หน้าแรก    ตั้งกระทู้ใหม่   ตอบคำถาม    เข้าสู่ระบบ      


Waik Around Royal Thai Airforce Museum

โดยคุณ : nok เมื่อวันที่ : 28/05/2009 15:51:09




เห็นมีหลายๆคนพูดถึงพิพิธภัณฑ์ทหารอากาศกัน ส่วนใหญ่ที่ผมไปเยี่ยมชมก็เป็นวันเด็กนั่นแหละครับ  ซึ่งทั้งเด็กและร่มเยอะมาก ทำให้การบันทึกภาพลำบาก และส่วนตัวไม่ได้ไป 2 ปีกว่าๆแล้ว  ดังนั้นเมื่อมีวันเวลาที่ว่าง จึงขอถ่อร่างกายไปเยี่ยมชมซะหน่อย  และนำภาพมาฝากกัน  มีการปรับปรุง เปลี่ยนแปลง ที่ตั้งของอากาศยานกันพอสมควร หลังจากที่ผมมาคราวก่อนโน้น  และที่สำคัญจะไปดูเครื่องบางเครื่องด้วย อิอิ

ก่อนจะไปซึ่งเกือบไม่ได้ไปแล้ว  ได้ทำการเช็คกล้อง ปรากฏว่าไม่ติด ทำเอาเหงื่อตกพลิกโน่นพลิกนี่อยู่นานแต่ในที่สุดก็ไปพบว่าใส่ถ่านสลับขั้วไปก้อนนึง หุหุ (อย่าบอกใครละ  โดยเฉพาะอีตาโจ๊ก,กับตาเด็กทะเล ยิ่งตาโจ๊กเอาเราไปเผากับสาวนกแอร์  รักกันจังเลยวุ้ย)

ก่อนอื่นมาดูประวัติพิพิธภัณฑ์แห่งนี้คร่าวๆกันก่อนครับ

กองทัพอากาศจัดตั้งพิพิธภัณฑ์ขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2495 เพื่อรวบรวมและเก็บรักษาอากาศยาน เครื่องสื่อสาร  อาวุธยุทโธปกรณ์ต่างๆ ในอดีตที่เคยใช้ในกองทัพอากาศตลอดจนพัสดุเกี่ยวกับการบินที่น่าสนใจตั้งแต่เริ่มกิจการการบิน

ในประเทศจนถึงปัจจุบัน จัดแสดงเพื่อประโยชน์แก่ประชาชนโดยทั่วไป เดิมจัดแสดงอยู่ที่โรงเก็บเครื่องบินด้านทิศตะวันตกของสนามบินดอนเมือง แต่ยังไม่ได้เปิดให้ประชาชนทั่วไปเข้าชม  เมื่อรวบรวมพัสดุพิพิธภัณฑ์ได้มากขึ้นจึงทำพิธีเปิดอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 27 มีนาคม 2502

ต่อมากองทัพอากาศได้สร้างอาคารพิพิธภัณฑ์ขึ้นใหม่ ซึ่งอยู่ทางทิศตะวันออกของสนามบินดอนเมือง ถ.พหลโยธิน และเปิดให้ประชาชนทั่วไปเข้าชมได้เมื่อวันที่ 24 มกราคม 2512เป็นต้นมา

ตรงหน้าทางเข้าก็จะเป็นที่ประดิษฐ์สถานของพระบรมรูปของล้นเกล้ารัชกาลที่ ๕




ส่วนทางด้านขวาของพระพรมรูปจะเป็นเครื่อง RF-5 A ( บตข.18)  เครื่องนี้ได้ตามโครงการช่วยเหลือมิตรประเทศจากสหรัฐนะครับ






บริเวณส่วนหัวที่ไว้ติดกล้องครับ  แต่ตอนนี้ไม่มีแล้ว



ด้านข้าง



แพนเค๊กเอ๊ย แพนหาง


Cockpit  เหอะๆพึ่งรู้ว่ามีกระจกมองหลังด้วย



บั้นท้ายครับ



ดูดีๆครับโล่งไปหมดแล้ว  ไม่เหลืออะไรเลย



ทีนี้หันมาดูอีกลำบ้างครับ  ประเดิมด้วยบั้นท้าย F-5 A



แพนหาง



และมาดูด้านหน้า  (สมัยผมเด็กๆ ผมเรียก F-5 ว่าไอ้แหลม เพราะที่หัวมันแหลม 5555)










