สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุม ครม.วันที่ 22 ก.ย.
กระทรวงกลาโหมขออนุมัติให้กองทัพเรือก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณ
โครงการพัฒนาขีดความสามารถ ในการปราบเรือดำน้ำเฮลิคอปเตอร์ปราบเรือดำน้ำแบบ SEA
HAWK ในราคายกเว้นค่าอากรทางศุลกากร แต่รวมภาษีมูลค่าเพิ่มและค่าใช้จ่ายทั้งปวง
วงเงิน 989,985,400 บาท ระยะเวลาดำเนินการ 3 ปี ดังนี้ ปีงบฯ 52 จำนวน 197,997,080
บาท ปีงบฯ 53 จำนวน 386,094,306 บาท ปีงบฯ 54 จำนวน 405,894,014 บาท
เพื่อพัฒนาเฮลิคอปเตอร์ SEA HAWK ที่
ทร.ได้จัดซื้อโดยวิธีพิเศษในขั้นไม่ผูกพันงบประมาณ ให้บริษัท ล็อกซเล่ย์ จำกัด
(มหาชน) จัดหาระบบโซนาร์แบบชักหย่อน และปรับปรุงระบบควบคุมและประมวลผลทางยุทธวิธี
รุ่น ASN-15 (V) จากบริษัท L3 COMMUNICATION OCEAN SYSTEM สหรัฐอเมริกา และ
ทร.ยังขออนุมัติก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณ โครงการจัดหาเรือตรวจการใกล้ฝั่ง 3 ลำ
วงเงิน 1,603,177,084.27 บาท จากบริษัทมาร์ซัน ระยะเวลาดำเนินการ 3 ปี ตั้งแต่ปีงบฯ
52 จำนวน 314 ล้านบาท ปีงบฯ 53 จำนวน 628 ล้านบาท และปีงบฯ 54 จำนวน 661,177,084.27
บาท เพื่อภารกิจลาดตระเวนตรวจการรักษาฝั่ง ป้องกันการแทรกซึม เป็นต้น
http://www.thairath.co.th/today/view/34387
ความคิดเห็นที่ 1
ในส่วนของ ฮ. น่าจะเป็นเรื่องงบจัดหาอุปกรณ์ติดตั้งและยกระดับมากกว่าจะเป็นการจัดซื้อ ฮ.เพิ่มครับ...อันนี้ต้องเห็นใจและยกมือสนับสนุน เพื่อ ฮ.ซีฮอว์ค จะได้เป็น ฮ.ค้นหาและปราบเรือดำน้ำเต็มรูปแบบ...ต้องสนับสนุนเพราะเพื่อนบ้านเพิ่งรับเรือดำน้ำเพิ่ม..ฮึๆๆๆๆ
โดยคุณ
ท้าวทองไหล เมื่อวันที่
21/09/2009 00:01:58
ความคิดเห็นที่ 2
รักทัพเรือจริงๆ ค่อยๆต่อจิ๊กซอว์ไปเรื่อยๆด้วยความอดทน
โดยคุณ PLUTO เมื่อวันที่
21/09/2009 00:35:12
ความคิดเห็นที่ 3
ต้องขอชม ผบ.ทร. พล.ร.อ.กำธร พุ่มหิรัญ...ด้วยครับ
เพราะในระยะนี้ ทร. วางตัวได้ดีครับ...ทั้งในเรื่อง การจัดหาอาวุธ...การเมือง...และการเปิดเผยข้อมูล....
ในความเห็นผม...ถ้า รัฐธรรมนูญ จัดวางตำแหน่ง กองทัพเรือ ให้ดี ๆ...นอกจากจะสร้างความมั่นคงทางการเมืองให้กับประเทศแล้ว....จะยังสามารถสร้างความมั่นคงให้กับ ภูมิภาค ASIAN ได้ระดับหนึ่งด้วย...แต่คงยังไม่ขอกล่าวในตอนนี้นะครับ...(เพราะ แค่คิดเล่น ๆ เบื้องต้น...ยังไม่ได้ประมวลผล...แต่มองดูแล้วมันก็ตอบปัญหาที่เกิดซ้ำซาก...ได้เหมือนกัน...)
