เอาตามที่ผมเข้าใจนะครับ (ที่ผมเข้าใจนะ ถูกผิดอีกเรื่อง)
ขอแยกตามหน้าที่ละกันครับ
เครื่องบินขับไล่ มาจากภาษาอังกฤษว่า Fighter ถ้าแปลตรงๆจะกลายเป็น"เครื่องบินต่อสู้"ไป ซึ่งฟังดูแปลกๆ พี่ไทยเลยต้องเรียกว่า"เครื่องบินขับไล่" น่าจะมาจากความคิดที่ว่า เป็นเครื่องบินที่เอาไว้ขับไล่เครื่องบินข้าศึกที่ลุกล้ำน่านฟ้าเข้ามา แต่ว่าง่ายๆก็คือ เป็นเครื่องบินที่เอาไว้สอยเครื่องบินอีกฝ่ายนั้นเอง
ตัวอย่างเช่น เอฟ4เอฟ ไวด์แคท,ซีโร่,สปิตไฟร์,มิสเซอร์สมิต 109
เครื่องบินโจมตี มาจากภาษาอังกฤษว่า Attack แปลได้เหมือนที่พี่ไทยเรียกเลยครับว่าเป็น"เครื่องบินโจมตี" เครื่องบินพวกนี้หลักๆมีหน้าที่ใช้โจมตีเป้าหมายภาคพื้นดินของศัตรูครับ แต่ส่วนใหญ่ต้องมีเครื่องขับไล่คอยคุ้มกัน จากเครื่องขับไล่ของศัตรู ที่เห็นเครื่องโจมตีเป็นเหยื่อชั้นดี เพราะความคล่องตัวด้อยกว่า
ตัวอย่างเช่น เอ4,เอ6,เอ1
ข้อสังเกต
เครื่องบินขับไล่จะมีรูปทรงปราดเปรียวกว่าเครื่องบินโจมตี เพราะเครื่องขับไล่ต้องเน้นความเร็ว ใช้พันตูกันกลางอากาศ
ส่วนเครื่องโจมตียุคแรกๆส่วนใหญ่จะมีรูปร่าง"อุ้ยอ้าย ตุ้ยนุ้ย" น่ารัก เอ้ย! เทอะทะเพราะต้องใช้บรรทุกพวกอาวุธระเบิดโจมตีจำนวนมาก ทำให้มีความต่ำอย่างน่าตกใจ (ต่ำกว่าเสียง) จึงมักตกเป็นเหยื่อของเครื่องขับไล่ข้าศึก และปตอ.กับแซมของศัตรูบ่อยมากๆ
ดังนั้นเครื่องบินโจมตีที่ไม่มีเครื่องขับไล่คอยคุ้มกัน ก็เหมือนเป็นการสั่งให้ไปปฏิบัติการแบบ"ฆ่าตัวตาย"ดีๆนี่เอง
แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ไม่ได้หมายความว่า เครื่องบินทั้งสองแบบจะทำหน้าที่ได้แค่ตามชื่อนะครับ เช่นพวกเครื่องโจมตี บางทีก็ยังสอยเครื่องขับไล่ศัตรูได้ ส่วนพวกขับไล่ก็เอามายิงปืนกลใส่เป้าภาคพื้นดิน หรือติดลูกระเบิดได้ แต่จะติดได้แต่ขนาดเล็กและน้อยกว่าเครื่องโจมตี
ถ้าดูการเรียกชื่อเครื่องบินของมะกันจะเข้าใจง่ายมากๆ อย่างเช่น เอฟ16 ก็มาจากFighter 16 มันก็น่าจะเป็นเครื่องบินขับไล่ใส่ไหมครับ แต่ไม่ใช่ครับ เพราะยุคนี้เครื่องบินจะต้องเป็น multi role หรือทำได้ทั้งสองอย่างหรือมากกว่านั้นครับ เรียกเป็นภาษาไทยก็ได้ว่าเป็น เครื่องบินอเนกประสงค์ หรือทวิบทบาทนั้นเอง
สรุป
เครื่องบินที่แบ่งเป็นขับไล่กับโจมตีจริงๆนั้นเห็นแต่ในยุคสงครามโลกครั้งที่1และ2ครับ หลังสงครามเย็นมาส่วนใหญ่กลายเป็นทวิบทบาทไปหมดแล้ว
