หน้าแรก    ตั้งกระทู้ใหม่   ตอบคำถาม    เข้าสู่ระบบ      


อุโมงค์พม่า

โดยคุณ : Ronin เมื่อวันที่ : 14/02/2011 18:10:49

เมื่อคืนนี้ดูข่าวช่อง 7 พม่าได้สร้างอุโมงค์ระหว่างเมือง ทั้งประเทศ เพื่อป้องกันการโจมตีจากอเมริกา ซึ่งอุโมงค์นี้ได้รับการถ่ายทอดเทคโลโนลีจากเกาหลีเหนือ

อุโมงค์นี้รถบรรทุกสามารถวิ่งสวนกันได้ด้วย ไม่ธรรมดาเลย

และที่สำคัญ มีอุโมงค์ตลอดชายแดนไทย 40 อุโมงค์

ฝากหน่วยข่าวกรองไทย ดูด้วยน่ะครับ ไม่ใช่อยู่ดีๆ รถถังพม่าโผล่เชียงใหม่ เฉยเลย

รอบบ้านเรานี้ ไม่หวังดีกับเราเท่าไร เพราะ.... มัวแต่เล่นกีฬาสีกัน โอละหนอประเทศไทย





ความคิดเห็นที่ 1


หรือครับ แสดงว่าพม่าระแวงอเมริกามากเลยนะเนี่ย แต่พี่คิดหรือครับว่าอุโมงเนี่ยมันจะกันการโจมตีของมะกันได้ แล้วยิ่งสร้างซะยิ่งใหญ่อะไรขนาดนั้นก็ไม่น่าจะเล็ดรอดการมองเห็นทางเข้าออกหรือการสับเปลี่ยนกำลังกันปากอุโมงจากดาวเที่ยมสอดแนมได้นะครับ ตอนนี้มันไม่เหมือนเมื่อ30 ปีก่อนแล้ว ตอนนี้มะกันมีระเบิดเจาะทะลุชั้นดินได้ มีหวังถ้าตรวจพบทิ้งระเบิดใส่ก็จบเห่แล้ว และที่ชายแดนไทยผมก็คิดว่าพม่าคงสร้างไว้รองรับถ้าอเมริกามาขอใช้ประเทศไทยเป็นฐาน และ 2 คงเอาไว้กันเราถ้าวันไหนวันหนึ่งเกิดทะเลาะกับเราเหมือนกับทะเลาะกับเขมรผมคิดว่าไม่น่าจะสร้างปัญหาให้มะกันมาก ถ้าคิดจะบุกจริงๆ

เออ......นึกถึงอุโมงพม่านึกก็นึกถึงอยุธยาจริงๆ เหอะๆๆๆ ไทยก็ควรระวังอุโมงนี้ให้ดีอิอิอิอิอิอิอิอิ

โดยคุณ champ thai army เมื่อวันที่ 26/06/2009 04:08:54


ความคิดเห็นที่ 2


ส่วนตัวคิดว่า พม่าคงจะทำอุโมงค์ ลูกผสมระหว่างเกาหลีเหนือและเวียดนามในช่วงยุคสงครามเวียดนาม  ที่หยุดอเมริกาและสร้างความเสียหายได้มากน่ะครับ เพราะอย่างน้อยพม่าเป็นภูมิประเทศป่าเขา และกว้างใหญ่ขนาดนั้นไม่ต่างจากป้อมปราการดีๆเลยล่ะครับ  ถึงจะมีการใช้ระเบิดพวกบังเกอร์ บัสเตอร์ มันก็ทำลายเฉพาะจุดเท่านั้น เช่น เส้นทางภายในเสียหาย แต่ก็มีเส้นทางอื่นถ้าทิ้งระเบิดใส่ไม่ถูกจุดสำคัญ แต่ก็อีกล่ะยิ่งเวลามีมากเท่าใด อุโมงค์อาจจะสลับซับซ้อนและลึกลงไปจนแม้แต่บังเกอร์ บัสเตอร์ก็หมดปัญญาน่ะครับ  รวมถึงการดัดแปลงจุดตั้งรับให้มีความแข็งแกร่งโดยอาศัยภูมิประเทศเข้าช่วย
โดยคุณ MIG31 เมื่อวันที่ 26/06/2009 06:41:38


ความคิดเห็นที่ 3


ข่าวหรือรายการครับ พอดีว่าผมเป็นผู้สื่อข่าวช่อง 7 ครับ ไม่เห็นรู้เรื่องเลย หรือเป็นรายการของมีเดีย แต่ถ้าเป็นข่าวเลยไม่มีนะครับ

โดยคุณ heart2319 เมื่อวันที่ 26/06/2009 22:17:59


ความคิดเห็นที่ 4


เป็นข่าวเลยครับ  ตอนนี้นายทหารที่เกี่ยวกับการสร้างอุโมงลับโดยควบคุมตัวหมดแล้ว  เพราะเขาต้องการรู้ว่าใครเอาภาพมาเปิดเผย  (มีภาพการกำลังทำเลยครับ)

