หน้าแรก    ตั้งกระทู้ใหม่   ตอบคำถาม    เข้าสู่ระบบ      


ปีนี้ไทยเสียดินแดนแล้ว 2 ครั้ง?

โดยคุณ : horseman เมื่อวันที่ : 14/09/2009 16:36:07

(แค่เตือนให้รู้ว่าความขัดแย้งกำลังจะมา  และขออนุญาตช่วยงดการแสดงความเห็นที่รุนแรงนะครับ เพราะเรื่องนี้น่าจะจบได้ด้วยการเจรจา และการแสดงพลังสามัคคีของคนในชาติจะเป็นตัวช่วยได้มาก)

 

ปีนี้ไทยเสียดินแดนแล้ว 2 ครั้ง?

โดย ธีรเวทย์ ประมวญรัฐการ
วันที่ 4 กันยายน พ.ศ. 2552 ปีที่ 32 ฉบับที่ 11500 มติชนรายวัน


เข้าไปเยี่ยมชมเว็บไซต์หน้ามรดกโลกของยูเนสโกไม่บ่อยนัก http ://whc.unesco.org/en/activities/search_theme=22 แต่ช่วงหลังนี้ ข้อมูลที่กัมพูชาขอขึ้นทะเบียนปราสาทพระวิหารเป็นมรดกโลกค่อนข้างอัพเดทบ่อยจึงต้องคอยติดตาม

เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2552 พบ
"
Property" (ตัวและบริเวณมรดกโลกปราสาทพระวิหาร) มีขนาดใหญ่ถึง 154.70 เฮกตาร์ หรือเกือบ 3 พันไร่ เท่ากับขนาดพื้นที่ทับซ้อน 4.6 ตร.กม. เหมือนไม่บังเอิญ นึกเอะใจว่า กัมพูชาช่วงชิงส่วนที่ค้างคามาตั้งแต่ศาลโลกตัดสินปี 2505 ไปแล้ว

เมื่อวันที่ 1 กันยายน 2552 พบข้อความ

"Buffer Zone" (พื้นที่กันชน) : เพิ่ม มีขนาดประมาณคร่าวๆ 5 หมื่นไร่ (2,642.50 เฮกตาร์) :

Date of Inscription: 2008

Criteria: (i)

Property : 154.7000 ha

Buffer zone : 2642.5000 ha


N14 23 18 E104 41 2

Ref : 1224rev

ส่วน Buffer Zone นั้น ถ้าดูจาก "แผนที่ใหม่" (ซึ่งกัมพูชาวาดเอง 8 มิถุนายน 2551) จะอยู่ด้านตะวันตกของตัวปราสาท
มีสิ่งบอกเหตุว่าจะกินแดนทอดยาวไปถึงปราสาทตาเมือนธม จังหวัดสุรินทร์ที่ห่างไป 12 กิโลเมตร
ส่วนที่เป็นดินแดนของกัมพูชาจะมีปนบ้างเท่าไรคงต้องรอการปักปันเขตแดน แต่นั่นสื่อว่าแถลงการณ์ร่วมไทย-กัมพูชา
18 มิถุนายน 2551
มีการบังคับใช้แล้ว เพราะในข้อ 4 ระบุว่า Buffer Zone กำหนดได้โดย ICC : International Coordinating Committee หรือ
"คณะกรรมการ
7 ชาติ" โดยไม่ต้องรอผลการปักปันของ คณะกรรมการปักปันเขตแดน (JBC : Joint Boundary Commission)

เข้าใจว่าเรื่องที่ดินแดนไทยถูกแปรเป็นพื้นที่มรดกโลกไปทั้ง 2 ครั้งชัดเจนแล้วนี้นายกฯอภิสิทธิ์ทราบจากคุณสุวิทย์ คุณกิตติ
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากร และสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ ที่รายงานจากที่ประชุมมรดกโลก เมืองซาบีญ่า ประเทศสเปน ผ่านทางโทรศัพท์
เมื่อวันที่
27 มิถุนายน 2552 นายกฯอภิสิทธิ์ถึงกับอุทานว่า "ทำไมผมไม่เคยเห็นรายงานเดือนเมษายน" (หมายถึงรายงานล่าสุดของ ICC)

ที่ไม่ปกติอีกประการน่าจะเป็นเหตุผลที่รัฐมนตรีกระทรวงทรัพยากรฯไปประชุมมรดกโลก แต่พอจะอนุมานได้ว่า วนอุทยานแห่งชาติเขาพระวิหารซึ่งอยู่ภายใต้กำกับของกระทรวงนี้น่าจะกลายเป็นส่วนหนึ่งของมรดกโลกไปแล้ว

"กรรมการ 7 ชาติ" (ICC) ก็ลึกลับไม่น้อยไปกว่ากัน หากตรวจสอบกันในทางลึกอาจพบว่า ICC เป็นแค่คณะกรรมการ "กำมะลอ" มีที่มาจากบริษัทผู้รับเหมาเอกชนธรรมดา หาใช่ "Public Institution" ไม่

ที่คุณสุวิทย์ไปประชุมที่สเปนก็อาจในฐานะกรรมการ ICC ที่ต้องรับมอบดินแดนที่ไทยเพิ่งสูญเสียไป

เมื่อสองสามวันก่อนมีการถอนทหารแถวเขาพระวิหาร แปลว่า JBC จะเตรียมลงมือเจรจาปักปันเขตแดนแล้ว?

http://www.matichon.co.th/matichon/view_news.php?newsid=01act02040952&sectionid=0130&day=2009-09-04

 





ความคิดเห็นที่ 1


ขอให้ความเห็นที่จะเเสดงในกระทู้นี้ อยู่ในขอบเขตกติกามารยาทของเว็ปนะครับ

อย่าเอาประเด็นทางการเมืองที่กำลังขัดแย้งเข้ามาร่วมด้วย

และความคิดเห็นในเรื่องเชิงที่ชวนทะเลาะกันจนบานปลายนะครับ




โดยคุณ nok เมื่อวันที่ 03/09/2009 23:49:43


ความคิดเห็นที่ 2


จะว่าไปแล้ว มันก็มีข่าวมาว่าทางฝ่ายกัมพูชาเองเขาได้เร่งทำถนนเข้ามาในเขตพื้นที่ทับซ้อนด้วยเป็นระยะทางหลายกิโลเมตร โดยเหตุการณ์เพิ่งเกิดขึ้นเมื่อ สามสี่เดือนที่ผ่านมา ส่วนข้อเท็จจริงจะเป็นอย่างไรเห็นบอกว่าจะเริ่มเป็นข่าวในอาทิตย์หน้ายังไงก็ขอติดตามดูนะครับ