ในการบินเราจะเรียกภาระกิจต่างๆ แยกกันไปตามหน้าที่ เช่น
sweep ต้องเป็นเครื่องขับไล่ ส่วนใหญ่ก็จะเป็น F-15
escort คุ้มกันพวกที่เค้าไปโจมตี
พวกทิ้งระเบิด พวกที่เข้าไปโจมตี
Multi role พวกเป็ด ทำได้ทุกอย่าง
ในความเป็นจริงเครื่องบินมันมี limit ถ้าติด ระเบิดเข้าไปก็จะไม่คล่องแคล้ว จึงต้องใช้เครื่องอาจะแบบเดียวกันแต่ทำคนละหน้าที่
จริงๆมีการแบ่งมากกว่านี้อีก ค่อนข้างเยอะครับ
โจมตีทางทะเล ไม่แน่ใจครับ ว่าอยู่ในส่วนไหน
ประวัติของทั้ง
2เครื่องมันที่มาอย่างนี้ครับ ปี 2515 ทางทอ.สหรัฐมีโครงการวิจัยพัฒนาเครื่องบินขับไล่น้ำหนักเบา
( Lightweight Fighter /LWF) และมีบริษัท 5
บริษัทเสนอแผนเข้าร่วมด้วยแต่ในที่สุด ทาง ทอ.สหรัฐฯ ได้เลือก บริษัทเยนเนอรัลไดนามิกส์
และบริษัทนอร์ธรอฟ โดยให้สร้างเครื่องต้นแบบขึ้น
บริษัทละ 2เครื่อง ครับ โดยYF-16เป็นของ บริษัทเยนเนอรัลไดนามิกส์ ส่วน YF-17เป็นของบริษัทนอร์ธรอฟ
ครับ
และการประเมิน ของ YF-16 และ YF-17 ได้ทำการบินประเมินในปี 2517 ซึ่งใช้ระยะ 12 เดือนในการประเมิน ผลออกมาก็คือ ทอ.สหรัฐเลือก YF-16
เมื่อ 13 มกราคม 2518 ครับ
เพราะสเป็คในตอนนั้นต้องการเพียงแค่จัดหาเครื่องบินบินขับไล่ครองอากาศ (
Air Superiorty Fighter) เท่านั้น
แต่พอได้ทดสอบเครื่องต้นแบบทั้ง 2เครื่องแล้ว
ก็เปลี่ยนวัตถุประสงค์ใหม่ไปเป็นเครื่องบินขับไล่ทำการรบทางอากาศ ( Air
Combat Fighter / ACF) และหลังจากนั้นเครื่องบินขับไล่ในโครงการนี้ก็ไก้รับการพัฒนาจนเลยวัตถุประสงค์และชื่อโครงการ
จนมันมีขีดความสามารถในการปฏิบัติการสนับสนุนหน่วยภาคพื้นดินและเป็นเครื่องขับไล่ทุกกาลอากาศครับ
ขอเสริมสำหรับ F16 นิดนึงครับ
เนื่องจาก F-16 เป็นเครื่องบิน Multirole แบบหนึ่ง ซึ่งสามารถเป็นเครื่องบินขับไล่ก็ได้ หรือเป็นเครื่องบินโจมตีทิ้งระเบิดก็ได้ ซึ่งแน่นอนว่าเมื่อF16 บรรทุกอาวุธหนัก ระบบของ F16 จะอยู่ในโหมด CAT III ซึ่งจะบอก
Flight Control ของ F16 ว่าสามารถบินได้ในท่าทางที่จำกัด คือไม่สามารถดึงเลี้ยวหนักๆได้ เนื่องจากการบรรทุกหนักของเครื่องบิน จะทำให้โครงสร้างเกิดความเสีบหายได้ เปรียบเหมือนคนเราเวลาถือของหนักๆพะรุงพะรัง ก็คงไม่สามารถวิ่งไปไหนมาไหนได้ถนัดนัก แต่เมื่อนบ.ได้ทำการทิ้งระเบิด หรือปลดภาระบรรทุกออกไปหมดแล้ว นบ สามารถเปลี่ยนโหมดจาก CAT III เป็น CAT I เพื่อให้ Flight Control สามารถให้ นบ. บินในท่าทางที่คล่องตัวมากขึ้น (เนื่องจากไม่ต้องควบคุมการบินไม่ให้บินเลี้ยวหนักๆ)
