หน้าแรก    ตั้งกระทู้ใหม่   ตอบคำถาม    เข้าสู่ระบบ      


เขาพระวิหาร

โดยคุณ : crash เมื่อวันที่ : 20/09/2009 19:19:00

     ผมมีความไม่สบายใจในกรณีปัญหาเขาพระวิหารมาก เพราะได้รับฟังข่าวสารจากสื่อต่างๆ เสนอข่าวค่อนข้างตรงกันว่าเขมรรุกล้ำพื้นที่พิพาท4.6ตร.กม. โดยที่ประชาชนคนไทยได้แต่มองตาปริบๆ

     เพราะถ้ายึดตามคำพิพากษาศาลโลก พ.ศ.2505 พื้นที่ทับซ้อนรอบปราสาทพระวิหาร 4.6 ตร.กม. ต้องอยู่ในเขตประเทศไทย 100 เปอร์เซ็นต์ แต่วันนี้ พื้นที่ทับซ้อนกว่า 50 เปอร์-เซ็นต์ ถูกทหารกัมพูชายึดครอง ที่ แสบไส้ติ่งคือ ห้ามคนไทยไม่ให้เหยียบแผ่นดิน ซึ่งเป็นของเราเอง แม้แต่บันไดทางขึ้นปราสาทพระวิหาร ซึ่งอยู่ในเขตประเทศไทย เมื่อก่อนยังขึ้นได้ เดี๋ยวนี้ขึ้นไม่ได้ซะแล้วโยม ภูมะเขือ ซึ่งเป็นของไทยพันเปอร์เซ็นต์ วันนี้กลายเป็นที่ตั้งกองบัญชาการทหารกัมพูชา อย่างนี้ถ้าไม่เรียกว่าเสียดินแดนจะให้เรียกว่าอะไร?? ถึงยังไม่เสียดินแดนโดยนิตินัย ก็ถือว่าเสียดินแดนไปแล้วโดยพฤตินัย

     ผมไม่ต้องการให้กระทู้นี้เป็นการล่อเป้าแต่อย่างใด  แต่เพียงอยากจะแสดงความคิดเห็นและอยากรู้ความคิดเห็นเพื่อนๆในบอร์ดเท่านั้นว่าคิดกันอย่างไร  และไม่ต้องการให้มีการยุแหย่ให้ทำสงครามกับเขมรแต่อย่างใด ผมเชื่อว่าทุกคนในบอร์ดมีความรักและหวงแหนแผ่นดินเช่นกัน  ไม่อย่างนั้นคงเสียแรงเปล่าที่บรรพบุรุษของเราหลั่งเลือดไปไม่รู้เท่าใดเพื่อปกป้องแผ่นดินไว้ให้ลูกหลานไทย





ความคิดเห็นที่ 1


พื้นที่ทับซ้อน 4.6 ตารางกิโลเมตรเป็นแบบนี้ เขมรไม่เคยขึ้นมายุ่งกับไทย ใน 46 ปี ที่ฝ่านมา เขาอยู่แค่ประตูทางเข้าเขาพระวิหารเท่านั้น  แต่ปัจจุบันเข้ามาอยู่เกือบ50%แล้ว 


โดยคุณ crash เมื่อวันที่ 16/09/2009 02:50:31


ความคิดเห็นที่ 2


แผนภาพแสดงพื้นที่ปัญหาไทย-กัมพูชา

          1. พื้นที่ทับซ้อน 4.6 ตารางกิโลเมตร

          2. บริเวณรั้วลวดหนามที่ฝ่ายไทยกั้นไว้ตลอดแนว

          3. จุดที่เขมรรออพยพเข้ามาอยู่เป็นชุมชน ซึ่งมีวัดคีรีสุขสวายเรี๊ยะ (ภาพเล็กถ่ายเมื่อปี 2548) โดยกัมพูชาอ้างว่าคือวัดแก้วสิขเรศวร และมีทหารไปอยู่