ความคิดเห็นที่ 1


เลยไปอีกหน่อย จะเห็น T-37 จอดโชว์อยู่(ตอนเด็กๆผมนึกว่าเครื่องบินเด็กเล่น) 5555



ดูใกล้ๆแตกลายงาซะแล้ว 



เห็น T-37 แล้วนึกถึงฝูงบินแสนเมือง  เครื่องรุ่นนี้ปลดประจำการ ปี  2539 ครับ



อีกลำที่จอดตรงข้ามกันก็คือชิปมังค์


 

ส่วนที่เหลือตรงสนามหญ้าไม่กล้าเดินเข้าไปครับ  เพราะเห็นว่าพื้นยังชุ่มๆน้ำอยู่ (กลัวน้ำหุหุ)




มาอีกด้านนึง ด้านหน้าโรง(ให้)อาหารจะเป็นที่ตั้งของ  T-33 ซึ่งเป็นเครื่องบินเครื่องยนต์ไอพ่นแบบแรกของไทย  และเครื่อง T-6 ครับ




บฝ.8 (T-6) ปลดประจำการปี 2517





โดยคุณ nok เมื่อวันที่ 21/05/2009 15:11:06


ความคิดเห็นที่ 2


ที่ีนี้เข้ามาที่ตัวอาคารครับ






อยากมีแบบนี้ไว้ตั้งโชว์ที่บ้านสักลำสองลำ



แผนที่ ที่แสดงที่ตั้งกองบินต่างๆของทอ.ในประเทศไทย


เอ่อแล้วลำนี้ของจริงหรือเปล่าครับ หุหุ



แล้วเลี้ยวขวามา ก็จะเจอกับโซนนี้  เมื่อก่อนไม่มีคำนี้นะครับ





เครื่องบินแบบต่างที่ไทยเป็นผู้สร้าง,ผลิตครับ






เดี๋ยวพรุ่งนี้สายๆมาโพสต่อนะครับ  ขอตัวไปนอนก่อนครับ


โดยคุณ nok เมื่อวันที่ 21/05/2009 15:57:30


ความคิดเห็นที่ 3


ขอบคุณครับ กำลังปูเสื่อรอชมตอนต่อไปนะครับ
โดยคุณ outrun เมื่อวันที่ 21/05/2009 20:59:52


ความคิดเห็นที่ 4


ป๋องเขียวพร้อมมม   แกล้มพร้อมมมมม 

 ปูเสื่อรอล่ะนะ ท่านนก

 

ขอบคุณคราบบบบ

โดยคุณ wingboy เมื่อวันที่ 21/05/2009 22:01:46


ความคิดเห็นที่ 5


เดินย้อนกลับมาอีกด้าน  ก็เจอเป้าหมายรองของจุดประสงค์ที่มา คือ F-5 B ลำแรกของโลกครับ



สภาพยังดูดีอยู่ครับ จะเห็นได้ว่าทำ black groud ไว้ด้วยครับ



44 ปีแห่งการที่ได้เหินอยู่ฟากฟ้า



Serial Number







เดินเลยมาอีกนิด Fairey Firefly (ไฟร์ฟลาย) อภินันทนาการจาก ทร.  เหตุผลไม่ต้องเพิ่มเติมนะครับ ปวดใจเปล่าๆ




เดินเลยมาสุดทาง ก็เจอกับเครื่อง Helldiver  (วึ่งอวบๆอ้วนๆ พอๆกับตาโจ๊ก555555)



ดูตำแหน่งการการติดตั้งระเบิด  เลยไม่ต้องสงสัยว่าทำไมเรือญี่ปุ่นหลายๆลำ จึงจมถ้ามีเครื่องบินประเภทนี้เข้าร่วม