โดยคุณ
juldas เมื่อวันที่
21/09/2009 00:51:55
ความคิดเห็นที่ 4
ตอนแรกผมคิดว่า หนังสือพิมพ์ลงผิด คิดว่าเป็นการจัดหา Super Lynx 300 เพิ่มเติมซะอีก แต่ที่ไหนได้ หน้าแตกเลยตู 5555+ เห็นด้วยอย่างยิ่งครับมั๊กๆๆๆๆมาก เลยที่ท.ร.จะปรับปรุง Sea Hawk ซักทีหลังจากที่ไม่มีเครื่องประดับมานาน เห็นท.ร.บอกว่าต้องการ โซน่าแบบชักหย่อน ส่วนตัวผมคิดว่าคงเป็น โซโนบุ๊ย แน่นอนเลย ซึ่งถ้า ท.ร. จัดหา โซโนบุ๊ย มาประจำการ มันก็จะทำให้ประสิทธิถาพ การบูรณาการประสานงานการไล่ล่าเรือดำน้ำ มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ส่วนตัวคงเป็นเพราะว่าท.ร. คงเห็นผลกระทบจากภัยคุกคามเรือดำน้ำของเพื่อนบ้านทางใต้เรา เป็นการพัฒนาที่ผมเห็นด้วยแบบสุดๆ ไปเลยครับ ถ้าเรือดำน้ำมาด้วยยิ่งดีกว่านี้อีก แล้วโครงการจัดหา Super Lynx ของท.ร. ตอนนี้ไม่ทราบว่าไปถึงไหนแล้วครับ ใครมีข้อมูลเพื่มเติมบ้างเอ่ย แต่จริงๆ ผมอยากให้ท.ร. จัดหาตอร์ปิโด และจรวดต่อต้านเรือผิวน้ำมาใส่ให้กับ Super Lynx กับSea hawk ซักทีและพวกเรด้าร์พิสูจน์ฝ่ายด้วย จะได้ Full option ซักที ช่วงนี้โครงการณ์พัฒนาท.ร. เยอะนะครับ อยากให้สำเร็จทุกโครงการณ์เลย
รักกองทัพเรือจริงๆ หนทางยังอีกไกล สู้ต่อไปกองทัพเรือ CC
โดยคุณ
champ thai army เมื่อวันที่
21/09/2009 01:33:25
ความคิดเห็นที่ 5
"โครงการจัดหาเรือตรวจการใกล้ฝั่ง 3 ลำ วงเงิน 1,603,177,084.27 บาท จากบริษัทมาร์ซัน"
อันนี้น่าสนใจที่ เป็นเรือ OPV. ชุดเดียวกับลำที่กำลังทำโครงการต่ออยู่ที่อู่มหิดล หรือไม่ เพราะข่าวว่า กองทัพเรือต้องการเรือชุดนี้ประมาณสี่ลำ ถ้าใช่ ถือว่างานนี้ อู่มาร์ซัน สอบผ่านเรื่องประสปการณ์และขีดความสามารถในการรองรับการจัดหาหรือสั่งต่อเรือให้กับกองทัพเรือได้เป็นอย่างดีครับ หลังจากที่ประสปผลสำเร็จในการต่อเรือชุด ต.991 อีกสองลำให้กับกองทัพเรือ ดูแล้วไม่แน่ต่อไป อู่บริษัทนี้อาจจะเป็นอู่เรือที่สามารถต่อเรือ ฟริเกต ให้กับกองทัพเรือได้ในอนาคตเลยนะนี่
โดยคุณ
เด็กทะเล เมื่อวันที่
21/09/2009 03:52:11
ความคิดเห็นที่ 6
ท่านเด็กทะเลครับ...เรือตรวจการณ์ใกล้ฝั่ง ครับ...บ่ ใช่...ไกลฝั่ง ครับ...น่าจะเป็น ต.994 - 996 ล่ะมั๊งครับ...
