เป็นกำลังใจให้นะคะ
เหม่งไม่เคยอกหักเพียงแต่ไม่ได้ดั่งใจ
จากประสบการณ์ที่เกิดกับคนใกล้ตัว
เขาต้องอาศัยเวลาและไม่อยู่ในที่เงียบ ๆ
ไม่อยู่คนเดียวคะ..อย่าฟังเพลงเศร้า
แล้วก็คิดถึงหน้าที่ลูกที่ดีต่อพ่อแม่
และอีกข้อหนึ่งคือยอมรับความจริงในสิ่งที่เกิด
ไม่คาดหวังว่าจะกลับมาเพราะต่างทำดีที่สุดแล้ว
หรือหากกลับมาปัญหา ความน่าจะเป็นจะวนซ้ำที่เดิมหรือเปล่าคะ
สู้ ๆ ๆ ค๊า...
ผมเข้ามาบอร์ดนี้ทุกวันแต่ไม่ค่อยได้แสดงความคิดเห็นเท่าไร แต่ก็อยากให้กำลังใจนะครับ ฝากข้อคิดดีดีผ่านเพลงนี้ครับ ผมเองก็ผ่านมาแล้วและ เชื่อว่าเนื้อหาเพลงนี้คงตรงกับประสบการณ์ของใครหลายคนเช่นกัน
เนื้อหาบทเพลงนี้ได้เขียนขึ้นมาอย่างน่าติดตามและชวนให้คิด
รวมถึงท่วงทำนองและเสียงร้องของ Garth Brooks ที่ไพเราะ ที่สำคัญโดนใจคนฟังเพลงหลายคนที่เคยมีคนรักในอดีตที่ลึกซึ้ง และไม่สมหวังในความรัก เหมือนในบทเพลงที่ชายหนุ่มพยายามอธิษฐานอ้อนวอนต่อพระเจ้า เพื่อให้คนรักกลับคืนมาโดยไม่ต้องการอะไรมากไปกว่านี้ในชีวิต แต่เมื่อเวลากลับผ่านเลยไป การได้รู้จักตนเองและเข้าใจชีวิตมากขึ้น และการได้มีภรรยาในชีวิต รวมถึงการได้พบปะกับอดีตคนรักที่เคยมีความหลังอย่างลึกซึ้งในปัจจุบัน กลับเป็นคำตอบให้กับเขาได้ว่า ทำไมถึงไม่มีคำตอบรับจากการอธิษฐานครั้งนั้นที่เขาเคยขอไว้ และท้ายสุดเขาได้ขอบคุณที่การขอครั้งนั้นไม่ได้รับคำตอบ.... เพลงนี้ได้ให้ข้อคิดกับผู้ฟังเพลงกับประโยคที่สวยงามนี้ไว้ว่าRemember when youre talkin to the man upstairs.
That just because he may not answer doesnt mean he dont care
Some of Gods greatest gifts are unanswered prayers....
"Unanswered Prayers"
Just the other night at a hometown football game
My wife and I ran into my old high school flame
And as I introduced them the past came back to me
And I couldnt help but think of the way things used to be
She was the one that Id wanted for all times
And each night Id spend prayin that God would make her mine
And if hed only grant me this wish I wished back then
Id never ask for anything again
Sometimes I thank God for unanswered prayers
Remember when youre talkin to the man upstairs
That just because he doesnt answer doesnt mean he dont care
Some of Gods greatest gifts are unanswered prayers
She wasnt quite the angel that I remembered in my dreams
And I could tell that time had changed me
In her eyes too it seemed
We tried to talk about the old days
There wasnt much we could recall
I guess the Lord knows what hes doin after all
And as she walked away and I looked at my wife
And then and there I thanked the good Lord
For the gifts in my life
Sometimes I thank God for unanswered prayers
Remember when youre talkin to the man upstairs
That just because he may not answer doesnt mean he dont care
Some of Gods greatest gifts are unanswered prayers
Some of Gods greatest gifts are all too often unanswered...
Some of Gods greatest gifts are unanswered prayers.
