หน้าแรก    ตั้งกระทู้ใหม่   ตอบคำถาม    เข้าสู่ระบบ      


อยากถามเรื่องการวางตัวของไทย

โดยคุณ : champ thai army เมื่อวันที่ : 02/08/2009 20:19:35

คือผมอยากทราบนะครับ ว่าพี่ๆมีความคิดเห็นอย่างไง ถ้าสมมุตินะครับสมุติ สมุติว่าถ้าในอนาคตอเมริกาจะเข้าโจมตีพม่าจริงๆ จะด้วยเหตุผลอะไรก็ไม่ทราบ และจากในกระทู้ที่พม่าสร้างอุโมงรอบชายแดนไทย ผมเลยสงสัยว่าถ้าเกิดสหรัฐ จะขอเข้ามาใช้ไทยเป็นฐานในการบุกเข้าโจมตีพม่า พี่ๆคิดว่าไทยจะทำตัวอย่างไงครับ จะปฏิเสธหรือเปล่า ส่วนตัวผมคิดว่าไทยไม่ควรให้สหรัฐใช้ประเทศเราเป็นฐานที่มั่น เพราะผมเข็ดตั้งแต่ตอนที่เราทำสงครามกับฝรั่งเศสที่ มะกันมันกักเครื่องบินไม่ส่งให้เราแถมบอกให้เราช่วยตัวเองก่อนตอนญี่ปุ่นบุกอีก และไหนจะตอนที่ทำสงครามกับคอมมิวนีส พอตัวเองสู้ไม่ได้ก็ทิ้งเราให้เราผจญชะตากรรมคนเดียว ดีที่เราไม่โดนบุกและรอดมาได้เพราะพี่จีนช่วย

ผมเลยอยากถามว่าพี่ๆคิดว่าจุดยืนของไทยจะวางตัวอย่างไรในความคิดพี่ๆ และเกี่ยวกับเรื่องสนธิสัญญาระหว่างกันอีก ว่าไทยจะวางจุดยืนอย่างไรจึงจะเหมาะที่สุด เพราะผมคิดว่าถ้าเราให้สหรัฐใช้เป็นฐาน เราต้องรบกับพม่าแน่ และไฟฟ้า จะดับ1 ใน 4 ของประเทศ เพราะพม่างดขายก๊าซให้เรา

2.พี่ๆว่าเราจะทำอย่างไงถ้าเกิดมีปัญหากับเพื่อนบ้านอย่างพม่า ลาว เพราะผมเคยคุยกับพี่คนนึงผมเล่าให้เขาฟังว่า ไทยซื้อก๊าชมาผลิตไฟฟ้าจากพม่า ซื้อไฟฟ้าจากลาว คิดว่าถ้าเกิดปัญหากันขึ้นความมั่นคงด้านพลังงานเราจะมีแค่ไหน  และไฟฟ้าในประเทศเราจะมีพอหมุนไปใช้ในพื้นที่ๆ มีปัญหาไหมครับ

ป.ล.ผมว่าตอนนี้เราพึ่งเพื่อนบ้านมากไปนะ เวลามีปัญหากันเราจะลำบาก จึงอยากลองฟังความคิดเห็นของพี่ๆหน่อยครับ ในภาพเป็นเขื่อนน้ำเทินในลาวครับ ที่จะขายไฟฟ้าให้ไทย 95 เปอร์เซ็น และเป็นเงินหมื่นกว่าล้านที่ไทยต้องเสียค่าไฟฟ้าให้ลาวครับ





ความคิดเห็นที่ 1


และที่เราส่ง พล.อ.เชาวลิตร ยงใจยุทธ ไปซื้อรถถัง T62 A2 มา

โดยคุณ : champ thai army  

ตอบ ขอแก้นะครับท่านchamp thai army   เราไม่เคยซื้อรถถังที62มาครับ น่าจะเป็นไทพ์59 ที่จีนพัฒนา(หรือก็อป)มาจากที54/55ของโซเวียต หรือไทพ์69 ที่จีนพัฒนามาจากที62ที่ยึดได้จากโซเวียต ระหว่างสงครามที่ชายแดน มากกว่าครับ โดยจีนขายให้เราในราคามิตรภาพ รู้สึกจะซื้อมาเป็นร้อยๆคันเลยเชียว

ลิงค์ตามนี้ครับ

http://en.wikipedia.org/wiki/Type_59

http://en.wikipedia.org/wiki/Type_69

 

ป.ล.  ผกค.ในยุคสมัยนั้น  ได้รับการสนับสนุนจากจีนครับ  ไม่ใช่เวียดนามครับ และบรรดาสหายที่เป็นแกนนำ ในช่วงนั้น  ก็ไม่ชอบเวียดนามเท่าไหร่ครับ

โดยคุณ : nok   

ตอบ เวียดนาม ลาว ที่เป็นคอมมิวนิสต์สายรัสเซียนั้น ในตอนแรกก็เคยช่วยสนับสนุนผกค.อยู่นะครับ เช่นการที่นำคนของไทยเราไปเรียนที่ฮานอยในเวียดนามเหนือ ลาวให้ที่พักแก่ผกค.ในดินแดน การฝึกอาวุธและอบรมลัทธิก็เรียนกันที่ลาวและเวียดนาม ส่วนในจีนมีการจัดตั้ง สถานีวิทยุเสียงประชาชนไทยในประเทศจีน และมีการส่งคนไปเรียนที่จีนกันมาก อาวุธกระสุนเสบียงล้วนแต่ได้มาจากจีน ลาว เขมร เวียดนาม

   แต่อย่างไรก็ตาม ความแตกแยกในพรรคก็มีสูงมากๆ เพราะการตั้งพรรคคอมมิวนิสต์ไทยเริ่มมาจากคนจีนในยุคสงครามโลกครั้งที่สอง ตอนหลังๆก็มีคนจากเวียดนาม เข้ามาอีก จึงกลายเป็นความแตกแยกว่า ฝ่ายหนึ่งเป็นพวกนิยมจีน ฝ่ายหนึ่งเป็นพวกนิยมเวียดนามหรือรัสเซีย แทบจะยกคนฟัดกันเองบ่อยๆ สหายที่เป็นคนไทยก็เริ่มเห็นความแตกต่าง รวมทั้งเหล่านักศึกษาที่หนีมาอยู่ด้วย เช่นว่าสหายนำที่มีเชื้อจีนมีความเป็นอยู่สบายกว่า ไม่เป็นไปตายลัทธิจริงๆ

     ตั้งแต่หลังสงครามเวียดนามเป็นต้นมา เวียดนามก็พัฒนาความสัมพันธ์กับโซเวียตอย่างแนบแน่น จนถึงกับทำสัญญาว่าจะช่วยกันหากเวียดนามถูกใครก็ตามรุกราน จีนเองที่ก่อนหน้านี้ก็ฮึ่มๆตีกะโซเวียตบ่อยๆก็ชักจะทนไม่ได้ ที่เวียดนามไปเข้ากับศัตรูพวก"ลัทธิแก้"ซะเฉยๆ พอเห็นว่าผกค.พึ่งจีน ลาวและเวียดนามที่เป็นสายรัสเซีย จึงยกเลิกการสนับสนุนผกค.ไทยทั้งหมด ทั้งอาวุธ เสบียง และที่พักพิง ด้วยการสั่งให้ผกค.ที่อยู่ในลาวและเวียดนามออกจะประเทศให้หมด ผลสะเทือนหลังจากนี้แบ่งเป็นข้อๆประมาณนี้ครับ

1.ทางการไทยปราบปรามผกค.อย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่เข้าตีเขตปลดปล่อยของผกค.ที่เขาค้อ และหลายๆที่ทางภาคเหนือ ภาคอีสาน ส่งผลให้ผกค.ต้องเสียกำลังคน อาวุธ และฐานที่มั่นไปอย่างสาหัส

2.การที่ไทยเน้นการเมืองควบคู่ไปกับการทหาร คือการฟื้นสัมพันธ์ไมตรีกับจีนอีกครั้ง หลังจากที่ตัดขาดกันไปยุคที่ไทยโอ๋แต่อเมริกาเสียจนเพื่อนบ้านหมั่นไส้ ส่งผลที่สำคัญมากๆคือ จีนสั่งปิดสถานีวิทยุผกค. และเลิกให้การสนับสนุนทุกด้าน ทั้งอาวุธ เสบียง การอบรมคน ส่งผลร้ายแรงต่อผกค.อย่างแรง

3.การที่เวียดนามเปิดฉากบุกเขมรของเขมรแดงพอลพตที่เป็นสายจีน ส่งผลให้สถานการณ์กลับตาลปัตรไปหมด ผลก็คือเวียดนามยึดเขมร ไม่รู้ว่าตกลงกันอย่างไร กลายเป็นว่าจีนจะเลิกสนับสนุนผกค.แบบในข้อที่ 2 โดยที่เราจะสนับสนุนเขมรแดงตามชายแดน สู้รบกับเวียดนามและเขมรเฮงสัมริน(ภายใต้การสนับสนุนของเวียดนาม และเป็นสาเหตุให้เขมรในปัจจุบันไม่ชอบเรา)

4.ผลที่ตามมาก็คือ ชายแดนด้านเวียดนามกับจีนเกิดการยิงกันอย่างรุนแรงขึ้นเมื่อเวียดนามบุกเขมร เวียดนามยิงปืนใหญ่เข้าไปในฝั่งจีนอย่างจงใจยุแหย่ ขับไล่ชาวเวียดนามเชื้อสายจีน (ชาวหัว) ให้ไปที่พรมแดนจีน ในขณะเดียวกันที่ชายแดนไทยเขมรรบกันอุตลุดทุกวัน จนเวียดนามเริ่มเข้ามาโจมตีในดินแดนไทยเพราะเห็นว่าเป็นฐานเขมรแดง แต่ฝ่ายเราก็สามารถผลักดันเวียดนามกลับไปได้
(ส่วนนี้แหละที่ผกค.ทำสิ่งไม่คาดคิดก็คือ เค้าอาสาที่จะรบกับพวกเวียดนามเอง หากพวกนั้นบุกไทยจริงๆ แต่ขอแค่อย่าให้ทางการโจมตีด้านหลังก็พอ)
 ในที่สุดด้วยหลายๆสาเหตุทั้งการต้องการสั่งสอนเวียดนามที่กล้าจับมือกับศัตรูและประกาศเป็นมหาอำนาจ สั่งสอนเรื่องการยิงปืนใหญ่ใส่จีน จีนจึงส่งกองทัพเข้าถล่มเวียดนามทางตอนเหนือ ระยะแรกๆต้องถูกเวียดนามที่ชำนาญศึกและอยู่ในภูมิประเทศที่ได้เปรียบกว่า ทำลายเสียหายไปเยอะ(ใช้คลื่นมนุษย์) ทหารจีนในขณะนั้นเป็นทหารใหม่ ไม่เหมือนทหารสมัยรบกับก๊กมินตั๋งที่กร้านศึกมากกว่า ผิดกับเวียดนามที่รบกับอเมริกันและเวียดนามใต้มานานโขกว่า

