เมื่อ 3-4ปี ก่อน เคยมีข่าวลือกันให้แซ่ด ว่า รัฐบาลในตอนนั้น เสนอให้ ทอ.ใช้เครื่อง บข. รุ่นใหม่ แบบ 6+12
ที่ว่า 6 นั้นหมายถึง SU-30 6 ลำ ที่อาจจะได้มาโดยวิธี บาร์เตอร์เทรดกับทางรัฐบาลรัสเซียจำนวน 6ลำ
ส่วนอีก 12 นั้น คือ Jas-39 C/D ซื้อจากสวีเดน จำนวน 12 ลำ
ซึ่งถ้ามองตรงนี้ เครื่องบินฝูงใหม่ของ ทอ. จะเต็มฝูงคือ 18 ลำ แต่เป็นแบบลูกผสม
แล้วถ้าเกิดสูตรดังกล่าวเป็นความจริง ท่านคิดว่า การประจำการของฝูงบินของ ทอ. จะมีการปรับอย่างไร
ส่วนผมนั้นคิดว่า Jas-39 คงจะมาประจำการที่ ฝูงบิน 103 ครับ ส่วน F-16A/B ( ทำFalcon Up เรียบร้อยแล้ว) นั้นโยกไปประจำที่ฝูง 211 แทน และ F-5 T ก็โอนลงไปอยู่ 701
ส่วน SU -30 นั้น คงลงไปอยู่ที่กองบิน 7 โดยใช้ร่วมกับ F-5 T จากฝูง 211 ส่วนF-5 E/F เดิมนั้นปลดประจำการหลังจากที่ SU-30 เข้าประจำการแล้ว หุหุ
ท่านอื่นคิดว่าอย่างไรครับ ถ้าสูตรนี้เป็นจริงหมายถึงการจัดเครื่องประจำฝูงบินต่างๆ ผมยังไม่รวมSaab -340 อีก 2ลำนะครับ และยังไม่คิดถึงเรื่องการเชื่อมต่อของระบบต่างๆให้คุยภาษาเดียวกันอีก
แค่นี้ก็ปวดหัวตายแล้วสำหรับการหางบมาซ่อมบำรุง บข.ที่มีหลายสัญชาติ 5555
คุยแบบคลายเครียดสร้างสรรค์นะครับ ไม่ต้องไปเทียบกับกำลังรบเพื่อบ้าน เดี๋ยวจะรบกันหน้าคอมอีก 555555
ความคิดเห็นที่ 1
เหอะ เอา JAS มาให้ ครบฝูงก่อน เถอะ
แล้่ว ทอ จะ เก็บเงินหยอดกระปุก ถอย F35
โดยคุณ u3616234 เมื่อวันที่
01/09/2009 09:38:55
ความคิดเห็นที่ 2
ในใจของผมอยากให้ทอ.ใช้สูตร 6 ลำคือ F/A 18 Super Hornet +12 ลำ Jas39 CD Grippen ไว้ที่กองบิน 7 ที่สุราษฎร์ธานีครับ เพราะว่าเอฟ 18 เหมาะที่จะปฏิบัติภาระกิจทางทะเลอยู่แล้วครับ และมีพิสัยการบินที่ไกลพอสมควร แต่โอากสที่จะประจำการ เอฟ 18 ในกองทัพไทยก็ยากอีกครับ ไม่เหมาะกับเศรษฐกิจช่วงนี้ ราคาต่อลำและค่าบำรุงรักษาสูงครับ ถ้ามองตามความจริงแล้ว ก็อยากให้ 6+12 นั้น เป็นกริพเพนทั้งหมดเลยครับ ตัดปัญหาความยุ่งยากของอากาศยาน
โดยคุณ
Nine เมื่อวันที่
01/09/2009 08:45:18
ความคิดเห็นที่ 3
ผมนี่แหละนักรบหน้าคอมตัวจริงเลยนะครับ แต่อย่าพึ่งเข้าใจผิดล่ะผมหมายถึง ชอบเล่นเกมส์แนวสงครามต่างหากล่ะ ตอนนี้กำลังรบอยู่ใน Wolfenstein และ H.A.W.K อยู่ครับ เข้าเรื่องดีกว่า ผมว่าไอเดียนี้ ช่างกองบิน 7 ไม่เขม่นกันแย่หรอครับ แยกค่ายกันเลยนะ ดีไม่ดีพี่ช่างเค้าก็อาจจะเปลี่ยนภาระกิจเป็น Multirole ไปเลยซ่อมได้ทุกค่าย อิๆ
โดยคุณ Marcus_Aurelius เมื่อวันที่
01/09/2009 05:41:37
ความคิดเห็นที่ 4
ผมว่าทางที่ดีเราควรจัดหาJAS-39ให้ครบ18ลำไปเลยดีกว่า
ถ้าไม่อยากปวดหัวเหมือนมาเลย์ที่มีเครื่องบินรบหลายค่ายใน