ผมมีความลับบางอย่างมาเล่าให้ฟังครับ
อย่างแรกคนเรามีพบกันแล้วต้องมีจาก ไม่เคยมีรายงานว่ามีใครอยู่ด้วยกันเป็นอมตะมาตลอดกาล การจากกันนั้นมีทั้งจากกันเป็นๆและตายจากกัน
อย่างที่สอง ตามแนวทางศาสนาที่ผมนับถือนั้นกล่าวว่า เราทั้งหลายนั้นเคยพบกันมาหลายครั้งแล้ว ไม่ว่าจะในลักษณะใด เช่น เป็นสามี-ภรรยา เป็นเจ้านาย-ลูกน้อง เป็นศัตรู เป็นคู๋คิด เป็นคู่แข่ง แต่ด้วยการกระทำที่ได้กระทำต่อกันนั้นจะส่งผลในการพบกันครั้งต่อๆไป และผมได้เรียนรู้มาอย่างนึงว่าคนที่สร้างความเจ็บปวดให้เรามากมาย ไม่ใช่โจรก่อการร้ายที่เข่นฆ่าเพื่อนพ้องผมไป ไม่ใช่กองกำลังค้ายาเสพติดที่คอยไล่เข่นฆ่ากองกำลังฝ่ายเรา ไม่ใช่รุ่นน้องที่คอยปัดแข้งปัดขาในที่ทำงาน แต่เป็นคนที่นอนข้างๆเรานี่เองหละครับ(._.)
อย่างที่สาม อ้างถึงข้อที่แล้ว เราทั้งหลายก็จะพบกันได้อีกเรื่อยๆไป จนกว่าผู้ใดผู้หนึ่งจะปลดปล่อยตัวเองไปได้จากวังวนนี้
เป็นธรรมดาโลกครับ ผมเข้าใจคุณดีเรื่องแบบนี้ถ้าไม่โดนเองไม่รู้ แต่ถ้าคุณคิดได้ คลิกเดียวครับ แค่คลิกเดียว คุณจะปลดปล่อยตัวเองไปได้ตลอดกาล
มองเศรษฐีเราก็จน มองยาจกเราก็รวย ความทุกข์ในโลกนี้ยังมีอีกมากมายหลายแบบ ขอให้คุณผ่านความทุกข์นี้ไปได้อย่างชาญฉลาด และเก็บเกี่ยวประสพการณ์ไปใช้ในการเผชิญทุกข์ครั้งต่อไปครับ
ปล. กรุณาอยู่ห่างจากที่สูงของมีคมและสุรายาเมา อย่าลางาน ทำตัวตามปกติ หาอะไรทำให้มาก ออกไปพบเพื่อนฝูง คอยดักดูการเกิดดับของความทุกข์ที่เกิดในใจ
ดีเหมือนกัน ห่างเครื่องบิน เรือรบ รถถัง บ้างก็ดี......เล่าให้ฟังก็ได้ในฐานะผมเป็นรุ่นน้องก็แล้วกันเพราะไม่ทราบอายุท่านลมหมุนวนซึ่งเป็นจขกท. เพราะ มีนาหน้าผมจะครบสี่สิบแล้ว เย๊....ฝรั่งบอกชีวิตกำลังจะเริ่มต้น
.
.
อกหักก็เคยเหมือนกันครับ...แต่ก็นานมาก ร่วมๆสิบปีแล้วหล่ะ ตอนนี้ก็ลืมความรู้สึกนั้นไปหมดแล้วเช่นกัน พัฒนาการของความรัก ในเบื้องต้นความท้าทายจะอยู่ที่การตามจีบ จะได้เค้ามาเป็นแฟนหรือเปล่าหนอ?....เอาหล่ะ พอจีบเค้าเป็นแฟนได้ แล้วไงต่อ จะยากตรงนี้ การประคองความรักให้เป็นไปตลอดรอดฝั่งหน่ะลำบาก....การแค่คบกันไปเรื่อยๆ จะไม่มีความตื่นเต้นแล้ว ทำไมเธออย่างนั้น ทำไมชั้นอย่างนี้ ทำไมโน่น ทำไมนี่ ทำไมและทำไม????? จะเกิดความเห็นแก่ตัวแล้วจะเริ่มบงการความคิดของอีกฝ่าย เรียกง่ายๆ ว่าเริ่มเบื่อหน่ายแต่ขาดไม่ได้
