หน้าแรก    ตั้งกระทู้ใหม่   ตอบคำถาม    เข้าสู่ระบบ      


จำสูตรนี้ได้ไหมครับ 6+12

โดยคุณ : nok เมื่อวันที่ : 02/09/2009 05:27:51

เมื่อ 3-4ปี ก่อน  เคยมีข่าวลือกันให้แซ่ด  ว่า  รัฐบาลในตอนนั้น เสนอให้ ทอ.ใช้เครื่อง บข. รุ่นใหม่ แบบ 6+12

ที่ว่า 6 นั้นหมายถึง SU-30 6 ลำ ที่อาจจะได้มาโดยวิธี บาร์เตอร์เทรดกับทางรัฐบาลรัสเซียจำนวน 6ลำ

ส่วนอีก 12 นั้น คือ Jas-39 C/D ซื้อจากสวีเดน จำนวน 12 ลำ

ซึ่งถ้ามองตรงนี้ เครื่องบินฝูงใหม่ของ ทอ.  จะเต็มฝูงคือ 18 ลำ แต่เป็นแบบลูกผสม

แล้วถ้าเกิดสูตรดังกล่าวเป็นความจริง  ท่านคิดว่า การประจำการของฝูงบินของ ทอ. จะมีการปรับอย่างไร

ส่วนผมนั้นคิดว่า  Jas-39 คงจะมาประจำการที่ ฝูงบิน 103 ครับ ส่วน F-16A/B ( ทำFalcon Up เรียบร้อยแล้ว) นั้นโยกไปประจำที่ฝูง 211 แทน  และ F-5 T ก็โอนลงไปอยู่ 701

ส่วน SU -30 นั้น คงลงไปอยู่ที่กองบิน 7 โดยใช้ร่วมกับ F-5 T จากฝูง 211   ส่วนF-5 E/F เดิมนั้นปลดประจำการหลังจากที่ SU-30 เข้าประจำการแล้ว หุหุ

ท่านอื่นคิดว่าอย่างไรครับ ถ้าสูตรนี้เป็นจริงหมายถึงการจัดเครื่องประจำฝูงบินต่างๆ  ผมยังไม่รวมSaab -340 อีก 2ลำนะครับ และยังไม่คิดถึงเรื่องการเชื่อมต่อของระบบต่างๆให้คุยภาษาเดียวกันอีก 


แค่นี้ก็ปวดหัวตายแล้วสำหรับการหางบมาซ่อมบำรุง บข.ที่มีหลายสัญชาติ 5555

คุยแบบคลายเครียดสร้างสรรค์นะครับ  ไม่ต้องไปเทียบกับกำลังรบเพื่อบ้าน  เดี๋ยวจะรบกันหน้าคอมอีก 555555





ความคิดเห็นที่ 1


เหอะ เอา JAS มาให้ ครบฝูงก่อน เถอะ


แล้่ว ทอ จะ เก็บเงินหยอดกระปุก ถอย F35 
โดยคุณ u3616234 เมื่อวันที่ 01/09/2009 09:38:55


ความคิดเห็นที่ 2


ในใจของผมอยากให้ทอ.ใช้สูตร 6 ลำคือ F/A 18 Super Hornet +12 ลำ Jas39 CD Grippen ไว้ที่กองบิน 7 ที่สุราษฎร์ธานีครับ เพราะว่าเอฟ 18 เหมาะที่จะปฏิบัติภาระกิจทางทะเลอยู่แล้วครับ และมีพิสัยการบินที่ไกลพอสมควร แต่โอากสที่จะประจำการ เอฟ 18 ในกองทัพไทยก็ยากอีกครับ ไม่เหมาะกับเศรษฐกิจช่วงนี้ ราคาต่อลำและค่าบำรุงรักษาสูงครับ ถ้ามองตามความจริงแล้ว ก็อยากให้ 6+12 นั้น เป็นกริพเพนทั้งหมดเลยครับ ตัดปัญหาความยุ่งยากของอากาศยาน
โดยคุณ Nine เมื่อวันที่ 01/09/2009 08:45:18


ความคิดเห็นที่ 3


ผมนี่แหละนักรบหน้าคอมตัวจริงเลยนะครับ แต่อย่าพึ่งเข้าใจผิดล่ะผมหมายถึง ชอบเล่นเกมส์แนวสงครามต่างหากล่ะ ตอนนี้กำลังรบอยู่ใน Wolfenstein และ H.A.W.K อยู่ครับ  เข้าเรื่องดีกว่า  ผมว่าไอเดียนี้ ช่างกองบิน 7 ไม่เขม่นกันแย่หรอครับ  แยกค่ายกันเลยนะ ดีไม่ดีพี่ช่างเค้าก็อาจจะเปลี่ยนภาระกิจเป็น Multirole ไปเลยซ่อมได้ทุกค่าย อิๆ

