongse_c ถ้าไม่มีคนมาค่อยกรองแบบผมกับท่าน คนอื่นๆเป็นได้เชื่อหมดตามแน่ๆเลย ย้อนนิดนะ จริงๆแบบผมกับท่าน neosiamese2 เมื่อก่อนตีกันบ่อยๆและในหลายเรื่องนะครับ(สมาชิกเก่าๆก็ตีกันมาหมดแล้วก็ว่าได้) ความเห็นไม่ตรงกัน เถียงกัน เป็นปกติก็ว่าได้ครับ แต่ถึงที่สุด ถ้าข้อมูลผม หรือ ท่านneosiamese2 ผิดจริงๆเราก็ยอมรับกันครับ ไม่แถหรือไปสร้างความเข้าใจผิดๆให้คนอื่นๆต่อ และเราก็จะได้เข้าใจข้อมูลที่ถูกต้องด้วย เลยจะฝากถึง ท่าน hongse_c ว่าอย่าได้มั่วในสิ่งที่ตัวเองไม่รู้เลยครับ ไม่ได้มีประโยชน์กับใครครับ //
----คนที่ไม่รู้แม้กระทั้ง ไม่รู้จัก vibration เลย ยังมามั่วเรื่อง sin อีก และแจกแจงสมการก็ไม่เป็น และหา net work done per cycleของair ก็ไม่เป็น ….และอีกมาก
---แบบนี้ยัง.....อีกน่ะครับ นับถือ
9.จาก//ถึง ท่าน maxim69 นะครับ ต้องขอโทษที่นะครับ ช่วงนี้อาจใช้รูปแบบที่ทางการไปหน่อย ผมไม่ได้อยากจะโชว์เหนือหรืออะไรนะครับ แต่เพราะข้อมูลของท่าน hongse_c มั่วมากๆ และไม่ได้เป็นจริงเลย ผมเลยต้องอธิบายเป็นวิชาการนิดหนึ่งอะครับ ผมจะพยายามอธิบายเป็นภาษาที่เข้าใจง่าย และสิ่งที่เกิดในชีวิตประจำวันให้มากกว่านี้นะครับ และรูปประกอบผมแค่จะบอกว่า มันมีโปรแกรมที่เก็บข้อมูลจากค่าป้อนกลับที่ตัวเซนเซอร์ในเครื่องรถยนต์รายงานมา ว่าหน้าตาโปรแกรมและตัวบันทึกผลมันมีหน้าตาประมาณไหนเท่านั้นเองครับ ไม่เกี่ยวกับตัวผลิตภัณฑ์นะครับ ต้องขอโทษด้วยจริงๆครับ //
----วิชาการอะไร “ตอบvibration แต่มามั่วเรื่อง sin ” และ
----- วิชาการอะไร ยังสับสนกับ การหา net work done per cycle ด้วย V และv ยังไม่รู้เลย หา net work done per cycleของair ที่มีไอน้ำ ยังไง??
-----วิชาการอะไร ไม่รู้จัก compressed หรือ superheat
-----วิชาการมาก??
10.จาก//อีกอันที่ ท่าน maxim69 แนะนำคือ"แจกเบอร์โทรคุย" ผมคงทำไม่ได้อะครับ เพราะถ้ารู้เบอร์โทร ก็อาจรู้ถึง ตัวตนจริงๆ วุฒิการศีกษา สถาบัน และตัวครูบาอาจารย์ของผมด้วย หรือคนรู้จักที่ให้ข้อมูลผมมา ที่นี้มันจะไม่ใช่ความคิดเห็นของผมคนเดียวแล้ว มันจะโยงไปหาคนอื่นๆด้วย ซึ่งจริงๆวิชาสายเครื่องกล นายทหารในกองทัพเรือที่สอนทั้งพลเรือน และ นร.เตรียมทหาร มีหลายคนนะครับ และผมก็เป็นหนึ่งในลูกศิษย์ของท่านๆเหล่านั้น เพราะฉนั้นการแสดงตัวของผมไม่เป็นการดีแน่ และยิ่งเรื่องเกี่ยวกับทางการทหารด้วยยิ่งไม่สมควรครับ//
----อย่าอ้างคนอื่นเลย เตรียมเข้าเรียน me เขาแม่นvibration คนที่ไม่รู้จัก vibration ไม่รู้จัก transient response และ frequency response แบบนี้ เรียนมาได้อย่างไร อย่าบอกใคร ว่าจบ ME น่ะ และ ….โกหกบาปน่ะครับ
11.นั้นกลับมาที่ ตำถามที่ผมถามค้างใว้ คุณบอกข้างหลังคุณมีแต่คนเก่ง คำถามผมนี่ คนเรียน ME ทุกคนตอบได้ ง่ายมาก ถ้าตอบไม่ได้ ก็พิจารณาตัวเองเถอะครับ
---และเลิกพฤติกรรม “ยกตนข่มท่าน” เถอะครับ จะข่มเขาต้องเก่งจริง นี่....
ยกมาอีกรอบ
1.SE สวีเดน V4-275R ใช้อะไรเป็นสารทำงาน (gas) อะไร
2."crankshaft ที่สั้น และยาวต่างกัน ก่อเกิดเสียงดังต่างกันอย่างไร มีสมการ หรือกราฟให้ดูไหมครับ"
3.จาก///งงอะอันนี้ ใครไปว่าเค้าไม่ใช่อะครับผม ไอ้ Anti-shock isolator หรือ อุปกรณ์ลดการสั่น ลดการกระเทือน เค้าใช่กันทั่วโลกอะครับ ไม่ใช่เฉพาะเครื่องยนต์ aip ถามให้คิดเล่นๆนะครับ คุณว่ารถยนต์ที่คุณใช้อยู่อะมีไหมอะครับไอ้ Anti-shock isolator แล้วคุณสตาร์ท เร่งเครื่อง รถคุณสั่นเพราะเครื่องยนต์อยู่เปล่าอะครับ//
---Anti-shock isolator ใช้ในเรือดำน้ำ กับระบบกันสะเทือนรถยนต์ ต่างกันอย่างไร อย่าบอกว่าเหมือนกันน่ะ
วิเคราะล่วงหน้าให้ครับ
**ข้อ 1ไม่ยาก แต่ตอบไม่ได้แสดงว่า ไม่รู้จัก SE ที่เป็นของจริงเลย
***ข้อ 2 ต้องตอบได้ นำเสนอตัวเองขนาดนั้น เก่งขนาดนี้ ตอบไม่ได้ไม่รู้อย่างไรแล้ว
***ข้อ3 ต้องตอบได้ พื้นมาก จะมาวิเคราะเรื่อง รดน เสียงดัง แต่ไม่รู้จัก ความแตกต่าง Anti-shock isolator มันตลกครับ
***คำถามง่ายๆๆๆๆๆ มากครับ ตอบไม่ได้เลย นี่พิจารณา พฤติกรรมเลยครับ ว่าไม่เก่งสมกับที่ นำเสนอตัว และข่มคนอื่น
เอาเถอะครับ มันจะกลายเป็นกระทู้วิศวกรรมไปแล้วน่ะสิ
เห็นใจคนเรียนสายศิลป์หน่อยเถอะครับ
สำหรับท่าน hongse_c ก้เป็นคนที่มีความรู้เรื่องอาวุธจีนที่เก่งมาก อันนี้ผมยอมรับ
เราเถียงกันมาหลายครั้งแล้วทั้งในนี้และพันทิบ
ถึงความคิดเห็นหลายๆเรื่องจะไม่ตรงกัน แต่ก็เป็นการแลกเปลี่ยนความรู้ ความเข้าใจ มากกว่ามาทะเลาะด่าทอ
ตรงนี้ต้องให้เครดิตท่าน hongse_c ที่ถกกันเฉพาะเรื่องระบบ อาวุธนั้นๆ
กลับมาที่เรือจีน ผมบอกแล้วว่าเรือส. จีน ผมไม่ติดใจสรรถนะอะไร สำหรับเรือที่จีนใช้ประจำการอยู่
เพราะหากเป็นระบบที่ใช้ในกองทัพจีน มันย่อมดีกว่ารุ่นที่ส่งออกขาย จีนใช้นโยบายนี้มาตลอด ท่านย่อมรู้ดีกว่าคนอื่น
หากเป็นจรวดแบบต่างๆ อาวุธตามแบบ เรือ OPV หรือ ถ.ที่เราจะเปลี่ยนไปซื้อ VT-3000 ผมจะไม่ค้านเลย
ไม่ใช่เพราะผมมั่นใจในถ.จีน แต่เราคงไม่อาจรอเจ้า Oplot ได้ตลอด
ถ.จีน เรือจีน อะไรล้าสมัย ชำรุด เรายังพอหาของจากแหล่งอื่นมาปรับปรุงได้ แต่กับเรือ ส. มันไม่ใช่
ไม่ว่าจะเป็นหลักนิยม หรือระบบต่างๆ มันหาของเปลี่ยนกันไม่ได้ง่ายๆแบบระบบอาวุธชนิดอื่น
ตรงนี้ทำให้ผมไม่เห็นด้วยกับการที่ ทร. จัดหาเรือส.จีน
ไม่ใช่ว่าเรือส.จีนสรรถนะไม่ดี แต่รุ่นที่จะส่งให้เราใช้น่ะ มันเทียบไม่ได้กับเรือจีนที่ประจำการอยู่
ผมมองว่าการวิเคราะห์วิจารณืที่เราทำกันอยู่ในเวปบอร์ดนี้ น่าสนับสนุนมากกว่าห้ามปรามนะครับ เพราะเราพูดกันทุกแง่มุม วิชาการ ตรรกะเหตุผล เทคนิคเฉพาะทาง หลักนิยม ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ความเปราะบางของสถาณการณ์/การรับรู้ภายในประเทศ
มันเหมือนการลับสมองและเปิดโลกทัศน์นะครับ ผมว่าเราคิดมากขึ้น + กระตุกให้คนอื่นคิดมากขึ้น แล้วผมว่า 90% ที่เราคุยกันนี่มันไม่เกรียนอย่างที่เห็นในหลายๆเวปบอร์ดนะตรับ
ที่คุยๆ กันอยู่ ตอนนี้ก็เท่ากับเพิ่มความรู้ ให้สำหรับคนที่ไม่รู้ อย่างผม
แต่ ขอความกรุณา งดการวิเคราะห์ ในเชิงเสียดสี หรือเหน็บแนมด้วยครับ ถ้อยที ถ้อยอาศัยกันนะครับ
ขอบคุณครับ
ผมคิดว่า เมื่อแผนที่ 1 เรือดำน้ำจีน 3 ลำ 36,000 ล้าน มีปัญหา ทร. คงต้องกลับไปทำแผน 2 , 3 ได้แล้วครับ เช่น
แผน 2 เปลียนแบบเรือจากกจีน ไปเป็นเกาหลี หรือ สวีเดน จำนวน 2 ลำ โดยเพิ่ม Option ติด AIP และจรวดต่อต้านเรือผิวน้ำ วงเงินเท่าเดิม
แผน 3 ลดวงเงินจัดซื้อลงเหลือเพียง 1 ลำ จากจีน วงเงิน 12,000 ล้านบาท หากใช้ดี และ สถานการณ์เหมาะสมค่อยซื้อเพิ่มอีกทีล่ะ ลำ
แผน 4 ลดวงเงินเหลือไม่เกิน 18,000 ล้านบาท สำหรับเรือใหม่ 1 ลำ และเปลี่ยนแบบ เป็นของสวีเดน หรือ เกาหลี แต่เพิ่ม option AIP และ จรวดต่อต้านเรือผิวน้ำ (ถ้าจำไม่ผิดสมัยนายกบรรหารก็ซื้อเรือสวีเดน 1 ลำ )
แผน 5 เปลี่ยนจากซื้อเรือเป็น เช่าเรือ 1 ลำ จากประเทศที่เสนอขาย อาจเป็น จีน เกาหลี สวีเดน ระยะเวลา 1-2 ปี เพื้อพิสูจน์ว่า อ่าวไทยเหมาะกับเรือดำน้ำ , เพื่อฝึกใช้งาน , เพื่อมั่นใจในประสิทธิภาพเรือของประเทศนั้นๆ และเพื่อดูสถานการณ์ในประเทศ แล้วค่อยซื้อเรือใหม่ต่อไป
ถ้าเป็นผม ผมเลือกแผน 4 คือ เรือใหม่ 1 ลำ จากเกาหลี หรือสวีเดน เพราะ
- ลดปัญหาโต้เถียงเรื่องคุณภาพเรือ
- วงเงินที่ใช้น้อยกว่าเดิม
- ได้พิสูจน์ว่าเรือดำน้ำใช้กับอ่าวไทยได้
- ลดปัญหาทางการเมือง ทั้งในประเทศ และต่างประเทศ
- เรือ 1 ลำน่าจะยังเพียงพอต่อภัยคุกคามในระยะ 5 ปี ต่อจากนี้ (ในปีที่ 5 คงจะสามารถซื้อเพิ่มได้อีก 1 ลำ)
สำหรับผมน่าเสียดายมากครับ ถ้าเราพลาดดีลเรือจีนนี้ เพราะเป็นดีลที่คุ้มค่าที่สุดเท่าที่ผมเคยได้ยินการจัดหาเรือ ส. จากทั่วโลก ผมว่าคงไม่มีใครเสนอดีลได้คุ้มค่าเท่าจีน และจีนก็คงจะไม่เสนอดีลสุดคุ้มขนาดนี้ให้ใครอีกแล้ว ถ้าไม่ใช่ไทยครับ ตอนนี้ผมอยากรู้จริงๆ ว่า จีนเสนอออฟเซทอะไรให้เราบ้างครั้งนี้ ผมว่า ทร. น่าจะบอกได้แล้วว่ามีรายละเอียดอะไร จึงเลือกเรือจีน เพราะเราเลือกไปแล้ว ไม่ได้กำลังแข่งขันประกวดราคาครับ สำหรับผมถ้าเราไม่ได้เรือจีนครั้งนี้คงยากที่จะได้เรือ ส. เพราะว่าโครงการครั้งนี้ก็ถูกพูดขึ้นมาครั้งแรก โดย รมต.กลาโหมเอง ไม่ใช่เหรอ และหลังจากที่ รมต. พูดขึ้น ทร. จึงเริ่มโครงการนี้อย่างจริงจัง เพราะคงทราบดีว่า เรือ ส. เสนอไปทีไรมันก็จะไปหยุดอยู่ที่สภากลาโหมทุกครั้ง แต่นี่เป็น รมต. พูดขึ้นมาเองครับ หรือถ้าผมเข้าใจอะไรผิด เพื่อนๆ ช่วยแนะนำหน่อยนะครับ ผมว่าเราควรจะหวังว่าเปลี่ยนรัฐบาลแล้วจะได้เรือ ส. อย่างนั้นเหรอ แล้วสภากลาโหมคือคนกลุ่มเดิมหรือเปล่า :) ยิ่งมองผมก็ยิ่งเสียดายเรือจีนครั้งนี้ครับ และผมว่าระยะยาว ถ้าเราจะอัพเกรดไปเล่น เรือ ส. นิวเคลียร์ ก็จะมีแต่จีนเท่านั้นที่จะมีและขายให้เรา ไม่ใช่เกาหลีใต้ครับ
แต่ผมว่าหลักใหญ่อีกอย่างที่ต้องชะลอโครงการนี้ไปทุกๆครั้ง ก็คงเป็นเพราะสื่อมวลชนบ้านเราด้วย (สื่อฯเรามือไม่ถึง ถ้าสื่อฯ มือถึงและไม่มายุให้เราตีกันเองแบบนี้ บ้านเมืองเจริญไปแล้วครับ) แต่หลายประเทศที่ทำโครงการจัดหา เรือ ส. ก็ต้องพบกับเรื่องนี้ครับ มาเลเซียก็อัดกันเละมาแล้ว ออสเตรเลียก็ยังฟัดกันอยู่เรื่องเรือ ส. ดังนั้นกลาโหมคงต้องกล้าหาญที่จะผลักดันโครงการนี้ต่อไป โดยเฉพาะ ทร. เพราะมันเป็นความรับผิดชอบของท่านโดยตรง หากอนาคตเราต้องเสียอำนาจอธิปไตยให้ใครเขาอีก ทุกคนในประเทศต้องร่วมกันรับผิดชอบ แต่ท่านต้องรับผิดชอบก่อนเพื่อนครับ :D
keyword=ประวิตร วงษ์สุวรรณ deja vu มีบทบาทในช่วงการจัดหาเรือดำน้ำทั้งยุคอภิสิทธิ์กับยุคบิ๊กตู่
