ส่วนของ เกาหลีใต้

   กองทัพเรือ - มี เรือพิฆาต AEGIS  Sejong the Great class destroyers ติดอาวุธ Anti-Ballistic Missile แบบ SM-2 Block IIIB  ระยะยิงไกลสุด 167 กิโลเมตร

   กองทัพอากาศ - มี F-15K SLAM EAGLE  เอาไว้บินไป โจมตี และ ทำลาย ฐานยิง ขีปนาวุธ ของ เกาหลีเหนือ

   ส่วน  MIM-104 Patriot  ก็อยู่ในความดูแลของ กองทัพ อากาศ เกาหลีใต้ เช่นกัน

  *ของ เกาหลีใต้ กองทัพบก ไม่มีส่วนร่วม เลยน่ะเนี่ย

  ในส่วนของ กองกำลังป้องกันตนเอง ญี่ปุ่น

กองทัพอากาศ - มี F-15J/DJ และ MITSUBISHI F-2

กองทัพเรือ  - มีเรือพิฆาต AEGIS  อยู่ 6 ลำ

                   เป็นชั้น Atago Class  2  ลำ และ Kongo Class อีก 4 ลำ

                ติดอาวุธ ABM แบบ SM-2 MR

 ส่วนของ Patriot PAC-3 อยู่ภายใต้ของหน่วยงาน Japan Air-self Defense Force

        ส่วนประเทศไทย

 กองทัพอากาศ - ใน อนาคต JAS-39 C/D  และ F-16 AM/BM  MLU

           หมัดเด็ด ในการโจมตี ฐานยิงขีปนาวุธ  จรวดร่อนนำวิถี TAURUS KEPD 350

 กองทัพเรือ -  ขณะนี้ ยังไม่มีเรือป้องกันภัย ทางอากาศ

กองทัพบก - ไม่มี Patriot สัก Cell

     จุดบอดอยู่ 2 จุด ใหญ่ๆ ถ้า พม่า มีนิวเคลียร์ เราก็ต้องมี อาวุธ ที่จะต่อต้าน นิวเคลียร์ ให้ครบ ทั้ง 3 เหล่าทัพ

   ไม่ต้องถึงกับใช้ Patrot

 ASTER-30 SAMP/T  Block 1   รุ่นที่ใช้ยิงจากฐานยิงบนบก มีพิสัยยิงไกล 600 กิโลเมตร

  มีความสามารถ ANTI-BALLISTIC MISSILE  ( ABM )

 ส่วนเรือ นอกจากชั้น AFCON ติด AEGIS เรดาร์

 ผมมองว่า เรือชั้น FORMIDABLE Class ของ สิงคโปร์ ก็เพียงพอต่อภัยคุกคามได้

 กองทัพเรือ อังกฤษ  ฝรั่งเศส และ อิตาลี่ ไว้วางใจ ให้ ASTER-30 ทำหน้าที่ เป็นอาวุธ ABM มากว่า SM-2

 กองทัพเรือ อังกฤษ ติดตั้งอยู่ใน TYPE-15 Destroyer

 ฝรั่งเศส และ อิตาลี่ ติดตั้งอยู่ใน HORRIZON CLASS Frigate

  ซึ่งเรือ ทั้ง 2 แบบ เป็นเรือป้องกันภัยทางอากาศหลัก ของ แต่ล่ะประเทศ

     ประสทธิภาพดี ในราคาไม่แพง...........เหมือน INTEL CORE 2 DUO กับ AMD Turion 64 X2   มี Core 2 ตัวเหมือนกัน