อย่าลืมว่าคนเราอายุก็มากขึ้นทุกวัน ความคิดและสิ่งแวดล้อมก็เปลี่ยนแปลงทุกวันเช่นกัน มนุษย์เราทุกผู้ก็ล้วนแสวงหาความมั่นคงในชีวิตหลังจากได้ความปลอดภัยแล้ว ตามหลักความต้องการ 5 ขั้นของมาสโลว์.....ในชั้นของความมั่นคงนี้คือการใช้ชีวิตร่วมกันโดยการแต่งงานถ้าไม่ถึงจุดนี้ก็ต้องแยกย้ายกันไป....ถึงจะแต่งงานไปแล้วก็ยังไม่จบนะครับ นั่นคือจุดเริ่มต้นการเรียนรู้อีกฝ่ายในอีกบทบาทจากคำว่าแฟนมาเป็นสามีและภรรยา...ถ้าไม่มีคำว่ายอม ทุกอย่างจะไม่จบ หญิง-ชาย คิดไม่เหมือนกัน ฝ่ายหญิงจะจุกจิกในรายละเอียด ฝ่ายชายมองภาพรวม
ในระหว่างครองชีวิตคู่ ลิ้นกับฟันกระทบกันเป็นธรรมดา ฟันอาจหัก หรือลิ้นเป็นฝ้าก็ยังหายได้....ถ้าการงานไม่คืบหน้า ทำงานกินเงินเดือนไปเป็นเดือนๆ เช้าชามเย็นชาม พัฒนาการหยุดไปแต่ความต้องการขั้นที่สามคือการได้รับความยอมรับจากสังคมยังมีอยู่...ทำไมเธอไม่ได้เลื่อนตำแหน่งกับเค้าบ้าง สามีข้างบ้านเค้าไปถึงไหนต่อไหนแล้ว ห๊า....เป็นต้น ความเบื่อหน่ายเพื่อนเก่ากลับมาหาเราอีกแล้ว แต่สิ่งหนึ่งที่สวรรค์ประทานมาให้เราคือเทวดาตัวน้อยๆ ให้มาทำหน้าที่เป็นโซ่ข้อกลาง เอ๊ย...โซ่ทองคล้องใจ ทำให้ทั้งสองฝ่ายมีความอดทนมากขึ้น ปรารถนาให้เค้ามีความสุขอันเป็นขั้นถัดไปของมาสโลว์ ถ้ายังไม่มีตัวช่วยนี้ก็ต้องหาสิ่งอื่นมาทดแทนที่เรียกว่าความเข้าใจกันและกัน แทนที่จะมาพูด ทำไมเค้าเป็นอย่างนั้น ไม่ทำอย่างโน๊น อ๋อ เพราะว่าอย่างนี้นี่เอง..เราจะยืนฝั่งเดียวกับเค้าช่วยกันแก้ปัญหาให้สมกับคำว่าคู่ชีวิตนะครับ
ที่เล่ามาทั้งหมดจะชี้ให้ท่านลมหมุนวน(หรืออาจจะเป็นท่านอื่นผ่านทางท่านลมหมุนวนอีกที) เห็นว่าคนสองคนสามารถเลิกรากันได้ตลอดเวลาและมีทางออกให้อยู่ตลอดเวลา เช่นกัน....คิดซะว่าไม่เลิกตอนนี้ ต่อๆ ไปอาจจะต้องเลิกอยู่ดี
สิ่งที่เราจะเรียนรู้ได้จากการนี้คือ...อกหักในคราวต่อๆ ไป จะกลายเป็นเรื่องธรรมดามากๆ มันจะถูกจัดเป็นปัญหาระดับเดียวกับการซื้อหวยไม่ถูก แทงบอลผิดข้างฯลฯ ในที่สุด....สำคัญที่สุดนะครับ อย่าอยู่คนเดียวถ้ายังไม่เข้มแข็งพอ หาเพื่อนคุย กินเหล้าได้แต่อย่าบ่อยเพราะมันไม่ใช่ทางแก้ปัญหาหนำมิซ้ำอาจสร้างปัญหาใหม่ขึ้นมาให้กลุ้มหนักเข้าไปอีก....สำหรับผม การกินเหล้าถูกจัดอยู่ในหมวดของการพักผ่อนเท่านั้นเอง