โดยคุณ sup096 เมื่อวันที่ 04/09/2009 01:11:43


ความคิดเห็นที่ 3


ขอให้วิเคราะห์ในเชิงวิชาการ และกฎหมายจะดีสุดครับ

จะได้ช่วยเสริมสร้างมุมมองที่เป็นประโยชน์ต่อคนในวงกว้างด้วย

 

 

มีบทความล่าสุดที่น่าสนใจในบล็อกนี้ครับ

http://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=ladida&month=08-2008&date=08&group=6&gblog=38

 

โดยคุณ horseman เมื่อวันที่ 04/09/2009 02:41:58


ความคิดเห็นที่ 4


ข้องใจเหมือนกันครับว่าที่กัมพูชาสร้างถนนนั้น เป็นเขตพื้นที่ทับซ้อน หรือพื้นที่ของเขา ??? แต่ถ้าเป็นเขตพื้นที่ทับซ้อน เราก็ไม่น่าจะเปิดให้เขาสร้างได้นะครับ แต่อาจจะไม่ใช่ก็ได้ เพราะทหารเราคงเข้าขัดขวางแล้ว เว้นแต่นโยบายของเบื้องบนสั่งการอีกที ...อันที่จริงเขตพื้นที่ทับซ้อน ไม่น่าจะมีสิ่งปลูกสร้างใดๆ รวมถึงผู้คนด้วยครับผม ผมไม่แน่ใจว่ากี่ตารางกิโลเมตร
โดยคุณ Nine เมื่อวันที่ 04/09/2009 02:45:44


ความคิดเห็นที่ 5


รู้กันแบบนี้แล้ว กองทัพ นักการเมือง ประชาชน ทำอะไรกันอยู่? ครับเนี้ย?

พื้นที่ตรงนั้น ไม่น่าจะ ตัดถนน หรือ ให้ประชาชน ไม่ว่าของประเทศใด

มาตั้งรกรากอยู่เลยด้วยซ้ำ

โดยคุณ Acid เมื่อวันที่ 04/09/2009 05:37:47


ความคิดเห็นที่ 6


ก่อนอื่นเราควรใช้กำลังทหารผักดันเขมรออกผักดันชาวเขมรออกจากเขต4.6ตารางกิโลเมตรก่อนเนื่องจากตอนนี้ชาวเขมรได้เข้ามาสร้างสิ่งปลูกสร้างใหม่อีก ถ้าเราปล่อยให่อยุ่ก็ถือว่าเรายอมรับในสิทธ์ของเขมร เพื่อเเสดงถึงสิทธ์ของเราในพื้นที่4.6ตารางกิโลเมตรไว้ก่อน  มาถึงขนาดนี้เเล้วเราคงหลีกเลี่ยงไม่ได้เเล้ว เพราะเรายอมมามากเกินไปเเล้วถ้ายอมอีกก็คงเสียดินเเดนอีกเป็นเเน่

 เมื่อผักดันเขมรออกจากพื่นที่เเล้วค่อยมาคุยกัน เจรจากันใหม่

สงครามถึงไม่มีใครอยากให้เกิด เเต่ถ้าจำเป็นเราก็ควรทำ

( ไม่อยากประวัติสาทสำรอยอยุธยา )


 

โดยคุณ GTX เมื่อวันที่ 04/09/2009 05:40:19


ความคิดเห็นที่ 7


เรื่องกรณีเขตทับซ้อนนั้นมีศึกษาในหลายกรณี มีตัวอย่างให้เห็นเช่นเขตทับซ้อนทางทะเลและหมู่เกาะเช่น ญี่ปุ่นเกาหลีใต้ อินเดียปากี สิงคโปร์มาเลเซีย
ผมยังสงสัยว่า ICC มีอำนาจในการในปักปันเขตแดนด้วยหรือ แล้วทำไมมีต้องแค่ึ7ชาติ ไปหาใน google ก็ไม่เจอองค์กร ICC ที่ว่านี้เลยครับ 
ไม่รู้งานนี้เล่นgame อะไรอยู่แต่การที่เราปล่อยให้เขมรสร้างถนนเสร็จนี่ผมงานนี้เสียรางวัดแ้ล้วครับ แล้วมันผลต่อการประชุมปักเขตแดนระหว่งประเทศแน่นอนครับ
โดยคุณ sam เมื่อวันที่ 04/09/2009 05:54:45


ความคิดเห็นที่ 8


ถ้าไทยลาออกจากยูเนสโก้หล่ะครับ จะมีผลไรเกิดขึ้นไหม

 

ขนาดเมกา มันยังไม่เป็น สมาชิกของ unhcr เลย

 

 

ผมว่าศักดิ์ศรีของประเทศเหนือกว่าเป็นสมาชิกขององกรนี้

โดยคุณ peet1412 เมื่อวันที่ 04/09/2009 06:59:10


ความคิดเห็นที่ 9


ผักดัน เขียนให้ถูกต้องคือ ผลักดัน

ประวัติสาทสำรอย   สำนวนดูแปลกๆน่ะครับ

อาจจะยังเป็นเยาวชนอยู่  อยากให้น้องๆใช้ภาษาไทยกันให้ถูกต้องด้วยครับ

มีหลายๆคนอยากจะมีบัตรประจำตัวที่ขึ้นต้นด้วยเลข 3

เราคนไทย  ทำไมอยากจะใช้เลข 0 นำหน้าเหมือน ด.ช. หม่อง

กันครับ

 

โดยคุณ santik เมื่อวันที่ 04/09/2009 09:18:24


ความคิดเห็นที่ 10


ผู้นำประเทศ วันนี้ท่านยังหล่อ ออกทีวีอยู่เลย

 7 เดือนผ่านมา ก็ประมาณ 210 วัน อยากถามว่าท่านผู้นำออกทีวีกี่วันครับ วันละกี่ครั้ง แต่ละครั้ง เคยพูดเรื่องปัยหาชายแดนเขมรหรือไม่

   ทั้งทางบกและในทะเล หรือปัญหาภาคใต้ที่ตายแทบทุกวัน หรือแม้แต่เคยพูดเรื่องอนาคตเราจะทำอย่างไรกับเรื่องพลังงาน ทั้งไฟฟ้า น้ำมัน ก๊าซ หรือแม้แต่ขยะล้นประเทศ น้ำเน่าเสีย ท่านจะแก้อย่างไร