ภายหลังจีนได้เปลี่ยนยุทธวิธี เป็นยิงกระหน่ำอย่างต่อเนื่อง ด้วยปืนใหญ่และเครื่องยิงจรวดจำนวนมหาศาล ยิงไปทุกจุด กระหน่ำอย่างยาวนาน เอาจนทหารเวียดนามไม่ว่าจะซ่อนยังไงเป็นต้องโดน หรือสนามเพลาะหายไปเลย และใช้กองทัพรถถังพร้อมทหารราบบุกตะลุย พร้อมกับใช้ปืนพ่นไฟใส่บังเกอร์ทุกแห่ง เมื่อเจอแบบนี้เวียดนามเป็นต้องถอย แม้แต่กองพลที่ดีที่สุดก็ยังถูกทำลายไปทั้งกองพล เวียดนามเริ่มเข้าตาร้ายเมื่อจีนบุกมาจนจะถึงกรุงฮานอยเมืองหลวงอยู่แล้ว เวียดนามเริ่มเกณฑ์กำลังพล ชาวเมืองทั้งหญิงทั้งชายเตรียมรับศึกอย่างรีบเร่ง ถึงขนาดขนทหารกองพลที่ดีที่สุดในเขมรทางเครื่องบินกลับไปที่ฮานอย

แต่จู่ๆจีนก็ถอยทัพกลับบ้านซะเฉยๆแบบที่เวียดนามได้แต่งงเต๊ก เพราะจีนรู้ดีว่าหากอยู่ต่อไปนานๆ หรือทำสงครามยืดเยื้อกับเวียดนาม เป็นต้องเสียหายหนักกว่านี้แน่ ทั้งสองฝ่ายต่างอ้างว่าแต่ละฝ่ายเป็นฝ่ายสั่งสอน แต่สุดท้ายก็ไม่รู้ว่าใครสั่งสอนใครกันแน่ สำหรับจีนนั้นได้รับบทเรียนอันมีค่าว่า กองทัพของตนนั้นถึงจะมีขนาดใหญ่แต่พอรบเข้าจริงกับไม่มีประสิทธิภาพ เลยปรับปรุงและลดขนาดกองทัพในเวลาต่อมา ส่วนเวียดนามก็อ้างว่าขับไล่จีนไปสำเร็จด้วยกำลังตนเอง แต่จริงๆแล้วก็ต้องสูญเสียอย่างหนัก จนต้องถอนกำลังจากเขมรในที่สุด

พูดไปพูดมายาวซะ..สรุปก็คือที่กล่าวมาทั้งหมดเปลี่ยนแปลงทุกอย่างให้เป็นแบบในปัจจุบันนี้นั้นเองครับ ไทยก็ได้ตีซี้กับจีน เขมรก็ไล่เขมรแดงออกไปได้และเป็นสายเวียดนามไป เวียดนามก็โดนสั่งสอนเสียจนไม่มีกำลังรบไปรังแกใครได้อีก ผกค.ก็จำเป็นต้องหมดบทบาทไป ก่อนที่โซเวียตจะล่มสลายเสียอีก

 


โดยคุณ tan02 เมื่อวันที่ 19/07/2009 03:13:06


ความคิดเห็นที่ 2


ครับ ขอบคุณพี่นกครับที่ช่วยท้วงติง ขอแก้นะครับ ขอแก้จากอ.ปรีดีย์ พนมยงศ์ เป็น ม.ร.ว. เสนีย์ ประโมชครับ ที่ผมใส่ ม.ร.ว. ไปข้างหน้า ชื่ออ.ปรีดีย์ เพราะผมจำได้ว่าที่ผมเคยอ่านมีคำว่า ม.ร.ว. อยู่ข้างหน้าด้วยครับ แต่นึกไม่ออกพอนึกชื่อ อ. ปรีดีย์ได้ ก็เลยนึกว่าใช่ เพราะท่านมีบทบาทต่อการเมืองไทยทั้งคู่ ขอบคุณ พี่ NOK มากครับที่ท้วงติงและขอบคุณข้อมูลด้วยครับ

ส่วนเรื่อง F 4 แฟนธ่อม ที่ผมบอกว่าเราขอซื้อแล้ว มะกันไม่ขาย พอดีผมเคยได้อ่านกระทู้ที่ไหนที่หนึ่ง น่าจะเป็นที่นี่นะครับ ว่าเราเคยขอซื้อ F4 แฟนธ่อม จากมะกันแต่มะกันกลัวว่าถ้าไทยตกเป็นคอมมิวนีสแล้ว เทคโนโลยีของ F4 จะตกไปอยู่ในมือของคอมมิวนีส เลยปฏิเสธไม่ขายให้ทั้งๆที่ก็มี F4 ใช้ในไทยตอนโจมตีคอมมิวนีสในเวียดนาม ลาว กัมพูชา อันนี้ต้องยอมรับว่าข้อมูลไม่ชัวร์เท่าไหร่ครับ ต้องขอรับการยืนยันอีกที ถ้าไม่เป็นความจริงต้องขออภัยด้วยครับ

ส่วนเรื่องผกค. ขอยอมรับในความเห็นของพี่ NOK ครับแต่ผมเคยอ่านมาว่า เวียดนาม ส่งหน่วยแซปเปอร์ มาฝึกการโจมตีก่อวินาศกรรมให้กับ ผกค.ไทยครับ ส่วนเรื่องผกค.เป็นคอมมิวนีสสายไหน เพื่งจะได้ทราบจากพี่นกแหละครับขอบคุณครับสำหรับข้อมูล

 

โดยคุณ champ thai army เมื่อวันที่ 19/07/2009 00:54:48


ความคิดเห็นที่ 3


เรียนพี่ : Oldtimer  นะครับ คือที่ผมบอกว่าไทยรอดมาได้เพราะจีนช่วยตอนแรกก็ไม่อยากเขียนเท่าไหร่หรอกครับ แต่มันมีเหตุครับ และพอที่จะทำให้เรารอดจากการรุกรานของคอมมิวนีสที่ประกอบด้วย เวียดนาม ลาวเขมร มาได้ โดยที่พี่กันหมายหัวเราไว้แล้วว่าเราต้องเป็นคอมมิวนีสประเทศต่อไป แกเปิดตูดแนบไปแล้ว เพราะว่า พอหลังจากที่พี่กันเผ่นแนบ ท่านม.ร.ว.ปรีดีย์ พนมยงศ์ ท่านได้ไปดำเนินความสัมพันธ์ทางการทูตกับจีน เพื่อจะใช้จีนถ่วงอำนาจของเวียดนาม เพราะจีนกับเวียดนามเป็นคอมมิวนีสคนละสายกัน ทำให้เวียดนามไม่กล้าบุกประเทศไทย แต่ก็เกือบไปเหมือนกัน ผมยังจำได้ว่ามีคนเคยโพสไว้ที่ไหนซักแห่งว่า เวียดนามเตรียมใช้รถถังกว่า 1000 คัน ทหารอีกมากโข บุกประเทศไทยแล้วจะยึดไทยให้ได้ภายใน 12 ชั่วโมง หลักฐานก็ยังมีที่เราขุดคูเหรด ดักรถถังตั้งยาว ที่ชายแดนเขมร และมีหน่วยแซปเปอร์ หรือหน่วยก่อวินาศกรรม เข้ามาสอนให้พวก ผกค.ด้วย แต่ไทยดำเนินการเปิดสัมพันธ์ทางการทูตกับประเทศที่เราเคยบอกว่าเป็นโจรบ้างอะไรบ้างตอนที่พี่กัน แกมาตั้งฐานอยู่ในไทย ถ้าไม่ได้จีนมาคานอำนาจเวียดนาม ซึ่งมีลาวเขมร เป็นพวกแล้วผมว่าประเทศไทยก็คงอาจจะได้กลายเป็นคอมมิวนีสไปแล้ว และที่เราส่ง พล.อ.เชาวลิตร ยงใจยุทธ ไปซื้อรถถัง T62 A2 มา แล้วก็ไปขอร้องให้จีนโจมตีเวียดนาม ในสงครามสั่งสอน ถึงแม้ว่าจีนจะโจมตีเวียดนามอยู่แล้ว เพราะหมันใส้ แต่ก็ถือว่าช่วยไทยไม่มากก็น้อยอย่างน้อย เราก็ไม่ได้รอดเพราะไอ้กัน และที่เราขอซื้อF4 ที่มันไม่ขายให้แต่ขาย F5 ให้แทนก็เพราะมันหมายหัวเราไว้ว่า เราต้องเป็นคอมมิวนีสแน่เลยไม่ขาย ดูดู๊ดูดูพี่กันทำ ทำไมถึงทำกับไทยได้ นี่ครับมิตรประเทศ เหอะๆๆ

ถึงพี่: na-zis  ถึงแม้ว่าเราจะสร้างแต่พอสร้างเสร็จเราก็ได้ไฟฟ้า 95 เปอร์เซ็น แต่เราก็ต้องเสียเงินซื้อไฟฟ้ามานะครับ ไม่ใช่ว่าเราสร้างแล้วเราจะได้ใช้ไฟฟ้าฟรี ต้องเสียเงินอยู่ดี ยังไงงบดุลก็ไหลออกอยู่ดี  

โดยคุณ champ thai army เมื่อวันที่ 18/07/2009 11:53:01


ความคิดเห็นที่ 4


ท่านม.ร.ว.ปรีดีย์ พนมยงศ์>>>> อ.ปรีดี ท่านไม่ใช่เชื้อพระวงศ์ครับ ไม่ได้มีคำนำหน้าว่า หม่อมราชวงศ์ครับ   ท่านมีคำนำหน้าว่า ดร.คือด็อกเตอร์ ครับ 

ท่านลี้ภัยทางการเมืองไปอยู่ที่อังกฤษครับ  (ข้อกล่าวหาไม่ขอพูดถึงนะครับ)

พอหลังจากที่พี่กันเผ่นแนบ ท่านม.ร.ว.ปรีดีย์ พนมยงศ์ ท่านได้ไปดำเนินความสัมพันธ์ทางการทูตกับจีน>>>> คนละยุคสมัยกันครับ ไม่ใช่เลยครับ  ไปศึกษามาใหม่นะครับ

และที่เราขอซื้อF4 ที่มันไม่ขายให้แต่ขาย >>>> เอาข้อมูลมาจากไหนครับ

F-4 แฟนธ่อม หรือ F-4 คอร์แซร์ครับ

ถ้าเป็นคอร์แซร์ มันตกยุคสมัยไปแล้วครับ  เลยไม่ซื้อ

ส่วนถ้าเป็นแฟนธ่อม  เทียบง่ายๆครับ  ราคาถ้าเทียบกับสมัยนี้ ประมาณF-15


เราไม่มีเงินซื้อครับ F-4 ในตอนนั้น

ป.ล.  ผกค.ในยุคสมัยนั้น  ได้รับการสนับสนุนจากจีนครับ  ไม่ใช่เวียดนามครับ และบรรดาสหายที่เป็นแกนนำ ในช่วงนั้น  ก็ไม่ชอบเวียดนามเท่าไหร่ครับ
โดยคุณ nok เมื่อวันที่ 18/07/2009 12:52:20


