อืมนั่งคิดอยู่นานนะครับว่าจะตั้งดีหรือเปล่า แต่ถ้าไม่ตั้งมันก็ยังค้างคาใจอยู่นะครับ พี่ๆช่วยตอบหน่อยนะครับ
1.พี่คิดว่าฮ. ปราบเรือดำน้ำ ของเราตอนนี้ สภาพเพียงพอแล้วหรอครับกับการปราบปรามเรือดำน้ำ เห็นเราใจเย็นกันเหลือเกิน ไม่จัดหาเรือดำน้ำซักที แล้วโครงการ อัพเดรต ซี ฮอร์ค ของเรานี้รวมถึงการจัดหา อาวุธปล่อยด้วยหรือเปล่าครับ
2.กรณีที่มีเรือดำน้ำต่างชาติมาปิดอ่าวไทยเรา คิดว่าขีดความสามารถของเรือรบ+ฮ.ปราบเรือดำน้ำของ ท.ร.เราทั้งหมด จะสามารถไล่ล่าเรือดำน้ำได้หรือเปล่าครับ ณ.สภาพปัจจุบันนี้
3.พี่ๆ คิดว่า ท.ร.เราควรจัดหาฮ.แจ้งเตือนภัยทางอากาศประจำกองเรือหรือเปล่าครับและคุ้มค่าแค่ไหน ผมว่ามันจะมีประโยชน์ อ่อนตัว และถูกกว่าบ.แจ้งเตือนภัยทางอากาศ นะครับ เหมาะสมกับท.ร.ของเราที่งบประมาณน้อย และเพื่อความอยู่รอดของกองเรือ
4.ผมอยากให้ท.ร.เห็นความสำคัญของความอยู่รอดของเรือรบจังเลย อยากให้จัดหาระบบป้องกันตัวเองติดเรือรบให้มันดีกว่าที่เป็นอยู่อย่างงี้ซักที ซื้ออาวุธป้องกันตัว ดีกว่าถูกกว่า ซื้อเรือใหม่เมื่อโดนยิงจมนะครับ ยิ่งเรือจักรีฯ ของเรานี่อาวุธป้องกันตัวน้อยๆ โอกาสล่มสูงมากอยากให้จัดหาระบบอาวุธป้องกันตัวมาติดซักที พี่ๆเห็นด้วยใหมครับ แล้วพี่คิดว่า ระบบป้องกันตัวชนิดใหน เหมาะ และคุ้มค่าที่สุดกับท.ร.เรา อืมแล้ว ปืนOTO MALALA 76 ม.ม. เป็นปืนหลักของท.ร.เราใช่ใหมครับ แล้วมันจะเสียเปรียบหรือเปล่าครับเมื่อศัตรูมีปืนเรือที่ใหญ่กว่า อย่าง 100 ม.ม. หรือ 125 ม.ม ทำไมท.ร.ไม่เอาปืนที่มีขนาดใหญ่หรือเท่า 100ม.ม. เป็นปืนหลักหรือครับ แต่ถ้าเป็น OTO อยากให้เป็นรุ่นอัฟเกรดจัดเลย สวยมาก ไม่ทราบว่าราคามันต่างกันมากหรือเปล่าครับ จากรุ่นปกติ
ป.ล.มันเป็นปัญหาค้างคาใจครับ ถามเหมือนเด็กๆไปหน่อย เป็นปัญหาจุกจิกน่ะครับ รบกวนตอบหน่อยนะครับ
ตอบข้อที่ 1...มันคงไม่พอ...ถ้าพอ...คงไม่ อัพเกรด
ตอบข้อที่ 2...ถ้าได้...แล้วจะอยากมี เรือดำน้ำ ทำไม...แล้วประเทศอื่น...จะซื้อเรือดำน้ำ ทำไม...(แล้วถามทำไม ?)
ตอบข้อที่ 3...มันก็ควรจะมี...แต่ขณะนี้...ขนาด ฮ. ของบประมาณเพื่อมีอุปกรณ์ ตรวจจับเรือดำน้ำ...ยังเป็นปัญหาซะ ขนาดนี้...ก็คง ขอให้มี ฮ. ปราบเรือดำน้ำแบบ จริง ๆ ซัก 3 ลำ ก่อนดีกว่า ครับ...แล้วค่อยมานึกถึง ฮ. เตือนภัยทางอากาศ...
