หน้าแรก    ตั้งกระทู้ใหม่   ตอบคำถาม    เข้าสู่ระบบ      


กห.ชงครม. ซื้อปืนยิว พันล้านให้ทบ.

โดยคุณ : nok เมื่อวันที่ : 20/09/2009 07:45:42

ประชุม ครม.อังคารที่ 15 ก.ย. กลาโหม ชงครม.ขอพันล้านซื้อปืนยาวอิสราเอลเสริมเขี้ยวเล็บหน่วยรบ ด้วยวิธีพิเศษ อ้างทดแทนของเดิมที่มีสภาพเก่าล้าสมัย  ชำรุด จากการใช้งานมานาน

ผู้สื่อข่าวรายงานจากทำเนียบรัฐบาล ว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันอังคารที่ 15ก.ย. กระทรวงกลาโหมเตรียมเสนอให้ครม.พิจารณาอนุมัติให้กองทัพบกก่อหนี้ผูกพันข้าม ปีงบประมาณโครงการจัดหาปืนเล็กยาว ขนาด 5.56 มิลลิเมตร ระยะที่ 4 (ทบ.1399) จำนวน 13,868 กระบอก วงเงิน 27,777,604 ดอลลาร์สหรัฐฯ หรือประมาณ 964,993,963บาท อัตราแลกเปลี่ยน ณ วันที่ 15 พ.ค. 2552 อัตรา 1 ดอลลาร์สหรัฐฯ เท่ากับ 34.74 บาท ระยะเวลาดำเนินการ 3 ปี ตั้งแต่ปีงบปรมาณ พ.ศ. 2552-2554 โดยมีแผนการใช้จ่าย ดังนี้  ปีงบประมาณ พ.ศ. 2552 ชำระจำนวน 200 ล้านบาท ปีงบฯ 2553 ชำระ 200 ล้านบาท และปีงบฯ 2554 ชำระ 564,993,963 บาท   เพื่อแจกจ่ายให้หน่วยกำลังรบหลักของกองทัพบกให้มียุทโธปกรณ์ตามอัตรา และแจกจ่ายให้แก่หน่วยเป้าหมายทดแทนของเดิมที่มีสภาพเก่าล้าสมัย และชำรุดเนื่องจากการใช้งานมานาน สภาพทั่วไปของปืนส่วนใหญ่ลำกล้องสึกหรอ โครงปืนมีสภาพหลวมคลอน ขาดความแม่นยำในการยิง เพื่อเพิ่มขีดความสามารถกำลังรบตามแนวทางการสร้างความสมบูรณ์หรือความพร้อมรบด้านยุทโธปกรณ์ให้หน่วยกำลังรบหลัก รวมทั้งสร้างความพร้อมรบของหน่วยกำลังรบหลักให้สามาถต้านทานภัยคุกคามได้ อย่างมีประสิทธิภาพ ลดความล่อแหลมต่ออันตรายในระหว่างการสู้รบเอาชนะภัยคุกคามจากภายนอกประเทศ

มีรายงานว่า กองทัพบก ได้พิจารณาเลือกแบบปืนเล็กยาว แบบ TAVOR TAR-21 ตามผลการจัดซื้อโดยวิธีพิเศษ จากบริษัท Israel Weapon Industeies (IWI) Ltd. ประเทศอิสราเอล

 

http://www.thairath.co.th/content/pol/32720





ความคิดเห็นที่ 1


ไม่ความเห็นเรื่องตัวปืน แต่เรื่องนี้ทำให้นึกถึงตอนรับ ปลย.๑๑ เราซื้อแต่ปืน กระสุนไม่ได้ซื้อลิขสิทธิในการผลิตด้วย เลยโดนสิงคโปร์ ที่อ่านเกมส์ออก ซื้อลิขสิทธิในการผลิตกระสุน 5.56ที่ใช้กับ ปลย.๑๑ (M198 ?)แล้วขายให้เราเอามารบกับผู้ก่อการร้าย วันนี้เท่าที่ทราบ กระสุนM855/S190 / 5.56 NATOที่ต้องใช้คู่กับ M16A2 กับ Tavor-21ยังต้องสั่งจากนอกมาใช้ อยากให้ซื้อลิขสิทธิการผลิตกระสุนที่ต้องใช้คู่กับปืนมาผลิตในประเทศครับ
โดยคุณ Oldtimer เมื่อวันที่ 13/09/2009 07:46:04


