ปัญหากรณีพิพากระหว่างพม่าและบังคลาเทศ ส่อเค้าปานปลายไปสู่สงครามเต็มรูปแบบระหว่างประเทศ
หลังจากทั้งสองประเทศได้ส่งกองกำลังทหารเข้าประชิดพรมแดนอย่างต่อเนื่องเป็นจำนวนมาก
พม่าได้ส่งกองพันทหารราบเบา LIB 9 กองพัน รถถัง ปืนใหญ่ กำลังสนับสนุนทางอากาศและทำการวางรั้วหนาม ปิดกั้นชายแดน
นอกจากนี้ในอ่าวเบงกอล พม่าได้ส่งเรือรบ 13 ลำไปประจำน่านน้ำ ทำให้บังคลาเทศต้องเตรียมรับมือ พร้อมเตรียมเรือรบทั้งหมด 30
ลำเพื่อปกป้องเมือง Chittagong และ Khulna ซึ่งอยู่ในระยะยิงของเรือรบพม่า อีกทั้งพม่าสามารถใช้กำลังสนับสนุนทางอากาศจาก
3 สนามบิน ซึ่งอยู่ห่างจาก สนามบินนานาชาติ Chittagong เพียง 50 ไมล์เท่านั้น จนถึงขนาดนี้ ทางบังคลาเทศ ได้ส่งกองกำลัง
BDR จำนวน 4 กองพันเข้าไปเสริมในพื้นที่ ในขณะที่กำลังพลอีก 700 นายถูกส่งไปประจำใกล้ชายแดนตั้งแต่วันจันทร์
นาซรุล อิสลาม ผู้อำนวยการกระทรวงต่างประเทศบังคลาเทศ กล่าวให้สัมภาษณ์ว่า บังคลาเทศได้ยื่นเรื่องประท้วงขั้นรุนแรงไป
ยังพม่าแล้ว รวมทั้งเรียกตัวเอกอัครราชทูตของพม่ามาคุยถึง 2 ครั้งด้วยกัน โดยนายทูฮิด ฮอสเซน รัฐมนตรีกระทรวงต่างประเทศ
บังคลาเทศจะเป็นผู้นำคณะทูตไปเยือนพม่า
ก่อนหน้านี้ เรือสำรวจแหล่งเชิ้อเพลิงของพม่า 1 ลำ พร้อมด้วยเรือของกองทัพขนาดเล็กอีก 3 ลำได้แล่นเข้าไปยังน่านน้ำทาง
ตะวันตกเฉียงใต้ของเกาะเซนต์มาร์ตินเมื่อ สัปดาห์ที่แล้ว ขณะที่บังคลาเทศยืนกรานว่า พื้นที่ดังกล่าวเป็นน่านน้ำของบังคลาเทศ
และสั่งให้เรือของพม่าถอนสมอออกไปจนกว่าจะมีการกำหนดเส้นแบ่งเขตแดนทางทะเล ผ่านช่องทางการเจรจาสองฝ่าย
บลูมเบิร์กรายงานว่า ทั้งสองประเทศต่างต้องการครอบครองและควบคุมพื้นที่ในอ่าวเบงกอล ซึ่งอุดมสมบูรณ์ไปด้วยพลังงาน
โดยตัวแทนของทางฝั่งพม่าจะเดินทางมายังกรุงดักกาในวันที่ 16 พ.ย.นี้ เพื่อเจรจาในเรื่องดังกล่าว
ทั้งนี้จีนและอินเดียเรียกร้องให้พม่าและบังคลาเทศหาทางยุติข้อพิพาทเรื่องแหล่งสำรอง น้ำมันและก๊าซธรรมชาติในอ่าวเบงกอล
ที่จุดชนวนให้เกิดปัญหากระทบกระทั่งในน่านน้ำที่เป็นพื้นที่ทับซ้อนของทั้งสองประเทศ
2. บังคลาเทศ
6. รูปภาพประกอบจาก INTERNET นะคับ
งานนี้ ถ้ารบกันจริง พม่าจะอ่อนลงไปเยอะเลย ผมว่านะ ชนกลุ่มน้อย
บางกลุ่ม เช่น ไทใหญ่ ก็คงไม่ปล่อยให้โอกาศอันงามอย่างนี้ พลาดไปแน่ๆ
สุดท้ายแล้วก็คงไม่มี ใครชนะอย่างเด็ดขาด บังกลาเทศคงตั้งรับอย่างสุด
ฝีมือ.... สุดท้ายจริงๆ ทั้งหมดนี่ จบได้ด้วยการเจรจา และการรบ ไม่เกิดขึ้นจริง!
