พบเขมรเสริม 3กองพันประชิดชายแดนเขาพระวิหาร ด่านอรัญฯผู้ค้าเขมรตลาดโรงเกลือปิดร้านกลับประเทศ ปธ.ประชาคมกันทรลักษณ์อัดฮุนเซนจุ้นตบหัวไทย
แหล่งข่าวในพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา รายงานความเคลื่อนไหวบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา ด้านเขาพระวิหาร ว่า หลังทางการไทยใช้มาตรการตอบโต้กัมพูชาที่ประกาศแต่งตั้งพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ผู้ต้องคดีจำคุก 2 ปีแต่หนีคดีให้เป็นที่ปรึกษาด้านเศรษฐกิจและที่ปรึกษาฯฯ ด้วยการเรียกตัวทูตไทยประจำกัมพูชา กลับประเทศ
ขณะนี้บรรยากาศทั่วไปตามแนวชายแดน ซึ่งมีการตรึงกำลังทหารของทั้งสองฝ่ายยังคงเป็นปกติ ไม่มีความตึงเครียดแต่อย่างใด แต่ในส่วนกัมพูชาพบความเคลื่อนไหวอย่างลับๆ มีการเสริมกำลังเข้ามาอย่างต่อเนื่อง โดยได้เสริมกำลังเข้ามาใหม่ถึง 3 กองพัน ประกอบด้วย กองพันสนับสนุนที่ 42 /1 พ.ท.อึม ซาน เป็นผู้บัญชาการ ดูแลพื้นที่ตั้งแต่ บ้านโกมุย-บ้านตะนบดัช ต.ตะนบดัช อ.ตะเปรียงปราสาท จ.พระวิหาร กองพันสนับสนุนที่ 42/2 พ.ท.บุ ชามะ เป็นผู้บัญชาการ และกองพันสนับสนุนที่ 42/3 พ.ท.กอง ยุทธ เป็นผู้บัญชาการ
กำลังทหารทั้ง 3 กองพันอยู่ภายใต้การควบคุมของ พ.ท.แปน โวย ผู้บัญชาการกองพลสนับสนุนที่ 42 มีกำลังทหารกองพันละ 340 นาย รวม 1,200 นาย โดย 2 กองพันหลังนี้จะรับผิดชอบพื้นที่ชายแดนบริเวณบ้าน สะเตียนกวง ต.ตะนบดัช มาจนถึงพื้นที่ปราสาทพระวิหารสนับสนุนภาระกิจของกองพันรบพิเศษ 911 ที่มาอยู่ตั้งแต่เมื่อช่วงกลางเดือน มิ.ย.2552 โดยมี พล.ท.เฮง บุนเฮียง นายทหารองครักษ์ประจำตัวสมเด็จฮุนเซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชาเป็นผู้บัญชาการ
ล่าสุด มีรายงานแจ้งว่าตั้งแต่วันที่ 25 ต.ค.เป็นต้น มีคำสั่งให้ทหารทุกนายเตรียมความพร้อม ขุดหลุมเพาะ ทำบังเกอร์ และคูเรต ตัดหญ้าถางต้นไม้เพื่อทำเส้นทางการลาดตระเวน และยังได้เสริมหน่วยรักษาความปลอดภัยที่ 70 จำนวน 96 นายเข้ามาสมทบอีกด้วย โดยสรุปยอดกำลังพลทหาร และรปภ.ของฝ่ายกัมพูชา สามารถตรวจสอบได้ตั้งแต่ช่องอานม้า อ.น้ำยืน มาจนถึงบริเวณพื้นที่พิพาทเขาพระวิหาร อ.กันทรลักษ์ ศรีสะเกษ มีทั้งหมดประมาณ 4,000 นาย
แหล่งข่าวแจ้งอีกว่า ได้มีคำสั่งเด็ดขาดจากผู้บังคับบัญชาทหารทุกคนห้ามพกพาอาวุธภายในค่ายหากไม่ได้รับคำสั่ง เนื่องจากเกรงว่าอาจจะมีทหารบางนายทำปืนลั่น ซึ่งอาจจะทำให้สถานการณ์ตึงเครียดขึ้นมาอีก และมีคำสั่งห้ามทหารกัมพูชาจับกลุ่มกันเกิน 6 นาย พกพาอาวุธเข้ามาในเขตประเทศไทย เพราะกลัวว่าจะถูกทหารไทยจับตัวและปลดอาวุธประจำกายไป
