หน้าแรก    ตั้งกระทู้ใหม่   ตอบคำถาม    เข้าสู่ระบบ      


จรวดหลวยลำกล้อง เขมร

โดยคุณ : sandeena เมื่อวันที่ : 12/11/2009 11:00:46

ผมเคยเห็น เขมร มี จรวดหลวยลำกล้อง (น่ากลัวนะ) ไทยมีหรือป่าว ครับ แล้วเราจะสามารถรับมือกับจรวดหลายลำกล้องได้หรือป่าวครับ





ความคิดเห็นที่ 1


ขอ อนุญาต เพิ่มคำถาม

1 จรวดที่ว่านี้ เป้าหมายคืออะไร เช่น เป้าหมายคือ เครื่องบินในกากาศ หรือ เป้าหมายคือกองกำลังภาคพื้นดิน ที่กำบัง/ยานยนต์ หรืออะไรแน่ครับ

 

2. มันยังยิงออกได้ใช้ไหมครับ

 

3 มันยิงได้ไกลสุดเท่าไหรครับ

 

โดยคุณ viper เมื่อวันที่ 10/11/2009 00:58:05


ความคิดเห็นที่ 2


เข้ามาดูเพราะคำว่า "หลวย"

โดยคุณ nok เมื่อวันที่ 10/11/2009 01:52:39


ความคิดเห็นที่ 3


จรวดหลายลำกล้อง122 ม.ม.แบบBM21 เก่าสุดๆแต่ก็น่ากลัว

 

 


โดยคุณ sandeena เมื่อวันที่ 10/11/2009 02:08:19


ความคิดเห็นที่ 4


จรวดหลายลำกล้องของเรามีประจำการติดตั้งอยู่บนรถสายพานลำเลียงแบบ type85 เป็นจรวดหลายลำกล้องขนาด 130 มม.ผลิตในจีน รวมทั้งมีข่าวว่ากองทัพบกมีการจัดหาจรวดแบบ WS-1B จากจีนขนาด 302 มม.ระยะไกลสุดประมาณ 180 กิโลเมตร  จำนวน 9 ระบบ และมีโครงการ จรวดเพื่อความั่นคง โดยร่วมมือกับจีนวิจัยพัฒนาผลิตจรวดขึ้นเองภายในประเทศ โดยแบ่งเป็น สามเฟส เฟสแรกก็มี วิจัยพัฒนาจรวดหลายลำกล้องขนาด 160 มม. ระยะยิงประมาณ 40 กิโลเมตร อีกโครงการคือ วิจัยพัฒนาจรวดหลายลำกล้องระยะยิง 60 กิโลเมตร และโครงการสุดท้ายเป็นจรวดนำวิถีระยะยิงประมาณ 180- 300 กิโลเมตร ส่วนรูปแบบข่าวครามเป็นอย่างไรนั้น ไม่ค่อยจะมีข่าวออกมามากนักครับ

ปกติภารกิจของจรวดหลายลำกล้องจะใช้สำหรับการโจมตีเป้าหมายภาคพื้นในวงกว้าง

ของกัมพูชาเป็นจรวดหลายลำกล้อง 122 มม.แบบ BM21 ผลิตโดยรัชเซีย ถ้ารุ่นเก่ามีระยะยิงไกลประมาณ 20 กิโลเมตร แต่ถ้าเป็นรุ่นปรับปรุงจะมีระยะยิงถึง 40 กิโลเมตร

ส่วนเรื่องที่ว่าจะเก่าจะใหม่ ยิงได้หรือเปล่ามันยืนยันไม่ได้ แต่ถ้าเห็นว่ามันมีก็หนาวๆร้อนๆได้เหมือนกันครับ

โดยคุณ เด็กทะเล เมื่อวันที่ 10/11/2009 07:07:59


ความคิดเห็นที่ 5


ของเรา 130มมส่วนของเขมร 122 มม ก็มีเหมือนกันแล้วเราก็ใหญ่กว่าด้วยจะไปกลัวเขมรทำไมหรือว่าของเรา 130มม แต่ตัวจรวดสั้นกว่าระยะยิงสู้ไม่ได้.....