          4. บันไดทางขึ้นปราสาทพระวิหาร ที่อยู่ฝั่งไทย

          5. จุดที่เขมรเข้ามาอยู่และทำมาค้าขายจนกลายเป็นตลาด

          6. เส้นประ แสดงแนวรถกระเช้าลอยฟ้าที่ทางญี่ปุ่นพร้อมสนับสนุนก่อสร้าง โดยจุดขึ้น-ลงอยู่ในพื้นที่ทับซ้อน

          7. จุด G1 G2 G3 และ G4 คือ บริเวณปราสาทพระวิหารที่ศาลโลกตัดสิน เมื่อปี พ.ศ.2505


ข้อมูลจาก
 


โดยคุณ crash เมื่อวันที่ 16/09/2009 03:03:05


ความคิดเห็นที่ 3


ผมก็เป็นห่วงเช่นกันครับ ชักจะคล้ายเรื่อง ม้าอารี เข้าไปทุกทีแล้ว

ทีแรกฝนตก ม้าอยู่ในคอก วัวขอเข้าไปหลบฝนนิดหน่อย ขอทีแรกแค่ยื่นจมูก ตอนหลังขอยื่นไปทีละนิด สุดท้ายเบียดม้าเจ้าของคอกออกมาอยู่นอกคอกของตัวเองเลย

ไปๆมาๆ เราจะเสียผามออีแดงด้วยไหมครับเนี่ย

โดยคุณ Gemini เมื่อวันที่ 16/09/2009 03:33:23


ความคิดเห็นที่ 4


"ให้เขาอยู่เหอะ เขาอยากได้ให้เขาไป พื้นที่นั้นน่ะ จะรบกันไปทำไม"

- -" เพื้อนผมบางคน เขาว่าอย่างนั้น มันเสียดใจเหลือเกิน

ปัญหานี้ ผมว่า มันไม่จบง่ายๆ และ มองๆดูแล้ว เรามีแต่เสียกับเสีย

เพื้อนพ่อผมบอกว่า เรื่องนี้มันไม่จบหรอก ตราบใดที่  "นักการเมืองบ้านเราและนายทหารบางคน ยังมีธุรกิจและผลประโยชน์อยู่ในเขมร"

ทุกวันนี้ ผมได้แต่ปลงครับ อนิจังสังขารไม่เที่ยง ของๆเราไม่ใช่ของเรา!

(ขออภัยนะครับถ้าความเห็นนี้ จะทำให้ใครไม่สบายใจ เวปมาสเตอร์พิจรณาแล้วลบได้นะครับ ขอบคุณครับ)

โดยคุณ Acid เมื่อวันที่ 16/09/2009 08:37:38


ความคิดเห็นที่ 5


ปัจจุบันผมไม่เห็นหน่วยงานที่เกี่ยวข้องหรือรัฐบาลของเราวางแผนการแก้ปัญหานี้อย่างเป็นรูปประธรรมยังขาดความเป็นระบบอยู่มาก ทั้งการฑูต กฎหมายระหว่างประเทศอื่นๆ รวมไปถึงปัญหาทางทะเลที่ไม่ควรมองข้าม 
มันเป็น game การเมืองระหว่างประเทศโดยเฉพาะแหล่งพลังงานครับ
 
โดยคุณ sam เมื่อวันที่ 16/09/2009 13:08:58


ความคิดเห็นที่ 6



กรุณาอ่าน
กติกาและมารยาท ด้วยน่ะครับ

ตอนนี้เรื่องเขาพระวิหาร เปราะบางมาก

โดยคุณ Ronin เมื่อวันที่ 16/09/2009 23:16:06


ความคิดเห็นที่ 7


ถ้าเกิดรบกันจริงๆ เราจะได้อะไร และจะเสียอะไร
ขนาดศึกภายในยังแก้กันไม่ได้ ศึกภายนอกก็มาจ่อ จวนเจียนจะระเบิด
อันไหนพอยับยั้งได้ก็ต้องค่อยเป็นค่อยไป เกิดระเบิดมาพร้อมกันจะแก้กันลำบาก


โดยคุณ EDS เมื่อวันที่ 20/09/2009 00:40:54


ความคิดเห็นที่ 8


ดันใส่รูปผิด ขอโทษด้วยครับ ลบออกก็ไม่ได้
โดยคุณ EDS เมื่อวันที่ 20/09/2009 00:44:12