ไปค้นเจอในนิตยสารสมรภูมิฉบับที่ 686 เดือนเมษายน พ.ศ.๒๕๓๗ ครับ เห็นว่าน่าสนใจที่จะมากล่าวถึงในประเด็นถึงความน่าจะเป็นของรูปแบบ เรือ ตกก.ที่มีข้อมูลว่ากรมอู่ทหารเรือวางแผนที่จะต่อครับ
จากภาพรูปแบบเรือ ตกก.ของ Yarrow ที่ลงในสมรภูมินั้น ส่วนตัวคิดว่าตัวเรือมีรูปแบบการออกแบบตัวเรือคล้ายกับเรือตรวจการณ์ปราบเรือดำน้ำชุด ร.ล.คำรณสินธุ มากครับ แต่มีขนาดใกล้เคียงกับเรือคอร์เวตชุด ร.ล.รัตนโกสินทร์ (ไม่ทราบว่าเข้าใจถูกหรือไม่ครับว่า เคยจำได้เลาๆว่า เรือ ตกด.ชุด ร.ล.คำรณสินธุ นี้กรมอู่ทหารเรือและอู่อิตัลไทย มารีน ได้แบบเรือจากบริษัทอังกฤษคือYarrow หรือบริษัทของสหรัฐฯ ถ้าเป็นการออกแบบเองของไทยทั้งหมดก็ขออภัยครับ)
ซึ่งถ้ารวมกับการที่เรือแบบแผนนี้มีลาดจอด ฮ.ท้ายเรือ(อาจจะมีโรงเก็บด้วย) แล้วก็ดูจะเข้ากับข้อมูลแบบแผนของเรือ ตกก.ลำใหม่ของกรมอู่ทหารเรือที่จะต่อเองมากขึ้นครับ (ขยายขนาดเรือให้ใหญ่ขึ้น เพิ่มขนาดปืนใหญ่เรือหลักเป็น OTO 76/62mm, ปืนรอง DS-30M 30mm)
แต่ทั้งนี้ก็นำภาพและข้อมูลมาลงเป็นการเปรียบเทียบเท่านั้นครับ ไม่ได้กล่าวว่า เรือ ตกก.ที่จะออกแบบและต่อใหม่จะมีลักษณะเป็นเช่นในข้อมูลนี้ครับ เพราะตอนนี้ก็ยังไม่มีแบบแผนเรือจริงๆเผยแพร่ออกมาครับ
ยังเป็นความลับ ที่รอการเปิดเผย.......................ช่วงเวลานี้ ยอมรับว่าลุ้นระทึกเหลือเกินครับ............................ หลายท่าน รวมทั้งผม ต่างอยากทราบ กระสัน และไคร่จะรู้เหลือเกิน ว่า แผนแบบโอพีวีลำใหม่ของ ทร.จะออกมาแนวไหน............................ ง่ายๆคือว่า จะใช้แผนแบบของใครนั่นเอง..............
สำหรับเรือตรวจการณ์ปราบด.ชุดคำรณสินธ์ ของเราถ้าจำไม่ผิดในนิตยสารเก่าๆบอกว่า ใช้แผนแบบจาก บริษัท วอสเป้อร์ ครับ โดยย่อขนาดมาจากเรือฟรีเกตเบา และลดความยาวมาให้เหลือแค่ หกสิบกว่าเมตร ระวางขับเกือบห้าร้อยตัน ................... เดิมทีเดียว ฝรั่งมังค่า ให้เครดิตเป็นเรือคอเหวตเชียวครับ..........................
ถ้า ทร. ยังมีเยื่อไยแบบความสัมพันธ์ครั้งหลังกับ วอสเปอร์ และจะใช้แผนแบบของเค้า แบบเรือ โอพีวี ก็มีเยอะเหมือนกันครับ เด๋วจะลองเสิรชมาให้................
อันนี้ภาพเรือฟรีเกตเบาที่ถูกย่อมาเป็นเรือ ชุด คำรณสินธ์ ครับ..................
