หน้าแรก    ตั้งกระทู้ใหม่   ตอบคำถาม    เข้าสู่ระบบ      


เชิญมาวิเคราะห์เครื่องบินขับไล่ใหม่ของอาเซียน

โดยคุณ : Freedom เมื่อวันที่ : 04/05/2009 21:10:00

ทางไทยมีjas-39
ส่วนมาเลียมีSu-30mkm
ส่วนสิงคโปรมีF-15SG
ส่วนเวียดนามมีSu-30mk2v
ส่วนอินโดมีsu-30mk2
บ.ใครมีประิสิทธิภาพมากที่สุดหรอครับ


เ่อ่อทำไมเวียดถึงได้จัดหาเรือดำน้ำเร็วจังเลยอะขนาดไทยยังอย่าว่าเลยเรื่อไม่พร้อมรบเลยอ่า




ความคิดเห็นที่ 1


Su30 MKM ของมาเลย์เซียครับ สูงสุด แล้วก็ไล่ๆกันมาเป็นพวกเครื่องตระกูลSu30 แล้วก็เป็นเอฟ 15 ของสิงคโปร์ สุดท้ายก็ JAS39 ของไทยครับ
โดยคุณ champ thai army เมื่อวันที่ 28/04/2009 04:55:19


ความคิดเห็นที่ 2


สินค้า Make in USA ครับ ผลิตหลังปี 2000 เป็นต้นมาครับ ผมชอบสินค้า มี มอก.
โดยคุณ yaiterday เมื่อวันที่ 28/04/2009 07:05:20


ความคิดเห็นที่ 3


jas-39 ครับ อิอิ  

ถึงแม้ว่าจะไม่เหนือกว่า  แต่ใจอะ เกิน100ครับ

โดยคุณ bp15 เมื่อวันที่ 28/04/2009 08:05:51


ความคิดเห็นที่ 4


ท่าน Freedom ครับ ด้วยความเคารพนะครับ

ผมไม่เข้าใจครับว่า ท่านตั้งใจจะพิมพ์เช่นนี้หรือมันพิมพ์ผิดครับ คือ หลายครั้ง ( อันนี้ไม่ได้หมายถึงท่านนะครับ ) การพิมพ์แบบตัดคำหรือพิมพ์ไม่ครบอาจทำให้ความหมายเปลี่ยนไปได้ครับและยิ่งภาษา MSN ยิ่งแล้วเลยครับ เหอะๆ

โดยคุณ poom1.1 เมื่อวันที่ 28/04/2009 11:03:26


ความคิดเห็นที่ 5


โอ้ววว เวรกรรม jas-39สุดท้ายจะเอาอะไรไปยิงมันละเนี่ยย(RPG-7เป็นไง)อยากได้ซู-30 MKT โว้ววววว
โดยคุณ RaFale เมื่อวันที่ 29/04/2009 07:47:09


ความคิดเห็นที่ 6


มาเลียออกเสียงแบบนี้  นี่ผมนึกถึง  มาเรีย ฮ็อฟมัน  (อนันตรัย) ในเพชรพระอุมาแฮะ
โดยคุณ nok เมื่อวันที่ 29/04/2009 11:22:11


ความคิดเห็นที่ 7


ผมว่าเครื่องนี้เจ๋งสุด เอาชนตึุกได้ A380 รับรองว่าเป็นระเบิดบินได้แน่นอน
โดยคุณ siamman18 เมื่อวันที่ 29/04/2009 13:29:20


ความคิดเห็นที่ 8


Su-30 MKM ครับ

แต่สมการในสถานะการณ์จริงมันเป็นอย่างนี้ครับ


Performance =  f{(Su-30 > jas-39)| jas-39 =1 ,Su-30 = 1}


แต่


Performance =  f{(Su-30 <=jas-39)| jas-39 >=2,Su-30=<jas-39)

โดยที่ Su-30 และ Jas-39 เป็นสมาชิกของจำนวนเต็มบวกครับ
 
เข้าใจปะ -_-"

โดยคุณ Red@Baron เมื่อวันที่ 29/04/2009 13:35:00


ความคิดเห็นที่ 9


อืม................T-T จะพยายามเข้าใจครับ อืมมมมมมม.......................