ความคิดเห็นที่ 2


ตำรวจใช้ M4 แต่ทหารใช้ Tavor 21
ทำไมไม่ใช้ให้มันเหมือนๆ กันให้หมด เลย
โดยคุณ u3616234 เมื่อวันที่ 13/09/2009 08:04:33


ความคิดเห็นที่ 3


ผมว่ากองทัพกำลังจะเปลี่ยนระบบประจำการปืน ให้เป็นปืนแบบ บลูปั๊ป ให้ทันสมัยและทัดเทียมนาๆประเทศ และมีความคล่องตัว สั้น กระทัดรัด ในการเล็งยิง ผมเคยได้ยินมาว่า เวลาปะทะกับกลุ่มโจร กว่าจะวาดปืนขึ้นได้ กว่าจะประทับเล็ง โจรมันก็วิ่งไปไหนแล้ว ไม่มีความคล่องตัว เข้าบังเกอร์ก็ เก้ๆ กังๆ ปืนยาว ปากกระบอกก็โผล่อีก โจรก็เห็นอีก ผมว่าเป็นความคิดที่ดีที่สุดๆ แล้วครับที่เราเลือกซื้อ TAR 21 มากกว่า M16 A4 ส่วนตัวผมเห็นด้วยกับเรื่องลูกกระสุนนะครับ น่าจะทำซื้อสิทธิบัตรมาผลิต คงไม่เกินฝีมือช่างผู้ชำนาญการ กรมสรรพวุธอยู่แล้ว ลูกปืนใหญ่ยังผลิตได้เลย ช่างไทยเก่งอยู่แล้ว

อืมส่วนตัวอยากทราบว่า TAR21 จะสามารถใช้กระสุนปืน M198 ได้หรือเปล่าครับ อยากทราบเหมือนกัน M16 A2 ใช้ได้ แต่ประสิทธิภาพจะลดลงไปไม่ทราบว่า ถ้า TAR 21 ใช้M 198 จะมีปัญหานี้เหมือนกันเปล่าครับ

โครงการณ์ต่อไปในใจผมอยากให้ ท.บ. จัดหาอาวุธนำวิถีต่อสู้รถถังขนาดกลาง มาทดแทน DRAGON กับ TOW ซักทีเพราะเก่ามากแล้วน่าจะเป็นการจัดหาแบบเร่งด่วนนะครับ

ป.ล. ส่วนพี่ : Oldtimer     ไม่ต้องกลัวครับ สิงคโปร์ขาย ลูกปืนเล็กให้เรา แต่เราเทพกว่า เราขายลูกปืนใหญ่ให้สิงคโปร์นะครับ ใครเทพกว่ากัน 5555+

โดยคุณ champ thai army เมื่อวันที่ 13/09/2009 11:49:23


ความคิดเห็นที่ 4


แต่ กระสุนปืนเล็ก มันยิงกันทุกวันนะครับ

ปืนใหญ่นิ นาน ๆ จะยิงกันที

ยังไงเราก็เสียดุลเขาอยุ่ดีครับ
โดยคุณ PARK007_NAZI เมื่อวันที่ 13/09/2009 15:40:35