ภาพม่ะขึ้น ไปดูนี่ละกัน
http://media.photobucket.com/image/vosper%20OPV/RP1/Ships/Scans/vospers_98m_marriott.png
ส่วนอันนี้เป็นแบบเรือ โอพีวี ของเค้า...................... จะเห็นว่า มีลานจอดค้อปเตอร์ แต่ไม่มีที่เก็บ ระวางขับก้ไม่น่าต่ำกว่าพันตัน ตรงกะคคอนเซ็ปท์ ทัพเรือเด๊ะ................ปืนหน้าติดแบบยี่สิบมิล แต่ถ้าจะติดซุปเปอร์ ราปิด อาจจะต้องแปะดินน้ำมันถ่วงหลังสักหน่อย เดี๋ยวหน้าจะคะมำ.............................แหม่ แต่ดูรูปร่างหน้าตาเธอแล้ว เหมือนยัยหมวยผมหน้าม้าแว่นหนา ที่วันๆเอาแต่คร่ำเคร่งดูนังสือเนาะ..............ใครได้เป็นแฟน สงสัยต้องจับมาแต่งเติมสีสันต์ให้มีชิวิตชีวา เพราะดูแล้วชีวิตจริงของเธอคงจืดชืด สนิทจริงๆ.................................
ถ้าจำไม่ผิด เป็น 1 ในผู้แข่งขัน เสนอราคา เรือ ตกก. ชุดแรก (ปัตตานี)...แต่ค่าตัวสุดแสนแพง...เลยไม่ติดอันดับให้พิจารณา...
ถ้าผมจำไม่ผิด...ลำดับ ผู้ประมูลแบบได้...
โดยผู้ที่เข้าวิน รู้สึก อันดับ 1 เป็นแบบมาจาก อิตาลี่ อันดับ 2 เป็นแบบมาจาก เนเธอร์แลนด์...อันดับ 3 จำไม่ค่อยได้ ไม่แน่ใจว่าใช่ วอสเปอร์ รึเปล่า...อันดับ 4 แบบจากจีน...(ไม่ยืนยัน ไว้ขอกลับไปหาเอกสารมาอ่านอีกครั้งครับ)
และอันดับ 1 ก็ยังราคาแพงอยู่ จึงขอต่อรองราคา แต่ยังไง ๆ เขาก็ไม่ยอม...เลยยกเลิก การเสนอราคาในครั้งนั้น
และต่อมาเมื่อเปิดการประมูลใหม่ แบบจาก เนเธอร์แลนด์ เข้าวิน...โดยยอมลดราคาให้อยู่ในงบ...และทำการต่อในอู่ประเทศไทย ด้วย...แต่ด้วย จุด จุด จุด...บริษัทฯ อู่ในประเทศ ถูกโจมตีทางการเมืองว่า เคยทิ้งงาน และไม่มีประสบการณ์ต่อเรือฟริเกต...ก็ถูกยกเลิกไปอีก...สุดท้าย ก็มาจบที่ เรือจีน (ปัตตานี ในปัจจุบัน) ไปซะอย่างงั้น...โดยไม่มีการเปิดประมูลใหม่...
ผมเลยขอ คาดการณ์ ว่า แบบ ตกก. ที่กำลังจะต่อ...น่าจะดัดแปลงมาจาก แบบของ เนเธอร์แลนด์...ที่เคยชนะการประมูล เพราะรูปแบบเรือ น่าจะออกแบบมาสำหรับรองรับความสามารถการต่อเรือของไทย...