เห็นวิสัยทัศน์ของท่านผู้นำแล้วเซ็งครับ  วันนี้ไปแจกรางวัล พรุ่งนี้ไป roadshow  วันต่อไปไปพารากอนไปเปิดงานจัดดอกไม้  วันต่อไปคงไปกล่าวว่าจะไปกู้เงินที่ไหนอีก  จะไปแจกเงินที่ไหน    วันๆมีแต่งานการตลาด ประชาสัมพันธ์ไปวันๆ หรือไม่ก็จ้องล้างแค้นจองเวรกันเองระหว่างนักการเมือง

ในโลกมีแค่ประเทศไทยประเทศเดียว ที่มีผุ้นำแต่แบบนี้ เหมือนกบในกะลา   ปัจจุบันเขมร พม่า ลาว เวียดนาม เขาไปไหนไกลแล้ว  ไม่ต้องนับมาเลย์ อินโดหรือสิงคโปร์ เขาจะเหยียบดวงจันทร์แล้ว  เมืองไทยยังแค่โชว์วิสัยทัศน์ว่าจะกู้เงินมาทำถนน  มาก่อสร้าง คิดได้แค่นี้ แต่งานวิจัยไม่เคยสนับสนุน อย่างมากก้แค่ต้นแบบ แล้วก็เอาออกโชว์ในงาน หลังจากนั้นก้จัดซื้อจากต่างประเทศ

โดยคุณ Mr. Bean เมื่อวันที่ 04/09/2009 09:38:33


ความคิดเห็นที่ 11


ขอบคุณครับท่าน: santik   ผู้มีความรู้ ที่ตักเตือนพอดีผมตกภาษาไทยเลยพิมพ์ผิด

ผมคงไม่โดนโทษประหารชีวิตนะครับผมกลัว

โดยคุณ GTX เมื่อวันที่ 04/09/2009 10:52:08


ความคิดเห็นที่ 12


ขออย่าให้เอาประเด็นการเมือง ในปัจจุบันเข้ามาเกี่ยวข้องด้วยครับ

เดี๋ยวไม่จบ  กระทู้นี้จะกลายเป็นวิวาทะเรื่องการเมืองไปครับ / Admin
โดยคุณ nok เมื่อวันที่ 04/09/2009 11:19:10


ความคิดเห็นที่ 13


ผลักดันออกไปเลยครับ สมัยท่านชวนก็ผลักดันชาวเขมรบริเวณพื้นที่ทับซ้อนเหมือนกัน หรือ Unman land ไม่งั้นถ้ามาอยู่มากกว่านี้จะเป็นปัญหาที่แก้ได้ยากครับ ในเมื่อเราอ้างสิทธิ์ ก็ควรมีมาตรการณ์อย่างใดอย่างหนึ่งครับ ผมว่าเราต้องแข็งบ้าง อ่อน บ้างตามสถานการณ์ครับ ไม่ใช่อะไรก็ประ๊ณีประนอมไปเสียหมด ยังไงก็ต้องปกป้องผลประโยชน์ของประเทศชาติไว้ก่อนครับ ยกตัวอย่างทร. ครับ ทร.นำเรือพุ่งไปทันทีบริเวณทับซ้อนแถวๆ เกาะกูด เขมรกลัวขี้หดตดหายไปเลย นี่แหละครับ ผุ้ที่รักษาผลประโยชน์ของชาติที่แ้ท้จริง
โดยคุณ Nine เมื่อวันที่ 04/09/2009 23:16:15


ความคิดเห็นที่ 14


เรียนคุณนก(ADMIN)ที่เคารพ  ถ้าผุ้นำสั่งการอ่อนแอ ไม่ยอมเข้าใจ noman land   โดยที่้ผู้จั๋วกระทู้นี้ก็อยากให้จบกันที่การเจรจา เท่าที่ผ่านมา 7 เดือน ผมขอกราบเรียนคุณนก ถ้าผมจะบอกว่าก็การเมืองนะแหละ ทำให้ปัญหานี้ไม่ได้รับการแก้ไข ส่งคนไปเจรจาก็ผิดคน  และก่อนหน้านี้ผู้นำคนนี้ก็ตะแบงในสภาจาบจ้วงท่านสาหมาก  สั่งสอนว่าเราจะยอมให้เสียดินแดน4.6ตรกม แม้แต่ตารางนิ้วเดียวไม่ได้
สุดท้ายเป็นไงครับ
ผมขอจบละกันครับ เดี๋ยวยาว.................
โดยคุณ tik เมื่อวันที่ 05/09/2009 06:12:05


ความคิดเห็นที่ 15


เรื่องพวกนี้เราก็รู้อยู่แก่ใจของเราทุกคนละครับ ว่าสาเหตุมันเป็นเพราะอะไร ที่เราต้องเสียดินแดน พูดไปก็เท่านั้น เซ็งไปเปล่า ๆ

 

 

โดยคุณ ทอแสง เมื่อวันที่ 05/09/2009 09:03:45


ความคิดเห็นที่ 16


โทษทีครับปล่อยไก่ no man land เป็น unman land   เอิ๊กๆๆๆๆ ;P
โดยคุณ Nine เมื่อวันที่ 05/09/2009 10:19:09


ความคิดเห็นที่ 17


ผมว่าตอนนี้เรากำลังหลงประเด็นกันอยู่ เห็นไทยบอกแต่ว่าพื้นที่รอบเขาพระวิหารเป็นพื้นที่ทับซ้อน แต่กัมพูชาไม่เคยบอกต่อชาวโลกเลยว่าพื้นที่ตรงนั้นเป็นพื้นที่ทับซ้อน บอกแต่ว่าพื้นที่ตรงนั้นเป็นของเค้า ไทยเป็นผู้บุกรุกเข้ามา อ้างสิทธิ์ โมเมหรืออะไรก็แล้วแต่ ดังนั้น ไทยก็ควรบอกกับชาวโลกเหมือนกันว่าพื้นที่ตรงนั้นเป็นของเรา ไม่ใช่พื้นที่ทับซ้อน โดยให้เหตุผลและหลักฐานของกรมศิลป์ฯ ซึ่งขึ้นทะเบียนปราสาทตาเหมือน และปราสาทอื่นโดยรอบมาตั้ง 76 ปีแล้ว หรืออ้างสิทธิ์ก่อนฝรั่งเศสบีบบังคับเราเข้ายึดครองสิครับ จดหมายเหตุก็มีทำไมไม่อ้าง ไม่ใช่ทำเหนียมอาย เกรงใจเพื่อนบ้านที่ไม่เคยเกรงใจเรางั้นรึ  ช่วยเหลือไม่รู้เท่าไหร่กับเนรคุณ แล้วเขมรจะมาอ้างอะไรอีก แผนที่ของฝรั่งเศสที่ปล้นแผ่นดินเราไปงั้นรึ เราควรส่งทหารเข้าพื้นที่ทันที ขับไล่ผู้บุกรุก ไม่ใช่รอให้เค้าฆ่าเราก่อนยิงเราก่อนทุกทีไป ผมสงสารทหารที่เราเอาพวกเค้าไปรับกระสุน ระเบิดอย่างเดียว เหมือนที่ทำกับ 3 จว ภายในประเทศ   