ผู้ค้าเขมรตลาดโรงเกลือ ปิดร้านกลับบ้าน
เวลาประมาณ 17.00 น. ที่ตลาดโรงเกลือ ตลาดการค้าชายแดน อ.อรัญประเทศ สระแก้ว ใกล้จุดผ่านแดนถาวรบ้านคลองลึก อ.อรัญประเทศ ซึ่งเป็นตลาดการค้าชายแดนที่มีชาวกัมพูชาเข้ามาค้าขายมากที่สุดในภูมิภาค จำนวนกว่า 5 พันร้านค้า และมีกรรมกรชาวเขมรเดินทางเข้ามารับจ้างในตลาดโรงเกลือ อีกวันละกว่า 3 พันคน รวมมีชาวเขมรเดินทางเข้ามาค้าขาย และรับจ้างวันละกว่า 8 พันคนนั้น
ตั้งแต่เวลาประมาณ 16.30 น.พ่อค้า แม่ค้าชาวเขมร รับรู้ข่าวสารว่ารัฐบาลไทยได้เรียกทูตไทยประจำกรุงพนมเปญ กลับประเทศ เพื่อตอบโต้กัมพูชาที่ทำการแต่งตั้ง พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เป็นที่ปรึกษาด้านเศรษฐกิจ และที่ปรึกษานายกรัฐมนตรีกัมพูชา
ซึ่งกระแสข่าวดังกล่าวทำให้พ่อค้า แม่ค้าชาวเขมรต่างแตกตื่นวิพากษ์วิจารณ์กันเป็นอย่างมาก บางรายกลัวจะปิดด่านชายแดนอรัญประเทศ จึงชักชวนกันปิดร้านเดินทางกลับประเทศกัมพูชาเร็วกว่าปกติ ทำให้บริเวณหน้าด่านพรมแดนอรัญประเทศ มีชาวเขมรเดินทางกลับประเทศก่อนปิดด่านถึง 3 ช.ม.
ส่วนนักพนันชาวไทยที่ไปเสี่ยงโชคบ่อนกาสิโนฝั่งปอยเปต ประเทศกัมพูชา เมื่อทราบข่าวว่า รัฐบาลไทยเรียกทูตไทยในกัมพูชากลับประเทศ เพื่อตอบโต้เขมรนั้น ทำให้หลายคนรีบเดินทางกลับ อย่างไรก็ตาม บรรยากาศหน้าด่านชายแดนอรัญประเทศยังคงปกติ เจ้าหน้าที่ไทยและกัมพูชา ยังปฏิบัติหน้าที่ปกติ ไม่มีคำสั่งพิเศษใดๆ ลงมา
ทางด้านนายศานิตย์ นาคสุขศรี ผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว สั่งการให้นายอำเภอทุกอำเภอที่มีพื้นที่ติดชายแดนกัมพูชา เฝ้าติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด ขณะที่ พ.อ.วสุ เจียมสุข ผบ.ฉก.กรม.ทพ.12 กกล.บูรพา สั่งการให้ทหารพรานทุกกองร้อยเตรียมพร้อมอยู่ในที่ตั้ง และห้ามลา ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดเช่นกัน
ชาวศรีสะเกษ สนับสนุนตัดสัมพันธ์เขมร
นายสนอง ห้วยจันทร์ ประธานประชาคม อ.กันทรลักษ์ ศรีสะเกษ กล่าวว่า การที่รัฐบาลกัมพูชาแต่งตั้ง พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เป็นที่ปรึกษาทางด้านเศรษฐกิจ ถือเป็นการกระทำไม่สมควรเป็นอย่างยิ่ง เนื่องจากว่ารัฐบาลกัมพูชาทราบอยู่แล้วว่า พ.ต.ท.ทักษิณเป็นนักโทษคดีอาญาและกำลังหนีคุกเร่ร่อนไปทั่วโลกการที่รัฐบาลกัมพูชากระทำเช่นนี้ถือว่าเป็นการตบหัวประเทศไทยแบบไม่น่าเชื่อว่าจะเป็นการกระทำของมิตรประเทศที่อยู่ใกล้ชิดติดกันเลย