ช่องใส่ระเบิดใต้ท้อง 





โดยคุณ nok เมื่อวันที่ 21/05/2009 22:47:54


ความคิดเห็นที่ 6


Gurmman G-11A Widgeon (วิดเจียน) รับอภินันทนาการจากทร.มาเหมือนกัน


Beechcraft Bonanza 35 ( โบนันซ่า) รับโอนจากทร.เช่นเดียวกัน



เครื่องบินลำนี้  ผมชอบตรงหางครับ  แปลกดี


โดยคุณ nok เมื่อวันที่ 21/05/2009 23:16:54


ความคิดเห็นที่ 7


แล้วก็เดินมาอีกอาคารนะครับ  โซนนี้จะเป็นที่จัดเก็บเครื่องบินเก่าส่วนใหญ่จะประจำการก่อนและมีส่วนในการรบ กับฝรั่งเศสกรณีพิพาทอินโดจีน และกับญี่ปุ่นช่วงต้นสงครามโลก(วันที่ญึ่ปุ่นบุกไทย)

แต่ประเดิมด้วยเครื่องเบร์เกครับ (ภาพในโซนนี้ ส่วนใหญ่ผมปรับเป็นโหมดขาวดำนะครับ)



แล้วมาดูเครื่องบินที่ผมรู้จักนิยาย พล,นิกร,กิมหงวน  ฮอว์คพับฐาน หรือ Curtiss Hawk 3 เป็นเครื่องแบบแรกที่ เก็บล้อได้ และตอนนี้เหลือแค่ลำเดียวในโลก




Hwak 75





คอร์แซร์ครับ


ปืนท้าย  ( ผมดูแล้วทำให้นึกถึงอินเดียน่าโจนส์ ภาค 3 ที่ ดร.โจนส์ ซีเนียร์ ยิงหางเครื่องตัวเองกระจุย และตอนที่นิกร,กิมหงวน ฝึกซ้อมเป็นพลปืนหลัง เกิดอะไรขึ้นไปหาอ่านเอาเอง 55555)









และมาปิดท้ายโซนนี้ด้วย Tachikwa (ตาชิกาวา)


 
โดยคุณ nok เมื่อวันที่ 21/05/2009 23:57:01


ความคิดเห็นที่ 8


ลืมให้ดูบริเวณฐานล้อของ Hwak 3



ออกมาด้านหลังก็เจอ T-28



OV-10



เหรียญพิทักษ์เสรีชน  ซีดไปนะครับ



บรรดาเครื่องที่จอดโชว์กันอยู่


เดินเลยไปโรงเก็บด้านหลังจะเจอกับ F-8F Bearcat (บข.15) จอดอยู่  นึกไปยุคก่อนที่เรามีประจำการอยู่มาก(ได้รับมอบมาจำนวน 204 เครื่อง) จนสามารถตั้งเป็นฝูงบินผาดแผลงได้


และสปิตไฟร์ที่ประจำการช่วงสั้นๆ



และก็จะเป็นฮ.แบบต่างๆที่เคยประจำการในกองทัพ




และ ฮ.พระที่นั่งครับ







โดยคุณ nok เมื่อวันที่ 22/05/2009 00:25:52


ความคิดเห็นที่ 9


เลี้ยวมาด้านนอก  ก็เจอกับเครื่องในดวงใจอีกเครื่อง  A-37



มองหน้าตรงมุมนี้ ดูเหมือน กบเลย



อีกมุม ครับ


แล้วก็มาที่ ทอ. 5







บข.17ก (F-86L)


บข.17 (F-86)  เคยได้ยินว่า สมัยที่ปราบ ผกค.นั้น เครื่อง F-86 ที่ไปโจมตีจะโหลดกระสุนไป เพียง 4 กระบอกเท่านั้น ไม่จำเป็นต้องให้ครบ 6 เพราะไว้ยิงกดพวก ผกค.ก่อนทิ้งระเบิด  แต่เครื่องแบบนี้ ก็ดับ Mig-15 มานักต่อนักแล้ว



และ F-84 ครับ









โดยคุณ nok เมื่อวันที่ 22/05/2009 00:54:16


ความคิดเห็นที่ 10


ทีนี้มาดูไฮไลท์เป้าหมายหลักที่ผมตั้งใจจะมา พิพิธภัณฑ์ ทอ.ครับคือ

ให้ทายว่าคืออะไร



ไม่ต้องคิดนานครับ ว่าคืออะไร



ทราบหรือยังครับว่าคืออะไร  สงสัยยังประกอบไม่เสร็จครับ แต่เอามาโชว์ก่อน เข้าใจว่า ปีกที่กองอยู่กับพื้นเพื่อรอประกอบติดตั้ง