โดยคุณ mint เมื่อวันที่ 10/11/2009 10:19:14


ความคิดเห็นที่ 6


อยากทราบว่า ปกติจรวดหลายลำกล้องกับปืนใหญ่อันไหนมีความแม่นยำมากกว่ากันครับ และอำนาจการทำลายนี่อันไหนเยอะกว่าครับ
โดยคุณ sam เมื่อวันที่ 10/11/2009 20:31:59


ความคิดเห็นที่ 7


หากตกอยู่ในการถล่มของจรวดหลายลำกล้องมันคืนรกดีๆ แหละครับ

1 แท่นยิงมี 30 ลำกล้อง เวลาตั้งฐานยิงจะมีประมาณ 5 แท่นเป็นอย่างน้อย ( เขมรมีประมาณ 200 ชุด ) จะน่ากลัวมาก

ของเรามีบนรถสายพารลำเลียง TYPE 85 ระยะยิง ~ 10 กม. ครับ

โดยคุณ Soldier เมื่อวันที่ 11/11/2009 02:31:09


ความคิดเห็นที่ 8


 

ผมเคยเห็น เขมร มี จรวดหลวยลำกล้อง (น่ากลัวนะ) ไทยมีหรือป่าว ครับ แล้วเราจะสามารถรับมือกับจรวดหลายลำกล้องได้หรือป่าวครับ

โดยคุณ : sandeena

ตอบ ตามที่ท่านเด็กทะเล  ว่านั้นละครับ ของเรามีจรวดหลายลำกล้องติดบนรถสายพานไทพ์85จากจีน ขนาด130มม. แต่ด้วยความที่ลำกล้องมันสั้นกว่าแกรดที่กัมพูชามี เลยมีระยะยิงไกล10กิโลเมตร เจ้าตัวนี้กองทัพจีนเคยใช้ในยุคสงครามสั่งสอนเวียดนามด้วยครับ

ขอ อนุญาต เพิ่มคำถาม

1 จรวดที่ว่านี้ เป้าหมายคืออะไร เช่น เป้าหมายคือ เครื่องบินในกากาศ หรือ เป้าหมายคือกองกำลังภาคพื้นดิน ที่กำบัง/ยานยนต์ หรืออะไรแน่ครับ
2. มันยังยิงออกได้ใช้ไหมครับ
3 มันยิงได้ไกลสุดเท่าไหรครับ

โดยคุณ : viper  

ตอบ 1.จรวดหลายลำกล้องออกแบบมาเพื่อยิงทำลายเป้าหมายภาคพื้นดินเท่านั้นครับ เป้าหมายมักจะเป็นพื้นที่ปริมาณกว้างครับ เช่นแนวป้องกัน หรือตัวเมือง เพราะจรวดหลายลำกล้องเมื่อยิงไปแล้วความแม่นยำจะลดลงและกระจายตัวมาก โดยเฉพาะบีเอ็ม21 ของกัมพูชานี่เค้าว่าไม่มีความแม่นยำเน้นทำลายเป็นวงกว้างอย่างเดียว
2.น่าจะนะครับน่าสุดก็ลั่นให้เห็นแล้วนี่ครับ
3.บีเอ็ม21 มีระยะยิงไกลสุด 40กิโลเมตรครับ แต่ยิ่งยิงไกลความแม่นยำก็ยิ่งลดลง

อยากทราบว่า ปกติจรวดหลายลำกล้องกับปืนใหญ่อันไหนมีความแม่นยำมากกว่ากันครับ และอำนาจการทำลายนี่อันไหนเยอะกว่าครับ

โดยคุณ : sam  

ตอบ ตามที่ได้กล่าวไปแล้ว ปืนใหญ่มีความแม่นยำมากกว่าจรวดหลายลำกล้องแน่นอนครับ เพราะเน้นยิงเป็นจุด ส่วนจรวดหลายลำกล้องเน้นยิงเป้าหมายที่เป็นกลุ่มหรือยิงแบบปูพรมนั้นเองครับ