โดยคุณ champ thai army เมื่อวันที่ 29/04/2009 22:56:09


ความคิดเห็นที่ 10


เอ้อลืมผมคิดว่ามันมาเทียบกันยากครับแต่ถ้าเกิดในฐานะเครื่องบินสกัดกั้น ผมเลือกแจ๊ส39 ของเราเป็นที่1ครับ รองลงมาเป็นเครื่องตระกูล ซู ต่างๆ ประเทศแรกก็คือมาเลย์(ความทันสมัย+จำนวน) ตามมาก็เวียดนาม(จำนวนเยอะ) อินโดนีเซีย(ความทันสมัยน่าจะเท่ากับหรือดีกว่าของเวียดนามแต่จำนวนน้อย) ตามมาด้วยเครื่อง F15 ของสิงคโปร์ ผมว่าไม่เสียเปรียบเครื่อง ซู30 เท่าไหร่นัก

เพราะในหน้าที่สกัดกั้นต้องมอบให้ เครื่อง กรีเป้น เพราะมันเป็นเครื่องบินขนาดเล็กคล่องแคล่ว และตรวจจับยากถ้ามาในรูปแบบหมาหมู่รับรองไม่ว่าเครื่อง ซู30 หรือ เอฟ15 ก็ต้องคิดหนัก ยอมรับว่าเครื่อง กรีเป้นของเราถ้าเจอเดี่ยวๆ อาจจะสู้เครื่องที่ใหญ่กว่าไม่ไหว แต่ถ้าเป็นภารกิจสกัดกั้นข้าศึกต้องเจอเครื่องบินของเราที่มากกว่า(หรือเปล่า)อาจจะต้องคิดหนักซึ่ง ตรงกับสิ่งที่กองทัพเราต้องการตามนโยบายที่ว่า เราไม่ต้องการรุกรานใครแต่เรามีเครื่องบินไว้เพื่อป้องกันประเทศ ซึ่งถึงแม้ว่าเมื่อเข้าสงครามจริงๆ ก็ไม่ใช่เรื่องหน้าห่วงว่ากรีเป้นเราจะบินเข้าโจมตีข้าศึกในประเทศศัตรูไม่ได้ เพราะว่าประเทศไทยเรามีสนามบินเยอะแยะมาก เติมน้ำมันโหลดอาวุธแค่5 นาทีก็ขึ้นบินได้แล้วไม่เหมือนกับ เครื่องบินแบบอื่นที่ใช้เวลานานกว่านั้น เรามีสนามบินแทบทุกพื้นที่เราสามารถเอาเครี่องบินไป เตรียมพร้อมติดชายแดนได้เลย ดังนั้นเรื่องการโจมตีทางลึกจึงไม่ใช่เรื่องหน้าห่วง + กับมีเครื่อง เอฟ16 ทำหน้าที่คุ้มกันด้วยถือว่าโอเคครับ

โดยคุณ champ thai army เมื่อวันที่ 29/04/2009 23:04:38


ความคิดเห็นที่ 11


เป็นผมนคิดว่ามาเลย์กับสิงค์โปรไม่คิดมีเรื่องกับเราหรอก
เพราะ สองประเทศนี้เป็นพันธมิตรสำหรับไทยนะครับคิดดีๆไม่มีใครอยากเปิดศึกกันหรอก ไทยยึดยากนะคิดดีๆกว้างด้วย5555+เป็นมิตรไว้อะดีแล้ว
แต่ที่ถามแค่อยากรู้ว่าแบบไหนดีกว่ากัน
โดยคุณ Freedom เมื่อวันที่ 30/04/2009 05:44:14


ความคิดเห็นที่ 12


เห็นด้วยครับ

ไม่มีทางสองชาตินี้จะริหันมาฟัดกับเรา ยกเว้นเขาร่วมมือกัน(ซึ่งยากกก พอๆกับไทยเขมรยกไปตีเวียตนามแหละ)