ความคิดเห็นที่ 5


แสดงว่า ปืนดีมีคุณภาพถ้าเทียบกับ M-16  จึงมีการจัดหา TAR-21 เพิ่มเติมอีก ในส่วนตัวคาดว่า ความแม่นยำในการยิงแบบเล็งนั่งแท่นหรือซุ้มโจมตีนั้นมีมากกว่าด้วยระบบกล้องเล็ง และความคล่องตัวจากตัวปืนที่สั้นแต่ไม่เสียระยะหวังผลด้วยคุณสมบัติแบบ บูลพับ แต่คงต้องมีการดูแลที่มากกว่าเดิมแน่นอน จริงๆแล้ว ปืนแบบ บูลพับ นั้นมันทำให้ระยะ ศูนย์เล็ง ระหว่าง ศุนย์หน้า กับ ศูนย์หลัง มันใกล้กันมากทำไห้การเล็งยิงนั้นขาดความแม่นยำ เมื่อเทียบกับ ปลย.แบบ M-16 จึงมีการติดกล้องเล็งเพื่อชดเชยข้อเสียนี้ และแน่นอนว่า การดูแลรักษาก็คงต้องเพิ่มการดูแลกล้องเล็งเข้าไปด้วย อีกทั้งระบบกลไกการยิงก็มีความซับซ้อนมากกว่า ปลย.แบบ M-16 พอสมควร

ส่วนเรื่องลิขสิทธิการผลิต กระสุนปืน นั้นถ้าเราจะทำเรื่องขอซื้อมาผลิตเองก็น่าจะกระทำได้ แต่จะทำหรือไม่เท่านั้น สิงคโปร์ ซื้อสิทธิบัตรมาผลิตแล้ว ใช่ว่าจะห้ามไม่ให้เราซื้อสิทธิบัตรมาผลิตเองนี่นา หรือว่า เขามีสัญญาตกลงกันไว้ว่า ห้ามขายสิทธิบัตรการผลิตกระสุนปืนแบบนี้ให้ไทย

โดยคุณ เด็กทะเล เมื่อวันที่ 13/09/2009 21:54:56


ความคิดเห็นที่ 6


ไม่ใช่ปืนดีมีคุณภาพจึงมีการจัดหาเพิ่มเติมครับ

แต่เป็นเพราะการจัดซื้อปืนเป็นปืนหลัก มาตรฐานกองทัพไปเลย
 มันมีโครงการมานานแล้วครับ



ต้องการจัดหาปืน  ปลย 106,205 กระบอกครับ !!!


แต่ที่ทยอยซื้อนั่น เป็นการซื้อแบบแบ่งซอยย่อย เวลาเอาให้ ครม อนุมัติ
ประชาชน นักข่าว  NGO นักวิชาการจะได้ไม่แตกตื่น ว่าซื้อปืนที่เดียว
ราคา 7,390,192,085 บาท (เจ็ดพันล้านบาท ฟังไม่ผิดครับ) 
หรือ 212,728,614,997 (สองร้อยล้าน USD) งบประมาณจัดซื้ออาวุธปืน
ราคาเท่ากับฮัมวี่รุ่นติดเกราะ 1,404,622 คัน !!!(แม่้เจ้า รถฮัมวี่ล้านคัน) ราคาเท่ากับรถถัง M1 Abrams รุ่นอิรัค 40 คัน
ราคาเท่ากับเรือตรวจการณ์ไกลฝั่ง 2 ลำ หรือเทียบเท่า เครื่องบิน Boeing777-200 1 ลำ!!! 
ชาวบ้าน นักวิชาการนั่งซดก๋วยเตี๋ยว ฝั่งข่าวประชุมครม จะต๊กกะใจ
ปืนไรเฟิลบ้าอะไรเจ็ดพันสามร้อยล้าน - -

ตอนนี้ระยะที่ 4 แสดงว่าตอนนี้เรามี TAVOR ประมาณ 45000 กระบอก

แล้วสินะ

(กดเครื่องคิดเลขอีกรอบ เท่ากับ TAVOR กระบอกละ 65000 แพงกว่้า
ที่เราสั่งซื้อ M4A3  Bushmaster อีก เพราะเราซื้อได้กระบอกละ 40,000เอง)

อ้างอิง

http://www.rta.mi.th/data/information/RTAModernization/note-th/note-th1.htm  

อ้างอิงจากสมอง เท่าที่จำความได้ 
อยากรู้ไปเสริชกูเกิ้ลเอา (บอกเยอะแล้ว)