แบบเรือของ Vosper ในภาพนี้เป็นเรือตรวจการณ์ไกลฝั่งชั้น River ของกองทัพเรืออังกฤษครับมีความยาวตัวเรือ 79เมตร ระวางขับน้ำประมาณ 1,700ตัน กำลังพล28นาย เข้าประจำการในปี 2003 ซึ่งกองทัพเรืออังกฤษใช้ในภารกิจคุ้มครองเรือประมงเป็นหลักลักษณะเดียวกับเรือตรวจการณ์ปืนของไทยครับ
http://www.naval-technology.com/projects/river_class/
เคยได้ข้อมูลจากนายทหารเรือที่เคยเห็นแบบแปลนเรือ(น่าจะที่นี้ละครับ)ว่ารูปแบบเรือ ตกก.ชุดใหม่นี้จะคล้ายเรือของบริษัทเนเธอร์แลนด์ที่ลงโฆษณาในนิตยสารนาวิกาธิปัตย์สารครับ
ผมว่ากองทัพเรือไทยไปไกลเกินกว่าที่จะซื้อแบบแล้วครับ
ผมอยากเห็นเรือตรวจการไกลฝั่งที่ออกแบบและต่อเองโดยฝีมือของกองทัพเรือไทย
ถึงเวลาที่ต้องใช้คำว่า ประหยัดสุดๆ กันซะที
ตามที่ท่าน AAG_th1
ว่าน่ะแหล่ะครับ เห็นเพื่อนในนี้ยืนยันว่าหน้าตาออกแนวเรือของดัชท์ เผอิญเขานึกชื่อชั้นเรือไม่ออก แต่จากการบอกกล่าว ก็น่าจะเป็นเรือชั้น sigma class ยาว 80-83 เมตร ก็น่าจะมีระวางขับน้ำประมาณ 1300-1400 ตัน ใกล้เคียง sigma class รุ่นเล็กสุดน่ะครับ
ถ้าทร.ออกแบบเองได้สวยเจ๋งขนาดนี้ เพื่อนบ้านและชาติตะวันตกโต๊ะใจหมดเลยแน่ๆครับ สวยเช้งเชียวนา ใช้ระบบของ ธาเลสแทบทั้งหมดเลย อืมมมมมม.........อาจจะเป็นทางโน้นช่วยเหลือมาก็ได้นา เพราะว่าจะได้ให้เราซื้อระบบเรด้าร์ต่างๆจากประเทศเขา........เดากระจุย
ขั้นออกแบบเองนี่.....................รู้สึกว่าจะเป็นอีกระดับแล้วหล่ะครับ.......................อันนั้นขั้นอ๋องไปแล้ว............................ ออกแบบและวิจัยรถยนต์หนึ่งคันไม่ใช่เรื่องง่าย ............... แล้วถ้ายิ่งเป็นเรือลำใหญ่แถมต้องแล่นได้เร็ว ไม่โครงไม่เอียง โอ่........... มันยากกว่าต่อเรือหลายๆเท่าครับ...................................
ผมว่าเรากำลังจะก้าวเข้าสู่ขั้นที่สองครับ.................... ขั้นแรกคือออกแบบและต่อเรือเล็กๆ ร้อยสองร้อยตัน แล่นได้เร็วๆ อันนั้นชั้นแบเบาะ จากนั้นก็เริ่มต่อเรือใหญ่ๆความเร็วต่ำๆ...................... ขั้นสองนี่ เราต่อเรือใหญ่แล่นเร็วโดยอาศัยแบบเค้าก่อน เอาว่าบล่อยลงน้ำแล้วไม่เอียงกระเท่เร่ เร่งความเร็วได้ตามสเป็ค ไม่โครงไปโครงมา เท่านั้นก็สอบผ่าน............................. หลังจากนั้นค่อยตั้งทีมร่วมวิจัยกับบริษัทต่อเรือ ออกแบบสร้างเรือจ๊าบๆ เข้าไปตอนแรกไม่รู้เรื่องก็อาศัยศึกษากะเขาไป...............ซึ่งขั้นนี้ก็ต้องมีตังเยอะหน่อย...................หอบเงินถุงเงินถังไปเป็นพาร์ทเน่อร์เขา................... ตัวเปล่าๆหำบักหล่อน เดินกร็อกกร๋อยเข้าไปเค้าจะตะเพิ่ด ชิ้วๆ.................................