หากว่ามาเลเซียหันคมหอกมาที่เรา สิงคโปร์กับเราได้รุมแน่ และถ้าหากว่าสิงคโปร์ริเป็นอริกับเรา ก็อย่างที่ผมเคยแปะไว้นานแล้วสมัยโน้นที่เราทะเลาะกับลอดช่องหอมปากหอมคอ ซึ่งสิงคโปร์นั้นต้องการพึ่งพาเรามากกว่าที่เราต้องพึ่งพาเขา เพราะหากขาดเรา โดนเหล่าชาติมุสลิมล้อม ร้องกรี๊ดแน่ๆ ทั้งบรูไน(ไม่เท่าไหร่) มาเลเซีย(แมนยูกะเชลซีดีๆนี่เอง) อินโดนีเซีย(ก็ไม่ใช่กระจอกนักนะ)

ผลประโยชน์ของอาเซียนคือล้วนต้องพึ่งพาซึ่งกันและกันครับ หุหุหุ

ส่วนเครื่องบินนี่ผมออกแนวน้อยใจนิดๆนะว่ากริพเพนเรามันแย่ขนาดน้านนนนนนนนนน เลยเหรอ T^T ส่วนตัวผมว่ามันแค่บรรทุกอาวุธได้น้อยกับพิสัยการบินแย่หน่อยแค่นั้นเอง แ่ต่เรื่องเทคโนโลยีอะไรผมว่าเจ๋งมากนะ
โดยคุณ BloodRoyal เมื่อวันที่ 30/04/2009 06:58:15


ความคิดเห็นที่ 13


อย่าดูถูกกริฟเฟนของทหารไทยนะพวกเขารบเพื่อชาตินะเชื่อเหอะต่อให้เป็นF-22 Su-47มาเราก็สู้ขาดใจจริงปะละ "เกิดเป็นชายทหารจะกลัวตายไปทำไม"   ประโยคนี้จากเตียวเลี้ยวแห่งสามก๊กครับ




ปล.ดีกว่าเสื้อบางสีนะครับที่เอาแต่อ้างว่าเพื่อชาติๆ



โดยคุณ Freedom เมื่อวันที่ 30/04/2009 09:57:26


ความคิดเห็นที่ 14


ใช่ครับผมเห็นด้วยกับทุกคนเลย ผมแค่เอาประสิทธิภาพเครื่องบินมาเปรียบเทียบเล่นๆครับ ไม่ได้คิดว่าจะมีสงคราม่จริงๆ เพราะเขาไม่กล้าหรอกใครจะกล้ามาตีกะบาลประเทศที่ใหญ่กว่ามันก็เหมือนหาเรื่องเข้าตัวดีๆนี่เอง คงไม่มีใครอยากลองกับประเทศที่มีทหารมากกว่าหรอกนะครับ

มาเลย์เซียต้องการเป็นเพื่อนกับเรามากกว่าเป็นศัตรูแน่ๆ เพราะว่าเขาต้องหาเพื่อนที่เป็นประเทศติดกันเพราะเขาจะได้ไม่ระแวงหลังถ้าเกิดไทยเป็นศัตรูกับเขาอีกชาตินึงก็เท่ากับว่าหน้าบ้านก็ศัตรู หลังบ้านก็ศัตรูไว้ใจใครเขาไม่ได้ ส่วนที่เขาเอาSU30MKM มาไว้ติดกับชายแดนไทยผมก็คิดเหมือนกับที่พี่ๆหลายคนคิดคือเขาเอาไว้ให้ห่างจากอินโดนีเซีย และ สิงคโปร์เพื่อมีอะไรเกิดขึ้นจะได้ไม่โดนทำลายทิ้งแต่แรก เพราะฉะนั้นเอาไว้ไกล้กับประเทศเพื่อนกันดีกว่าเพราะว่าไว้ใจได้