ปล.รบจริงพม่าแย่แน่ๆ ชาติอิสลาม คงไม่อยู่นิ่งแน่นอน!
14. สำหรับปัญหาชนกลุ่มน้อยในพม่านั้น ช่วงก่อนหน้านี้ หรือปลายเดือนสิงหาคม 2009 ได้เกิดการสู้รบระหว่างกำลังทหารพม่ากับชนกลุ่มน้อยในรัฐฉาน ทำให้ประชาชนจำนวนมากได้ทิ้งบ้านหนีภัยสงครามข้ามไปอยู่ในหนานซาง มณฑลยูนนานของจีนจำนวนมากคับ
แหล่งข่าวแจ้งว่าชนกลุ่มน้อยที่ต่อสู้กับทหารพม่าในครั้งนี้ คือกองทัพว้า+ทหารโกกาง ซึ่งเป็นการละเมิดข้อตกลงหยุดยิงที่ได้ทำขึ้นไว้
สงครามแย่งชิงทรัพยากรเริ่มแล้ว
มีข้อมูลระบุในกลุ่มประเทศอาเซียนมีแหล่งสำรองก๊าซธรรมชาติรวมกันมากที่สุดในโลก โดยแบ่งเป็น 3 แหล่งที่สำคัญ คือ
1. ไทย-มาเลย์ (ตกลงแบ่งกันที่ 50 : 50 ) โดยมาเลย์ขอดูดเอาไปให้ก่อนแล้วตามที่กตลงกันไว้กับไทย ส่วนฝั่งไทยชาวบ้านแถวจะนะยังต่อต้านอยุ่ ผสมโรงด้วยภัยก่อการร้ายจากกลุ่มโจรใต้ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่ไทยจะได้นำมาใช้ประโยชน์สักที
2. ไทย-เขมร (แถวพื้นที่ทับซ้อนทางทะเล ซึ่งเขมรต้องการ 90 ให้ไทยแค่ 10 งานนี้คงคุยกันยากหน่อยและอาจต้องยืดเยื้อไปอีกนาน)
3. พม่า-บังคลาเทศ (ตามข่าวที่รู้กัน ซึ่งปัจจุบันพม่าเองก็มีแหล่งก๊าซขนาดใหญ่ในอ่าวเมาะตะมะคือแหล่งเยตากุนและแหล่งยาดานาที่ไทยเองใช้บริการซื้อเป็นประจำอยู่แล้ว)
ดุข่าวหลุมสำรวจแหล่งก๊าซที่สำรวจแถวยะไข่ (อ่าวเบงกอล)http://www.dmr.go.th/ewt_news.php?nid=4716&filename=index
แนวโน้มความขัดแย้งในเรื่องการแย่งชิงทรัพยากรนี้จะรุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆ จับตาดู ข้อ 1 และ ข้อ 2 ให้ดี อาจมีชาติมหาอำนาจอยู่เบื้องหลังความขัดแย้งนี้
อย่ามัวแต่สนใจเรื่องอาวุธ ต้องดูยุทธศาสตร์ระหว่างประเทศด้วย
เรื่องพลังงาน ไม่ต้องห่วย อนาคต ต้องมีหลายประเทศต้องมีปัญหาแบบนี้ อีกหน่อยเราจะมีเทคโนโลยีที่ทันสมัย สามารถหาแหล่งพลังงานจากใต้ดินได้ง่ายขึ้น และสามารถค้นพบได้หลายที่ ทีนี้ประเทศไหน การฑูตดี การเมืองดี การทหารดี ก็ได้เปรียบไป เอาอย่าง พี่รัสเซีย เป็นต้น ใครจะว่าไง เราไม่สน รบก่อนแล้วค่อยคุย