โดยคุณ tan02 เมื่อวันที่ 11/11/2009 03:06:39


ความคิดเห็นที่ 9


แล้วเราจะมีวิธีจัดการอย่างไร กับเจ้า BM-21


โดยคุณ sandeena เมื่อวันที่ 11/11/2009 03:18:16


ความคิดเห็นที่ 10


น่ากลัวจัง


โดยคุณ sandeena เมื่อวันที่ 11/11/2009 03:21:40


ความคิดเห็นที่ 11


ทีนี้ก็เลยนำจรวดหลายลำกล้องที่กัมพูชามีอยู่ นอกจากแกรดมาบอกกล่าว (หารูปโดยหลวงพ่อกู(เกิ้ล)ดูครับ ส่วนใหญ่เป็นของจีนและโซเวียต
เช่นเคยข้อมูลมาจากวิกิครับ http://en.wikipedia.org/wiki/Royal_Cambodian_Army

บีเอ็ม 13 คัตยูซา
     จรวดหลายลำกล้องของอดีตโซเวียตในช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง ติดตั้งบนรถบรรทุกเป็นแบบอัตราจรครับ ตัวจรวดขนาด132มม. มีระยะยิงไกลสุด5กิโลเมตร (ไม่แน่ใจนะ) มี16ท่อยิง หทารเยอรมันให้ฉายาว่า"ออร์แกนโบสถ์ของสตาลิน" คาดว่ารุ่นที่กองทัพกัมพูชามีผลิตโดยจีน และอาจจะได้รับมาในยุคเขมรแดง อาจส่งมาโดยจีนหรือเวียดนาม สภาพในปัจจุบันไม่เป็นที่แน่ชัดเพราะไม่เคยเห็นออกมาโชว์ตัวเลย

บีเอ็ม 14
     จรวดหลายลำกล้องติดบนรถบรรทุกของอดีตโซเวียต ใช้จรวด140มม. เป็นอาวุธยุคสงครามเย็นและสงครามเวียดนาม มีระยะยิงประมาณ 10กิโลเมตร มีแบบ16-17ลำกล้อง บางแหล่งกล่าวว่ากัมพูชามีอยู่10แท่นยิง  แต่พบเห็นครั้งหลังสุดก็ยุคสงครามกลางเมืองสงบและยูเอ็นเข้าไปปลดอาวุธ ปัจจุบันไม่เคยมีการพบเห็น และไม่ทราบว่ายังใช้งานได้หรือไม่?

ไทพ์ 63
    เครื่องยิงจรวดหลายลำกล้องที่จีนออกแบบและผลิตเอง ออกศึกครั้งแรกๆก็ในยุคสงครามเวียดนาม ปัจจุบันพบเห็นในอัฟกานิสถาน และประเทศที่เป็นลูกค้าจีน ใช้จรวด107มม. มี12ท่อยิง มีระยะยิงสั้นประมาณ8.5กิโลเมตร ปัจจุบันคาดว่าน่าจะยังใช้ได้อยู่ (เพราะไม่ทราบว่าได้มาเมื่อไหร่)

 

โดยคุณ tan02 เมื่อวันที่ 11/11/2009 03:23:26


ความคิดเห็นที่ 12


น่ากลัวจัง


โดยคุณ sandeena เมื่อวันที่ 11/11/2009 03:23:45


ความคิดเห็นที่ 13


วิธีจัดการเหรอครับ?