โดยคุณ Marcus_Aurelius เมื่อวันที่ 01/09/2009 05:41:37


ความคิดเห็นที่ 4


ผมว่าทางที่ดีเราควรจัดหาJAS-39ให้ครบ18ลำไปเลยดีกว่า

ถ้าไม่อยากปวดหัวเหมือนมาเลย์ที่มีเครื่องบินรบหลายค่ายใน

เวลาเดียวกันมาเลย์เขามีทั้งเอฟ-18ของมะกัน มิก-29ของรัสเซีย

HAWK100/200ของอังกฤษผลสุดท้ายเป็นงัยละเข้าระบบกัน

ไม่ได้เลยสักอย่างโดยเฉพาะมิก-29ที่เข้ากับใครเข้าไม่ได้เลย

ทั้งอาวุธและอะไหล่หรือน้ำมันรู้สึกว่าจะปลดไปแล้วมั่งสำหรับมิก-29

แต่หันไปคว้าเอาซู-30มาแทนไม่รู้ว่ารับมอบไปแล้วหรือยัง

เห็นได้ข่าวว่ามาเลย์ไม่ยอมรับมอบจะยอมก็ต่อเมื่อรัสเซีย

ไปปรับปรุงซู-30ให้สามารถเข้ากับระบบของตะวันตกได้

ถึงจะยอมรับมอบไทยเราเองใช้ระบบของตะวันตกมานาน

จนคุ้นมือมานานทางที่ดีควรหาเครื่องบินของชาติตะวันตกดีกว่า

โดยคุณ ttrc เมื่อวันที่ 01/09/2009 06:24:47


ความคิดเห็นที่ 5


มีเครื่องหลายค่ายไม่ใช่ปัญหาครับ อินเดียใช้2ค่าย แต่2ค่ายต้องไม่เอาอาวุธมารวมกันไว้ในเครื่องรุ่นเดียว เหมือนปัญหาที่มาเลเซียเจออยู่ รุ่นเดียวใช้ระบบอาวุธทั่วโลก  ไม่แปลกที่มันจะคุยกันไม่รู้เรื่อง
...ส่วนตัวคิดว่า มีเครื่อง 2ค่ายจะมีข้อดีในเรื่องทำการบ  แต่การคิดแบบนี้ท.อ.ต้องมีงบประมาณเพียงพอและมากพอที่จะซ่อม และจัดหาอาวุธแบบของใครของมัน ไม่มียื้ม  ส่วนที่ว่าหากบ้านเราใช้อาวุธนาโต้มานานมันไม่ใช่ปัญหาถ้ามีงบประมาณ ก็จัดตั้งกองบินใหม่ ฝึกใหม่ก็จบแต่ใช้งบอีกเท่าไร
...ถ้ามี ซู-30 ครองอากาศและใช้ กรีเพ้น โจมตีภาคพื้น มันจะแจ่มมากมาย แต่เงินนะมีมั้ยย
โดยคุณ MIG31 เมื่อวันที่ 01/09/2009 08:17:15


ความคิดเห็นที่ 6


ไม่ซีเรียส ไม่พูดเรื่องเงิน ไม่พูดเรื่องวัดกำลังกับใคร เรื่องสมมุติจากรากฐานบนความเป็นจริง ว่า ถ้าหากเกิดว่า เราจัดหา SU-30MK(น้องซูฉี) จำนวน 6 เครื่อง + JAS-39C/D(น้องหยาด) จำนวน 12 เครื่อง คาดว่า JAS-39 คงอยู่ที่ กองบิน 7 สุราษฎร์ธานี นั่นแหละครับ เพื่อใช้ในการช่วยสนับสนุนภาคทะเลให้กับกองทัพเรือเนื่องจากมี RBS-15 ติดมาด้วย แต่เน้นที่ขับไล่ป้องกันภัยทางอากาศเป็นหลัโดยทำงานร่วมกับ ซ้าบ-340 อีรี่อาย ส่วน SU-30 MK นั้น น่าจะไปลงที่กองบิน 4 ตาคลี ซึ่งอาจจะมาอยู่ฝูง 402 แทน L-39ZA/ART ที่ย้ายไป และเนื่องจากกองบินนี้จะเน้นที่โจมตีภาคพื้นเป็นหลัก ซึ่ง SU-30MK ก็ออกแบบมาให้มีที่นั่งสำหนับนายทหารสรรพาวุธ ซึ่งน่าจะเน้นไปทางรุกเข้าไปโจมตีภาคพื้นเป็นหลักมากกว่าเน้นที่ขับไล่ เลยมองมาทางนี้ และด้วยพิสัยการบินที่ไกลของ SU-30 MK ย่อมสามารถเคลื่อนกำลังเครื่องบินไปสนับสนุนส่วนอื่นได้ทั้งที่อยู่ตอนกลางของประเทศ เช่น หากจำเป็นต้องมีการติดจรวดโจมตีเรือเพื่อช่วยสนับสนุนกองทัพเรือในการดำเนินภารกิจ ก็สามารถขึ้นจาก ตาคลี ไปสนับสนุนได้เลยและสามารถบินกลับมาถึงฐานได้โดยไม่จำเป็นต้องไปวางกำลังเริ่มต้นที่พื้นที่ใกล้ทะเลคร