  ออกแบบ มาเพื่อเป็นคู่ปรับกัน............แต่ราคา ต่างกัน คนล่ะโยด

  มีเงิน 2 หมื่น ถ้าเอา Core 2  ต้องยืมเงินคนอื่นเพิ่ม

  ถ้าเอา Turion 64 X2  มีเงิน เก็บไว้ซื้อ อุปกรณ์เสริม อีก 2 - 3 พัน

คนส่วนมาก บอกว่ามันร้อน แต่ผมว่าไม่ร้อน........พิสูจน์แล้ว

ทางทะเลนั้น ลำพังเรือชุด ร.ล.นเรศวร 2 ลำกับ ร.ล.จักรีนฤเบศร์ ติด VLS ก็ยังถือว่าไม่เพียงพอครับ เนื่องจากเรามีทะเลสองฝั่ง คือ อ่าวไทย กับ ทะเลอันดามัน ซึ่งหากจัดเรือไปฝั่งอันดามันมากเพื่อยันฝั่งโน้น จะทำให้การป้องกันทางฝั่งอ่าวไทยเราซึ่งเป็นเส้นทางหลักในการขนส่งด้อยไป ซึ่งถ้าหากต้องการให้ครอบครุมทั้งสองด้านอาจจะต้องมีการจัดหาเรือป้องกันภัยทางอากาศเพิ่มเติม หากไม่มีงบมากพอที่จะจัดหามือหนึ่งก็คงต้องมองไปที่เรือมือสองอย่างที่ ป๋าจู กล่าวไว้แต่ต้น แต่แค่นี้ก็เป็นการป้องกันระดับหนึ่งเท่านั้น เรือที่ป้องกันภัยได้ครอบคลุมมมากที่สุดคือเรือที่มีระบบตรวจจับและเรดาร์สามมิติ เช่น เอจิส เราสามารถจัดหาได้หนือไม่

ส่วนกองทัพอากาศนั้น การมี JAS-39C/D กับ ถ้าปรับปรุง F-16 ที่มีอยู่ให้มีขีดความสามารถในการโจมตีภาคพื้นได้ในระยะไกล นั้นถือ ว่าเพียงพอสามารถที่จะเข้าไปทำการรุกเข้าไปโจมตีพื้นที่สงสัยว่าเป็นฐานอาวุธปล่อยได้ แต่การบินเข้าไปในพื้นที่ฝ่ายตรงข้ามย่อมเป็นการเสี่ยงทั้งจาก อาวุธต่อต้านอากาศยานที่ฝ่ายโน้นมีอยู่มากและมีประสิทธิภาพพอสมควร อีกทั้งทางการเมืองระหว่างประเทศและประชาคมโลกโดยเฉพาะ อาเซียน ด้วยเช่นกัน

ส่วนทางบกนั้น คงต้องมีการมองหาขีปนาวุธป้องกันภัยก็จริง ที่เข้าข่ายก็มี แพรตทิออต ของอเมริกา แอร์โร่ II ของอิสราเอล และ เอส-300 ของรัชเซีย ส่วนของจีนน่าจะมีแต่ผมไม่มีข้อมูลว่ามีอะไรบ้าง ซึ่งหากมีการจัดหานั้นต้องจัดหากี่ระบบ ถึงจะพอรับมือกับภัยคุกคาม และเราสามารถจัดหาได้เพียงพอหรือไม่ แต่การมีอยู่ดีกว่าไม่มีเสียเลย อย่างน้อยก็คงพอป้องกันได้ระดับหนึ่ง

ดังนั้นผมว่าจุดหลักในการป้องกันผมจึงมองไปที่กองทัพอากาศ กับการข่าวและการทูต ครับ การรุก คือการป้องกันที่ดีที่สุด แต่ต้องรอบคอบมากที่สุดเช่นกัน

ในส่วนของระบบ SAM พิสัยไกลของจีนนั้นมีข้อมูลว่าอิหร่านจัดหาระบบ HQ-9 ซึ่งเป็นอาวุธปล่อยพื้นสู่อากาศพิสัยไกลระยะยะยิงมากกว่า 200กิโลเมตร ทำงานร่วมกับ Phase Array Radar ซึ่งมีความคล้ายคลึงกับ S-300 ของรัสเซีย
(โดย HQ-9 นั้นมีทั้งรุ่นที่เป็นระบบอัตราจรบนบก และติดตั้งในแท่นยิงแนวดิ่ง VLS แบบ Revolver บนเรือพิฆาตชั้น Type 052C ครับ)

http://www.sinodefence.com/army/surfacetoairmissile/hongqi9.asp

อย่างไรก็ตามระบบ SAM พิสัยไกลต่างค่ายเช่น S-300 หรือ HQ-9 นั้นยังมีข้อสงสัยว่าถ้าจัดหามาจริงจะบูรณาการเชื่อต่อกับระบบของกองทัพซึ่งเป็นระบบมาตฐาน NATO ได้หรือไม่ครับ

