ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ - เกิดเหตุ ฮ.แรงเยอร์ แบบเบลล์ 206 ของหน่วยเฉพาะกิจอโนทัย ประจำอยู่ค่ายอิงคยุทธบริหาร อ.หนองจิก บินตรวจการและสแกนค้นหาวัตถุระเบิดจากภาคพื้นอากาศ ในพื้นที่อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา เครื่องเกิดขัดข้องนักบินลงจอดฉุกเฉินกลางทุ่งนา เครื่อง ฮ.พังเสียหายแต่นักบินทั้ง 3 นาย ปลอดภัย
       
       เมื่อเวลาประมาณ 08.30 น. วันนี้ (31 ส.ค.) ร.ต.อ.รุ่ง แก้วบัวศรี ร้อยเวร สภ.คูเต่า อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา ได้รับแจ้งว่ามีเหตุเครื่องบินเฮลิคอปเตอร์ตกที่บริเวณกลางทุ่งนา บ้านปากโทง หมู่ที่ 10 ตำบลคูเต่า อำเภอหาดใหญ่ จึงได้เดินทางไปยังที่เกิดเหตุ พบว่าจุดเกิดเหตุเป็นบริเวณกลางทุ่งนา มีเฮลิคอปเตอร์สีเขียวตกพลิกตะแคงขวาอยู่ สภาพหางเครื่องบินหักงอไปทางด้านขวา พื้นใต้เท้านักบินแตกกระจาย ฐานหลุด ปีกหัก
       
       ในตัวเครื่องไม่พบผู้ใดอยู่ด้านใน เนื่องจากนักบินและช่างเครื่องสามารถเอาตัวออกจากตัวเครื่องได้และเดินทางไปตรวจสภาพร่างกายที่โรงพยาบาลค่ายเสนาณรงค์ มณฑลทหารบกที่ 42 แล้ว จึงได้มีการเอาเชือกมากั้นไว้เพื่อป้องกันชาวบ้านเข้าไปใกล้ตัวเครื่อง เพื่อรอให้เจ้าหน้าที่นิรภัยการบิน กองทัพบก มาตรวจสอบ ในขณะเดียวกัน พล.ต.กิตติ อินทศร ผบ.มทบ. 42 และคณะได้รีบเดินทางด้วยเฮลิคอปเตอร์มาตรวจสอบยังจุดเกิดเหตุทันที
       
       จากการสอบสวนเบื้องต้นทราบว่า ฮ.ดังกล่าวเป็น ฮ.แรงเยอร์ แบบเบลล์ 206 ของหน่วยเฉพาะกิจอโนทัย ที่ประจำอยู่ค่ายอิงคยุทธบริหาร อำเภอหนองจิก จังหวัดปัตตานี มีหน้าที่สนับสนุนบินตรวจการและสแกนค้นหาวัตถุระเบิดจากภาคพื้นอากาศ ได้มาบินสนับสนุนสแกนตรวจหาวัตถุระเบิดในพื้นที่อำเภอหาดใหญ่ และพื้นที่ใกล้เคียง เมื่อเวลาประมาณ 07.00 น. ฮ.ดังกล่าวได้บินขึ้นจากค่ายเสนาณรงค์ เพื่อปฏิบัติหน้าที่ตามปกติ โดยมี พ.ต.ธนภัทร วงศ์สูงยาง เป็นนักบินที่ 1 ร.อ.เทวินท์ มะวาน เป็นนักบินที่ 2 และ จ.ส.อ.ปัญญา ยกครบุรี เป็นช่างเครื่อง
       
       หลังได้บินปฏิบัติหน้าที่ในพื้นที่จนกระทั่งเวลาประมาณ 08.10 น. นักบินสังเกตพบว่าเครื่องยนต์เริ่มมีปัญหาขัดข้องจึงได้พยายามหาสถานที่ปลอดภัยเพื่อร่อนลง ซึ่งได้เลือกเอาบริเวณทุ่งนาดังกล่าว เนื่องจากว่าช่วงนี้มีฝนตกทำให้พื้นดินนุ่ม โดยชาวบ้านที่เห็นเหตุการณ์เล่าว่าเครื่องบินร่อนลงมาแบบตะแคง และตอนลงพื้นเอาหัวปักลงพื้น แต่แรงกระแทกไม่แรงมากนัก สักพักก็เห็นคนในเครื่องจำนวน 3 คน พยายามเอาตัวออกมาแล้วก็เดินมาขึ้นรถออกไป
       
       พล.ต.กิตติ อินทศร ผบ.มทบ.42 กล่าวว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเป็นการร่อนลงแบบฉุกเฉิน ไม่ได้ถือว่าเครื่องตก เท่าที่ทราบรายงานนักบินและช่างเครื่องไม่ได้บาดเจ็บอะไร แต่ต้องไปตรวจสภาพตามระเบียบ ในตอนนี้ยังไม่สามารถให้รายละเอียดอะไรได้ เพราะต้องรอคณะกรรมการนิรภัยการบิน กองทัพบก มาทำการตรวจสอบข้อเท็จจริงเสียก่อนว่า ฮ.สภาพมีอะไรเสียหายบ้าง ประเมินราคาค่าเสียหายเท่าไหร่ และสาเหตุของการที่เครื่องยนต์ขัดข้องเนื่องจากอะไร เมื่อตรวจสอบเสร็จเมื่อไหร่ ก็จะมีการกู้ซากเครื่องบินไปเก็บเพื่อทำการตรวจสอบอีกที สำหรับ ฮ.ดังกล่าว มีเจ้าหน้าที่ ผู้หนึ่งประมาณการว่ามีอายุการใช้งานมาประมาณ 20 ปีแล้ว และถือว่าโชคดีที่นักบินตัดสินใจร่อนลงในจุดที่คาดว่าปลอดภัย หากร่อนลงในจุดที่พื้นแข็งอาจจะทำให้ตัวเครื่องเสียหายนัก และนักบินอาจจะได้รับอันตรายมากกว่านี้ก็เป็นได้

ที่มา http://www.manager.co.th/Local/ViewNews.aspx?NewsID=9520000099102