จาก ความร่วมมือระหว่าง อุทยานวิทยาศาสตร์ ม.เกษตรฯ และไซอาร์ม สร้าง "RAIDZ" ระบบฝึกทักษะการใช้อาวุธแก่ ทหาร และตำรวจ ด้วยการประยุกต์ระบบเลเซอร์พลังงานต่ำ ปลอดภัยใช้งานได้ดี ราคาต้นทุนถูกกว่าต่างประเทศครึ่งต่อครึ่ง...
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเร็วๆ นี้ บริษัท ไซอาร์ม จำกัด ประกาศเปิดตัว "RAIDZ" หรือ "เครื่องช่วยฝึกสำหรับยิงปืนเล็ก" ที่เป็นระบบซ้อมรบเสมือนจริง ที่ทหารนำไปใช้ฝึกซ้อมได้อย่างมีประสิทธิภาพ รวมถึงนำไปประยุกต์ใช้กับกิจกรรมบันเทิงและกีฬาอย่าง Laser Tag ที่ได้รับความนิยมมากในต่างประเทศ หรือแม้แต่จะนำไปใช้ร่วมกับกีฬาอย่าง BB Gun ที่กำลังได้รับความนิยมในเมืองไทย โดยนำข้อด้อยและข้อดีของระบบMILES (Multiple Integrated Laser Engagement System) อุปกรณ์ปืน BB Gun และ Laser Tag ทำให้ผู้ใช้งานจะได้ฝึกทักษะการใช้อาวุธ และ ยุทธวิธีในสถานะการณ์เสมือนจริงมากที่สุด
นายพันธ์เวสส์ สุขวนิช กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไซอาร์ม จำกัด กล่าวว่า ระบบ RAIDZ นี้ใช้เวลาพัฒนาทั้งหมด 3 ปี ตั้งแต่ก่อนการก่อตั้งบริษัท ถือเป็นระบบซ้อมรบที่ทหารนำไปใช้ฝึกซ้อมในรูปแบบ ต่างๆในสถานะการณ์สมมุติได้ เช่น การชิงตัวประกัน การสู้รบระหว่างสองทีม การเข้าโจมตีรูปตัววี (V) เป็นต้น RAIDZประกอบด้วยหมวกกับเสื้อ จอแอลซีดี และชุดยิงเลเซอร์สำหรับปืนเล็กยาวแบบ M 16 โดยหมวกเสื้อ และชุดยิงเลเซอร์ จะสื่อสารด้วยระบบไร้สาย ที่ช่วยในการประมวลผล ทำให้รู้ว่าถูกยิงบริเวณใด ตัวเสื้อใช้ฝึกทำการรบต่อเนื่องได้นานถึง 18 ชั่วโมง ส่วนจอแอลซีดีนั้นใช้รัดที่ต้นแขน และจะมีข้อมูลแจ้งเกี่ยวกับตำแหน่งของร่างกายที่โดนยิงว่า ตอนนี้สภาพร่าง กายเราเป็นอย่างไร เสียเลือดไปเท่าไร หรือจำนวนกระสุนที่เหลือ
กก. ผจก.บ.ไซอาร์มฯ กล่าวต่อว่า ในส่วนของระบบเลเซอร์ที่ใช้นั้นเป็นแบบแสงกำลังส่งต่ำ จึงไม่เป็นอันตรายต่อดวงตา โดยไม่มีผลกระทบต่อสุขภาพร่ายกายของผู้ใช้ และมีราคาที่ประหยัด นอกจากนี้ระบบยังนำข้อมูลของการฝึกซ้อมการเล่นของทุกคนมา ประมวลผลได้ทันทีหลังจากที่จบการซ้อม ทำให้ทราบว่าใครโดนยิงบ้าง โดนยิงเวลาใด ที่ตำแหน่งไหนบนร่างกาย คนที่ยิงใช้กระสุนอะไร ทั้งนี้หากเป็นระบบที่มีใช้กันอยู่ขณะนี้ จะต้องเสียเวลานำข้อมูลของแต่ละคนมาใส่ในเครื่องคอมพิวเตอร์ก่อน แล้วจึงประมวลผลภายหลังอีกทั้งในขณะซ้อม ด้านการควบคุมจะมี ปืนกรรมการ ทำหน้าที่คอยชุบชีวิตในกรณีที่ต้องการให้ผู้เล่นคนเดิมลงสนามซ้ำ หรือจับผิดในกรณีที่มีการโกงได้อีกด้วย