ไม่รู้ว่าใครเป็นคนตัดสินเลือกแบบเรือ แต่ถ้าเรือไม่ตรงใจทั่น ทั่นก็โยนให้กลับไปให้ทร.ศึกษาใหม่ พอเรือตรงใจทั่นแต่สังคมกดดันทั่นก็โยนกลับไปให้ทร.ศึกษาใหม่ (ทร.คงบอกจะเอายังไงกับตู)
ยังมีเวลานำเข้า ครม.ครับ รอดูกันไปก่อนไม่ได้เป็นการยกเลิก
เรือเกาหลีครั้งนี้เสนอแต่ตัวจิ๋ว 500 ตัน ไม่มี aip อยู่แล้วจะยัดใส่ก็คงไม่ได้ เรือเยอรมันกับสวีเดนมี aip อยู่แล้ว ไม่ได้ต้องเติมเป็นอ็อพชั่นพิเศษอะไร (และ aip ไม่ได้เป็นข้อได้เปรียบของจีนเสียด้วยซ้ำ เพียงแต่ ผบ.ทร. ออกมาพูดว่าจีนมีคนเดียวซึ่งม่จริง)
รัฐบาลสวีเดนซื้อ a26 2 ลำงบต่ำกว่าที่เราตั้งไว้เสียอีก
เรื่องที่ว่าของจีนนี้สุดคุ้มไม่มีอีกแล้ว ผมว่าปากีได้คุ้มกว่าอีก
ครั้งที่แล้วก็ประวิตรแหละครับที่เบรก บอกว่าไปดูของเกาหลีด้วยดีกว่าเจ๋งกว่า อย่าดูแต่มือสองเยอรมัน
ผมขอรบกวนต่ออีกซักนิดนะครับ เพราะ ท่าน hongse_c ดูเหมือนมีความน่าเชื่อถือมาก แต่จริงๆไม่ใช่อะครับ เลยต้องชี้แจงนิดหนึ่ง เพื่อคนอื่นๆได้รู้ด้วย
ผมก็จะมาชี้แจงสูตร"งาน" @ในกระบอกสูบ หรือที่ท่าน hongse_c เขียนมาว่า "net work done per cycle (Joules) โม้ตลอดเวย์" ผมจะเขียนของจริงที่ไม่ได้มั่วมาแบบท่าน hongse_c นะครับ
ผมจะเขียนแบบไม่มีตัวห้อยนะครับกันงง(ไงๆก็ดูรูปเอานะครับ) และดูว่าตัวแปรมันตัวเล็กตัวใหญ่ มันไม่ใช่ตัวเดียวกันนะครับ
กราฟ P กับ v ความสัมพันธ์ของกราฟนี้มาจากสูตร(หน่วย จูล/กิโลกรัม) w = P(v - v) สมการ 12.9
กราฟ P กับ V ความสัมพันธ์ของกราฟนี้มาจากสูตร(หน่วย จูล) W = mw = P(V - V) สมการ 12.10
กราฟ P กับ V และกราฟ RPM ความสัมพันธ์ของกราฟนี้มาจากสูตร(หน่วย จูล/วินาที หรือ วัตต์) W' = P V (RPM/60) สมการ 12.11
ผมจะอธิบายให้เข้าใจง่ายๆนะครับ สมมุติโรงงานทำป้ายหละกัน กำลังคุยกันอยู่ว่า ช่างทำป้ายคนนี้อะใช้สีเท่าไร(ประมาณทำงานที่ทำได้เยอะเท่าไร)
สมการ 12.9 (หน่วย จูล/กิโลกรัม) ถ้าทำเป็นกราฟ มันจะแสดงให้เห็นถึงรูปแบบของระบบลูกสูบในสถาวะนั้นๆครับ มันไม่ได้บอกอะไรเลยนะครับนอกจากรูปแบบ เอาง่ายๆ ก็แบบ เขียน ก.ไก่ อะครับ เรารู้ว่ารูปแบบการเขียนมันเป็นยังไง ลากเส้นขึ้น ยักๆ ครึ่งวงกลม ลากลง นี้อะครับรูปแบบ อ่านอันต่อๆไปจะเอ่อเลย
สมการ 12.10(หน่วย จูล) ถ้าทำเป็นกราฟ มันจะแสดงให้เห็นถึงปริมาณงาน(จูล)ที่เกิดขึ้นในระบบลูกสูบในสถาวะนั้นๆครับ มันบอกว่ากระบอกสูบขนาดเท่านี้ ที่สถาวะนี้ เกิดงานเท่าไรใน 1 รอบครับ เอาง่ายๆ ก็แบบ เขียน ก.ไก่ อีกแล้ว แต่ ก.ไก่ อันนี้เค้าบอกขนาดด้วยว่า สูง กว้าง ตัวหนา เท่าไร(ฟอร์น 16 อะไรประมาณนี้) เราก็จะรู้ว่าถ้าเราเขียน ก. ตัวนี้ จะใช้หมักสีเท่าไรในการเขียน 1 ตัว จริงไหมครับ(ต่างจาก สมการ 12.9 นะครับ ที่ถ้ามีคนมาถามว่า เขียน ก. ใช้สีเท่าไร คุณไม่งงเป็นไก่ตาแตกเหรอครับ ขนาด กว้าง สูง หนา ก็ไม่บอกให้ตรู อย่าง ก.ตัวเท่าเม็ดข้าว กับ ก.ตัวเท่าตึก ใช้สีไม่เท่ากันจริงไมครับ)
สมการ 12.11(หน่วย วัตต์) ถ้าทำเป็นกราฟ มันจะแสดงให้เห็นถึงปริมาณกำลัง(วัตต์) ที่เกิดขึ้นในระบบลูกสูบในสถาวะนั้นๆ และที่รอบเครื่องยนต์นั้นๆด้วย มันบอกว่าเครื่องยนต์นี้มีกำลังเท่าไร ที่รอบเครื่องนั้นๆครับ เอาง่ายๆ ก็แบบเขียน ก.ไก่ อีกแล้ว อันนี้เค้าบอกขนาดด้วยว่า สูง กว้าง ตัวหนา เท่าไร แล้วบอกด้วยว่า ต้องเขียนออกมากี่ตัวในหนึ่งนาที(อย่างตอนสมัครงานอะครับ เค้าถาม พิมพ์ไทย กี่ตัว ต่อนาที ใช่มะ) เราก็จะรู้ว่าเราต้องใช้สีเท่าไรในหนึ่งนาที จริงไมครับ ประมาณว่า คนเขียนมีกำลังเขียน ก. ในหนึ่งนาทีเนี้ย ใช้สีไปปริมาณเท่าไรครับ
จากการเขียน ก. ปริมาณสีที่เขียน ก. หนึ่งตัว คือ งาน(จูล) ครับ ส่วนปริมาณสีที่ใช้เขียน ก. หลายๆตัว ในหนึ่งนาที/60 คือ กำลัง(วัตต์) ส่วนวิธีเขียน ก. ไม่ได้เกี่ยวข้องกับสีโดยตรงเลยนะครับ มันเป็นแค่รูปแบบเท่านั้นเอง
ผมถึงบอกไงครับ เอากราฟ P-v มาเพื่ออะไร เค้าคุยกันเรื่อง กำลังเครื่อง aip ครับ ถ้าไม่รู้ยังพออภัยแต่นี้ ท่าน hongse_c บอกตลอดเวย์ว่า รู้ๆดีๆมากๆ(ทั้ง 3 สมการนี้มันเหมือนกันหมดแหละ หนูเรียนมา) ผมว่าท่าน hongse_c เอามาโชว์ภูมิแบบผิดๆแล้วครับ โชว์อย่างอื่นมากกว่า จริงๆถ้าถามช่างคนนั้นเลยว่าใช้สีเท่าไร ก็จบไหมครับ
----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
คุยกันด้วยเหตุผลและข้อมูลจะดีที่สุดครับ อย่าใช้ถ้อยคำที่เสียดสีดูหมิ่นกันดีกว่าครับ /ADMIN
รูปไม่ขี้นครับ ดูด้านล่างครับ
ท่าน ทองวาริท ตอบได้ ฮาจนผมแทบตกเก้าอี้เลยครับ
ใช่ครับพวกเราทุกคนเป็นเจ้าของประเทศ พวกเราทุกคนจ่ายภาษีให้กองทัพและรัฐบาล ไม่ได้มาขออยู่บนแผ่นดินนี้แต่เกิดบนแผ่นดินนี้ และก็ไม่ได้เป็นทาสใครในแผ่นดินนี้ เป็นสิทธิของพวกเราทุกคนที่จะทักท้วงครับ
ขอบคุณท่าน maxim69 และท่าน potmon ครับ ที่อธิบายสมการทั้งสามให้เห็นภาพแบบง่ายๆ
แต่ท่าทางท่าน hongse_c จะยังวนไม่จบในสมการวัฎจักร stirling อยู่นะครับ แถมลืมดูด้วยว่าเป็นสมการของเครื่องยนต์อุดมคติ ที่ไม่มีทั้งแรงเสียดทาน ซึ่งจะไปเกิดเสียงได้ไงล่ะครับ ไม่มีการสูญเสียความร้อนออกจากระบบและยังสามารถเปลี่ยนความร้อนที่ใส่เข้าเป็น กำล้งทางกลได้ 100% regenerator สามารถรับพลังงานความร้อนมาจากด้านร้อนโดยได้เต็มร้อย และถ่ายให้ด้านเย็นได้ทั้งหมดโดยไม่สูญเสียเลย
ดังนั้นมันก็แหง๋ล่ะครับ เพิ่มความร้อนอีก 3 เท่า ก็ย่อมต้องได้กำลังเพิ่มอีก 3 เท่า โดยความร้อนไม่เพิ่ม เสียงก็ไม่ดังขึ้น ก็เพราะมันเป็นเครื่องยนต์ในอุดมคติที่ไม่มีจริงบนพิภพใบนี้นะสิครับ แถมยังด่าคนอื่นว่าไม่เข้าใจที่เขาพยายามพูดอีก
ท่านทางตอนเรียนจะเรียนหนักจนเครียดไปหน่อยนะครับ
ท่าน hongse_c ไม่ได้วนอย่างเดียวครับ มั่วอีกตังหากครับ
ท่าน neosiamese2 ช่วยเตือนสติพี่แกด้วยนะครับ
รูปไม่ขึ้นอะ
สำหรับเพื่อนๆสมาชิกที่ไม่ได้เรียนทางด้านพวกนี้ ผมจะขออธิบายว่าคณิตศาสตร์เป็นเหมือนภาษาแบบหนึ่งครับ ถ้าเข้าใจหลักการและทฤษฎีดีมากพอ สมการทางคณิตศาสตร์พวกนี้บอกภาพของ สแตติกส์ ( สภาวะที่หยุดนิ่งแต่ยังมีแรงกระทำต่อกันอยู่) สภาวะพลวัตร (มีการเคลื่อนไหว) ให้เราเห็นภาพในหัวสมองได้เลย
สมการ ในวัฎจักร stirling ที่เป็นเรื่องของเครื่องยนต์ความร้อนในอุดมคติแบบหนึ่ง คงทำให้ท่าน hongse_C เห็นภาพในอุดมคติเหล่านั้น เลยพยามยามจะอธิบายให้พวกเราทราบว่า มันมีทางทำได้นะ ที่ให้กำลังสูงข้ึน 3 เท่า โดยไม่ร้อนขึ้น ไม่มีเสียงดังมากขึ้น แต่ลืมดูไปว่า มันเป็นเครื่องยนต์อุดมคติที่ตั้งบนสมติฐานที่มันไม่เป็นจริงได้ในโลกใบนี้
และสมการเหล่านี้ก็เป็นแค่ระดับ ป.ตรี ปวส. ที่วิทยาลัย มหาวิทยาลัยทั่วโลกเขาก็มีเรียนกัน แล้วคุณคิดว่าทีมวิจัยระดับโลกที่มีความรู้ระดับโปรเฟสเซอร์ ที่กำลังสร้างและออกแบบเครื่องจักรสงครามสุดเลิศ จะไม่รู้เลยหรือครับ มันไม่ได้เป็นสมการไอเท็มลับอะไรเล้ยยยย..... เด็กช่างมันยังรู้จักสมการนี้เลย
ภาพและข้อมูลทั้งหมดที่ท่าน hongse_c นำมาอ้างทั้งหลายก็แค่พยามอธิบายภาพที่เขาเห็นอยู่ในหัว ที่เกี่ยวข้องกับวัฎจักร stirling ให้พวกเราเข้าสิ่งที่เขากำลังเห็นอยู่
ท่าจะยังวนในลูปไม่จบ ยังกะเครื่องคอมพ์ที่รันโปรแกรมมี bug อยู่แล้ว วนลูปไม่จบ
มาต่อกันที่ความั่วของท่าน hongse_c
1."แล้วทำไมต้องยกมา???
ตอบ
เพราะบางท่านยกเอา"ทฤษฎีเชิงบรรยาย มาอธิบายเข้าข้างความเชื่อผิดๆของตนเอง" ซึ่งจะมีผลต่อผู้อ่านที่ไม่ได้เรียน ME มา ผมจึงต้องอธิบายโดยใช้ P-v Diagram ซึ่งเป็นการอธิบาย ทฤษฎี ของ SE ที่ชัดเจนที่สุด"
เขียนมายังกะตัวท่าน hongse_c เองเรียน ME(วิศวะ เครื่องกล) มาเลยนะครับเนี้ย เราเริ่มต้นกันมาจากความไม่น่าเชื่อถือของ aip จีนครับ ทั้งระบบการทำงาน และประสิทธิภาพ ย่อยมาทางประสิทธิภาพ aip เป็นเครื่องยนต์ครับ หน่วยวัดกำลัง หน่วยเป็นวัตต์ หรือ hp(แรงม้า) แล้วก็เถียงกันเรื่องกำลังวัตต์นี้แหละครับ ที่นี้ทุกคนก็หากำลัง aip เป็นวัตต์จริงไมครับ แต่ ท่าน hongse_c เอากราฟ P และ v ที่เป็นกราฟงานที่มีหน่วยเป็น"จูล/กิโลกรัม"มาอธิบาย(กราฟ P และ v ไม่ได้บอกถึงกำลังเครื่องยนต์เลยนะครับ) ถ้าท่าน hongse_c มีความรู้ทางกลจริงๆ ทำแบบนี้ต้องบอกว่าอยากโชว์เหนืออะครับ(ไม่ได้เกี่ยวกันเลย ทำไปเพื่อ) ผมอุสาตามไปเบรกท่าน hongse_c ก็ยังไม่เลิกแถอีก
2."และ ถ้าจะมาคุยกัน ควรยก P-v Diagram มาโชว เช่นที่บอกว่า
1.ของจีนต้องร้อนมากกว่า นี่ร้อนกี่ K ..................... แบบ ideal นะครับจะเทียบกับของสวีเดน aip 75kw ให้นะครับ ถ้าของสวีเดนมันร้อน Th=200 C'(องศาเซลเซียส) ของจีน aip 300kw จะร้อนโดยมีค่า Th=1019 C' ครับผม ถ้าใครรู้ค่า Th ของสวีเดนก็บอกมานะครับเด๋วผมคำนวนของจีนให้
2.ของจีนต้องใหญ่กว่า นี่มี specific volume .................. ถ้าก๊าซเป็นก๊าซชนิดเดียวกัน@ที่ความดันเดียวกันและอุณหถูมิเดียวกัน v(specific volume)หน่วย ลบ.เมตร/กิโลกรัม มันเท่ากันหมดครับผม ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนในจักวาล แล้วที่สำคัญ specific volume มันไม่ใช่ V(volume)หน่วย ลบ.เมตร ที่ท่าน hongse_c เข้าใจว่าคือความใหญ่นะครับ มั่วไปไกลนะครับนี้ ถ้าท่าน hongse_c รู้ความดันและอุณหถูมิของ aip ตัวไหนก็บอกมาผมจะคำนวนของจีนให้
3.ของจีนต้องสั่น นี่ ความดันกี่ kPa" ................. การสั่น เกี่ยวอะไรกับความดันอะครับ การสั่นมันแปรผันกับรอบเครื่องยนต์โน่นครับ มั่วได้อีกนะครับ ท่าน hongse_c แนะนำเปิดกระโปงรถดูมั่งนะครับ ว่าตอนเร่งรอบเครื่อง มันสั่นมากน้อยกว่าตอนไม่เร่งอย่างไรบ้าง คงมีรถนะครับ
โอ้โฮมั่วเองไม่พอยังไปถามชาวบ้านเค้าอีกนะครับ ท่าน hongse_c
การถกเถียงทางด้านวิชาการและนำข้อมูล ทฤษฏีมาสนับสนุนล้วนเป็นสิ่งที่ดีมากครับ แต่...