เวลาเดียวกันมาเลย์เขามีทั้งเอฟ-18ของมะกัน มิก-29ของรัสเซีย
HAWK100/200ของอังกฤษผลสุดท้ายเป็นงัยละเข้าระบบกัน
ไม่ได้เลยสักอย่างโดยเฉพาะมิก-29ที่เข้ากับใครเข้าไม่ได้เลย
ทั้งอาวุธและอะไหล่หรือน้ำมันรู้สึกว่าจะปลดไปแล้วมั่งสำหรับมิก-29
แต่หันไปคว้าเอาซู-30มาแทนไม่รู้ว่ารับมอบไปแล้วหรือยัง
เห็นได้ข่าวว่ามาเลย์ไม่ยอมรับมอบจะยอมก็ต่อเมื่อรัสเซีย
ไปปรับปรุงซู-30ให้สามารถเข้ากับระบบของตะวันตกได้
ถึงจะยอมรับมอบไทยเราเองใช้ระบบของตะวันตกมานาน
จนคุ้นมือมานานทางที่ดีควรหาเครื่องบินของชาติตะวันตกดีกว่า
โดยคุณ ttrc เมื่อวันที่
01/09/2009 06:24:47
ความคิดเห็นที่ 5
มีเครื่องหลายค่ายไม่ใช่ปัญหาครับ อินเดียใช้2ค่าย แต่2ค่ายต้องไม่เอาอาวุธมารวมกันไว้ในเครื่องรุ่นเดียว เหมือนปัญหาที่มาเลเซียเจออยู่ รุ่นเดียวใช้ระบบอาวุธทั่วโลก ไม่แปลกที่มันจะคุยกันไม่รู้เรื่อง
...ส่วนตัวคิดว่า มีเครื่อง 2ค่ายจะมีข้อดีในเรื่องทำการบ แต่การคิดแบบนี้ท.อ.ต้องมีงบประมาณเพียงพอและมากพอที่จะซ่อม และจัดหาอาวุธแบบของใครของมัน ไม่มียื้ม ส่วนที่ว่าหากบ้านเราใช้อาวุธนาโต้มานานมันไม่ใช่ปัญหาถ้ามีงบประมาณ ก็จัดตั้งกองบินใหม่ ฝึกใหม่ก็จบแต่ใช้งบอีกเท่าไร
...ถ้ามี ซู-30 ครองอากาศและใช้ กรีเพ้น โจมตีภาคพื้น มันจะแจ่มมากมาย แต่เงินนะมีมั้ยย
โดยคุณ
MIG31 เมื่อวันที่
01/09/2009 08:17:15
ความคิดเห็นที่ 6
ไม่ซีเรียส ไม่พูดเรื่องเงิน ไม่พูดเรื่องวัดกำลังกับใคร เรื่องสมมุติจากรากฐานบนความเป็นจริง ว่า ถ้าหากเกิดว่า เราจัดหา SU-30MK(น้องซูฉี) จำนวน 6 เครื่อง + JAS-39C/D(น้องหยาด) จำนวน 12 เครื่อง คาดว่า JAS-39 คงอยู่ที่ กองบิน 7 สุราษฎร์ธานี นั่นแหละครับ เพื่อใช้ในการช่วยสนับสนุนภาคทะเลให้กับกองทัพเรือเนื่องจากมี RBS-15 ติดมาด้วย แต่เน้นที่ขับไล่ป้องกันภัยทางอากาศเป็นหลัโดยทำงานร่วมกับ ซ้าบ-340 อีรี่อาย ส่วน SU-30 MK นั้น น่าจะไปลงที่กองบิน 4 ตาคลี ซึ่งอาจจะมาอยู่ฝูง 402 แทน L-39ZA/ART ที่ย้ายไป และเนื่องจากกองบินนี้จะเน้นที่โจมตีภาคพื้นเป็นหลัก ซึ่ง SU-30MK ก็ออกแบบมาให้มีที่นั่งสำหนับนายทหารสรรพาวุธ ซึ่งน่าจะเน้นไปทางรุกเข้าไปโจมตีภาคพื้นเป็นหลักมากกว่าเน้นที่ขับไล่ เลยมองมาทางนี้ และด้วยพิสัยการบินที่ไกลของ SU-30 MK ย่อมสามารถเคลื่อนกำลังเครื่องบินไปสนับสนุนส่วนอื่นได้ทั้งที่อยู่ตอนกลางของประเทศ เช่น หากจำเป็นต้องมีการติดจรวดโจมตีเรือเพื่อช่วยสนับสนุนกองทัพเรือในการดำเนินภารกิจ ก็สามารถขึ้นจาก ตาคลี ไปสนับสนุนได้เลยและสามารถบินกลับมาถึงฐานได้โดยไม่จำเป็นต้องไปวางกำลังเริ่มต้นที่พื้นที่ใกล้ทะเลคร
โดยคุณ
เด็กทะเล เมื่อวันที่
01/09/2009 10:42:29