ขอนอกเรื่องหน่อยนะครับ ทำไมถึงไม่เรียกว่า กองทัพญี่ปุ่น 

แต่ใช่คำว่า  "กองกำลังป้องกันตนเอง"...เพราะอะไรครับ สงสัย...

 ท่านใดรู้ช่วยตอบ หน่อยนะครับ

ชอบ ครับ  แนวคิดของท่าน u3616234  ออกแนวๆ ก่อการร้าย ต้นทุนต่ำ เทคโนโลยีต่ำ หวังผล ทำลายล้างได้สูง ในหนังฝรั่งก็ออกแนวๆ นี้เยอะครับ รบแบบซึ่งๆ หน้า คือ ตอนสุดท้ายของสงครามยุคใหม่ เค้าเริ่มรบกันตั้งแต่ข้อมูลข่าวสารกันเลย ไม่ต้องยกตัวอย่างที่ไหนไกล ทางภาคใต้ของเราเองครับ ฝ่ายหนึ่งใช้ต้นทุนการทำลายต่ำ หวังผลสูง อีกฝ่ายหนึ่งใช้ ต้นทุนการป้องกันสูง เทคโนโลยีก็สูง และจะยิ่งสูญเสียเพิ่มขึ้น หากการรบยืดเยื้อนานออกไปเรื่อยๆ แต่เราต้องเคารพการตัดสินใจของผู้นำครับ

อีกเรื่อง ทุกวันนี้เราส่งสายลับไปทำลับๆ ล่อๆ แถวๆ ฝั่งกระโน่นบ้างรึป่าว ทุกวันนี้เห็นมีแต่สายลับฝั่งกระโน่น เดินเล่นในบ้านเราเพียบเลย...

แถม ถ้าพม่ามีนิวเคลียร์ (สหภาพโซเวียต(เดิม)) ไทยเราก็เล่นเป็นฝ่ายสัมพันธมิตรตะวันตกสิครับ จะได้สนุกๆ ยิ่นเล่น 4 คน(ต่างฝ่ายต่างมีประเทศในโลกทีสามมาช่วย) ยิ่งสนุกเลยครับ... ผมหมายถึง ในเกมส์ RA2 นะครับ เป็นเกมส์ที่เล่นสนุกดีจนถึงทุกวันนี้ แนะนำให้ผู้นำลองเล่นกันดูครับ ชิงไหวชิงพริบ แก้เกมส์กันดู เราจะชนะฝ่ายตรงข้ามได้ไม่จำเป็นต้องมีอาวุธใหญ่ๆหรอกครับ อาศัยการขยายขนาดกำลังพล การป้องกันและการตัดสินใจต่อสถานการณ์ ก็พอ น้านๆๆ เวียนมาบรรจบตรงหัวข้อกระทู้นี้พอดีเลย...

  ลืมว่าไปอีกหนึ่งอย่าง ที่เรากำลังจะมี แล้วเพิ่งจะนึกได้ครับ

  ดาวเทียม THEOS + จรวดเพื่อความมั่นคง ครับ

  เห็นว่า ดาวเทียม Theos ก็สามารถ มาใช้งานทางทหารได้.........เราก็ใช้ดาวเทียม สำรวจ แท่นยิง ขีปนาวุธ ในพม่า