รู้สึกมันจะร้อนขึ้นๆ เรื่อยๆ นั่นเพราะเกิดความเห็นต่างและมีการใช้อารมณ์และมีการพาดพิงถึงเจ้าของความคิดเห็นเหล่านั้น
อย่าลืมนะครับ อย่างน้อย ท่านๆ ก็เป็นผู้ที่ชื่นชอบเทคโนโลยีด้านทหารเหมือนกันและเป็น "คนไทย" เหมือนกัน
เพียงแต่ชอบอาวุธกันคนละค่ายซึ่งเท่านั้น ถ้าเป็นไปได้อยากให้ท่านๆเลิกพาดพิง ใช้คำพูดที่ทำให้อีกฝ่ายเป็นลบ
และหันมาวิจารณ์ comment
ถึงข้อมูลที่แต่ละท่านนำมาเสนอจะดีกว่านะครับ ^ ^ _/|\_ (แต่ผมตามอ่านการโต้ตอบของทุกท่านนะ เพราะมันได้
ความรู้ดี ใครว่าเห็นต่างแล้วไม่ได้ความรู้เพิ่ม)
กลับมาเรื่องเรือ ด. ต่อ
ผมว่าสถานการณ์ตอนนี้ ตัวเลือกที่อาจเกิดขึ้นได้เป็นได้ดังนี้
1.ยกเลิกดีลไปก่อน
2.เปลี่ยนไปจัดหาจากประเทศ เยอรมัน สวีเดน เกาหลี รัสเซีย
3.ชลอการจัดหาในตอนนี้แล้วค่อยซื้อปลายปี (แบบเรือเหมือนเดิม)
4.เช่ามาทดลองใช้งานในอ่าวไทย 1-2 ลำ ในเวลา 2 ปี
โจทย์ ณ ตอนนี้ คือ "การจัดหาเรือ ด. S26T จำนวน 3 ลำ วงเงิน 36,000 ล้านบาท"
ทางออกที่มันดู "optimize" และ "ประณีประนอม" ที่สุดที่ทำให้กองเชียร์ "ฝ่ายสนับสนุน" และ "ฝ่ายไม่สนับสนุน" พอใจ หรือ ไม่พอใจ
น้อยลง ตาม คหสต. ผมว่าน่าจะเป็นข้อ 4 ครับ โดยในข้อ 4 อาจมี option ดังนี้ครับ
A. เช่าเรือ ด. มา 2 ลำ
โดย 1 ลำจากค่ายใดก็ได้ ส่วนอีก 1 ลำจากจีน วิธีนี้กองทัพจะได้ทราบข้อดี ข้อเสีย ของแต่ละค่ายและจะได้พิสูจน์เรือจีนไปในตัว
ไม่แน่ใจว่าเป็นไปได้หรือไม่เพราะเจ้าของเรือ ด. อาจไม่ยอมก็ได้
B. เช่าเรือ ด. จีน 2 ลำ
กรณีที่ Case A แห้ว ก็ขอเป็นเรือจีน 2 ลำไปเลย โดย 1 ลำเป็น spec ที่ใช้ในกองทัพจีน ระวางอาจ > 2,000 ton
อีก 1 ลำเป็น spec ส่งออกและระวางต่ำกว่า
Case นี้เราจะได้เปรียบเทียบเรื่อง
จากนั้น ทร. เก็บข้อมูลอย่างละเอียดซึ่งน่าจะได้ข้อมูลเพียงพอในการประกอบการตัดสินใจเลือกเรือ ด. ในต่อไปและสามารถ
นำข้อมูลชี้แจงประชาชน ทหาร ซึ่งน่าจะช่วยลดกระแสต่อต้านได้ครับ
เช่ามาก็คงเท่านั้นแหละครับ เพราะไม่มีตัวจริงจะเช่า เพราะตัวนี้มันยังไม่มีผลิตจริง
ไหนๆ เข้าเรื่องเช่าแล้ว ก็เช่าก็อตแลนด์ละกัน ฮา
ว่าแล้ว ต้องวนมาอีกรอบเพราะ
a.เรื่อง vibration ที่ก่อให้เกิดเสียงไม่มีความรู้
b. transient response และ frequency responseที่ก่อให้เกิดเสียงไม่มีความรู้
เพราะเรื่องเสียง และสั่นไม่มีความรู้ เลยขอวนลูปกับเรื่อง W,w
1.จากรูปที่ 1 จะอธิบายให้อีกที และคิดว่าครบถ้วนแล้ว ถ้ายังวนอีก ก็....เต็มที่แล้ว
สมการ e1 คือnet work done per cycle เน้นว่า “ per cycle ” คุณยังมึนอยู่กับรอบ ทุกรูปที่ลง เป็น 1 cycle ทั้งนั้น มีรูปไหนมีรอบ อย่าจงใจมึน หรือว่ามึนจริง
W =integration P d(V) = P x (V2-V1) =N/m2 x (m3-m3) = Joule (N-m)
กรณี ที่สารทำงานเปลี่ยนสถานะได้ เช่น compressed เป็น superheat จะใช้ P-v
**potmon ไม่เรียนมาใช่ไหมเลยไม่รู้จัก กลับไปเรียนยังทันครับ
สมการe2
net work done per cycle เน้นว่า “ per cycle ”
ปรับเป็น
=integration P d(mv) = mP x (v2-v1) = Kg x N/m2 x (m3/ kg – m3/kg )
= Joule (N-m)
สมการ e1 และ e2 เท่ากัน
สมการe3
specific work done per cycle ,w= integration P d(v) = P x (v2-v1)
=N/m2 x (m3/Kg-M3/Kg)
=N-m/ Kg
แล้วทำไมต่อ Kg ก็เพราะเป็น “specific work”
work done per cycle = specific work done per cycle x m
specific work done per cycle ,w= integration P d(v) = P x (v2-v1)
***ถามมั่วตรงไหน
2. จาก //ไมครับ แต่ ท่าน hongse_c เอากราฟ P และ v ที่เป็นกราฟงานที่มีหน่วยเป็น"จูล/กิโลกรัม"มาอธิบาย(กราฟ P และ v ไม่ได้บอกถึงกำลังเครื่องยนต์เลยนะครับ)//
----แปลว่าไม่เข้าใจ และเข้าใจยากมาก
---- P และ v ที่เป็นกราฟงานที่มีหน่วยเป็น"จูล/กิโลกรัม ก็ถูก แต่ SE จริงเขาไม่ใช้ gas อุดมคติ สารที่ใช้มีการเปลี่ยนสถานะ compressed เป็น superheat และ superheat เป็นcompressed กลับไปกลับมา
---ถาม แล้วจะเอา V จากไหน ?? เมื่อเรารู้ m สารที่ใส่ไปในกระบอกสูบ
----เชื่อว่าไม่เข้าใจ นั้นย้อนกับไปดูข้อ 1 ถึงความสัมพันธ์ work done per cycle และspecific work done per cycle
----และ ในเมื่อกราฟเป็น 1 cycle ไม่มีรอบ ที่บอกคือ work done per cycle ครับ ซึ่งง่ายต่อการทำความเข้าใจ ลองคิดดู ถ้าเอารอบมาด้วย คุณก็คงวนลูป เป็นร้อยครั้งมั้ง กว่าจะเข้าใจ
----เดี๋ยวจะมาไม่เข้าใจว่า ยก work done per cycle มาทำไม ก็เพราะมันง่าย ในการทพความเข้าใจ
----เชื่อว่าเดี๋ยวจะมาถามต่อ
3.จาก //1.ของจีนต้องร้อนมากกว่า นี่ร้อนกี่ K ..................... แบบ ideal นะครับจะเทียบกับของสวีเดน aip 75kw ให้นะครับ ถ้าของสวีเดนมันร้อน Th=200 C'(องศาเซลเซียส) ของจีน aip 300kw จะร้อนโดยมีค่า Th=1019 C' ครับผม ถ้าใครรู้ค่า Th ของสวีเดนก็บอกมานะครับเด๋วผมคำนวนของจีนให้
2.ของจีนต้องใหญ่กว่า นี่มี specific volume .................. ถ้าก๊าซเป็นก๊าซชนิดเดียวกัน@ที่ความดันเดียวกันและอุณหถูมิเดียวกัน v(specific volume)หน่วย ลบ.เมตร/กิโลกรัม มันเท่ากันหมดครับผม ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนในจักวาล แล้วที่สำคัญ specific volume มันไม่ใช่ V(volume)หน่วย ลบ.เมตร ที่ท่าน hongse_c เข้าใจว่าคือความใหญ่นะครับ มั่วไปไกลนะครับนี้ ถ้าท่าน hongse_c รู้ความดันและอุณหถูมิของ aip ตัวไหนก็บอกมาผมจะคำนวนของจีนให้ //
-----ตอบไม่ได้อย่าพยายาม มันเสียพื้นที่เปล่า ๆ
4.จาก //3.ของจีนต้องสั่น นี่ ความดันกี่ kPa" ................. การสั่น เกี่ยวอะไรกับความดันอะครับ การสั่นมันแปรผันกับรอบเครื่องยนต์โน่นครับ มั่วได้อีกนะครับ ท่าน hongse_c แนะนำเปิดกระโปงรถดูมั่งนะครับ ว่าตอนเร่งรอบเครื่อง มันสั่นมากน้อยกว่าตอนไม่เร่งอย่างไรบ้าง คงมีรถนะครับ
โอ้โฮมั่วเองไม่พอยังไปถามชาวบ้านเค้าอีกนะครับ ท่าน hongse_c//
-----ตอบแบบนี้ แสดงว่า ไม่ได้เรียน vibration และ machinery มาเลย ใช่ไหม แต่นับถือที่อุตส่าตอบ
-----จากคำกล่าวของคุณ //การสั่น เกี่ยวอะไรกับความดันอะครับ การสั่นมันแปรผันกับรอบเครื่องยนต์โน่นครับ มั่วได้อีกนะครับ ท่าน hongse_c //
--------ว่าจะไม่แสดง กราฟการคำนวน crankshaft ให้ดู แต่เมื่อคุยกันแล้วผมใจดี
------ถามทำไม ความดัน ถึงมีผลต่อการสั่น
P (N/m2) = Force(N) / พท.หน้าตัดรับแรง (m2)
Force(N) = P (N/m2) x พท.หน้าตัดรับแรง (m2)
**ลูกสูบมีพท.คงที่
-----และแรงเกี่ยวข้องกับอะไร ดูรูปที่ 2,3
จากรูปที่ 2 เป็น Dynamic Balance ของ กลไก crankshaft-piston
รูปบน P2.1 กราฟ แรงที่กระทำต่อ กลไก crankshaft-piston vs มุม crankshaft
เส้นน้ำเงิน คือ กลไก crankshaft-piston หมายถึงกลไกที่ ยังไม่ทำ Dynamic Balance
เส้นสีเขียว กลไก crankshaft-piston หมายถึงกลไกที่ทำ Dynamic Balance แล้ว
**จะเห็นว่า ก่อนทำ Dynamic Balance แรงจะวิ่งไปทั่ว ไม่คงที่ ซึ่งหมายความว่า แรงพวกนี้ ส่งต่อไปที่ตัวเรือนเครื่องยนต์ ซึ่งก่อเกิดผลให้เครื่องยนต์ สั่น ไม่เข้าใจดูรูปที่ 4
***หลัง ทำ Dynamic Balance แรงจะคงที่ ในที่นี้คือ =0 (แต่ในบางกรณี แรงคงที่ แต่ไม่เท่า0 ก็มี)
ซึ่งหมายความว่าแรงพวกนี้ ถูกส่งต่อไปที่ตัวเรือนเครื่องยนต์ นั้นคงที่ หรือเท่า 0 อย่างใดอย่างหนึ่ง หรือ ทั้งสองอย่าง ก็เท่ากับว่า เครื่องยนต์ ไม่สั่น หรือสั่นน้อยลง
***ถาม แล้วรอบเกี่ยวไหม ตอบ
รูปบน P2.2 เป็น แรงบินของกลไก Vs มุม crankshaft ตามรูปจะเห็นไม่คงที่ เป็นลบ และบวก โดยตามรูป เป็นการทำงานที่ 2 รอบ
***ดูความสัมพันธ์รอบ กับการสั่น ตามรูป ที่ 4
รูปที่ 3 เหมือนรูปที่ 2 แต่เป็นการทำ Dynamic Balance ที่ไม่ถูกต้องเพื่อเปรียบเทียบ ผลก็ตามรูป
สรุป
**จากรูป3,4 ถึงแม้จะมี rpm สูงแค่ไหนก็ตาม แต่ถ้าไม่เกิดแรง ก็ไม่สั่น หรือสั่นน้อยมาก
***********จากคำกล่าวของคุณ potmon ที่ว่า
//การสั่น เกี่ยวอะไรกับความดันอะครับ การสั่นมันแปรผันกับรอบเครื่องยนต์โน่นครับ มั่วได้อีกนะครับ ท่าน hongse_c//
----อยากบอกว่า.................คุณมั่วซั่วมาก ถึงขนาดแต่งทฤษฎีเอง
5.จาก คุณ :neosiamese2 คุณคงไม่เข้าใจ คุณลองพิจารณาคำถามที่ผมถามคุณ
//ถามง่าย ที่คุณบอกว่า ของจีนเสียงดัง แพร่ความร้อน ตรวจจับได้ง่ายกว่า ของสวีเดน ญี่ปุ่น
คุณเอามาจากไหน มีอะไรที่เป็นวิทยศาสตร์อ้างอิงบ้าง ซักหนิด มีบ้างไหม?????//
คุณตอบได้ไหม
จะมาอ้างระบบอุดมคติ แบบนี้ไม่ได้ งั้นก็ใช้วิธีทึกทักแบบคุณเอาหรือ
และจะบอกว่า ระบบอุดมคติ หรือระบบจริง ก็ใช้ประกอบการอธิบายได้ เพราะไม่ได้แตกต่างกันมากแต่อย่างไร ในหลักทำงาน
ไม่งั้น จะเรียนระบบอุดมคติทำไม ครับ???
และเรื่องเสียงดัง นี้ชัดเจน เสียงมาจากการสั่น ไม่สั่นก็ไม่มีเสียง
ลองพิจารณาดูรูป ที่ 2 ,3และ 4 เปรียบเทียบ ครับ
สรุป
“แรงที่ไม่คงที่ ทำให้เกิด displacement ที่ไม่คงที่ ซึ่งเท่ากับว่าคือการสั่นที่ควบคุมไม่ได้ มันก็คือเสียง”
ดูรูป ที่ 2 และ 3 ผมใช้เทคโนโลยี ง่ายๆ ในการทำให้แรงคงที่
.................คิดหรือ 711 เขาไม่มีเทคโนแบบนี้???? หวังว่าเข้าใจ
6.คุณ potmon คุณยังไม่ตอบคำถามง่ายๆ ผมเลย คุณเก่งจะตาย
ยกมาอีกรอบทีเท่าไร จำไม่ได้
1.SE สวีเดน V4-275R ใช้อะไรเป็นสารทำงาน (gas) อะไร
2."crankshaft ที่สั้น และยาวต่างกัน ก่อเกิดเสียงดังต่างกันอย่างไร มีสมการ หรือกราฟให้ดูไหมครับ"
3.จาก///งงอะอันนี้ ใครไปว่าเค้าไม่ใช่อะครับผม ไอ้ Anti-shock isolator หรือ อุปกรณ์ลดการสั่น ลดการกระเทือน เค้าใช่กันทั่วโลกอะครับ ไม่ใช่เฉพาะเครื่องยนต์ aip ถามให้คิดเล่นๆนะครับ คุณว่ารถยนต์ที่คุณใช้อยู่อะมีไหมอะครับไอ้ Anti-shock isolator แล้วคุณสตาร์ท เร่งเครื่อง รถคุณสั่นเพราะเครื่องยนต์อยู่เปล่าอะครับ//
---Anti-shock isolator ใช้ในเรือดำน้ำ กับระบบกันสะเทือนรถยนต์ ต่างกันอย่างไร อย่าบอกว่าเหมือนกันน่ะ
***ดักใว้ก่อน อย่าเสียเวลาวนไปเรื่องอื่น เคลีย คำถาม 3 ข้อ และ
จากคำกล่าวของคุณ potmon ที่ว่า
//การสั่น เกี่ยวอะไรกับความดันอะครับ การสั่นมันแปรผันกับรอบเครื่องยนต์โน่นครับ มั่วได้อีกนะครับ ท่าน hongse_c//
จัดการด้วยครับ ไม่ยากเลย สำหรับคนเก่ง อย่าง คุณ potmon
เมื่อไม่ซื้อแล้ว ตอนนี้พิจารณาเรื่องการเมิองระหว่างประเทศ
เนื่องจากความตึงเครียดในทะเลจีนใต้ที่ขั้วประเทศเล็กๆในอาเซียนมีท่าทางเอนเอียงไปทาง สรอ อย่างชัดเจน (อย่างน้อยไม่มีไครอยากคุยกับจีนตัวต่อตัวแน่นอน)
รัสเซียคงไม่เข้ามายุ่ง เพราะจะเป็นการหาเรื่องใส่ตัวเปล่าๆ อย่างดีคงแค่สนับสนุนอาวุธให้เวียตนามถ้ามีลุยกันจริงๆ
ผมว่า ไทยทิ้งจีนไม่ใด้หรอกครับ เหลือเราอยู่เจ้าเดียว บทบาทที่ดีที่สุดคือช่วยไกล่เกลี่ย... อยู่เฉยๆยิ่งแย่ สรอ ก็ไม่ไว้ใจ จีนก็จะไม่ฟินว่าจะเอายังไงกันแน่เนี่ยพี่ไทย
ถ้าสถาณการณ์นี้ไม่คลี่คลาย ผมมองว่าการซื้อเรือ เยอรมัน เสี่ยงมากในแง่การสนับสนุนในระยะกลาง-ยาว เพราะถ้าเกิดการลงไม้ลงมือกัน อเมริกาต้องหาทางเตะตัดขาแน่ๆ เรือเกาหลีอาจดีกว่านิดหน่อยในแง่นี้ ส่วนเรือสวีเดน ผมมีคำถามสำคัญ.... ตกลงที่มาเสนอเนี่อรุ่นไหนกันแน่... เพราะตอนเสออให้อินเดีย (หลังจากมาเมืองไทย ) ทำไมเสนอ A19.... ถ้าเสนอ A19 ให้ไทย ( ตามที่ ผบ ทร กล่าว ) แสดงว่ามีกั๊ก สัญญาณไม่ค่อยดี
ถ้าที่ ผบ ทร พูดว่า เจ้าอื่นขายแต่เรือ ไม่มีอาวุธ เป็นความจริง (จนป่านนี้ยังไม่มีเจ้าใหนมาค้านเลยนะครับ) ถึงเป็นอัมพฤกษ์เลย แสดงว่าพวกกะจะดองเค็มเราจนกว่าจะกลับไปเป็นพวกแน่นอน แล้วถ้าเกิดมีตุ๊บตั๊บกันขึ้นมาเราก็ใด้แต่ร้องเหมียว ๆ เรือดำน้ำเลี้ยวไปเลี้ยวมา
เหลือเรืออารายอีกน้อ.....