โดยคุณ giggok เมื่อวันที่ 05/09/2009 11:20:07


ความคิดเห็นที่ 18


ผมเองก็อัดอั้นตันใจหลายเรื่องนะ แต่ไม่ขอระบายในนี้ละกัน ที่สำคัญนะครับ

คุณ ADMIN ครับ

ถ้าหากจะเข้าสู่หมวดกระทู้การเมืองกัน ผมก็คิดว่าคุณ admin น่าจะใช้วิจารณญาณวินิจฉัยไตร่ตรอง มีมาตรการหน่อยนะครับ

เห็นบางคนบางที มีเรื่องที่ผิดกฎบอร์ดบ้างเล็กๆน้อยๆเพราะเกี่ยวข้อง ก็มีการลบกันเกิดขึ้น

บางครั้งการพูดถึงการเมืองเต็มๆ ก็มีแต่ก็ไม่มีการลบเกิดขึ้น

ผมเองก็เข้าใจนะครับ

ผมขอเสนอแนะว่า
T008517
ของดวิจารณ์การเมืองในเวบนี้    
Ronin   
509/ 3
11/7/2552

แค่นี้พอมั้ยครับ?

ถ้าไม่เช่นนั้น ผมเองจะโดดมาร่วมแจมด้วยครั้งหน้า หากผมเห็นว่าสามารถพูดโยงเรื่องการเมืองไปได้ด้วยบ้าง เพื่อระบายอะไร ผมจะได้ร่วมมั่งละกัน

ถึงคราวนั้นมาเยือน จะลบ จะแบนไอดีผมก็เชิญนะครับ

เพราะหลังๆผมก็รู้สึกว่า บอร์ดแห่งนี้ มันชักจะน่าเบื่อลงทุกวันๆ

การเมืองน่าติดตามดีครับ ผมเองก็ชอบ และติดตามเสมอ แต่อยากให้มันเป้นระเบียบ หากคิดว่าการเมืองกับการทหารมันแยกออกจากกันไม่ได้ งั้นผมก็เสนอให้เอา
T008517
ของดวิจารณ์การเมืองในเวบนี้    
Ronin   
509/ 3
11/7/2552
 ตรงนี้ออกไปเสียเลยครับ ^^

ขอบคุณมากครับ
โดยคุณ BloodRoyal เมื่อวันที่ 05/09/2009 13:40:22


ความคิดเห็นที่ 19


ผมมีข้อมูลจากแหล่งที่พอเชื่อถือได้ ว่า พี่แซมเราเล่นบทตี 2 หน้าเสียแล้ว ลำพังบริจาครถบรรทุกทหารเก่าๆ
ให้เพื่อนบ้านก็ไม่น่าจะมีอะไรในกอไผ่ แต่ได้ยินมาว่าอาจมีของร้อนประเภทหางยาวแบบบั้งไฟแอบมาด้วยจะยุ่งกันใหญ่  เราคงต้องใช้ความอดทนให้มากๆ ต่อการยั่วยุทุกรูปแบบ หากศึกบนบกเกิดขั้นเมื่อไหร่ 7 ชาติที่ว่ามาช่วยดูเรื่องปราสาทคงรุมกินโต๊ะเราในเวทีโลกเละแน่ ดังนั้น หากเรายังมัวทะเลาะกันเห็นทีจะเสียดินแดนทางทะเล (ที่เป็นพื้นที่ทับซ้อนในมุมมองของเรา) ในครั้งนี้ป็นแน่แท้

ส่วนศึกทางเรือนั้นคงเกิดยากเพราะในทะเลจีนใต้เต็มไปด้วยหูตา (ใต้น้ำ) ของตั้วเฮีย และหมีขาว เต็มไปหมด  พี่แซมกับสหายเมืองน้ำหอมคงไม่กล้าทำอะไรเกินขอบเขต อย่างเก่งก็แค่ส่งเรือรบมาอวดธงเอาใจเพื่อนบ้านที่น่ารักของเราเท่านั้น (โปรดอย่าลืมสหายเมืองน้ำหอมเป็นคนเขียนแผนที่เจ้าปัญหานี้นะครับ ผลประโยชน์ทำให้ชาติใหญ่ๆ ทำเรื่องที่ไม่น่าจะทำได้มามากต่อมากแล้ว  และสงครามแห่งการแย่งชิงทรัพยากรอาจอยู่ใกล้เราแค่ปลายจมูกก็ได้ อย่าได้ประมาเชียว)

รัฐบาลและ กต. ควรแสดงจุดยื่นต่อเวทีโลกให้ชัดเจนต่อท่าทีแปลกๆ ของยูเนสโก้ ก่อนที่จะสายเกินไป

โดยคุณ horseman เมื่อวันที่ 05/09/2009 13:41:19


ความคิดเห็นที่ 20


รัฐบาลและ กต. ควรแสดงจุดยื่นต่อเวทีโลกให้ชัดเจนต่อท่าทีแปลกๆ ของยูเนสโก้ ก่อนที่จะสายเกินไป <<<<รัฐบาลจะมาอ่านหรือเปล่าเนี่ย

7 ชาติที่ว่านี้มีอะไรบ้างครับ
โดยคุณ GTX เมื่อวันที่ 05/09/2009 13:57:27


ความคิดเห็นที่ 21


ผมว่าอย่างแรก ต้องกันไม่ให้พวกชาติอื่นๆ เข้ามายุ่งเกี่ยวครับ ไม่งั้นเรื่องอาจจะไปถึงสหประชาชาติได้ เราต้องตัดโดยการเจรจาแบบทวิภาคีก่อน คือ2ชาติ ประกาศไปเลยว่า พวกข้าจะเจรจากันก่อนนะ อย่าเพิ่งมายุ่ง อะไรประมาณนั้น แต่เราเสียหรือไม่นั้นก็ยังไม่ทราบแน่ชัดครับ แต่จำได้ดูรายการของคุณสุทธิชัย หยุ่น ที่ไปสัมภาษณ์ท่านเตช บุนนาคตอนที่ท่านเป็น รัฐมนตรีต่างประเทศ ท่านก็บอก " ผมไม่เห้นว่าเราเสียดินแดนอะไรเลย" ก็งงๆ อยู่เหมือนกันครับว่ามันเป็นอย่างไรกันแน่
โดยคุณ Nine เมื่อวันที่ 05/09/2009 22:14:23


