ASTV ผู้ จัดการออนไลน์ โฆษกกระทรวงกลาโหมกัมพูชา กล่าวว่า ราชนาวีไทยเพิ่งจะเสร็จสิ้นการซ้อมรบใหญ่เป็นเวลากว่า 1 สัปดาห์ ในน่านน้ำบริเวณเกาะกูด สิ่งนี้มีขึ้นหลังจากฝ่ายกัมพูชาให้สัมปทานแก่บริษัท โตตาล ของฝรั่งเศส เข้าสำรวจน้ำมันและก๊าซในเขตทับซ้อนทางทะเลที่อยู่ใกล้เคียง การซ้อมรบใหญ่ดังกล่าว ประกอบด้วย เรือบรรทุกเครื่องบิน และเรือรบอีกหลายลำ ซึ่งเป็นการข่มขู่กัมพูชา พล.ท.ชุม สุชาติ (Chhum Socheat) โฆษกกระทรวงกลาโหม ให้สัมภาษณ์หนังสือพิมพ์ รัศมีกัมพูชา (Reasmei Kampuchea) วันพฤหัสบดี (20 ส.ค.) ระบุว่า การซ้อมรบใหญ่ของกองทัพเรือไทย มีขึ้นระหว่างวันที่ 9-17 ส.ค.ที่ผ่านมา ในอาณาบริเวณเกาะกูด ซึ่งอยู่ใกล้ชายฝั่ง จ.เกาะกง (Kog Kong) และใกล้พื้นที่ทับซ้อนทางทะเลที่กัมพูชากล่าวอ้างเป็นน่านน้ำของตนเช่นเดียว กัน การให้สัมภาษณ์ของโฆษกกระทรวงกลาโหม ได้ให้ภาพรวมที่ใหญ่ขึ้น หลังจากผู้บังคับการตำรวจน้ำกัมพูชากล่าวก่อนหน้านี้ ว่า เรือรบของไทยซึ่งมีอยู่จำนวน 3 ลำ ไม่ได้ข่มขู่อะไรต่อกัมพูชา และปรากฏตัวอยู่ที่นั่นเพียงแค่วันเดียวก็ออกไปจากอาณาบริเวณเกาะกูด แต่ พล.ท.สุชาติ ให้สัมภาษณ์ รัศมีกัมพูชา ทางโทรศัพท์ในตอนบ่ายวันพฤหัสบดี ระบุว่า การซ้อมรบของราชนาวีไทย มีเรือเข้าร่วมถึง 10 ลำ ทั้ง เรือมาตรฐาน เรือบรรทุกอากาศยาน กับเรือรบอีกหลายลำ ก่อนที่จะคงเรือรบเอาไว้ในอาณาบริเวณนั้นจำนวน 3 ลำ หนังสือพิมพ์รัศมีกัมพูชารายวันภาษาเขมรยอดนิยม มีความใกล้ชิดกับพรรคประชาชนกัมพูชา (Cambodian Peoples Party) ได้อ้างรายงานข่าวของสื่อในประเทศไทย ที่ระบุว่า ไทยกำลังเตรียมการยื่นประท้วงต่อกัมพูชา โดยกล่าวหาว่า เรือรบของกัมพูชาได้ล่วงล้ำน่านน้ำของไทยในอาณาบริเวณเดียวกัน เหตุเกิดเมื่อสัปดาห์ที่แล้วเช่นเดียวกัน โฆษกกระทรวงกลาโหมกัมพูชา กล่าวว่า ไม่เพียงแต่ไทยจะประท้วงเท่านั้น แต่กองทัพเรือไทยยังได้สร้างฐานทัพแห่งใหม่ขึ้นที่เกาะกูดอีกด้วย ในวันเดียวกัน นายกอยเกือง (Koy Kuong) ปลัดกระทรวงการต่างประเทศและความร่วมมือระหว่างประเทศ ในฐานะโฆษกกระทรวง กล่าวว่า กัมพูชามีสิทธิ์อย่างสมบูรณ์ในการให้สัมปทานแก่บริษัท โตตาล ในการเข้าสำรวจน้ำมันในอาณาเขตดังกล่าว