โดยคุณ
juldas เมื่อวันที่
21/09/2009 05:15:28
ความคิดเห็นที่ 7
อะจ๊าย ! ดูผิด เรือครวจการณ์ใกล้ฝั่ง ผมดูเป็น ไกลฝั่ง อิ อิ อายจัง....ขอบคุณ ป๋าจู ครับ ที่ท้วงติง
โดยคุณ
เด็กทะเล เมื่อวันที่
21/09/2009 06:45:30
ความคิดเห็นที่ 8
^
^
^
วัยชราเข้าครอบงำ
หูตาเริ่มฝ้าฟาง
โดยคุณ
nok เมื่อวันที่
21/09/2009 11:10:46
ความคิดเห็นที่ 9
กห.ของบหมื่นล้านซื้อยานยนต์
ผู้สื่อข่าวรายงานจากทำเนียบรัฐบาลว่า
ในการประชุม ครม. วันที่ 22 ก.ย. ซึ่งมีนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี
ในฐานะรักษาการนายกฯ เป็นประธานการประชุมแทนนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ
นายกฯที่อยู่ระหว่างปฏิบัติภารกิจที่สหรัฐอเมริกา กระทรวงกลาโหมจะเสนอ
ครม.อนุมัติโครงการจัดซื้ออาวุธยุทโธปกรณ์หลายรายการ
โดยขออนุมัติก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณ อาทิ
โครงการจัดหายานยนต์สายสรรพาวุธทดแทนของเก่าที่ใช้มานาน ใช้ระยะเวลาดำเนินการ 4 ปี
ตั้งแต่ปีงบประมาณ 52-55 วงเงิน 4,994,649,000 บาท นอกจากนี้
กระทรวงกลาโหมยังขออนุมัติให้กองบัญชาการกองทัพไทยก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณโครงการจัดหายานพาหนะและเครื่องจักรกลทดแทน
14 โครงการ เพื่อนำมาทดแทนของเดิมที่ชำรุด ระยะเวลาดำเนินการ 4 ปี
ตั้งแต่ปีงบประมาณ 52-55 วงเงิน 3,049,536,380 บาท
โดยได้จัดซื้อผ่านระบบอีเล็กทรอนิกส์คัดเลือกจากบริษัทสกาเวีย จำกัด บริษัทรอยัล
ชิก จำกัด และบริษัทเมก้าลิงค์ จำกัด
สตช.ขอ 81 ล้านซื้ออุปกรณ์ปราบม็อบ
ขณะเดียวกัน
สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) จะขออนุมัติงบกลางปีงบประมาณ 52
รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น สำหรับจัดหาอุปกรณ์ควบคุมฝูงชน
จำนวน 4 รายการ เป็นเงิน 81,058,250 บาท โดย สตช.รายงานว่า
เนื่องจากสถานการณ์ปัจจุบันยังมีแนวโน้มที่จะเกิดการชุมนุมต่างๆ
อาจจะเกิดความรุนแรง ทั้งในพื้นที่เขต กทม.และต่างจังหวัด
เพื่อให้การปฏิบัติหน้าที่รักษาความสงบเรียบร้อยของเจ้าหน้าที่ตำรวจมีขีดความสามารถเพิ่มขึ้น
มีอุปกรณ์เชิงรุกประจำกาย เพียงพอ มีขวัญกำลังใจดีขึ้น
ลดความสูญเสียในชีวิตและลดการบาดเจ็บของเจ้าหน้าที่ตำรวจและผู้ชุมนุม
โดยจะแจกจ่ายให้กับ บช.น. บช.ภ. 1-9 ศูนย์ปฏิบัติการตำรวจจังหวัดชายแดนภาคใต้ บช.ก.