ถ้าจะไปที่เช่า... เอารุ่นแรกที่ น้องสิงค์ (หรือตอนนี้ต้องเรียกพี่ หว่า ) ใช้มาลองดำผุดดำโผล่ซัก 2 ปีก่อนมั๊ย เป็นอะไรที่กลางๆดี
หรือลองหมวยให้รู้ไปเลย
"ไทยทิ้งจีนไม่ใด้หรอกครับ เหลือเราอยู่เจ้าเดียว" หมายความว่าไงครับ ทำไมเราถึงทิ้งจีนไม่ได้ ใครบังคับให้เราต้องไปเกาะจีน
ผมว่าที่สำคัญที่สุดคือความเป็นเอกภาพของอาเซียนครับ ไม่ใช่ประเทศนี้โปร สรอ.อีกประเทศโปรจีน ผมยังไม่เห็นความจำเป็นในการหาลูกพี่เลย นอกจากเราโดนรังแกจากบิ๊กประเทศนึงถึงต้องหาคนมาช่วยคุ้มหัว ถามว่าตอนนี้ใครคุกคามไทยหรือไม่
ตัวอย่างชัดๆก็จีนคุกคามประเทศในทะเลจีนใต้ไงครับถึงอ้าแขนรับมะกันกันใหญ่ ขนาดเวียดนามที่ฆ่ากันเลือดสาดเมื่อไม่กี่สิบปีที่แล้วยังกลายเป็นพันธมิตรได้ ฟิลิปินส์ที่โดนญี่ปุ่นกระทืบมาสมัยสงครามโลกก็กลายเป็นกอดคอกันกลม
อธิบายแบบเสี่ยงโดนลบง่ายๆเลยก็คือ สรอ. สนับสนุนฝ่ายการเมืองไทยที่หลุดอำนาจไป จะเนื่องจากคุยง่ายกว่าหรือหาผลประโยชน์ได้มากกว่าก็ตาม พอขั้วตรงข้ามเป็นใหญ่ก็เลยออกมาคอยกดดัน โจมตีทางการเมืองต่างๆ เราก็เลยทำฮึดไปซบอกจีน ออกแนวขู่ว่าเดี๋ยวย้ายค่ายซะเลย ทั้งๆที่ไม่ได้มีความจำเป็น ถามว่าถ้าเราไม่โปรจีนแล้วจีนจะทำอะไรเรา
หมายความว่า 4 ชาติในอาเซียนขัดแย้งกับจีน 2 ไม่มีบทบาท 1 ก็มีกระทบกระทั่งพรมแดนทางบก/ข้อหาให้ที่พักพิงชนกลุ่มน้อย อีก 1 ก็ไม่เคยสนิทใจจากปํญหาการทารุณกรรมชาวจีนในช่วงปลายยุค 90.
เหลือไทยเจ้าเดียวที่มีต้นทุนทางความสัมพันธ์พื้นฐานดีที่สุดกับจีนในตอนนี้... ในภูมิภาคอาเซียน
จีนไม่คุยเรื่องนี้ในศาลโลกแน่ ดังนั้นถ้าจะคุยมันก็ต้องคุยในระดับภูมิภาค แต่จีนก็แสดงออกชัดเจนว่าไม่อยากคุยในวงอาเซียน อยากคุยเฉพาะคู่กรณี แต่ทุกประเทศคู่กรณีไม่อยากคุยกับจีนโดยตรง แล้วเอาไงต่อครับ ถ้าอยากให้สถานการณ์คลี่คลาย หรือ อย่างน้อยไม่ล่อแหลมไปกว่านี้ ? แถมมีหัวแดงที่ห่างออกไป 8000 ไมล์มาคอยบลัฟเป็นระยะๆ
ผมว่าไทยไม่โปรใคร แต่ตอนนี้เกือบครึ่งนึงของภูมิภาคโปรอเมริกา ( ท่านอาจแย้งว่าเพราะจีนแสดงท่าทีก้าวร้าว แต่ถ้าเราว่าเกาะมันเป็นของเรา เราก็คงต้องออกตัวแรงที่สุดเหมือนกัน ) เราเดินเข้าไปในฐานะผู้ประสาน ลดการเผชิญหน้า เพราะมันเหลือเราเจ้าเดียว...
ถ้าปมนี้ไม่หลุด ปลดล็อคการเผชิญหน้าระหว่าง จีน กับ สรอ (โดย Proxy) ไม่ใด้ มันเหมือนเราเลือกเรือดำน้ำโดยไม่เลือกข้างไม่ใด้
คือประกาศตัวว่าเป็นกลางน่ะประกาศใด้ แต่อาวุธที่จะซื้อมาป้องกันประเทศเพื่อให้คงความเป็นกลางใด้มันมาจากคนขายที่แบ่งค่ายกันชัดเจน เราก็ลำบาก เพราะผลิตอาวุธเองไม่ใด้ ขนาดสวีเดนว่าเป็นกลางยังแสดงตัวชัดเจนว่าจะไม่ขาย กริพเพนให้ อาเจนติน่า ถ้าความสัมพันธ์กับอังกฤษยังมัวซัวแบบนี้
ตรงนี้ก้ต้องชั่งน้ำหนักให้ดี
จริงอยู่ รัฐบาลนี้มีความสัมพันธ์ที่ดีกับจีน ในขณะที่ความสัมพันธ์กับตะวันตก ตกต่ำลดลงไป
แต่มันจะเป็นแบบนี้ตลอดไป หรือแค่ชั่วคราว
การดึงเรื่องความขัดแย้งระหว่างจีนกับเพื่อนบ้าน และความสัมพันธ์กับตะวันตกที่ตกต่ำลง
มาเป็นแนวทางเลือกเรือ ส. แล้วหวังว่าจีนจะให้สิทธิพิเศษแก่เรา ในฐานะที่เราอยู่ฝั่งจีน
ผมว่ามองง่ายไป เพราะยังไง ถึงแม้เราจะสนับสนุนหรือไม่สนับสนุนจีนก้ตาม
จีนก็ดำเนินนโยบายเขตแดนแบบนี้ต่อไปไม่สนหน้าอินทร์หน้าพหรมอยู่แล้วล่ะครับ
ที่จีนอยากคุยกับคู่กรณีเป็นตัวๆไปเพราะแบบนั้นจีนได้เปรียบไงครับ เพราะมีอำนาจทางทหารที่เหนือกว่าเป็นข้อต่อรอง เหมือนเรามีปัญหาเขตแดนกับกัมพูชาเราก็อยากคุยกันสองคนขณะที่ประเทศกัมพูชาอยากหาคนกลาง อารมณ์เดียวกัน
บอกตามตรงเลยว่าประเทศเล็กๆอย่างเราไม่มีทางเป็นประเทศกาวประสานใจหรือกล่อมจีนได้หรอกครับ พูดกันตรงๆคือจีนไม่เห็นหัวเราหรอกครับ หรือต่อให้เราซื้อด.จีนผมก็ยังไม่เห็นว่ามันจะช่วยให้สถานการณ์ในทะเลจีนใต้ดีขึ้นได้ยังไง?? สิ่งที่จะเกิดขึ้นมันก็แค่เรื่องความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศ ไทย-จีนแค่นั้น
เรื่องสวีเดนไม่ยอมขายบ.ให้อาร์เจนฯเป็นเพราะชิ้นส่วนอุปกรณ์ในกริปเปน E/F นั้นกว่า 30% supplier เป็นอังกฤษ โดยหลังจากอังกฤษออกตัวดังเอี๊ยดว่าห้ามขายนะเว้ย อั๊ววีโต้แน่นอน ซาบก็ออกมาบอกเองว่าตอนนี้ไม่ขายแน่นอน แต่อนาคตถ้าความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศไม่ดีขึ้นก็อาจจะหาแหล่งผลิตชิ้นส่วน/อุปกรณ์จากประเทศอื่นแทนอังกฤษ http://bit.ly/1Sr1Wd6
สำหรับกรณีเรานั้นต่างกัน ถ้าเราจะซื้อด. สวีเดน หรือเยอรมัน จีนจะห้ามได้ไงครับ เพราะจีนไม่ใช่ซัพพลายเออร์หรือมีส่วนเกี่ยวข้องเลย
กราบเรียบท่าน แอดมินที่เคารพรัก และสมาชิกท่านอื่นๆ
ผมมีข้อเสนอให้ตัดเอาโพสต์ที่กำลังถกเถียงกันเรื่องทฤษฎี ระบบ AIP แยกไปเป็นอีกกระทู้หนึ่งต่างหากจะดีกว่าไหมครับ
คือตอนนี้มีคนอยู่ประมาณสามหรือสี่คน ซึ่งเป็นโปรฯ ด้านเครื่องกลMEทั้งหมด (ส่วนผม PE จาก สจพ.ปราจีนฯ ไม่รู้เรื่องเลยเถียงอะไรกันฟระ สูตรคำนวณอะไรเนี่ย?) ให้เค้าไปโต้วาทีกันต่างหากไปเลยจะดีกว่าไหมครับท่านแอดมิน
--------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
ไม่เป็นไรครับ นั่งอ่านแล้วก็มึนเหมือนกันเพราะแอดมินจบรัฐศสตร์/Admin
สวีเดนเสนอรุ่น a26 ครับไปอ่านที่ TAF ได้ครับตั้งนานแสนนานแล้วครับ
มาต่ออันที่ ท่าน hongse_c มั่วไว้นะครับ
"ถ้าเป็นคคห ส่วนตัว ก็ไม่ซีเรียส
แต่ เรื่องข้อมูลอ้างอิง ที่ใช้ภาษาจีน เพราะภาษาอังกฤษไม่มีครับ และเชื่อว่า หลายท่านอาจอ่านไม่ออก แต่หลายท่านอาจอ่านออก
และ
ท่านที่เห็นต่าง ที่บอกว่า
SE ที่ให้กำลังมากขึ้น ต้องมีช่วงชักยาวขึ้น เท่ากับสั่นขึ้น!!!!
SE ที่ให้กำลังมากขึ้น ต้องร้อน และไม่สามารถควบคุมความร้อนได้!!!!
SE ที่ให้กำลังมากขึ้น ต้องเสียงดัง!!!!
ความเข้าใจของท่านที่บอกแบบนี้ นี่วิศวกรรมตรงไหน?? ----ตรงกับวิศวกรรมทั่วโลกอะครับ
จาก P-v Diagram
กำลังหมายถึงพื้นที่ใต้กราฟ ----ท่าน hongse_c เริ่มมั่วตั้งแต่ตรงนี้แล้วครับ พื้นที่ใต้กราฟหมายถึง "งาน(จูล/กิโลกรัม)" ที่ลูกสูบเคลื่อนที่ครับ
กับการกล่าวอ้างของพวกคุณนั้นถูกไหม ลองดูกัน???
1.กำลังมากขึ้น แล้วความร้อนแพร่นอกตัวเรือมากขึ้น ทำให้ตรวจับง่ายขึ้น
ผิดเพราะ
1.1.จาก P-v Diagram คนที่ไม่เคยเรียนอาจคิดง่ายๆ ปนมั่วๆ ว่า กำลังมากขึ้น ต้องร้อนขึ้น
ซึ่งผิด ตาม P-v Diagram กำลังมากขึ้น หมายถึง เพิ่มTh ลดTl เพิ่มP หรือเพิ่ม v ทำอย่างหนึ่งอย่างใด หรือหลายอย่าง ก็ได้กำลังที่ต้องการ ---- มั่วครับ ค่า P หรือ v ไม่ได้เพิ่ม"กำลัง"นะครับ แต่เพิ่ม"งาน"ของลูกสูบใน 1 รอบครับ ต้องเอามาคูณจำนวนรอบเครื่องยนต์อีกถึงได้กำลังเครื่องครับ เนื่องจากท่าน hongse_c มั่วมาตรงแต่ต้น ผมจะสมมุติว่า@ที่รอบเครื่องยนต์เท่ากัน P(ความดัน)เท่ากัน มี m(มวลก๊าซที่เป็นสัดส่วนกับปริมาณ)เท่ากัน ต้องมีทั้งหมดนี้เท่ากัน การเพิ่มค่า v ถึงจะมีผลต่อกำลังเครื่องยนต์ครับ สรุปเอาแบบง่ายเลย คือ ที่รอบเครื่องเดียวกัน อุณหภูมิเดียวกัน การเพิ่มปริมาณกระบอกสูบจะมีผลทำให้กำลังเครื่องยนต์มากขึ้นครับ แต่เพิ่มปริมาณกระบอกสูบเครื่องยนต์มันก็ต้องใหญ่ขึ้นด้วยจริงไหมครับ
1.2.ถึงแม้จะเพิ่ม Thวิศวกรเขาเรียนวิชาที่จัดการกับความร้อน คือ heat transfer ซึ่งสามารถมาจัดการถ่ายความร้อนส่วนที่ไม่ใช้ได้ หรือควบคุม T ให้เหมาะสมได้ ---- วิศวกรนะครับไม่ใช่พ่อมดทำได้ซะที่ไหนหละครับ ทำได้แค่ถ่ายเทความร้อนจากที่หนึ่งไปที่หนึ่งเท่านั้นเอง เอาง่ายๆเลยนะครับ ถ้าจะให้น้ำร้อนนิดเดียวมันกลายเป็นน้ำอุ่นก็ต้องผสมน้ำธรรมดาเพิ่มจริงไหมครับ ที่นี้แทนที่จะมีน้ำร้อนอยู่นิดเดียว ก็กลายเป็นมีน้ำอุ่นอยู่มากๆกว่าเดิมจริงไหม ส่วนมีผลยังไงกับ ด. ก็คิดเอานะครับ
ดังนั้น จะมาอ้างมั่วๆ ว่า “กำลังมากขึ้น แล้วความร้อนแพร่นอกตัวเรือมากขึ้น ทำให้ตรวจับมากขึ้น” ไม่ได้ เดี๋ยวเยาวชนอ่านจะเข้าใจผิด ---- ท่าน hongse_c อย่าไปห่วงเยาวชนเลย เอาตัวเองให้ทันเยาวชนก่อนเถอะครับ แจกสูตรก่อนเลยแล้วกัน "พลังงานที่สูญเสียจากเครื่องยนต์(จูล)/วินาที = (100-ค่าประสิทธิภาพเครื่องยนต์เป็นเปอร์เซ็นต์)/100 คูณ พลังงานจากเชื้อเพลิง(จูล)/วินาที" ในภาควิชาเครื่องกล(ไม่รวมฟิสิกส์ นิวเคลียร์นะครับ) พลังงาน(จูล)ไม่มีทางหายไปไหนครับ ในเครื่องยนต์ก็เหมือนกัน ที่ได้พลังงานจากเชื้อเพลิงและเปลี่ยนเป็นกำลังทางกลได้ตามประสิทธิภาพของเครื่องยนต์นั้นๆเป็นเปอร์เซ็นต์ครับ ส่วนพลังงานที่เหลือก็สูญเสียออกไปในรูปแบบต่างๆ เช่น เสียง แสง ความร้อน ไฟฟ้า และการสั่น เป็นเปอร์เซ็นต์อีกเช่นกัน เพราะฉนั้น เครื่องยนต์ที่มีประสิทธิภาพเท่ากันยิ่งกำลังมาก ยิ่งเกิด เสียง แสง ความร้อน ไฟฟ้า และการสั่น มากตามไปด้วยอะครับ เข้าใจนะครับว่ามันเป็นเปอร์เซ็นต์ ไม่เข้าใจไปถามเด็กประถมนะครับ
**ไม่สงสัยหรือ ทำไมผมถามว่า”น้ำหล่อเย็นcooling exhaust gas ที่อุณหภูมิเท่าไร” เพราะระบบ heat transfer จะกำหนดT ระบบ ---- สงสัยดิครับว่า ท่าน hongse_c ถามอุณภูมิ cooling exhaust gas หรือ TL หรือ อุณภูมิน้ำทะเลที่สูบมาจากท้องเรือ ได้ยังไงอะครับ เรือวิ่งที่จีน กับเรือวิ่งที่ไทย น้ำทะเลเย็นเท่ากันหรือเปล่า อย่างขั่วโลก กับเส้นศูนย์สูตร น้ำทะเลมันเย็นเท่ากันไหมอะครับ จะถามก็บอกที่ๆเรืออยู่ด้วยดิครับ
2.กำลังมากขึ้น แล้วสั่นมากขึ้น ---- จากข้อข้างบน เครื่องยนต์ที่มีประสิทธิภาพเท่ากัน กำลังมากขึ้น ก็จะสั่นมากขึ้น
**ถ้าคุณเป็นวิศวกร ถ้ากล่าวแบบนี้เวลาทำงาน เขาจะย้อนกลับทันที ว่ารู้ได้อย่างไร?? ---- รู้ได้ดิครับก็มี ตาดู หูฟัง สมองคิด จิตแจ่มใส
และ
3.การเพิ่มความยาว crankshaft ต้องสั่นมากขึ้น
4.กำลังมากขึ้น ต้องเสียงดัง!!!!