เข้าไปดูใกล้ๆกับประตูครับ


ภาพนี้ใช้กล้องลอดเข้าไปนะครับ


และมาดูด้านหน้า









เข้าไปดูล้อแบบใกล้ๆ



ทีนี้โผล่เข้าไปถ่ายได้แล้วครับ  แต่ไม่กล้าปีนขึ้นไปครับ กลัวอะไรหล่นใส่หัว



เธอเห็นท้องฟ้านั่นไหม








โดยคุณ nok เมื่อวันที่ 22/05/2009 01:30:23


ความคิดเห็นที่ 11


ท่าน nokครับผมว่ารูปที่บอกว่าHAWK-75Nผมว่ามันไม่ใช่นะ

แต่เป็นP-64มากกว่าสังเกตุได้จากรูปหนุมานเครื่องบินรุ่นนี้ที่อยู่ใน

บ้านเราไม่ใช่ของจริงแต่เป็นT-6นำมาดัดแปลงให้เหมือนกับ

P-64สาเหตุที่รุ่นนี้ไม่ได้ประจำในบ้านเราเพราะเมกาไม่ยอม

ส่งมอบให้เราเพราะตอนนั้นเกิดเหตุการณ์พิพาทระหว่างไทยกับ

ฝรั่งเศสทอ.จึงแก้ปัญหาโดยจัดหาเครื่องบินจากญี่ปุ่นแทน

รู้สึกว่าจะเป็นนากาจิม่า กิ-30จำนวน24เครื่องและรูปสุดท้าย

ที่เอามาให้ดูขอเดาว่าเป็นซี-123หรือจี-222

โดยคุณ ttrc เมื่อวันที่ 22/05/2009 01:50:25


ความคิดเห็นที่ 12


และมาดูเครื่องที่จอดข้างๆ  บ.ตฝ.11 ( RT-33A)





และย้อนกลับมา บั้นท้าย C-123 ครับ  คราวนี้กล้าเดินขึ้นไปครับไม่กลัว



มีการติดตั้งระบบปรับอากาศเพิ่มเติมขึ้นด้วย ให้เหมือนกับ C-130 แต่ C-130 ติดแอร์ หุหุ




Cockpit C-123



มาที่บั้นท้าย OV-10  ใครจะเชื่อว่าบรรทุกพลร่มหรือสามารถขนส่งคนเจ็บได้ คุ้มค่าจริงๆสำหรับเครื่องบินลำนี้




หมดแล้วครับสำหรับการพาชม พิพิธภัณฑ์ทหารอากาศซึ่งหลายๆท่านคงดูกันจนเบื่อแล้ว  แต่ผมก็นำมาให้ดูกันอีกทีครับ

ส่วนตัวคิดว่ามีการปรับปรุงที่ดีขึ้นครับ  ห้องน้ำสะอาดมาก แต่สิ่งที่ผมคิดว่าควรจะทำคือเรื่องของสีเครื่องบิน ที่จอดอยู่ภายนอกอาคาร คือสีซีดมากเกือบทุกลำครับ ไม่ก็สีแตกลายงานะครับ

และอยากให้ผู้เกี่ยวข้องเพิ่มเติมโดยเฉพาะเกี่ยวกับเครื่องบินที่ มีคุณค่าทางประวัติศาสตร์นะครับ ว่าเครื่องลำนี้ผ่านเหตุการณ์สำคัญๆอะไรมาบ้างแล้ว ผ่านสมรภูมิไหนมาบ้างครับ  อย่างOV-10 ลำนี้มีเครื่องหมายเหรียญพิทักษ์เสรีชนอยู่ 8 เหรียญ น่าจะทำป้ายโดยเฉพาะบอกที่มาที่ไปนะครับ