ความคิดเห็นที่ 5


ผมมาเพิ่มให้อีกนิดนะครับ

อ.ปรีดี   พนมยงค์  ท่านได้ลี้ภัยทางการเมืองหลังจากรัฐประหารปี 2490 ไปที่สิงค์โปร์และจีนครับ และอีกครั้งก็หลังเหตุการณ์กบฎวังหลวง ปี 2492 ครับ และดูเหมือนท่านจะไม่กลับประเทศไทยอีกเลยครับ


ส่วนรายละเอียดเพิ่มเติม  ผมว่าคุณ lordsri จะให้รายละเอียดเพิ่มเติมได้ดีกว่าครับ
โดยคุณ nok เมื่อวันที่ 18/07/2009 13:06:39


ความคิดเห็นที่ 6


อเมริกาตึพม่า อเมริกาจะได้ประโยชน์อะไรอะไร แก๊สหรือ เแค่ตัดสินใจผิดบุกอิรัค นี่ ไม่รู้อีกกี่ปีจะฟื้น ยิ่งพม่าสนิทกับจีนอยู่ยิ่งปิดโอกาส บุกพม่าวันไหนจีนลงมาทั้นที� ในทางตรงกันข้่าม พม่าได้ประโยชน์กับข่าวแบบนี้เพื่อหันเหคน มาร่วมใจกันต่อต้านผู้รุกรานต่างชาติแทนที่จะมองข้างใน�
แต่ที่ว่า ดีที่ว่าไม่โดนบุกและรอดมาได้เพราะจีนช่วย นี่ไม่เห็นด้วย ครับ
โดยคุณ Oldtimer เมื่อวันที่ 18/07/2009 07:04:14


ความคิดเห็นที่ 7


เราก็ต้องดูว่าพม่าเป็นภัยคุกคามขนาดไหนครับ การขุดอุโมงค์ก็ต้องจับตามองหาข้อมูลตลอดเส้นทางการขุดเจาะ
แต่ที่แน่นๆพม่ามีทรัพยากรเยอะมากพวกสินแร่โดยเฉพาะทอง อย่าปล่อยให้ใกล้เกลือกินด่างเลยครับ
โดยคุณ sam เมื่อวันที่ 18/07/2009 08:35:39


ความคิดเห็นที่ 8


ผมว่าอเมริกาไม่บุกพม่าเพราะเกรงใจจีนและยังเห็นเกาหลีสำคัญกว่า

แค่ให้การสนับสนุนกลุ่มต่างๆในพม่าก็ทำให้พม่าลำบากแย่แล้ว

ส่วนไฟฟ้าเหมือนที่คุณ เด็กทะเล ตอบ เกินมา 20 เปอเซน

ส่วนเขื่อนในลาวทางไทยเป็นผู้สร้างเพื่อผลิตไฟฟ้าให้เรา

โดยคุณ na-zis เมื่อวันที่ 18/07/2009 08:42:59


ความคิดเห็นที่ 9


ส่วนตัวกระผมเห็นว่า ประเทศไทยเป็นประเทศอยู่ได้เพราะคนไทยนี่แหละครับ ดังนั้นเราจึงไม่ควรไปยุ่งเกี่ยวกับเรื่องที่จะส่งผลกระทบต่อเราโดยตรง ปล่อยให้เป็นการเจรจาทางการทูตในระดับนานาชาติดีกว่าครับ

และอีกอย่างถ้าเราเกิดมีเรื่องกับเพื่อนบ้าน ทั้งทรัพยากรมนุษย์ ทรัพย์สินต่างๆ คงสูญสลายไปโดยเปล่าประโยชน์สู้เอาไปพัฒนาประเทศในด้านอื่นๆไม่ดีกว่าหรือครับ(ในส่วนที่เราเป็นผู้ริเริ่มสงคราม)

แต่หากเราโดนย่ำยี เราก็ต้องสู้นะครับ  สู้ในระดับที่เหมาะสม  ไม่ใช่ถึงกับรุกรานประเทศอื่นเขา (สู้เพื่ออยู่  และอยู่บนพื้นฐานความอยุติธรรม)

จำคำพระท่านไว้เถอะครับ  "เวรยอมระงับด้วยการไม่จองเวร" กรรมใดใครก่อมันก็ต้องรับไป ไม่ชาตินี้ก็ชาติหน้าเชื่อเถอะครับ

โดยคุณ สหายแมว เมื่อวันที่ 18/07/2009 06:19:31


ความคิดเห็นที่ 10


ในความเห็นของผมเราคงไม่มีปัญหาเรื่องพลังงานหรอกครับ ถึงแม้ว่าบ้านเราจะใช้ก๊าซธรรมชาติในการผลิตไฟฟ้าถึง 70% และสำหรับกรณีที่เราซื้อพลังงานจากเพื่อนบ้านนั้นอันนี้เท่าที่ทราบเป็นลักษณะการสร้างความสัมพันธ์ครับ และอีกอย่างบ้านเราทุกวันนี้ทำโครงการอะไรลำบากครับ มีคนประท้วงคนค้านตลอด ผมว่าบ้านเราประท้วงไว้ก่อนอย่างอื่นทีหลัง ที่ผมแสดงความเห็นอย่างนี้เคยมีคนทำวิจัยหลายๆโครงการแล้วโดนประท้วงครับ

สำหรับรายละเอียดลึกๆเรื่องพลังงานให้เข้าไปดูที่เว็บไซด์ของกรมพัฒนาพลังงานและอนุรักษ์พลังงานทดแทนครับ

 

ปล  รักชาติยิ่งชีพ

 

โดยคุณ CROBRA99 เมื่อวันที่ 18/07/2009 02:33:09


ความคิดเห็นที่ 11


ความสัมพันธ์ทางด้านความมั่นคงและทางทหารของเราค่อนข้างจะแนบแน่นกับอเมริกามาช้านานย่อมมีเหตุที่ต้องทำให้ตัดสินใจอย่างใดอย่างหนึ่ง ซึ่งสมมุติว่าหากเกิดกรณีที่อเมริกาจะโจมตีพม่านั้น อเมริกาจะต้องหาเหตุผลที่สามารถทำให้ประชาคมโลกมาเห็นด้วยอย่างแน่นอน และจากเหตุผลนี้ทำให้เลี่ยงไม่ได้ว่าอเมริกาต้องร้องขอใช้พื้นที่ในประเทศมาเป็นฐานทัพอย่างแน่นอนครับ อีกทั้งกรณีแหล่งผลิตสิ่งเสพติดที่อยู่ภายนอกปนระเทศนั้นอาจจะเป็นเหตุผลหนึ่งที่ทำให้เราได้คิดถึงส่วนได้ส่วนเสียในการยอมรับการร้องขอหรือไม่

ส่วนกรณีพลังงานที่ใช้ในการผลิตกระแสไฟ้และเกรงว่าอาจจะมีเหตุให้กระแสไฟฟ้าขาดแคลนนั้นต้องบอกว่าเลิกกังวลได้ครับ เพราะเรามีแหล่งพลังงานจากหลายที่ ซึ่งการที่เรานำเข้าพลังงานจากเพื่อนบ้านนั่นก็หมายถึงรายได้ของเพื่อนบ้านเช่นกัน หากตัดการส่งพลังงานก็ย่อมขาดรายได้มหาศาล อีกทั้งตามหลักสากลทั่วไปนั้นเขามักจะผลิตกระแสไฟฟ้าเผื่อไว้จากที่ใช้จริงที่ 5 เปอร์เซ็นต์ แต่ของเราเผื่อไปถึง 20 เปอร์เซ็นต์ซึ่งมากพอสมควร(อันนี้แหละสาเหตุที่เอามาอ้างคัดค้านโรงไฟฟ้ากัน) แต่อย่าว่ามากไปนะครับ เพราะอัตราการใช้ไฟฟ้ามันสูงขึ้นทุกปีตลอดอีกห้าปีข้างหน้าหากไม่มีโรงไฟฟ้าเพิ่มในอนาคตอัตราเฉลี่ยการกระแสไฟฟ้าที่ผลิตเผื่อไว้อาจจะต่ำกว่ามาตรฐาน

โดยคุณ เด็กทะเล เมื่อวันที่ 18/07/2009 02:48:25


ความคิดเห็นที่ 12


ผมว่าณ.เวลานี้พม่ายังไม่มีทีท่าจะคุกคามไทยนะครับและไม่เห็นจะเป็นแหล่งซ่องสุ่มพวกก่อการร้ายที่ไหนอเมริกาคงไม่บุกหรอกมั้งครับแต่ถ้าจะบุกพม่าแล้วใช้ไทยเป็นฐานนี่ผมไม่เห็นด้วยเพราะเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระดับประเทศคงทำให้ไทยกับพม่ามองหน้ากันไม่ติดอีกนานเหมือนสงครามเวียดนามอะแหละเราไม่ควรเห็นคนไกลดีกว่าคนใกล้นะอย่าลืมว่าเรามีพรมแดนติดกันตั้งแต่เหนือจรดใต้และที่สำคัญถ้าอเมริกาไม่ใช้ไทยเป็นฐานก็ใช่ว่าจะด้อยเมื่อไหร่เจอกองเรือ7กะ3ของอเมริกาพม่าก็หึดขึ้นคอเลยดีไม่ดีเจอศึกสงครามกลางเมืองของชนกลุ่มน้อย ยังไม่พอโดนสงครามวงในที่จะหักหลังกันเองในหมู่ผู้นำ3นายพลอีกอย่างที่เกิดกับขิ่นยุ่นน่ะ ทหารพม่าก็ขวัญกำลังใจต่ำซะทุกวันนี้ไม่มีกระเหรี่ยงกะว้าช่วยรบคงแย่เพราะทหารพม่ามันไม่รู้ว่ามันรบเพื่อชาติหรือผู้นำ ระยะหลังยังจะหักหลังว้าอีกโดนว้าตีตัวออกห่างดีไม่ดีว้าจับมือกะเจ้ายอดศึกสู้นะพม่าก็เหนื่อยละ พม่าหมัดเด็ดคือปราการธรรมชาติพวกภูเขาสูงรอบเมืองหลวงใหม่อย่างเมืองปยินมะนา ซึ่งเมืองนี้ในอดีตใช้เป็นฐานที่มั่นต่อต้านกองทัพญี่ปุ่นมาแล้วและครั้งหนึ่งยังเคยเป็นฐานทัพใหญ่ของพรรคคอมมิวนิสต์พม่าในอดีตนั่นเอง สหรัฐจะบุกตรงๆคงลำบากเหมือนกันไม่เหมือนอิรักที่มีแต่ทรายกับตึกส่วนพม่านี้ป่าเขาล้วนๆเจอสงครามกองโจรอย่างที่เจอกับเวียดกงอีก รบในป่าอาวุธทันสมัยมากๆใช้ได้ไม่เต็มความสามารถหรอกฝีมือล้วนๆจริงๆ สู้ส่งอาวุธให้ชนกลุ่มน้อยแล้วอเมริกาคอยสนับสนุนเป็นแนวหลังอยู่ห่างๆดีกว่าไม่เจ็บตัวดี เคยมีทหารว้าบอกผมว่าเวลารบกันจริงๆทหารพม่า5เจอว้า1พม่ายังเหนื่อยเลยทหารว้ามันเลือดคอมมิวนิสต์รบไม่ถอยมันบอกถ้ามันไม่รบหรือรบแพ้มันไม่มีแผ่นดินลูกเมียก็ตาย(รบเพื่ออุดมการ์ณจริงๆ)อีกเรื่องว้ามันกลัวทหารพรานไทยนะครับเพราะทหารพรานไทยทางเหนือบางคนเป็นชาวจีนฮ่อในอดีตคือกองพล93ของจีนพวกนี้ไม่ค่อยจับเป็นเจอเป็นยิงทิ้งปาดคอตัดหัวว้ามั่งล่ะมันบอกเจอทหารจริงๆหรือตำรวจโอกาสรอดยังมี ดูมันพูดๆมันว่าเกินไปหรือเปล่าหว่า มันบอกไทยใหญ่อะเก่งกว่าอีกเจอพม่า8-1อะรบเก่งกองทัพของเจ้ายอดศึกอะนะเก่งมากรบด้วยใจจริง( เรื่องบางเรื่องผมฟังมาจากเรื่องจริงจากปากของทหารว้าจริงๆตอนสร้างเมืองยอนใหม่ๆของส่วนใหญ่ซื้อที่เชียงใหม่นะครับผมกับเพื่อนเคยเอาพวกของกินของใช้,M150,บุหรี่ ไปขายได้กำไรเป็นเท่าตัว หลังๆด่านที่สันต้นดู่เขาเข้มงวดก็เลยอดไม่ได้ส่งละ)***ความเห็นส่วนตัวนะครับไม่มีอ้างอิงจากไหนอะแล้ววิจารณญาน
โดยคุณ aeeclub เมื่อวันที่ 18/07/2009 04:10:06