เรียนคุณ Virgin211 ครับ
ผมว่าชัยชนะไม่ได้อยู่ที่เทคโนโลยี แต่อยู่ที่ยุทธวิธีครับ
ทราบกันหรือไม่ครับว่า มีนบ.F16 ไทยของเราท่านหนึ่ง เคยบินฝึก
ซ้อมรบทางอากาศ Dogfight กับ นบ.อเมริกัน ในการฝึกร่วม
และยิง F-15 ตกมากมาย ทั้งๆ เราบินด้วย F-16 A ซึ่งรู้ๆกันอยู่ว่า
เทคโนโลยีไม่ดีเท่า F-15 และทางอเมริกาเองได้เชิญไปดูงานถึงประเทศเค้า หลายๆท่านคงทราบแล้วว่าผมหมายถึงใคร
ถ้าเป็นการพันตูจริงๆ แบบไม่มีพวกเทคโนโลยีล้ำยุคช่วยเกินไปละก็
ผมว่าสุดท้ายของแบบนี้มันก็ยังอยู่ที่ฝีมือนักบินและยุทธวิธีตามที่ท่าน: bfc_iceman ว่าละครับ
อาจจะเอามาเป็นตัวอย่างไม่ได้ แต่มีมาเยอะหลายสมรภูมิละครับไอ้พวกที่ใช้เครื่องบินที่ดีกว่า แต่ก็ต้องมาเจอเครื่องบินที่ตนดูถูกว่าด้อยสอยเอา
เอาใกล้ๆบ้านเราก็ตอนสงครามเวียดนาม นักบินเวียดนามเหนือใช้มิก17สอยเครื่องเอฟ4(หรือเอฟ105นี่แหละ)ร่วงมาแล้วนะครับ
แต่พูดอีกถ้านักบินก็เก่ง เทคโนโลยีก็ยอด นี่ก็คงจะน่ากลัวไม่น้อยนะเนี่ย แต่ประเทศที่มะกันมันไปบุกก็มีแต่ประเทศที่ ไม่โดนคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจบ้าง ไม่ก็เป็นประเทศที่อาวุธเก่าแทบไม่มีจะมาสู้ อย่างอิรักและอัฟกานิสถานเท่านั้นเอง (อิรักมีเครื่องบินดีๆเยอะแต่ไม่ค่อยเอามาสู้ เคยมีสู้แต่รู้สึกจะโดนสอยร่วงหมด)
สรุปทั้งสองอย่างเป็นปัจจัยแห่งชัยชนะครับ
....เครื่องบินโจมตี กับ เครื่องบินขับไล่ ในสมัยเครื่องบินใบพัด เค้าจะเรียกเครื่องบินโจมตีว่า "เครื่องบินดำทิ้งระเบิด" และหากนำไปใช้สะกัดกั้นเรือรบ เครื่องบินดำทิ้งระเบิดจะกลายเป็น "เครื่องบินตอร์ปิโด" ไปโดยปริยาย....
....มาในยุคสงครามเย็นจนถึงปัจจุบัน เครื่องบินที่ใช้ในภารกิจโจมตี กับ ขับไล่ ก้อยังแยกกันอยู่นะคับ ค่ายสหรัฐ จะใช้รหัสเครื่องบินโจมตีว่า A- เช่น A.4 Skyharwck, A.7 Coresare มาจนถึงตัวปัจจุบันคือ A.10 คำว่า A ก้อย่อมาจากคำว่า Atack ที่แปลว่า "โจมตี" ตรง ๆ ตัวอยู่แล้ว....
....ส่วนเครื่องบินขับไล่ สหรัฐใช้รหัส F [Fighter] เช่น F.16 ฯลฯ....
....ถ้าใช้เครื่องบินแบบเดียวในสองภารกิจ ขับไล่ด้วย โจมตีด้วย ก้อเอารหัสสองตัวมาทับกัน เช่น F/A.18 อะไรประมาณเนี๊ยะ....