-อ้่างอิงราคาอนุมัติต่อเรือ OPV ลำที่ 3 ที่อู่้มหิดล งบประมาณ 3 พันล้านกว่า
-อ้างอิงเว็บ Boeing.com ดู price list ราคาเครื่องบิน (น่าจะมีสั่งทางเน็ตด้วยเนอะ)
-อ้างอิงเว็บ militaryphoyo เคยอ่านเจอ อิรัคซื้อ M1 
-อ้่างอิงราคาฮัมวี่ M1043 อัพเดต DEC2008   ราคาคันละ $151,449   หรือประมาณคันละ 5 ล้านบาท  ถูกกว่ารถเก๋งกันกระสุน(แต่ไม่กันอิฐตัวหนอน และม็อบปิดถนน)ของนายกซะอีก 
-อ้างอิงการสั่งซื้ออาวุธปืนคาร์ไบน์ FMS กับสหรัฐปี 2552
TACOM awards a $157,649 contract to Bushmaster for 135 M4A2 Carbines with 16" barrels and 48 M4A3 Carbine with 14.5" barrels. These are for FMS to Thailand.
http://www.thegunzone.com/556dw-19.html 
โดยคุณ semakutek เมื่อวันที่ 14/09/2009 00:58:27


ความคิดเห็นที่ 7


เออ ท่านข้างบนครับ

ฮัมวี่ ถูกกว่าปืนเหรอครับ  ปืนได้ แสนกว่ากระบอก แต่ฮันวี่ได้ ล้านกว่าคัน

คันละ 7 พันกว่า 

ไม่ทราบโชว์รูมมันอยู่ตรงไหนครับ  พอดีกอยากได้รถใหม่ใช้พอดีครับ

อิอิ
โดยคุณ toon เมื่อวันที่ 14/09/2009 01:56:25


ความคิดเห็นที่ 8


ฮัมวี่ ถูกมากมายครับผมมม

 

 

 


โดยคุณ premnarak007 เมื่อวันที่ 14/09/2009 11:08:28


ความคิดเห็นที่ 9


ขอTest นะครับ
โดยคุณ premnarak007 เมื่อวันที่ 14/09/2009 11:09:13


ความคิดเห็นที่ 10


เท่าที่ทราบตอนนี้ทาง ทบ. ก็ผลิตทั้ง M193 และ M855 ( SS 109 ) เองอยู่

ไม่ได้ซื้อจากสิงคโปร์เลย

เครื่องจักรและอุปกรณ์ ก็มีการปรับปรุงเพื่มเติมอยู่เป็นระยะ เท่าที่งบฯ จะอำนวย

โดยคุณ anya เมื่อวันที่ 14/09/2009 12:02:38


ความคิดเห็นที่ 11


ปืนดีๆหามาให้น้องๆทหารเขาใช้เถอะครับ อย่างน้อยเขาก็ได้พึ่งพาตอนเสี่ยงเป็นเสี่ยงตายได้ ราคาของปืน TAVOR จะแพงกว่า M-16 หรือ M-4 ก็ประมาณสองหมื่น เป็นมูลค่าของนวัตกรรมใหม่และค่ากล้องเล็งระยะประชิดนะครับ ใช้ยิงที่ระยะ 0-300เมตร(ศูนย์รบ) 

ปืนเล็กยาวนี่ซื้อแล้วคุ้มครับ ตอนนี้ก็ใช้ในพื้นที่สามจังหวัด น้องทหารบอกชอบมากๆ คล่องตัวมาก ควบคุมการยิงได้ดี ศูนย์เล็งจับเป้าได้เร็ว ยิงตอบโต้กลางคืนได้ดี โดยรวมแล้วดีกว่า M-16 และ M-4 ครับ ตอนเลือกแบบทางศูนย์การทหารราบและ ผบ.หน่วยทหารราบก็เป็นผู้เลือกแบบกันเองครับไม่มีใครมาบังคับ คนเลือกซื้อเองได้ใช้เอง(ไม่เหมือนโลงครับ คนซื้อไม่ได้ใช้ คนใช้ไม่ได้ซื้อ)