ส่วนทางสิงคโปร์ผมเห็นด้วยกับBLOODROYAL หมดเลยครับเพราะว่าเขาต้องการพึ่งเราคงไม่อยากตัดเพื่อนดีๆอย่างเราไปหรอก มีอย่างที่ไหนขอใช้สนามบินฝึกก็ได้ มาฝึกร่วมด้วยกัน ถ้าตัดเพื่อนที่แสนดีอย่างไทยเรราไปก็พึ่งใครไม่ได้แล้ว มะกันก็ไกล ออสเตรเลียก็ไกล เหอะๆๆคบกับไทยไว้แหละดี

ส่วนเรื่องกรีเป้น ผมว่าไม่ได้ด้อยกว่านะครับแค่ที่ผมไว้หลังสุดก็ด้วยเหตุผลที่ผมกล่าวไว้แล้ว เราเล็กกว่า บินได้สั้นกว่าแล้วจะไปเปรียบเทียบอะไรกับพวกพี่เบิ้มเขาหล่ะครับบินได้ไกลกว่า พกอาวุธได้มากกว่าอย่างกับแรมโบ้ เราเป้นพระเอกแค่นี่ก็หรูแล้วครับ กรีเป้นนะทันสมัยนะไม่ใช่เล่นๆ มิก29 พ่อก็เคยปราบมาแล้ว เหอะๆๆๆๆๆ

โดยคุณ champ thai army เมื่อวันที่ 01/05/2009 00:54:24


ความคิดเห็นที่ 15


อยากจะหัวเราะที่บอกว่า ในโหมดสกัดกั้น กริเฟนเหนือกว่าซู  แค่  mode มองลง/ยิงลง  ด้วย bvr  เด็กน้อยกริเฟนก็ทำได้แค่ วิ่งหางจุกตูดหลบจรวดเท่านั้น  เห็นเขาแต่ยิงเขาไม่ถึง/ยิงไม่ได้ /เพดานบินซูสูงกว่าล๊อคเป่าได้ก่อน แล้วจะรุมกินโต๊ะเขา    อ้อใช่ ต้องรอ อิริคอายมาชี้เป้าให้ คงทันน่ะ  บ้านเรารวยอยู่แล้วส่งบินจำกัดเขต  24ชั่วโมงเลย  (ขอบอกอย่างระอาใจจริง ๆ)
โดยคุณ suriyon77 เมื่อวันที่ 01/05/2009 04:35:23


ความคิดเห็นที่ 16


มันไม่ได้ขึ้นอยู่กับเครื่องบินอย่างเดียวต้องอยู่ที่ฝีมือนักบินด้วยคับแต่ผมว่าในอาเซียนนี้ ไทยแลนที่ 1 นะคับ มาเลเข้ายังมีปัญหานักบินอยู่เลย ซูก้อเลยดุงั้ง  55+  มาเลมีพื้นที่ติดกับอินโดด้วย ทำให้ต้องจัดหาซูมาได้บินไปช่วยกันทันคับ

 

ปล.มั่วเอา

โดยคุณ casnova เมื่อวันที่ 01/05/2009 06:08:22


ความคิดเห็นที่ 17


เอ่อ ....    ขอโทษนะครับ ..... ผมยอมรับว่านักบินไทยมีฝือมือ มีการฝึกเป็นระยะๆกับมิตรประเทศ แต่ทำไมถึงมั่นใจนักว่าในภาวะสงครามนักบินเราจะเป็นซุปเปอร์แมน เก่งกว่านักบินทุกชาติครับ?

 

นักบินชาติอื่นอย่างมาเลย์ หรือสิงคโปร์เขาก็คนเหมือนเรา เราทำอะไรได้เขาก็ทำได้ เราฝึกได้เขาก็ฝึกได้ เรายิงเขาตกได้ เขาก็ยิงเราตกได้เหมือนกัน ยิ่งถ้าฝือมือพอๆกัน แต่เทคโนโลยีของอุปกรณ์ที่ใช้มันต่างกัน โอกาสที่จะถูกยิงตกมันก็มากขึ้นๆตามความแตกต่างกันของเทคโนโลยีที่ใช้หนะแหละ

 