ตอบ รวมขอ้2 3และ4
ผิด เพราะไม่จำเป็นขึ้นอยู่กับวิศวกรที่ออกแบบมีความสามาถแค่ไหน ----วิศวกรมีความสามารถเป็นกรรมสิทธิ์เฉพาะของจีนเหรอครับ
อย่างที่ถาม เครื่องยนต์รุ่นใหม่ cc เดียวกัน นั้นสั่นน้อยกว่าเครื่องยนต์รุ่นเก่ามาก เพราะอะไร ก็เพราะปัจจุบันมีการคำนวนด้าน Dynamic Balance ที่ถูกต้องมากขึ้นเพราะใช้ CAE และAnti-shock isolator ถูกพัฒนาดีขึ้น ---- Dynamic Balance ,CAE และAnti-shock isolator เป็นกรรมสิทธิ์เฉพาะของจีนเหรอครับ
ยกตัวอย่าง รูปที่ 1-2-3 เป็นการ Dynamic Balance เครื่องยนต์ สมัยก่อนใช้การคำนวนด้วยมือ แต่เดี๋ยวนี้ ด้วย คอมพิวเตอร์ ซึ่งใช้เพื่อแก้ไขปัญหาเมื่อกลไกเคลื่อนที่แล้วสั่น แต่ถึงแม้จะคำนวนเก่งแค่ไหน ก็ยังควบคุมความสั่นได้แค่ที่ความเร็ว รอบๆ ช่วงหนึ่งเท่านั้น เช่น 100-1500 rpm เป็นต้น เท่านั้นถึงไม่สั่น แต่อาจสั่น ที่ 90 rpm หรือ2000rpm ก็ได้ เป็นต้น
และ ถ้าใคร เคยเรียนmechanical vibrations คงรู้จักการสั่นพ้อง (Resonance ) สนใจอ่าน ภาษาไทยไม่ใช่จีน
http://www.sa.ac.th/winyoo/mechanicswave/wa_resonace.htm
Resonance นี่แหละที่สร้างปัญหา และเป็นปัญหาร้ายแรง ดังนั้นวิศวกร รดน เขาต้องติดตั้ง Anti-shock isolator เข้ากับอุปกรณ์ที่เคลื่อนที่ ตามรูปที่ 4 ---- ติดตั้ง Anti-shock isolator เป็นกรรมสิทธิ์เฉพาะของจีนเหรอครับ แต่รถญี่ปุ่นของผมก็ติดนะไอ้ Anti-shock isolator นะ
ซึ่งAnti-shock isolator มีแบบง่ายๆ และแบบที่ควบคุมด้วยคอมพิวเตอรเลยทีเดียว เพื่อป้องกันการสั่น
แค่นี้คงพอเข้าใจน่ะครับ
รูปที่5 Dynamic Balance stirling engine
*** Anti-shock isolator ไม่สามารถแก้ปัญหา Resonance ใน รดน ได้ทั้งหมดโดยเฉพาะต้องเจอคลื่นกระแทกจากระเบิดน้ำลึก
แค่นี้คงเข้าใจ ว่า การสรุปที่ว่า รดน จีนกำลังมากขึ้น กว่าของญี่ปุ่น สวีเดนแล้วต้อง เสียดัง แล้วต้อง ร้อนตรวจจับได้ง่าย
นั้น มันผิด และเป็นการกล่าวอ้างโดยเอา ทฤษฎีมาใช้อย่างผิดด้วย ----- ท่าน hongse_c นั้นแหละครับ เอาทฤษฎีมาใช้อย่างผิดที่ผิดทาง หรือก็คือมั่วนั้นเอง รดน. จีนกำลังมากขึ้นกว่าของญี่ปุ่นสวีเดน แล้วต้องเสียดัง แล้วต้องร้อนตรวจจับได้ง่าย นั้น มันถูกต้องแล้วครับ ถ้าประเมินให้ประสิทธิเครื่องยนต์ 3 ชาตินี้เท่ากัน(นี้ผมโลกสวยเพื่อ ท่าน hongse_c เลยนะครับนี้ ซึ่งจริงๆก็น่าจะรู้นะครับว่าชาติไหนกากสุด)
ปล.
1.ตอนนี้ ไม่ต้องพูดถึงข้อมูลผู้ผลิตแล้ว แค่ความใจเรื่อง SE ยังไม่ถูกต้องเลย ---- จริงครับ ท่าน hongse_c ไม่ได้เข้าใจ SE เลย แม้แต่น้อย
2.ข้อมูลที่ถามไป ไม่ได้หวังคำตอบ แค่ต้องการสื่อให้ทราบว่า เราไม่สามารถสรุปได้ ถ้าไม่รู้ข้อมูลพวกนั้น ที่ทำได้แค่ประเมินว่าของจีนเป็นอย่างไร เมื่อเทียบกับผู้อื่น ---- หวังนิดก็ดีนะครับ
เนื่องด้วยมีหลายๆท่านเตือนมานะครับ เรื่องการถกเถียงกับ ท่าน hongse_c ดูมันจะนอกเรื่องเรือดำน้ำไปมาก จริงๆผมพยายามไล่ตอบเป็นประเด็นๆไป แต่เมื่อเวลาไม่อำนวย และหลายๆคนเตือนมา ผมเลยจะหยุดโต้ตอบกับเค้านะครับ ไม่ใช่เพราะไม่มีข้อเท็จจริงมาแก้ความเข้าใจผิดของ ท่าน hongse_c นะครับ แต่ผมรู้สึกว่า ท่าน hongse_c ไม่ใช่คนประเภทที่จะสอนได้แล้วอะครับ(สอนไม่ขึ้น)
ปล. ผมยื่นยันนะครับว่าที่ ท่าน hongse_c เขียนมามั่วทั้งหมดครับ รูปที่ ท่าน hongse_c แปะมาไม่มีอันไหนสอดคล้องกับที่เค้าอธิบายเลย แล้วในคำอธิบายก็ไม่มีอันไหนเป็นข้อเท็จจริงเลยครับ สักแต่หารูปมาแปะๆ แล้วอธิบายอย่างมั่วทุกอันครับ
ดูอย่าง ภาพ และคำอธิบาย vibration(การสั่น) ดูเอานะครับ หน่วยของเค้าเป็นหน่วยเป็นอะไร ในความเป็นจริง vibrations of machines (การสั่นทางกล) มีหน่วยวัดเป็น รอบต่อวินาที หรือ เฮิร์ตซ์ (Hz) ครับ ผมแนะนำนะครับ ก่อนจะเชื่ออะไรในข้อมูลของ ท่าน hongse_c ต้องตรวจสอบโดยระเอียดมากๆครับ
ประเด็นเรือดำน้ำจีน เครื่องแรงกว่าแล้วดังกว่าร้อนกว่าของญี่ปุ่น ตามที่ทั่นนีโอฯกับ potmon บอกคือ"ถ้าเครื่องประสิทธิภาพเท่ากัน" แรงขึ้นก็ต้องร้อน+ดังขึ้น แต่ทั่น hongse_c มองว่าเครื่องจีนแรงกว่าแต่ไม่ดัง+ร้อนเพราะเครื่องจีนประสิทธิ์ภาพสูงกว่า วิศวกรจีนมีความสามารถในการจัดการปัญหาความร้อนกับเสียงมากกว่า อย่างงี้ก็จบครับ เพราะความสามารถของวิศวกรนี่เป็นตัวแปรที่เราไม่สามารถรู้ได้ แต่ถ้าให้เดาเกือบทุกคนก็คงเชื่อว่าของ ตะวันตก หรือญีุ่ป่นดีกว่าจีน
ขออภัยท่านอื่นด้วยครับ ในความไม่สะดวก
potmon คุณยังไม่ตอบคำถามเลย ตอบไม่ได้หรือครับ ?? และพยายามขุดเรื่องเก่าเพื่อ กลบประเด็น เรื่องใหม่หรือครับ
แต่ไม่เป็นไร ผมขอเล่นกับคุณ
1.จาก // ----ท่าน hongse_c เริ่มมั่วตั้งแต่ตรงนี้แล้วครับ พื้นที่ใต้กราฟหมายถึง "งาน(จูล/กิโลกรัม)" ที่ลูกสูบเคลื่อนที่ครับ //
--คุณมีปัญหาจริงๆ วนเรื่องนี้ หลายรอบแล้ว คือจงใจไม่เข้าใจใช่ไหมครับ
--ไม่เข้าใจตรงนี้หรือ work done per cycle = specific work done per cycle x m
--ไม่รู้หรือแกล้ง Power สัมพันกับ work done per cycle
--ก็เขียนชัดแล้ว ว่า work done per cycle ก็ยังมึนอยู่อีก
2. จาก//มั่วครับ ค่า P หรือ v ไม่ได้เพิ่ม"กำลัง"นะครับ แต่เพิ่ม"งาน"ของลูกสูบใน 1 รอบครับ ต้องเอามาคูณจำนวนรอบเครื่องยนต์อีกถึงได้กำลังเครื่องครับ เนื่องจากท่าน hongse_c มั่วมาตรงแต่ต้น ผมจะสมมุติว่า@ที่รอบเครื่องยนต์เท่ากัน P(ความดัน)เท่ากัน มี m(มวลก๊าซที่เป็นสัดส่วนกับปริมาณ)เท่ากัน ต้องมีทั้งหมดนี้เท่ากัน การเพิ่มค่า v ถึงจะมีผลต่อกำลังเครื่องยนต์ครับ สรุปเอาแบบง่ายเลย คือ ที่รอบเครื่องเดียวกัน อุณหภูมิเดียวกัน การเพิ่มปริมาณกระบอกสูบจะมีผลทำให้กำลังเครื่องยนต์มากขึ้นครับ แต่เพิ่มปริมาณกระบอกสูบเครื่องยนต์มันก็ต้องใหญ่ขึ้นด้วยจริงไหมครับ //
---จากประโยคเด็ด// มั่วครับ ค่า P หรือ v ไม่ได้เพิ่ม"กำลัง"นะครับ แต่เพิ่ม"งาน"ของลูกสูบใน 1 รอบครับ//
---- net work done per cycle =integration P d(mv) = mP x (v2-v1) = Kg x N/m2 x (m3/ kg – m3/kg )
= Joule (N-m)
--อย่าพยายาม โยงไปเรื่องรอบเลย เพราะผมเขียนชัดว่า per cycle ผมพูดแค่ 1 รอบ
--เจตนาโยง เพื่ออะไร เพราะไปต่อไม่ได้ ก็เลยวนซ้ำเรื่องนี้ถูกไหม???
3.จาก // วิศวกรนะครับไม่ใช่พ่อมดทำได้ซะที่ไหนหละครับ ทำได้แค่ถ่ายเทความร้อนจากที่หนึ่งไปที่หนึ่งเท่านั้นเอง เอาง่ายๆเลยนะครับ ถ้าจะให้น้ำร้อนนิดเดียวมันกลายเป็นน้ำอุ่นก็ต้องผสมน้ำธรรมดาเพิ่มจริงไหมครับ ที่นี้แทนที่จะมีน้ำร้อนอยู่นิดเดียว ก็กลายเป็นมีน้ำอุ่นอยู่มากๆกว่าเดิมจริงไหม ส่วนมีผลยังไงกับ ด. ก็คิดเอานะครับ //
--เพราะคุณไม่ใช่วิศวกร หรือคุณเก่งมาก แต่จากรูป รูปที่ 1 ทำไมผมทำได้ ถ้าดูไม่เข้าใจ ถามได้น่ะ
--อย่าคิดว่าคนอื่นเขาเป็นอย่างคุณ
4.จาก //-- ท่าน hongse_c อย่าไปห่วงเยาวชนเลย เอาตัวเองให้ทันเยาวชนก่อนเถอะครับ แจกสูตรก่อนเลยแล้วกัน "พลังงานที่สูญเสียจากเครื่องยนต์(จูล)/วินาที = (100-ค่าประสิทธิภาพเครื่องยนต์เป็นเปอร์เซ็นต์)/100 คูณ พลังงานจากเชื้อเพลิง(จูล)/วินาที" ในภาควิชาเครื่องกล(ไม่รวมฟิสิกส์ นิวเคลียร์นะครับ) พลังงาน(จูล)ไม่มีทางหายไปไหนครับ ในเครื่องยนต์ก็เหมือนกัน ที่ได้พลังงานจากเชื้อเพลิงและเปลี่ยนเป็นกำลังทางกลได้ตามประสิทธิภาพของเครื่องยนต์นั้นๆเป็นเปอร์เซ็นต์ครับ ส่วนพลังงานที่เหลือก็สูญเสียออกไปในรูปแบบต่างๆ เช่น เสียง แสง ความร้อน ไฟฟ้า และการสั่น เป็นเปอร์เซ็นต์อีกเช่นกัน เพราะฉนั้น เครื่องยนต์ที่มีประสิทธิภาพเท่ากันยิ่งกำลังมาก ยิ่งเกิด เสียง แสง ความร้อน ไฟฟ้า และการสั่น มากตามไปด้วยอะครับ เข้าใจนะครับว่ามันเป็นเปอร์เซ็นต์ ไม่เข้าใจไปถามเด็กประถมนะครับ //
--คุณเป็นวิศวกรเชิงบรรยายหรือครับ บรรยายเองยังขัดกันเลย
--คงไม่รู้จักheat transfer เลยใช่ไหม ถึงมั่วแบบนี้ อ่านต่อไป
--นั้นถาม nuclear reactor ของ nuclear submarine เขาจะทำไง ????? ร้อนกว่า ตั้งSE กี่เท่า
5.จาก //สงสัยดิครับว่า ท่าน hongse_c ถามอุณภูมิ cooling exhaust gas หรือ TL หรือ อุณภูมิน้ำทะเลที่สูบมาจากท้องเรือ ได้ยังไงอะครับ เรือวิ่งที่จีน กับเรือวิ่งที่ไทย น้ำทะเลเย็นเท่ากันหรือเปล่า อย่างขั่วโลก กับเส้นศูนย์สูตร น้ำทะเลมันเย็นเท่ากันไหมอะครับ จะถามก็บอกที่ๆเรืออยู่ด้วยดิครับ //
--อย่าพยายามตอบในสิ่งที่คุณไม่เข้าใจเลยครับ เพราะถ้าคุณเข้าใจ คงไม่ตอบ อย่าง ข้ออ4
6 จาก//จากข้อข้างบน เครื่องยนต์ที่มีประสิทธิภาพเท่ากัน กำลังมากขึ้น ก็จะสั่นมากขึ้น //
-- อย่าพยายามตอบในสิ่งที่คุณไม่เข้าใจเลยครับ (ขอฝากอีกที) ดูรูปที่ 1 ประกอบ ถ้าคุณเข้าใจเรื่อง vibration และDynamic Balance คงไม่ตอบอย่างนี้ ดูรูป และทำความเข้าใจกับมัน อะไรคือต้นเหตการทำให้สั่น
7.จาก //ท่าน hongse_c นั้นแหละครับ เอาทฤษฎีมาใช้อย่างผิดที่ผิดทาง หรือก็คือมั่วนั้นเอง รดน. จีนกำลังมากขึ้นกว่าของญี่ปุ่นสวีเดน แล้วต้องเสียดัง แล้วต้องร้อนตรวจจับได้ง่าย นั้น มันถูกต้องแล้วครับ ถ้าประเมินให้ประสิทธิเครื่องยนต์ 3 ชาตินี้เท่ากัน(นี้ผมโลกสวยเพื่อ ท่าน hongse_c เลยนะครับนี้ ซึ่งจริงๆก็น่าจะรู้นะครับว่าชาติไหนกากสุ //
--คนที่ไม่รู้เรื่อง heat transfer ,vibration และDynamic Balance อย่างคุณ ยังอุตสาตอบอีก
--ถาม เรื่องใกล้ตัว
เครื่อง ICE(สันดาปภายใน) ของ corolla 1.6
ระหว่าง E100 1.6L 4a-fe 85 kW ที่6000 rpm
E170 1.6L 1ZRFE 92 kW ที่6000 rpm
a.ทำไม เครื่อง 1.6L 1ZRFE ให้กำลังขับมากกว่า ทั้งที่ความจุเท่ากัน??
b.ทำไม 1.6L 1ZRFE สั่นน้อยกว่า เมื่อเทียบ กับ 1.6L 4a-fe ทั้งที่ให้กำลังมากกว่า ???