คนรุ่นหลังๆจะได้รู้ครับ  เดี๋ยวจะเหมือนกับสิ่งที่ผมได้ยินมา คือเมื่อก่อนที่มีการแสดงการบินและมีการถ่ยทอดออกอากาศ ตอนนั้นมูลนิธิอนุรักษ์อากาศยานไทยได้นำ T-28 มาบินโชว์  ซึ่งมีเครื่องหมายลูกระเบิดติดอยู่ข้างลำตัว 6 ลูก  พิธีกรแกพูดออกมาเลยว่าเครื่องหมายนี้  หมายถึงเครื่องบินลำนี้ถูกยิงตกมาแล้ว 6 ครั้ง ไม่ใช่พูดครั้งเดียวนะครับหลายครั้ง พิธีกรคู่ที่เป็นผู้หญิงก็ทำเสียงตื่นเต้นมาก  ว่าเครื่องบินรอดมาได้อย่างไร

ผมนั่งดูอยู่แล้วฮากลิ้งเลยครับสำหรับข้อมูล  ดังนั้นตรงส่วนนี้ไม่ควรมองข้ามนะครับเพราะเรื่องข้อมูลเกี่ยวกับประวัติการบินของเครื่องต่างๆ ถ้าคนเข้าใจผิดนี่ไปคนละทางเลยครับ

ขอบคุณที่ติดตามชมครับ

ปิดท้ายด้วยภาพนี้สำหรับ แก็งส์อารายหว่า  กรั่กๆๆๆๆๆๆ (เยินไปหน่อย)


โดยคุณ nok เมื่อวันที่ 22/05/2009 02:00:51


ความคิดเห็นที่ 13


คุณ ttrc ครับ  ข้อมูลผมก็บันทึกมาจากป้ายที่อยู่หน้าเครื่องบินละครับ และคิดว่าคงไม่ผิดหรอกครับ
โดยคุณ nok เมื่อวันที่ 22/05/2009 02:06:52


ความคิดเห็นที่ 14






สงสัยหน่อยครับ ว่า OV-10 บรรทุกพลร่มกับคนเจ็บได้  ยังไงครับ..









..
โดยคุณ charchar เมื่อวันที่ 22/05/2009 04:30:08


ความคิดเห็นที่ 15


[img]http://anglicoassociation.org/images/19741stAnglicoOV10BroncoJumpCampPendletonf.jpg[/img] ตามนี้เลยครับ
โดยคุณ Acid เมื่อวันที่ 22/05/2009 05:17:02


ความคิดเห็นที่ 16


รูปไม่ขึ้นเอาใหม่!


โดยคุณ Acid เมื่อวันที่ 22/05/2009 05:18:46


ความคิดเห็นที่ 17


ยิ่งตาโจ๊กเอาเราไปเผากับสาวนกแอร์  รักกันจังเลยวุ้ย----> เรื่องนี้ไม่มีมูลนะครับ


ไม่มีเลียร์เจ๊ต หรอครับ
โดยคุณ helldiver เมื่อวันที่ 22/05/2009 05:24:29


ความคิดเห็นที่ 18


เมื่อวานนี้ผมก็พึ่งไปพิพิธภัณฑ์ ทหารเรือ เยื้องกับโรงเรียนนายเรือ มา
ดูแล้วเรื่องราวประวัติความเป็นมาจัดได้ดี ครับ แถมยังมีวิทยากรพาเดินชมอีกต่างหาก
ดูกันเพลินไปเลย ว่างๆลองไปดูกันครับ

โดยคุณ siamman18 เมื่อวันที่ 22/05/2009 07:23:14


ความคิดเห็นที่ 19


กับสาวนกแอร์ รักกันจังเลยวุ้ย -----> รักกันผ่านฮิห้าตลอดไม่เคยเห็นหน้ากันหร๊อก ! เพราะอีตาnok แอบปลีกวิเวกอยู่แต่ในห้อง แต่แอบเอารูปผมขึ้นโชว์...
โดยคุณ เด็กทะเล เมื่อวันที่ 22/05/2009 08:31:45