ก็คงต้องใช้ปืนใหญ่ครับ เพราะมีความแม่นยำสูงกว่า พบที่ตั้งเมื่อไหร่ก็ให้รีบยิงกระหน่ำ เพราะพวกรถอัตราจรนี่พอยิงเสร็จเค้าก็จะรีบเผ่นทันที เพื่อไม่ให้ถูกฝ่ายตรงข้ามยิงสวนได้ แต่จุดอ่อนหลักๆก็คือ

1.ระหว่างทำการยิงจะยิงทีละลูกกว่าจะยิงหมดจะช้ามาก หากถูกยิงสวนไม่สามารถหยุดหรือย้ายที่ได้ทัน(มั้งครับ)

2.หลังการยิงการบรรจุจรวดเข้าไปใหม่จะกินเวลามาก หากถูกยิงสวนก็จะหนีไม่ทัน ดังนั้นการย้ายที่ตั้งจึงเป็นวิธีที่ดีที่สุด เพราะหากมัวชักช้าเจอยิงสวนแน่ๆ

    หากฝ่ายนั้นมีการป้องกันทางอากาศน้อย การใช้อากาศยานโจมตีก็เป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่ดีครับ อาจใช้พวกจรวดอากาศสู่พื้นที่ยิงได้จากระยะไกลโดยที่เครื่องบินไม่จำเป็นต้องไปเสี่ยงกับปืนต่อสู้อากาศยานของฝ่ายโน้น

     ส่วนการใช้ฮ.โจมตีไม่เห็นด้วยครับ เพราะฮ.ตกเป็นเป้าของปตอ.ง่าย เอาแค่ที่คลาสิกอย่างดีเอสเอชเค 12.7มม.นี่ก็น่ากลัวแล้ว เพราะระบบไม่สามารถแจ้งเตือนได้แบบถูกยิงด้วยจรวดแซม ที่สำคัญอิ๊กล่าและเฟย์นูก็ยังเป็นอันตรายอยู่มาก

เรื่องเครื่องเจ็ตไม่มีความน่ากังวลมากเท่าปตอ.ครับ

แต่ถ้าเป็นไปได้ไม่อยากให้ได้ยิงออกมาสักลูกครับ เพราะมันจะสร้างความเสียหายอย่างใหญ่หลวงทีเดียว

โดยคุณ tan02 เมื่อวันที่ 11/11/2009 03:32:45


ความคิดเห็นที่ 14


หากเขาใช้ จรวดหลวยลำกล้อง  คงไม่ได้ปะทะกันธรรมดาน่ะครับ

เพราะแถวเขตที่ปะทะ มีบ้านเรือนประชาชนเราและหน่วยงานราชการเราอยู่เหมือนกัน

ตัวจรวดมันไม่สามารถกำหนดเป้าหมายได้ชัดเจน อาจจะโดนเป้าหมายที่ไม่ใช่ทางทหารของเราด้วย

เราคงต้องรีบกำจัดเครื่องยิงจรวด

วิธีป้องกันหลบเข้าหลุมหลบภัยครับ
โดยคุณ Ronin เมื่อวันที่ 11/11/2009 04:07:43


ความคิดเห็นที่ 15


อีกอย่างหนึ่งทหารที่ยิงเจ้าจรวดนี้ คงตื่นเต้นดี เคยได้ข่าวมันเคยระเบิดผ่านหัวผู้นำมาแล้ว

ขนาดของเรา ยังเคยด้านติดแท่นยิงมาแล้ว อิอิ



โดยคุณ Ronin เมื่อวันที่ 11/11/2009 04:12:21


ความคิดเห็นที่ 16


1 แท่นยิงมี 30 ลำกล้อง เวลาตั้งฐานยิงจะมีประมาณ 5 แท่นเป็นอย่างน้อย ( เขมรมีประมาณ 200 ชุด ) จะน่ากลัวมาก

โดยคุณ : Soldier  

ตอบ 200แท่นที่ท่านSoldier ว่านั้นคงเป็นเครื่องยิงจรวด 107มม. ไทพ์63ของจีนครับ (ข้อมูลจากวิก) ส่วนแกรด(บีเอ็ม21)นั้นเค้าว่ามี 10แท่นเอง (ถ้าเค้ามีแกรด200แท่นนี่ไม่อยากจะคิดครับ)

