หายไปซะนาน จนเพื่อนถามว่า เอ็งหายไปไหน ซะนมนาน สมาชิกเก่าๆ คงจะรู้จักผมบ้าง แสมาชิกใหม่ๆ ดิ มันเป็นใครหว่า...
เดือนที่ผ่านมา ผมได้ไปราชการที่ จ.ยะลาครับ ไปตรวจงานที่ ศอ.บต. มา แล้วได้เขียนเรื่องเล่าจากแดนใต้ไว้ใน แว๊บ ปืนบีบี ครับ..(สาเหตุที่หาย ไปหลงไหลกับปืน บีบี นี่แหละ 55) อยากให้ไปลองอ่านกันครับ ขี้เกียจเขียนใหม่
ตามลิ้งค์ไปhttp://www.siambbgun.com/board/index.php?topic=215842.0
ความคิดเห็นที่ 1
เจ๊อะ...เจ้าตัวนี้ ตอนขาไปที่ดอนเมืองครับ...
โดยคุณ CAPT.TOM เมื่อวันที่
04/08/2009 11:09:41
ความคิดเห็นที่ 2
ขอบคุณครับพี่ต้อม เอ่อ แล้วพี่สมบูรณ์ขึ้นหรือเปล่าครับ อิอิ
ชอบประโยคตรงนี้ของพี่มากครับ " ผมอยากเห็นจริงๆ ใครที่ว่าแน่ๆ ข้าพร้อมทุกเมื่อ จับปืนลงใต้ มาดิ..มาดู พื้นที่จริง..จะปากล้าขาสั่น ป่าว..."
และ"แต่ปากก็ ตะโกน กู นี่แหละโว้ย ถ้าเค้ามีหมายเรียก พร้อมลุย...ถามจริงเหอะ
ปากกล้าขาสั่นป่าว...เพราะยังไงๆ ทางการเค้า ก็ ไม่เรียกใช่มะ
ถึงกล้าแหกปาก ร้องงกล้าหาญชาญชัย...555 "
โดนใจจริงๆครับพี่
โดยคุณ
nok เมื่อวันที่
04/08/2009 11:18:45
ความคิดเห็นที่ 3
ลูกน้องผมก็มาจากยะลา มาทำงานอยู่กับผมที่เมืองกาญจน์ เรื่องต่างๆจากชายแดนใต้นั้นเขารู้และเข้าใจเหตุผลเกือบทุกอย่าง แม้แต่วิถีชีวิตของชาวบ้าน ทุกวิถีก้าวต้องระมัดระวังจะทำอะไรก็ต้องคำนึงถึงวิถีชีวิตการเป็นอยู่ของชาวมุสลิมว่าไปก้าวก่ายหรือลบหลู่ตรงไหน แต่ที่แน่ๆครับ ว่าชาวมุสลิมที่สนิทสนมกันนั้นมาเยี่ยม อาหารการกินที่เป็นเนื้อสัตว์นั้น เขาห้ามกินสัตว์หลายอย่างไม่ใช่เฉพาะเนื้อหมูเท่านั้นครับ เนื้อไก่ วัว แพะ แกะ เขาก็รับประทานไม่ได้ถ้าสัตว์เหล่านั้นไม่ได้ฆ่าโดยชาวมุสลิมด้วยกันและต้องเป็นการเชือดพร้อมกับเอ่ยนามพระอัลเลอะห์เสมอครับ ถ้าไปซื้อหามาตามตลาดโดยไม่ทราบวิธีการฆ่าเขาจะไม่กินครับ แต่ว่าอยู่แบบไว้ใจใครไม่ได้แม้แต่คนที่รู้จักและสนิทสนมกันครับสำหรับเวลานี้ เส้นทางไปค่ายฝึกทหารสิงคโปร์ที่ว่าเปลี่ยวและต้องระวังยังถือว่าเด็กๆสำหรับเขา(อ้อ ลืมบอกว่าใครเดินทางไปเมืองกาญจน์ถ้าต้องเดินทางเส้นนั้นอย่าจอดรับคนที่หิ้วปี๊บใส่น้ำมายืนโบกรถนะครับ)
โดยคุณ
เด็กทะเล เมื่อวันที่
05/08/2009 00:40:37