ก็แค่ไม่อยากให้ประมาท คิดว่าเราเหนือคนอื่นเป็นซุปเปอร์แมน ก็เท่านั้น

โดยคุณ Trinity เมื่อวันที่ 01/05/2009 10:48:56


ความคิดเห็นที่ 18


suriyon77เทิดทูน SU30 กันจัง�
อัตราพร้อมรบ นะ มีกันบ้างไหม�
ที่ซื้อ ๆ มาเนี่ย พร้อมรบกี่ % กันเชียว

ผมกลับมองว่า ยุคนี้ น่าจะเป็นการร่วมมือกัน มากกว่า หมดสมัยที่จะ สู้รบแย่งพื้นที่กันแล้ว ยุคนี้ ใช้ ปากกามากกว่า กระสุน

โดยคุณ u3616234 เมื่อวันที่ 01/05/2009 21:43:09


ความคิดเห็นที่ 19


กริพเพนจะเป็นตัวเลือกที่คุ้มค่าในระยะยาวเช่นเดียวกับ F-5 A/B/E/Fครับ ด้วยเครือข่ายสนามบินที่เรามีทั่วประเทศ และคุณลักษณะของกริพเพนที่สามารถวางกำลังที่สนาบบินส่วนหน้าได้ เราจะมีเครือข่ายการป้องกันภัยทางอากาศที่ครอบคลุมทั้งน่านฟ้าและน่านน้ำ ด้วยค่าใช้จ่ายที่เหมาะสม

อาเซียนกำลังจะรวมตัวกันเป็นตลาดเดียวที่ใหญ่มากแห่งหนึ่งของโลก เป็นทั้งแหล่งทรัพยากร แหล่งผลิตสินค่าอุปโภคบริโภคราคาย่อมเยาว์ และเป็นผู้บริโภคที่มีศักยภาพสูงมาก อาเซียนมีความหลากหลายทางวัฒนธรรม มีภาพพจน์เป็นภูมิภาคที่มีสันติสุขเป็นส่วนใหญ่ โอกาสรบกันเองยากสสสสสส์มากครับ ภายในอาเซียนเองจะเป็นการปะทะเป็นครั้งคราวและสงครามน้ำลายซะมากกว่า สงครามในอนาคตสนามรบจะเปลี่ยนไป ฝ่ายใช้อาวุธก่อนอาจะหมายถึงความพ่ายแพ้ในเวทีโลก ตัวอย่างกรณีเขาพระวิหาร เขมรพยยามกล่าวหาไทยว่ายิงก่อน เพื่อดิสเครดิตเรา

โดยคุณ oldbot เมื่อวันที่ 02/05/2009 08:59:11


ความคิดเห็นที่ 20


ยังไงผมก็อยากเห็นการซ้อมรบของค่ายเครื่องบินในอาเซียนนะฮะ
f-15 Gripen และ Su-35 ในอีกประมาณ 2 ปีข้างหน้าคงไได้เห็นฤทธิ์ เดชของเครื่องบินขับไล่พวกนี้แน่นอนครับ Cobra gold
โดยคุณ siamman18 เมื่อวันที่ 03/05/2009 01:55:53


ความคิดเห็นที่ 21


อยากมาก
ถ้ามีสวีนเดนกับแอฟฟริกาและเช็คมาฝึกละก็เจอเครื่องบินอีกเยอะ
โดยคุณ Freedom เมื่อวันที่ 03/05/2009 05:56:16


ความคิดเห็นที่ 22


Gripen เหมาะกับการบิน สกัดกั้นอย่างแท้จริงเห็นด้วย การ turn aroud time น้อยมากสามารถ ขึ้นลงบนถนนได้ด้วย ถึงแม้ว่า SU-30 RADAR ดีกว่าก็ไม่ได้หมายความว่าจะยิงได้ก่อนต้องขึ้นกับอาวุธด้วย ยิ่งไกลๆ เจอ ECM on board ของ Gripen ก็แย่แล้ว ไม่มีวิ่งหางจุกตูด ต้องมาไล่ยิงด้วย IR GRIPEN ก็มีระบบ  DAS(defencesive aid suit)ที่สุดยอด CH FR พูดคุยกับ RWR ได้โดยตรงไม่ต้องผ่านนักบิน และยังมี DATA link ที่คุยกันกับเครื่องด้วยกัน SAAB340,GND STATION SA นักบินมีมากขึ้นไปอีก สามารถสร้าง ระยะของ Radar และจรวดแต่ละรุ่นให้ดูอีก แล้วจะมีนักบินที่ไหนโง่ไปให้ เค้าไล่ยิง เข้าไป intercept STIKER ได้แน่ๆ บินมาไม่ได้ทิ้งระเบิดจะบินมาทำไม นักบิน มาเล ไม่เก่งอย่างที่คิดหรอกครับ การมีเครื่องทันสมัย แต่ไม่เคยฝึก TACTIC แบบ เมกา หรือ สิงคโปร ก็ไม่มีประโยชน์มากนัก เครื่องบินไม่ได้บินกันวันสองวันเป็น ใช้กันเป็นปีๆ ถ้าเค้าไม่ยอมเอาเครื่งมาฝึกรับรองฝีมือนักบินไม่พัฒนาแน่นอน คนไทยเราเก่งเพราะฝึกเยอะเห็นอะไรเยอะแต่ไม่มีอุปกรณ์ที่ดีเท่า เท่านั้นเอง เครื่องไม่ต่างกันมาก ขึ้นอยู่กับนักบินล้วนๆถ้ารบกับสิงคโปรค่อยน่าคิด แต่ ภูมิศาสตร์มันเป็นไปได้ยาก
โดยคุณ O.B. เมื่อวันที่ 03/05/2009 07:06:55


ความคิดเห็นที่ 23


^^

ครับ .. Grippen นี่มันสุดยอด ไม่มีใครสู้เทียมทานได้จริงๆครับ มาเลย์ อินโด สิงคโปร์ เวียดนามนี่เขาโง่จริงๆที่ไม่เลือก Grippen นะครับ

มาเลย์นี่ก็จริงๆเลยเนอะ มีเครื่องบินแต่ไม่ยอมฝึกนักบินเลยนะ มีแต่ไทยอยู่ชาติเดียวที่ฝึกนักบินบ่อยๆ มาเลย์ไม่เคยฝึกกับอินเดีย หรือไทย หรืออินโด หรือออสเตรเลีย ฯลฯ เลยนะครับ มีแต่ไทยเท่านั้นที่ฝึกกับมตรประเทศอย่างเมกาเท่านั้น ..... เอ ... แต่เหมือนจำได้คุ้นๆว่าเคยมีข่าวว่า Mig29 มาเลย์ฝึกกับออสเตรเลียแล้วยิง F18 เขาตกนินา ... สงสัยผมคงจำผิดแฮะ

อีกหน่อยนักบินไทยคงครองโลกได้เป็นแน่แท้ ...

โดยคุณ Trinity เมื่อวันที่ 03/05/2009 08:26:01


ความคิดเห็นที่ 24


ที่พูดไม่ได้หมายความ Jas 39 ไม่ดี หรือนักบินไทยไม่เก่ง  ผมมั่นใจว่าถ้าเทียบกันกับพม่า ลาว หรือเขมร เราเหนือกว่าหลายเท่าตัว แต่กับมาเลย์ สิงคโปร์ หรือชาติอื่นๆ ผมว่ามันก็พอๆกัน ฝีมือไม่ได้ต่างกันมากมายนักหรอก
โดยคุณ Trinity เมื่อวันที่ 03/05/2009 08:42:22


ความคิดเห็นที่ 25


ไม่ได้หมายความว่า Su-30 ไม่ดีหรือประเทศอื่นโง่ แต่ทุกประเทศต่างมียุทธศาสตร์เป็นของตัวเองกันทั้งนั้นครับ
และเครื่องบินแต่ละแบบต่างก็มีจุดเด่นจุดด้อยข้อดีข้อเสียกันทั้งนั้นครับ ต้องยอมรับและเข้าใจมันครับ 

