อันล๊อคไงครับ (AnLoc) ตอนปลายๆสงครามแล้ว เวียดนามเหนือเห็นว่ามะกันกำลังถอนทหารออกจากเวียดนาใต้ ก็เลยคิดแผนโจมตีเพื่อเผด็จศึกทางตอนใต้ จากการนำของท่านนายพล โวเหวียนเกี๊ยบ โดยวางกำลังทหารสามแสนคน (ถ้าจำไม่ผิดนะ) โจมตีทั้งสามครั้ง ครั้งแรกลุยเขตปลอดทหารทางใต้ลงมาถึงเมืองอันล๊อค โดนมีรถถัง T-55 ตามด้วยทหารราบ จู่โจมอย่างฉับพลันจนทำให้ทหารเวียดนามใต้แตกพ่ายไม่เป็นขบวน ครั้งที่สองจู่โจมข้ามชายแดนเขมรด้านตะวันตก รุกอย่างเร็วจนยึดถนนสายสำคัญๆได้สำเร็จ ครั้งที่สามบริเวณชายฝั่งด้านตะวันออก......
จุดพลิกผันคือ จากที่ทหารเวียดนามใต้แตกพ่ายก็พยายามรวมกำลังต้านอย่างเหนียวแน่น แต่ที่สำคัญคือกำลังทางอากาศของพี่มะกันที่ระดมทิ้งระเบิดใส่ที่ชุมนุนทหารอย่างหนัก จนทำให้อ่อนกำลังลง และเพราะการยุทธที่กระจายทหารออกมากจนเกินไป แทนที่จะรวมตัวกัน จนสุดท้ายพี่เวียดนามเหนือก็ต้องถอยกลับด้านเหนือตามเดิม พร้อมทหารที่สูญเสียไปถึงแสนคน......

Source : สงครามเวียดนาม การรบขั้นแตกหัก ของพลอากาศตรีปรีชา ศรีวาลัย

ปล. ผิดพลาดประการใดก็ขออภัยนะครับ เพราะอ่านมานานแล้ว (แต่หลายร้อยรอบนะ)

ตะกี้ว่าจะตอบดันล็อกอินหลุด(ฮา)

สงครามเวียดนามนั้น เป็นสงครามที่ภูมิประเทศจำกัดเยอะครับ เพราะมีแต่แม่น้ำ ภูเขา ครั้นจะเอารถถังไปลุยก็ชอบติดล่มโคลนวิ่งต่อไปไม่ได้ ให้พวกวีซีหัวเราะเยาะเล่นหรือเผลอๆก็แจกหัวปลีและปลาร้าสับ(ปรส.)มาชุดใหญ่คุ้มไปเลย ดังนั้นการที่จะให้เกิดสมรภูมิรถถังใหญ่แบบที่เคิร์สค์ (Battle of Kursk) นั้นเป็นไปไม่ได้ครับ อย่าลืมนะครับว่าสมรภูมิเคิร์สค์เป็นการรบด้วยรถถังที่ใหญ่ที่สุดในโลก มีการใช้รถถังของทั้งโซเวียตและเยอรมันรวมกันเป็นพันคัน เวียดนามเหนือและเวียดนามใต้ไม่มีรถถังเยอะขนาดนั้นหรอกครับ

ตามที่ท่านVictor Flanker   ตอบไปแล้วนั้นการรบที่อันล็อคเป็นการรบใหญ่ในสงครามเวียดนามที่ใช้รถถังเข้าห้ำหันกันครับ ในเวลานั้นทั้งสองฝ่ายต่างได้แบ็กหนุนหลังจากพี่เบิ้ม

ฝ่ายเวียดนามใต้
รถถังแพ็ตตัน เอ็ม48,วอคเกอร์บูลด็อก เอ็ม41, ปรส.75,106มม. เครื่องยิงจรวด66มม. เอ็ม72

ฝ่ายเวียดนามเหนือ รถถังที54/55 รถถังที34/85 พีที76 ปรส.นานาชนิด  อาร์พีจี2&7 และเครื่องยิงจรวดนำวิถีด้วยเส้นลวดรุ่นใหม่ล่าสุดจากโซเวียต เอที-3 แซกเกอร์ ที่อียิปต์ใช้กับรถถังอิสราเอลซะจนย่ำแย่

