เลพเดพผารท หรือ อาจเป็น สกอร์เปี้ยนครับ..........................แหง่ะ เข้ามากวนโอ๊ยซะงั้น................................. แฮ่ๆๆๆ ไม่จ้าบอ่ะครัฟ ยอม แต่เดาว่าน่าจะเป็นเพลงคล้าสสิค .......................ไม่โมสาด ก็ บีโธเฟ่น โดยเฉพาะท่านหลังนี่เป็นไปได้สูง เพราะ เป็นคลาสสิคในยุคหลังสุด อินโทร ป้ามๆๆ ปาม...... ป้ามๆๆ ป่าม รึป่าว .......................
โอ้โห ไม่กว้างไปเหรอครับ ตอบไม่ได้จริงๆ คอเยอรมันเท่านั้นหรือเปล่าที่ตอบได้เนี๊ยะ แหมลองถามกลับว่าท่านจอมพล ป.ชอบเปิดเพลงไหนก่อนนอนคงยากพอกัน แหะๆล้อเล่นน่ะครับ
อืม...หรือว่าเป็นของเอลวิสที่ดังๆในยุคนั้นหว่า
ยากยิ่งกว่าปอกกล้วยเข้าปากเสียอีก ต้องกลับไปดูหนังเก่าก่อนนะครับ
แซวเล่นครับ..........เพลงเดียวกับในหนัง ชาลีแชปลิ้นหรือเปล่าครับ
แต่แชบปลิ้นมันสงครามครั้งที่หนึ่งเปล่าหนอ...........
ป้อมนาวาโรนก็ครั้งที่หนึ่ง.................เปล่าหนอ
ผมรู้ละ ต้องเป็นเพลงนี้แน่เลย..................
อินโทร เป็นเครื่องเป่า อ๊อคเครสสะต้า สไตล์คลาสสิค .......................โน้ตไทยไม่มีห้าเส้นใช้ผันวรรณยุค.....................มีว่า
พาม พาม พาม ผ่าม พั้ม พาม ผ่าม พั้ม พาม..........................
ซึ่งน่าจะเป็นเพลงเดียวกับที่ กองพลน้อย ม้าอากาศ ไอ้กัน มันเปิดบน ฮ. ก่อนทัชดาวกวาดล้างเวียดกง...................................
การเรียบเรียงเสียงประสานที่แสดงออกถึงความหนักแน่น (เน้นเครื่องเป่า) มีท่วงทำนองกระชั้น ซึ่งจะทำให้กระบวนรบมีความฮึกเหิม........................... เพลงนี้จะมีท่อนฮุคก่อนเข้าประทุนสอง เนื้อมีว่า.................... กะจังวาพ่อซำหนี่พ่อไหว่สากอน ลำบ่เป๋นมันสิเดือดฮ่อน ย่านน่องฮากทังออกม่า ขอแหม่กานดา ยาขอหมอหล่ำ 9ล9................
สรุปว่าเป็นเพลงคลาสสิค อ๊อกเคสสะตร้านะครับ...................................
ว่าไปแล้วพูดจาตามประสาดนตรี เพลงคลาสสิคนี่แสดงออกถึงอัจฉริยภาพของมนุษย์ในการประสานความถี่เสียง ให้เข้ากับสุนทรียสัมผัสมนุษย์ จริงๆ.................................. ถ้าจะเปรียบเทียบเ พลงป๊อบเป็นสูตรทฤษฏีวงจรไฟฟ้าเบื้องตน(ไอเท่ากับวีส่วนอาร์) แจ๊ซเป็นคณิตศาสตร์ชั้นสูงอินถิกั้ล คลาสสิคออกเคสสะตร้าก็น่าจะเป็นทฤษฎีสัมพันธภาพไปโน่น..................................
ไม่น่าเชื่อย้อนหลังไปหลายร้อยปีก่อน มนุษย์คิดประดิษฐ์เครื่องดนตรีที่มีหลายย่านความถี่ มีเครื่องดีด เครื่องสี เครื่องเป่า แล้วเอาเครื่องเหล่านั้นมาเล่นร่วมกันหลายสิบเป็นร้อยชิ้น ใช้ทางประสาน ต่างโน๊ตเสียง ต่างจังหวะเคาะ สอดรับเข้ากันกลมกลึง.........................