และ ตชด. รวม 119 กองร้อย
http://www.thairath.co.th/today/view/34598
โดยคุณ
nok เมื่อวันที่
21/09/2009 22:40:45
ความคิดเห็นที่ 10
กลาโหมชงครม.ซื้ออาวุธหมื่นล้าน
วันนี้(22กันายน) ในการประชุมคณะรัฐมนตรีวันนี้ มีนายสุเทพ เทือกสุบรรณ
รองนายกรัฐมนตรีปฏิบัติราชการประธานการประชุมครม. แทนนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ
นายกรัฐมนตรี ที่เดินทางไปปฏิบัติภารกิจ ณ ประเทศสหรัฐ ระหว่างวันที่ 21-27 ก.ย.นี้
โดยมีวาระที่น่าสนใจคือ กระทรวงกลาโหม โดย พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รมว.กลาโหม
จะเสนอให้ครม. เห็นชอบอนุมัติก่อหนี้ผูกพันข้ามปี ในส่วนของงบกลางปี 2552 เพื่อ
จัดซื้ออาวุธ 4 โครงการ ประมาณกว่าหมื่นล้านบาท ประกอบด้วย 1.โครงการของกองทัพเรือ
ที่ขอก่อหนี้ผูกพันข้ามปี
โครงการพัฒนาขีดความสามารถในการปราบเรือดำน้ำเฮลิคอปเตอร์ปราบเรือดำน้ำแบบ SEA HAWK
6 ลำ ในราคายกเว้นค่าอากรทางศุลกากร แต่รวมภาษีมูลค่าเพิ่มและค่าใช้จ่าย วงเงิน 989
ล้านบาท ระยะเวลาดำเนินการ 3 ปี โดยปี 2552 จำนวน 197 ล้านบาท ปี 2553 จำนวน 386
ล้านบาท และปี 2554 จำนวน 405 ล้านบาท
ทั้งนี้ กระทรวงกลาโหมให้
เหตุผลว่าเพื่อให้มีขีดความสามารถพร้อมสมบูรณ์ตามที่ได้กำหนดไว้ในความต้อง
การใช้งานในราชการภารกิจปราบเรือดำน้ำร่วมกับเรือรบผิวน้ำของกองทัพเรือใน บทบาท
การป้องกันอธิปไตยของชาติทางทะเล และป้องปรามการใช้เรือ
ดำน้ำของฝ่ายตรงข้ามได้อย่างมีประสิทธิภาพสำหรับโครงการที่
2.เป็นการซื้อเรือตรวจการณ์ใกล้ชายฝั่ง 3 ลำ งบ ประมาณ 1,603 ล้านบาท
แบ่งเป็นจ้างจัดสร้าง 2 ลำ โดยบริษัท มาร์รีนซัน
และกองทัพเรือจัดซื้ออุปกรณ์ครุภัณฑ์ จัดสร้างเองอีก 1 ลำโครงการที่ 3.
เป็นโครงการจัดหายานยนต์สายสรรพาวุธ งบประมาณ 4,995 ล้านบาท แบ่งเป็นงบประมาณ ปี
2552 1,000 ล้านบาท ปี 2553 1,000 ล้านบาท ปี 2554 1,000 ล้านบาท และปี 2555 จำนวน
1,490 ล้านบาท และ 4.โครงการจัดหายานพาหนะและเครื่องจักรกลทดแทน งบประมาณ 3,449
ล้านบาท
นอกจากนี้ ทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.)
จะขออนุมัติงบประมาณจัดซื้ออุปกรณ์ควบคุมฝูงชนให้กับบช.น. 1-9 ศชต.บชก. และบช.ตชด.