ปืนเล็กยาวนี่ถือเป็นอาวุธยุทธศาสตร์นะครับ เราใช้มันในการป้องกันประเทศ ตั้งแต่เรายังไม่ได้รบกะใคร(ใช้ที่พระวิหารใช้ในสามจังหวัด)  แม้กระทั่งเวลารบหนักเป็นสงครามเต็มรูปแบบปืนเล็กยาวก็เป็นหลักในการรบในแนวหน้าครับ หรือแม้ว่าบ้านเมืองเราจะสูญสิ้นอิสระภาพไป กองโจรสายเลือดไทยก็จะใช้อาวุธปืนเล็กยาวนี่หละครับเป็นอาวุธหลักที่จะกู้ชาติของเรา นักรบเดินเท้าเราอยากได้ของที่ดีครับ

ซื้อเถอะครับไม่แพงหรอก ขอเฉพาะพวกที่เดินเท้าเข้ารบก็ได้ เราปกป้องพวกคุณแล้ว ใครหละครับที่จะปกป้องเรา

คืนนี้นอนหลับให้สบายนะครับ เราจะตื่นตาคอยลาดตระเวนรักษาสามจังหวัด แดนพระวิหาร ยืนระวังยามโดยรอบขอบประเทศนี้ให้กับพวกคุณเองครับ

โดยคุณ Ifeelsogood เมื่อวันที่ 14/09/2009 12:12:11


ความคิดเห็นที่ 12


เบลอครับ

ฮัมวี่ 1400 คันตะหาก 
โดยคุณ semakutek เมื่อวันที่ 14/09/2009 13:48:55


ความคิดเห็นที่ 13


ปืน TAVOR น่าจะติด GPS ได้นะ เผื่อ ทหารเราพลาดท่าโดน โดน โจรใต้จิ๊ก จะได้ เอา JDAM วิ่งตาม GPS ลงกระบาลทั้งฐาน 
โดยคุณ u3616234 เมื่อวันที่ 14/09/2009 21:57:51


ความคิดเห็นที่ 14


ทบ. เคยคิดเหมือนกันครับ แบบที่เป็นชิพขนาดเล็กที่ประเทศอเมริกาใช้ติดตามสุนัขที่หาย หลงทาง หรือถูกขโมยไป แต่ตอนนั้นยังไม่มีเทคโนโลยีแบบนี้ และไม่รู้จะได้ผลหรือเปล่าถ้าพวกโจรเอาปืนไปฝังดินครับ

แต่ในภาพรวมแล้วก็ดีนะครับ ใช้กลศึกแบบม้าไม้โทรจัน(ทรอย)หลอกให้มันกลืนเบ็ด เราติดชิพไปซักพันสองพันกระบอกจับได้สักห้าหกรายก็คุ้มมากแล้วครับ

มาคิดอีกทีก็น่าสังเวชใจนะครับ ถ้าโจรมันโจมตีแล้วยึดปืนได้ กรณีนี้ส่วนมากจะตายยกทีมโจรถึงจะเอาปืนไปได้ แบบกรณีทหารพรานที่พลีชีพล่าสุด ถ้าเป็นแบบนี้ ตำรวจ ทหาร อส.ทั้งหลาย ที่สละความสุขส่วนตัวไปปฏิบัติหน้าที่อีกนัยหนึ่งก็คือเหยื่อนั่นเองนะครับ

 

โดยคุณ Ifeelsogood เมื่อวันที่ 14/09/2009 22:49:54


ความคิดเห็นที่ 15


-ปืนทหารสมัยนี้ กล้องเล็งแบบ Dotกลายเป็นอุปกรณ์มาตรฐานในการใช้งาน เพราะช่วยให้ยิงแบบสองตาได้ ทั้งช่วยประหยัดเวลาและงบในการฝึกยิงปืนได้
- เรื่องลิขสิทธิ คงน่าจะเคยเห็นประโยคที่ว่า เป็นตัวแทนจำหน่ายแต่เพียงผู้เดียวในประเทศไทย หรือ เป็นผู้มีสิทธิในการผลิตจำหน่ายแต่เพียงผู้เดียวในประเทศ ซึ่งก็อาจจะมี เป็นผู้มีสิทธิในการผลิตจำหน่ายแต่เพียงผู้เดียวในภูมิภาค�
-เรื่องM193เป็น Talk of� the Town สมัย ๒๕๑๑ ข้อมูลของวันนี้คงไม่เกี่่ยว แต่ข้อมูลเกี่ยวกับM855ไม่ตรงกัน หากข้อมูลผมผิดก็อภัยด้วยความยินดี คือดีใจที่เราผลิตใช้เองได้
- ขอความกรุณาท่านIfeelsogoodช่วยเล่ารายละเอียดเท่าที่จะให้ได้ของเรื่องการคัดเลือกปืน ครับ โดยเฉพาะมีใครเลือกบ้าง
-เรื่องชิป เป็นเทคโนโลยี RF ID ไม่ใช่GPS เหมือนบาร์โค๊ดที่มีวิทยุส่งสัญญานไปเข้าเครื่องอ่าน
โดยคุณ Oldtimer เมื่อวันที่ 15/09/2009 06:31:20


