ฟุตบอล ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก รอบรองชนะเลิศ เลกสอง
อาร์เซนอล 1 แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 3 (รวมผลสองนัด แมนฯยูไนเต็ด ชนะ 4-1)
เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ส่งเวย์น รูนีย์ และปาทริซ เอวร่า ที่มีเหลืองคาดโทษลงเล่นตัวจริงทั้งคู่ ในเกมนี้ ขณะที่แดนกลางใช้ตัวสดๆลงมาบดกับมิดฟิลด์เจ้าถิ่น โดยดิมิทาร์ เบอร์บาตอฟ และคาร์ลอส เตเวซ มีชื่อแค่ตัวสำรองเท่านั้น
เริ่มเกมแค่นาทีที่ 3 เจ้าบ้านที่ต้องการชัยชนะเกมนี้ ทำ ยูไนเต็ด แอบเสียววาบหลังลูกยิงไกลของ ฟาเบรกาส แฉลบวิดิช ก่อนมาแคนนอน ริโอ บอลเปลี่ยนทางเกือบเข้าประตูตัวเองยังดีที่ค่อยๆกลิ้งออกหลังห่างเสาไปประมาณ 2-3 หลา
"ปืนใหญ่" ยังเล่นแบบเร้าใจเพราะสกอร์เป็นรองนัดแรก และต้องการลูกเปิดซิงให้เร็วที่สุดในขณะที่ ยูไนเต็ด กำลังรวบรวมสมาธิที่เจอแรงกกดดันจากแข้งเจ้าถิ่น และแฟนบอลที่ร้องปลุกใจเด็ก อาร์แซน เวนเกอร์ อื้ออึงตลอด
แต่แล้วนาทีที่ 8 อาร์เซนอล ที่กำลังบุกอยู่ดีๆ มาโดนก่อนเฉยหลัง อันแดร์สัน แทงบอลไหลเข้าเขตโทษถึงเส้นหลังทางซ้ายให้ โรนัลโด้ วิ่งมาตบบอลเข้ากลาง ซึ่ง คีแรน กิ๊บส์ รอเคลียร์อยู่ แต่ดันกลับลื่นล้มทำให้ ปาร์ค ฉกบอลก่อนยิงสวน อัลมูเนีย ที่ปรี่ออกมาปิดมุม แต่บอลพุ่งเสียบตาข่ายเข้าไป ปืนใหญ่ เซ็ง โดนนำ 1-0 ต้องยิงถึง 3 ลูกเพื่อเข้ารอบ
อย่างไรก็ตาม อีก 3 นาทีต่อมา แมนฯยูไนเต็ด มาเพิ่มงานให้เจ้าบ้านอีก เมื่อเจอลูกยิงฟรีคิก 30 หลาของ โรนัลโด้ ที่ใจถึงอัดเต็มข้อบอลพุ่งทะลุกำแพงเบียดเสาผ่านมือ อัลมูเนีย ที่ไม่คิดว่าจะเจอยิงลักไก่แบบนี้ 2-0 แทบจะเก็บฉากตั้งแต่ 11 นาทีไปเลย
พอโดนไป อาร์เซนอล เหมือนตื้อไปเลย นาที 18 ยูไนเต็ด ต่อบอลยึกยักไปมาก่อนที่ เฟลทเชอร์ จะฝากให้เวย์น รูนีย์ แต่งบอลหน้ากรอบแล้วปั่นไซด์โค้งกะให้เสียบเสา แต่อัลมูเนีย พุ่งสุดปลายมือปัดออกหลัง
จากนั้น ทีมเยือนยังดีกว่า นาทื 32 โรนัลโด้ รับอาสายิงฟรีคิก 25 หลาอีกครั้ง หลังตัวเองเจอเสียบหนักจนตัวลอย แต่ลูกยิงข้ามกำแพงหุบลงตามสไตล์ แต่อัลมูเนีย ยืนย่อตัวรับเข้าซอง ท้ายเกม ทีมเยือนยังเน้นเกมที่เป็นระเบียบมาก และเน้นความปลอดภัย ทำให้ลูกทำชิ่งของเจ้าถิ่นไม่ได้ทำให้ฟาน เดอร์ ซาร์ ต้องพุ่งเซฟใดๆเลย จบ 45 นาทีแรก 0-2