ความคิดเห็นที่ 13


1.ว่าเราเคยขอซื้อ F4 แฟนธ่อม จากมะกันแต่มะกันกลัวว่าถ้าไทยตกเป็นคอมมิวนีสแล้ว เทคโนโลยีของ F4 จะตกไปอยู่ในมือของคอมมิวนีส เลยปฏิเสธไม่ขายให้ทั้งๆที่ก็มี F4 ใช้ในไทยตอนโจมตีคอมมิวนีสในเวียดนาม ลาว กัมพูชา

เราก็ไม่ได้รอดเพราะไอ้กัน และที่เราขอซื้อF4 ที่มันไม่ขายให้แต่ขาย F5 ให้แทนก็เพราะมันหมายหัวเราไว้ว่า เราต้องเป็นคอมมิวนีสแน่เลยไม่ขาย ดูดู๊ดูดูพี่กันทำ ทำไมถึงทำกับไทยได้ นี่ครับมิตรประเทศ เหอะๆ

โดยคุณ : champ thai army  

 

ตอบ อย่าว่าแต่ไทยเราเลยครับท่าน ขนาดเวียดนามใต้ที่ขณะนั้นหวิดๆจะโดนเวียดนามเหนือยึดอยู่แล้ว เค้าก็ยังไม่เอาให้เลยครับ ส่งให้แต่เอฟ5 แบบพี่ไทยเรานี่แหละ

 และถ้าเค้ากลัวขายให้เราแล้วจะโดนคอมมิวนิสต์ขโมยเทคโนโลยีไป แล้วทำไมเค้าถึงกล้าขายให้อิสราเอลละครับ เพราะหากอาหรับยึดได้อาจส่งซากไปให้รัสเซียก็ได้นี่หน่า (อย่าบอกนะว่ายิวเก่งมะกันเลยไม่กลัวว่าจะโดนยึดไป)

ที่อิหร่านก็เช่นกันมะกันขายทั้งเอฟ4 และเอฟ14ให้ก็เพราะความรวย ของอิหร่านสมัยพระเจ้าซาห์นั้นแหละครับ แต่ที่ท่าน nok  ว่านั้นแหละครับ คืออเมริกันถือคติว่า NO MONEY NO BODY เอ้ยไม่มีตังค์ก็ไม่มีการขายให้(อยู่แล้วใครจะไปให้ฟรีๆฟะ) แต่ก็เช่นเคยอยู่ๆพระเจ้าซาห์ก็มีอันถูกโค่นบัลลังค์โดยพวกหัวรุนแรงเฉยเลย เทคโนโลยีของเอฟ4 ก็มีแววจะโดนขโมยไปอีกแล้ว และตั้งแต่นั้นอิหร่านก็ตีกับอิรักเป็นสิบๆปี

ส่วนที่ว่ามิตรประเทศมะกันทำไมไม่ช่วยเราเลยนั้น เข้าใจง่ายๆก็คือเค้าหมดหวังในการต่อต้านคอมมิวนิสต์ในภูมิภาคบ้านเราแล้วครับ เพราะเป็นคอมฯกับแบบโดมิโน่ไปหมด เลยไม่อยากให้ของฟรีจะเสียตังค์ แต่อาวุธที่ทันสมัยอย่างปืนใหญ่เอ็ม198เค้าก็ขายให้นะครับ และอาวุธต่างๆที่ใช้ปราบผกค.เราก็ได้มาจากมะกันทั้งนั้น จะไปว่าแต่มะกันไม่ช่วยก็ไม่ได้เพระลงทุนไปจนเศรษฐกิจประเทศตัวเองจะอยู๋ไม่ได้แล้ว แต่ก็เป็นสาเหตุสำคัญที่เราหันไปญาติดีกับจีน เลิกการพึ่งพาแต่กับมะกันเสียจนใครๆเค้าก็เห็นเราเป็นลูกน้องเค้าไปเสียหมด ทั้งๆที่เราสังกัดอยู่ในกลุ่มประเทศไม่ฝักใฝ่ฝ่ายใด  ถ้ามะกันสนับสนุนเราออกนอกหน้า ก็ย่อมเป็นข้ออ้างให้คอมมิวนิสต์รุกรานเสียง่ายๆ

คงไม่มีใครอยากเห็นเราต้องทำสงครามกันก็เพราะถูกมหาอำนาจลากเข้าไปเกี่ยวอีกแล้วนะครับ

ปล.ไม่ได้เชียร์มะกันนะครับแต่เอาความจริงมาพูดก็แค่นั้น

 

"ทั้งๆที่ก็มี F4 ใช้ในไทยตอนโจมตีคอมมิวนีสในเวียดนาม ลาว กัมพูชา"

ตอบไอ้ทั้งๆที่มีนี่ละครับ ต้องเข้าใจก่อนว่า นั้นเป็นสมัยที่มะกันขอ(หรือขู่)ตั้งฐานทัพในไทย ซึ่งไทยเรานี่ละที่อนุญาต ให้มะกันเอาเครื่องบินทันสมัยนานาชนิดมาจอดไว้ บินไปถล่มทั้งลาว เขมร และเวียดนาม ไม่ใช่แค่เอฟ4 บี52ก็ยังมี แล้วใครกันละครับที่ไล่ให้มะกันออกไป? ก็พี่ไทยเรานี่ละครับที่ประท้วงกัน มะกันก็เลยทำตามนั้น ขนเครื่องบินกลับไปหมด แม้แต่อุปกรณ์สุดไฮเทคต่างๆก็หิ้วกลับไปหมด เหลือไว้แต่เรดาห์สุดทันสมัย(มั้ง) ถึงมะกันจะเหลือเครื่องบินไว้ให้เรา แต่ค่าซ่อมบำรุงละครับใครจะจ่าง? ไทยเราจ่ายไม่ไหวแน่แค่บินขึ้นเที่ยวเดียวก็แพงโข แล้วใครมันจะมาสอนให้เราบินบี52อีกเล่า ที่เวียดนามใต้นั้นถึงจะได้เครื่องบินมะกันมากโขแต่ก็ไม่มีปัญญาซ่อมบำรุงอยู่ดีนั้นเอง เลยใช้ได้ไม่ค่อยจะเต็มที่ ทั้งๆที่ตอนนั้นเวียดนามใต้มีแสนยานุภาพทางอากาศมากที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เลยก็ว่าได้ พอเวียดนามใต้แตก ของที่ยังพอใช้ได้พี่เวียดนามเหนือก็จัดการยึดไปใช้เสียหมด แล้วเอามาใช้ถล่มตอนบุกเขมรแดงซะอย่างงั้น เฉยเลย

สรุปอย่าอิงอะไรกับมะกันมากไปเลยครับ การเมืองของเราที่หันไปจับมือกับจีนในตอนนั้นถือเป็นอาวุธที่สำคัญที่สุด ที่ทำให้คนไทยแต่ต่างความคิดได้หยุดฆ่าแกงกันเองเสียที ถึงจะซื้อเอฟ4มาได้ แต่ผมว่าเอาเงินที่ซื้อเครื่องบินราคาเป็นล้านๆไปปรับปรุงด้านอื่นคงจะดีกว่ามากในขณะนั้น (เช่นซื้อรถถังจีน)

จบละครับล่อซะยาว ติติงได้เต็มที่ครับเพราะเขียนมาจากความเห็นส่วนตัวและหลายๆส่วน

โดยคุณ tan02 เมื่อวันที่ 19/07/2009 03:53:07


ความคิดเห็นที่ 14


เข้ามาแก้ไขข้อมูลอีกครับ

เมื่อคืนเบลอไปหลายเรื่อง  ผมพลาดเรื่องรถถังไปได้อย่างไร แต่คุณ tan02 เข้ามาแก้ให้เรียบร้อยไปแล้ว  ส่วนเรื่อง ผกค. ผมเอาผลสรุปมาบอกครับ

ส่วนข้อความตรงนี้นะครับ

ท่านได้ไปดำเนินความสัมพันธ์ทางการทูตกับจีน เพื่อจะใช้จีนถ่วงอำนาจของเวียดนาม เพราะจีนกับเวียดนามเป็นคอมมิวนีสคนละสายกัน ทำให้เวียดนามไม่กล้าบุกประเทศไทย


และ ขอแก้จากอ.ปรีดีย์ พนมยงศ์ เป็น ม.ร.ว. เสนีย์ ประโมชครับ ที่ผมใส่ ม.ร.ว. ไปข้างหน้า ชื่ออ.ปรีดีย์ เพราะผมจำได้ว่าที่ผมเคยอ่านมีคำว่า ม.ร.ว. อยู่ข้างหน้าด้วยครับ>>>>>>>>>>>>>>>>>>

ส่วนเรื่องของการ  เปิดสัมพันธทางการฑูตกับจีนนั้น  ผู้ที่ทำคือ ท่าน ม.ร.ว. คึกฤทธิ์ ปราโมชครับ  เมื่อปี 2518 ขณะ ที่ท่านดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีครับและ รมต. ต่างประเทศในตอนนั้นคือ ท่าน พลตรี(ยศในขณะนั้น) ชาติชาย ชุณหะวัณครับซึ่ง เป็นช่วงสงครามเวียดนาม จวนจะยุติแล้วครับ อเมริกันกำลังกลับบ้านแล้วครับ


ส่วนที่ท่านม.ร.ว. เสนีย์ ปราโมชได้กระทำนั้น เป็นการเปิดสัมพันธไมตรีกับจีน  หลังสงครามโลกครั้งที่ 2  เพื่อ ให้จีนไม่คัดค้านที่ไทยได้จะเข้าร่วมเป็นสมาชิกในองค์การสหประชาชาติครับ  ช่วงเวลาปี 2849 ซึ่งช่วงนั้น เวียดนามเริ่มๆที่จะแบ่งเป็นเวียดนามเหนือกับใต้ครับ และเริ่มที่จะรบกับฝรั่งเศสครับ   ความคิดที่จะบุกไทยช่วงนั้นยังไม่มีและคงยังไม่คิดหรอกครับ

คนละเรื่องเลยครับ  เหมือนจับแพะมาชนแกะครับ 

โดยคุณ nok เมื่อวันที่ 19/07/2009 12:04:39


ความคิดเห็นที่ 15




สงสัยอย่างนะครับ  ว่าเรื่องการต่อสู้เพื่อต่อต้านอุดมการณ์คอมมิวนิสของอเมริกา  ถามว่าทำไมตอนสงครามเวียดนามถึงมีแต่อเมริกาละครับ อังกฤษกับฝรั่งเศลหรือทางยุโรปทำไมไม่มาสนับสนุนอเมริกาเลยละครับ..  ก็ก่อนหน้าเขามาล่าอานานิคมกันที่นี่นิครับ..




