สวยงามครับท่าน ^^

ดูเหมือนจะไม่มีโรงเก็บ ฮ. ครับ

ขอให้ประสบความสำเร็จด้วยดีครับ...

เห็นแบบ และความตั้งใจแล้ว...งานนี้ ผมว่า...จบ...ครับ...

OPV ใหม่ จำนวน 4 ลำ...วงเงินงบประมาณ รวมน่าจะประมาณ 6,000 ล้านบาท...(ลำแรก วงเงิน 1,700 ล้านบาท ลำต่อ ๆ ไป น่าจะมีมูลค่าที่ลดลง)

เรือ OPV ชั้น ปัตตานี จำนวน 2 ลำ

เรือ OPV ต่อภายในประเทศ มีจำนวน 4 ลำ

รวม 6 ลำ

น่าจะจบความต้องการของ ทร. ได้ครบ...อุปสรรคเดียว คือ...เงิน..เท่านั้น

และถ้าภาครัฐ สนับสนุนให้เป็นอุตสาหกรรม...อาจจะถึงขั้น จำหน่ายให้กับ ต่างประเทศได้ด้วย...เช่น บรูไน บังคลาเทศ ฟิลิปปินส์...(ความเห็นส่วนตัว...สเปคเรือ ในความต้องการจะใกล้เคียงกัน ในขณะที่ ราคาไม่สูง (งบประมาณน้อย ยกเว้น บรูไน ที่มี เงิน และมี OPV ที่สมรรถะสูง (เกินไปรึเปล่า?) แต่ไม่ได้ปฏิบัติภาระกิจ เนื่องจากเหตุ-ผล อะไรก็ตามแต่...ซึ่งก็สรุปได้ว่า...ยังมีความต้องการเรือขนาด OPV อยู่....และมีความสัมพันธ์ทางการทหารที่ดี และไม่มีผลประโยชน์ทับซ้อนกับประเทศไทย)

คราวนี้ ก็คงถึงเรื่อง เรือดำน้ำ...กับ การปรับปรุง เรือชั้น นเรศวร...ที่นอกจาก อุปสรรค เรื่อง...เงิน...แล้ว น่าจะยังมีอีกหลายเรื่องทีเดียว...

ท่าน Juldas ครับ  เห็นด้วยครับว่าบรูไนไม่มีปัญหาเรื่องเงิน  แต่เขาคงมีปัยหาเรื่องจำนวนทหารมากกว่า  มีเงินต่อเรือ แต่ไม่มีบุคลากรพอ ผมว่าอนาคตประเทศไทย น่าจะร่วมมือและประสานผลประโยชน์ทางทะเลกับบรูไนให้มากๆ พึ่งพาอาศัยกัน เช่น เรือรบของเขา แต่ใช้บุคลากรของเรา ฝากการบังคับบัญชาไว้กับเขา  คล้ายๆ ทหารรับจ้าง แต่เป็นผลประโยชน์ทางทะเลร่วมกัน  ทางบรูไนได้ประโยชน์ด้านปกป้องอาณาเขตและทรัพยากร ขณะที่ไทยอาจได้เรื่องน้ำมัน ทักษะของกำลังพล หรือยุทธศาสตร์ที่อย่างน้อย มาเลย์ เวียดนาม เขมร อาจต้องพะวงกับการที่เรามีความสัมพันธ์ทางทหารกับบรูไน

ปล. ไม่ทราบว่าฐานทัพเรือของท่าน juldas ถึงไหนแล้วครับ

เรื่อง เรือ OPV ของ บรูไน...ผมว่า บุคลากร อาจจะมี แต่ในเรื่อง เทคโนโลยี่ของเรือ บุคคลากรอาจจะยังมีประสบการณ์ไม่เพียงพอในปัจจุบัน...(อาจจะต้องใช้เวลาอีกหน่อย)....แต่ในเรื่องความต้องการของเรือขนาด OPV ผมว่า บรูไน ยังมีความต้องการอยู่...

ซึ่งตาม สเปค พื้นฐานที่ ทร. กำลังต่ออยู่...บุคคลากรของ บรูไน น่าจะรองรับได้ไม่มีปัญหา....และมีความคงทนทะเล...ปฏิบัติการในในระยะไกล ซึ่ง ปัจจุบัน บรูไน ยังไม่มีเรือในขนาดนี้ ส่วนใหญ่เป็น เรือเร็วโจมตี...ความเห็นผมจึง มองว่า บรูไน ยังมีความต้องการ เรือ OPV อยู่...

ในส่วนของ OPV ปัจจุบันของ บรูไน...สมรรถนะ...อาจจะเกินความจำเป็นอยู่...และถ้าจะแล่นหาประสบการณ์บ่อย ๆ...อาจจะเกิดความรู้สึกที่ไม่ดี ระหว่าง บรูไน กับ มาเลเซีย...เอง...(เพราะ น่านน้ำ มันน่าจะ โค-ตะ-ระ ทับซ้อน)

แต่ถ้าเป็น OPV ที่เป็น เรือตรวจการณ์จริง ๆ ตาม สเปค ที่ ทร. กำลังดำเนินการ...น่าจะตรงกับความต้องการของ บรูไน ในขณะนี้ ก็ได้...และน่าจะเหมาะสมกับ บรูไน ใช้สำหรับ หาประสบการณ์ ในทะเลไกลฝั่ง...

   อ้าว....แบบเรือของอังกฤษเหรอครับ......ตอนแรกว่าขนาด 80-82 เมตร ระวางขับน้ำแค่ 1300 ตัน   ลือกันสนั่นว่าแบบมาจากความช่วยเหลือของดัชท์          แต่นี้ออกมาเฉียด 2000 ตันแถมเป็นของผู้ดีอังกฤษ   โห...ดูหรูเริ่ดอย่างกะ MEKO-100 เลย   พื้นที่ทั้งด้านหน้าเรือ   ท้ายเรือมีให้เหลือเฟือสำหรับระบบอาวุธและเสาเรด้าร์อื่นๆที่จะติดตั้งได้ในอนาคต.....มาเลย์คงเครียดนิดๆแน่ครับ    แถมราคาค่าต่อนี่โต๊ะใจ  ไม่ถึง 2000 ล้านบาท!  มาเลย์ต้องทุ่มงบมหาศาลกับเรือ MEKO-100  ต่อมาลำละกว่า 8000 ล้าน   

    ถ้าต่อเรือระวางขับน้ำขนาด 2000 ตันได้    ความฝันเรื่องต่อเรือฟรีเกตุอเนกประสงค์ก็ใกล้เข้ามามากแล้วล่ะครับ   แหมแต่ก็คงไม่ทันเวลาที่จะต่อเรือฟรีเกตุป้องกันภัยทางอากาศในความต้องการขณะรี้ได้    เอาไว้คราวที่เรือชั้นนเรศวรและชั้นเจ้าพระยาปลดประจำการแล้วค่อยต่อฟรีเกตุใหม่ทดแทนน่าจะทันนะครับ

    ว้าวๆๆๆๆๆฝันใกล้เป็นจริงแย้ว........เท่ากับว่ากองทัพเรือก้าวหน้าที่สุดใน 3 เหล่าทัพแล้ว

ของไทยกับของมาเลเซีย  แบบเดียวกันเด๊ะเลย  ใครลอกใครละเน๊ยะ