ความคิดเห็นที่ 22


เรื่องของวงในวงนอก เราไม่รู้แท้แน่ชัด ที่ได้สัมผัสได้รับทราบล้วนเป็นข่าวสารที่เกิดจากการกรองมาแล้วทั้งนั้น(กรองดีหรือไม่ดีก็ว่ากันไป)

แต่จุดสำคัญผมว่า การประชาสัมพันธ์ของรัฐบาลยังทำได้ไม่ดีพอกระมังครับ หรือว่าควรจะเก็บเงียบไว้ก่อนหรืออย่างไรก็ไม่อาจจะทราบได้...
โดยคุณ BloodRoyal เมื่อวันที่ 05/09/2009 22:42:30


ความคิดเห็นที่ 23


เรียนคุณ BloodRoyal

ความหมายของผมคือ เกี่ยวข้องกับกระทู้นี้ครับ  เพราะมีสมาชิกโพสลากเอาเรื่องของพรรคการเมืองที่เป็นรัฐบาลเข้ามาเกี่ยวข้อง  และมันจะกลายเป็นประเด็นไปครับ  จากเรื่องที่ จขกท. ตั้งขึ้น ผมเกรงว่ากระทู้มันจะเปลี่ยนไปเป็นทะเลาะกันเรื่องการเมืองที่เห็นในปัจจุบัน แบ่งสีแบ่งฝ่าย  เลยออกมาเบรคนะครับ

ส่วนที่โดนลบๆเพราะมันเป็นประเด็นครับ  อันไหนที่พิจารณาแล้ว ว่ายังพอรับได้ ไม่เลวร้ายจนเกินไปผมก็จะปล่อยๆบ้างครับ  

ต้องเข้าใจนิดนึงนะครับ  เพราะถ้าลบ ก็จะมีพวกหาว่าปิดกั้นไม่ใ้ห้แสดงความคิดเห็น  ถ้าปล่้อยบ้างก็จะมีพวกบอกว่า  ทำไมไม่ลบ เพราะ จุดประสงค์ของเว็ปบอร์ดนี้คืออะไร 

ผมพยายามควบคุมไม่ให้มันบานปลายไปมากกว่านี้ครับ  ย้ำอีกครั้งว่าถ้ามันไม่เลวร้ายคงจะปล่อยๆให้ระบายบ้าง  แต่ต้องไม่เกินขอบเขตครับ บางครั้งลำบากใจเหมือนกันครับ


เพราะอย่างน้อยคนที่เล่น Internet เป็น คงอ่านหนังสือออก  คงรู้ว่าจุดประสงค์ของเว็ปบอร์ดต่างๆนั้นมีอะไร  บางครั้งมันขึ้นอยู่กับวุฒิภาวะของคนที่โพสครับ  แต่หลายๆคงรู้ว่าอะไรควรไม่ควรครับ 

แต่ยังท่านสมาชิก คงจะเข้าใจกันดีครับ  ไม่ต้องบอกหลายๆครั้ง ว่าเว็ปบอร์ดนี้เป็นเว็ปบอร์ดเกี่ยวกับเรื่องอะไรครับ

ด้วยความเคารพ  และหลายๆท่านคงจะเข้าใจนะครับ
โดยคุณ nok เมื่อวันที่ 06/09/2009 00:23:02


ความคิดเห็นที่ 24


รับทราบครับ

เพียงแต่หลังๆ ผมมองๆอ่านๆรู้สึกว่า การเมืองจะเยอะขึ้นๆ เรื่อยๆ พยายามอย่าให้บานปลายจนมากเกินไปละกันครับ

ขอบคุณครับ
โดยคุณ BloodRoyal เมื่อวันที่ 06/09/2009 02:46:22


ความคิดเห็นที่ 25


ถ้าไทยลาออกจากยูเนสโก้หล่ะครับ จะมีผลไรเกิดขึ้นไหม

แล้วแต่ละอย่างที่ยูเนสโก้เคยขึ้นทะเบียนให้ไทยละครับ จะเป็นยังไงบ้างละนั้น?

โดยคุณ tan02 เมื่อวันที่ 06/09/2009 07:28:45


ความคิดเห็นที่ 26


ไทยไม่เข้มแข็งไม่แสดงความเข้มแข็งอะไรเลย ที่กัมพูชาเคยพูดไว้ว่า ไทยตอนนี้ก็เหมือนช้างหลับ ซื่งมันก็จริงทุกอย่าง เค้านิดเดียวก็ยังทำได้ขนาดนี้ นายกไม่เข้าใจปัญหาอะไรเลย ไม่มีความเด็ดขาด ถึงขั้นหวาดกลัว ถ้ามีนิสัยรักชาติหวงชาติเหมือนท่านอดีตนายก ตอนที้แขมร์เผาสถานทูตปี45 แล้วท่านบอกว่า ถ้าคนไทยเป็นอะไรแม้แต่คนเดียว มีเรื่องแน่ ประเทศไทยคงจะไม่ต้องอยู่สภาพอย่างนี้ ที่จริงถ้าจะทำอย่างงี้ไม่จำเป็นต้องมีกองทัพที่เข้มแข็งก็ได้ เพราะอย่างไงก็ทำตัวยอมเค้าอยู่ดี

เรื่องพื้นที่ทับซ้อน ที่กัมพูชาเข้ามาสร้างถนน บ้านเรือน ปัญหานี้มีมานานแล้วแต่รัฐบาลเอาหูไปนาเอาตาไปไร่ ห่วงความสัมพันธ์และกลัวเสียประโยชน์ในบ่อนปอยเปตุของนักการเมืองบางคนที่เป็นเจ้าของบ่อนในเขมร ไม่ทำอะไรจริงจัง แล้วทหารจะทำอะไรได้ครับ ถ้าเจ้านายไม่สั่งเขียนจดหมายร้องเรียนมา8-9ฉบับก็ไม่ได้รับการใส่ใจ มันก็ไกล้จะเสียดินแดนเข้าไปทุกทีแล้วแหละครับ

