เห็นด้วยอย่างมากครับ ถ้าเราสามารถพึ่งพาตนเองได้มากขึ้นเราก็ยิ่งมีศักยภาพที่ในการดูแลเครื่องบินให้ใช้ได้คุ้มค่าที่สุด ผมชอบยิวที่เขาทำทุกอย่างเพื่อให้มีเครื่องบินพร้อมรบมากที่สุดในช่วงที่รบกับชาติอาหรับปัจจุบันยิวแข็งแกร่งที่รับงานอัพเกรดเครื่องบินรบในหลายๆชาติ เราไม่ต้องถึงรับงานนอกประเทศหรอกครับเอาแค่มีศักยภาพในการซ่อมบำรุงของเราได้ยอดเยี่ยมก็ดีที่สุดแล้วครับ น่าเสียดายที่ในอดีตสยามเราเคยสร้างเครื่องบินได้เองหลังจากกำเนิดเครื่องบินในโลกได้ไม่นานแต่ว่าขาดความต่อเนื่องเลยช้าไปไม่น้อย สำหรับบริษัทTAI น่าจะเป็นนิมิตหมายที่ดีในการเริ่มต้นผมมองว่าน่าจะมีส่วนในการเข้าไปเกี่ยวข้องในการฟื้นฟู AV-8S ให้บินได้อีกเพราะอยู่ภายใต้กลาโหมเช่นกัน( ความคิดแบบชาวบ้านนะครับ)

ก็คงจะเป็นแผนเดียวกับ ทอ.ครับ...

เก็บเงินหยอดกระปุ๊กไว้รอซื้อ F-35 เพราะในส่วน ทอ.ตอนนี้คงชัดเจนแล้วว่าจะไม่มี F-16 เพิ่ม และคงจะไม่จัดหา Gripen เพิ่มกว่าจำนวนที่ต้องการแค่ฝูงเดียว (ไม่เกิน ๑๖ เครื่อง) โดยมีแผนในอีก ๑๐ ปีข้างหน้าที่จะจัดหา F-35 รุ่นธรรมดา (ขณะที่เพื่อนบ้างอย่างสิงคโปร์ คงเป็นรุ่นสเตล) ในส่วน ทร.คงจะเตรียมโครงการไว้ซื้อ F-35 รุ่นขึ้นลงทางดิ่งใช้งานทางทะเลแค่ ๑ ฝูงพอ...แทนที่จะมีทั้ง บ.ขับไล่(มือสอง) AV-8 B+ และ บ.โจมตีทางทะเล ...

เสียดายเงินถ้าซื้อในช่วง ๔ ปีนี้...ทร.เค้าตั้งใจเอาเงินไปปรับปรุงเรือที่ครบวาระซ่อมให้เขี้ยวแหลมคมยิ่งขึ้น...ผมคงต้องปรบมือในแนวความคิดนี้และความซื่อสัตย์รักชาติของ ทร. แทนที่จะไปซื้ออันนั้นอันนี้เพียงเงิน.............ให้นักการเมือง....

จริงๆก็ไม่ใช่ว่ากองทัพเรือจะไม่เคยมีแนวทางในการซ่อมบำรุง AV-8S คระบ เพราะในส่วนระบบซ่อมบำรุงนั้น กองการบินทหารเรือได้ออกแบบพัฒนาระบบการซ่อมบำรุงเครื่อง AV-8S ด้วยตนเองเมื่อหลายปีก่อนซึ่งลดภาระที่จะต้องนำเข้าจากต่างประเทศได้มาก รวมถึงการที่สหรัฐฯได้ส่งมอบชิ้นส่วนอะไหล่ของ AV-8A ซึ่งเคยประจำการใน USMC ซึ่งชิ้นส่วนอะไหล่ใกล้เคียงกันแบบให้เปล่ามาแล้วครับ(มีบทความเคยลงในสมรภูมิ)

แต่อย่างไรก็ตามเนื่องจากอายุการใช้งานของเครื่องและสภาพการจัดหาอะไหล่ต่างๆในปัจจุบัน AV-8S นั้นคงไม่คุ้มค่าที่จะทำการบินปฏิบัติการต่อไปในอนาคตอันใกล้แล้วครับ

