ขอนำกระทู้คุณ
เด็กหลังเขา ขึ้นหัวข้อใหม่น่ะครับ
ขอบคุณสำหรับคำแนะนำครับ
ถ้าเป็นเช่นนั้น เรามาวิเคราะห์ผู้ที่จะมาแทนในภารกิจ Lead-In-Fighter และ Attack เมื่อ L-39 และ Alpha Jet ถึงคราวปลดประจำการครับ
ปล. คือ เห็นแต่วิเคราะห์กันแต่ถึง บ.รบ หลักกัน เลยอยากเปลี่ยนบรรยากาศบ้างละครับ ขยับบอร์ดด้วย อิ อิ
ถึงเวลานั้นคงเป็นช่วงเวลาที่น่าจะลอง ของจีน
ถามหน่อยครับ เวลาผม search L-15 แล้วเจอคำว่า Hongdu
อยากถามว่า อุตสามหกรรมอากาศยานของจีน นอกจาก chengdo
แล้วยังมี hongdu อีก หรือครับ
เครื่องที่สมาชิกเสนอกันมา นับว่าของจีนถือเป็นรุ่นก้าวหน้าที่สุด
เครื่องที่เหมาะสมสำหรับทศวรรษหน้าคงจะหนีไม่พ้น 4 แบบนี้ที่ประเทศไทยพอจะเจียดงบฯไปซื้อมาได้
1. L-15 จากจีน
http://en.wikipedia.org/wiki/HAIG_L-15
2. Mig-AT จากรัสเซีย
http://en.wikipedia.org/wiki/Mikoyan_MiG-AT
3. T-50 จากเกาหลีใต้ (อันนี้คงต้องมีเงินหน่อย)
http://en.wikipedia.org/wiki/KAI_T-50_Golden_Eagle
4. Yak-130 จากรัสเซีย
http://en.wikipedia.org/wiki/Yakovlev_Yak-130
ส่วนผมเลือกตัวนี้ ใครอยากรู้ว่าในภาพเป็นของเครื่องรุ่นไหน ลองหาข้อมูลในเน็ตดูแล้วกันครับ
MIG-AT แพ้ Yak-130 ไปแล้วครับ ก็ไม่ได้ยอดสั่งสร้างจากทางรัสเซียเลย จริงๆผมว่า MIG-AT นั้นมีความคล่องตัวสูงมากๆ พอๆกับเครื่องขับไล่เลย ดีพอๆกับ L-39 และ hawk แต่ข้อกำหนดของทางรัสเซียเขาเน้นๆว่าต้องสามารถทำภาระกิจโจมตีได้เป็นภาระกิจรอง ซึ่งทางรัสเซียก็มีแผนจะให้มันเป็ฯเครื่องโจมตีเบาที่เป็นตัวหลักของทางทอ.รัสเซีย แต่MIG-AT ดันออกแบบไปซะคนละแนวกับทางผู้ซื้อเขากำหนด มันจึงต้องแพ้ล่ะครับ
L-15 ก็คือ Yak-130 เวอร์ชั่นจีนแดง M-346 ก็แผนแบบเดียวกันกับ Yak-130 ดังนั้นเครื่องรุ่นนี้จึงมีคนสั่งสร้างเยอะน่ะครับ
สำหรับผมแยกดังนี้
ถ้าใช้ในภาระกิจ LIFT ผมว่ายกให้ L-159 และ MIG-AT และ HAWK T-50
จากปัญหาของ L-159 ที่ยังหาคนมาซื้อใช้ไม่ได้ จึงไม่การันตีเรื่องอะไหล่ ก็ต้องตัดไปจนกว่าจะมีลูกค้ารายใหญ่สัก 2-3 เจ้า
MIG-AT ตัดไปเพราะไม่มีการสั่งซื้อจากรัสเซีย ทั้งๆที่เครื่องดีเช่นกัน
HAWK-132 น่าเล่นครับ แต่ราคาสูงมากและประสิทธิภาพต่ำกว่า T-50 ดังนั้นสำหรับผมเป็นตัวรอง