ฝ่ายสหรัฐฯ สนับสนุนกำลังภาคพื้นดินเวียดนามใต้ ด้วยอากาศยานนานาชนิด ใช้จรวดอากาศสู่พื้น ปืนใหญ่อากาศ ลูกระเบิด นอกจากนี้ยังมีการใช้อาวุธใหม่ คือโทว์จรวดยิงจากฮ.คอบบร้านำวิถีด้วยเส้นลวด ออกมาแบบมาเพื่อจัดการกับรถถังโดนเฉพาะ ไม่นับเครื่องสเป็กเตอร์ยิงปืน105มม.จากบนฟ้า และห่าฝนลูกระเบิดจากบี52

    จะเห็นว่ากำลังทางอากาศของสหรัฐ เป็นตัวแปลสำคัญที่ทำให้การรบด้วยรถถังของเวียดนามเหนือล้มเหลว เพราะเครื่องบินสหรัฐฯเล่นสอยรถถังเวียดนามเหนือเสียจนเรียบ เราเลยไม่เห็นฝีมือการใช้รถถังของเวียดนามใต้ซะเท่าไหร่ จะเรียกว่าไม่แฟร์ก็คงถูก ถึงแม้ทางเวียดนามเหนือจะพยายามแก้เกมส์ด้วยการใช้ปตอ.ยิงป้องกันอย่างถี่ยิบ รวมทั้งมีการใช้เครื่องยิงจรวดประทับบ่ารู้ใหม่ล่าสุดจากโซเวียตคือ เอสเอ 7 สเตรล่า แต่ก็ยังสกัดไม่ไหว

 

ไหนๆก็ไหนๆจะขอเล่าประวัติการใช้รถถังในเวียดนามครับ

    ประเทศแรกที่นำรถถังมาใช้ในสงครามเวียดนามก็คือ ฝรั่งเศสเจ้าอาณานิคมนี่แหละครับ โดยใช้รถถังที่มะกันทุ่มทุนให้ ดังนั้นมะกันก็น่าจะเห็นตัวอย่างจากฝรั่งเศสมาแล้วว่า ถึงจะมีอำนาจการยิงด้วยยานเกราะที่เคลื่อนที่ได้เร็ว แต่ก็ไม่สามารถนำสงครามเคลื่อนที่ด้วยยานเกราะที่ใช้กันเกลื่อนในสงครามโลกครั้งที่สองมาใช้ในเวียดนามได้ ป่าไม้ที่ปกรกทึบ ทุ่งนา ฝนตกหนักจนพื้นเป็นโคลนตม ภูเขาสูง และแม่น้ำลำคลองที่มีเต็มไปหมดล้วนแต่เป็นอุปสรรค์แก่การทำสงครามรถถังยิ่ง

    เช่นเดียวกับกองทัพเยอรมันในช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง ในตอนแรกที่ใช้รถถังตะลุยบุกไปทั่วยุโรปได้ ก็เพราะถนนในยุโรปมีการคมนาคมที่ดีเยี่ยม สามารถบึ่งตะลุยเข้าเมืองแต่ละเมืองได้อย่างรวดเร็ว เยอรมันมารู้ตัวอีกทีเมื่อทำการรุกรานรัสเซียที่สุดจะทุรกันดาร ไม่มีถนนปูด้วยคอนกรีตอย่างในยุโรป หนทางก็สุดแสบจะไกลสุดลูกหูลูตา เรียกว่าวิ่งมันทั้งวันก็ยังไปไม่ถึงอีกเมืองหรือไม่เจออะไรเลย หน่ำซ้ำกองทัพแดงก็ใช้วิธีเดียวกับที่รัสเซียเคยใช้กับนโปเลียน คือเผามันวอดทุกอย่างไม่ให้เยอรมันได้ใช้ประโยชน์ ไม่มีอะไรเหลือให้เยอรมันเลยกองทัพแดงขนไปเสียหมด หมู่บ้านจะใช้ซุกหัวนอนก็ยังโดนเผาไม่มีเหลือ เรียกว่าความทุรกันดารของรัสเซียทำประโยชน์ในการชะลอรถถังของเยอรมันได้อย่างไม่น่าเชื่อ