เห็นด้วยอย่างยิ่งกับคุณ nine ครับ อย่างพึ่งไปแย่งงานกองทัพอากาศเขาเลยครับ เอาให้มีเรือดำน้ำก่อนดีกว่าครับ "เหล็กในคนสำคัญกว่าเหล็กในเรือ(ไม่ใช่เหล็กในเครื่องบิน)" เอาแบบพอมีเครื่องบินลาดตระเวนพอสมน้ำสมเนื้อก็ดีครับ

แล้วเรื่องการเมืองมันมาเกี่ยวอะไรด้วยครับเนี่ย ออกทำนองตีวัวกระทบคราด ฟังดูเหน็บแนมชอบกล  

การที่จะมีเครื่องบินต้องตอบให้ได้ว่าจะเอาไปทำอะไร ภาระกิจอะไร

1ถ้าเราต้องการมีเครื่องบินรบ บนเรือบรรทุกเครื่องบินนั้นหมายความว่าเราต้องไปรบไกลๆ

2 เราต้องใช้ประกอบกำลังกับการยกพลขึ้นบก

3 เราใช้ในภาระกิจ CAS กับนาวิกโยธิน

4 ใช้ในการป้องกันเรือจาก เครื่องบินรบ นั้นต้องหมายความว่า ต้องสามารถพึ่งตัวเองได้ นั้นคือต้องมี RADAR ที่ดีมาก มีระบบ self defend ที่สุดยอด เพราะ RADAR จากพื้นหรือเรือไม่สามารถช่วย support ได้ถ้าไกลเกินไป

3 ข้อแรกเราไม่มีแนวโน้มจะทำอยู่แล้ว เพราะไม่ต้องไปบุกใครในตอนนี้ ข้อสุดท้ายถ้าจซ่อมให้บินได้ ก็ควร ปรับปรุงให้ติด RDR ดีๆ

การที่มีดีกว่าไม่มีแน่นอน แต่ถ้าเราจะรบแค่ในพื้นที่ของเรา ไม่ต้องการการทำการไกลๆ ก็ควรใช้ระบบ รวมการดีกว่า คือให้กองทัพอากาศ support ตามภาระกิจที่ขอ

เห็นด้วยกับ ท่านท้าวฯ ครับ ใจตรงกันทีเดียว

ถาม คุณsam ครับ ปกติแผนแบบเดิมมันเตรียมที่ไว้สำหรับ VLS ไว้แล้วไม่ใช่เหรอครับ แล้วตอนนี้พื้นที่ตรงนั้นใช้ทำอะไรอยู่ครับ

เอาลิงค์กระทู้ที่น่าสนใจม๊ากกกกก...มาฝาก น่าจะตอบปัญหาได้ครับ...

http://www.thaiarmedforce.com/forum/viewtopic.php?f=6&t=513

เอาไว้จอดรถหรือเปล่าครับ คริ คริ ล้อเล่นครับ

สนใจ MLU ไหมครับ...

เออ... ร.ล.จักรีนฤเบศ มีแผนจะปลดประจำการมั้ยอ่ะคับ คือผมคิดว่าถ้าเรา รอได้เจ้า F-35 ผมกลัวว่าเรือของเราจะปลดไปก่อนนะคับ

เพราะผมว่า F-35 เราคงจะยังไม่ได้มาง่ายๆหรอกคับ ไน๋จะรอให้ประเทศสมาชิกที่ร่วมพัฒนาซื้อก่อน กว่าจะมาถึงคิวเราก็คงอีกนานอะคับ...

เรื่อง F-35 กับ ร.ล.จักรีนฤเบศร...ผมว่าไม่มีวันจะเป็นไปได้เลยครับ...

ราคาเครื่องบิน 1 ลำ ราคาเกือบเท่าเรือ OPV ของ ทร. 1 ลำ....ซึ่งยังไม่รวมต้นทุนนักบินอีก...

ตอนนี้...ผมคิดว่า 911 ติด VLS และ ติดตั้งระบบโซนาร์ และ ปรับปรุง ฮ.ปด.1 ให้สามารถล่า และปราบเรือดำน้ำได้จริง ๆ...ติดและยิง เพนกวิน ได้...และถ้าให้กิ๊บเก๋ หา ฮ.โจมตี เช่น AH-1W  หรือ Z มาเพิ่มเติม แถมด้วย DATA LINK กับ บข.20....และเป็นเรือ คู่หู DUO กับ LST ใหม่จาก สิงคโปร์...