....รหัสนี้รวมไปถึงฮ.ด้วยนะคับ เช่น AH 64, [Atack/Helicopter] UH1 [Utilitys/Halicopter] อะไรเทือกนี้แหล่ะ....
....ค่ายรัสเซียก้อมีหลายแบบสำหรับเครื่องบินโจมตี แบบที่ดังและใช้กันแพร่หลายหน่อย ก้อ SU.25 ที่แตกหน่อแตกแนวออกไปหลายแบบ เราก้อมีใช้คับ เป็นของเช็คในชื่อว่า L-39 ซึ่งมีต้นแบบมาจาก SU.-25 นี่แหล่ะคับ...
....เครื่องบินขับไล่แบ่งไปอีกสองไซส์ คือไซส์เล็ก หรือเครื่องบินขับไล่ขนาดเบา อันนี้ ทอ.เรามีใช้ประจำการมานานแล้วนะคับ ภารกิจคือการขับไล่สะกัดกั้น ใช้ในทางตั้งรับนั่นแหล่ะคับ เมื่อข้าศึกรุกผ่านขอบข่ายป้องกันทางอากาศชายแดนเข้ามา เครื่องบินขับไล่เบาก้อมีหน้าที่ทะยานเข้าสกัดกั้น พัวพันไม่ให้ข้าศึกเข้ามาทิ้งระเบิดยังจุดยุทธศาสตร์ที่ต้องการได้ เราจึงเรียกฝูงบินขับไล่ขนาดเบาว่า "ฝูงบินขับไล่สกัดกั้น" และเรียกฝูงบินขับไล่เบา ที่ติดระเบิดไปทิ้งด้วยว่า "ฝูงบินขับไล่ทางยุทธวิธี"....
....เครื่องบินขับไล่ขนาดเบา ลำกระบิ๋มเดียวหยั่ง เอฟ.5 ก้อมีสองเครื่องยนต์อ่ะคับท่าน เอฟ.16 เครื่องยนต์เดียวยังจะโตกว่าเลย ดังนั้นที่ว่า สองเครื่องยนต์ต้องใหญ่กว่าเครื่องยนต์เดียวก้อไม่แน่เสมอไป....
....ทีนี้ ถ้าประเทศมหาอำนาจ เค้ามีเครื่องบินทิ้งระเบิดลำโต ๆ แบบ บี.52 ด้วย เครื่องบินแบบนี้บินขึ้นจากเกาะกวม ก้อไปทิ้งระเบิดได้ครึ่งโลกอ่ะคับ แต่ปล่อยบินไปตามลำพังไม่ได้ เพราะมันบินได้ไกล แต่งุ่มง่ามโดนมิก.21ไล่จิกก้อไปไม่เป็นแล้ว ครั้นจะเอาเอฟ.16-หรือ เอฟ.18 ซึ่งเป็นเครื่องบินขับไล่ขนาดเบาไปคุ้มกัน ก้อคุ้มกันได้ไม่ไกล เพราะเครื่องบินมันเล็ก ถังน้ำมันก้อเล็กตามไปด้วย บินได้แค่ 800-1,000 ไมล์ก้อไกลจนน้ำตาไหลด้วยความซาบซึ้งแล้ว....
....มันก้อเลยต้องสร้างเครื่องบินขับไล่ขนาดใหญ่ 2 เครื่องยนต์ 2 ที่นั่ง เพื่อทำหน้าที่คุ้มกันเครื่องบินทิ้งระเบิด แบ่บถึงไหนถึงกัน ไหน ๆ เครื่องบินขับไล่มันก้อใหญ่ขึ้นมาแล้ว พื้นที่บรรทุกเหลือเฟือ ก้อเลยเอาระเบิดพกไปด้วย ไว้ทุ่มใส่หัว ปตอ.ที่รอดจากการเทกระจาดของเครื่องบินทิ้งระเบิดอีกที....
....มันจึงเป็นที่มาของเครื่องบินขับไล่ทางยุทธศาสตร์ สหรัฐก้อมีมาตั้งแต่ F.111 จนยัน F.15 นี่แหล่ะคับ....