จากนี้ลองใช้ชีวิตแบบคนโสดให้เต็มที่ อยากไปไหนก็ไป กินอะไรก็กิน ไหนๆ ก็ไม่มีข้อจำกัดเรื่องเวลาแล้วนี่ ท่านอาจชอบชีวิตแบบนี้ก็ได้....จับพลัดจับผลู ท้ายที่สุดเราอาจไปเจอคนใหม่ที่ดีกว่าก็เป็นได้ เพียงแค่อย่ารีบหาคนใหม่เพื่อประชดคนเก่าเท่านั้นพอ เพราะเราจะไม่มีเวลาพินิจพิเคราะห์มากนัก เดี๋ยวจะเลิกรากันง่ายไปแบบเหล่าดาราทั้งหลาย....แล้วที่สุด(ของที่สุด) เนื้อคู่ที่แท้จริงของเราจะเผยตัวออกมาให้เห็นไม่วันใดก็วันหนึ่ง แล้วเราจะประคองชีวิตคู่ได้ดีกว่าเดิมเพราะเรามีประสบการณ์แล้ว....เชื่อผมเถอะ
รบกวนถามนิดนึงครับ
อกหักตอนกำลังจีบ หรือ อกหักตอนเป็นแฟนกันแล้ว (โดนบอกเลิก)
ถ้าอันแรกนี่ทำใจง่ายหน่อย อย่างมากก็ถามเพื่อนว่า ตูมีข้อเสียตรงไหนฟ่ะ
ถ้าอันหลังนี่สิ ทำใจยากหน่อย ความลึกซึ้ง ความผูกพัน เหมือนวิญญาณร้ายตามหลอก ตามหลอน ยามจะข่มตานอน
ยังไงก็ขอเอาใจช่วยให้ผ่านไปได้อย่างรวดเร็วนะครับ เพื่อใจไว้ให้คนใหม่ดีกว่า ความรักก็คล้ายสายน้ำ ผ่านไปแล้ว ก็ย้อนคืนมาไม่ได้
ผมกับคนก่อนหน้านี้ก็คล้ายๆคุณครับ
เขาเป็นแรงบันดาลใจสำหรับผมทุกอย่างจริงๆ เป็นคนที่ทำให้ผมหยุดเจ้าชู้ได้และเป็นผู้หญิงที่ตรงกับความต้องการของผมทุกอย่าง คือ พูดง่ายๆเป็นผู้หญิงในฝันเลยครับ
แต่สุดท้ายก็ต้องเลิกกันเพราะปัญหาที่เกิดขึ้น
นานเลยครับกว่าจะทำใจให้รู้สึกดีขึ้นได้ ที่จริงผมก็ปิดตังเองด้วยล่ะ
ไม่อยากที่จะได้เรียนรู้ใครใหม่เพราะผมคิดว่าเขาคือคนที่ดีที่สุดแล้วในตอนนั้น
ตอนนั้นในหัวผมมีแต่คำว่า ทำไม
แต่ที่ทุกวันนี้ผมรู้สึกดีได้เพราะว่า ผมพยายามเปิดโอกาสให้ตัวเองให้เรียนรู้คนใหม่และพยายามคิดว่าพระเจ้าคงจะรักผมมาก(เกินไป ^ ^ )ท่านจึงให้บทเรียนที่ยากๆนี่มาเพื่อที่จะทดสอบผม แล้วเมื่อผมสามารถที่จะผานไปได้ผมก็จะเข้มแข็งขึ้น
ทำใจให้สบายครับ คิดน่ะคิดได้ครับ แต่อย่าทำให้การงานเสีย
สุดท้ายก็คงต้องบอกว่า ให้เวลาล่ะครับ เป็นตัวเยียวยารักษา จะนานหรือไม่นานก็ขึ้นอยู่ที่ใจของคุณเองด้วย
แต่ของผมกว่าจะเป็นแบบทุกวันนี้ได้ก็สาหัสเอาการ ช่วงนั้นเดือดร้อนเพื่อนต้องไปนั่งดื่มกับผมแทบทุกเย็น ฮ่า ฮ่า
ถ้าถามทุกวันนี้ผมลืมเขาคนนั้นได้หรือยัง
บอกได้เลยครับว่ายัง แต่ผมไม่มีความรู้สึกเสียใจอีกต่อไป แต่ผมกลับมีความรู้สึกดีๆเข้ามาแทนที่ว่าอย่างน้อยๆครั้งหนึ่งผมก็ได้คบกับคนดีๆแบบเธอ
พยายามทำใจให้สบายครับ ช่วงแรกๆอาจจะยากเกินไปสักหน่อย
แต่พอผ่านไปสักระยะและพยายามเปิดใจให้กว้างเพื่อที่จะเรียนรู้สิ่งใหม่และคิดในแง่ดีเข้าไว้