--ตอบโดยยกกราฟ มาประกอบครับ และขอเตือน อย่ามั่ว ว่า”ความดันไม่เกี่ยวกับการสั่นอีก”
8. จาก //ปล. ผมยื่นยันนะครับว่าที่ ท่าน hongse_c เขียนมามั่วทั้งหมดครับ รูปที่ ท่าน hongse_c แปะมาไม่มีอันไหนสอดคล้องกับที่เค้าอธิบายเลย แล้วในคำอธิบายก็ไม่มีอันไหนเป็นข้อเท็จจริงเลยครับ สักแต่หารูปมาแปะๆ แล้วอธิบายอย่างมั่วทุกอันครับ
ดูอย่าง ภาพ และคำอธิบาย vibration(การสั่น) ดูเอานะครับ หน่วยของเค้าเป็นหน่วยเป็นอะไร ในความเป็นจริง vibrations of machines (การสั่นทางกล) มีหน่วยวัดเป็น รอบต่อวินาที หรือ เฮิร์ตซ์ (Hz) ครับ ผมแนะนำนะครับ ก่อนจะเชื่ออะไรในข้อมูลของ ท่าน hongse_c ต้องตรวจสอบโดยระเอียดมากๆครับ
//
--คุณมั่นใจมาก.
--รู้ไหม โปรแกรมที่คำนวน คือโปรแกรมอะไร
--และtransient response (ตามรูปที่ให้ดู) ใว้คำนวนอะไร
-- ผมยังไม่เฉลย สนุกดี จะดึงคุณให้ลงลึกกว่านี้
--และถ้าผมเป็นคุณ เห็นรูปที่ 2 (ยกมาอีกรอบ) ผมรู้ทันที่เลย นั้นคือtransient response ผมคงไม่กล้าตอบแบบนี้แน่
--จากรูปที่ 2
ดูเส้นสีแดง สังเกต มี mode 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10
ดูเส้นสีเหลือง displacement และ หน่วย mm
--จากรูปที่ 3
ดูเส้นสีแดง สังเกต ชี้ที่อะไร หน่วยอะไร
ดูเส้นสีเหลือง ยอดคลื่นคืออะไร
++พิจารณารูปแล้ว ยังจะพิมแบบข้างล่างแบบนี้อีกไหม
//ดูอย่าง ภาพ และคำอธิบาย vibration(การสั่น) ดูเอานะครับ หน่วยของเค้าเป็นหน่วยเป็นอะไร ในความเป็นจริง vibrations of machines (การสั่นทางกล) มีหน่วยวัดเป็น รอบต่อวินาที หรือ เฮิร์ตซ์ (Hz) ครับ ผมแนะนำนะครับ ก่อนจะเชื่ออะไรในข้อมูลของ ท่าน hongse_c ต้องตรวจสอบโดยระเอียดมากๆครับ//
9.คุณ potmon ผมตอบคุณมาเยอะแล้ว
ขอสรุปคำถามที่คุณต้องตอบ
1.SE สวีเดน V4-275R ใช้อะไรเป็นสารทำงาน (gas) อะไร
2."crankshaft ที่สั้น และยาวต่างกัน ก่อเกิดเสียงดังต่างกันอย่างไร มีสมการ หรือกราฟให้ดูไหมครับ"
3.จาก///งงอะอันนี้ ใครไปว่าเค้าไม่ใช่อะครับผม ไอ้ Anti-shock isolator หรือ อุปกรณ์ลดการสั่น ลดการกระเทือน เค้าใช่กันทั่วโลกอะครับ ไม่ใช่เฉพาะเครื่องยนต์ aip ถามให้คิดเล่นๆนะครับ คุณว่ารถยนต์ที่คุณใช้อยู่อะมีไหมอะครับไอ้ Anti-shock isolator แล้วคุณสตาร์ท เร่งเครื่อง รถคุณสั่นเพราะเครื่องยนต์อยู่เปล่าอะครับ//
---Anti-shock isolator ใช้ในเรือดำน้ำ กับระบบกันสะเทือนรถยนต์ ต่างกันอย่างไร อย่าบอกว่าเหมือนกันน่ะ
4.nuclear reactor ของ nuclear submarine เขาจะทำไง ???? ร้อนกว่า SE ตั้งกี่เท่า
ปล.อย่าตอบว่าเครื่องยนต์คนล่ะแบบ เพราะผมถามถึงระบบระบายความร้อน reactor ของ nuclear ร้อนกว่า AEAIP มากอยู่แล้ว
---ถ้าใช้ทฤษฎีของคุณว่า nuclear submarine ก็ตรวจจับง่ายสุดๆซิ ทั้งแรงทั้งร้อน
5.เครื่อง ICE(สันดาปภายใน) ของ corolla 1.6
ระหว่าง E100 1.6L 4a-fe 85 kW ที่6000 rpm และ E170 1.6L 1ZRFE 92 kW ที่6000 rpm
a.ทำไม เครื่อง 1.6L 1ZRFE ให้กำลังขับมากกว่า ทั้งที่ความจุเท่ากัน??
b.ทำไม 1.6L 1ZRFE สั่นน้อยกว่า เมื่อเทียบ กับ 1.6L 4a-fe ทั้งที่ให้กำลังมากกว่า ???
------ตอบโดยยกกราฟ มาประกอบครับ และขอเตือน อย่ามั่ว ว่า”ความดันไม่เกี่ยวกับการสั่นอีก”
-อย่าตอบว่าเทคโนใหม่กว่า นั้นกำปั้นทุบดิน
จะรออ่านความรู้จากคุณครับ
เรียน แอดมิน ผมว่าตั้งกระทู้ เกี่ยวกับ AIP ตามที่คุณ Woot 1980 แนะนำดีมั๊ยครับ เพราะแต่ละท่าน ตอบแต่ละครั้งยาวๆ ทั้งนั้น
หลายท่าน ยังมีความกังวลใจอยู่เรื่องคุณภาพ เรือดำน้ำจากจีน แต่จีนเองก็ต่อเรือดำน้ำใช้เอง และขายให้มิตรประเทศ จำนวนไม่น้อย ดังนั้น ผมเชื่อว่า จีนเองก็มีความเชี่ยวชาญในระดับหนึ่ง ดีไม่ดี อาจจะมากกว่าญี่ปุ่นด้วย แต่ผมไม่ทราบจริงๆ เรื่องความปราณีต และความละเอียดนั้น จะเท่าญี่ปุ่นมั๊ย
จาก youtube นักข่าวสาว ลงไปดูความเป็นอยู่ทหารประจำเรือดำน้ำ ชั้นซ่ง
https://www.youtube.com/watch?v=XG-J_3TExv0
1. นาที ที่ 7.51 เสียงเครื่องยนต์ ?
2. ทหารทุกนายใส่ hearing protector แสดงว่า เสียงดังแน่นอน ขนาดนักข่าวสาวยังต้องป้องปากคุยกับทหาร --> ต้องมีการเคลือบผิวเรือ ?
3. อุณหภูมิ ในห้องเครื่องไม่ร้อน สังเกตจาหหน้าแต่ละคน ไม่มัน ไม่มีเหงื่อออก คนที่มีเหงื่ออกในวิดีโอ มีคนเดียว คือ พ่อครัว แสดงว่า การควบคุมอุณหภูมิดี ?
4. นาที ที่ 15.54 การบำรุงรักษาเครื่องยนต์ รบกวนคุณ hong_c ให้คำแนะนำด้วยครับ
5. นาที ที่ 8.4 อันนี้ รับไม่ได้อย่างแรง ครัวจีนครับ จะเล็กไปไหนเนี่ย
เรือดำน้ำ ของอินเดีย ชั้น kilo
https://www.youtube.com/watch?v=tzhSkU2vC1c
1. นาที ที่ 7.58 เสียงเครื่องยนต์ ?
เรือดำน้ำของเยอรมัน U-31 (U212)
https://www.youtube.com/watch?v=J3H957UT0p0
1. นาที ที่ 1.25 เสียงเครื่องยนต์ ?
2. นาที ที่ 1.50 การออกแบบภายในตัวเรือ ดีกว่าชั้นซ่ง และ kilo หลายขุมครับ และ
3. ครัวฝรั่งครับ
เรื่องความสัมพันธ์ระหว่างประเทศนั้น ซับซ้อนครับ ลุงตู่ คงโดนกดดันแยะ
1. สื่อไต้หวันนั้น ออกข่าวมานานแล้ว (ลองหาใน google ดูนะครับ) ว่่าไทยคงจัดหาชั้นหยวน แน่ โดยที่คู่แข่ง คือ เกาหลีใต้
2. สื่อฝรั่งเอง ยังบอกว่า โครงการที่จีนเสนอให้ไทยนั้น คุ้มค่ามาก
3. ตอนนี้ โลกไม่ชอบจีน ดังนั้น ที่ไทยเลือก เรือ ด.ของ จีน จึงมีผู้ไม่เห็นด้วยเยอะ
4. หากถามว่า ไทยจะเอียงไปทางจีนมั๊ย เรื่องนี้ รมต.ต่างประเทศ หญิงของญี่ปุ่น เคยแสดงทรรศนะเอาไว้แล้ว ช่วงปลายรัฐบาลคุณยิ่งลักษณ์ ครับ (ลองถามอากู๋ ดูนะครับ)
ท่าน ทองวริต ผมใด้อ่านตั้งแต่ตอนที่ Saab มาเสนอเหมือนกันครับว่ามันเป็นA26. แต่พอท่าน ผบ. ทร ออกมาบอกว่าเสนอA19. ผมก็ชักไม่มั่นใจว่ามันยังไงกันแน่ คือจะให้ปักใจว่าท่าน ผบ.ทร.โกหกทั้งดุ้นนี่ก็อาจจะหนักไปหน่อยในความคิดผมน่ะครับ เมื่อผมไม่รู้จริงๆก็เลยแปะไว้ว่าเป็นแค่ข้อสงสัยน่ะครับ.
ส่วนท่าน toeytei จะค้านผมเรื่องไทยไม่มีศักยภาพในการเป็นตัวประสาน ผมคงไม่ไปเถียงท่านหรอกครับ ผมแค่เห็นว่าเมื่อมีความขัดแย้งในภูมิภาค จะเอาโต๊ะเจรจาวางที่ไหน เลือกผู้ประสานงานคือไครที่ไม่มีส่วนใด้เสีย ส่วนคุยสำเร็จหรือเปล่า/บรรเทาสถานการณ์ใด้แค่ไหนนั้นคงไม่มีทางบอกใด้ถ้าไม่ใด้ลอง ตอนนี้ที่เห็นมีแต่ทุกฝ่ายใส่เชื้อเพลิงในความขัดแย้งนี้ และผมว่าจีนต้องรักษาหน้าจากการที่สหรัฐเข้ามาจุ้นจ้านในเชิงหนุนหลังคู่กรณีเพื่อสมประโยชน์ ถ้ามีทางให้ลดความห้าวลงแบบไม่เสียเชิงก็อาจจะน่าสนใจ
ผมกลับไปอ่านคอมเมนท์2 อันข้างบนของผมแล้ว คิดว่าตอนท้ายอาจทำให้ท่านๆเข้าใจว่าผมเชียร์เรือจีน ย้ำอีกทีว่าผมอยากได้ A26 ครับ แต่ สภาพ รบ ทหารของเรา กับ ท่าทีของ สรอ ที่อยากให้เราอยู่ในโอวาททุกอย่าง มันทำให้เลือกยาก. ( นี่ผมยังเคืองไม่หายที่จะเปิด บช ธนาคาร ต้องกรอกแบบฟอร์ม สรอ.... อยู่ในโอวาทซะ.... )
ผมลองประมวลดูแล้ว คนที่ว่าดีลเรือดำน้ำจีนนี้มีกลิ่นเนี่ยแบ่งเป็นสองกลุ่ม.
กลุ่มที่คิดว่ามีผลประโยชน์ส่วนตัว. ถ้าเป็นอย่างนั้นจริง งั้นพรุ่งนี้เอาสเปคมากางเลือกกันเลย ประเด็นนี้ก็จบ (ถ้าสาธารณะชนสนับสนุนให้ซื้อเรือ. ด ).
ผมยังไม่ปักใจแบบนั้น เลยอยู่ในกลุ่มที่คิดว่ามันเป็นเรื่องทางการเมืองระหว่างประเทศ. คหสต คือในสภาวะที่ประเทศเรามี รบ ทหาร. แล้วถ้าคนใน รบ เค้าเห็นว่ายังปล่อยมือไม่ใด้ในเร็ววันนี้อาจต้องอยู่แบบคาๆอย่างนี้ไปอีกนาน เมื่อเป็นอย่างนี้การซื้ออาวุธก็คงต้องมองเผื่อไว้หลายๆด้านว่าถ้ายังไม่มี ปชต เต็มใบแล้วเราใกล้ชิดกับจีนมากๆในทุกด้าน(อย่างที่ทำมาตลอดในช่วงนี้) แล้วความขัดแย้งในภูมิภาคมันหนักหนาขึ้นเรื่อยๆ มันจะมีโอกาสถูกตีตราว่า ไม่น่าไว้วางใจอย่างยิ่ง แล้วถูกดองเค็มอย่างที่ผมว่าหรือไม่
ประเด็นมันไม่ใช่ว่าถ้าซื้อเรือสวีเดนแล้วจีนจะมาทำอะไรเราใด้ เพราะจีนก็ห้ามไม่ใด้อยู่แล้ว แต่มันคือตัดสินใจซื้อแล้วกว่าจะใด้รับมอบเรือ กว่าจะใด้อาวุธประจำเรือ ถึงตอนนั้นถ้าความขัดแย้งมันบานปลายไปแล้ว. ไทยจะเป็นกลางใด้จริงหรือ และ/หรือ โลกภายนอกจะมองว่าเราเป็นกลางหรือไม่ ตอนนี้พยายามจะกลางอย่างสุดติ่งยังโดนบีบจนเขียว เป็นกลางโดยที่ไม่มีศักยภาพในการผลิตอาวุธขึ้นมาป้องกันตนเองใด้มันยากจริงๆ
ผมชอบ และเชียร์ A26 ในประเด็นทางเทคนิคครับ. แต่ไม่รู้ว่าเหตุผลอื่นๆมันมีนำ้หนักมากกว่าด้านเทคนิคซักขนาดไหน
เงียบๆไปก่อน รอตอนที่มี รบ พลเรือนแล้วค่อยมาลุ้นกันใหม่ตามที่ท่านจูลว่าน่าจะตัดปัญหาเรื่องการเมืองระหว่างประเทศออกไปเยอะ
ป.ล. ขอบคุณข่าวที่แนบมาครับ ผมอ่านชิ้นอื่นผ่านๆมาเหมือนกัน ยอมรับว่าไม่ใด้จำว่า. ซาบไม่ขายเพราะพิจารณาว่ามีชิ้นส่วนอังกฤษเยอะ หรือ บชิ้นส่วนออกมาเบรคก่อน แต่มันก็แสดงว่าคนที่ขายอาวุธเค้าแบ่งพวกชัดเจน(หรือมีเพาเวอร์ที่จะยับยั้งผู้ซื้อที่เค้าคิดว่าไม่ใช่พวก) ไม่ใช่หรือครับ. กลางจริงๆนี่ผมนึกไม่ออกเลยว่าเจ้าใหน(พวกเรือรบ เรือดำน้ำ บ ขับไล่ รถถัง น่ะนะ)
ดีแล้วที่ อาเจนฯนี่รู้ๆไปเลยว่าเค้าไม่ขายให้ ถ้าตกลงขาย ใด้เครื่องมาแล้ว แต่ไม่ให้อาวุธนี่หง่าวเลย
แล้วที่ ตต + สรอ. Vs. จีน+รัสเซีย ตามที่เห็นอยู่ตอนนี้ มันกำลังกลับไปคล้ายยุคสงครามเย็นกลายๆซะแล้ว
ท่าน toeytei และหลายๆท่าน ถั่วต้มแล้วครับผม "ถ้าเครื่องประสิทธิภาพเท่ากัน" แรงขึ้นก็ต้องร้อน+ดังขึ้น ครับผม
การมีอุปกรณ์ในการรบก็ต้องมีองค์ประกอบที่ครบถ้วน เรือก็ต้องมีอาวุธที่ครบถ้วน
คำถามคือเรือรบผิวน้ำในภูมิภาคนี้ถ้าเจอ S26T อาวุธครบ(ASM, ตอร์ปิโด) กับ U209 U210 A26 หรือเจ้าอื่นที่มีแต่ตอร์ปีโด อะไรจะสร้างความยุ่งยากในการรบ และโอกาสชนะ มากกว่ากันครับ
โจทย์ ทร น่าจะชัดเจนครับว่าอะไรที่มีความคุ้มค่าและมีความครบถ้วนในทุกมิติ เพื่อการป้องกันประเทศครับ
ที่ผมเคยคอมเม้นไว้ว่า ให้เขาได้ทำงานของเขา เราเป็นประชาชนก็วิจารณ์ได้ครับแต่ควรอยู่ในวิถีอันควรครับ เหมือนเราถ้าเจอใครทำงานไม่ถูกใจท่าน ท่าน ๆ คงไม่ไปทำแทนเขา คงวิจารณ์และฟีดแบคไป ก็จบไป เพราะมันมีระบบตรวจสอบและการบังคับบัญชาอยู่ครับ
อีกอย่างน่ะครับ ผมว่าข้อมูลบางอย่างที่มากจนเกินไปมันก็ขาดความน่าสนใจและทำให้หลงประเด็นได้เหมือนกันครับ
ไปๆมา อาจได้ Amur class submarine เวอร์ชันสำหรับไทย ก่อได้ ทำเป็นเล่นไป แลกเป็ดแลกไก่ ฮิๆ
ตกลง ทร. กับ กลาโหม ก็ยังยืนยันว่า ต้องเรือดำน้ำจีน เท่านั้น...