ผมชอบฟังเพลงคลาสสิคเหมือนกันแต่ต้องมีเวลาและว่างมากๆ................... แต่กับเพื่อนฝูงไม่ค่อยบอก กลัวหาว่าดัดจริต....................................... ผมฟังวงใหญ่ประเภทนี้ด้วยอารมตื่นตาเสพความตื่นเต้นมากกว่าสุนทรียภาพทางอารมณ์............................ เท่าที่ผ่านมายังไม่เคยซื้อแผ่นพวกนี้มาฟัง อาศัยฟังจากสถานีวิทยุ .............................. เริ่มจากการนำหมอนมาวางไว้กับพื้น นอนตัวตรงคว่ำหน้ากับพื้น จัดวางให้หมอนอยู่ระหว่ากระเดือกและอก เชิดคอคางวางตั้งกับพื้น..........................ตามด้วยลำโพงคุณภาพดีขนาดเล็ก ไม่เน้นเฮ้ดโฟน วางขนาบหูทั้งสองข้าง.........................จากนั้นจึงเริ่มเสพ...................หากคุณภาพสัญญาณจากสถานีวิทยุดี ไม่มีคลื่นรบกวน เครื่องรับและลำโพงมีคุณภาพเสียงเยี่ยม เมื่อดนตรีบรรเลง เสียงสเตอริโอสร้างมิติทางลึก ทำให้รู้สึกเหมือนเรากำลังไปนั่งทำกลางหมู่เสียง ซึ่งเป็นสเปซว่างขนาดใหญ่ มีเสียงพุ่งออกมาจากทุกทิศทาง มีการประสานสอดรับกันน่าตื่นเต้น ................... ในวงเครื่องสี เส้นสายของไวโอลินเป็นทางที่ถูกวางไว้เป็นนางเอก มีการร่วมสอด(สอดโน๊ต ไม่ใช่สอดใส่) เป็นทำนองดำเนินไป มีการประสานในกลุ่มของเขาเอง พร้อมกันนั้นก็มีเครื่องสายชิ้นอื่นๆ วิโอล่า เชนโล่ เดินประสานขนาบข้าง บางครั้งก็สลับกลุ่มกันเป็นนางเอก ท่อนแยกท่อนฮุค ทุกคนโหมเล่นดำเนินทางประสานกลุ่มของตัวเอง แต่ต่างกลุ่มบางครั้งแทบไม่เหลือโน้ตประสาน เหมือนฝูงผลาดแผลง ที่บินเกาะกลุ่มแล้วแยกกระจายออกจากกันแม้สายสมาธีจะเกาะติดไดแค่กลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง แต่หาวเสียงของกลุ่มอื่นๆก็ดังมาพอให้รับได้ ท้ายสุดพวกเขาก็มารวมกันอีกครั้ง ..............ตื่นตา ผมฟังออกเคสต้าด้วยความตื่นตา เหมือนนอนหงายดูท้องฟ้า มองเห็นดาวในค่ำฤดูหนาว ดาวเป็นแสนดวงกระพริบพร้อมกันบนฟ้า ทว่าแสงทุกเส้นไม่กัดกัน มันน่าตื่นตาตื่นใจเป็นที่สุด................................
ฟังออกเครสต้าใช้พลังมากสำหรับผม...............เหมือนต้องเปิดแบนไว้กว้างๆ เพื่อรับหลายความถี่ที่ผู้ประพันธ์เค้าพยายามนำเสนอ .................................. หลายครั้งที่นอนคว่ำหน้า แล้วเผลอไผลเวลาผ่านไปสองสามชั่วโมง เงยหน้าอีกที คางเยิ้มแฉะไปด้วยน้ำซอส(กลิ่นตุๆ) หน้าอกหน้าท้องหน้าขา ชุ่มโชกไปด้วยเหงื่อ........................
ที่ว่ามาเดี๋ยวเพื่อนหาว่ากระแดะ.................... ผมเป็นนักฟังเสียงของเพลง........................... ดนตรีชั้นต่ำ จำพวกตนตรีคนป่าหรือพวกแร้พ ขึ้นไปจนถึงทางประสานขั้นเทพ โสตผมเปิดทำงานเป็นภาครับ รับได้หมดจริงๆ...................