โดยคุณ เด็กทะเล เมื่อวันที่ 01/09/2009 10:42:29


ความคิดเห็นที่ 7


ท้าวความนิดนึงครับ หลายๆท่านอาจจะไม่รู้

เรื่องนี้เคยเป็นเรื่องที่คุยกันมานานพอสมควรสมัย รัฐบาลของ ดร.ทักษิณเรื่องโครงการ บาร์เตอร์เทรดกับทางรัสเซีย  แต่ทาง ทอ.ก็ต้องการ JAS-39 เลยมีสูตรนี้ออกมา ครับ

และมีข่าวลอยลมออกมาว่า  ถ้าเกิดได้ SU-30 มา ส่วนหนึ่งนำมาประเมินด้วยครับ

แต่โครงการนี้ก็พับไปเพราะเหตุผลหลายๆอย่างครับ

แต่ผมนึกขึ้นมาได้ เลยลองเอามาตั้งกระทู้ถามดู  เพราะคำถามหมายถึงถ้าเป็นจริงขึ้นมา การจัดฝูงของ ทอ. จะทำอย่างไรก็เท่านั้นครับ กับเครื่อง SU-30 และ Jas-39 ครับ
โดยคุณ nok เมื่อวันที่ 01/09/2009 11:10:58


ความคิดเห็นที่ 8


ปลด F-5 ประจำ JAS-39 กองบิน 2 SU-30MKT กองบิน 5 F-16 กองบิน 1, 4, 7, 21, 23, 41 และที่ขาดไม่ได้ ปลด UH-1H และประจำการ UH-60 ฝูงบิน SAR ทั่วประเทศ  ตื่น  ตื่น    ตื่นนนนนได้แล้วเรา

มีเครื่องหลายแบบหลายค่ายก็ดีนะครับ เราจะได้โคลนนิ่งจุดเด่นของแต่ละแบบแต่ละค่ายแล้วกำเนิด บ.รบสายเลือดไทยซะเลย (สงสัยยังไม่ตื่นดี) เวลาฝึกก็มีข้าศึกสมมุติตั้งหลายแบบ น่าจะเป็นการแข่งขันระหว่างกองบินได้ดี

ตามจริง ชั่วโมงนี้ไม่มีกองบินไหนร้อนแรงเท่ากองบิน 7 อีกแล้ว ตอบแบบสนุกๆ อย่าเอาจริงเอาจังมากครับ

โดยคุณ Xmode เมื่อวันที่ 01/09/2009 11:32:50


ความคิดเห็นที่ 9


ต่อไปนี้เราไม่ต้องง้อการฝึก Red Flag ของฝูงบินข้าศึกสมมุติ(Aggressor squadrons) ของอเมริกาแล้วซิครับ  เพราะตอนนี้เรามีฝูงบินสมมุติเป็นของตัวเองแล้ว(พยายามแถให้คล้าย)  แถมฝูงแรกของอาเซี่ยนด้วยนะ  อิๆ ล้อเล่นนะครับ   -..-*  ปายดีกว่า  ก่อนจะโดนรุมประชาทัณ

โดยคุณ Marcus_Aurelius เมื่อวันที่ 01/09/2009 14:28:17


ความคิดเห็นที่ 10


จะว่าไปแล้ว ซู30 เอ็มเคที มีอัตราการซ่อมบำรุงดูแลรักษาสูงนะครับ อีกทั้งถ้านำเข้ามาจริง ก็ต้องปรับเปลี่ยนระบบเป็นนาโต้ อีกซึ่งไม่รู้ว่าจะใช้เวลาในการปรับแก้มากแค่ไหน กินน้ำมันมาก ตลอดอายุการใช้งานก็ต้องเปลี่ยนเครื่องยนต์ถึง 6 เครื่อง และอีกอย่างช่างอากาศยานของเราไม่มีประสบการณ์กับ บ.รัสเซียเลย รวมทั้งอะไหล่ และอื่นๆ อีกมากมาย และซู30คงไม่เหมาะกับยุทธศาศตร์การป้องกันประเทศของเราครับ เพราะเราไม่ได้นำไปรุกรานใคร ผมคิดว่า Jas39ซีดี น่าจะนำมาประจำการทดแทนเครื่องบินขับไล่เบาทั้งหมดครับ ทั้ง F5 E/F L-39 และ Alpha jet ที่อุดรในอนาคตครับ ส่วน F16 A/B น่าจะหา บ.ที่สมรรถนะใกล้เคียงกันมาประการแทนมากกว่า อาจจะเป็น F16 รุ่น C/D หรือถ้ามีตังก็จัด F15 ....อันนี้จัดตามความต้องการของผมนะครับ 555 ไม่ต้อซีเรียส เพราะไม่ได้คำนึงถึงงบ ไม่ได้อิงความเป็นจริงเท่าที่ควร ^^
โดยคุณ Nine เมื่อวันที่ 01/09/2009 18:27:52