ผมเชื่อว่าคุณต้องผ่านเหตุการณ์ในครั้งนี้ไปได้อย่างแน่นอน
ไม่แน่การเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ที่เกิดขึ้นกับคุณอาจจะนำพาสิ่งดีๆให้เข้ามาในชีวิตคุณเหมือนผมก็ได้นะครับ
เป็นกำลังใจให้ครับ
ผมก็เคยมีประสบการณ์อกหักมาเหมือนกันครับ รู้สึกเหมือนกับว่าฟ้าผ่าลงมากลางใจภายในเสี้ยววินาที ( โอ้พระเจ้าจอร์จ มันแย่มาก ๆ ) เหตุการณ์นั้นเกิดเมื่อคืนวันที่ 13 ก.พ. 2552 เวลาประมาณ 3 - 4 ทุ่ม ครับ เมื่อตอนที่เธอบอกกับผมในโทรศัพท์มือถือว่า " xxxเราอย่าพึ่งใช้คำว่าแฟนเลยเนอะ " แต่ไอปากเจ้ากรรมมันก็ดันตอบไปอย่างทันควันเลยครับว่า " โอเค...ไม่มีปัญหา " เท่านั้นแหละครับ ผมรู้สึกเหมือนกับว่าโลกนี้มันกำลังหมุนเคว้งคว้าง หาที่ยึดเหนี่ยวไม่ได้ ทั้ง ๆ ที่เมื่อ 3 วันที่แล้วเราสองคนยังรักกันอยู่เลยหรือว่าผมคิดไปเอง อิอิ แต่อย่าหวังเลยครับว่าน้ำตาลูกผู้ชายจะไหลให้กับผู้หญิงคนหนึ่ง ( ไม่มีทาง ลูกผู้ชายต้องไม่เสียน้ำตาแม้แต่หยดเดียวให้กับเรื่องแบบนี้ มันอ่อนแอ และเสียศักดิ์ศรีครับ ผมเคยร้องไห้แบบเอาเป็นเอาตายก็เมื่อครั้งสอบเตรียมทหารไม่ติด ตอนนั้นเหมือนกับว่าเราหมดโอกาสแล้ว ในที่สุดฝันก็เป็นฝันตลอดไป ทุกสิ่งที่วาดฝันไว้พังลงไปหมดแล้ว แต่มาวันนี้มันทำให้เราได้เห็นตัวเองในวันนั้นครับ ว่าเรายังไม่มีดีพอ เห้อ ๆ ) อันนี้ผมเล่าเรื่องจากความรู้สึก ประสบการณ์จริง ๆ เลย อย่างมากก็แค่นอนไม่หลับครับ คืนนั้นในสมองผมมีแต่คำถามว่า ทำไม และ ทำไม กับเสียงของเธอที่มันก้องกังวานในสมองของผมว่า " xxxเราอย่าเพิ่งใช้คำว่าแฟนเลยเนอะ " คืนนั้นผมไม่ได้นอนทั้งคืนเลยครับ ( แต่คืนนั้นมันก็ทำให้ผมฉุกคิดอะไรบางอย่างขึ้นมาได้ คืนนั้นผมคิดถึงพ่อ แม่ทั้งคืนเหมือนกันครับ ทำไมนะเวลาที่เราสุขสบาย มีความสุขกลับไม่เคยคิดถึงท่านเลย แต่พอเรามีความทุกข์ เดือดเนื้อ ร้อนใจ เรากลับนึกถึงท่าน เห้อ ๆ ) ต่อครับ...ตาสว่างมาจน 6 โมงเช้า วันต่อมารู้ไหมครับว่าวันอะไร วันวาเลนไทน์ครับ ผมซื้อของขวัญเป็นคิตตี้ตัวใหญ่เตรียมมอบให้เธอ แต่ ณ เวลานั้นเธอจากผมไปแล้ว ( ผมก็ปล่อยเธอไปครับ เมื่อคนเขาอยากจะไปก็ปล่อยให้เขาไปดีกว่าครับ รั้งไปก็เท่านั้นครับ ) แต่ทุกวันนี้ผมก็ยังนึกถึงเธออยู่ครับ อิอิ สุดท้ายครับ " ความรักก็เหมือนกับสายลมที่พัดผ่านเข้ามา รู้สึกและสัมผัสได้ในระยะเวลาหนึ่ง แต่จับต้องไม่ได้ครับ " สู้ ๆ ครับ เราควรจะคิดถึงคนที่รักเรามากที่สุด แต่เรากลับไม่เคยนึกถึงเขาเลยในเวลาที่เรามีความสุข พ่อแม่ ของเราไงครับ ไม่มีความรักใดจะอยู่กับเราได้นานเท่ากับความรักที่พ่อและแม่มอบให้เรา จำไว้ครับ