เรื่อง ไทย - เมเล ไม่อยากจะพูดจริง ๆ การเมืองล้วน ๆ
ไทย กับ เขมร ก็การเมือง ล้วน ๆ
สรุป ก็การเมืองล้วน ๆ ที่มีปัญหาอยู่ทุกวัน
ไอคนอย่างเรารู้มาก แต่จะพูดมากก็ไม่ได้
อยากสอบถามว่า
1.นภาพแรกชื่ออะไรครับ และเป็นของประเทศอะไรครับ ใช่ ไทป์-59 ของบังคลาเทศ หรือเปล่าครับ
2.รบกันจริงฝ่ายไหนได้เปรียบครับ
3.ยากเห็นภาพและกับเปรียบเทียบอาวุธทั้ง 3 เหล่าของทั้ง 2 ฝ่ายครับ
4.เมื่อไหร่ไทยเราจะซื้อรถถังใหม่ๆซักทีครับ เพราะตอนนี้โลกเริ่มมีความขัดแย้งกันมากขึ้น อีกทั้งรถถังเราก็น่าจะไม่พอด้วย
ผมว่าหลังๆมาตั้งแต่ข้อพิพาทระหว่าง ไทย-เขมร ปะทุขึ้นหลายชาติก็เริมมาตรวจสอบเขตแดนตัวเองอย่างจริงจังขึ้นมาบ้องแล้วครับ
ขออภัยครับพิมพ์ตกไปเยอะ
1.ในภาพแรกรถถังชื่ออะไรครับ และเป็นของประเทศอะไรครับ ใช่ ไทป์-59 ของบังคลาเทศ หรือเปล่าครับ
2.รบกันจริงฝ่ายไหนได้เปรียบครับ
3.อยากเห็นภาพและกับเปรียบเทียบอาวุธทั้ง 3 เหล่าของทั้ง 2 ฝ่ายครับ
4.เมื่อไหร่ไทยเราจะซื้อรถถังใหม่ๆซักทีครับ เพราะตอนนี้โลกเริ่มมีความขัดแย้งกันมากขึ้น อีกทั้งรถถังเราก็น่าจะไม่พอด้วย
ผมว่าหลังๆมาตั้งแต่ข้อพิพาทระหว่าง ไทย-เขมร ปะทุขึ้นหลายชาติก็เริมมาตรวจสอบเขตแดนตัวเองอย่างจริงจังขึ้นมาบ้องแล้วครับ
ถ้าลุยกันจริงพม่าเจ็บ เพราะบังคลาเทศ มีกองทัพสมัยใหม่(ตามแบบมาตราฐานจีน)มานาน มาอาวุธตลอดจนความชำนาญงานเฉพาะทางที่ดีกว่า พูดง่ายๆ เครื่องบินดีเหมือนกัน ความต่างจึงอยู่ที่นักบิน ซึ่งใบฎีกานี้อยู่ที่บังคลาเทศ เห็นด้วยกับคุณ Panty Boy 3:2 ครับ
น่าสนใจอยู่นะครับ คู่นี้
การศึก ไม่ได้วัดกันที่อาวุธอย่างเดียวนะครับ
สงครามเวียตนาม สงครามอัฟกัน (ยุครัสเซีย) คือตัวอย่างที่ดี
สองประเทศนี้ผ่านศึกภายในมาไม่น้อย ฝีมือคงพอกัน
แต่ หน่วยข่าวกรองของพม่า ติดอันดับโลกนะครับ
แล้วหน่วยข่าวกรองของบังคลาเทศ ล่ะ?
ใครต่อพี่บัง ผมรอง....