ต้องใช้งบประมาณ 36,000 ล้านบาท เท่านั้น...
ก็พวกเขา คัดค้าน กันตรงนี้ ไงล่ะครับ...
ว่าทำไม ต้อง เรือดำน้ำจีน...
มันมีผลประโยชน์ อะไรกันเหรอ...
จะมอบ สัมปทานของประเทศไทย อะไรให้จีน หรือยังไง ?
ความจำเป็น ก็เห็นด้วย....
แต่เลื่อนออกไป ให้มีคนตรวจสอบได้...ให้สถานะการณ์ในประเทศ มันปกติ ก่อน...จะทำให้ประเทศชาติเสียหายอะไรหรือ ?
แต่ตอนนี้ ประชาชน ผู้ทำงานเสียภาษี...จะต้องเสี่ยง หรือ อาจจะเกิดความเสียหายแน่นอน...ถ้าปล่อยผ่านให้ โครงการเรือดำน้ำจีน ขอย้ำว่า เรือดำน้ำจีน ปล่อยผ่านไปอย่างง่ายดาย...
การดันทุรัง และ ยืนยัน กันขนาดนี้...ผมถึงบอกว่า ผมเชื่อว่า...มันเรื่องผลประโยชน์กันแน่...แต่มันเรื่องอะไรล่ะ ? มันคงต้องตรวจสอบกันต่อไป...แต่ผมไม่เคยเชื่อเลยสักนิด...ว่า เพื่อสมดุลย์ในเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ...ผมไม่เชื่อเลยสักนิด ?
https://www.youtube.com/watch?v=XG-J_3TExv0
clip นี้ของ CCTV จีนน่าจะสารคดีของเรือดำน้ำชั้น Type 033 Romeo หรือ Type 035 ที่ NATO กำหนดรหัสว่า Ming ครับ
ไม่ใช่เรือดำน้ำชั้น Type 039 ที่ NATO กำหนดรหัสว่า Song
โดยเรือดำน้ำชั้น Ming นั้นเป็นเรือรุ่นเก่าที่จีนกำลังทยอยปลดประจำการลงในอนาคต
ซึ่งก็มีบังคลาเทศที่จัดหาเรือชั้น Type 035G มือสอง ๒ลำตามที่เคยมีรายงานครับ
ผมอ่านความคิดของท่านสมาชิก3-4ท่านนี้ ขออนุญาติบอกยูส.ท่าน Sam Oversea ajauydf และท่านPed ดูว่ามีความอ่อนตัว มองภาพใหญ่ รายละเอียดน่าสนใจดี มีเหตุผลน่ารับฟังต่อผม ถึงแม้บางอย่างก็ไม่เห็นตรงกันบ้าง จะรอดูต่อไปครับ ส่วนสมาชิกท่านอื่นด้านวิชาการก็ชอบ แต่ยังไม่ขอเอ่ยยูส.ไม่รู้ใครข้อมูลถูกต้อง และก็เห็นด้วยกับสมาชิก2ท่านที่ให้ย้ายกลุ่มที่เสนอข้อมูลวิชาการที่มีเนื้อหายาว ไปที่เฉพาะ
ไม่เอาเรือจืน นั้นถูกต้มเลยครับ
ส่วนตัวผม ให้ตายก่อไม่เอาเรือจีนแน่นอน (ตายไปก่อบอกไม่ได้ วลีเด็ด เสียวโดนฉิบ 20 )
สงสัยต้องรวมตัวสร้างกระแส บริจาคเงินส่วนตัวเอง ซื้อให้ละ ฮิๆ
เชื่อว่า เดียวจะโดน เมกา ยุโรบ กดดัน เละแน่ ถ้าเอาเรือจีน มี โครงการรถไฟฟ้า คมนาคม ไม่พูดต่อละ
ผลประโยชน์ ภาพใหญ่มันไม่ลงตัวแน่นอน จะกลายเป็น ชักศึกเข้า บ้าน เสียแน่แท้ วันหน้า
เดียวเริ่มมีสื่อ ที่เห็นด้วยกับการซื้อ มาเลย ตามแปลน ไอหย่า ไปก่อนละ ( ถ้าล้มไม่ใช่จีนต้องยกความดีให้ พี่มาเข้านะ)
ต่อให้จัดมาเต็ม เรือดำน้ำจีน ก่อเข้าระบบที่มีอยู่ ลำบาก แล้วจะเชื่อมต่อ หาพระแสงอะไร มิทราบ ไปละเดียวโดนอุ้ม
จากคลิป https://www.youtube.com/watch?v=XG-J_3TExv0
เป็น Ming-class ได้แคปรูป จากในคลิป ตามรูปที่ 1
**เห็นคลิป นี้แชร์กัน แล้วบอกว่าเป็น Song-class ซึ่งไม่ใช่ครับ 2ตัวแตกต่างกันมากครับ
ming-class นี่ปลดแล้ว ใช้เพื่อฝึกนร. อย่างเดียว
ที่จริง ถ้าไม่มั่นใจก็ลองลงคลิปสอบถามก่อนได้ครับ จะได้ช่วยกันดูก่อน
คลิป 039g1
https://youtu.be/qAWuu1vPEOo?list=PLjk2TVk3pd9ZhHin39Ovmgxizm99_u8h_
รูปที่ 2,3,4 ของ 039g1
คุณpotmon ยังจะมาสรุปมั่วๆอีกหรือ ถ้าสรุปแบบนั้นได้ ก็ต้องตอบคำถามที่ถามได้ซิครับ
(**ใครบอกเท่ากัน เหนือกว่าตั้งหาก)
** หา Hz จากรูปเจอยัง จากคำกล่าของคุณ
////ดูอย่าง ภาพ และคำอธิบาย vibration(การสั่น) ดูเอานะครับ หน่วยของเค้าเป็นหน่วยเป็นอะไร ในความเป็นจริง vibrations of machines (การสั่นทางกล) มีหน่วยวัดเป็น รอบต่อวินาที หรือ เฮิร์ตซ์ (Hz) ครับ ผมแนะนำนะครับ ก่อนจะเชื่ออะไรในข้อมูลของ ท่าน hongse_c ต้องตรวจสอบโดยระเอียดมากๆครับ////
แล้วแบบนี้หมายความว่ายังไง...ถ้าเป็นสุภาพชน ควรขอโทษ ถ้ากล่าวหาคนอื่นแบบนี้
**แต่ไม่เป็นไรครับ ผมไม่ซีเรียส
ผมว่าเรื่องแบบเรือคงเปลี่ยนแปลงยากแล้วล่ะครับ ผมอยากขออนุญาตเพื่อนสมาชิกที่ไม่ชอบเรือจีนว่า ให้คิดซะแบบนี้ดีมั้ยครับว่า มันจำเป็นต้องมีม้างานเอาไว้ใช้ก่อน เอามาใช้งานเพราะมันไม่มีไม่ได้แล้ว เราต้องเอาม้างานมาก่อนโดยเร็ว เอามาฝึกขับขี่ ฝึกใช้งานกับระบบที่เกี่ยวข้องทั้งหมดของ เรือ ส. กันไปก่อน แล้วโอกาสหน้า เมื่อเราเก่งขึ้นก็จะซื้อม้าศึก แบบดีๆ ที่เราชอบๆ อีกครั้งหนึ่งก็ได้ ผมว่าคงไม่มีใครขัดข้องแล้วล่ะตอนนั้น แต่ตอนนี้อย่างน้อยก็จะได้เอามาฝึกปราบเรือ ส. และเอามาฝึกร่วมกับ 911ได้ด้วย ส่วน 911 ก็จะได้ออกไปไหนมาไหนได้บ้าง ไม่ใช่จะไปไหนก็เสียวสันหลังแบบนี้ เพราะรอบบ้านมีแต่เรือ ส. ผมว่าการเลือกเรือจีนครั้งนี้ ไม่น่าจะมีนอกมีในอะไรนะครับ เพราะความคุ้มค่าของดีลเรือจีนมันชัดเจนมากครับ ส่วนตัวผมขอสนับสนุนกลาโหม และ ทร. เดินหน้า ครับ ได้ไม่ได้ก็อีกเรื่องครับท่าน :)
เห็นด้วยกับท่าน Oversea นะขอสนับสนุนอีก1เสียง แต่ผมมองยังไงก็เป็นม้าศึกนะครับ หึหึๆ
ผมมองยังไงก็ไม่คุ้มอะ นอกจากว่าวัดกันที่อย่างเดียว
ในเชิงยุทธศาสตร์แล้วผมไม่แคร์เลยว่า 911 จะออกท่าได้หรือไม่ เพราะไม่เห็นว่าด้วยสภาพเรือและกำลังรบของทร.ตอนนี้ออกไปแล้วได้อะไร เหมือนเป็นเรือธงเท่ๆ กลายเป็น high value asset ให้ต้องมาพะวงหน้าพะวงหลัง เรือลำใหญ่ ตรวจจับง่าย อำนาจการยิงต่ำ (เกือบไม่มี) ความสามารถในการป้องกันตัวต่ำ ค่าใช้จ่ายในการปฏิบัติการก็แพง
ถ้าจะบอกเป็นเรือบัญชาการก็ไม่ถึงกับจำเป็น เพราะไหนๆก็มีระบบสื่อสารดาวเทียมอยู่แล้วเชื่อมเป็นเน็ทเวิร์คอยู่แล้ว
ถ้าเป็นเรือปราบเรือดำน้ำ ผมว่ามีเรือฟริเกตปราบเรือดำน้ำดีกว่าอีก มีทุกอย่างที่ 911มี (อาจะมีฮ.น้อยหน่อยต่อฟก.หนึ่งลำ) แถมด้วยโซนาร์ลากท้าย ตอร์ปิโดจากเรือ asroc และป้องกันตัวเองได้ ไม่ต้องหาเรือมาคุ้มกันเพิ่มอีก
ถ้าฝั่งผู้มีอำนาจมองว่าด.มีความจำเป็นจริง (ส่วนเพื่อนๆสมาชิกส่วนใหญ่ก็มองอยู่แล้ว) ยังไงก็ต้องจัดหามาให้ได้แหละครับต่อให้ดีลเรือจีนตกไป
ถ้าจะเอามาฝึก เรือเยอรมัน U206 เมื่อ 4-5 ปีก่อนไม่ดีกว่าหรือครับ งบต่างกันเยอะ
ยังดีกว่าและเชื่อใจได้กว่าเรือจากจีนครับ
ยังไงก็ขอให้ได้ก่อนแล้วกัน จะรอให้อ่าวไทยถูกข้าศึกปิดแล้วค่อยจัดหามันคงไม่ได้อีก หวังว่าครม.จะอนุมัติ
มีประเด็นสงสัยที่ว่าขนาดเรือดำน้ำขนาดไหนที่เหมาะกับอ่าวไทย 1,000 หรือ 2,000 หรือ3,000 ตัน ผมเลยนึกภาพเทียบกับเรือผิวน้ำ เช่น เรือกระบี่ 1,800 ตัน ดูๆก็ไม่ได้ใหญ่อะไรมากนัก ถ้าเรือดำน้ำที่มีมิติเท่าๆกันดำลงน้ำก็น่าจะดำได้ ปฏิบัติการได้ แล้วถ้าเทียบมิติระหว่างเรือดำน้ำจีนขนาด 2,600 ตัน ก็ไม่น่าจะติดปัญหามากมาอะไรเพราะความสูงของเรือดำน้ำขนาด 1,000 ตันกับ 2,600 ตัน ต่างกันไม่น่าเกิน 1-2 เมตร ก็ไม่น่าจะมีปัญหาเรื่องความลึกมากมายนัก
ส่วนเรื่องประสิทธิภาพเรือดำน้ำจีน ผมว่ายังไงด้วยเทคโนโลยีปัจจุบันที่ดีกว่าสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 แน่นอน จึงไม่น่าจะมีปัญหาเรื่องความปลอดภัยขณะดำ หากเรือดำน้ำได้รับการดูแลดีพอสมควรในภาวะปกติ (แค่อาจต้องดูแลมากกว่าเรือจากฝั่งตะวันตกเท่านั้นเอง)
ส่วนเรื่อง link กับกองเรือผิวน้ำ ผมคิดว่า ค่อยมาติดตั้งเพิ่มในไทยก็คงจะพอทำได้ และ ทร. คงจะคิดและติดต่อกับทั้งจีนและทางสวีเดนไปบ้างแล้วไม่มากก็น้อย (ปกติคนทำโครงการต้องคิด 360 องศา อยู่แล้ว)
ส่วนเรื่องความสัมพันธ์กับสหรัฐ ผมว่าเราอธิบายได้ แค่ไทยประกาศยืนยันว่า ไทยเป็นประเทศเป็นกลางไม่ฝักใฝ่ฝ่ายใด เป็นมิตรกับสหรัฐเหมือนเดิม และเป็นมิตรกับทุกประเทศ และ ไทยแค่กระจายการซื้ออาวุธ มีทั้ง สหรัฐ จีน สวีเดน รัสเซีย อังกฤษ อดีตก็เป็นอย่างนี้ แค่อธิบายและแสดงออกให้เค้าเข้าใจก็น่าจะเพียงพอ เช่น อาจมีการติดต่อปรับปรุง F16A/B เพิ่ม หรือ ซื้อ AV-8 B plus มือสองจากสหรัฐ 8 เครื่อง หรือ M1A1 มือสอง ประมาณนั้น ครับ
สรุป ซื้อมาเถอะครับ
กระทู้นี้คุยสนุกมากแต่ไม่รู้จะแจมตรงไหนดีเพราะวิชาการล้วนๆ ผมยังรอ.วิชาลืมเธออยู่เลย ฮิ้ววว....