ผมว่า ก็เป็นกองกำลังเคลื่อนที่ ที่มีศักยภาพป้องกันตนเองได้สูง และ สามารถขน นาวิกโยธินไทย ไปได้ทั่วภูมิภาค ใน ASEAN...เชียว...  

ผมว่า 911 สามารถดัดแปลง VLS ให้สามารถปล่อยจรวด SM-2 ได้อยู๋แล้วครับ...และ ผมว่า ให้มันได้มาก่อนสัก ระบบ และใช้ ESSM ก่อนดีกว่าน๊า....เรื่องอื่นๆ เราค่อยมา จินตนาการ กันต่อไปครับ...

เพราะ นอกจากระบบอาวุธแล้ว เรื่องระบบเรดาร์ตรวจจับสำหรับ SM-2 ก็ยังต้องติดตั้งเพิ่มเติมด้วยครับ...

ส่วนเรื่องจำนวนระบบ ต่อ เรือ 1 ลำ...ผมว่า น่าจะให้ความสำคัญในเรื่องยุทธวิธีในความอยู่รอดของเรือ...น่าจะดีกว่าครับ...เพราะถึงแม้เราจะติด มากกว่า 1 ระบบ...แต่ถ้ายุทธิวิธีการเฝ้าระวังของเรือ หละหลวม...เรืออาจจะเสียหาย ตั้งแต่ก่อนได้ใช้ระบบอาวุธก่อนก็ได้ครับ....เช่นใน สงครามฟลอค์แลนด์ หรือ เรือรบของสหรัฐ หรือ ของอิสราเอล ที่มีข่าวการสูญเสีย...ที่ยังไม่ได้ใช้ระบบอาวุธป้องกันภัยทางอากาศ ก็โดนอาวุธนำวิถี โจมตีซะก่อน...ซึ่งทำให้ แม้จะมีระบบอาวุธหลายระบบ ในเรือ...ก็ไม่สามารถทำอะไรได้เลยครับ... 

ไปดูข้อมูลมาเพิ่มเติมใหม่นี้ Lift ของ ร.ล.จักรีนฤเบศรสามารถรับน้ำหนักได้20ตันครับ ซึ่งพอจะรองรับปฏิบัติการของ F-35B ได้แต่คงไม่สามารถติดอาวุธแบบ Full Load ครับ ซึ่งถ้าจัดหามใช้จริงๆก็ต้องมีการปรับปรุงปรุงเพิ่มครับ

ในส่วนของระบบอาวุธประจำเรือนั้นถ้ามองจากภารกิจเรือส่วนตัวคิดว่าคงไม่น่าจะมีการจัดหา Mk41 และ ESSM ในช่วงนี้ครับ

ฮ.โจมตี นั้นส่วนตัวมองว่าไม่ได้อยู่ในความต้องการของกองทัพเรือเท่าไรครับ เพราะ ฮ.ที่จะใช้ปฏิบัติการกับเรืออย่าง MH-60S Knighthawk นั้นก็สามารถปรับปรุงให้ติดอาวุธในภารกิจโจมตีได้เช่น กระเปาะ ปก.30mm และ Hellfire เป็นต้น(เคยมีข้อมูลในส่วนความต้องการ) ซึ่งถึงแม้ว่าประสิทธิภาพจะไม่เท่า ฮ.โจมตีแท้ๆ แต่ก็ลดแบบเครื่องและอ่อนตัวในการใช้งานมากว่าครับ

ภาพของแถม...เคยโพสไว้ไม่นานนี้แหล่ะครับ...แต่จำไม่ได้แล้วกระทู้ไหน...ประเมินมูลค่าคร่าว ๆ ครับ...

โดยในขณะนั้น ก็มีข่าวว่า ทร. ประกาศจัดหา MH-60S จำนวน 6 ลำ...ซึ่งตอนนั้น ก็เลยมีความเข้าใจว่า จะมาประจำบนเรือ 911...

แต่มีสมาชิกท่านหนึ่ง (ขออภัยครับ จำชื่อไม่ได้ครับ) ได้แจ้งว่า เป็นการใช้งบประมาณเพื่อมาทดแทน ฝูงบิน ใน กบร. ไม่ได้ใช้งบประมาณในส่วนของจัดหา อากาศยานของ 911...จึงคาดว่า MH-60S ที่กำลังจะมาไม่น่าจะประจำบนฝูงบิน เรือ 911...