Su-30 เองก็มีจุดเด่นหลาย ๆ ด้านที่ Gripen ไม่มี ถ้าเข้าใจมันและใช้มันให้เป็นก็เป็นประโยชน์ครับ
แต่ถ้าไม่เข้าใจมันใช้ไม่เป็นมันก็เป็นโทษครับ

Su-30 ถูกออกแบบมาให้สามารถบุก(Offence)เข้าไปครองออกการในดินแดนฆ่าศึกได้ดี มี Radar
และระบบ IRST ที่มีประสิทธิภาพ บินได้ไกล บรรทุกอาวุธไปได้มาก ที่สำคัญดูน่าเกรงขามและเท่มากกว่า
Gripen (แต่มีใครบางคนที่พึ่งถูกยิงแต่ไม่ตาย บอกว่าอ้วนน่าเกลียดนะ ^^)  แต่ก็ด้อยในด้านการตั้งรับ(Defence)
เพราะ Trun around time ต้องใช้เวลานาน อัตราการซ่อมบำรุงสูงซึ่งอาจจะนำไปสู่อัตราความพร้อมรบต่ำ
ในสภาวะสงคราม อีกทั้งเครื่องใหญ่มี RCS ที่มาก การจะบินไปไหนมาไหน ทำให้สามารถตรวจจับได้ง่ายกว่า 

 

ในขณะที่ Gripen ถูกออกแบบมาให้มีความสามารถในการตั้งรับ(Defence) ได้ดี และสามารถทำงานเป็นทีม
ได้อย่างมีประสิทธิภาพ(เป็นที่มาของสมการดังกล่าว) มีความสามารถตอบสนองต่อเหตุการณ์ที่เปลี่ยนแปลงๆไปได้
อย่างรวดเร็วกว่า สามาถเปลี่ยนแปลงและ Update ภาระกิจ(คล้าย ๆ กัน) ได้ตั้งแต่อยู่บนอากาศ มีระบบการสื่อสาร
ที่สามารถดึงข้อมูลจาก Radarและ Sensor ระบบอื่น ๆ ทั่วทั้งประเทศมารวมอยู่ในเครื่องบินลำเดียวได้ RCS น้อยกว่า
 Su-30 มากทำให้ตรวจจับได้ยาก แต่Gripen เองก็มีความสามารถในการ Offence ได้อย่างจำกัด เพราะพิสัยการบิน
ไม่ไกล เรดาร์ที่สามารถตรวจจับได้เพียง 120 km(Active Mode)บรรทุกอาวุธไปได้น้อย ซึ่งจุดอ่อนในส่วนนี้จะถูกแก้ไข
ในรุ่น E/Fนั้นเองครับ  

เครื่องบินดีไม่ได้หมายความว่าจะรบชนะเสมอไปครับมันเป็นเพียงแค่แต้มต่อ(Handicap) ผมเปรียมเทียบให้เข้าใจง่าย ๆ
 เหมือนการตี Golf คุณแค่มี Handicap มากกว่าคนอื่นไม่ได้หมายความว่าคุณจะชนะเสมอไปนะครับ แต่แน่ละการชนะ
สามารถทำได้ง่ายขึ้นครับ


ส่วนเรื่องนักบินไทย ผมเชื่อครับว่าพวกท่านเหล่านั้น ไม่ได้เก่งเกินไปและไม่ได้เก่งเกินคน แต่เก่งที่สุดของกองทัพอากาศไทย
(พูดไปอย่างนี้คนที่ไม่ผ่านนักบินคงน้อยใจแย่ต้องขอโทษด้วยครับ) สำหรับประเทศอื่นนั้นเป็นอย่างไรผมไม่ทราบ แต่เชื่อว่า
คุณภาพนักบินดีได้ไม่เกินเราครับเพราะนักบินไทยใจเกิน 100 ครับ^^(ยอมตายพร้อมเครื่องง่ะ)