..
โดยคุณ charchar เมื่อวันที่ 19/07/2009 14:19:04


ความคิดเห็นที่ 16


ขอบคุณพี่ tan 02 กับพี่นก และพี่ๆทุกคนนะครับ ทั้งที่มาแก้ข้อมูลและให้ข้อมูลที่ถูกต้องดีๆที่ผมยังไม่ทราบต้องหลายเรื่องแหนะ เฮะๆๆ ขอบคุณมากครับ

อืมพี่ครับวันนี้ผมได้คุยกับ อดีตนายทหารคนนึง ท่านบอกว่าเวียดนาม กับ จีนเคยขีดเส้นแบ่งดินแดนไทยแล้วด้วยหรอครับ เห็นลุงท่านบอกว่า แม่น้ำเจ้าพระยาฝั่งตะวันออกจะเป็นคอมมิวนีสสายเวียดนาม ส่วนแม่น้ำเจ้าพระยาฝั่งตะวันตกจะเป็นคอมมิวนีสสายจีน เรื่องนี้จริงหรือเปล่าครับขอความกระจ่างหน่อยครับ

และเกิดอะไรกับ นายทหารท่านนึงที่จริงคุณลุงท่านก็บอกชื่อแต่ผมจำไม่ได้ครับ ท่านที่เอาทหารไทยบุกตะลุยไปถึงปอยเปต แล้วจะโดนปลดน่ะครับ ตกลงท่านได้โดนปลดเปล่าครับ พอดีจะคุยต่อกับคุณลุงแต่ลุงท่านต้องรีบกลับบ้านเลยค้างคา แล้วยุทธการที่อ.ตาพระยา มันเกิดอะไรขึ้นหรอครับ ใช่เหตุการณ์ที่ทหารเวียดนามใช้รถถังบุกเข้ามาในประเทศไทยเปล่าครับ

ขอมีส่วนหน่อยนะครับ ในความคิด่ของผม ผมคิดว่าที่อังกฤษ กับ ฝรั่งเศส ไม่ได้เข้ามายุ่งกับเรื่องต่อต้านคอมมิวนีส คงเป็นเพราะว่า รัฐบาลของทั้งสองประเทศไม่มีนโยบายเหมือนมะกันเปล่าครับ และคงคิดว่าไม่มีผลประโยชน์อะไรในอดีตดินแดนอณานิคมนี่อีกต่อไปแล้ว คิดว่าอังกฤษคงไม่ยุ่งกับมะกันอยุ่แล้วเพราะตัวเองไม่มีผลได้เสียอะไรด้วย ไม่บ้าพลังเหมือนมะกัน ใช่เปล่าครับ

โดยคุณ champ_thai_army เมื่อวันที่ 19/07/2009 15:02:14


ความคิดเห็นที่ 17


ผมว่าไทยไม่ให้พวกมะกันใช้เป็นฐานทัพหรอก.....เพราะไทยเป็นกลางมาตลอด..
โดยคุณ tao_kub เมื่อวันที่ 19/07/2009 21:22:09


ความคิดเห็นที่ 18


สงสัยอย่างนะครับ  ว่าเรื่องการต่อสู้เพื่อต่อต้านอุดมการณ์คอมมิวนิสของอเมริกา  ถามว่าทำไมตอนสงครามเวียดนามถึงมีแต่อเมริกาละครับ อังกฤษกับฝรั่งเศลหรือทางยุโรปทำไมไม่มาสนับสนุนอเมริกาเลยละครับ..  ก็ก่อนหน้าเขามาล่าอานานิคมกันที่นี่นิครับ..

โดยคุณ : charchar   

ตอบ พวกทางยุโรปนี่เค้าก็สู้นะครับ ยกตัวอย่าง

กรีซ ช่วงหลังสงครามโลกครั้งที่สองนี่ รบกับพวกคอมมิวนิสต์ครับ ที่ตอนท้ายสงครามโลกครั้งที่สองเยอรมันถอยทัพ พวกคอมฯที่เป็นฝ่ายต่อต้านเยอรมันในขณะนั้นได้ตกลงว่าจะไม่ขัดขวางการถอยทัพของเยอรมัน หากเยอรมันทิ้งอาวุธไว้ให้พวกเขามากพอ (นั้น)  หลังสงครามพวกคอมมิวนิสต์กรีซกับรัฐบาลกรีซที่ได้รับการสนับสนุนทั้งอาวุธและการฝึกจากอังกฤษและสหรัฐฯ (อังกฤษมาไล่เยอรมันออกไป) จนกลายเป็นสงครามกลางเมืองกรีซไป รบกันตั้งแต่ปี 1945-1949 แต่ผลของสงครามครั้งนี้กรีซเป็นฝ่ายชนะพวกคอมมิวนิสต์ครับ

http://en.wikipedia.org/wiki/Greek_Civil_War

ฝรั่งเศส ฝรั่งเศสนี่มาเกี่ยวกับสงครามอินโดจีนครั้งแรก ก็คือครั้งที่หลังสงครามโลกครั้งที่สองพี่ท่านอยากกลับมาปกครองอาณานิคมนี้ตามเดิม หลังจากที่ถูกญี่ปุ่นเอาไปกินในช่วงWW2  ขณะนั้นมีเวียดมินห์เป็นหัวเรี่ยวหัวแรงใหญ่ในการปลดแอกจากฝรั่งเศส ซึ่งก็ดั๊นเป็นพรรคคอมมิวนิสต์ ฝรั่งเศสก็เลยได้ทีบอกว่าทำสงครามต่อต้านการขยายลัทธิคอมมิวนิสต์(น้าน! ว่าไป) ทั้งๆที่ความจริงจะทำสงครามเพื่อมาครองอาณานิคมต่างหาก แต่คราวนี้ไม่ได้หวานหมูอย่างที่คิดเพราะว่า

1.เวียดมินห์ ที่ลุงโฮสร้างนั้นได้รับการสนับสนุนจากOSSของอเมริกา พวกเขาฝึกเวียดมินห์ให้ทำการรบแบบกองโจรต่อต้านกองทัพญี่ปุ่น และสนับสนุนอาวุธบางส่วนด้วย
2.ตามข้อตกลงของพันธมิตร จะทำการปลดอาวุธทหารญี่ปุ่นโดยให้กองทัพจีนมาปลดอาวุธทางเวียดนามตอนเหนือ ส่วนอังกฤษจะมาปลดอาวุธเวียดนามทางใต้ ดังนั้นฝรั่งเศสจะมาบุ่มบ่ามกลับเข้าไปไม่ได้
เพราะพวกสัมพันธมิตรเคยพูดตอนสงครามโลกครั้งที่สองว่าหลังสงครามโลกจะให้อิสระภาพแก่ทุกประเทศ (แต่สุดท้ายก็ดีแต่ลมปาก)

หากอยากฟังเวอร์ชั่นเต็มบอกได้ครับ แต่ขอสรุปง่ายๆก็คือฝรั่งเศสทำสงครามต่อต้านคอมมิวนิสต์จริงๆครับได้แก่ที่อินโดจีน ส่วนในยุโรปมะกันก็หนุนหลังให้ฝรั่งเศสเป็นหัวหอกของนาโต้ต่อกรกับกลุ่มวอร์ซอร์ของโซเวียต ดังนั้นมะกันจึงต้องช่วยฝรั่งเศสในอินโดจีนไงครับ เพราะเค้าบอกว่ารบกะคอมมิวนิสต์นี่ จนสุดท้ายมะกันเองก็ต้องมาลงแข่งบ้าง แต่ผลก็คือเจ๋งไปทุกรายครับ

http://en.wikipedia.org/wiki/First_Indochina_War

อังกฤษ รายนี้ก็แนวๆฝรั่งเศสครับ คือต่อสู้กับคอมมิวฯเพื่อเอาอาณานิคมตนเองไว้ นั้นคือการรบพุ่งกับพวกกองโจรคอมมิวนิสต์จีนมลายาอันโด่งดังนั้นเอง ซึ่งมีต้นกำเนิดมาจากชาวจีนคอมมิวฯที่มาเผยแพร่ลัทธิให้กับชาวจีนมลายา พวกเขาทำการรบแบบกองโจรต่อสู้กับญี่ปุ่นในระหว่างWW2  พอญี่ปุ่นซาโยนาระไปแล้ว ก็ต่อสู้กับอังกฤษและพวกมลายาต่อ เป็นสงครามที่ยืดยาวจนพี่ไทยเราซวยไปด้วยบ่อยๆบริเวณชายแดน(ที่มีปัญหาตอนนี้ละ) ผลเป็นแบบเดียวกับที่กรีซครับ คืออังกฤษและมลายาเป็นฝ่ายชนะ สิ่งที่เป็นอังกฤษบอกว่าทำให้ชนะคอมฯได้คือการสร้าง "หมู่บ้านยุทธศาสตร์" เป็นการเอาประชาชนมาไว้ในหมู่บ้านที่มีการป้องกันด้วยกำแพงลวดหนาม เป็นการแยกปลาออกจากน้ำ วิธีนี้มะกันได้"ยืม"ไปใช้ในสงครามเวียดนาม แต่ไม่ยักกะได้ผลเหมือนที่มาเลเซีย

http://en.wikipedia.org/wiki/Malayan_Emergency

ตอนสงครามเวียดนามที่ถามว่าทำไมอังกฤษเค้าไม่มาช่วยนั้นมะกันรบนั้น ก็เป็นเพราะอังกฤษถือว่าตนช่วยรบต่อต้านคอมมิวฯที่มาเลเซียไปแล้ว แต่ก็ได้ส่งออสเตรเลียหนึ่งในเครือจักรภพมาช่วยรบครับ ซึ่งผลการรบเป็นที่น่าพอใจมาก จนพวกเวียดกงกลัวทหารออสซี่ยิ่งกว่าทหารมะกันอีก