ถ้าเป็นไปได้ลองปล่อยไปสักพัก
แล้วลองกลับไปปรับความเข้าใจกันใหม่ดีไหมครับ
ถ้ายังรักกันอยู่และไม่ได้เลิกกันเพราะมีมือที่สามก็น่าจะกลับมาคบกันได้นะครับ
สู้ๆครับคุณลมหมุนวน
ต้องพยายามทำใจนะครับ ผมเคยสติแตกอยู่ 4ปี ปัจจุบันยังคงคิดถึงอยู่ แต่คิดไว้เสมอว่าเค้ามีชีวิตอยู่ ดีกว่าเค้าเสียชีวิตไป ซึ่งอย่างหลังคุณจะเสียใจมากว่านี้ ผมแนะนำว่าอย่าพยายามอยู่คนเดียว ให้นึกว่าเราเกิดไม่ใช่คู่กัน สู้ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆนะครับ ผมไม่เคยพิมพ์เข้ามาเลย แต่เปิดดูและอ่านมา 2ปีแล้ว อย่างน้อยคุณทำให้ผมพิมพ์เข้ามา ผมอยากให้คุณหายไวๆๆๆๆๆนะครับ
อันที่จริงผมก็เป็นอีกคนที่เข้าบอรืดนี้ทุกวันแต่ไม่ค่อยไถมหรือตอบอะไรเท่าไรครับ อาศัยดูอย่างเดียวเหอะๆๆๆ
เรื่องแบบนี้ผมก็เคยประสบพบเจอกับตัวเองมาครับมันเป็นอะไรที่ไม่รุ้จะพรรณนายังไงดีครับกับความรู้สึกที่เกิดขึ้นในใจเหมือนที่คุณ TAN บอกนั้นเลยครับ มีแต่คำถาม นอนไม่ได้ กินไม่ลง อึดอัดไปหมด หน้าอกแน่นไปหมดจะอธิบายให้คนอื่นฟังก็ไม่รู้จะบอกกับเข้ายังไงได้แต่เศร้าครับ
แต่ครับตอนนั้นเพื่อนครับเพื่อน จะเป็นให้เราได้ทุกอย่างสารพัดจะปลอบกัน อยู่กับเพื่อนให้มากเข้าไว้นะครับและอย่าอยู่คนเดียวถ้าเป้นได้เพราะถ้าเราอยู่คนเดียวมันก็จะคิดถึงแต่เรื่องนั้นอย่าเดียว ฟุ้งซ้านครับ
อีกอย่าทำตัวให้ยุ่งเข้าไว้นะครับแล้วเวลาจะช่วยคุนเองครับ
ก็อาจจะช่วยอะไรมากไม่ได้นะครับได้เท่านี้แหละครับ
สู้ๆนะครับ^ ^
เขาอาจจะเป็นคนที่เรารู้สึกดีที่สุดในตอนที่คบและตอนที่เพิ่งจะเลิกรา แต่อย่าท้อครับ เดินหน้าก้าวต่อไปในชีวิต แล้ววันหนึ่งคนที่ใช่คนที่เป็นคู่ของเราจะเข้ามาในชีวิต ถึงวันนั้นอาจจะมีความสุขมากกว่าคนเก่าก็ได้ ที่พูดนี้ผมไม่ได้ให้กำลังใจเลื่อนลอยครับ ตัวผมเองเคยเป็นมาก่อน ด้วยที่ผมต้องมาร่ำเรียนวิชาหาความรู้ ตั้งความหวังว่าจบแล้วบวชแทนคุณบิดามารดาแล้วจะแต่งงานกับแฟนที่คบอยู่ อีกทั้งผู้ใหญ่ก็เห็นดีเห็นงามให้คบกัน อีกทั้งพ่อแม่เขายังรักชอบพอผมพอสมควร แต่เรียนยังไม่ทันจบ ฝ่ายโน้นกลับมีคนเข้ามาพัวพันและสุดท้ายเรื่องของผมกับเขาก็ต้องจบ ยอมรับครับว่าเสียใจมาก มากขนาดที่เหงื่อในตามันไหลนั่นแหละครับ แต่มันทำให้ผมมีมานะมากกว่าเดิมมากกว่าที่จะท้อแท้ครับ มุมานะเพื่อให้ตัวเองได้ดีมากกว่าปัจจุบันที่เป็นอยู่ เพื่อให้เธอคนนั้นได้รู้ว่า การที่เขาเลิกรากับผมนั้นจะต้องทำให้เธอเสียดายและรู้ว่าตัดสินใจผิด และก็ทำได้จริงๆครับ แล้วเมื่อผมทำงานได้ดิบได้ดีผมก็พบกับหญิงคนใหม่ที่ดีกว่าคนเดิมอย่างมากและรักผมมาก แม้ว่าผมจะทำผิดให้เธอเสียใจก็ยอมที่จะให้อภัย ส่วนคนที่เลิดรากับผมเมื่อได้พบกับผมอีกครั้ง ก็ทำให้เธอเกิดเสียความรู้สึกจริงๆครับที่ตอนนั้นตัดสินใจเลิกกับผม อีกทั้งวิถีชีวิตของเธอตกต่ำอย่างมากครับ อีกทั้งความสวยความโสภาที่ผมเคยลุ่มหลงแทบไม่เหลือ ปัจจุบันผมกับคนใหม่ก็ยังคบกันอยู่ และคบกันนาน แม้ว่าบางครั้งผมจะร้ายและออกนอกลู่นอกทางเธอก็ยังอยู่กับผม แถมยังสวยวันสวยคืนอีกด้วย ไม่เชื่อถาม นายโจ๊ก ดูสิ ยังคิดว่าเป็นดาราเกาหลีอีกต่างหากฮิ ฮิ
ข้อย้ำนะครับ ว่าสู้ต่อ อย่าหมดหวังสู้ชีวิตมุมานะให้ตัวเองมีค่า ให้คนคนนั้นเสียดายคุณให้ได้ ส่วนคุณจะหวนกลับไปหาเขาอีกหรือไม่เรื่องของคุณ แต่ถ้าคิดว่าไม่หวนกลับไปแล้ววันหนึ่งคนที่ใช่ของคุณจะเข้ามาในชีวิตคุณเอง ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อครับ ผู้หญิงไม่ไร้เท่าใบพุทรา ถึงเวลานั้น หมอเด็กทะเล ขอให้ลุยโลด ฟันธง โช๊ะ ๆ !
ว้า...บอร์ด....เศร้า....สู้ๆๆๆๆๆๆๆ..นะ
เป็นกำลังใจครับ
ไม่ต้องคิดไรมากครับ...อยู่กับตัวเองและเพื่อน ๆ ให้มาก ๆ
ของ ของเรา ยังไงก็ต้องเป็น ของ ของเราครับ
นั่งสมาธิก็ดีนะครับ...
แล้วเราต้องก้าวไปข้างหน้า อย่าติดกับความหลัง
สู้ ๆ ต่อไปครับ
อกหัก กับ แอบรัก ความทุกข์มันต่างกันยังไง...เพราะมัน ไม่สมหวัง ทั้ง 2 อย่าง...
แต่ อกหัก มันจะรุนแรงกว่านิดนึง เพราะ เรา ได้มีความรัก แบบมี ความหวัง...แต่ แอบรัก...มันคือ รัก ที่เราไม่เคยหวัง หรือ คาดหวัง...
ก็ขอให้คิดซะว่า...อกหัก...คือ มีอาการผิดหวังแทรกเพิ่มขึ้นมาจากความรู้สึก แอบรัก แค่นั้น....
ช่วงแรกอาจจะ ทรมาณ ว่า จะลืมเธอไม่ได้...จะไม่รักใครอีก....แต่สักพัก เมื่อเวลาผ่านไป...เราจะทำใจได้เอง...และเมื่อทำใจได้...ลองกลับไปมองเหตุการณ์ที่ผ่านมาอีกสักครั้ง...ทบทวนอีกสักที....ว่าเรา รัก หรือ หลง หรือ ต้องการเอาชนะ หรือ คิดว่าไม่อยากพ่ายแพ้...
