ความจริง AU-23A ได้รับการวางแผนปลดประจำการมาตั้งแต่ปี ๒๕๓๙ แล้วครับ....แต่บังเอิญว่า ผบ.ทอ.ที่มารับช่วง ท่านเป็นอดีตนักบินพีชแมกเกอร์ ท่านยืนยันว่าเครื่องบินแบบนี้ดีตริงและทนทานคงสามารถใช้งานต่อไปได้อีก (เล่นเอาบรรดานายหน้าค้าเครื่องบินโกรธไปตามๆกันเพราะเค้าจ้องประมูลอยู่) กองทัพอากาศ เราจัดหาเครื่องบินรุ่นนี้มา ๒ ชุด คราวละ ๑๔ เครื่อง (คราวแรกได้ฟรี คราวที่สองซื้อ) โดยบรรจุประจำการที่ฝูงบิน ๒๐๒ เป็นครั้งแรก(มีปากฉลามทั้งหมด) จากนั้นเมื่อ O-1A ของฝูงบิน ๕๓๑ ปลดประจำการ จึงแบ่งครึ่งมาให้ ฝูงบิน ๕๓๑ ประจวบ (ลบปากฉลามออกเพื่อไม่ให้เหมือนฝูงลพบุรี) จากนั้นเมื่อ ทอ.มีแผนจะบรรจุ ฮ.พระที่นั่งแบบ SUPERPUMA ไว้ที่ฝูงบิน ๒๐๒ จึงโอน AU-23A ทั้งหมดไปรวม กลับมามีปากฉลามทั้งหมดเหมือนเดิม...

AU-23A เป็นเครื่องบินใช้งานทั่วไปขึ้นลงระยะสั้น ทอ.มีสองรุ่น ให้สังเกตุนะครับ....รุ่นหนึ่งมีประตูเลื่อนซ้านประตูเปิดแบบพับด้านขวา   อีกแบบมีประตูสลับกัน  โดยนอกจากจะมีประตูสลับกันแล้ว..รุ่นหนึ่งยังมีประตูแบบทิ้งของให้ท้องด้วย..โดยรุ่นนี้ได้รับการดัดแปลงให้ติดกล้องเฟอของอิสราเอล สองเครื่อง และกำลังจะได้ติดกล้องของอเมริกันเร็วๆนี้ครับ...ปัจจุบัน AU-23A สังกัดฝูงบิน ๕๐๑ กองบิน ๕

ส่วน NOMAD ความจริงไม่ได้มาแทน AU-23A นะครับ....มาแทน AC-47 จำนวน ๕ เครื่อง (ทหารอเมริกันลงแดงเมายาขโมยไปบินตกหนึ่งเครื่อง) ที่ฝูงบิน ๔๐๒ กองบิน ๔ ซึ่งทำหน้าที่โจมตี จึงมีการจัดหา NOMAD มา ๒๐ เครื่องทำหน้าที่ขนส่งและโจมตีแทน AC-47 ครับ....จากนั้นเมื่อมีการตั้งกองบิน ๔๖ พิษณุโลก ขึ้น จึงย้าย NOMAD ไปปฏิบัติหน้าที่ในฝูงบิน ๔๖๑ ซึ่งใกล้พื้นที่การรบจนถึงปัจจุบัน จนกระทั่งหมดความจำเป็นในการใช้ยิงปืน ประกอบกับยิงปืนแล้วเครื่องสั่นไปทั้งเครื่อง ตามแผนเดิม ทอ.ตั้งใจจะปลด NOMAD ในเดือนกันยายน ๒๕๕๒ นี่เองครับโดยเดิมเคยมีแผนจะจัดหา SUPERKINGAIR 350 มาทดแทน NOMAD เพื่อปฏิบัติหน้าที่ลำเลียง ธุรการ และฝนหลวง แต่ยกเลิกไม่มีงบ (เพราะโครงการจัดหา บ.ขับไล่และ บ.ลำเลียงขนาดกลาง ฮ.ลำเลียงกู้ภัยขนาดกลางมาก่อนครับ) คงไว้เฉพาะการปรับปรุง C-47 ให้เป็น BT-67 เท่านั้น

ฉายา"ปากหมา" ไม่ใช่เครื่องบินเสียงดังแล้วข้าศึกรู้ครับ....คงจะเข้าใจผิดกันแล้ว...

"ปากหมา" เป็นฉายาของเครื่องบินแบบ O-1 (โอวัน) ที่ทำหน้าที่ FAC ควบคุมอากาศยานหน้า....เมื่อเครื่องบินเครื่องนี้บินเข้าไปในพื้นที่ข้าศึก...จะไม่มีใครไปตกแยมันจนกว่ามันจะยิงพลุควันออกมา...เพราะฉนั้นมันจึงบินต่ำเหนือนเป้าหมายโดยไม่มีใครยุ่ง...เพื่อไม่ต้องการเปิดเผยตัว...เมื่อมันเห็นข้าศึก รถถัง หรือเป้าหมาย มันก็จะวิทยุบอก ปืนใหญ่ รถถัง เครื่องบินโจมตี ฝ่ายเดียวกันทำการทิ้งระเบิด โจมตี ยิงปืน ฯลฯ โดยเมื่อ O-1 ยิงจรวดควันใส่เป้าหมายที่มันจะทำลาย (ใกล้ที่สุด) มันก็จะรีบหนีขึ้นไปบนฟ้าเพื่อหนีวิถีกระสุน....ด้วยภารกิจนี้เขาจึงเรียกคนทำหน้าที่ FAC นี้ว่า "ปากหมา" คอยบอกคอยแจ้งครับ...

ส่วน AU-23 ที่เรียกปากหมา เพราะเข้าใจผิดกันไปครับ AU-23 ไม่ได้ทำหน้าที่ FAC แต่มีปากฉลาม เลยเหมาเป็นปากหมา แทน O-1 ที่เคยประจำการที่ฝูงบินนร้มาก่อนครับ

ขอบคุณท่านท้าวครับ