เยอรมันตะวันตก หลังWW2อันโหดร้าย เยอรมันก็ได้เป็นเพื่อนกับอดีตศัตรูถึงสองคน นั้นคือเยอรมันตะวันตกเป็นเพื่อนกับพวกมะกัน ส่วนเยอรมันตะวันออกเป็นเพื่อนกับสหายอีวานโซเวียตซะดื้อๆ เยอรมันทั้งสองนั้นไม่เคยมีการรบใหญ่กันเลย แต่ก็มีปัญหากับเรื่องการแบ่งกรุงเบอร์ลินออกเป็นสองส่วน เพราะชาวเบอร์ลินในฟากตะวันออก ชอบหลบหนีคอมฯมาที่เยอรมันตะวันตก ในที่สุดเยอรมันตะวันออกและโซเวียตเลยสร้างกำแพงเมืองจีน เอ้ย! กำแพงเบอร์ลินอันโด่งดังขึ้นมาครับ เป็นกำแพงสูง มีลวดหนามและหอตรวจการณ์เวรยามตลอด 24ชม.แบบเซเว่นบ้านเรา หากมีใครปีนกำแพงข้ามฝั่งมา ต้องโดนอีกฝ่ายยิงตายสถานเดียว เป็นการป้องกันทั้งพวกที่หลบหนี และการแทรกซึมของเหล่าสายลับ

หลังจากการประเทศถูกแบ่งมาเป็นสิบๆปี ในที่สุดเยอรมันทั้งสองก็รวมตัวกันได้ในที่สุด ภาพที่น่าประทับใจก็คือชาวเบอร์ลินช่วยกับทุบทำลายพังกำแพงเบอร์ลินที่แบ่งแยกคนชาติเดียวกัน จนเกิดการรวมชาติเป็นเยอรมันในปัจจุบันนี้ในที่สุด (ผมจำปีที่รวมกันไม่ได้แต่น่าจะเป็นช่วงก่อนหรือหลังโซเวียตล่ม) ทำให้ไม่แปลกที่เยอรมันจะมี มิก29ของรัสเซียอยู่ด้วย

อ้อลืมเล่าตอนสงครามเวียดนาม เยอรมันตะวันออกส่งอาวุธมาช่วยเหลือเวียดนามเหนือส่วนใหญ่เป็นพวกปืนเล็ก กระสุน เสบียง เครื่องสนาม แต่ที่สำคัญคือการช่วยด้านเศรษฐกิจที่กลุ่มวอร์ซอร์ขนหน้าแข้งร่วงกันไปไม่ใช่น้อย ผิดกับเยอรมันตะวันตกที่ไม่ได้ช่วยอะไรเวียดนามใต้เลยแม้แต่น้อย

สรุป

ประเทศที่ส่งทหารมาช่วยเหลือเวียดนามใต้มีดังนี้ครับ
สหรัฐฯ ออสเตรเลีย เกาหลีใต้ ไทย ฟิลิปปินส์(น้อยมาก)

สาเหตุที่เหล่านาโต้ยุโรปไม่ส่งทหารมาช่วย ส่วนใหญ่เป็นเพราะ"กลัว"หลายๆอย่างครับ เช่นว่า จะเป็นการขยายสงครามให้มันใหญ่โดเกินเหตุ อย่าลืมนะครับว่าสงครามเวียดนามเป็น"สงครามที่ไม่ได้ประกาศ" ลำพังแค่มีกลุ่มวอร์ซอร์กับโซเวียตมาจ่อคอหอยอยู่ในยุโรปนี่ก็ไม่เป็นอันจะไปช่วยใครแล้ว เพราะหากโดนบุกได้ตกทะเลแล้วต้องถอยที่ดันเคิร์กแบบสมัยWW2ชัวร์ป้าบ (แล้วก็จะเหลือแต่อังกฤษที่รอดทั้งกะปีเพราะเป็นเกาะ 55) เพราะไม่ได้ประกาศสงครามนี่ละครับ สหประชาชาติเลยไปยุ่งไม่ได้ ไม่เหมือนตนสงครามเกาหลีที่เกาหลีเหนือรุกรานแบบเห็นจะๆ แต่เวียดนามเหนือไม่ใช่ เค้าใช้เวียดกงในเวียดนามใต้นี่ละก่อการ การส่งทหารเวียดนามเหนือมาก็ทีละน้อยๆ มารุกใหญ่เอาจริงๆก็ตอนตรุษญวนปี1968นู้น (ฉลาดจริงๆ) ซึ่งกว่าUNจะหาข้ออ้างช่วยเวียดนามใต้ก็คงม้วยไปแล้ว

หรือจะให้เลวร้ายที่สุดก็คือ เมื่อนาโต้กับซีอาโต้ยกโขยงทหารมาเวียดนามใต้ โซเวียตกับวอร์ซอร์ก็ยกโขยงกันมาอยู่เวียดนามใต้บ้าง แล้วตีกัน ทีนี้ละยุ่งเลยครับกลายเป็นสงครามโลกครั้งที่สามแน่ๆ เพราะในยุโรปมันก็จะเอาด้วยแน่ๆ ทีนี้โลกแตกแน่ๆ แค่ตอนคิวบายังเสียวไส้กันซะขนาดนั้น

ที่ว่ามะกันมาล่าอาณานิคมนี่คนเวียดนามเค้าก็คิดอย่างนั้นจริงๆนะครับ (แต่ปากมะกันบอกว่าไม่จริ้งๆ ไอมารบกะเวียดกงต่างหาก ทั้งๆที่เวียดกงของมันก็คือชาวเวียดนามทุกคนที่ไม่เข้าข้างมัน) ถึงกับเรียกพวกมะกันว่า "พวกฝรั่งเศสใหม่"และเรียกสงครามเวียดนามว่า "สงครามอเมริกัน" ส่วนพวกอังกฤษกับฝรั่งเศสนี่ก็อย่างที่บอกไปแล้วครับว่ากำลังสู้คอมฯในอาณานิคมตนเองเลย"ไม่ว่าง"มาช่วย

เอาคร่าวๆ(ตรงไหน)ประมาณนี้คงพอนะครับ

โดยคุณ tan02 เมื่อวันที่ 20/07/2009 04:36:59


ความคิดเห็นที่ 19


ผมว่าไทยไม่ให้พวกมะกันใช้เป็นฐานทัพหรอก.....เพราะไทยเป็นกลางมาตลอด..

โดยคุณ : tao_kub   

จ้าก!! ได้ยินท่าน tao_kub  พูดแล้วก็พึ่งนึกได้มากระทู้นี้ได้"กลายพันธุ์"หรือออกทะเลไปตั้งแต่เมื่อไหร่แล้วไม่รู้ (จากการวางตัวของไทยกับพม่ากลายเป็นการวางตัวของไทยกับจีนสมัยนู้นไปซะได้)

ที่ท่านtao_kub  ว่านี่ไม่รู้พูดจริงๆหรือครับ(ฮา) ไอ้ที่ว่าเป็นกลางนี่มันคงเป็นไม่ได้ ก็ตอนต่อต้านคอมมิวนิสต์ช่วงสงครามเวียดนาม(อีกละ) นี่ละครับ เราให้มะกันมาสร้างฐานทัพกับสนามบินถล่มประเทศเพื่อนบ้านอย่างหน้าตาเฉยเลยนะครับ

แต่สถานการณ์ในตอนนี้เปลี่ยนไปเยอะครับ มะกันจะมาขอฐานทัพโจมตีพม่านี่คงไม่ใช่เรื่องที่ทำได้ง่ายๆ เพราะมันไม่มีข้ออ้างอะไรที่สมเหตุสมผล อย่างตอนรบกับคอมฯแล้วนะครับ

เพราะตอนนี้เราจับมือกันเป็นกลุ่มอาเซียนแล้ว ไม่เหมือนสมัยก่อนที่ยังไม่ได้สร้างเพราะมัวแต่โดนมหาอำนาจยึดครองเลยได้แต่แยกๆกันอยู่ การที่ไทยจะยอมให้มะกันมาตั้งฐานถล่มพม่าที่ถือเป็นประเทศเพื่อนบ้าน นี่มันคงดูไม่งามหน้านัก

ส่วนเรื่องพม่าสร้างอุโมงค์มหัศจรรย์อะไรนี่ ก็ต้องจับตาดูไว้ให้ดีครับ ขออย่าให้มันขุดมุดเข้ามาในดินแดนไทยก็พอ(ฮา) แล้วพม่าก้คงไม่ว่างจะมาบุกไทยครับ เพราะแค่ชนกลุ่มน้อยก็ทำเขาเปลืองงบประมาณไปเยอะแล้ว นี่ไม่ใช่สมัยกรุงศรีตะก่อนนะครับ ที่อาณาจักรหงสาวดีเรืองอำนาจอย่างแรง

พูดถึงการวางตัวของเราในตอนนี้ก็ต้องตอบว่าให้เป็นกลางครับ (ฮ่าๆๆๆ) เพราะเราก็เป็นเสมอมา(มั้ง)หลังจากยุคสงครามเย็น แต่ถ้ามะกันมันจะบุกจริงๆนี่คงต้องดูตาม้าตาเรือหน่อยนะครับ ไหนจะจีนอีกที่เป็นมิตร รวมทั้งเกาหลีเหนืออีก(หามิตรได้ยอดจริงๆพม่าเรา) คงต้องรอพม่าสร้างนิวเคลียร์ได้แล้วเราค่อยว่ากันครับ (ขนาดเกาหลีเหนือมีนิวเคลียร์มะกันยังไม่กล้าเลยครับ55)หรืออาจะเพราะประเทศที่มะกันได้แต่ฮึ่มๆแล้วไม่กล้าบุกนี่ก็เพราะเค้ามีนิวเคลียร์หว่า เช่นอิหร่าน เกาหลีเหนือนั้นไง

วิเคราะห์อีกก็คือ สมุมตินะครับสมมุติ สหรัฐฯประกาศป่าวๆว่าจะทำการโค่นรัฐบาลเผด็จการพม่า เพื่อสร้างประชาธิปไตยในพม่า (อ้างๆแบบตอนบุกอิรักกับอัฟกานิสถาน) ไทยเราจะวางตัวยังไง? จะอยู่กลางเหรอ? หรือให้มะกันมันมาสร้างฐานแบบตอนเวียดนามอีก แล้วจีนละจะว่าไง? แล้วอาเซียนละจะว่าไง? แล้วสหประชาติละจะว่าไง?