นายพันธ์เวสส์ กล่าวถึงรูปแบบการทำงานว่า หลักการพื้นฐานของระบบ คือ จะใช้การส่ง/รับสัญญาณแสงอินฟราเรด โดยผู้เล่นจะติดตั้งอุปกรณ์รับสัญญาณทั้งตัว และจะติดตั้งอุปกรณ์ยิงสัญญาณ แสงจะถูกยิงไปยังเป้าหมายคือ ทีมตรงกันข้าม แสงที่ใช้จะเป็นแสงในย่านอินฟราเรดความเข้มต่ำ จึงปลอดภัยสำหรับดวงตา สามารถใช้ได้ทั้งกลางแจ้งและในอาคาร มีความแม่นยำสูง (ลำแสงขนาน) หากใช้ในเวลากลางวัน มีระยะยิงสูงสุด 600 เมตร แต่หากใช้งานตอนกลางคืน จะสามารถยิงได้ไกลถึง 800 เมตร ถ้าเป็นกระสุนของ BB Gun จะยิงได้ไกลเพียง 50 เมตร
กก. ผจก.บ.ไซอาร์มฯ กล่าวอีกว่า ขณะนี้ ระบบ RAIDZ มี 2 รุ่น คือ I และ II โดยมีความแตกต่างที่รุ่น 1 เป็นระบบออนไลน์ และรุ่นที่ 2 เป็นระบบออฟไลน์ ที่ทำให้ประยุกต์ใช้งานกับสภาพต่างๆ ได้มากยิ่งขึ้น สำหรับปืนที่นำมาใช้ในระบบ RAIDZ มีความพิเศษตรงที่ปืนจะมีไอดีเฉพาะตามผู้ใช้แต่ละคน เหมือนกับปืนจริงๆ โดยเมื่อผู้ใช้เปลี่ยนปืนระบบก็จะเปลี่ยนไอดีของปืนให้ตรงกับให้เป็นไอดี เจ้าของใหม่ภายใน 3 วินาที สำหรับราคาต่อชุดฝึกมีราคาถูก เมื่อเปรียบเทียบกับระบบที่นำเข้าจากต่างประเทศถึงครึ่งหนึ่ง
ด้าน นายพลาเดช เฉลยกิตติ รักษาการ ผู้อำนวยการ ฝ่ายบ่มเพาะธุรกิจเทคโนโลยี อุทยานวิทยาศาสตร์ประเทศไทย กล่าวด้วยว่า หน่วยบ่มเพาะธุรกิจเทคโนโลยี อุทยานวิทยาศาสตร์ประเทศไทย ภายใต้ศูนย์บริหารจัดการเทคโนโลยี (TMC) ได้ลงนามร่วมกับศูนย์บ่มเพาะธุรกิจเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ เพื่อคัดเลือกบริษัทภายใต้การดูแลของศูนย์บ่มเพาะธุรกิจเทคโนโลยี มก.ให้สามารถเข้ารับบริการต่างๆ จากหน่วยบ่มเพาะธุรกิจเทคโนโลยีของอุทยานวิทยาศาสตร์ฯ เป็นเวลา 3 ปี เสมือนเป็นลูกค้าของอุทยานวิทยาศาสตร์ฯเอง
รักษาการ ผอ.ศูนย์บ่มเพาะธุรกิจเทคโนโลยีฯ กล่าวด้วยว่า บริษัทไซอาร์มเป็นหนึ่งในบริษัทที่ได้รับคัดเลือก เนื่องจากผลิตภัณฑ์มีความโดดเด่น กำลังได้รับความนิยมใน ขณะนี้ พร้อมทั้งมีแนวโน้มการเติบโตของตลาดสูง จึงน่าภาคภูมิใจกับระบบซ้อมรบทางทหารที่คนไทยสามารถพัฒนาขึ้นมาได้ เองภายใต้การสนับสนุนการทำงานจากหน่วยงานภาครัฐอย่างทีเอ็มซี โดยหากได้รับการส่งเสริมให้มีการนำไปใช้อย่างจริงจัง คาดว่าจะช่วยลดต้นทุนการนำเข้าระบบจากต่างประเทศ รวมทั้งเป็นผลงานการพัฒนาจากฝีมือคนไทย ที่อาจกลายเป็นสินค้าส่งออกยอดฮิตทำรายได้ให้กับประเทศต่อไป