ตามที่ท่านวมต.ว่าก็ดีครับคือสร้างหลุมหลบภัย ผมลืมนึกนึกแต่วิธีทำลายอย่างเดียว และที่เห็นด้วยที่สุดก็คือ เรื่องประสิทธิภาพ เพราะของเก่าอย่างที่รู้กันอยู่ ว่ามันเชื่อถือไม่ค่อยได้ (ลั่นได้ด้วยนะนั้น) โดยเฉพาะของจีนนี่ต่อให้ใหม่มันก็ยังน่ากลัวอยู่ดี(ฮา) ผมว่าไอ้แกรดเนี่ยไม่ลูกด้านก็ระเบิดคาท่อมัน หรือตัวจรวดหมดอายุทำให้ยิงได้ไม่ไกลหรือความแม่นยำต่ำมาก

แต่ก็ต้องยอมรับว่าของโซเวียตนี่ทนจริงๆ ขนาดพวกตาลีบันที่ไม่มีการซ่อมบำรุงยังยิงได้เลยครับ ถ้าเป็นของมะกันทิ้งไว้แป้บเดียวไม่ซ่อมก็เน่าไปแล้วแน่ๆ

ดังนั้นท่านจขกท.น่าจะเบาใจได้แล้วนะครับ ตามที่ได้กล่าวไปแล้ว แกรดน่ะน่ากลัวครับแต่ถ้ามีแค่10แท่นยิงจริงๆก็อย่ากังวลมาก อีกอย่างเราพึ่งถอยซีซาร์จากฝรั่งเศสมา(ของใหม่) ถ้าจะกลัวให้มองพวกปืนใหญ่ของเค้าดีกว่าครับ ตัว130มม.ยิงได้ไกล30กม.นี่ยังน่าห่วงกว่านะ

โดยคุณ tan02 เมื่อวันที่ 11/11/2009 04:37:31


ความคิดเห็นที่ 17


แล้วถ้าไทยรบกับเขมร ทหารไทยจะชนะหรือเปล่า ผมคิดว่าเราไม่ควรประเมินกำลังของข้าศึกต่ำเกินไปเพราะประเทศเราก็ไม่ได้มีอาวุธยุทธโธปกรณ์ที่ทันสมัยมากนัก นอกจากกำลังทางอากาศ และกำลังทางเรือ คือ ไม่อยากให้ประเมินข้าศึกต่ำเหมือนศึกร่มเกล้า ครั้งนั้นเราก็สูญเสียไปไม่น้อย เอฟห้าทิ้งระเบิดใส่ทหารม้าตายไปกว่าครึ่งของทหารที่สูญเสียทั้งหมด ยิงจนกระสุนปืนใหญ่หมดประเทศ  เห้อ ๆ และก็ไม่สามารถชนะได้แบบเบ็ดเสร็จ เด็ดขาด ( คือ ยึดเนิน 1428 กลับมาไม่ได้ )  พ่อผมที่เป็นทหารปืนใหญ่อยู่ที่ปราจีนบุรียังบอกว่าแพ้เลย ทหารไทยขึ้นไปก็โดนหย่อนระเบิดลงมา สุดท้ายต้องส่งหน่วยรบพิเศษไปตัดกำลังข้าศึกในแนวหลัง ถึงทำให้กำลังที่อยู่บนเนิน 1428 อ่อนกำลังลง งานนี้อยู่ที่กึ๋นของท่านแม่ทัพ ท่าน ผบ.ทั้งหลายละครับว่าจะวางแผนได้เฉียบคมขนาดไหน ( ตอนศึกร่มเกล้าได้อดีตทหารสื่อสารมาเป็น ผบ.ทบ. ถ้าครั้งนี้ได้อดีตทหารรบพิเศษมาเป็น ผบ.ทบ. คงไม่มีทางแพ้แน่นอน  )  สุดท้ายขอพระสยามเทวาธิราชโปรดช่วยปกปักษ์ พิทักษ์ รักษาแผ่นดินไทย และทหารไทยไว้ด้วยเถิด