A/T-50 ตัวนี้เอามาใช้เป็นเครื่อง LIFT ได้ดีมากครับ เพราะพื้นฐานมาจากเครื่องบินขับไล่ที่โด่งดังและเชื่อถือได้อย่าง F-16 และถ้าเมกาซื้อ งานนี้เครื่องรุ่นนี้น่าเล่นที่สุดสำหรับ LIFT แต่ค่าใช้จ่ายก็แพงกว่า L-159 มากๆ
สำหรับภาระกิจโจมตีเพื่อทดแทนเครื่องอัลฟ่าเจ็ต สำหรับผมนั้นมีดังนี้ครับ M-346 หรือ YAK-130 และ A-50
ถ้าเน้นราคา + ประสิทธิภาพ ก็เครื่อง YAK-130 ครับ แต่โมซะให้เหมาะกับเราเหมือน L-39 เพราะถ้าซื้อ M-346 ราคาน่าจะโหดตามมาตรฐาน NATO ราคาต่างกันมากๆเลยทั้งๆที่เป็นเครื่องที่มีแบบแผนเดียวกัน ผมว่าอิสราเอลน่าช่วยเราได้เช่นเดิม
แต่ถ้าเน้นประสิทธิภาพสูงแบบสามารถเจาะระบบป้องกันภัยทางอากาศข้าศึกได้แบบ F-16 block 40/42 งานนี้เสนอ A-50 ครับ
ถ้าเราซื้อ LIFT เป็น T-50 สมควรอย่างยิ่งที่เราจะต้องจัดหาเครื่องโจมตีเป็น A-50 ครับ เพราะทั้ง 3-4 ฝูงจะได้เป็นเครื่องมาตรฐานเดียวกันเพื่อลดแบบเครื่องบิน
แต่ถ้าจัดหา LIFT เป็น T-50 และจัดหาเครื่องโจมตีเป็น YAK-130 ถือว่าตรงสเปกขีดสุด แต่มันจะทำให้เรามีเครื่องบินรบมากแบบไป
ดังนั้น สำหรับผมจบที่เครื่อง 2 แบบนี้คือ YAK-130 mod กับ A/T-50 แบบใดแบบหนึ่งและใช้ทั้ง 2 ภาระกิจคือ LIFT และโจมตี
ถ้าตังค์ถึงและต้องการประสิทธิภาพสูงสุด ผมเสนอ A/T-50
ถ้างบจำกัดและต้องการประสิทธิภาพที่ดีมาก ผมเสนอ YAK-130 mod ครับ
ส่วน L-15 ของจีนนั้นผมไม่ทราบเรื่องความน่าเชื่อถือของเครื่อง และไม่รู้ว่าสถาปัตยกรรมของทางนั้นสามารถโมได้ง่ายๆเหมือน L-39 หรือไม่ เพราะถ้าเชื่อถือได้สูงและสามารถโมได้ ก็น่าเล่นมากครับ เพราะบินเร็วเหนือเสียง น่าจะคล่องแคล่วกว่า YAK-130/M-346 และน่าจะทำภาระกิจโจมตีได้ดี(มั๊ง) เพราะดูจากการออกแบบอากาศพลศาสตร์แล้ว ดูเหมือนน่าจะให้เป็นเครื่องโจมตีในภาระกิจรอง ราคาน่าจะถูก(มั๊ง) ถ้าโมได้ขนาดว่าสามารถเปลี่ยนไปใช้เครื่องยนต์ทางฝั่งตะวันตกได้เลยก็ยิ่งน่าเล่นครับ
ถ้า L-39 และ อัฟฟ่า เจต คือ การป้องภัยภายใน และแนวชายแดน...
ผมก็ยังเชียร์ EMB-314 ... เพราะสามารถใช้ จรวดร่อน ได้ ถ้ากลัวการต่อต้านจากอาวุธนำวิถี...และความยืดหยุ่น ความคล่องตัวสามารถใช้งานได้ทั่วประเทศ...และสามารถดัดแปลง อาวุธติดตั้งได้ตามความต้องการ ไม่น่าเกินความสามารถของ อุตสาหกรรมภายในประเทศ...
เป็นภาพจากกระทู้เก่า ที่เคยนำเสนอไปแล้วนะครับ...เอามานำเสมอใหม่...