โฆษกผู้นี้อธิบายว่า สัญญาที่รัฐบาลทำกับบริษัทน้ำมันฝรั่งเศสนั้นเป็นเพียงเพื่อ "สำรวจ" เท่านั้น ไม่ได้เซ็นสัญญาเพื่อให้ ผลิต ในเชิงพาณิชย์ ยิ่งไปกว่านั้นในอดีตประเทศไทยก็เคยให้สัมปทานในเขตทับซ้อนทางทะเลแก่บริษัท เชฟรอน (Chevron) ของสหรัฐฯ กับบริษัท มิตซุย (Mitsui) ของญี่ปุ่นมาแล้ว โดยไม่ได้แจ้งต่อฝ่ายกัมพูชาและกัมพูชาก็ไม่เคยประท้วงฝ่ายไทย เจ้าหน้าที่ของไทยเปิดเผยก่อนหน้านี้ ว่า การให้สัมปทานแก่บริษัทต่างชาติดังกล่าวมีขึ้นตั้งแต่ปี 2515 ในสมัย รัฐบาลสาธารณรัฐกัมพูชา (Republic of Cambodia) ภายใต้ประธานาธิบดีลอนนอล (Lon Nol) ก่อนที่ฝ่ายเขมรแดงจะเรืองอำนาจและจัดตั้งรัฐบาล กัมพูชาประชาธิปไตย (Democratic Kampuchea) ขึ้นมาในเดือน เม.ย.2518 ส่วนรัฐบาลชุดปัจจุบันจัดตั้งขึ้นในกรุงพนมเปญโดยกองทัพเวียดนาม ในเดือน ม.ค.2522 ซึ่งมีการเปลี่ยนชื่อประเทศใหม่จากกัมพูชาประชาธิปไตย เป็น สาธารณรัฐประชาชนกัมพูชา (Peoples Republic of Kampuchea) พรรคประชาชนปฏิวัติกัมพูชา (Kampuchean Peoples Revolutionary Party) ของกลุ่ม ฮุนเซน-เจียซิม-เฮงสัมริน ได้เสียงข้างน้อยในการเลือกตั้งปี 2536 ที่จัดโดยองค์การบริหารชั่วคราวของสหประชาชาติ แต่อาศัยที่คุมกองทัพกำลังพลมหาศาล จึงได้ต่อรองเข้าร่วมรัฐบาลกับพรรคฟุนซินเปก ของกรมหลวงนโรดมรณฤทธิ์ในขณะนั้น กัมพูชาในยุคใหม่เปลี่ยนชื่อมาเป็น ราชอาณาจักรกัมพูชา จนกระทั่งปัจจุบัน ภายใต้รัฐธรรมนูญใหม่ |
||||
อนุสัญญาดังกล่าวได้ทำให้ รัฐบาลสาธารณรัฐประชาชนกัมพูชา กล่าวอ้างสิทธิ์ทำให้น่านน้ำของไทยเมื่อก่อนนี้กลายเป็น พื้นที่ทับซ้อนทางทะเล ในอ่าวไทยเช่นปัจจุบัน เช่นเดียวกันกับที่เกิดเป็น พื้นที่ทับซ้อน กับมาเลเซีย อย่างไรก็ตาม ในช่วงปี 2522-2535 รัฐบาลสาธารณรัฐประชาชนกัมพูชาของกลุ่ม เพ็ญ สุวรรณ-เฮง สัมริน-เจียซิม-ฮุน เซน ในขณะนั้น ไม่ได้รับการรับรองจากองค์การสหประชาชาติ เนื่องจากจัดตั้งขึ้นโดยกองกำลังของต่างชาติ ทำให้ ระบอบปกครอง ดังกล่าวไม่เคยมีที่นั่งในการประชุมสมัชชาใหญ่ จนกระทั่งเมื่อกลายเป็น ราชอาณาจักรกัมพูชา หลังการเลือกตั้งปี 2536 โฆษกของกัมพูชาไม่ได้พูดถึงข้อเท็จจริงทางประวัติศาสตร์เหล่านี้ ขณะเดียวกันก็ให้สัมภาษณ์สันสนไปมา ตามรายงานของหนังสือพิมพ์ ดืมอัลปึล (Deum Ampil) นายกวยเกืองให้สัมภาษณ์ในวันพุธ (19 ส.