<<<<ขอคำขยายความครับ หมายความว่ากองเรือเราไม่สมควรมีบินขับไล่หรือ???  อาณาเขต2ฝั่งฟากสมุทร ฤาจะใช่แต่เรือรบอย่างเดียว  ลำพังเจ้า เจ้าฟอลค่อนติดมาเวอริค น่ากลัวจะร่วงก่อนถึง ลิเกียว และ ฟอมิเดเบิ้ลน่ะครับท่าน(เปรีบยเฉยๆ)(อย่าพึ่งพูดถึงJAS-39 ท่ายังไม่แตะพื้นรันเวย์อะไรก็เกิดขึ้นได้ เหมือนคราวF-18)

ขอแก้ไขความเข้าใจต่อท่าน"ลมหมุนวน"ครับ ผมเรียนว่า ทร.ควรโฟกัสเรื่องงบประมาณไปในกิจการที่ ทร.รับผิดชอบโดยตรงก่อนจะดีกว่า คือ การเสริมสร้างให้มีเรือดำน้ำ หรือการเสริมสร้างในด้านอื่นๆให้กองเรือรบไทยมีความแข็งแกร่ง กองบินเราที่สุราษฐ์ก็พร้อมที่จะคุ้มครองน่านฟ้าในย่านมหาสมุทรสอดคล้องกับการคุ้มครองผลประโยชน์ทางทะเลของเราทางภาคใต้อยู่แล้วนะครับ ในกรณีการซ่อมคืนสภาพให้กับ AV8 ซื่งหลายๆกองทัพทยอยเลิกใช้งาน ก็เข้าลักษณะเหมือนคนติดการพนันที่พยายามจะอาคืนเมื่อตัวเองเสียไปมากๆ ยิ่งซ่อมยิ่งแพง อะไหล่ก็ยิ่งหายากไปตามห้วงเวลา ยุ่งเหมือนลิงแก้แห และ  AV8 เองก็ไม่ได้มีคาเรคเตอร์ในการเป็น บ.ขับไล่ด้วย เขามักใช้โจมตีทำ CAS ให้กับ นย.ในการยกพล ส่วน F-35 ก็แพงอย่างที่คุณ Juldas ท่านกล่าวนะครับ กรณีนี้เรียกการใช้งบฯแบบเบี้ยหัวแตกครับ เหมือนเป็ด(บ้าน)ว่ายน้ำได้แต่ก็ว่ายช้า เดินก็ได้แต่ก็เดินเตาะแตะๆ บินก็ได้แต่ขยับปีกได้สามครั้งก็ลงพื้นแล้ว บ.ที่ ทร.น่าจะมีคือพวก บ.ลว.น่าจะดีกว่าครับ ถ้าจะออกแนวประหยัดก็ออกไปทาง UAV ทางทะเลนั่นเลยน่าจะต่อตาให้กับกองเรือเราได้ไกลขึ้น การเสริมสร้างกำลังทางอากาศก็ให้กองทัพอากาศดำเนินการไป เรามาเน้นการฝึกร่วมและรบร่วมสามเหล่าทัพดีกว่านะครับ

ส่วนเรื่องการเมืองนั้นผมเห็นด้วยอย่างยิ่งครับว่าความพร้อมรบของกำลังรบนั้นขึ้นอยู่กับการเมืองทั้งในและระหว่างประเทศแน่นอน  และการสงครามก็คือการดำเนินการทางการเมืองในรูปแบบหนึ่ง แม้กระทั่งความพร้อมรบของกองทัพของเราก็ถูกริดรอนลงอยู่ตลอดเวลาในปัจจุบัน แม้ว่าจะไม่มีสงครามก็ตาม งบประมาณเราก็มีครับ คนเก่งคนฉลาดเราก็มีมาก แต่มันไม่ไปไหนไกลก็ด้วยเรื่องการเมืองนี่เอง เพียงแต่กระผมได้อ่านข้อความของสมาชิกบางท่านได้กล่าวกระทบต่อการเมืองในเชิงเหน็บแนมเท่านั้นเองครับ จึงได้กล่าวไว้เช่นนั้น

ด้วยความเคารพครับ