ปล.ดูอย่าง F-16 ที่ไม่เคยตกครับ ว่าความพยายามของคนไทยไม่ธรรมดา

ปล.ของ ปล. สมัยเรียนเคยมีอาจารย์บอกไว้ว่า ลึก ๆ แล้วคนไทยดูถูกชาติพันธุ์ตัวเอง เพราะฉะนั้นอย่าดูถูกชาติพันธุ์ตัวเองให้มากนักเลยครับ เพื่อน ๆ ชาวไทย ^^

โดยคุณ Red@Baron เมื่อวันที่ 03/05/2009 18:41:42


ความคิดเห็นที่ 26


เป็นแค่ความเห็นนะครับ ถ้าคิดว่าเราตัดสินใจผิดก็ไม่เป็นไร ถ้ามีเพื่อนที่เป็นนักบิน F-16 ที่ผ่านการฝึก picth black ลองถามเค้าดูนะครับว่านักบินมาเล เก่งแค่ไหน แล้วนักบิน Su-30 มาจากเครื่องอะไร แล้ว Train ยังไงเราไม่ได้เก่งหรอกครับ แต่ผมว่าเรามาถูกทางเท่านั้นเอง จะรู้กันจริงๆก็ตอนเกิดสงคราม เท่านั้น ว่าใครเก่งกว่าใคร

โดยคุณ O.B. เมื่อวันที่ 03/05/2009 22:54:37


ความคิดเห็นที่ 27


เครื่องบินรบทุกแบบมีจุดอ่อนจุดแข็งอยู่ในตัว เครื่องบินสมรรถนะเป็นรองแต่รู้จุดอ่อนของข้าศึก และข้อเสียเปรียบของตัวเองแล้วใช้แท็คติกเฉพาะเข้าทำโอกาสก็มีเปอร์เซ็นต์สูง ฝีมือนักบินนั้นไม่มีความแตกต่างกันมากนัก แต่การรู้ขีดความสามารถ จุดอ่อนจุดแข็งทั้งเครื่องบินฝ่ายเราและฝ่ายเขา และหาวิธีที่จะจัดการตรงนั้น เรื่องก็จะไม่ยาก แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะไม่มีการผิดพลาดเพราะเขาก็ต้องรู้เราเหมือนกัน
โดยคุณ เด็กทะเล เมื่อวันที่ 04/05/2009 00:33:27


ความคิดเห็นที่ 28


  ผมเข้าใจว่านักรบประเทศไหนก้อเก่งเหมือนกันหมด แต่จะรบยังไง มันอยู่ที่แนวนโยบายของรัฐบาล อย่างประเทศอเมริกา ชอบเปงตำรวจโลก เขาต้องชอบเครื่องบินที่เข้าโจมตีต่างประเทศ อย่างเราไม่มีนโยบาลรุกรานใคร ดังนั้นเครื่องบินของเรา ก้อมุ่งประเด็นที่เครื่องบินที่เปงตระกูลสกัดกั้น ดีที่สุดครับ

   สิงคโปรเขาต้องเน้นทันสมัยดุดันและต้องได้ผลทันที ยิงครั้งเดียวรู้ผล เพราะน่านฟ้าไม่กว้าง รบติดพันนานไม่ได้  มาเลย์ซื้อSU-30 ดีจิง แต่น่านฟ้าเขาไม่กว้างเท่าเรา ประเทศเราภูมิศาสตร์เสียเปรียบที่มีช่วงแคบ ที่ภาคใต้  ทำใมองไทยกลับมีความยาวจากภาคเหนือถึงใต้มาก เครื่องบินไทย ดูแล้ว แบบF-16 ดีมากเลย ขนาดญี่ปุ่นคลั่งไตล้ ขอร่วมออกแบบF-16N แต่F-16ราคาแพง ดังนั้น การมองที่jas-39ก้อไม่แปลกครับ เปงเครื่องบินที่ออกแบบให้เข้าระบบกับF-16ที่เรามีอยู่ได้ Jas-39 ติดอาวุธโจมตีได้ คุ้มครองน่านน้ำเราได้

โดยคุณ panzer เมื่อวันที่ 04/05/2009 10:10:00