ตอบข้อที่ 4...ระบบปืน 76 ม.ม. หรือ 127 ม.ม. ก็เป็นระบบป้องกันภัยทางอากาศชนิดหนึ่ง...แต่สำคัญที่ว่า...การเตรียมพร้อมของ บุคคลากร บนเรือเอง...มีความพร้อมขนาดไหน...เพราะแม้แต่ในสงครามฟอร์คแลนด์...แม้เรือจะมีระบบป้องกันภัยทางอากาศดีขนาดไหน (ในสมัยนั้น และน่าจะมากกว่า ทร.ไทย ในปัจจุบัน) ก็ไม่สามารถจะช่วยอะไรได้...และแม้แต่ เรือ USS.Cole เรือชั้นล่าสุดของ สหรัฐ (ซึ่งดีกว่า เรือของ ทร.ไทย ในปัจจุบัน) ก็ไม่สามารถจะป้องกันภัยได้...และแม้แต่ เรือชั้น ซาร์ของ อิสราเอล แม้จะมีระบบอาวุธป้องกันตนเองที่ดี (มีระบบป้องกันภัย ที่ดีกว่าเรือของ ทร.ไทย) ก็ไม่สามารถป้องกันตนเองได้....
ดังนั้น ประเด็นว่า มีระบบอาวุธประจำบนเรือ...ก็ไม่สามารถตอบปัญหาได้หมด...ถ้า บุคคลากร ของเรือไม่มีความพร้อม หรือ เกิดความประมาท....
จึงอยู่ที่ว่า...ในการป้องกันตนเอง...กองทัพไทย จะยอมรับได้หรือเปล่า ? ถ้าต้องมีการทำลายเพื่อป้องกันความเสี่ยง...เช่นเดียวกับ รัสเซีย ที่เครื่องบินรบ ต้องยิงทำลาย เครื่องบินโดยสารของ เกาหลีใต้...เนื่องจาก บินผิดเส้นทาง เนื่องจากความผิดพลาดอะไรก็ตามแต่...หรือ เกิดการดวลปืนของเรือรบระหว่าง เกาหลีเหนือ กับ เกาหลีใต้....ซึ่งเมื่อเกิดเหตุการณ์นั้น เกิดขึ้น...กองทัพไทย จะแก้ปัญหาอย่างไร จะมีแนวคิดอย่างไร...คิดกันไว้หรือยัง ?
โดยรวม
ประเทศไทยจัดอยู่ในกลุ่มประเทศด้อยพัฒนา แต่ไม่ถึงกับล้าหลัง และไม่ได้เป็นประเทศที่ร่ำรวยนัก
ซึ่งในสามเหล่าทัพ ผมค่อนข้างวางใจในเรื่องของการจัดหาอาวุธเข้าประจำการของกองทัพเรือ มากกว่าเหล่าทัพอื่นๆ เรื่องภัยคุกคามจากเรือดำน้ำ และการจัดหาเรือดำน้ำเข้าประจำการนี่ ยังไงก็เกี่ยวข้องกับเรื่องการเมือง ซึ่งสมัยหนึ่งเราเกือบมีเรือดำน้ำไว้ใช้งานแล้ว แต่ก็มีพรรคการเมืองพรรคหนึ่งสร้างหลักฐานเท็จว่ารัฐบาลตอนนั้นรับสินบน เลยชวดไป
ถ้าจะพูดกันให้สะใจ ก็คืออาวุธที่ประจำการอยู่ในกองทัพไทยยังไม่เพียงพอกับการรับมือจากการรุกรานอย่างเต็มรูปแบบจากประเทศรอบข้าง
เอาง่ายๆ กระสุนปืนเล็กยาว เรามีสำรองสำหรับทำการรบได้กี่วัน อาวุธที่มีประจำการอยู่ ได้รับการซ่อมบำรุงให้มีความพร้อมใช้งาน อยู่ที่กี่เปอร์เซ็นต์
ไทยจะรบกับใครก็ได้ แต่จะมันเท่ากับ ไทยรบกันเองหรือไม่
สีเหลือง สีแดง สีน้ำงเงินในตัวท่าน ลงถังเถอะครับ