....อิสราเอลบอมบ์โรงงานปรมาณูโอสิรักของอิรัก ใช้เอฟ.16 เป็นตัวบอมบ์ แต่ใช้ เอฟ.15 เป็นตัวคุ้มกัน เหตุผล ก้อเอฟ.16มันเล็กกว่า ต้องเติมน้ำมันกลางอากาศ ถึงจะไปทิ้งระเบิดได้ ส่วนเอฟ.15 ไม่ต้อง บินรวดเดียวได้เลย....
....ขืนเอาเอฟ.16 คุ้มกัน ต้องหยุดเติมน้ำมันกลางอากาศ เกิดมิกของอาหรับโผล่มาเจอกำลังคาสายน้ำมันก้อไม่เหลือทั้ง เอฟ.15 เอฟ.16 ล่ะคับ....
...ค่ายรัสเซีย ทำตระกูล มิก เป็นเครื่องบินขับไล่สกัดกั้น ทำตระกูล ซู เป็นเครื่องบินขับไล่คุ้มกัน ซู บางรุ่นก้อเป็นเครื่องบินโจมตี ดังนั้น บข.ซูตั้งแต่รุ่นก่อน ๆ มาจนถึงปัจจุบันส่วนใหญ่จะมีขนาดใหญ่กว่ามิกทั้งนั้นแหล่ะคับ....
...ไทยไม่เคยมีเครื่องบินทิ้งระเบิดแบบ บี.52 ซักกะลำ แต่ดันอยากได้ ซู.30 เอ็ม.เค.ซึ่งเป็นเครื่องบินขับไล่คุ้มกันเครื่องบินทิ้งระเบิดอย่างว่า ผมยังงงอ่ะคับว่าจะเอามาทำหยัง?....
...เอฟ.111 ของสหรัฐ โดน มิก.21 เวียดนามเหนือไล่ยำเอาเป็นปลากระป๋อง โหม่งดิน หัวบานไม่รู้ว่ากี่ร้อยเครื่องแบบหมดทางสู้ ทั้งที่ เอฟ.111 ใหญ่กว่า เรด้าร์จับเป้าได้ไกลกว่ามิก 21. ความเร็วก้อ 2.2 มัค. ไฉน เอฟ.111 ยังเป็นขนมหวานให้มิก 21 โซ้ยเอา ๆ...
...ก้อเพราะตัวมันใหญ่กว่า หนักกว่านี้คับ จะเลี้ยวจะกลับตัววงแคบสู้มิกที่เบากว่า เล็กกว่าไม่ได้ ก้อเลยต้องยอมรับสภาพเป้าปืนไป...
...นับตั้งแต่สงครามเวียดนามผ่านไป ยังไม่เคยเห็นสหรัฐคิดทำเครื่องบินขับไล่ขนาดใหญ่อย่าง เอฟ.111 อีกเลยแหล่ะ เอฟ.15 มายัน เอฟ.22 ก้อลำไม่โตเท่าใด...
....แต่ไทยกลับอยากได้ลำโตแบบ ซู.30 เอ็มเค. เออ อยากจะเอาไว้ให้ใครเค้าซ้อมเป้าเอาล่ะเนี่ย....
L-39 เป็นเครื่องเป็นเครื่องบินฝึก/โจมตีเบา ย.ไอพ่น ซึ่งผลิตโดย Aero เชคโกสโลวาเกียในปี 1968 (ปัจจุบันแยกเป็นสาธารณรัฐเชค และ สโลวัค) ซึ่งเป็นการพัฒนาต่อจาก บ.ฝึกแบบ L-29 โดย L-39 เป็น บ.ฝึกที่ได้รับความนิยมอย่างมากในประเทศค่ายตะวันออกช่วงสงครามเย็น โดยรัสเซียจัดหาไปใช้งานกว่า1,000ลำ(เยอะมากๆ) ซึ่งปัจจุบันกำลังจะถูกแทนที่ด้วย Yak-130 ซึ่งสำหรับเชคเองก็มีการพัฒนา บ.L-159 รุ่นใหม่ออกมาครับ
Su-25 นั้น บ.ต้นแบบบินขึ้นครั้งแรกในปี 1975 ซึ่งมีกระแสข่าวว่ามีความคล้ายคลึงกับบ.ต้นแบบ YA-9 ของสหรัฐฯครับ
ไม่เกี่ยวกับ กท.ครับ
ท่าน Virgin211 ชื่อเล่นชื่อหวานหรือเปล่าครับ