ที่น่าจับตาก็คือชนกลุ่มน้อยครับ ว่าหากมะกันมาเค้าจะอยู่ข้างไหน (ผมว่าอยู่ข้างมะกันชัวร์) เพราะมะกันถนัดมากครับเรื่องบุกบ้านเมืองชาวบ้านแล้วหาพวกให้ตีกันเอง ล่าสุดก็ที่อัฟกานิสถานที่มะกันสนับสนุนพันธมิตรฝ่ายเหนือถล่มตาลีบัน ที่อิรักที่มะกันสนับสนุนชาวเคิร์ดตีกองทัพอิรัก โดยการส่งหน่วยรบพิเศษมาช่วย แต่พม่าตอนนี้เค้าก็เตรียมตัวรับศึกกับมะกันยกใหญ่ เช่นย้ายเมืองหลวงจขากกรุงย่างกุ้งไปอยู่ที่กรุงเนปิดอร์นู้น หรือที่เป็นข่าวก็คือขุดอุโมงค์เตรียมรับมือการโจมตีทางอากาศของมะกัน

แต่ผมว่าไม่ให้สงครามเกิดดีที่สุดละ เพราะตามที่ว่าไปแล้วพี่ไทยเราจะวางตัวลำบาก 555 ยิ่งตอนที่มีหวัด2009 กับเศรษฐกิจโลกเจ๋งบ๊งแบบนี้ เราก็สบายใจได้ไปเปลาะหนึ่งว่า มะกันคงไม่ซ่าส์พอจะหาเรื่องกับใครไปอีกนานครับ 555

โดยคุณ tan02 เมื่อวันที่ 20/07/2009 04:57:31


ความคิดเห็นที่ 20


....ในอนาคต ในความเห็นของผม อเมริกาและยุโรปไม่กล้าใช้กำลังกับพม่าแบบเต็มรูปแบบดอกคับ เพราะ....

....1. พม่าเป็นประเทศปิด ไม่เคยมีชื่อเป็นส่วนร่วมกับประเทศใด ๆ สหรัฐยัดข้อหาประเทศก่อการร้าย หรือสนับสนุนการก่อการร้ายไม่ได้คับ...

....2. ถึงแม้ว่าพม่าจะเป็นประเทศที่ริดรอนสิทธิมนุษยชนก้อเป็นเรื่องภายในประเทศพม่าเอง พม่าไม่มีรูปลักษณ์ของการค้ามนุษย์เหมือนบางประเทศที่มีเสรีประชาธิปไตยคับ....

....3. ประเทศที่โดนสหรัฐและพรรคพวกบุกนั้น สืบประวัติย้อนหลังดูดิคับ ทั้งซัดดัม ทั้ง บิน ลาเดน ล้วนแต่เคยเป็น "หน้าฉาก" ให้กับสหรัฐ เพื่อรักษาอิทธิพลของสหรัฐในตะวันออกกลางมาก่อนทั้งนั้น ซัดดัม สหรัฐปั้นให้ทำสงครามกับอิหร่าน เพื่อยึดสถานทูตสหรัฐกลับคืนพร้อมตัวประกัน บิน ลาเดน สหรัฐปั้นให้คอยขัดขวางอิทธิพลของรัฐบาลซาอุดิอาระเบีย จนกลายเป็นประชาชนซาอุดี้ ที่รัฐบาลซาอุดี้ไม่ต้องการ.....

....ประเทศที่ทำตัวอยู่ในโอวาทสหรัฐและพลพรรคแบ่บเด็กดีนั่นแหล่ะคับ ที่อยู่ในข่ายจะถูกสหรัฐบุกมากกว่าพม่า.... 

โดยคุณ X-1 เมื่อวันที่ 25/07/2009 01:26:43


ความคิดเห็นที่ 21


....เรายังมองพม่ามุมเดียวกับฝรั่งคับ การแก้ไขปัญหาของพม่าจึงยังไม่คืบหน้าเท่าที่ควร เราจึงตัดสินกันเองว่า พม่าไม่มีทางเป็นประชาธิปไตย และไม่สามารถก้าวขึ้นสู่เวทีโลกได้....

....ถ้าเรารู้จักพม่าสักนิด เราจะรู้ว่า ทำไมพม่าจึงต้องเป็นพม่าอย่างที่เป็นอยู่เวลานี้....

....พม่า เป็นประเทศหนึ่งที่เคยถูกยึดครองเป็นอาณานิคมจากอังกฤษ เช่นเดียวกับลาว เขมร และเวียดนาม จึงไม่แปลก ที่พม่าจะทั้งเกลียดทั้งกลัวฝรั่งชนิดไม่มองหน้ามาจนทุกวันนี้ อาการนี้ไม่ได้เป็นแต่พม่าคับ ทุกประเทศที่เคยเป็นเมืองขึ้นของฝรั่ง มีอาการนี้ทุกประเทศ จะมาก หรือน้อยก้อแล้วแต่พื้นฐานของความรักชาติน่ะคับ....

....นายพลอองซาน เป็นผู้นำพม่าลุกขึ้นสู้เรียกร้องเอกราชคืนจากอังกฤษเป็นผลสำเร็จ (แต่อังกฤษก้อวางระเบิดเอาไว้จนพม่าวุ่นวายกับชนกลุ่มน้อยรวมชาติไม่ติดมาจนทุกวันนี้ เหมือนฝรั่งเศสวางระเบิดเขาพระวิหารให้เราฟัดกับเขมรไม่เลิกนี่แหล่ะคับ) กองทัพและประชาชนชาวพม่า จึงเคารพนับถือนายพลอองซาน เหมือนเวียดนามที่เคารพโฮจิมินท์อย่างไรก้ออย่างนั้น นี่คือเหตุและผลที่รัฐบาลเผด็จการพม่า ไม่ฆ่านางซู เพียงแต่ปิดกั้นนางซูไม่ให้ขึ้นมีอำนาจได้....

....นางซูนี่เป็นใคร ฝรั่งเรียกนางซูว่า "อองซานซูจี" อองซานคือชื่อพ่อ คือนายพลอองซาน ซูจี มาจากภาษาพม่าว่า "ซูคะยี" แปลว่า "ลูกสาว" อองซานซูคะยี ก้อคือ "ลูกสาวนายพลอองซาน" ไม่ใช่ชื่อจริงคับ....

...ชื่อจริงของอองซานซูจี ชื่อ "ซู" นามสกุล "ดอว์" ตามนามสกุลของแม่ ที่ชื่อนาง "ดอว์ ขิ่นจี" ชื่อและนามสกุลจริงของอองซานซูจี คือ ดอว์ ซู คับ....

....ทำไมรัฐบาลพม่า จึงไม่ยอมให้ดอว์ ซู ขึ้นเถลิงอำนาจทั้งที่ได้รับการเลือกตั้ง ก้อเพราะ...

....1 นางดอว์ ซู เป็นหัวนอก เรียนเมืองนอกอยู่กับฝรั่งตั้งแต่เด็ก จนลืมสัญชาติพม่าไปแล้ว แถมยังได้ผัวฝรั่งเข้าไปอีก รัฐบาลทหารพม่าจึงเห็นว่า นางดอว์ ซู คือประตูบานใหญ่ ที่เปิดให้ฝรั่งตบเท้าเฮโลเข้ายึดและกอบโกยพม่าได้ทั้งประเทศ....

....2 รัฐบาลทหารพม่า ถึงจะเป็นรัฐบาลเผด็จการ แต่ในเรื่องความรักชาติ รักศาสนานั้น ขอโทษเถอะคับ รัฐบาลประเทศเสรีประชาธิปไตยที่อยู่ใกล้ ๆ กะพม่าน่ะ ไม่ได้ติดอณูร่วง ๆ จากส้นคอมแบตของเขาดอกคับในเรื่องของความรักชาติน่ะ....

....3 พม่ายังเป็นดินแดนที่อุดมสมบูรณ์ไปด้วยทรัพยากร ที่รัฐบาลพม่าต้องการให้เป็นประโยชน์กับชาติพม่ามากที่สุด ในขณะที่ฝรั่งมังค่า มีความต้องการบีบพม่าให้เปิดเสรีโดยเร็ว เพื่อที่ตนเองจะได้พาพวกเข้าไปกอบโกยเอา เหมือนกับที่เคยทำกับบางประเทศที่อยู่ติดกันจนเหลือแค่ที่ดินเปล่า ๆ มาจนทุกวันนี้....

....ดังนั้น การแก้ไขปัญหาพม่าที่ถูกทางและถูกต้อง ก้อคือ ต้องปล่อยให้พม่าพัฒนาตัวเองเหมือนเวียดนาม โดยปราศจากการชี้นำหรือแทรกแซงจากประเทศอื่น และที่แน่ ๆ ต้องปราศจากการกดดันของเผ่าพันธุ์หัวสีตาน้ำข้าวทั้งหลาย ไม่ว่าจะชื่อ UN หรือ EU ก้อตาม.....

....พม่าพร้อมที่จะก้าวสู่เวทีโลก แต่ต้องด้วยตัวของพม่าเองคับ ฝรั่งยิ่งกดดัน ก้อยิ่งไม่มีวันที่จะทำให้พม่าเปิดประตูต้อนรับโลกได้ และนั่นก้อหมายถึงว่า พม่าก้อจะยังอึมครึมสร้างความอึดอัดให้กับประเทศที่อยู่ติดกัน ทั้งที่พม่าไม่มีทั้งนโยบาย และไม่มีแม้กระทั่งความคิดที่จะรุกรานใครเหมือนกับไทย....

....ฝรั่งที่คิดจะใช้กำลังกับพม่านั้น ต้องใช้เวลาคิดนานกว่าบุกเวียดนามแหล่ะคับ เพราะว่าพม่าก้อไม่ได้โดดเดี่ยวเป็นโฮม อะโลนซะเมื่อไร...

....อย่างน้อย จีนก้อยังปกป้องพม่าเต็มที่ และจะทำให้อาเซียนต้องวางเฉย ไม่สามารถให้การสนับสนุนสหรัฐและพรรคพวกบุกพม่าได้เต็มที่ เพราะพม่านั้นเป็นสมาชิกอาเซียนด้วย....

....ที่สำคัญ พม่าเชี่ยวชาญในเรื่องข่าวกรองที่แม่นยำ และชำนาญเรื่องต่างประเทศโดยเฉพาะกับคู่เจรจาที่เป็นฝรั่งเอามาก ๆ....

....เคยเจ็บกับฝรั่ง นายอูถั่นคนพม่า เคยเป็นเลขาธิการ UN มาก่อน พม่าไม่แพะเหมือนอิรักดอกคับ สบายใจได้....

โดยคุณ X-1 เมื่อวันที่ 25/07/2009 02:03:19


ความคิดเห็นที่ 22


....การวางตัวของไทยนั้น เราวางตัวดีอยู่แล้วคับ คบมันทั้งสองฝ่าย ใครตายที่เหลืออยู่ก้อคือเพื่อน ถึงแม้จะคบกันแบบแยก ๆ ก้อดีกว่ามานั่งรบกัน....

....สมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 ญี่ปุ่นเปิดฉากสงครามมหาเอเชียบูรพาขึ้นมาอีกแนวรบหนึ่ง รัฐบาลจอมพล ป.เซ็นสัญญาเป็นพันธมิตรกับญี่ปุ่น แต่นายปรีดี พนมยงค์ก้อตั้งรัฐบาลพลัดถิ่น จับมือกับอังกฤษ-อินเดีย-สหรัฐตั้งขบวนการกู้ชาติเสรีไทยขึ้น ผลคือ ฝรั่งเศสนั่งเจ็บใจ เพราะยุอังกฤษจับไทยแพ้สงคราม แต่สหรัฐโดดขวางเต็มลำ...