งบประมาณ 81 ล้านบาท ในการจัดซื้ออุปกรณ์ป้องกันสะเก็ด ถุงมือ สายรัดข้อมือ
และกระบองยางด้วย
|
http://breakingnews.nationchannel.com/read.php?lang=th&newsid=406810
โดยคุณ
nok เมื่อวันที่
21/09/2009 23:05:02
ความคิดเห็นที่ 11
วุ้ย ! อีตาnok จะตอกย้ำกันไปถึงไหน ปาดธ่อ...แค่นี้ก็อายจะแย่แล้ว...
โดยคุณ
เด็กทะเล เมื่อวันที่
22/09/2009 07:11:10
ความคิดเห็นที่ 12
ครม.แจกแหลกงบจัดซื้อกลาโหม
นายศุภชัยกล่าวว่า
ครม. ได้อนุมัติก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณโครงการต่างๆ ของกระทรวงกลาโหม ดังนี้
โครงการจัดหายานยนต์ สายสรรพาวุธ ที่เป็นการจัดหายุทโธปกรณ์
ตามอัตราการจัดหายุทโธปกรณ์ที่กองทัพบกยังมีไม่ครบตามอัตรา รวมทั้งทดแทนยุทโธปกรณ์
เดิมที่เก่าล้าสมัย โดยใช้ระยะดำเนินการ 4 ปี ตั้งแต่ปี งบประมาณ 52-55 วงเงิน
4,994,649,000 บาท โครงการจัดหายานพาหนะและเครื่องจักรกลทดแทน
เพื่อนำมาทดแทนของเดิมที่มีการใช้งานเป็นระยะเวลานาน มีการชำรุดและเสื่อมสภาพ
โดยใช้ระยะเวลาดำเนินการ 4 ปี ตั้งแต่ปีงบประมาณ 52-55 วงเงิน 3,049,536,380 บาท
โครงการพัฒนาขีดความสามารถในการปราบเรือดำน้ำ เฮลิคอปเตอร์ปราบเรือดำน้ำแบบ SEA
HAWK ในราคายกเว้นค่าอากรทางศุลกากร แต่รวมภาษีมูลค่าเพิ่มและ ค่าใช้จ่าย
โดยใช้ระยะเวลาดำเนินการ 3 ปี ตั้งแต่ปีงบประมาณ 52-54 วงเงิน 989,985,400 บาท
โครงการจัดหาเรือตรวจการณ์ใกล้ฝั่ง จำนวน 3 ลำ ใช้เวลาดำเนินการ 3 ปี
ตั้งแต่ปีงบประมาณ 52-54 วงเงิน 1,603,177,084.27 บาท และโครงการจัดหาปืนเล็กยาว
ขนาด 5.56 มิลลิเมตร ระยะที่ 3 จากที่อนุมัติไว้เดิมเป็นจำนวน 14,264 กระบอก วงเงิน
28,570,792 ดอลลาร์สหรัฐฯ โดยวิธีพิเศษ ระยะเวลาดำเนินการ 3 ปี ตั้งแต่ปีงบประมาณ
52-54
http://www.thairath.co.th/today/view/34839
โดยคุณ
nok เมื่อวันที่
22/09/2009 23:08:33
ความคิดเห็นที่ 13
สุเทพแจงงบฯซื้ออาวุธเป็นงบฯผูกพันปี52
นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายความมั่นคง
ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่มีการตั้งข้อสังเกตุถึงการอนุมัติงบประมาณกว่าหมื่นล้านบาทในการจัดซื้ออาวุธให้กับกองทัพ
ว่า ขอเรียนว่าเมื่อวานนี้( 23
ก.ย.)ที่ได้มีการเสนอเรื่องเข้าสู่การพิจารณาของครม.นั้น