ต้องดูในส่วนภารกิจหลักของเครื่องที่จะจัดหามาครับว่าจะใช้ในภารกิจใดเป็นหลัก
โดยในส่วนของ บ.จีนนั้น บ.ฝึกJetก้าวหน้าที่จีนพัฒนาเองก็มีหลายแบบครับเช่น K-8 ซึ่งประสบความสำเร็จในการส่งออกให้หลายประเทศอย่าง ปากีสถาน อียิปต์ และพม่าเป็นต้น รวมถึง บ.ฝึกก้าวหน้ายุคใหม่อย่าง L-15 และ JL-9(FTC-2000) เป็นต้นอย่างก็ตาม บ.ฝึกก้าวหน้าของจีนแบบดังกล่าวนั้นยังอยู่ในช่วงต้นของการพัฒนาและยังไม่มีประเทศใดสนใจจะจัดหาไปใช้งานในขณะนี้ครับ
ประเด็นหลักที่ต้องกล่าวถึง บ.จีนนอกจากในแง่ความน่าเชื่อถือแล้วก็คือในส่วนของภารกิจฝึกบินนั้น บ.จีนจะมีมาตรฐานระบบAvionic และสถสปัตยกรรมภายในCockpit ที่แตกต่างจาก บ.ขับไล่หลักของกองทัพอากาศที่เป็นระบบมาตรฐานตะวันตก ซึ่งอาจจะไม่ค่อยเหมาะสำหรับการฝึกนักบินนักครับ ถึงแม้ว่าการปรับปรุงระบบภายในให้เป็นมาตรฐานตะวันตกนั้นก็น่าจะเป็นสิ่งสามารถทำได้ก็จริง แต่ที่ผ่านมาการนำ บ.ฝึกก้าวหน้าของจีนมาสาธิตให้ไทยชมส่วนใหญ่นั้นทางกองทัพอากาศก็ไม่ได้ให้ความสนใจมากนักครับ
ในกรณีของ บ.รัสเซียก็เช่นกันครับ อย่าง Yak-130 นั้นถึงแม้ว่าจะออกแบบในระบบสถาปัตยกรรมเปิดที่อ้างว่าสามารถปรับปรุงให้ติดตั้งอาวุธมาตรฐาน NATO ได้จริง แต่ก็ยังไม่มีภาพยืนยันว่า บ.Yak-130 สามารถติดตั้งอาวุธอย่าง AIM-9 Sidewinder, ระเบิด Mk80s, ระเบิดนำวิถี Laser Paveway จนถึง AGM-65 Maverick ได้จริงหรือไม่ครับ ส่วนตัวคิดว่าราคาของ Yak-130 ที่ปรับปรุงระบบภายในให้ติดตั้งระบบ Avionic และ อุปกรณ์ภายในจากตะวันตกให้เป็นมาตรฐาน NATO ตามความต้องการของไทยคงราคาไม่ถูกกว่า M-346 ของอิตาลีเท่าไรครับ(น่าจะแพงพอๆกัน)
ในส่วนของ บ.ตระกูล Golden Eagel ทั้ง T-50 และ A-50 นั้น เนื่องจากตัวแบบอากาศยานหลักๆนั้นมีจุดประสงค์ในการสร้างเพิ่อใช้ทดแทน F-5 สำหรับภารกิจขับไล่สกัดกั้นและโจมตี เมื่อร่วมกับราคาที่ค่อนข้างแพงแล้ว T/A-50 นั้นดูจะมีสมรรถนะเกินความจำเป็นสำหรับทั้งภารกิจฝึกนักบินและโจมตีครับ อีกทั้งเมื่อเทียบกับ Yak-130 และ M-346 แล้ว ยังไม่มีประเทศใดสนใจจะจัดหาไปใช้ขณะนี้ครับ