ปล.ต้องใช้บทเรียนในอดีตเป็นสิ่งเตือนใจครับ ไม่ได้อยากรื้อฟื้นอะไรทั้งนั้น 

โดยคุณ TAN เมื่อวันที่ 11/11/2009 04:41:10


ความคิดเห็นที่ 18


รู้สึกว่าเขมรจะมีเจ้านี้นะครับ

M-46/TYPE-59 130 มม. คู่ปรับทหารปืนใหญ่ไทยในศึกร่มเกล้า


โดยคุณ TAN เมื่อวันที่ 11/11/2009 04:58:55


ความคิดเห็นที่ 19


M109A5 paladin ทบ.ไทย ( มีประมาณ 20 ระบบ )  รุ่นนี้ที่อิสลาเอลใช้ถล่มเลบานอนเมื่อไม่กี่ปีที่แล้ว อ่อ มันไม่ใช่รถถังนะครับมันเป็นปืนใหญ่อัตตาจรติดตั้งบนรถสายพานลำเลียง


โดยคุณ TAN เมื่อวันที่ 11/11/2009 05:02:43


ความคิดเห็นที่ 20


และอีกรุ่นที่พึ่งจัดหามาล่าสุดครับ ประสิทธิภาพสูงเหมือนราคาครับ

Caesar  155 มม. ทบ.ไทยจัดหามา 6 ระบบ ยิงไกลและรุนแรงกว่า BM-21 หลายเท่าเพราะ

ฉนั้นไม่ได้ต้องกลัวเลยว่าทหารปืนใหญ่ของไทยจะเป็นรองเขมร  รวม ๆ แล้วไทยมีปืน

ใหญ่อัตตาจรขณะนี้ 26 ระบบ


โดยคุณ TAN เมื่อวันที่ 11/11/2009 05:06:26


ความคิดเห็นที่ 21


ไอ้จรวดหลายลำกล้องยังน่าหวาดเสียวเท่าเจ้า SA-3 หรอกครับ เห็นว่าเป็นคู่รักคู่แค้นกับ F16 ซะด้วยรู้สึกว่าจะสอย F16 มาหลายสนามแล้วไม่ว่าจะเป็น สนามพายุทะเลทราย อิรัก, ยูโกสลาเวีย สนามหลังนี่แถม F117 สเตลด้วยนะ F16 ของเราหลุดเข้าไปหล่ะมีเสียว


โดยคุณ leeming เมื่อวันที่ 11/11/2009 08:04:41


ความคิดเห็นที่ 22


SA-3 กัว นั้นทางกัมพูชาปัจจุบันไม่มีใช้แล้วครับ เพราะหมดอายุเลยทำลายทิ้งไปแล้ว รู้สึกจะให้สหรัฐมาช่วยทำลายด้วยนะครับในปี 2005

ส่วนเอฟ117ที่ถูกสอยโดยเซอร์เบียในปี1999 นั้นไม่ได้โดนSA3ครับ แต่โดนSA-6

โดยคุณ tan02 เมื่อวันที่ 11/11/2009 08:52:10


ความคิดเห็นที่ 23


โทษที่นะครับท่าน Tan02 ผมอาจอ่านมาจาก Wikipedia ไม่ละเอียดเห็นเขาลงไว้แบบนั้นเลยเอามาเล่าให้ฟังเท่าที่เห็น

http://en.wikipedia.org/wiki/F-117_Nighthawk

Combat losses

Canopy of F-117 shot down on 27 March 1999, near the village of Buđanovci, Serbia (Museum of Aviation in Belgrade)

One F-117 has been lost in combat with the Army of Yugoslavia. On 27 March 1999, during the Kosovo War, the 3rd Battalion of the 250th Air Defence Missile Brigade under the command of Colonel Zoltán Dani,[38] downed F-117A callsign "Vega 31", AF Serial Number 82-0806, with a Yugoslav-improved Isayev S-125 Neva (NATO name SA-3 Goa) anti-aircraft missile system.[39][40] According to NATO Commander Wesley Clark and other NATO generals, Yugoslav air defenses detected F-117s by operating their radars on unusually long wavelengths, making the aircraft visible to radar for brief periods.