ไม่ใช่เรื่องขอการขออนุมัติงบประมาณใหม่ แต่เป็นเรื่องที่อนุมัติมาก่อนหน้านี้แล้ว
บางโครงการอนุมัติก่อนรัฐบาลนี้ด้วยซ้ำไป และมีการอนุมัติให้ก่อหนี้ผูกพันติดต่อกัน
เป็นต้น และแต่ละปีก็ค่อยๆตั้งงบประมาณไป แต่เมื่อวานนี้ ( 23 ก.ย.) ที่เสนอเข้า
ครม. เพราะกำลังทำสัญญาจัดซื้อจัดจ้างในงวดนี้ ปีงบประมาณ 2552
ซึ่งกำลังจะหมดปีงบประมาณ
ดังนั้นจึงต้องรีบไปดำเนินการเรื่องจัดซื้อจัดจ้างให้เรียบร้อย
จึงต้องมาขออนุมัติครม.ไม่ใช่ว่าเมื่อตนเป็นรักษาการนายกรัฐมนตรีแล้วจะมาอนุมัติงบประมาณเป็นหมื่นๆล้านบาท
เมื่อถามว่า
แต่วิธีการนี้คือเป็นวิธีการของข้าราชการประจำที่ชอบทำแบบมัดมือชกและมีการขอแบบวิธีพิเศษ
นายสุเทพ กล่าวว่า ไม่ใช่เรื่องของการมัดมือชก
ข้าราชการต้องปฏิบัติหน้าที่ตามที่รัฐบาลได้มอบหมายไป และการจัดซื้อจัดจ้าง
หรือการใช้งบประมาณบางอย่างเขาทำไม่ทันในเวลาปกติก็ต้องเร่งรัด
ต่อข้อถามว่าแต่ในเรื่องของความจำเป็นหากมองในแง่เศรษฐกิจขาลงแบบนี้ถือว่ามีความจำเป็นหรือไม่
นายสุเทพ กล่าวว่า ก็จำเป็น
แต่จะให้มากน้อยแค่ไหนก็เป็นดุลพินิจของรัฐบาลในแต่ละยุค
อย่างกรณีที่มีการอนุมัติเฮลิปคอปเตอร์ที่ใช้ปราบเรือดำน้ำถามว่ามีความจำเป็นหรือไม่
รัฐบาลได้มีการพิจารณามาก่อนหน้านี้แล้วว่ามีความจำเป็น
เพราะบ้านเมืองเราไม่มีอาวุธชนิดนี้
เรามีผลประโยชน์ของประเทศมากมายที่จะต้องดูแลในน่านน้ำไทย
ประเทศอื่นๆข้างประเทศไทยได้มีการใช้เรือดำน้ำ และถ้าเกิดเขาเข้ามารุกราน
ฝ่ายทหารเขาก็ต้องคิดว่ามีความจำเป็น |
http://breakingnews.nationchannel.com/read.php?lang=th&newsid=407023
โดยคุณ
nok เมื่อวันที่
23/09/2009 00:59:02
ความคิดเห็นที่ 14
อืม เห็นด้วยอย่างมากครับ แต่อยากให้ มีการอนุมัติเครื่องบินขับไล่ให้ครบฝูงโดยเร็วครับ ส่วนเรือดำน้ำนั้นคาดว่าอนาคตอันใกล้ เราจะได้เห็นแล้วครับ ^^ เมื่อกี้นี้ดูข่าวเรื่องนี้ด้วย ทั้งทีวีไทยและช่อง 11 มีการนำภาพแฮริเออร์ลงบน 911 ด้วยครับ ว้าว คิดถึงจัง ทั้ง 2 ช่องนี้ทำรายงานข่าวโดยแสดงให้เห็นถึงความจำเป็นเพื่อต่อกรกับประเทศเพื่อนบ้านครับ อยากให้ทุกช่องช่วยเชียร์และอธิบายให้ประชาชนได้ทราบถึงความจำเป็นจะเป็นสิ่งที่ดีมากๆครับ
โดยคุณ
Nine เมื่อวันที่
23/09/2009 08:47:23