ปล.ตอนนี้เมกาเขาใช้อาวุธแบบใหม่ในการจัดการข้าศึกที่อยู่ในถ้ำแล้วครับ
เป็นเครื่องปล่อยคลื่นความถี่ที่มีผลให้ผู้ได้รับคลื่นนี้ปวดหูอย่าหนัก  ซึ่งกำลังมีข้อโต้แย้งว่าอาวุธชนิดนี้อาจทำให้ผู้ที่ได้รับคลื่นเกิดการพิการทางหู
และอาวุธนี้ทำขึ้นเพื่อใช้กับข้าศึกที่ชอบหลบในถ้ำ   และไม่แน่ใจว่าได้นำไปใช้ในอาฟกาหรือยัง


โดยคุณ อีแอบ เมื่อวันที่ 27/06/2009 00:06:01


ความคิดเห็นที่ 5


ไทยควรจะวิจัยหาวิธีการทำลายอุโมงค์เตรียมเอาไว้ด้วยนะครับ เช่น ระเบิดที่มีคลื่นการสั่นสะเทือนสูง ไม่จำเป็นต้องเจาะทะลุทะลวง แต่ทำให้โครงสร้างพังได้ หรืออุปกรณ์การสแกนหาอุโมงค์ เมื่อรู้ทางขึ้นลงหรือปล่องระบายอากาศก็ทำลายทิ้ง คนที่อยู่ภายในก็จะไม่สามารถอยู่ได้
โดยคุณ accjung เมื่อวันที่ 27/06/2009 21:26:19


ความคิดเห็นที่ 6


อยากให้ประเทศไทยทำอุโมงค์ไปโผล่เกาหลี(ใต้)

ขอข้างบ้านป๋าเบยองจุนมั้ง อะ ไม่ต้องหมั่นไส้

คนมันรักอ่ะนะ ออกทะเล เอ้เอ๋ ...

โดยคุณ หนูนีล เมื่อวันที่ 28/06/2009 00:40:41


ความคิดเห็นที่ 7


เก็บตกจาก นพ.วัลลภ พรเรืองวงศ์ โรงพยาบาลห้างฉัตร ลำปาง

อาจารย์เบอร์ทิล ลินท์เนอร์ (Bertil Lintner) ผู้สื่อข่าวสวีเดนในกรุงเทพฯ รายงานว่า มีความเป็นไปได้ที่ทีมวิศวกรเกาหลีเหนือจะช่วยพม่าสร้างอุโมงค์ยักษ์ในเมืองเนปยีดอว์ ("เน-ปยี-ดอว์") แลกกับอาหารและทรัพยากรอื่นๆ แบบ barter trade = แลกเปลี่ยนสินค้าแบบ "ของ-ต่อ-ของ" (ไม่ใช้เงิน)

อาจารย์คิม กวาง จิน ซึ่งอพยพมาจากเกาหลีเหนือ และเป็นที่ปรึกษาคณะกรรมาธิการสิทธิมนุษยชนที่วอชิงตันกล่าวว่า เห็นด้วยกับอาจารย์ลินท์เนอร์

ทีมงานดังกล่าวเข้าไปในพม่าตั้งแต่ปี 2545-2546

อาจารย์ลินท์เนอร์ ผู้เขียนหนังสือเกี่ยวกับเกาหลีเหนือกล่าวว่า ทางการพม่า (State Peace and Development Council / SPDC) เริ่มสร้างอุโมงค์ใน
เนปยีดอว์ตั้งแต่ปี
2548... ปีเดียวกับที่รีบย้ายเมืองหลวงไปจากย่างกุ้ง

อุโมงค์อีกชุดหนึ่งสร้างใกล้ๆ กับเมืองตองจี (Taunggyi) เมืองหลวงรัฐฉาน (ไทยใหญ่) ซึ่งมีอากาศค่อนข้างเย็นสบาย สมัยก่อนทหารอังกฤษชอบหนีร้อนไปแถวๆ นั้น (เมืองเมเมี้ยว)... ทุกวันนี้มีบ้านลูกท่านหลานเธอมากมาย

รัฐบาลพม่าพยายามสร้างที่ทำการใต้ดินไว้หลายแห่ง เช่น โรงไฟฟ้าพลังน้ำ ฯลฯ ซึ่งมีความเป็นไปได้ว่า มีไว้เพื่อรักษาความปลอดภัยคณะผู้นำพม่าจากภยันตรายต่างๆ เช่น กรณีมีการโจมตีทางอากาศ การประท้วง ฯลฯ

ทีมวิศวกรเกาหลีเหนือมีความชำนาญในเรื่องอุโมงค์มากเป็นพิเศษ เนื่องจากอะไรๆ ที่นั่นมุดลงดินเป็นว่าเล่น

อ.ลินท์เนอร์กล่าวว่า เวลาบินผ่านเกาหลีเหนือ... จะพบควันไฟลอยมาจากกลางภูเขาที่โน่นบ้าง ที่นี่บ้าง ซึ่งไม่ต้องสงสัยเลยว่า ต้องมีการทำอะไรกันใต้ดิน

