ใช้กระสุนหัวยูเรเนียม ที่ใช้แรงเฉื่อยในการทะลุทะลวงก็ได้

Infantry fighting vehicle (IFV)

เป็นยานยนต์ที่ถูกออกแบบมาเพื่อการสนับสนุนการเข้าทำการรบของทหารราบ

เช่น M-2 , CV90 , BMP3 เป็นต้น

ขนาดของปืนที่ติดตั้งอยู่ระหว่าง 20 - 100 ม.ม. ซึ่งเพียงพอกับเข้ายิงบังเกอร์ ป้อมปืนกล รถลำเลียงพล แต่เนื่องจากสงครามสมัยใหม่ รถถัง ได้เข้ามามีบทบาทต่อการสนับสนุนการรบมากขึ้น จึงทำให้ IFV ต้องปรับปรุงตัวเองเพื่อให้สามารถทำลายรถถังได้ด้วย โดยการติด ATGM (Anti Tank Guide Missile) ไปกับตัวรถด้วย

การจะเอาปืนประจำรถของ IFV ไปดวลกับรถถัง เป็นเรื่องที่เวอร์ไปหน่อย รถถังต้องให้รถถัง ฮ. หรือเครื่องบินเค้างัด ถ้า IFV ติด ATGM ไปด้วย ก็ค่อยว่ากัน

โดยส่วนตัวผมชอบ CV9040 เคยคิดเล่นๆนะครับว่าถ้าเราปรับปรุงรถถัง M-41 ถอดป้อมปืนเก่าออก แล้วติดตั้งป้อมปืน 40 ม.ม. รุ่นเดียวกันกับ CV9040 น่าจะเอาไปช่วยทหารได้เยอะเลย

รถถัง M-84 ของยูโกสลาเวีย ยังโดนปืนใหญ่อากาศขนาด 30 mm. ของ A-10 สหรัฐ ยังเละเลย ตอนสงครามโคโซโว.

30 ที่ยิงจาก A 10 นั้น  อย่าลืมเรื่องหนึ่งครับคือ ความเร็วของกระสุน  เพราะต้องบวกความเร็วของเครื่องบินเข้าไปด้วย  และก็มุมยิง และจุดกระสุนกระทบเป้าครับ ยิงจากอากาศยาน อัดลงบนกระบาลรถถัง ซึ่งเป็นจุดที่เกราะบางกว่าด้านหน้าหรือด้านข้าง  ดังนั้น 30 ยิงจากภาคพื้น กับ จากอากาศยานมันต่างกันที่ตัวแปร ดัวกล่าวครับ

ส่วนตัวคิดว่า พวกปืนใหญ่อัตโนมัติขนาดไม่ใหญ่ ที่ติดใน IFV นั้น ถ้าหวังผลยิงทำลายรถถังหลักคงยากหน่อย เพราะต้องเลือกมุมยิงและจุดยิง และที่สำคัญ ระยะยิง   แต่ถ้ายิงรบกวน เพื่อเปิดช่องเปิดเวลาให้ทีมล่าทำลายรถถังเข้าที่วางตัวและยิงทำลาย หรือ ให้ IFV อีกตัว(ถ้ามี ATGM) ยิงทำลาย ก็อีกเรื่องหนึ่ง

แต่ถ้าปะเภทจะเอ๋กันซึ่งๆหน้า ประจันหน้าหันหน้าเข้าหากัน อยู่ในระยะยิงด้วยกันทั้งคู่แล้ว ถ้าผมเป็น IFV ผมจะเลือกเล็งยิงกระหน่ำไปที่ อุปกรณ์เซ็นเซอร์ที่ติดอยู่บนป้อมด้านหน้า ถ หลัก   อาศัยขีดความสามารถในด้านอำนาจการยิงในด้านยิงเร็ว อย่างน้อยๆก็รบกวนกระบวนการเล็งยิงของ ถ หลัก และถ้ายิงทำลายได้ ก็เป็นการลดขีดความสามารถของ ถ หลักลง   เพราะอุปกรณ์ช่วยเล็งยิงไม่มี  ถ หลัก ก็ยิงช้าและขาดความแม่นยำลง   หลังจากนั้นค่อยเปิดระยะออกมา แล้วค่อยหาหลู่ทางทำลาย ถ หลักต่อไป  ถ้ามีATGM ไปด้วยก็ง่ายขึ้น

40 ม.ม. กระสุนพลังงานจลล์ ตัวที่ทำลายรถถังได้ของ โบฟอส  นั้นมีขีดความสามารถเจาะทะลุเหล็กหนาได้น่ะครับ  แต่เกราะรถถังรุ่นใหม่เป็นเกราะผสม ไม่ใช่เกราะเหล้กเดิมเพียวๆ อาจจะทำให้อำนาจการเจาะลดลงไปได้เยอะ น่ะครับ  เช่นรถถังเกราะหนามีมุมลาดอย่าง เมอคาว่า เป็นต้น

ในส่วนนี้รถ เอพีซีไอเอฟวี รัสเซียนั้นรุ่นใหม่ได้ใช้ปืนผสมระหว่าง 100 ม.ม. กับ 30 ม.ม. หรือ 125 ม.ม. ในการต่อตีเป้าหมาย เช่น รถถัง น่ะครับ พวก บีเอ็มดี-4  หรือ สปัด-เอสดี

ส่วนจะยิงทำลาย ระบบช่วยเล็ง กล้องอะไรแบบเนี้ย ที่เราเห็นว่ามีเยอะเต็มป้อมก็ เลอแคร์ นั้นเอง หากมีเครื่องยิงลูกระเบิดอัตโนมัติ ก็คงจะทำความเสียหายได้ดีน่ะครับ แต่ต้องเร็วพอไม่งั้นโดนจับได้ พวกยิง 120 ม.ม. สวนมาชัวร์ๆ

ประสิทธิภาพในการทะลวงเกราะ

CTWS 40mm GPR-T

40mm CTWS APFSDS-T

...ขึ้นอยู่กับชนิดของกระสุนน่ะคับ กระสุนพื้นฐาน 25-40 มม.ธรรมดาเป็นกระสุนหัวบาง ยิงเอาระเบิดอย่างเดียว ถ้ากระสุนแบบนี้ก้อทำอันตรายรถถังไม่ได้ดอกคับ....

...ถ้าเป็นพวกเจาะเกราะพิเศษ ที่มีแกนหัวกระสุนทำด้วยโลหะแข็งอย่างทังสเตน รถถังกลัวกว่า ป.ขนาด 120 มม.จากรถถังด้วยกันแหล่ะคับ...

...มันซัดได้ทีละหลายสิบนัดแบบปืนกล เมื่อทะลุทะลวงเข้าไปในรถถัง มันก้อจะทำลายรถถังเหมือนกับกระสุนปืนใหญ่เจาะเกราะแบบสลัดครอบทิ้งเองนั่นแหล่ะคับ คืออาศัยแรงอัดอากาศที่วิ่งตามหัวกระสุนเข้าไปอัดจนพลประจำรถถังตายเรียบ พร้อม ๆ กับกระสุนดินดำในรถโดนแรงกดดันมหาศาล ระเบิดขึ้นในรถทั้งคัน....

...โดนกระสุนเจาะเกราะแบบนี้ โอกาสรอดน้อยกว่ากระสุนเจาะเกราะแบบระเบิดแรงสูงอีกนะ...จะบอกให้