ความคิดเห็นที่ 16


กองทัพของเราใช้ปืนประจำกายทหารที่ใช้กระสุน ๕.๕๖ มาตั้งแต่ ๒๕๑๑ ก็มีทั้งHK33และได้ M16A1 จากอเมริกันเพราะเข้าร่วมสงครามเวียตนาม ก็มีการนำM16A2/M4 เข้ามาช่วยเสริม ในบางหน่วย ถือว่าใช้ปืนมาสี่สิบปีโดยไม่ได้เปลี่ยนทดแทน กันอย่างจริงจัง
คราวนี้เปรียบเทียบกับเพื่อนบ้าน
มาเลเซีย ใช้M16A1, HK33 และBaretta มาทดแทนด้วย Styer AUG แล้วก็ทดแทนด้วย M16A2/M4
สิงคโปร์ ใช้M16A1 ทดแทนด้วยปืนที่ผลิตในประเทศSAR อะไรซักอย่าง แล้วก็ทดแทนด้วย Bullpup ที่ผลิตในประเทศ
อินโดนิเซีย ใช้อะไรจำไม่ได้ ทดแทนด้วย FN CAL แล้วก็จัดหาAK74 กับSig มาเสริม
วันนี้ กองทัพบกที่เป็นกองทัพหลักของชาติ จะทดแทนปืนประจำกายทหารที่ใช้มาสี่สิบปี ให้พลทหาร นายสิบ นายทหาร เกือบสองแสนคนของเรา ทำไม ต้องเอารถอัมวี่ รถถัง เรือ เครื่องบินมาเปรียบเทียบ
ส่วนปืนของBushmaster ถึงราคาถูกกว่าแต่ก้ไม่ได้ให้ศูนย์Dotมาให้ด้วย ต้องไปซื้อของ Aimpoint, EOTech หรือACOG มาติด ราคาต้องบวกอีกราว ๘๐๐ เหรียญ�
โดยคุณ Oldtimer เมื่อวันที่ 15/09/2009 07:56:38


ความคิดเห็นที่ 17


ปืนของเราจำนวนมากหมดอายุการใช้งาน อย่างที่กองทัพอ้าง ขออนุญาตเล่าเรื่องจริงที่พี่ตำรวจของผมท่านหนึ่งถ่ายทอดให้มา พี่ไปตรวจฐาน ตชด. ชายแดน ตชด. เล่าว่าฝ่ายตรงข้ามแถวนี้เล่นของ ขนาดปะทะกัน ยิงโดนจังๆ ร่วงไปได้พักนึง ลุกขึ้นสู้ต่อได้ พี่เลยให้ตชด. คนที่ยิงเอาปืนกระบอกที่ใช้มาบืนยิงกับต้นไม้ในระยะเท่ากับในเหตุการณ์ ผล ลูกปืนไปปะติดต้นไม้ เอาข้างเข้า พอตรวจปืน พบลำกล้องไม่เหลือเกลียวปืน ในลำกล้องเกลี้ยงเป็นลำกล้องปืนลูกซอง พี่เลยสรุปว่าเกลียวลำกล้องมีผลต่ออานาจการยิง เรื่องนี้พี่ผมเล่ามายี่สิบกว่าปีแล้ว วันนี้ทหาร ตำรวจจำนวนมากที่ยังใช้ปืนที่ควรจะได้รับการทดแทนมายี่สิบปีแล้ว