ค.) ระบุว่า กัมพูชาให้สัมปทานแปลงสำรวจ Block3 หรือ Area3 แก่บริษัทน้ำมันฝรั่งเศส ในส่วนที่อยู่ในน่านน้ำกัมพูชาเท่านั้น ซึ่งไม่ได้อยู่ในพื้นที่ทับซ้อนที่เป็นปัญหากับฝ่ายไทย อย่างไรก็ตาม พล.ท.สุชาติ ได้ปฏิเสธรายงานของหนังสือพิมพ์ในประเทศไทย ที่ระบุว่า เรือรบกัมพูชาได้ลาดตระเวนล่วงละเมิดเข้าไปในน่านน้ำบริเวณเกาะกูดของไทย เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว กระทรวงกลาโหมกัมพูชาขอปฏิเสธข้อกล่าวหา (เกี่ยวกับการลาดตระเวน) ดังกล่าว หนังสือพิมพ์รัศมีกัมพูชาอ้างคำกล่าวของโฆษกกระทรวงกลาโหม เครดิต ผู้จัดการ (อ่านข่าว อย่าเพิ่งด่าว่ามาจากนู่นนี่อีกนะ ข่าวก็คือข่าวนะครับ) |
วมทั้งติดตั้งระบบป้องกันตัวกระชั้นชิด Phalanx ที่ใช้ในเรือรบสหรัฐฯ
ซึ่งเมื่อกว่า 10
ปีก่อนระบบนี้เคยจมเรือน้ำมันขนาดใหญ่ในอ่าวเปอร์เซียมาแล้ว " Phalanx จมเรือขนาดใหญ่ได้ด้วยเหรอครับ ชักจะมั่วกันไปใหญ่แล้ว เหอะ ๆ ขำจริง ๆ เล๊ยย |
|
ข้อมูลเขาผิดพลาด เราก็เข้าไปคอมเมนท์ชี้แจงที่ข่าวของเขาเลยครับ ถ้าเขายอมรับความจริงว่าเขาเขียนข้อมูลผิด เขาก็ต้องเก็บโพสเราไว้ แต่ถ้าเขาไม่รับความจริง เดี๋ยวเขาก็ลบไปเองแหละ ชิวๆ สำหรับเว้บ TFC เราก็แจงให้ผู้เข้ามาอ่านรับรู้ข้อมูลที่ถูกต้องไปว่า ข้อมูลที่เราเอามามันมีบางอย่างที่ไม่ตรง
ถ้าคิดในแง่ดี เขาก็ยังหาข่าวมาให้เราอ่าน อยู่ที่เราจะใช่วิจารณญาณในการเชื่อถือข่าวนั้นหรือไม่ ดีไม่ดี มีคนจะหาข้อมูลอาวุธเรา เจอข่าวว่า ฝาหลัง เอ้ย ฟาลังซ์ แบบที่เรามีใช้จมเรือขนาดใหญ่ๆได้ คิดดูจะหนาวขนาดใหน นี่แค่ ฟาลังซ์ นะ ถ้าปืนหลักปืนเรือ หรือ ฮาร์พูน จะเจ๋งถึงไหน หนาวครับหนาว
วันที่ 15-16 สิงหา ที่ผ่านมา ยังเห็นเทียบท่าที่สัตหีบอยู่เลยครับ ผมยังพาเด็กๆไปขึ้นเรือรบหลวงจักรกรีฯ เอ คงไปซ้อมรบก่อนหน้านี้มั้งครับ
การเสนอข่าวเเบบนั่งเที่ยนเขียนเองเเบบนี่อาจทำให้เข้าใจผิดกันได้ถ้าผู้อ่านเเบบผ่านๆๆ จนทำให้เกิดปัญหามากตามก็เพราะการเสนอข่าวเเบบมั่วๆๆนี้ล่ะ ครับ
ไม่เข้าใจว่าทำไม ผจก.ชอบเสนอข่าวเป็นการยั่วยุจัง
( ไม่ได้ว่าเจ้าของกระทู้นะงับ )