ากกรณีที่สื่อของกัมพูชา ได้มีการนำเสนอข่าวว่า ทางการกัมพูชา กล่าวหาว่า ทหารไทยประมาณ 20 คน รุกล้ำเข้าไปปักหลักพักค้างที่บริเวณเนิน 600 ซึ่งเป็นจุดสูงบนทิวเขาดงรัก อยู่ห่างจากปราสาทพระวิหารไปทางตะวันออกประมาณ 7 กิโลเมตร ทำให้ฝ่ายกัมพูชาต้องส่งกำลังราว 30 นายไปตรึงแนวเอาไว้ ที่บริเวณบ้านโอจักจะเรง (Chak Chreng) โดยตั้งอยู่เชิงเขาห่างจากเนิน 600 ลงไปราว 1 กิโลเมตร ทั้งนี้ทางฝ่ายทหารของไทยถือว่า พื้นที่ดังกล่าวเป็นพื้นที่สำคัญและเป็นพื้นที่สูง ซึ่งโดยปกติทหารไทยก็อยู่ประจำจุดนี้และรอบบริเวณนี้มาโดยตลอด เพื่อเฝ้าตรวจตราและลาดตระเวนตามแนวชายแดนไทย – กัมพูชา ซึ่งการที่ทหารไทยและกัมพูชาได้จัดกำลังเข้ามาอยู่ตรงนั้น ได้มีการพูดคุยเจรจากันแล้ว และมีการนำเอาแผนที่มาตรวจสอบว่า เขตของใคร อยู่ในพื้นที่ใด ซึ่งหากว่าไม่ชัดเจนก็จะได้มีการรายงานให้คณะกรรมการปักปันเขตแดนเข้ามาชี้จุดเพื่อแก้ปัญหาต่อไปนั้น



ความคืบหน้าเกี่ยวกับเรื่องนี้ เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 2 มิ.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะนี้ตามแนวชายแดนไทย – กัมพูชาด้าน จ.ศรีสะเกษ ตั้งแต่บริเวณทางด้านทิศตะวันตกของเขาพระวิหารไปตลอดแนว ปรากฏว่าได้มีทหารกัมพูชาจำนวนมากพร้อมด้วยอาวุธหนัก มาทำการตรึงกำลังตลอดแนว และได้มีการเสริมกำลังทหารเข้ามาอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะอย่างยิ่งรอบบริเวณเนิน 600 ที่อยู่ในเขตแดนของกัมพูชา มีทหารกัมพูชาหลายร้อยนายมาตรึงกำลังอย่างคึกคัก ทั้งนิ้เนื่องจากว่าต้องการกดดันให้ฝ่ายไทยถอนกำลังออกจากเนิน 600 แต่ว่าฝ่ายไทยยังคงยืนยันว่าเขตแดนบริเวณนี้เป็นเขตแดนของฝ่ายไทยและไม่มีถอนกำลังทหารออกจากบริเวณเนิน 600 แต่อย่างใด โดยทหารไทยยืนยันว่าหากทางฝ่ายกัมพูชาเปิดฉากยิงก่อน ทหารไทยทุกนายก็พร้อมที่จะตอบโต้เพื่อป้องกันตนเอง พร้อมทั้งมีการสับเปลี่ยนกำลังเพื่อความพร้อมที่จะตอบโต้หากมีการปะทะกันกับฝ่ายกัมพูชาและเพื่อเป็นการลดความตึงเครียดจากการที่ต้องตรึงกำลังฐานที่มั่นเดิมอีกด้วย



นายบุญมี บัวต้น นายก อบต.เสาธงชัย อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ กล่าวว่า จากการที่ตนได้สอบถามจากทหารไทยที่ตรึงกำลังอยู่รอบบริเวณเขาพระวิหารทราบว่า ขณะนี้ทหารไทยขาดแคลนกระสอบทรายที่จะนำเอาไปใช้ในการทำคูเรทและบังเกอร์ เนื่องจากว่ากระสอบทรายที่มีอยู่ใช้งานมานานร่วมปีแล้ว และโดนแดดโดนฝนทำให้กระสอบทรายเปื่อยยุ่ย ดังนั้น ทหารไทยหลายนายได้เสนอแนะว่า หากมียางรถยนต์เก่าจะสามารถนำเอามาใช้ทำเป็นคูเรทและบังเกอร์ได้เป็นอย่างดี เนื่องจากว่า การใช้ยางรถยนต์ มาทำเป็นบังเกอร์ไม่ต้องไปตัดไม้มาทำเป็นโครงสร้าง ซึ่งจะทำให้ไม่มีปัญหากับทางเจ้าหน้าที่ป่าไม้จากการที่ทหารไทยต้องไปตัดไม้ในเขตอุทยานแห่งชาติเขาพระวิหาร มาทำบังเกอร์ ส่วนที่มีการเกรงว่า หากนำเอายางรถยนต์มาทำเป็นบังเกอร์อาจจะเกิดไฟลุกไหม้ได้หากมีการปะทะกันนั้น เรื่องนี้จากการที่ตนได้สอบถามจากทหารไทยแล้วแจ้งว่า ไม่มีปัญหาแน่นอน เนื่องจากว่า หากนำเอาดินมาถมทับยางรถยนต์ที่ทำเป็นบังเกอร์ไว้แล้ว ก็จะไม่ทำให้เกิดไฟไหม้ขึ้นมาได้ อีกทั้งยางรถยนต์มีการเสริมใยเหล็กอยู่แล้ว สามารถนำเอามาใช้ได้นานและป้องกันกระสุนปืนจากฝ่ายตรงข้ามได้เป็นอย่างดีไม่ขาดยุ่ยง่ายเหมือนกับการใช้กระสอบทราย หากประชาชนชาว ศรีสะเกษและชาวไทยทั่วประเทศ ต้องการสนับสนุนทหารไทย เชิญติดต่อบริจาคยางรถยนต์เก่าและเครื่องอุปโภคบริโภคข้าวสารอาหารแห้งและอาหารกระป๋อง รวมทั้งน้ำดื่มได้ที่ หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 23 อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ โทร. 045 - 661443ได้ตลอดเวลา

__________________

 

ps. อย่างไปงัดยางรถยนต์คนข้างบ้านหรือคนรู้จักกันนะ