ความคิดเห็นที่ 20


ตอบ คุณ ttrc   ผมขอยืนยันอีกคนครับว่าเครื่องนั้นคือ Hawk 75 N ของไทยครับ  เจ้า P-64 น่ะ  มันถูกสร้างมาแค่ 6 เครื่องเท่านั้น และไม่ได้ส่งมอบให้ไทย สาเหตุผมไม่แน่ใจ เพราะรหัสเครื่องมันถูกสร้างในปี 1941  ก็น่าจะสร้างหลังกรณีพิพาทไทย-อินโดจีน(ฝรั่งเศส)ซึ่งเกิดช่วงปลายปี 1940กับต้นปี 1941   ทางอเมริกาบอกเพราะไทยถูกญี่ปุ่นยึดครองจึงไม่สามารถส่งมอบได้   ซึ่งเดี๋ยวนี้ผมก็เชื่อว่าน่าจะเป็นอย่างที่อเมริกาว่า    ตอนนี้  ตัวจริงเสียงจริงน่ะเหลือเพียงเครื่องเดียวอยู่ที่อเมริกา  ยังบินได้อยู่   (ยืนยันด้วยว่าไม่ได้เอา T-6 มาดัดแปลงเหมือนเจ้าหนุมานที่ชมรมอนุรักษ์) แต่ตอนนี้เปลี่ยนเครื่องยนต์จาก 870 แรงม้า มาเป็น 1200 แรงม้าแล้ว หน้าตาส่วนหัวก็เลยเปลี้ยนไป     ที่สำคัญยังบินได้อยู่นะครับ     ส่วน Hawk 75 N ตัวนี้ก็เป็นตัวเดียวในโลกเหมือนกัน (เพราะสร้างขึ้นมาเพียง 12 ลำเท่านั้นเอง ก็เลยเหลือตัวเดียว )   มีบางท่านซึ่งเป็นนักบินรุ่นคุณปู่ก็ว่า เจ้า Hawk 75 N เคยถูกอเมริกายึดไม่ส่งมอบให้ไทยเพราะกลัวว่าจะเอาไปใช้รบกับฝรั่งเศส   อันนี้ผมยังไม่แน่ใจ ต้องไปเช็คหาหลักฐานปีที่ส่งมอบกับปีที่เกิดกรณีพิพาทว่าใกล้เคียงกันหรือเปล่า
โดยคุณ zeroman เมื่อวันที่ 24/05/2009 13:02:02


ความคิดเห็นที่ 21


นำข้อมูลมาเพิ่มเติมให้ครับ  เกี่ยวกับ Hawk 75 N ของไทย

ไทยสั่งซื้อจากสหรัฐ จำนวน 16 เครื่อง  คิดเป็นเงิน 468,000เหรียญ/สหรัฐ(ค่าเงินในขณะนั้น 1 เหรียญ = 2.50 บาท)  แต่เมื่อขนส่งมาถึงฟิลิปปินส์  ประมาณวันที 5 พ.ย. 2483 สหรัฐสัี่งกักเครื่องไว้โดยไม่ทราบสาเหตุ(ช่วงกรณีพิพาทอินโดจีนพอดี)  ญี่ปุ่นเลยยื่นมือเข้ามาช่วย ส่งเครื่อง ตากาชิมา( สมรรถนะ น่าจะพอฟัดพอเหวี่ยงกัน)  มาให้10เครื่อง

โอกาสนั้นไทยก็ขอซื้อเครื่องนาโกย่า (มิตซูบิชิ เคไอ-30) จำนวน 2 ฝูงมาด้วย   แต่สุดท้ายสหรัฐก็ยอมปล่อยเครื่อง Hwak  75 N มาให้ไทยได้ทันใช้รบช่วงปลายสงครามอินโดจีนครับ
โดยคุณ nok เมื่อวันที่ 24/05/2009 23:23:54