     ฝรั่งเศสมาบุกเวียดนามอีกครั้งอย่างย่ามใจ ด้วยกำลังทะนงตนว่ากะอีแค่ชาวเวียดนามจะมาสู้กองทัพที่แกร่งที่สุดในยุคนั้นได้อย่างไร? จริงอยู่ที่ฝรั่งเศสในตอนนั้นมีอาวุธที่แข็งแกร่งมาก ไม่ว่าจะเป็นรถถัง ปืนใหญ่ เรือรบ และเครื่องบินโจมตี รถถังดาวเด่นของฝรั่งเศสในอินโดจีนก็คือ รถถังเบาเอ็ม24 เชฟฟี่ นอกจากนี้ก็มีการนำยานสะเทินน้ำสะเทินบก แอลวีที4 มาใช้ข้ามภูมิประเทศแม่น้ำ ส่วนเวียดมินห์นั้นไม่มีรถถังสักคัน อาวุธต่อสู้รถถังก็ไม่มีเลยในช่วงแรกๆ ดังนั้นพวกเวียดมินห์มักจะหลีกเลี่ยงที่จะปะทะกับรถถังของฝรั่งเศส

    แต่เมื่อจีนแตกก็ถึงคราวซวยของฝรั่งเศส เวียดมินห์ได้รับอาวุธเสบียงกระสุนจากจีนแดง โซเวียตไม่อั้น วันดีคืนดีรถถังฝรั่งเศสก็โดนกับระเบิด บาซูก้า ปรส.ประเค็นใส่เพียบ สมรภูมิสุดท้ายที่เดียนเบียนฟูรถถังเอ็ม24ของฝรั่งเศสก็ออกไปทำซ่าส์ไม่ได้เลยเพราะปืนใหญ่ตกเต็มไปหมด สุดท้ายก็ถูกเวียดมินห์ยึดได้ และเอาไปขับเล่นฉลองกันใหญ่

   ในสงครามเวียดนามช่วงแรกๆ เวียดกงก็หลีกเลี่ยงที่จะปะทะกับรถถังและยานเกราะ แต่เมื่อได้อาวุธจากเวียดนามเหนือที่รับจากจีนและโซเวียตมาก็เริ่มซ่าส์ เวียดกงแก้เกมส์รถถังมะกันด้วยการติดอาวุธต่อสู้รถถังเต็มพิกัด

  ท่อยิงหัวปลีอาร์พีจี2และ7 ปรส.57,75,106มม. กับระเบิดต่อสู้รถถัง ลูกระเบิดยิง/ขว้างต่อสู้รถถังนานาชนิด ถูกนำมาใช้ต่อกรกับรถถังมะกัน ได้ผลบ้างไม่ได้ผลบ้าง แต่ช่วงหลังๆก็เล่นแรงขึ้นใช้ปืนต่อสู้รถถังทั้ง76,85จนถึง100มม. ร้ายสุดก็เครื่องยิงจรวดแบบกระเป๋าถือ เอที-3แซกเกอร์ควบคุมได้ด้วยเส้นลวดทำเอารถถังเวียดนามใต้ในปี1972ย่ำแย่

   สมรภูมิที่ใช้รถถังห้ำหันกันหนักที่สุดผมว่าเป็นสงครามรุกใหญ่ในปี 1975ครับ เวียดนามเหนือเริ่มยุทธการโฮจิมินห์ใช้รถถังอย่างขนานใหญ่มากทั้งของโซเวียตและจีนในขณะที่เวียดนามใต้ก็งัดรถถังทั้งประเทศมาสู้ แต่ส่วนใหญ่สู้แป้บเดียวเพราะถอยกันหมด หลังสงครามเวียดนามยึดรถถังและอาวุธมะกันได้หลายรายการ แล้วเอาไปใช้บุกเขมรต่อ