  ถ้าเกิดมีการเคลื่อน รถยิงขีปนาวุธ ใกล้พรมแดนเมื่อไหร่

 เราก็ใช้ ดาวเทียมกำหนด พิกัด ของแท่นยิงนิวเคลียร์พม่า...........แล้วเราก็ทำการ ยิงจรวดเพื่อความมั่นคง ไปใส่เป้าหมาย..........ผลการยิงออกมา ถ้าไม่ถูกต่อต้าน จาก ABM ของ พม่า ก็คงตกใส่เป้าหมาย ไม่เกิน 5-10 เมตร แค่นี้ก็เพียงพอ ที่จะทำให้แรงระเบิด ทำลาย ขีปนาวุธ ของ พม่า ได้

   ว่าก็ว่า........ไอ้ จรวดเพื่อความมั่นคง ตอนนี้ไม่รู้ พัฒนาถึงไหนแล้ว

WS-1B  ของประเทศ จีน

  WS-1B  มีจรวด ที่มีพิสัย ยิงไกลเพียง 180 กิโลเมตร เท่านั้น

 ถ้าจะยิงเข้าไปใน พม่า ก็ต้องเคลื่อนที่ประชิดชายแดน เลยทีเดียว

 มันเสี่ยง ที่จะถูกข้าศึก จับการเคลื่อนไหวของเราได้

 เพราะฉะนั้น ต้อง พัฒนา ให้มีพิสัย ยิงไม่ต่ำกว่า 250 กิโลเมตร หรือจะให้ดี ก็น่าจะมี พิสัย ยิงพอๆกันกับ เจ้า SCUD MISSLIE ที่ เวียดนาม และ พม่า มี

  SCUD-B มีพิสัยยิงไกล 300 กิโลเมตร

  SCUD-C มีพิสัยยิงไกล 575 - 600 กิโลเมตร

  SCUD-D มีพิสัยยิงไกล 700 กิโลเมตร

 ไม่รู้ว่า ที่ พม่า มีมันรุ่นไหน

แต่ที่รู้ๆ เวียดนาม มี SCUD-B กับ Hwasong-6

*Hwasong-6 มีพิสัยยิงไกล 500 กิโลเมตร

WS-1B  เป็นจรวดทางยุทธวิธี สามารถยิงได้ถึงที่หมายพื้นที่เขตหลังของยุทธบริเวณครับ เราซื้อเทคโนโลดินขับจากจีนมาผลิตเองครับ หมดไปหลายเหมือนกัน ทบ.เป็นผู้สละเงินก้อนนี้ให้ กห.ไปทำโครงการครับ ไม่เช่นนั้นป่านนี้เรามี HIMARS ใช้แล้ว ผมเหมือนจะเคยเห็นภาพ WS-1B  ของ ทบ.ตุรกีด้วยนะครับ

ระบบอาวุธมาตรการเชิงที่ใช้ป้องกัน(Passsive Messure) ดีครับไม่ต้องไปรุกรานใคร แต่มีเงินเท่าไหร่ก็ไม่พอครับ เป้าหมายบ้านเราเต็มไปหมดยิงเข้ามาทางไหนก็คุ้ม ไม่รู้ว่าจะต้องใช้แพทริออทกี่ระบบ เหมือนเหตุการณ์ในสามจังหวัดภาคใต้ทหารราบเฝ้าเมืองสิบยี่สิบกองพันก็ไม่พอครับ

ไทย มี บั้งไฟ ครับ ไม่ต้องกลัว

การต่อต้านขีปนาวุธ SRBM อย่าง SCUD นั้นมีความเป็นไปได้น้อยที่จะใช้อาวุธปล่อยต่อสู้อากาศยานพิสัยกลางอย่าง Sea Sparrow, Aspide หรือ LY-60 เข้าสกัดครับ สำหรับเรืออาจจะต้องใช้ SM-2 ขึ้นไปครับ สำหรับทางบกก็ต้องใช้ Patriot ครับ

เรือดำน้ำ ( สามารถ ปล่อยหัวรบนิวเคลียร์นิวเคลียร์ ได้นะ ) กับ เรือบรรทุกเครื่องบิน ...ก็พอไว้นะ และ มีความสามัคคีกันในชาติ