ผมเห็นด้วยกับคุณ giggok และพี่ houseman ทุกเรื่องครับ แต่ผมคิดว่าฝรั่งเศสคงไม่กล้าเข้ามายุ่งเกี่ยวหรือส่งกำลังทางเรือมาข่มเราเพราะฝรั่งเศสไม่ได้เป็นเจ้าอาณานิคมเขมรแล้วและสองถ้าทำอย่างงั้นจีนคงออกมาปกป้องเราแน่ (เหมือนเรื่องพม่า)

อีกไม่นานถ้าเราจังทำตัวอย่งงี้เรื่องเสียดินแดนเราคงไม่อาจจะหลีกเลี่ยงได้ ทางที่ดี ถ้าไม่กล้าผลักดันเค้าออกก็เอาคนเราเข้าไปอยู่สิครับ เหมือนเค้า เค้าทำไรเราทำหมด เค้าสร้างถนน เราก็สร้าง เค้าขนทหารเราก็ขน แล้วถ้าเค้าประท้วงเราก็บอกเอ็งยังทำได้เลย อั๊วก็ทำได้เหมือนกัน แล้วถ้ามีอะไรก็ออกข่าวก่อนเลยครับชิงออกก่อน ต่อยก่อนได้เปรียบแล้วน้องแขมร์ก็ใช้ได้ผลทุกที และแก้การวางตัวของเราไม่รู้ว่าบิดามารดรของบรรดานักการเมืองบางคนต้มหนังสืออุดมการณ์ความรักชาติ และประวัติศาสตร์ให้กินบ้างหรือเปล่า

เห้อ เหนื่อยใจ มันจะไม่มีประโยชน์อะไรถ้าไม่มีใครมาอ่านข้อความของพวกเรา และไม่มีใครสนใจในความคิดของประชาชนรากหญ้าอย่างพวกเรา ต่อให้พูดกันปากฉีกก็ไม่มีประโยชน์หรอกครับ   

โดยคุณ champ thai army เมื่อวันที่ 06/09/2009 11:45:56


ความคิดเห็นที่ 27


แล้วทำไมจีนต้องปกป้องเราด้วยครับอยากรู้ หรือเรามีข้อตกลงร่วมกับจีนเรื่องการใช้กำลังครับ แล้วที่เหมือนเรื่องพม่าคือเรื่องอะไรครับ?
โดยคุณ ขำขำวุ้ย เมื่อวันที่ 06/09/2009 12:09:15


ความคิดเห็นที่ 28


เพราะพี่จีนเค้ามีนโยบายไม่แทรกแทรงการเมืองระหว่างประเทศ แล้วการที่ฝรั่งเศสจะออกหน้าแทนเขมร มันคงเป็นการไม่สมควร ผมคิดเองนะครับว่าอย่างน้อย ต้องมีมหาอำนาจชาติหนึ่งออกโรงมาปกป้องเราอยุ่แล้ว และถ้าฝรั่งเศสออกหน้า จีนซึ่งต้องการเป็นพี่ใหญ่ในภูมิภาคนี้อยู่แล้ว ก็ต้องแสดงพลัง และโชว์อำนาจอยู่แล้ว และก็หวังผลประโยชน์จากไทย ซึ่งถ้าจีนออกหน้าปกป้องไทย การลงทุนเอย ผลประโยชน์เอย อิทธิพลทางทหารที่ไทยเคยตามอเมริกา ก็อาจจะเปลี่ยนเอนมาทางจีนได้นะสิครับ และจีนคงไม่เห็นด้วยที่จะเห็นชาติมหาอำนาจมารังแกประเทศเอเชียด้วยกัน โดยที่ไม่ใช่เรื่องของตัวเองเลย ประมาณเนี้ยแหละครับ

ส่วนที่ผมบอกว่า เหมือนเรื่องพม่า คือว่าจีนออกมาค้านเรื่องพม่าเข้ามาแทรกแทรงเรื่องภายในหัวชนฝา ซึ่งเป็นการแสดงสปริต ของการเป็นผู้นำ พี่ใหญ่ ในการปกป้อง ประเทศในภูมิภาคนี้ อะไรทำนองนี้แหละครับ

ผมไม่ได้นิยมใครนะครับ แต่แค่คิดความน่าจะเป็นน่ะครับ

ป.ล.ที่จริงผมก็คิดแล้วครับว่าไม่สมควรใช้คำนั้น ไม่สมควรลบเลยนะครับยินดี ขอบคุณที่ท้วงติงครับ

โดยคุณ champ thai army เมื่อวันที่ 07/09/2009 05:40:54


ความคิดเห็นที่ 29


ผมประโยชน์ไม่เข้าใครออกใครอย่างคุณ horseman  บอก จีนก็อาจไม่ใจดีมาช่วยเราก็ได้ เราไม่ควรหวังกับคนอื่นมากพยามช่วยเหลือตัวเองดีกว่า

โดยคุณ GTX เมื่อวันที่ 08/09/2009 14:30:37


ความคิดเห็นที่ 30


ขอแสดงความเห็นสักเล็กน้อยนะครับ

เราทราบกันดีแล้วว่า เมื่อตอน WW2 ญี่ปุ่นอ้างว่าถูกปิดล้อมทางเศรษฐกิจจากกงล้อม ABCD คือ อเมริกา บริเตน  ไชน่า  และ ดัชท์  คือ กลุ่มประเทศเหล่านี้ต่อต้านญี่ปุ่นเนื่องจากการแผ่อิทธิพลอย่างก้าวร้าวของญี่ปุ่นเอง  จึงไม่ยอมส่งออกสินค้ายุทธปัจจัย เช่น น้ำมัน สินแร่ต่างๆ รวมถึงเครื่องจักร และบอยคอตสินค้าจากญี่ปุ้นด้วย ทำให้ญี่ปุ่นต้องหาทางออกโดยการโจมตีอ่าวเพิร์ล และเอเซียตะวันออกเฉียงใต้ (ในส่วนที่เป็นอาณานิคมของบริเตน และดัชท์ เพราะมีแหล่งน้ำมัน และยางพารา) ในตอนนั้นไทยเองก็โดนหางเลขไปด้วยเพราะเป็นทางผ่านสำคัญของกองทัพญี่ปุ่นในการเข้าโจมตีฐานทัพใหญ่ของบริเตนในอินเดีย (ตีผ่านไทย-พม่า)  ทำให้เราไม่มีทางเลือกมากนักอย่างที่ทราบกันดีอยู่แล้วว่าเราถูกบีบให้เลือกข้างญี่ปุ่น (ในขณะที่อเมริกาตอนนั้นนอกจากไม่ช่วยเราแล้ว  ยังยึดเครื่องบินที่เราสั่งซื้อไปหลายลำด้วย เพราะกลัวว่าจะตกอยู่ในมือของญี่ปุ่น)