แต่ถ้าคิดจะวิจัยและสร้างด้วยตัวเอง โดยซื้อเทคโนโลยี่และโนฮาวเป็นเบื้องต้น อันนั้นต้องมีเงินหลายๆถัง ...................ซึ่งการที่จะทำอย่างงั้นได้ต้องออกไปทางแนวการค้า(คอมเมอร์เชี่ยน) อย่างเดียว ..........................ออกแบบทีนึงสำหรับต่อทีหลายๆลำ แถมถ้างานออกมาแหล่ม มีลูกค้าซื้อไปต่อ อันนี้ถอนทุนคืนได้........................ ลำพังลงทุนออกแบบสร้างอลังการแต่ต่อเข้าประจำการแค่สองสามลำ อันนั้นขาดทุนถึงขั้นตูดขาด....................... จึงต้องทำความเข้าใจสัจธรรม............... งานวิจัยลงทุนสูง....................เมื่อพูดถึงการลงทุน สิ่งที่ตามมาคือการแสวงหากำไร.............. ทุกอย่างเป็นไปดังนี้ จ้า............................
เพิ่มเติมข่าวความคืบหน้าของโครงการเรือ ตกก.ลำใหม่ของ อร.ครับ เป็นข้อมูลตรงจาก Website ของทหารเรือ
http://www.navy.mi.th/newwww/document/news/03062552_4/
สังเกตุในภาพจาก Link ครับว่านอกจากคณะกรรมการของทหารเรือแล้ว ในส่วนของบริษัทอู่กรุงเทพจะมีทั้งคนไทยและชาวต่างชาติตะวันตกร่วมการประชุมด้วย
ซึ่งถ้าจำไม่ผิดจากข้อมูลเอกสารการประมูลโครงการเรือ ตกก.ก่อนที่จะตัดสินใจต่อเรือชุด ร.ล.ปัตตานีนั้นทางบริษัท อู่กรุงเทพ ก็เคยเป็นตัวแทนของทั้งบริษัท Schelde Shipbuilding เนเธอร์แลนด์ และ บริษัท China Shipbuilding Trading จีนครับ
ตอนนี้ผมคิดว่า ทร.ไทย เดินก้าวช้า ๆ อย่างมั่นคงทีเดียวล่ะครับ ถึงจะตังค์ไม่ค่อยมี และได้งบประมาณน้อยกว่า ทบ. ก็ตาม
เรือ OPV ชุดใหม่ จะเป็นแผนแบบเรือของใครก็ได้ หรือจะใช้แบบเดิมเอามาปรับปรุงก็ได้ ค่อย ๆ ทำไป ยิ่งต่อเองด้วย เท่านี้ ผมคิดว่า ทร.ไทย ก็ก้าวไกลอย่างยั่งยืนแล้วล่ะครับ ผมเชื่อว่า ทร. ทำได้
ยังไงก็รัก ทร.ไทย ครับ
ปล. เอาเรืออย่างชุดปัตตานี ซึ่งออกแบบไว้แล้วมาปรับปรุงก็ดีนะครับ ประหยัดงบประมาณการออกแบบไปได้มากเลย ผมว่านะ
ประวัติข้อมูลการประมูล เรือ ตกก. ชั้น ปัตตานี
ประมูลครั้งที่ 1 บริษัทฯร่วมค้า โดยใช้แบบเรือของ Vosper Thornycroft ชนะ แต่แพง และไม่ยอมลดราคา เลยยกเลิก
ประมูลครั้งที่ 2 บริษัทฯร่วมค้า กับ China Shipbuilding ชนะ....แต่มีการเปลี่ยนแปลงเงื่อนไขจากข้อกำหนดเดิมหลายประการ เกินที่จะยอมรับได้ จึงยกเลิก
ประมูลครั้งที่ 3 บริษัท อู่กรุงเทพ จำกัด ชนะ โดยใช้แบบเรือของ บริษัท Schelde Scheepsnieuwbouw ของ เนเธอร์แลนด์ โดยอยู่ภายใต้คำปรึกษา และความช่วยเหลือ สนับสนุนจาก บริษัท Schelde.....หลังการตกลงเลือกจ้างแล้ว....ต่อมามีผู้ประมูลบางราย เสนอการสร้างเรือแบบรัฐบาล ต่อ รัฐบาล...เพราะจะได้ผลประโยชน์เข้าประเทศสูงกว่า (เหมือนมีบุญ แต่กรรมบัง) ร้องเรียนว่า บริษัท อู่กรุงเทพ ยังไม่มีขีดความสามารถต่อเรือให้เป็นผลสำเร็จ จึงถูกยกเลิกสัญญา...