L-159 นั้นมีข่าวว่าโบลิเวียสนใจจะจัดหาไปใช้จำนวน 6ลำเพื่อแทน T-33 ครับ ปัจจุบันนั้นเชคสำรอง L-159 ซึ่งส่วนใหญ่เป็นรุ่นที่นั่งเดียว L-159Aไว้ราว 40กว่าลำเนื่องจากการเช่าซื้อ Gripen ครับ โดย บ.ส่วนนหนึ่งนั้นถูกนำมาดัดแปลงเป็น L-159T1 รุ่นสองที่นั่งเพื่อใช้ในการฝึกบินได้ แต่เนื่องจากยังไม่มีความแน่นอนว่าจะสามารถหาลูกค้าได้เพิ่มเติมหรือไม่ สายการผลิตในอนาคตของ L-159 ก็ยังคงไม่แน่นอนครับ
ส่วน Hawk นั้นไม่แน่ใจว่าหลังจาก Hawk 132 ของอินเดียแล้ว ยังจะมีการเปิดสายการผลิตต่ออีกหรือไม่ครับเพราะในช่วงที่จะปลด L-39 นั้นคงจะมี บ.ฝึกก้าวหน้าแบบใหม่หลายแบบที่ทันสมัยกว่าถูกจัดหาไปมากแล้วครับ
สำหรับอนาคตของ L-39 ก็คงจะมีการยุบฝูง 411 ไปร่วมกับ 401 เพื่อใช้ฝึกบินครับ และคงจะปลดในอีก 10-15ปีข้างหน้า ในขณะที่ Alphajet คงจะใช้งานไปอีกนานหลายสิบปีครับ โดยส่วนตัวแล้วการเลือก บ.ฝึกขับไล่ก้าวหน้าที่สามารถใช้ในภารกิจโจมตีได้นั้นควรจะต้องเป็น บ.ที่มีมาตรฐานระบบเดียวกับ บ.ขับไล่หลักของกองทัพอากาศสำหรับการฝึกนักบิน และสามารถใช้อาวุธหลักของกองทัพอากาศได้โดยไม่จำเป็นต้องจัดหาอาวุธใหม่เพิ่มเติมครับ ซึ่ง บ.ที่มีคุณสมบัติดังกล่าวที่น่าสนใจก็มี Hawk, L-159 และ M-346 ครับ แต่ถ้าจะให้เลือกแบบเดียวก็ข้อเลือก บ.ใหม่ที่ทันสมัยมีขนาดเหมาะสมและน่าจะมีอนาคตทางการตลาดที่ดีคือ M-346 ครับ
เย้ๆๆๆ เรามีแนวร่วมหลายคนเลย
M-346 อีกเสียงครับ
ชอบที่รูปร่าง สมรรถนะ ไม่มากไม่น้อยไป
แต่อีกใจก็อยากให้จัดหาซุปเปอร์ทูคาโน่ผสมไปด้วย เพราะในบางภารกิจอาจไม่จำเป็นต้องใช้เครื่องบินเจ๊ต
และเห็นแทงโกบอกว่าอาหรับเอมิเรต์จัดหาไปใช้จำนวน 48 ลำ
ถ้าเป็นเช่นนี้อนาคตของ M-346 น่าจะสดใส...
สนับสนุน
PC-21 x20
M-346 x40
เครื่องบินจีนหรือรัสเซีย ถ้าไม่ใช่กรณีเร่งด่วน อย่าดีกว่าครับ
มันมีเครื่องบินโจมตีเบา/ฝึก/ขับไล่ ตั้งสามสี่แบบที่จะต้องทดแทนในไม่เกินสิบปีข้างหน้า ถ้าทดแทนภารกิจกันแบบเครื่องต่อเครื่องก็ตั้งเกือนร้อยเครื่องแน่ะ
Alpha Jet x20
L-39 x36
AU-23 x20
PC-9 x20
รวม 96 เครื่อง สำหรับภารกิจ ฝึกขั้นสูง และ โจมตีเบา
MAKO 2000 อยู่ในช่วงของการพัฒนาครับ แต่เท่าที่ทราบถ้าจะติดตลาดยุโรป MAKO เองก็ต้องฟาดฟันกับทั้ง HAWK และ M346 ครับ ซึ่ง HAWK เป็นแผนแบบเก่า ในขณะที่ M346 เป็นแผนแบบใหม่และเข้าประจำการแล้ว 2 ชาติ คือ ทางรัสเซียและอิตาลี แม้ว่าเทคโนโลยีของ MAKO ต้องถือว่าดีที่สุดแล้วในเครื่องคลาสนี้และภาระกิจที่กล่าวมาทั้งหมด ดีกว่า A/T-50 ซะอีก แต่เพราะมันยังไม่พร้อมเข้าประจำการ จึงทำให้มีความไม่แน่นอนสูงมาก ถ้าเกิด M-346 ติดตลาดในยุโรปขึ้นมา MAKO ลำบากแน่ๆครับ เพราะตลาดเอเซียและอเมริกานั้น A/T-50 ดูจะมาแรงที่สุดแล้ว เพราะเห็นสิงคโปรสนใจมากจนถึงมากที่สุดว่าจะซื้อ ที่สำคัญ ถ้าอเมริกาเกิดจัดหา A/T-50 ใช้งานจริงๆขึ้นมา ก็คงสั่ง 200-300 เครื่อง งานนี้ A/T-50 ได้เกิดแน่ๆครับ ดูๆแล้วเครื่องฝึกคลาสนี้ที่กำลังจะมีอนาคตรุ่งสุดๆน่าจะเป็นสองแบบนี้แล้วครับ คือ M-346 และ A/T-50 ซึ่งผมสนับสนุน A/T-50 เป็นอันดับแรกสุดครับ
ผมว่าราคา M-346 ไม่น่าจะถูกกว่า A/T-50 มากหรอกครับ แม้ว่ามันอาจจะตรงความต้องการทางทอ.มากกว่า แต่ผมว่าเอาสเปกเกินตัวไว้ก่อนจะดีกว่านาครับ
MAKO ถ้าจะให้อยู่รอดในตลาดได้ คงต้องไปเจาะตลาดเครื่องบินขับไล่เบาแทน ซึ่งต้องไปวัดกับ A/T-50 อีกน่ะแหล่ะ รวมทั้ง JAS รุ่นเซมิสเตลธ์ด้วย
และจากยอดเครื่องที่เรากำลังจะปลดตามที่ท่าน oldbot กล่าว ถ้าจัดหาให้ครบ ผมว่าเราน่าจะขอลิขสิทธิมาประกอบเองเลยจะดีกว่า จะได้มีประสบการณ์ในการผลิตเครื่องบินมากขึ้น ถึงแม้จะผลิตชิ้นส่วนเองยังไม่ได้ก็เถอะ
ถ้าดูจากที่สหรัฐอาหรับเอมิเรนต์จัดหา M-346 จำนวน 48ลำ วงเงิน $1.27 Billion แล้ว M-346 1ลำก็มีราคาเฉลี่ยราว $26.5 Million ครับ
ซึ่งถ้าเทียบกับ T/A-50 แล้วส่วนตัวคิดว่า T/A-50 น่าจะมีราคาจริงแพงกว่า M-346 อยู่บ้างครับจากราคาที่มีข้อมูลเดิมที่ราวๆ $22-25 Million ต่อลำโดยเฉพาะถ้าเป็นรุ่นที่ติดอุปกรณ์ Radar และอาวุธสำหรับโจมตีเบาโดยตรง (อาจจะ $27-29 Million)
..ส่วนตัวว่าเครื่องจาก จีนและรัสเซียคงจะเกิดในไทยยากครับ รัสเซียยังพอว่าแต่จีนคงจะไม่เกิดเลยแหง แต่ บ.YAK-130 นั้นสามารถใช้อาวุธโจมตีได้ดีเทียบเท่าจาก SU-25/39 เพียงแต่บรรทุกอาวุธได้น้อยกว่า แต่ตัวเลือกอาวุธที่ติดมีเยอะ หากบ้านเราใช้อาวุธรัสเซียก็จะเหมาะสมมากครับ
...ซึ่งในกรณีนี้ ท.อ.คงต้องมองถึงกลุ่มผู้ใช้(กลัวสายการผลิตสั้น)ราคา และประสิทธิภาพโดยรวม M-346 (ส่วนตัวว่าน่าจะเหนือกว่า HAWK เล็กน้อย)ไม่ทับเส้นกับใคร ซึ่ง F/A-50 เองก็โดนกดสเป็คจากอเมริกา ส่วนในกรณี บ.ฝ.ใบพัด นั้น Super Tucano ก็น่าสนเช่นกันครับ
L-39 เป็นเครื่องบินฝึกในภารกิจ ฝึกขับไล่ สำหรับการเตรียมความพร้อมเป็นนักบินขับไล่ F-5 F-16