กองทัพเรือเตรียมเดินหน้าสร้างการรับรู้ โครงการจัดซื้อเรือดำชั้นหยวนน้ำจีนต่อสาธารณชน โดยชี้ให้เห็นถึงเหตุผลความจำเป็นทางยุทธศาสตร์การรบแบบ 3 มิติ และเปรียบเทียบความคุ้มค่าในการดูแลผลประโยชน์ของชาติทางทะเลฝั่งอ่าวไทยและอันดามันมูลค่ากว่า 24 ล้านล้านบาทต่อปี
กองทัพเรือเตรียมเดินหน้าสร้างการรับรู้ โครงการจัดซื้อเรือดำชั้นหยวนน้ำจีนต่อสาธารณชน โดยชี้ให้เห็นถึงเหตุผลความจำเป็นทางยุทธศาสตร์การรบแบบ 3 มิติ และเปรียบเทียบความคุ้มค่าในการดูแลผลประโยชน์ของชาติทางทะเลฝั่งอ่าวไทยและอันดามันมูลค่ากว่า 24 ล้านล้านบาทต่อปี
ความพยายามครั้งใหม่ของกองทัพเรือในการจัดหาเรือดำน้ำชั้นหยวนจากจีนมูลค่า 36,000 ล้านบาท รองรับยุทธศาสตร์การรบแบบ 3 มิติ และการดูแลผลประโยชน์ของชาติทางทะเลต้องชะลอออกไป หลังจาก พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมให้กองทัพเรือสร้างการรับรู้ต่อสาธารณชนเพิ่มเติม เพื่อให้เห็นความคุ้มค่าแท้จริง ก่อนพิจารณานำเข้าสู่คณะรัฐมนตรี
พล.ร.อ.ไกรสร จันทร์สุวานิชย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ ได้มอบหมายให้ พล.ร.อ.ณรงค์พล ณ บางช้างผู้ช่วยผู้บัญชาการทหารเรือและเป็นประธานโครงการจัดซื้อเรือดำน้ำทำเอกสารชี้แจง แต่ไม่ได้เร่งรัดเวลา กรอบการดำเนินงานจะเน้นชี้ให้สาธาณชนเห็นถึงความเหมาะสมและคุ้มค่าและขอให้ทุกฝ่ายไว้วางใจว่า กองทัพเรือได้เลือกสิ่งที่ดีที่สุด แม้สุดท้ายจะผ่านความเห็นชอบของคณะรัฐมนตรีหรือไม่
ประเด็นสำคัญในการชี้แจงจะเปรียบเทียบข้อมูลความคุ้มค่าในการจัดซื้อเรือดำน้ำจีน 3 ลำ มูลค่า 36,000 ล้านบาท กับการดูแลผลประโยชน์ทางทะเลทั้งฝั่งอ่าวไทยและอันดามัน ที่กองทัพเรือได้ศึกษาแล้วว่า มีมูลค่ากว่า 24 ล้านล้านบาทต่อปี ขณะที่เรือดำน้ำมีอายุการใช้งานนานถึง 35 ปี โดยการจัดซื้อจะจัดสรรจากงบประมาณประจำปีของกองทัพเรือ ซึ่งแต่ละปีกองทัพเรือจะได้งบประมาณ 40,000 ล้านบาท และใช้ในการพัฒนากำลังรบร้อยละ 7-10 หรือประมาณ 3,000 ล้านบาท อยู่แล้ว ดังนั้นหากได้รับการอนุมัติจะเป็นการผ่อนชำระ 7 - 10 ปี โดยไม่ได้ของบประมาณส่วนกลางเพิ่ม
นอกจากนี้กองทัพเรือจะชี้แจงถึงความโปร่งใสในการกระบวนการจัดซื้อเรือดำน้ำ โดยมีคณะกรรมการ 17 คน และเป็นนายทหารที่จะต้องผู้ปฏิบัติงานจริงในเรือดำน้ำ ที่หมายถึงต้องเสี่ยงอันตรายและใช้ชีวิตอยู่ใต้ทะเลลึก ในภารกิจของเรือดำน้ำ
ขณะเดียวกันกองทัพเรือจะย้ำคำตอบเดิมในการเลือกซื้อเรือดำน้ำชั้นหยวนจากจีน ที่ผ่านขั้นตอนการประกวดราคาแล้วทั้งหมด และเชื่อมั่นว่าเรือดำน้ำชั้นหยวนเป็นเรือที่ดีโดยกองทัพเรือได้ศึกษาข้อมูลการพัฒนาเรือดำน้ำชั้นหยวน นับตั้งแต่จุดเริ่มต้นการศึกษาวิจัยเทคโนโลยีเรือดำน้ำชั้นกิโลของรัสเซีย กว่า 10 ปี ก่อนจะใช้เวลาพัฒนาและผลิตเรือดำน้ำชั้นหยวนลำแรกขึ้นได้เอง พร้อมติดตั้งระบบ เอพีไอ.ของ สวีเดน ที่ทำให้ปฏิบัติภารกิจใต้น้ำได้นาน 21 วัน และเป็นข้อได้เปรียบของเรือดำน้ำชั้นหยวน
รวมทั้งจะชี้แจงข้อสงสัยในประเด็นต่าง ๆ รวมทั้งยืนยันว่าภูมิศาสตร์ทะเลอ่าวไทยไม่ได้ตื้นเกินไปที่เรือดำน้ำจะใช้งานได้ โดยได้ศึกษาเปรียบเทียบกับทะเลบอลติก ในสวีเดนที่มีระดับความลึกใกล้เคียงกับทะเลอ่าวไทยและในการปฏิบัติจริง เรือดำน้ำจะเป็นเขี้่ยวเล็บที่ลาดตระเวนออกไปนอกน่านน้ำและไม่เปิดเผยตัวยากต่อการตรวจจับด้วยอากาศยาน หรือ เรือผิวน้ำ
พล.ร.อ.ไกรสร ระบุว่า หากกองทัพเรือยังไม่มีเรือดำน้ำ สำหรับยุทธศาสตร์การรบแบบ 3 มิติ ทั้งบนอากาศ ผิวน้ำและใต้น้ำ ก็เปรียบเหมือนข้อสอบ 3 ข้อ ที่ทำได้เพียง 2 ข้อ และในอนาคตจะเข้าสู่ความยากลำบากได้ ทั้งการพัฒนากำลังรบที่ไม่ครบรอบด้านและราคาเรือดำน้ำที่จะสูงขึ้นอีก ซึ่งปัจจุบันกำลังพลกองทัพเรือมีโอกาสได้ฝึกกับเรือดำน้ำของมิตรประเทศ เพียง1-2 ปี ต่อครั้งและคงไม่สามารถฝึกกับเรือดำน้ำประเทศเพื่อนบ้านได้ เพราะถือเป็นอาวุธที่มีชั้นความลับสูง
การผลักดันโครงการจัดหาเรือดำน้ำ ตามแผนพัฒนาของกองทัพเรือ ยาวนานมาเกือบ 20 ปี และผ่านผู้บัญชาการทหารเรือมาหลายยุคหลายสมัย จนมาถึงโครงการจัดหาเรือดำน้ำชั้นหยวนจากจีนและคำตอบคงไม่ได้อยู่ที่คณะรัฐมนตรีจะเห็นชอบด้วยหรือไม่เท่านั้น แต่ยังหมายถึงการสร้างความเข้าใจและการรับรู้ของประชาชน เนื่องจากที่ผ่านมาการจัดซื้อเรือดำน้ำ มักจะถูกมองว่า เป็นอาวุธยุทโธปกรณ์ที่ใช้งบประมาณสูงและอาจจะเป็นเทคโนโลยีที่ไกลตัวสำหรับสังคมไทยที่ไม่มีเรือดำน้ำประจำการมากว่า 60 ปี
ทักท่าน Superboy ก่อน กำลังคิดถึงอยู่...พอดีเพิ่งไปเสิร์จเจอกระทู้เก่าที่เปรียบเทียบ AMUR1650 กับ U214. รู้สึกจะเป็นการเปรียบเทียบตอนที่อินเดียจะจ้ดหา ด เมื่อ หลายปีที่แล้ว... อ่านเพลินเลย...
ตั้งแต่มีกระทู้เกี่ยวกับเรือดำน้ำมา เห็นมีการพูดถึง ขนาด/สมรรถนะของเรือ และ ระบบอาวุธเป็นหลัก... ไม่เห็นคุยเรื่องเกี่ยวกับการสื่อสาร ระหว่างเรือดำน้ำ-ฐาน และ เรือดำน้ำ - เรือดำน้ำ
มี่ท่านใดทราบบ้างมั๊ยครับว่าเรือดำน้ำสมัยใหม่นี้สื่อสารกันอย่างไร ?
อย่างสิงคโปร์ มี ด 6 ลำ ติดต่อกับฐานอย่างไร ถ้าใช้ ELF/VLF สิงคโปร์มีสถานีของตัวเองหรือ ? หรือใช้ บุย+แซทคอม แล้วใช้ไทยคม หรือ ดาวเทียมทหาร / ของใคร
อย่างเวียตนามเหมือนกัน คำถามเดียวกัน แถมตรงที่ว่า ถ้าเป็นดาวเทียมทหาร เวียตนามจะกล้าใช้ดาวเทียมของ สรอ หรือ ? หรือไปใช้ของรัสเซีย
ถ้าใช้ดาวเทียมพาณิชย์ ระบบความปลอดภัย และ coding มันจะ OK หรือ?
อืมมม... ถามมาถึงตรงนี้แล้วทำให้นึกถึงกริปเพน data link เห็นใน Diagram เหมือนมีดาวเทียมมาเกี่ยวข้องด้วย แล้วเราใช้ของใครเอ่ย...
ไงล่ะ....
ตกลง ยืนยัน นอนยัน ว่า...ต้องการ เรือดำน้ำจีน...เท่านั้น...ไม่มีตัวเลือกอื่น ๆ อีกต่อไป...
ต้องเอาให้ได้ใน สมัยนี้ เท่านั้น...
ต้องงบประมาณ 36,000 ล้านบาท เท่านั้น...
ถ้าไม่ได้ เรือดำน้ำ ตอนนี้...ประเทศไทย...เรือหาย...แน่ ๆ...
นี่แหล่ะครับ...ที่เขาเรียกว่า...ผลประโยชน์...ไม่ได้มีเอี่ยวของ การสร้างดุลย์กับ สหรัฐ แต่อย่างใด ๆ เลย...
โครงการนี้ 10 ปี กว่าจะจบ...เพื่องบประมาณ 36,000 ล้านบาท เพื่อต้องการจ่ายเงินก้อนนี้ ให้ ประเทศจีน เท่านั้น...
ถ้าโครงการมันโปร่งใสจริง ๆ....
เลือก เรือดำน้ำ ที่มีความจำเป็นและตรงความต้องการ คุ้มค่า แบบ ไม่มีใครสงสัย ในงบประมาณ 17,000 - 20,000 ล้านบาท ตอนนี้ แล้วได้ เรือดำน้ำจำนวน 2 ลำ ก่อน ภายในระยะเวลา 5 - 6 ปี...
แล้วจัดหา โครงการระยะ 2 อีก จำนวน 2 ลำ ในอีก 5 - 6 ปีข้างหน้า รวมระยะเวลาก็ประมาณ 10 ปี เช่นกัน ในวงบประมาณที่ใกล้เคียงกัน หรือ มากกว่า...วงเงินงบประมาณ ก็จะอยู่ในวงเงิน 36,000 - 40,000 ล้านบาท เช่นกัน...
ก็จะได้เรือดำน้ำ จำนวน 4 ลำ ที่มีความคุ้มค่า และตรงความต้องการ มากกว่า...เพราะจะได้เรือดำน้ำ ถึง 4 ลำ...รวมถึง ระบบต่าง ๆ ก็สามารถใช้งานร่วมกับ กองเรือในปัจจุบัน ได้ดีกว่า...
เรือ S-26T ประเมินว่า ความกว้างของเรือ ไม่ต่ำกว่า 8 เมตร ขณะที่ชาวบ้านเขาอยู่ประมาณ 5.5 - 6 เมตร....
ความยาวของ S-26T ความยาวจะประมาณ 73 เมตร (คงไม่ใช่ 66 เมตร แน่นอน เพราะความยาวนี้ คือ S-20 เมื่อระวางเรือเพิ่ม ความยาวเรือหรือความกว้างเรือน่าจะเพิ่มขึ้น เพราะต้องใส่ AIP เติมเข้าไป...ซึ่งความยาวเรือขนาด 73 เมตร จะใกล้เคียงกับ 039B ที่ระวางขับน้ำใกล้เคียงกัน)...ส่วนชาวบ้าน เขายาวไม่เกิน 61 เมตร...
ความสูงรวมความสูงของเสาอากาศ น่าจะประมาณ 15.5 - 16 เมตร...ในขณะที่ชาวบ้านเขาสูงประมาณ 11 - 12 เมตร
ระวางเรือมากกว่าชาวบ้านเขา เกือบ 1,000 ตัน...ซึ่ง น่าจะหมายถึง ความสิ้นเปลืองเชื้อเพลิง มากกว่า ชาวบ้าน เขา ในช่วงระยะเวลาประจำการ...
ที่แน่ ๆ ในระดับความลึก 20 - 30 เมตร S-26T คงไม่เหมาะกับการดำ...คงจะแล่นเรือแบบเปิดเผยตัวจาก ฐานทัพเรือสัตหีบ ให้การข่าวของฝ่ายตรงข้าม ได้รับรู้กันทั่วไป...5 5 5 5 5
ถึง ท่าน maxim69 ,SeriesVll
ไม่เป็นไรครับ ท่าน maxim69 ท่านแนะนำได้ถูกแล้วอะครับ ผมมาย้อนๆอ่านดูดีๆ ก็ยังงงเหมือนกันครับ ว่ามันน่าจะมีวิธีที่ อธิบายได้ดีกว่านี้อะครับ ไว้มีโอกาศคงได้แก้มืออะครับผม
รวบรวมข้อมูล เปรียบเทียบ มาให้ครับ โดย S-20 กับ S-26T เป็นความเห็นส่วนตัว
จากข้อมูล ให้ลองหา Combat Management System แบบ MSI-90U MK2 ว่าเป็นอย่างไร ?
แล้วของจีน คือ อะไร ?
ประเทศ อินโดนีเซีย ได้ใช้ CMS รุ่น MSI-90U MK2 สำหรับ เรือดำน้ำลำใหม่ ทั้ง 3 ลำ...
และมีการปรับปรุงใช้ สำหรับเรือดำน้ำ ลำเก่า จำนวน 1 ลำ...(คงเพื่อฝึก และประจำการปกติ รวมของใหม่อีก 3 ลำ ก็จะมี 4 ลำ ที่มีระบบแบบเดียวกันหมด)
ส่วน ตอร์ปิโด ประเทศจีน มีรุ่นส่งออกเพียง ET-32 เท่านั้น...ส่วนรุ่นส่งออกแบบอื่น ๆ ก็น่าจะมี ET-34 กับ ET-36 ซึ่งก็ยังไม่เห็นว่าจะมีการผลิตเพื่อขาย...รุ่นส่งออก ใช้รหัส ET น่าจะหมายถึง Export Torpedo...
ส่วน Type-210Mod ที่น่าสนใจก็คือ ขนาดเรือ ที่เหมาะสมกับ สภาพในอ่าวไทย และเป็น เรือดำน้ำ ที่มีเทคโนโลยี่เปิด รองรับกับ ระบบการรบของเรือดำน้ำ สมัยใหม่...ที่แน่ ๆ ก็คือ ระบบข้อมูลข่าวสาร..ที่ระบบ CMS เขามีระบบรองรับอยู่แล้ว ด้วยที่ MSI-90U เขามีใช้กันทั่วโลก...ส่วน AIP จะสำคัญขนาดไหนนั้น...ก็ลองดู ประเทศเพื่อนบ้านรอบ ๆ กัน ว่าคงมี ประเทศ สิงคโปร์ ประเทศเดียว ที่มีใช้ เพราะน่านน้ำประเทศตัวเอง มันนิดเดียว มันต้องออกไปไกล ๆ ทะเลสากลโน่น...
แล้ว ประเทศเพื่อนบ้านรอบ ๆ นี้ ที่มีเรือดำน้ำ กัน...เขาก็เริ่มจาก เรือดำน้ำดีเซล ที่เดินเครื่องปกติ...ไม่เคยมีใคร ให้ความสำคัญ AIP เป็นอันดับหนึ่ง...เพียงแต่ว่า...ถ้ามันมี มันก็ดี...แต่ถ้า มันไม่มี...มันก็ไม่ใช่เรื่องที่ว่า เรือดำน้ำ ลดทอน ความน่ากลัวแต่อย่างใดเลย...
ความน่ากลัวของเรือดำน้ำ มันอยู่ที่ว่า ตอร์ปิโด ยิงแล้วไม่พลาด...ตอร์ปิโด มีความฉลาดพอ ที่จะไปถึงเป้าหมายได้...โดย เรือดำน้ำ สามารถจะหลบ หรือ หลีกหนี ออกจากพื้นที่ปล่อยอาวุธสังหาร ได้อย่างคล่องตัว...และมี ระบบอาวุธ ป้องกันตนเองเพียงพอ เช่น เป้าลวงต่าง ๆ (Type-210Mod น่าจะมีจุดเด่นตรงนี้)...
ไม่ใช่ว่า เรือดำน้ำ ดำนาน แล้วฝ่ายตรงข้ามจะกลัว...แต่ ฝ่ายตรงข้ามจะกลัวว่า...ตอร์ปิโด ความแม่นยำขนาดไหน มากกว่า...เพราะ ฝ่ายตรงข้าม เขาต้องใช้ อากาศยาน และ เรือผิวน้ำ วิ่งควานหาอยู่แล้ว...ถ้า ดำนาน อยู่ในบริเวณที่ตรวจจับยาก ก็แล้วไป...แต่ถ้า มัวดำนาน ไปอยู่ในบริเวณที่ ตรวจจับได้ง่าย...ก็เท่ากับว่า ดำ รอมันจับได้ นั่นแหล่ะ...
ตามที่เคยบอกไว้ว่า ความเร็วของระบบ AIP มันเพียง 3 - 5 นอต เท่านั้น ความเร็วไม่พอหนีหรอก...ในความเห็นผม มันเหมาะสมกับการ ลาดตระเวณ ไปเรื่อย ๆ โดยไม่เปิดเผยตัวเท่านั้น...แต่มันคงไม่สามารถสร้างความได้เปรียบในสถานะการณ์เผชิญหน้า เท่าไหร่...
ในสถานะการณ์เผชิญหน้า ก็คือ ในระยะหวังผลของ ตอร์ปิโด...แต่ถ้าคุณอยู่นอกน่านน้ำของตัวเอง...มิสโซด์ แทบไม่มีประโยชน์...เพราะ ไม่มีใคร ชี้เป้า ให้คุณหรอก...สุดท้าย คุณก็ต้องไปพิสูจน์เป้าหมาย ด้วยระยะของ กล้องเรือดำน้ำ อยู่ดี...
แล้วที่บอกว่า แบบของประเทศอื่น ได้ 2 ลำ นี่...ก็ไม่ได้บอกว่า 2 ลำ ใช้งบประมาณเท่าไหร่ ?
ประเทศอื่น เรือดำน้ำ จำนวน 2 ลำ อาจจะใช้งบประมาณ 25,000 ล้านบาท แต่ถ้า 3 ลำ จะใช้งบประมาณมากกว่า 36,000 ล้านบาท...แล้ว ทำไม ไม่เอา 2 ลำ ที่ใช้งบประมาณต่ำกว่า แต่ตรงกับความต้องการ เข้ากับระบบรบร่วมได้ง่ายกว่า มีความน่าเชื่อถือมากกว่า ?
ส่วนที่บอกว่า เรือดำน้ำ ดำได้นาน 21 วัน…นั่น หมายถึง อะไร ?
หมายถึง แบบที่ 1 ดำด้วย ระบบ AIP อย่างเดียว 21 วัน....รวมกับ ดำน้ำจาก แบตเตอรี่ปกติอีก 7 วัน แล้วได้ 28 วัน...
หรือ
หมายถึง แบบที่ 2 ดำด้วยระบบ AIP อย่างเดียว 14 วัน....รวมกับ ดำน้ำจาก แบตเตอรี่ปกติอีก 7 วัน รวมแล้วได้ 21 วัน ?
ถ้าเป็นแบบที่ 2 ก็คงไม่ต้องออกข่าวให้ดูดีก็ได้ครับ....เพราะ มันก็ได้มาตรฐาน เหมือนระบบ AIP ของ ชาวบ้าน เขานั่นแหล่ะ....ประเทศที่เราจะให้เขาเกรงใจ...เขาจะ อมยิ้ม เอา....
ตั้งกระทู้ใหม่ให้แล้วนะครับ
ขอปิดกระทู้นี้ครับ/Admin