โดยคุณ Oldtimer เมื่อวันที่ 15/09/2009 08:14:27


ความคิดเห็นที่ 18


แต่เมื่อไม่นานมีนี้ กองทัพบกมีการสั่งซื้ออาวุธปืน M-16Ax มาตั้งหลายกระบอกไม่ใช่หรือ
ส่วนเรื่องTavor บ้านเกิดมันอยู่ในดินแดนทะเลทราย ปัญหามันน่าจะน้อยกว่าM-16 รึป่าวถ้ามาปฏิบัติการในป่าฝน
โดยคุณ Puriku เมื่อวันที่ 15/09/2009 09:13:20


ความคิดเห็นที่ 19


คือ สิงคโปร์ หลังจากที่เขาผลิต M-16A1 ภายใต้สิทธิบัตรแล้ว เขาเอาประสปการณ์มาพัฒนาปืน ไรเฟิลจู่โจมแบบ SAR80 ครับ คุณOldtimer ลำกล้องปืนและพานท้ายนำของ M-16A1 มาใช้ ตำรวจพลร่มค่ายนเรศวร หัวหิน เคยเอามาทดลองใช้และประเมินค่า ผลการยิงก็ถือว่าใช้ได้ถ้าเทียบกับ M-16A1 หรือ HK-33 แต่ว่ามันมีหลายอย่างที่รวมแล้วไม่ค่อยจะดีเท่าไหร่ เช่น ดึงคันรั้งลูกเลื่อนแล้วต้องใช้มือกดล็อกไว้ ถ้าปล่อยลูกเลื่อนก็กลับเข้าที่ ไม่มีล็อกค้างไว้ให้เหมือน M-16A1 หรือ HK-33 แต่ว่าต่อมาที่น่าทึ่งคือ สิงคโปร์ พัฒนาปืนแบบใหม่ทรง บูลพัพ ที่เรียกว่า SAR21 ออกมาและผลการทดสอบทั้งเรื่องการเล็งยิงและภาคสนามเหนือกว่า M-16 เสียอีกครับ

ในรูปนี้เป็น SAR80 ครับ


โดยคุณ เด็กทะเล เมื่อวันที่ 15/09/2009 09:50:49


ความคิดเห็นที่ 20


ที่บอกว่า นำทาเวอร์  มาใช้งานในพื้นที่ จชต. นั้น  พื้นที่ไหนครับ อำเภออะไร    เพราะปัจจุบัน พึ่งบรรจุ และหน่วยที่นำลงปฏิบัติงานนั้น ถือเป็น เปอร์เซ็นต์ที่น้อยมากๆครับ   ในปีงบประมาณหน้า อาจจะเห็นจำนวน 1 ฉก.สองตัว  แต่ก็ยังเป็น % ที่น้อยครับ

ทาเวอร์ใช้ศูนย์ ออปติก รีเฟร็กไซน์  ซึ่งออกแบบมาสำหรับการยิงฉับพลันในการรบระยประชิด  ดังนั้นการจับเป้าได้เร็วในการเล็งสองตา ได้เร็วกว่า เอ็ม 16 ซีรี่ ที่ยังคงใช้ศูนย์เปิด หรือ ไอออนไซน์ ก็ไม่น่าจะแปลกอะไร   แต่ถ้าหากว่า เทียบกับเอ็ม 16 ซีรี่ หรือ เอ็ม 4 ซีรี่ ที่ติดกล้องในลักษณะเดียวกันละ

ผมยังสงสัยว่า กล้อง MePro 21 ที่ติดในทาเวอร์นั้น  หากไม่ใช้งานร่วมกับ เอ็นวีจี ดีไวน์   แล้วมันจะสามารถยิงในเวลากลางคืนได้ดีกว่า เอ็ม 16 หรือ เอ็ม 4 ซีรี่ได้อย่างไร  ในเมื่อมันไม่ใช่อุปกรณ์ช่วยเล็งในเวลากลางคืน