"ที่ผ่านประเทศไทยจะทำอะไรก็กลัวแต่จะกระทบความสัมพันธ์เพราะรัฐบาลไทยให้เกียรติกัมพูชามาตลอด แต่ถ้ากัมพูชาจะมาแสดงท่าทีอย่างนี้ก็ถือว่าเขาไม่ให้เกียติเราอย่างชัดเจน ผมเห็นว่ารัฐบาลไทยควรที่จะตัดความสัมพันธ์ทางการทูตกับรัฐบาลกัมพูชาได้แล้วนายสนอง กล่าว
เห้อ...อะไรกันเนี่ย
บ้านเมือง
พวกผู้ใหญ่เขาคิดไรกันอยู่ครับ
(ถ้าข้อความนี่เป็นอันตรายก็ลบได้เลยครับ)
อู้ยยยยย....ไม่รู้จะหัวเราะเป็นภาษาอะไรดี...... โอ้ยยย... สงสารประเทศไทย(จริง ๆ นะ)
ปล1.. ตะกี้เห็น ท่านรัฐมนตรีต่างประเทศ ของประเทศไทย.. ปล่อยวลีเด็ดก่อนเดินทางไปญี่ปุ่นประมาณว่า "เขมรต้องเลือกระหว่าง จะทำสังฆกรรมกับคุณทักษิน หรือ เลือกประเทศไทย"..... วลีนี้ ไม่ขอ ออกความเห็นครับ...เทพมากกก
ปล2.. ถ้า comment นี้เข้าข่าย ต้องลบ ก็ลบ ได้เลยนะครับ ไม่ซีเครีสจ้า..
ไม่เห็นด้วยเช่นกันครับ.........
.................................................
................................................
................................................
.................................................
.................................................
และอีกหลายอย่างครับ
แหะ แหะ ขอโพสแสดงความเห็นที่แตกต่างหน่อยครับ
ผมว่าไทยเรา(ไม่ว่ารัฐบาลไหน)ก็สมควรจะตอบโต้เขมรในกรณีเช่นนี้
และถ้าคนไทยทั่วไปจะแสดงความรักชาติ ก็ไม่เห็นว่าคนที่อยากอยู่เฉยๆหรือไม่คำนึงถึงศักดิ์ศรีของชาติ จะต้องมาตำหนิกันเองให้ชาติอื่นมันหัวเราะเยาะเอา
ถ้ารับฟังความเห็นต่างไม่ได้ จะลบความเห็นนี้ก็เชิญเลยครับ
ลองคิดในมุมกลับนะครับ
เรื่องส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดน
สมมติว่า
มีอาชญากรที่ก่อคดีร้ายแรงหลบหนีมาซ่อนตัวในเมืองไทย
อาชญากรรายนั้น ก่อความเสียหายแก่ประชาชนในประเทศนั้นๆ
และทางประเทศนั้นก็ได้ร้องขอเข้ามาในเมืองไทย ให้ส่งตัวกลับ
หากทางไทยไม่ส่งตัวกลับไป ความรู้สึกของประเทศนั้น จะรู้สึกเช่นไร
โดยส่วนตัวเห็นด้วย กับรัฐบาลที่ตอบโต้ออกไป แต่ไม่เห็นด้วยที่ทำในเวลานี้ ควรทำ ณ เวลาที่มีหลักฐานว่า บุคคลที่ต้องการตัว ได้เข้าไปอยู่ในประเทศนั้นๆ แล้ว
ผมเห็นด้วยกับคุณ chaisoi3 เห็นด้วยอย่างยิ่งที่ไทยจะตอบโต้เขมร ซึ่งจริงๆแล้วควรจะทำมาตั้งนานแล้วครับ
เหมือนที่หลายๆท่านเขียนไว้ ถ้าไม่สามารถรับความเห็นที่ต่างได้ก็ลบได้เช่นกันครับ