ตอนนี้มาถึงศตวรรษที่ 21 แล้ว ใครจะเชื่อว่าจีนคอมมิวนิตส์จะกลายมาเป็นมหาอำนาจ แถมยังเป็น 1 ใน 5 สมาชิกมนตรีความมั่นคงแห่ง UN ด้วย  และที่สำคัญคือ อเมริกามองจีนอย่างระแวงมาตลอดไม่ว่าจะเป็นกรณี ติดเครื่องดักฟังในเครื่องบินของผู้นำจีน (เจียงเจ๋อหมิง) หรือส่งเครื่องบินสอดแนมจากไต้หวันและเกาหลีใต้คอยสำรวจชายแดนจีนอย่างสม่ำเสมอ รวมถึงดาวเทียมทางทหารของอเมริกาก็สร้างความรำคาญให้จีนมิใช่น้อย  (เคยเกิดเหตุการณ์ที่ บ.รบจีน จงใจชนเครื่องบินสอดแนมของสหรัฐจนต้องร่อนลงจอดฉุกเฉินในจีนเมื่อ 3-4 ปีก่อนมาแล้ว และยังมีข้อสังสัยถึงโครงการอวกาศของจีนบางเรื่องที่อาจมีวัตถุประสงค์แอบแฝงเพื่อทำลายดาวเทียมของอเมริกาที่จีนเห็นว่าเป็นภัยคุกคามด้วย)

นอกจากนี้การที่จีนใช้ทรัพยากรและพลังงานอย่างมหาศาลเพื่อการผลิตในภาคอุตสาหกรรมก็อาจเป็นเหตุให้จีน อาจเดินซ้ำรอยญี่ปุ่นใน WW2 ได้ เนื่องจากอาเซียนมีแหล่งสำรองพลังงานที่ติดอันดับโลกทีเดียว กล่าวคือมีปริมาณสำรองแก็สธรรมชาติที่อยู่ใน บริเวณพื้นที่ทับซ้อนระหว่างไทย-เขมร  ไทย-มาเลเซีย
และอีกแหล่งที่น่าจับตามองคือในพม่า(อันดามัน) มากเป็นอันดับ 2 ของโลก ดังนั้น จีนต้องคงอิทธิพลในเขตทะเลจีนใต้ และอาเซียนอย่างแน่นอน และที่สำคัญคือบริเวณนี้ยังเป็นทางผ่านไปยังแหล่งพลังงานในตะวันออกกลางอีกด้วย  ที่ผ่านมากองทัพเรือของเรารับทราบการเคลื่อนไหวของเรือดำน้ำไม่ปรากฎสัญชาติในอ่าวไทยหลายครั้งแล้ว มันน่าคิดนะครับว่ามาทำไมกันบ่อยๆ แถวนี้  และที่น่าตกใจก็คือเหตุการณ์เรือดำน้ำจีนโผล่ขึ้นน้ำในทะเลจีนใต้ห่างจากเรือบรรทุกเครื่องบินในกองเรือที่ 7 ของอเมริการแบบปลายจมูกเมื่อตอนต้นปีที่ผ่านมา โดยที่กองเรือของอเมริกาก็ไม่ทันระวังตัวด้วย (เล่นกันแรงดี) 

ดังนั้น หากเราได้จีนมาร่วมเจรจากับอเมริกาและฝรั่งเศส ก็น่าจะช่วยให้เรามีแต้มต่อมากขึ้นนะครับ
(แบ่งผลประโยชน์ให้จีนบ้าง ดีกว่าเราจะไม่ได้อะไรเลย)

 

 

 

โดยคุณ pramoch เมื่อวันที่ 10/09/2009 13:09:45


ความคิดเห็นที่ 31


หายหน้าไปนาน ขอกลับมาแสดงความเห็นเกี่ยวกับท่าทีของจีนแถบภูมิภาคนี้เพิ่มเติม ดังนี้

 

การที่ล่าสุดจีนเพิ่งบรรลุข้อตกลงในการจัดหาพลังงานจากออสเตรเลียมูลค่ากว่า 41,000 ล้านเหรียญสหรัฐ เพื่อรองรับการใช้พลังงานของจีนในอีก 20 ปีข้างหน้า
หากลองสังเกตให้ดี จะเห็นว่าในรอบ 10 ปีที่ผ่านมา จีนพยายามกระจายความเสี่ยงจาการจัดหาแหล่งพลังงานของตนออกไปทั่วโลก  รวมถึงความพยายามในการเข้าควบรวมกิจการกับน้ำมันข้ามชาติอีกหลายแหล่งด้วย  นั่นก็เป็นการส่งสัญญาณแล้วว่าจีนไม่ได้คิดเล็กแต่คิดใหญ่และคิดอย่างลึกซึ้งด้วย
( นอกจากนี้ ในประเทศจีนเองก็ยังมีแหล่งพลังงานสำรองในแถบตะวันตกของประเทศ โดยเฉพาะด้านมลฑลซินเกียงที่กำลังมีปัญหาด้านเชื้อชาติกันระหว่างชาวฮั่นและชาวอุ้ยกูร์เจ้าของพื้นที่เดิมในขณะนี้ ซึ่งว่าปัญหาเรื่องเชื้อชาติดังกล่าวจะไม่จบลงโดยง่ายด้วยจีนเชื่อว่ามีชาติตะวันตกหนุนหลังชาวอุ้ยกูร์ให้สร้างความวุ่นวายขึ้น)  

 

สำหรับประเทศในเขตอิทธิพลของจีนนั้น  ที่ผ่านมาจีนจ้องมองพม่าตาเป็นมัน เพราะพม่านอกจากจะมีพรมแดนติดกับจีนแล้ว ยังอุดมไปด้วยทรัพยากรธรรมชาติและแหล่งพลังงาน
อย่างมหาศาล
  นอกจากนี้ยังเป็นประตูหลังให้จีนออกสู่มหาสุมทรอินเดียเพื่อไปติดต่อยังตะวันออกกลาง และแอฟริกาได้อีกด้วย (ดังนั้น หากชาติตะวันตกคิดปิดล้อมจีนจริงๆ ในอนาคต
ไม่ว่าด้วยเหตุใดๆ  (ทั้งด้านพลังงานและพรมแดน) เชื่อว่าจีนคงไม่พลาดเหมือนอย่างญี่ปุ่นในอดีตแน่)