ส่วนพม่าจะมีโครงการอาวุธนิวเคลียร์แบบเกาหลีเหนือหรือไม่... ยังไม่แน่ใจ (ไม่ทราบ)

ความสัมพันธ์ระหว่างเกาหลีเหนือกับพม่ามีปัญหาในปี 2526 เนื่องจากสายลับเกาหลีเหนือถูกจับได้ว่า อยู่เบื้องหลังการวางระเบิดผู้แทนจากเกาหลีใต้

ทางการเกาหลีเหนือบินไปคุยกันลับๆ กับพม่าที่กรุงเทพฯ ในช่วง early 1990s = 1990-1995 = พ.ศ. 2533-2538 เพื่อขอตัวนักโทษกลับ

อ.ลินท์เนอร์กล่าวว่า มีความเป็นไปได้ที่ทั้งสองฝ่ายจะ "แสวงหาจุดร่วม" กันหลายอย่าง เช่น มีทรัพยากรมากแต่มีเงินตราต่างประเทศน้อย การถูกคุกคามจากโลกตะวันตกคล้ายๆ กัน ฯลฯ ทำให้ความสัมพันธ์ดีขึ้นเรื่อยๆ

...

 

ช่วง late 1990s = 1996-2000 = พ.ศ. 2539-2543 อาวุธชุดแรกจากเกาหลีเหนือก็ไปถึงพม่า เพื่อใช้ทำสงครามกับคนกลุ่มน้อย และคนกลุ่มใหญ่ที่ไม่เห็นด้วยกับรัฐบาล

พม่าได้อาวุธ ส่วนเกาหลีเหนือได้รับอาหาร ยางพารา และอะไรๆ อีกหลายอย่าง ทำให้ความสัมพันธ์ดีขึ้นเรื่อยๆ จนสถาปนาความสัมพันธ์ทางการฑูตกันใหม่ในปี 2550

...

เกาหลีเหนือมีความก้าวหน้าทางด้านเทคโนโลยี ส่วนพม่ามีข้าว แร่ธาตุ และอะไรๆ ที่เกาหลีต้องการ

1 ในสิ่งเหล่านั้นคือ ทองคำ ซึ่งพบมากทางเหนือของพม่า

...

 

"North Korea would be willing to supply Burma with goods that not even Russia or the Chinese would. And one of them would be tunneling technology and the other one could be, possibly, nuclear know-how," he said. [ RFA ]

แปลว่า "เกาหลีเหนือดูจะเต็มใจมอบอะไรที่แม้แต่รัสเซียหรือจีนทำไม่ได้ และ 1 ในสิ่งเหล่านั้นอาจจะเป็นเทคโนโลยีในการสร้างอุโมงค์ และบางที... อาจจะเป็นเทคโนโลยีนิวเคลียร์" [ RFA ] 

...

ถ้าเราลองมองพม่าในแง่ดีบ้าง... หากพม่าใช้เทคโนโลยีอุโมงค์ในทางสร้างสรรค์ เช่น ใช้ทำระบบขนส่งมวลชน ฯลฯ ซึ่งชาติในอาเซียนทำได้ดีจริงๆ เพียงไม่กี่ชาติ (สิงคโปร์และมาเลเซีย) พม่าจะก้าวไปไกล โดยเฉพาะการท่องเที่ยวจะดีขึ้นได้มากมายเลย

ที่มา http://gotoknow.org/blog/talk2u/270757 และ

http://health2u.exteen.com/20090622/entry-2

โดยคุณ pramoch เมื่อวันที่ 28/06/2009 23:35:20


ความคิดเห็นที่ 8


หากเป็นสงครามจริง จะต้องมีระบบไฟสำรองและการดูดออกซิเจน เข้าไปเลี้ยงภายในอุโมงค์

หากอุโมงค์มืดมองอะไรไม่เห็น อากาศหายใจน้อย แย่งกันหายใจ

หากเกิดการทำลายเบื้องต้น คงจะทำลายระบบสายส่ง(ไฟฟ้า,ท่อน้ำท่อก๊าซ และระบบเสาอากาศสื่อสาร)ก่อน

และถ้าเล่นกันแบบสกปรกจริงๆ ก็แบบพ่นยาให้หนูวิ่งออกมาตาย

จะมีไม่กี่คนที่จะมีเครื่องป้องกันสารเคมี หรือกัมมันตภาพรังสี

อุโมงค์มีประโยชน์จริง แต่ต้องนึกถึงการดูแลรักษาอุโมงค์ด้วย

หากผมใช้เครื่องดูดน้ำใส่อุโมงค์ สัก 1 เดือนเต็ม น้ำไหลไปทางไหน มันก็อยู่แถวนั้น และหากทำให้น้ำเสีย(เน่า)ไหลเข้าไป ก็จะเกิดภาวะโรคระบาดในอุโมงค์ หากปล่อยกระแสไฟไปกับน้ำที่ไหลไปตามอุโมงค์  เอาแค่นี้ก่อนครับ

โดยคุณ tik เมื่อวันที่ 01/07/2009 00:52:30