ความคิดเห็นที่ 7
ท้าวความนิดนึงครับ หลายๆท่านอาจจะไม่รู้
เรื่องนี้เคยเป็นเรื่องที่คุยกันมานานพอสมควรสมัย รัฐบาลของ ดร.ทักษิณเรื่องโครงการ บาร์เตอร์เทรดกับทางรัสเซีย แต่ทาง ทอ.ก็ต้องการ JAS-39 เลยมีสูตรนี้ออกมา ครับ
และมีข่าวลอยลมออกมาว่า ถ้าเกิดได้ SU-30 มา ส่วนหนึ่งนำมาประเมินด้วยครับ
แต่โครงการนี้ก็พับไปเพราะเหตุผลหลายๆอย่างครับ
แต่ผมนึกขึ้นมาได้ เลยลองเอามาตั้งกระทู้ถามดู เพราะคำถามหมายถึงถ้าเป็นจริงขึ้นมา การจัดฝูงของ ทอ. จะทำอย่างไรก็เท่านั้นครับ กับเครื่อง SU-30 และ Jas-39 ครับ
โดยคุณ
nok เมื่อวันที่
01/09/2009 11:10:58
ความคิดเห็นที่ 8
ปลด F-5 ประจำ JAS-39 กองบิน 2 SU-30MKT กองบิน 5 F-16 กองบิน 1, 4, 7, 21, 23, 41 และที่ขาดไม่ได้ ปลด UH-1H และประจำการ UH-60 ฝูงบิน SAR ทั่วประเทศ ตื่น ตื่น ตื่นนนนนได้แล้วเรา
มีเครื่องหลายแบบหลายค่ายก็ดีนะครับ เราจะได้โคลนนิ่งจุดเด่นของแต่ละแบบแต่ละค่ายแล้วกำเนิด บ.รบสายเลือดไทยซะเลย (สงสัยยังไม่ตื่นดี) เวลาฝึกก็มีข้าศึกสมมุติตั้งหลายแบบ น่าจะเป็นการแข่งขันระหว่างกองบินได้ดี
ตามจริง ชั่วโมงนี้ไม่มีกองบินไหนร้อนแรงเท่ากองบิน 7 อีกแล้ว ตอบแบบสนุกๆ อย่าเอาจริงเอาจังมากครับ
โดยคุณ
Xmode เมื่อวันที่
01/09/2009 11:32:50
ความคิดเห็นที่ 9
ต่อไปนี้เราไม่ต้องง้อการฝึก Red Flag ของฝูงบินข้าศึกสมมุติ(Aggressor squadrons) ของอเมริกาแล้วซิครับ เพราะตอนนี้เรามีฝูงบินสมมุติเป็นของตัวเองแล้ว(พยายามแถให้คล้าย) แถมฝูงแรกของอาเซี่ยนด้วยนะ อิๆ ล้อเล่นนะครับ -..-* ปายดีกว่า ก่อนจะโดนรุมประชาทัณ
โดยคุณ Marcus_Aurelius เมื่อวันที่
01/09/2009 14:28:17
ความคิดเห็นที่ 10
จะว่าไปแล้ว ซู30 เอ็มเคที มีอัตราการซ่อมบำรุงดูแลรักษาสูงนะครับ อีกทั้งถ้านำเข้ามาจริง ก็ต้องปรับเปลี่ยนระบบเป็นนาโต้ อีกซึ่งไม่รู้ว่าจะใช้เวลาในการปรับแก้มากแค่ไหน กินน้ำมันมาก ตลอดอายุการใช้งานก็ต้องเปลี่ยนเครื่องยนต์ถึง 6 เครื่อง และอีกอย่างช่างอากาศยานของเราไม่มีประสบการณ์กับ บ.รัสเซียเลย รวมทั้งอะไหล่ และอื่นๆ อีกมากมาย และซู30คงไม่เหมาะกับยุทธศาศตร์การป้องกันประเทศของเราครับ เพราะเราไม่ได้นำไปรุกรานใคร ผมคิดว่า Jas39ซีดี น่าจะนำมาประจำการทดแทนเครื่องบินขับไล่เบาทั้งหมดครับ ทั้ง F5 E/F L-39 และ Alpha jet ที่อุดรในอนาคตครับ ส่วน F16 A/B น่าจะหา บ.ที่สมรรถนะใกล้เคียงกันมาประการแทนมากกว่า อาจจะเป็น F16 รุ่น C/D หรือถ้ามีตังก็จัด F15 ....อันนี้จัดตามความต้องการของผมนะครับ 555 ไม่ต้อซีเรียส เพราะไม่ได้คำนึงถึงงบ ไม่ได้อิงความเป็นจริงเท่าที่ควร ^^
โดยคุณ
Nine เมื่อวันที่
01/09/2009 18:27:52