แต่ที่ดีกว่าหน่อยคือ ในสภาวะแสงน้อย  และมองเห็นจุดเล็งในกล้อง หากตรวจการณ์พบแสงไฟปากลำกล้องจากการยิงของฝ่ายตรงข้าม ก็ยังพอสามารถทาบจุดยิงได้   แต่มันก็ไม่ใช่จะเหนือกว่าโดยสิ้นเชิง

ตรงการยิงในเวลากลางคืนนั้น อย่าไปมองที่ตัวปืนครับ ให้มองที่อุปกรณ์ช่วยตรวจการณ์และช่วยเล็งยิงในเวลากลางคืนครับ เพราะอุปกรณ์พวกนี้สามารถติดตั้งกับปืนได้เกือบทุกชนิดครับ

ยกตัวอย่างง่ายๆ  ระหว่าง ทาเวอร์ติดแค่กล้อง MePro21 กับ เอ็ม1คาร์ไบน์(ปสบ.87) ที่เมาท์ติ้ง ติด AN/PEQ2A พร้อม NVG ประจำบุคคล  หากทำการรบในเวลากลางคืน ผมเลือกตัวหลังครับ

ที่บอกว่าผบ หน่วยทหารราบเป็นผู้เลือกนั้นเป็น ผบ หน่วยระดับไหนครับ

 

ส่วนตัวแล้ว การทดสอบเพื่อเลือกแบบปืนนั้น โดยเฉพาะประเทศที่มีงบไม่มากไม่สามารถเปลี่ยนแบบได้บ่อยๆและการส่งกำลังที่ไม่ดีอยู่แล้วนั้น ไม่ควรแค่ทดสอบการยิงเฉพาะในสนามยิงปืน และเปรียบเทียบข้อมูลทางเทคนิกหรือจำลองสภาวะเพียงอย่างเดียว  หากเป็นไปได้  จัดชุดกรรมการจากหน่วยที่ต้องใช้งานจริง และส่งเข้าทดสอบในสนามจริงเลยครับ  สนามจริงหมายถึงในสภาวะภูมิประเทศและอากาศจริง กับ ภารกิจต่างๆ  และเปรียบเทียบคะแนน รวมกันทุกหัวข้อ

 

แต่ถ้า การเปลี่ยนแบบครั้งนี้ เป็นจริงตามข่าวสาร คือ จะจัดหาในระยะยาวและใช้งานเป็นหลัก รวมถึงมีแผนในการได้รับเทคโนโลยีไปจนถึงขั้นการพัฒนาเองแล้ว ถือได้ว่า เป็นหัวข้อที่ดีเลยละครับ  ก็จะถือว่าเป็นการเลือกแบบที่ไม่เลว  แต่ถ้าหากเป็นตรงกันข้าม คือ เป็นการจัดซื้อในระยะสั้นจำนวนไม่มาก แล้วละก็ จะเป็นการเพิ่มแบบปืนและสายการส่งครับ

โดยคุณ FW190 เมื่อวันที่ 15/09/2009 09:51:42


ความคิดเห็นที่ 21


ครับขอขอบคุณที่ช่วยให้รายละเอียด ผมจำไม่ได้แล้วว่าเจ้าปืนของสิงคโปรนี่ชื่ออะไร แต่เจ่าSAR80นี่ถ้าจะบอกว่าใช้ประสบการร์จากการผลิตM16A1นี่ยังไม่พอครับ แต่เป็นสิงค์โปร์ดึงให้Eugine StonerคนคิดM16มาทำงานให้ ในช่วงนั้นนอกจากSAR80 แล้วยังมีปืนกลเบาแบบ Altimag กับปืน .50 อีกแบบหนึ่ง ที่สิงค์โปร์เอามาแสดงในงานAsia Defense ครั้งแรกๆที่จัดที่เซ็นทรัล ลาดพร้าว ผมคิดว่าEugine Stoner มีส่วนในการออกแบบของปืนทั้งสามแบบ ส่วนSAFR21นี่สิงค์โปร์ซื้อลิขสิทธืของactionปืนแล้วเอามาแปลงเป็นbullpup ครับ เชิงช่างเขาก็เท่าๆเรา แต่เชิงการค้าขายเรายังห่างเขามาก
โดยคุณ Oldtimer เมื่อวันที่ 19/09/2009 20:45:43