Reportedly, several SA-3s were launched from approximately 8 miles out, one of which detonated near the F-117A, forcing the pilot to eject. Though still classified, it is believed that the F-117 has no radar warning indicator, so the pilots first indication of an incoming missile was likely seeing its flame. At this distance and combined speed the pilot had about six seconds to react before impact. According to an interview, Zoltán Dani kept most of his missile sites intact by frequently moving them, and had spotters looking for F-117s and other NATO aircraft. He oversaw the modification of his targeting radar to improve its detection.[40] The commanders and crews of the SAMs guessed the flight paths of earlier F-117A strikes from rare radar spotting and positioned their SAM launchers and spotters accordingly. It is believed that the SA-3 crews and spotters were able to locate and track F-117A 82-806 visually, probably with infra-red and night vision systems. He claimed that his battery shot down an F-16 as well.[40]

The F-117 pilot survived and was later rescued by U.S. Air Force Pararescue personnel. The wreckage of the F-117 was not promptly bombed, due to possible media fallout from news footage of civilians around the wreckage. The Serbs are believed to have invited Russian personnel to inspect the remains, compromising the then 25-year old U.S. stealth technology.[41] The F-117s pilot was misidentified. While the name "Capt Ken Wiz Dwelle" was painted on the canopy, it was revealed in 2007 that the pilot was actually Lt Col Dale Zelko, USAF.[42][43]

Some American sources acknowledge that a second F-117A was damaged during the same campaign, allegedly on 30 April.[44] Although the aircraft returned to base, it supposedly never flew again.[45][46]

ผมว่า SA-3 คงยังทำลายไม่หมดหรอกครับ ยังคงแอบเก็บไว้บางส่วนเพราะจากข่าว เห็นว่าทำลายเฉพาะลูกจรวด ส่วนระบบอำนวยการยิ่งยังไม่ปรากฎแน่ชัดว่าถูกทำลายไปแล้วจริงหรือไม่ครับ

โดยคุณ leeming เมื่อวันที่ 11/11/2009 21:47:53


ความคิดเห็นที่ 24


ไม่อยากให้กระทู้กลายพันธุ์จากจรวดหลวยลำกล้อง(ฮา) แต่ไม่เป็นไรครับเพราะเป็นจรวดเหมือนกัน

ขอบคุณท่านleeming ที่ชี้แจ้งครับ เพราะผมไปหาข้อมูลอีกทีงงอย่างแรงเลย ในวิกิบอกว่าเอฟ117 ที่ตกในช่วงสงครามโคโซโวถูก เอสเอ3 กัวสอย แต่หากไปดูในเว็บอื่นๆจะเห็นแต่ว่าถูก เอสเอ6 สอยซะงั้น

อันนี้วิกิเอสเอ3

A Yugoslav Army 250th Air Defense Missile Brigade 3rd battery equipped with S-125 system managed to shoot down an F-117 Nighthawk stealth bomber on March 27, 1999 during the Kosovo War (the only recorded downing of a stealth aircraft)

http://en.wikipedia.org/wiki/S-125_Neva/Pechora

ส่วนวิกิเอฟ117 ก็บอกไว้ว่าเอสเอ3อย่างที่ท่านleeming โพสด้านบน

อันนี้บอกเอสเอ6

In 1999, the system still was effective in Kosovo. [4] While there has not been official confirmation, the SA-6 may have been involved in shooting down a U.S. F-117 Nighthawk "stealth" fighter over Kosovo in 1999

http://en.citizendium.org/wiki/SA-6_GAINFUL

ลองเข้ากูเกิ้ลพิมพ์ sa6 f117 ก็มีหลายเว็บเลยครับที่บอกเอสเอ6สอยเอฟ117

สรุปคงระบุยากละครับ เพราะจรวดยิงไปแล้วระเบิดหาหลักฐานยาก ที่แน่ๆไม่ว่าจะโดนอะไรพี่มะกันเค้าไม่อยากให้โดนสอยหรอก 555

โดยคุณ tan02 เมื่อวันที่ 12/11/2009 00:00:50