มาต่อครึ่งหลัง เวนเกอร์ เปลี่ยนเอา กิ๊บส์ ออกแล้วส่งเอบูเอ้ ลงมาแถมกล้องจับไปที่เดวิด เบ็คแฮม และมาติเยอ ฟลามินี่ส องแข้งเอซี มิลาน ควงแขนกันมาเชียร์ทีมเก่าของแต่ละฝั่ง นาที 52 ยูไนเต็ด เกือบหนีไป 3-0 จากลูกที่ โรนัลโด้ เลี้ยงมาตั้งแต่วงกลางสนามหนี เฌอรู ก่อนลากมาถึงกรอบเขตโทษฝั่งซ้ายแล้วลากตัดเข้าใน ก่อนสับยิงด้วยอีซ้ายหักข้อเสาแรก แต่อัลมูเนีย ล้มตัวปัดนิดเดียวบอลออกหลัง
จากนั้น อาร์เซนอล พยายามค่อยๆตั้งเกม แต่นาทีที่ 61 เกมก็จบอย่างง่ายดาย เมื่อบอลที่ถูกเคลียร์มาเข้าทาง โรนัลโด้ ก่อนจะดีดส้นต่อให้ ปาร์ค แตะพรวดเดียวไปถึงกลางสนาม แล้วปาดทะลุช่องให้ รูนีย์ วิ่งเติมเกี่ยวบอลลากไปทางซ้าย ก่อนจะป้ายเข้าตรงจุดนัดพบให้ปีกจอมสับวิ่งมาแปยัดเหน่งๆแสกหน้า อัลมูเนีย เข้าไปอย่างสะใจ 3-0
เจ้าถิ่นไม่มีอะไรจะเสียนาที 63 ฟาน เพอร์ซี่ ลากจากขวาตัดเข้าเท้าซ้ายก่อนยิงเต็มข้อกลางประตูแต่ฟาน เดอร์ ซาร์เห็นวิถีบอลเลยตบออกไป และพอนำ 3-0 ป๋ากี้ ทยอยเอาพวกชะนักติดหลังทั้งรูนีย์ และเอวร่า ออกทีละคน นาที 73 ปาร์ค ที่วันนี้ขยันสุดๆวิ่งทะลุรับบอลที่เ บอร์บาตอฟ แทงเข้ากรอบโทษมาให้ ก่อนล้มตัวยิงตรงมุมแคบแต่ อัลมูเนีย ปิดมุมปัดออกหลังไป
แต่อีกนาทีถัดมา หวยมาออกที่ ดาร์เรน เฟลทเชอร์ หลังถูกใบแดงไล่ออก จากจังหวะที่ฟาน เพอร์ซี่ ดีดบอลข้ามหัวเข้ากรอบโทษให้ ฟาเบรกาส วิ่งทะลุ แต่เจอ เฟล็ทเชอร์ เหนี่ยวรั้งจนหัวทิ่มเสียจุดโทษ และนัดหน้าชวดเล่นรอบชิงด้วย ก่อนจะเป็นฟาน เพอร์ซี่ วิ่งมายิงยัดเข้าสามเหลี่ยมไม่มีเหลือไล่มาเป็น 3-1
พอตัวมากกว่า อาร์เซนอล ก็บ้าคลั่งจะบุกเอาอีกลูกแต่จังหวะยิงเหน่งๆไม่มีเลยส่วนใหญ่จะหาทางเข้าเจาะมากกว่า เพราะแนวรับ ยูไนเต็ด ยืนคุมพื้นที่กันดีเอามากๆ ก่อนหมดเวลา 3 นาที โรนัลโด้ ได้ยิงฟรีคิกอีก แต่บอลพุ่งแหกคานนิดเดียวเท่านั้น จนกระทั่งหมดเวลา "ปิศาจแดง" บุกมาถล่ม อาร์เซนอล 3-1 เข้ารอบชิงชนะเลิศแชมเปี้ยนส์ลีก 2 ปีติดต่อกันด้วยสกอร์รวม 2 นัด 4-1 และรอลุ้นจะเป็นคู่ปรับหน้าเดิมอย่างเชลซี หรือบาร์เซโลน่า
รายชื่อนักเตะทั้งสองทีม
อาร์เซนอล : มานูเอล อัลมูเนีย, บาคารี่ ซาญ่า, โคโล่ ตูเร่, โยฮัน เฌอรู, คีแรน กิ๊บส์ (เอบูเอ้ น.46), เชส ฟาเบรกาส, อเล็กซานเดอร์ ซง, ธีโอ วัลค็อตต์ (เบนด์เนอร์ น.63), ซาเมียร์ นาสรี่, โรบิน ฟาน เพอร์ซี่ (เวล่า น.80), เอ็มมานูเอล อเดบายอร์
แมนฯยูไนเต็ด : เอ็ดวิน ฟาน เดอร์ ซาร์, จอห์น โอเช, ริโอ เฟอร์ดินานด์, เนมันย่า วิดิช, ปาทริซ เอวร่า (ราฟาเอล น.65), ดาร์เรน เฟลทเชอร์, ไมเคิ่ล คาร์ริค, อันแดร์สัน (กิ๊กส์ น.63), ปาร์ค จี ซอง, เวย์น รูนีย์ (เบอร์บาตอฟ น.66)
เครดิต : soccersuck