อนาคตของ L-39 อาจจะเกิดการเปลี่ยนแปลงอีกแล้วครับ....หลังจากที่เคยบรรจุครั้งแรก 36 +4 เครื่อง โดยแผนแรกมีโครงการบรรจุที่ ฝูงบิน 561 หาดใหญ่ ฝูงบิน 461 พิษณุโลก และฝูงบิน 101 โคราช แต่เมื่อเครื่องบินมาบรรจุประจำการจริงก็เปลี่ยนแผนลงบรรจุที่ ฝูงบิน 101, 102 โคราช และฝูงบิน 401 ตาคลี แต่เมื่อมีการปรับโครงสร้างกำลังทางอากาศ และเมื่อเครื่องบิน OV-10 ปลดประจำการ จึงโอน L-39 ของฝูงบิน 401 ที่ทำหน้าที่บินโจมตีไปให้ฝูงบิน 411 เชียงใหม่ จากนั้นก็ยุบ 101 และ102 ในภารกิจฝึกขับไล่ไปรวมกันที่ 401 แทน....จนกระทั่งปัจจุบัน...และจะเห็นว่าปัจจุบันนี้ภารกิจของ L-39 ที่ทำหน้าที่เป็นเครื่องบินฝึกในภารกิจ ฝึกขับไล่ สำหรับการเตรียมความพร้อมเป็นนักบินขับไล่ F-5 F-16 มีไม่เพียงพอมากนัก....อนาคตอาจจะมีการยุบรวมฝูง L-39 สองฝูงไปอยู่ที่ภารกิจฝึกขับไล่ที่ตาคลีเท่านั้น...ส่วนเชียงใหม่ หากย้อนไปดูตั้งแต่ ๑๐ ปีที่แล้ว...เดิม ทอ.มีแผนจะเว้นวรรคกองบิน ๔๑ ไม่มีบรรจุเครื่องบินเช่นเดียวกับกองบิน ๕๖ และอีกกองบินคือกองบิน ๒๓ (กองบิน ๒๓ งดการบรรจุเครื่องบินร่วม ๕ ปี) ให้ทั้งสามกองบินเป็นเพียงสนามบินหน้าเท่านั้น....โดยสนามบินหน้าจะมีความพร้อมรบแม้ไม่มีเครื่องบินก็ตาม...แต่พร้อมจะรับการปฏิบัติการของเครื่องบินรบทุกแบบที่มีประจำการในตลอด ๒๔ ชั่วโมงครับ.....
ราคา M-346 ใกล้เคียงกับ HAWK เลยนะครับท่าน AAG_th1 ราคานี้ซื้อ M-346 ดีกว่าซื้อ HAWK ส่วน A-50 ก็ประมาณกันไว้ว่าราคาไม่น่าจะเกิน 30 ล้านเหรียญ แพงกว่ากันประมาณ 2-3 ล้านเหรียญ สเปกต่างกันสมราคาครับ ทั้งนี้ขึ้นกับทอ.ว่าจะเอายังไง แต่ผมว่าถ้าทอ.เล็ง F-35 เป็นเครื่องในอนาคตใน 10-15 ปีข้างหน้า ซึ่งเป็นเวลาเดียวกับที่ต้องจัดหาเครืองฝึกและโจมตีใหม่ ผมว่าทอ.น่าจะสนใจ T/A-50 มากกว่า เพราะมีความเป็นไปได้สูงที่อเมริกาจะจัดหา T/A-50 ทดแทนเครื่องแบบเดิม ซึ่งจะทำให้ A/T-50 ออกแบบตรงกับการฝึกนักบินเพื่อทำการบินในเครื่อง F-35 ต่อไปด้วย ทางทอ.เองก็เคยแสดงความสนใจอย่างมากต่อเครื่อง A/T-50 มาแล้วนี่ครับ แต่ผมยังไม่เห็นทอ.เคยแสดงความสนใจต่อ M346 เลย
ผมว่าไงซะอเมกาต้องเลือก A/T-50 แน่ๆ เพราะจริงๆต้องบอกว่าอเมริกาเป็นคนออกแบบ เกาหลีใต้ทำหน้าที่ผลิต ยังไงซะแยงกี้ก็ต้องเลือกของชาติตนเองก่อนอยู่แล้วครับ เราซึ่งผูกติดอเมกามานานไงซะถ้าเขาซื้อ เราก็คงต้องซื้อตามน่ะแหล่ะครับ