ประมูลครั้งที่ 4 จึงตั้งคณะทำงานมาพิจารณา โดยพิจารณาตามความสัมพันธ์ระหว่างประเทศเป็นตัวเกณฑ์ อันดับ 1 และต้องเป็นแบบ รัฐบาล ต่อ รัฐบาล..จึงเหลือแค่ จีน กับ สเปน...เนื่องจาก จีน มีความสัมพันธ์เป็น อันดับ 1 จึงได้ อันดับ 1 ส่วน สเปน มีความสัมพันธ์ ลำดับ รองลงมา จึงได้ อันดับ 2....สุดท้าย ประเทศจีน จึงได้ไปในราคาที่สูงกว่า...จึงเป็นที่มา ของเรือชั้น ปัตตานี....(การเมืองล้วน ๆ)
ซึ่งในการประมูล ครั้งแรก แบบเรือที่ได้คะแนนสูงสุด เรียงลำดับ ดังนี้
อันดับ 1. แบบเรือของ Vosper Thornycroft คะแนนสูงสุด
อันดับ 2. แบบเรือของ Fincantieri จาก อิตาลี
อันดับ 3. แบบเรือของ Schelde (ในนาม กิจการร่วมค้า บจก.อู่กรุงเทพ กับ บริษัท Schelde Shipbuilding)
อันดับ 4. แบบเรือของ Appledore Shipbuilder
อันดับ 5. แบบเรือของ China Shipbuilding
อันดับ 6. แบบเรือของ บจก.มาร์ซัน และ German Frigate Consortium
ดูจากข่าวของท่าน AAG_th1...ความรู้สึกผมว่าการจัดสร้างเรือ ตกก. ลำใหม่ ของ ทร. นี้...จะกลับไปสู่แบบการประมูล ครั้งที่ 3 น่ะครับ...
เฮ้อ......
อ่านข้อมูลจากพี่จูลดาสแล้ว เหนื่อยใจและสงสาร ทร.จริง ๆ
ทำไมหนอการเมืองไทยต้องลาก ทร.ไทย ของผมเข้าไปเกี่ยวด้วย เป็นอย่างนี้มานานแล้วนะเนี๊ยะ สิบห้าปีก่อน ทร. ก็ อดได้ ด.ก๊อทแลนด์ ก็ไอ้เพราะการเมืองนี่แหละ ไม่งั้นป่านนี้คงมี ร.ล.สินสมุทร (ลำที่ ๒ ) ไปแล้วล่ะครับ อิอิ
ก็ยังไม่แน่ใจนะครับว่าแบบเรือ ตกก.ชุดใหม่ที่ อร.จะต่อโดยมี บริษัทอู่กรุงเทพ ร่วมด้วยนี้จะมีบริษัทต่างประเทศเข้ามาร่วมพัฒนาด้วยหรือไม่นะครับ
แต่เท่าที่สังเกตุดูนั้นช่วงหลังๆกองทัพเรือจะสั่งต่อเรือขนาดใหญ่ที่ใช้ Technology ระดับค่อนข้างสูงจากแบบเรือของบริษัทเนเธอร์แลนด์ครับ ตัวอย่างเช่นเรือสำรวจ ร.ล.พฤหัสบดี ที่ต่อโดยอู่ยูนิไทยก็ใช้แบบของ DAMEN ซึ่งอยู่ในเครือของ Schelde ครับ (ในช่วงการประมูลเรือ ตกก.ชุดแรก ยูนิไทยเป็นตัวแทนของบริษัท Vosper อังกฤษและ Bazan สเปน ครับ)