 

ส่วนในเขมรนั้น จีนเองก็ไม่ต้องการให้ชาติตะวันตกเข้าไปมีอิทธิพลมากเกินไป  จึงพยายามเข้ามามีส่วนร่วมในการจัดการผลประโยชน์ต่างๆ

เพราะกลัวตกขบวนรถไฟ  ตอนนี้บริษัทน้ำมันทั้งจากสหรัฐอเมริกา และฝรั่งเศส กำลังแย่งชิ้นเค้กสัมปทานอันอย่างมันมือ  รวมถึงบริเวณพื้นที่

ทับซ้อนทางทะเลระหว่างไทยกับเขมรด้วย
(เขมรทำ
MOU ยกพื้นที่ดังกล่าวในส่วนบล็อก 3 ให้กับฝรั่งเศสไปอย่างหน้าตาเฉยเมื่อวันชาติของฝรั่งเศสที่ผ่านมาแล้วนี่เอง

ทำให้สำนักงานประชาสัมพันธ์ของบริษัทโทเทล สัญชาติฝรั่งเศส ในเขมรต้องออกแถลงข่าวว่าเป็นแค่สิทธิในการสำรวจน้ำมันเท่านั้น
และการขุดเจาะสำรวจจะกระทำได้ต่อเมื่อไทยเขมรตกลงเรื่องพื้นที่ทับซ้อนสำเร็จแล้ว โดยขอให้ไทยกับเขมรตกลงกันให้ได้ภายใน 10 ปีนี้ด้วย )

 

งานนี้ไม่รู้ว่า กระทรวงต่างประเทศของไทย และรัฐบาล จะแก้เกมของเขมรอย่างไร  เพราะเขมรเอาขาใหญ่อย่างฝรั่งเศสมาคุ้มกันล่วงหน้าแล้ว

 

ดังนั้น หากเราเสียเปรียบเรื่องพรมแดนทางบกแถวอีสานใต้ (เขมรไม่เอาเฉพาะเขาพระวิหาร แต่เขมรจะเอามากกว่านั้น ถึงขนาดที่ผ่านมาก่อนเกิดการจลาจลเผาสถานทูตไทยในเขมร
มีนักศึกษาเขมรเดินขบวนเรียกร้องจะเอาจังหลัดสุรินทร์ บุรีรัมย์ และศรีสะเกศคืนจากไทยทีเดียว)  ก็มีหวังว่าอาจจะเสียเปรียบพรมแดนทางทะเลตามไปด้วย  ต้องไม่ลืมนะครับว่า
ฝรั่งเศสเป็นคนเขียนแผนที่พรมแดนให้ไทยกับเขมร ในลักษณะที่ทำให้ไทยเสียประโยชน์มาโดยตลอด ซึ่งหากมีปัญหากันจริงๆ คงลากเราไปสู่เวทีการเจรจาระดับประเทศหรือระดับโลก
(และในเวทีโลกนี่ก็เต็มไปด้วยล็อบบี้ยีตส์ของมหาอำนาจชาติตะวันตก ซึ่งเราอ่อนหัดในเรื่องแบบนี้มากๆ )  การเจรจาโดยมีจีนช่วยหนุนหลังก็น่าจะจะแก้เกมของเขมรได้บ้างไม่มากก็น่า  เพียงแต่เราก็ต้องแบ่งผลประโยชน์ให้จีนเป็นการตอบแทนบ้างเท่านั้น

 

เรื่องนี้ไม่ได้เขียนเพื่อให้เราไปทะเลาะกับเพื่อนบ้านนะครับ  แต่การอยู่ร่วมกันกับเพื่อนบ้านที่ไม่อยู่กับร่องกับรอย คงต้องหากลยุทธ์ มารับมือกับเขาด้วยนะครับ
(ประมาณว่าต้องเข้าใจเพื่อนบ้านเราให้ท่องแท้เสียก่อนว่าเขาต้องการอะไร จะได้รับมือได้ถูก) 
ผมเชื่อว่าสุดท้ายแล้วเมื่อผลประโยชน์ลงตัวกับทุกฝ่ายเหตุการณ์ก็น่าจะจบลงด้วยดี 
แต่ถ้าไม่เป็นเช่นนั้นไทยอาจติดกลางเขาควายแห่งสงครามอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้เหมือนอดีตที่ผ่านมา

 

ก็ขอภาวนาให้เรื่องนี้จบแบบสวยๆ เนียนๆ ก็จะดีที่สุดครับ

 

 

อนึ่ง หากไม่ให้แสดงความคิดเห็นในเรื่องผลประโยชน์ของชาติกันบ้าง ก็จะดูเหมือนกับการปิดหูปิดตากันนะครับ
(เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องชวนทะเลาะ หรือก่อให้เกิดความขัดแย้งใดๆ   ทั้งนี้ เป็นวิจารณญาณของเวปมาสเตอร์เองที่จะดูแลเรื่องดังกล่าว ซึ่งเราทุกคนต้องเคารพในกฎกติกาและ
มารยาทของการอยู่ร่วมกันในสังคมอยู่แล้ว)


เพราะหากสุดท้ายแล้วเราต้องเสียพื้นที่ตรงนี้จริงๆ ในอนาคต ก็ให้รู้กันไปเลยว่า เราเสียค่าโง่ตรงไหน จะได้ไม่ไปเสียค่าโง่แบบนี้ที่อื่นอีก
(เหมือนกับกรณี รศ. 112)

หากเรามัวมานั่งดูว่าใครจะมีอาวุธใหม่ๆ เทคโนโลยีใหม่ๆ  โดยไม่สนใจเรื่องยุทธศาสตร์ของชาติ และภูมิภาคแถวบ้านเราเลย ไม่น่าจะเป็นเวปด้านการทหารอย่างสมบูรณ์แบบนะครับ

 

 

ด้วยความเคารพต่อสมาชิกความเห็นของทุกท่าน

 

 

อ้างอิง

1.   ออสซี่ลงนามครั้งประวัติศาสตร์ จัดหาก๊าซให้จีนมูลค่า4หมื่นล้าน

2.   จีน-ออสซี่บรรลุข้อตกลงการค้ามูลค่า 1.4 ล้านล้านบาท | News Update ...

โดยคุณ horseman เมื่อวันที่ 14/09/2009 05:36:10