ความคิดเห็นที่ 22


ขอบคุณมากสำหรับคำตอบเพราะสงสัยเลยถามและอีกอย่าง

เท่าที่รู้มาเครื่องบิน2แบบนี้หน้าตาคล้ายกันมากเพราะรหัส

ของHAWK-75นี้คือNA-63ส่วนพี-64ก็คือNA-68ไม่รู้ว่าทำไม

เมกาถึงสร้างเครื่องบิน2รุ่นนี้ออกมาได้หน้าตาคล้ายกันมาก

และอีกคำถามหนึ่งที่อยากรู้มากๆๆๆเลยเจ้าหนุมานของเรายัง

บินได้อยู่หรือเปล่าและกระเปาะปืนกลที่ติดตั้งยังยิงได้อยู่หรือเปล่า

หรือว่าติดใว้เฉยๆๆ

โดยคุณ ttrc เมื่อวันที่ 25/05/2009 00:51:44


ความคิดเห็นที่ 23


ทุกอย่างเป็นไปตามกาลเวลาครับ

บินไม่ได้แล้วครับ (โครงสร้างไม่ไหวแล้ว) ปืนก็ติดไว้ให้ดูครับ
โดยคุณ nok เมื่อวันที่ 25/05/2009 01:44:03


ความคิดเห็นที่ 24


พรุ่งนี้จะเอา C-130J มาจอดทิ้งให้เป็นเพื่อน G-222  จะได้ไม่เหงา แบบว่า ทอ.เรารวย  ตั้งใจซื้อมาเพื่อโชว์ในพิพิธภัณฑ์โดยเฉพาะเลย

โดยคุณ santik เมื่อวันที่ 25/05/2009 10:09:34


ความคิดเห็นที่ 25


เอ่อ  Hawk 75 N ไม่น่าจะมีรหัสว่า NA63 นะครับ เพราะว่า คำว่า NA มันย่อมาจาก North American  น่ะ ซึ่งก็คือบริษัท North American ซึ่งผลิตเครื่องบิน P-51 มัสแตงน่ะครับ     แต่ Hawk 75 N มันผลิตมาจากบริษัท Curtiss  ซึ่งเป็นบริษัทผลิตเครื่องบิน P-40 น่ะครับ      สำหรับบริษัท North American ปกติเครื่องบินทุกครั้งที่มีการออกแบบจากบริษัทจะใช้รหัส NA ครับ ซึ่งเป็นรหัสเฉพาะที่ใช้กับเครื่องบินของทางบริษัทเองเท่านั้น  อย่าง NA68 ก็หมายถึงแบบดีไซน์ของ North American แบบที่ 68 น่ะครับ  ส่วน Hawk 75 N ไม่ใช่ของทาง North American ครับ  ส่วนว่าทำไมหน้าคล้ายกัน ก็คงเป็นเพราะออกมาในช่วงเวลาเดียวกันมั้งครับ 
โดยคุณ zeroman เมื่อวันที่ 26/05/2009 10:07:34


ความคิดเห็นที่ 26


สงสัยผมจะจำผิดจริงๆๆความจริงเจ้าhawk-75น่าจะมีรหัส

ว่า พี-63คราวนี้ไม่ผิดแน่เพราะผมลองค้นในgoogleดูก็ได้

มาแบบนี้จริงๆๆ

โดยคุณ ttrc เมื่อวันที่ 26/05/2009 23:17:00


ความคิดเห็นที่ 27


สงสัยหน่อยครับ ว่า OV-10 บรรทุกพลร่มกับคนเจ็บได้  ยังไงครับ..

^

^

^

^

รู้แต่ว่า  ถ้าเป็นอีตาโจ๊กแล้ว  ไม่สามารถขนย้ายด้วยอากาศยานดังกล่าวได้ครับ  เพราะไม่สามารถ Load เข้าไปได้ครับ  และจะทำให้น้ำหนักวิ่งขึ้นเกินน้ำหนักวิ่งขึ้นสูงสุดด้วยครับ

โดยคุณ FW190 เมื่อวันที่ 27/05/2009 23:40:26


ความคิดเห็นที่ 28


ผมว่าน่าจะโหลดได้น่ะครับ

แต่ส่วนสูงไม่ผ่าน เพราะติดอะไรบางอย่างบนหัว คริคริ


รู้สึกฝนฟ้าคะนอง คลื่นลมในทะเลแรงน่ะครับ เลยออกทะเลไปล่ะ 555

โดยคุณ Ronin เมื่อวันที่ 28/05/2009 04:39:40


ความคิดเห็นที่ 29


เหม่งกระทู้นี้ไปได้อย่างไร

ใครบังอาจซ่อนไว้  =^ ^=

เหม่งเกิดมาโวยย

โดยคุณ หนูนีล เมื่อวันที่ 28/05/2009 04:51:10