ความคิดเห็นที่ 4
ผมนี่อยู่ยะลาตั้งแต่เกิดเลยครับท่าน
ไปเรียนม.นเรศวร ที่พิษณุโลก กลับมายะลาเปลี่ยนไปเยอะ
พี่ๆทหารเพียบดีแล้วครับจะได้มาปกป้องคุ้มครองผืนแผ่นดินไทย
โดยคุณ rkk เมื่อวันที่
05/08/2009 01:02:49
ความคิดเห็นที่ 5
(อ้อ ลืมบอกว่าใครเดินทางไปเมืองกาญจน์ถ้าต้องเดินทางเส้นนั้นอย่าจอดรับคนที่หิ้วปี๊บใส่น้ำมายืนโบกรถนะครับ)
มีเหตุผลเพราะอะไรเหรอครับ จะได้ระมัดระวัง
เพราะไปเมืองกาญจนบุรีบ่อยๆ แถวๆสังขละบุรี
โดยคุณ santik เมื่อวันที่
06/08/2009 08:44:43
ความคิดเห็นที่ 6
ขออนุญาตพี่ต้อมเจ้าของกระทู้ ขอโพสขึ้นจากใต้มาเมืองกาญจน์หน่อยครับ อิ อิ
ตอบคุณsantik แต่อยากรู้จังไปทำอะไรบ่อยๆแถวสังขละ ไกลก็ไกล ถนนก็ขึ้นๆลงๆแถมชันน่ากลัวออกอย่างนั้น อิ อิ เรื่องของเรื่องมีคนบอกเล่ามาอีกทียังไม่เคยพบประสปเจอกับตัวเองหรอกครับ ว่าหนทางแสนเปลี่ยว ฉันเดินอยู่คนเดียว เอ้ย ไมใช่ มีคนเล่าให้ฟังว่าปี๊บนั้นที่ตูดได้ตัดเป็นซี่และดัดเข้าเหมือนกับงาของลอบหรือไซดักปลาครับ ถ้าหากว่ามีคนหิ้วปี๊บโบกรถแล้วจอดรถลงไปช่วยเขายกปี๊บก็จะถูกครอบหัวด้วยปี๊บนั้น แล้วขนทรัพย์สินและรถไปครับ และแกะปี๊บออกไม่ได้ด้วยเพราะซี่ที่ทำไว้มันล็อกศรีษะกับคอไว้ อันนี้เป็นชาวบ้านคนพื้นทีเขาเล่ามา แต่ยังไม่เคยเจอครับ แต่ระวังไว้ก็ดีส่วนใหญ่ที่บริเวณที่เขาเล่าจะเป็นถนนลูกรังที่ผ่านป่าเปลี่ยวครับ
โดยคุณ
เด็กทะเล เมื่อวันที่
06/08/2009 10:26:25
ความคิดเห็นที่ 7
อ้อ ลืมบอกไป เดี๋ยวจะกลัวกันเกินเหตุ พื้นที่นั้นมันเป็นพื้นที่ป่าเปลี่ยวไม่ค่อยมีคนผ่านบริเวณแนวตะเข็บชายแดนน่ะครับ ไม่ใช่พื้นที่ที่คนเขาไปเที่ยวหรืออยู่กันหรอกนะครับ แต่ว่าหากใครมาเที่ยวแถวเมืองกาญจน์แล้วต้องหลงไหลในจังหวัดนี้แน่นอนครับ อย่างที่ว่า "หากคุณชอบชายหาดอย่างหัวหิน(บ้านอยู่ที่โน่น) ท้องทุ่งอย่างสุพรรณ(กิ๊กอยู่ที่นั่น) คุณคงไม่ลืมที่จะหลงไหลในภูมิประเทศป่าเขาและแม่น้ำแควของเมืองกาญจน์แน่นอนครับ(แฟนอยู่ที่นี่)"
โดยคุณ
เด็กทะเล เมื่อวันที่
06/08/2009 10:46:16
ความคิดเห็นที่ 8
ผมก็ไม่ค่อยเข้ามาเท่าไรครับ มัวแต่ทำงานกับเล่นเกมส์ - -"
ผมว่าพี่ต้อมดูอวบขึ้นนะ 555
โดยคุณ
Banyat เมื่อวันที่
07/08/2009 12:01:12