บางที สุดท้ายคำตอบก็ออกมาว่า...ดีแล้ว...ที่เราไม่ได้อยู่ด้วยกันมากกว่านี้ ก็ได้ครับ...
เมื่อเกิดการ อกหัก สำหรับผม คือ การไม่ขอพบเจอ หรือ พูดคุย กับ เธอ สักระยะหนึ่ง...(นานทีเดียว จนปัจจุบันก็ยังไม่เคยเจอกันอีก) เพื่อให้ลืม...ฟังเพลงเศร้า ๆ ให้ความรู้สึก มันถึงที่สุด (เพราะ ผมเชื่อมั่นใจตนเองอยู่อย่างหนึ่ง คือ ผมยังมีความสุขในการมีชีวิตอยู่)...และหางานอดิเรกที่ชอบ...และ เพื่อน คือ สิ่งที่ทดแทน ได้ดีที่สุด...(ไม่มี แฟน ได้ แต่ ห้าม ไม่มี เพื่อน)
และพอเวลาผ่านไปสักพัก....วันดี คืนดี...ท่านอาจจะมี คำว่า แอบรัก เกิดขึ้น โดย คนเก่า อาจจะเทียบไม่ได้เลยก็ได้ครับ...
ตอนผมอกหัก
ผมกลับไปรัก
พ่อ
แม่
มากขึ้น เอาความรักที่เคยให้กับเธอ กลับไปฝากคนที่บ้าน..
แต่แปลก นานมากแล้ว ยังรู้สึกห่วงอยู่ อย่างน้อยก็อยากให้เธอมีความสุข
มาให้กำลังใจช้าหน่อยเด้อ
พ่อเคยสอนไว้ว่า
ถ้ามีสิ่งดีๆผ่านเข้ามาในชีวิตก็ให้คว้าไว้
แต่ถ้าสูญเสียไปก็อย่าได้หันกลับไปมองอีกให้มองไปข้างหน้า
อย่าฝังใจอยู่กับอดีต กับเรื่องเดิมๆเพราะมันจะทำให้เราเจ็บ
สูดลมหายใจเข้าลึกๆแหงนหน้ามองฟ้า
ชีวิตนี้ยังมีค่าเส้นทางอีกยาวไกล
เดินหน้าต่อไป
เข้าใจความรู้สึกของท่านลมหมุนวน เลยล่ะครับ เพราะว่า เมือก่อนตอนแฟนจะบอกเลิกก็ร้องไห้เป็นวักเป็นเวร เหมือนกัน(อายจังวุ้ย) ตอนนั้น แฟนบอกว่า "ไม่คุยกับxxxแล้ว" โทรไปยังไงก็ไม่รับ... ก็เลยขับรถจากระยองมากรุงเทพ เพื่อ อยากฟังเหตุผล ... สุดท้ายก็ได้ฟังเหตุผลจากปากของเค้า......ก็เออ...... น้ำตาตก เป็นเม็ด ๆ ...... จริง ๆ ไม่ใช่คนขี้แยหรอกครับ ร้องไห้ครั้งสุดท้ายตอน ป.5 ....... คืนนั้นไม่ได้นอน ขับรถกลับจากกรุงเทพไประยองแบบ เบลอ ๆ บางทีติดไฟแดง น้ำตาอยู่ดีดี ก็ร่วงเป็นเม็ด ๆ เฮ้อ... แปลกดี... ไปถึงระยองเช้าพอดี....ก็ไปทำงานต่อ... หลังจากนั้น น้ำตาก็ร่วงอยู่ 2-3 วัน ก็หยุดแล้วล่ะ
เพราะชีวิตเราต้องก้าวต่อไปครับ คิดซะว่า ชาติที่แล้วเราทำบุญร่วมกันมาแค่นี้ ..... ส่วนเรื่องคู่แท้ ไม่ต้องหาหรอกครับ เดี๋ยวสถานการ จะพาเราไปเจอเค้าเองแหละครับ......
ตอนนี้อยากให้ท่านเจ้าของกระทู้ รักตัวเองให้มาก ๆ จะทำอะไร อยากให้นึกถึง พ่อ-แม่ เพราะ นั้นแหละ คือคนที่รักเรามากที่สุด หาใช่ใครอื่น..
ปล....ไม่มีแฟนก็ดีเหมือนกันนะครับ สบายดี ไปไหนมาไหน สบายใจ ไม่ต้องห่วงพวง.