....สมัยสงครามเวียดนาม ไทยส่งกำลังในนามอาสาสมัครกองกำลังรักษาสันติภาพร่วมกับ UN ไปลุยเวียดนามกะเค้าด้วย แต่ในขณะเดียวกันก้อแอบลืมใส่กลอนประตูหลังบ้าน ให้โฮจิมินท์แอบมาทำเซฟเฮาส์บัญชาการรบอยู่แถว ๆ ชายแดน จ.นครพนม จนโฮจิมินท์ต้องสั่งนโยบายพิเศษกับกองทัพเวียดมินท์ ห้ามรบ ห้ามต่อสู้ ห้ามทำร้ายทหารไทยเป็นอันขาด และก้อเลยกลายเป็นเกราะสำคัญที่ทำให้เวียดนามไม่บุกไทยก่อสงครามเอาคืนแบบที่บุกเขมร.....

....ดังนั้น ก้อสบายใจได้คับ เราไม่ต้องรบกับทั้งพม่า และฝรั่ง พวกกันทั้งน้าน.... 

โดยคุณ X-1 เมื่อวันที่ 25/07/2009 02:18:05


ความคิดเห็นที่ 23


ที่ช่วยเล่ามาขอขอบคณ แต่ขอติงว่าเรื่องไม่ลำดับตามก่อนหลังของเหตุการณ์ และยังพยายามปะติปะต่อ เลยกลายเป็นเรื่องใหม่
กลายเป็น อเมริกันถอนทหาร ไทยกลัวญวนลาวเขมร ที่มาจ่อพรมแดน เลยต้องวิ่งไปพึ่งจีนเปิดความสัมพันธ์ทางการทูต
ประเทศไทยไม่ได้อับจนขนาดนั้นครับ และก็ไม่ได้มีภัยคุกคามขนาดที่เข้าใจนั้นด้วย
ขอเรียงเหตุการณ์ตามปีที่เกิด
๑ ไทยเปิดความสัมพันธ์ทางการทูตกับ สปจ. แทนที่ความสัมพันธ์กับจีน(คณะขาติ) 1973
-ไทยเปิดความสัมพันธ์กับสปจ. ใกล้ๆกับสหรัฐ และประเทศส่วนใหญ่
-ตอนเปิดความสัมพันธ์ เรายังมองเรื่องทัพเวียตนามมาประชิดพรมแดนไม่ออก วิศันทัศน์ไม่ไกลพอ (เราคือคนไทย)
แต่การที่อเมริกันจะถอนทหารและเวียตนามจะรวมประเทศคอมมิวนิสต์เป็นสิ่งที่ตอนนั้นทุกคนพอคาดการณ์ได้แล้ว
๒ สหรัฐถอนทหารจากเวียตนาม และฐานทัพในไทย 1973-1974
๓ ไซ่ง่อนแตก การหวั่นวิตกเรื่องปฏิกริยาโดมิโน กลัวไทยจะล้มตาม the fall of Saigon/ Domino effect 1975
-ปี1975ทั้งฝรั่งและไทยจำนวนมากวิตกตอนเวียตนามเหนือและเวียตกวรุกใหญ่จนตีไซ่งอนแตก คนไทยบางครอบครัวหนีไปตั้งหลักที่อเมริกา
แต่คนที่อ่านเกมส์ออก บอกว่า ถ้าเวียตนาม ลาว เขมรชนะแล้วยกมาตีไทยเลย เราไม่ต้องกลัวเหมือนวิ่งแข่งแปดร้อยเมตรกับคนที่พึงวิ่งมาราทอนเสร็จมา ทุกชาติจะต้องฟื้นฟูประเทศหลังสงครามอันยาวนาน
๔ กองทัพเวียตนามรุกรานเขมรประชิดพรมแดนไทย (Vietnam invade Cambodia 1978)คนไทยตอนนั้นไม่ได้ติ่นกลัวแบบปี1975ทั้งๆที่มีกองทัพต่างชาติมาประชิดพรมแดนจริงๆ
๕ สงครามสั่งสอน (Sino-Vietnamease War 1979)
ขอเล่าที่ไปที่มา ช่วงสงครามเวียตนาม สปจ.ได้สงกำลังเข้าไปร่วมกว่าสามแสนคน
โดยช่วงที่มีทหารปลดปล่อยประชาชนร่วมรบใน เวียตนาม ลาว มากที่สุดเป็นปี 1967 ที่มีกำลังประมาณแสนเจ็ดหลังการรวมประเทศเวียตนามได้ดำเนินนโยบาย เชื้อชาติเหมือนเป็นนโยบายสังคมนิยมบนเชื้อชาติเผ่าพันธ์ เหมือนNAZI ปฎิเสธแนวทางInternational คอมมิวนิสต์สากล กลายเป็นสังคมนิยมแบบโซเวียต(ลัทธิแก้) ที่ทำตัวเป็นจักรวรรดิ์นิยม
มีกลุ่มผู้อพยพทางเรือ Boat People หนีการปกครองของเวียตนาม ซึ่งต่อมาปรากฎว่าผู้อพยพกลุ่มแรกๆ ส่วนใหญ่เป็นชาวเวียตนามเชื้อสายจีนหรืออินเดีย หลายคนเป็นสมาชิกพรรคคอมมิวนิสต์เวียตนาม หรือเคยเป็นเวียตกงถูกจับใส่เรือทั้งครอบครัวปล่อยออกทะเล เป็นช่วงที่มีการล้างคนเชื้อสายจีนออกจากเวียตนาม เวียตนามได้เปิดความสัมพันธ์กับโซเวียตและได้รับการช่วยเหลือทางด้านการทหารอย่างมาก
ต่อมาเวียตนามได้ตอบโต้การกระทำทารุณของเขมรแดงต่อชาวเขมรเชื้อสายเวียตนาม (เขมรกรอม)จนรุกรานเขมรขับไล่กลุ่มเขมรแดงที่ไรับการสนับสนุนโดยจีน ทัพเวียตนามชุมนุมบริเวณชายแดนไทยเพื่อปราบที่มั่นสุดท้ายของเขมรแดง (พนมอะไรซักอย่างหนึ่ง) มีการติดต่อขอยกทัพเข้าไทยแล้วอ้อมผ่านออกไปตีที่มั่นเขมรแดงจากด้านหลัง แต่ไทยไม่ยอม วางกำลังยันเอาไว้
ใน 17 ก.พ.1979 กองทัพปลดปล่อยได้เปิดสงครามจำกัดบริเวณกับเวียตนามที่พรมแดนจีนเวียตนาม
รบกันเกือบเดือน กองทัพปลดปล่อยรุกเข้าในเวียตนามได้ 25 กิโลเมตร
ผมเห็นว่า สงครามครั้งนั้น
หนึ่ง เป็นการเตือนทัพเวียตนามให้ยุติการรบกับเขมรแดงที่จึนสนับสนุน
สอง เป็นการตอบโต้ต่อนโยบายเชื้อชาติเผ่าพันธ์ของเวียตนาม
สาม เป็นการแสดงเจตนาว่าพร้อมที่จะปกป้องชีวิตชาวจีน และธุรกิจของชาวจีนโพ้นทะเลในไทย
สี่ อาจเพราะไทย
สงครามครั้งนั้นสำหรับใครที่ติดตามสถานการณ์โดยตลอด จะเห็นขั้นตอนต่างๆและสามารถคาดการณ์ได้ว่าจะต้องมีการรบ และเป้าหมายของเวียตนามไม่ใช่การรุกรานไทย แต่ก็นอนใจไม่ได้

ขอแนะนำว่าข่าวลือต่างๆ ยุคไหนก็ตามฟังหูไว้หูอย่ารีบเชื่อ  เกือบทั้งหมดโกหก ถ้าไม่เพื่อเล่นสนุกก็มีเจตนาแอบแฝง
ในช่วงหลังเวียตนามแตกจนถึง เรแกนได้เป็นประธานาธิบดีสหรัฐในบ้านเรามีข่าวลือมากมายทหารจีนกับเวียตนามจับมือแบ่งไทยตามแนวแม่น้ำเจ้าพระยา หรือส่วนเหนือไปรวมกับจีน หรือที่ออกเป็นหนังสือ แนวโลกาวินาศรู้สึกว่าจะชื่อ 2520 ที่จับเอาเรื่องราวต่างๆ คำทำนายนอสตราดามุสมาผสมและแต่งเสริมเป็นสงครามล้างโลกที่เริ่มในไทย เหมือนมีคนไทยที่ชอบกุข่าว สร้างความตระหนกเล่น
รับรู้แล้ว ปล่อยวางแต่อย่าตั้งตนอยู่ในความประมาท ครับ

เรื่อง F-4 Phantom II อยากบอกว่าเป็นเรื่องที่แต่งขึ้นเพื่อด่าอเมริกาเล่นโดยอาศัยเรื่องการรักษาเทคโนโลยีทางทหารของสหรัฐเป็นฉาก
เคยถามทหารอากาศสมัยนั้น ไม่เห็นมีใครอยากใช้F-4เครื่องบินรบสองเครื่องยนตร์ กลัวเปลือง ขนาดF-5 Freedomfighter รุ่นแรกเรายังรับของฟรี ไม่ได้ซื้อ ที่เคยได้ยิน สหรัฐเคยเสนอ C-130 Hercules(ใช้งานแล้ว)ให้ไทย แต่ทอ.ไม่เอา จะขอรับแต่ C-123 Provider

รถกังพันคันถ้ามีจริงจะต้องกระจายอยู่พรมแดนจีน และไทยตลอดพรมแดน แต่ถ้ามารวมตัวขนาดนั้นจริง ต้องเป็นข่าวดัง ปิดไม่ได้หรอก

แซปเปอร์เวียตนาม ฝึกให้ผกค. ไม่เคยได้ยิน ก็ตอนที่บางคนไปฝึกต่างประเทศทำไมไม่ฝึกที่นั่น แต่พอจะจำได้ว่า หนังสือพิมพ์สมัยนั้นเคยลงข่าว ฐานบินอเมริกันในไทยอย่างน้อนสองที่ โดนแซปเปอร์เวียตนามแอบเข้ามาก่อวินาศกรรม

การเมืองควบคู่การทหาร เป็นนโยบายเกี่นวกับการปราบ พกค.ในไทย ไม่เกี่ยวกับการทูต

กลุ่มไม่ฝักใฝ่ฝ่ายใด เป็นองค์กรที่ตั้งโดยประธานาธิบดี ซูรการ์โน ของอินโดนิเซีย สมัยนั้นมีอีกสองกลุ่มประเทศ คอมมิวนิสต์กับ เสรี ไทยเป็นกลุ่มประเทศเสรี ครับ

ชนกลุ่มน้อยในพม่า ไม่เหมือนพวกพันธมิตรฝ่ายเหนือ ในอัฟกานิสถานหรือพวกเคริตในอิรัค ที่เป็นศัตรูกับกลุ่มเป้าหมายของสหรัฐ
แต่ชนกลุ่มน้อยในพม่าหลายกลุ่มร่วมรบกับสหรัฐ สมัยสงครามโลกครั้งที่สองและยังสืบสานความสัมพันธ์มาก่อนขอให้ลองอ่าน The Thai Race ของหมอดอดจ์


 

โดยคุณ Oldtimer เมื่อวันที่ 02/08/2009 09:19:35